จักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นเป็นดั่งระเบิดปรมาณูที่สุดแสนอันตราย

พลังการทำลายล้างของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันสุดแสนรุนแรงล้ำ บ้านเมืองใดๆ มันก็เป็นได้แค่ของเล่นของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลาย

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือพลังชีวิตของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ที่เหนือล้ำ ยากต่อการจะฆ่าสังหารอย่างมาก

หากจักรพรรดิเทพสวรรค์คิดล้างแค้นใดๆ แล้วต่อให้จะเป็นแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาวเองความเสียหายที่จะตามมามันก็คงไม่อาจประเมินนับ

เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นกฎของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายด้วยกันว่าจะไม่ยุ่งเรื่องราวทางโลก

เพราะหากจักรพรรดิเทพสวรรค์ปะทะกันแล้ว มหาพิภพถงเทียนนี้คงได้มีแต่ความฉิบหายปั่นป่วนเหนือรับ

เพราะฉะนั้นเมื่อเวลานี้เมืองอินทรีสวรรค์ได้ให้กำเนิดจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นมามันก็ย่อมจะทำให้พวกเขามีอำนาจพอต่อรองกับจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลาย

พวกเขานั้นย่อมจะมีสิทธิรับส่วนแบ่งการตลาดของแดนใต้!

เหล่าพันธมิตรแดนใต้ทั้งหลายนั้นต่างต้องวิ่งหนีหากจุกตูดไป แม้แต่ตัวเทพสวรรค์ดันหยู่เองก็ไม่กล้าจะกล่าวพูดแม้แต่คำเดียว

จากวันนี้ไปมันจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงในแดนใต้อย่างมหาศาล!

เพราะวันนี้ยอดแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าโอสถได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!

เดิมทีเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นย่อมกล่าวได้ว่าพึ่งพาพลังของหอมหาสมบัติมามาก เพราะว่าลำพังกำลังของพวกเขามันไม่มากพอ

แต่เวลานี้เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์กลับได้มีจักรพรรดิเทพสวรรค์คอยดูแล เรื่องนี้มันย่อมทำให้ตำแหน่งของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์พุ่งทะยานขึ้นมาสู่แนวหน้าในการเป็นผู้นำแดนใต้

เวลานี้ไม่มีใครจะกล้าไม่ไว้หน้าเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์อีกต่อไป

ทั้งยังเรื่องของศึกครั้งนี้ที่ทำให้ชื่อเสียงของเย่หยวนมันลือลั่นไปทั่ว โด่งดังเสียยิ่งกว่าเรื่องการถือกำเนิดของจักรพรรดิเทพสวรรค์คนใหม่ทำให้คนทั้งแดนใต้ต้องตัวสั่นไปตามๆ กัน

เพราะมันกลับมีจอมเทพโอสถเจ็ดดาวที่หลอมโอสถเก้าลับจักรพรรดิเทพสวรรค์ขึ้นมาได้!

จากวันนี้ไปเย่หยวนย่อมจะได้รับการขนานนามว่าเป็นจอมเทพโอสถเจ็ดดาวอันดับหนึ่งอย่างแท้จริง!

ผลกระทบของเรื่องนี้มันรุนแรงจนเกินรับ

โอสถที่เจ้าหลอมไม่ได้ ข้าหลอมได้!

ยอดฝีมือที่เข้าสร้างขึ้นไม่ได้ ข้าสร้างได้!

บาดแผลอาการที่เข้ารักษาไม่หาย ข้ารักษาได้!

แดนใต้อันกว้างใหญ่นี้จะมีใครกล้าพูดบอกว่าไม่ต้องการความช่วยเหลือของเย่หยวนบ้าง?

หากวันหนึ่งเทพสวรรค์บาดเจ็บสาหัสปางตายและต้องการโอสถที่ช่วยรักษาชีวิตเล่า?

หากวันหนึ่งมีทายาทจักรพรรดิเทพสวรรค์ติดคอขวดจนไม่อาจจะบรรลุอาณาจักรได้เล่า?

ไม่มีใครกล้าพูดว่าเรื่องพวกนั้นมันจะไม่เกิด!

ก่อนๆ มานั้นเย่หยวนเป็นแค่จอมเทพโอสถหกดาว แน่นอนว่าการที่เขาไม่อาจหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดได้มันย่อมทำให้เขาไม่มีค่ามากมาย

แต่เวลานี้เย่หยวนได้มีตำแหน่งที่สูงล้ำกว่าแต่ก่อนอย่างไม่อาจเทียบ

เขานั้นได้กลายเป็นผู้ปกครองแผ่นดินอย่างแท้จริง!

ไม่มีใครกล้าจะทำอะไรไม่ไว้หน้าเขาอีก!

ไม่นานจากนั้นแดนใต้ก็ต้องทำการเจรจาสี่ฝ่ายขึ้น

พันธมิตรแดนใต้ หอมหาสมบัติ เจ็ดตระกูลโบราณและวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์อินทรีสวรรค์!

“ข้าต้องการหกสิบเปอร์เซ็นต์!” เมื่อเย่หยวนมาถึงเขาก็โยนระเบิดลงกลางวงเจรจาทันที

เทพสวรรค์ดันหยู่ต้องตวาดขึ้นมาทันที “เด็กน้อย เจ้าจะโลภเกินไปแล้ว! ระวังเถอะว่าตัวจะแตกเข้า!”

ทางตัวแทนของเจ็ดตระกูลอย่างเป่ยถังลี่เองก็กล่าวขึ้นตาม “สหายเย่ โปรดมีเมตตาด้วยเถอะ! ข้ารู้ว่าเรื่องราววันนี้มันเป็นความผิดของพวกเราด้วยส่วนหนึ่งแต่เราก็คอยปกป้องเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์มาหลายปีมิใช่หรือ?”

ทางเทพสวรรค์เปียวหยูนั้นเงียบปากไม่พูดกล่าวใดๆ

เย่หยวนจึงยิ้มขึ้นมา “เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้น… ก็ไม่ต้องเจรจาใดแล้ว ทุกท่าน เรามาแข่งขันกันด้วยฝีมือเถอะ!”

พูดจบเย่หยวนก็ลุกหันหน้าเดินไปทันที

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายในห้องต่างแทบกระอักเลือดออกมา ใครมันทำการเจรจาเช่นนี้กัน?

มีที่ไหน… เดินมาบอกข้อเสนอและก็เดินจากไปเมื่อมันไม่ได้ตามนั้น?

เจ้าโยนหกสิบเปอร์เซ็นต์มา พอไม่ได้ตามนั้นก็จะให้ปะทะด้วยฝีมือทันที

นี่มัน… ยังเรียกว่าเจรจาได้?!

การเจรจามันต้องเป็นการดึงแบ่งกันไปมาจนกว่าทั้งสองฝ่ายจะพอใจมิใช่หรือ?

ทำไมมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเล่า?

เจ้าเด็กคนนี้มันเผด็จการเกินไปแล้ว!

“เดี๋ยวก่อน! มา… มาคุยกันก่อนเถอะนะ?” เทพสวรรค์ดันหยู่ร้องบอกด้วยสีหน้าท่าทางเริ่มลำบากใจ

เป่ยถังลี่ก็ลุกขึ้นมาตามตัวเย่หยวนและกล่าวขึ้น “นี่สหายเย่ เรื่องราวทั้งหลายมันย่อมจะตกลงกันได้! มานั่งคุยกันให้ดีก่อนเถอะนะ?”

แต่เย่หยวนกลับไม่คิดจะนั่งคุยใดๆ “ไม่มีอะไรต้องคุย! เวลานี้เมืองอินทรีสวรรค์เราคือผู้ชนะ พวกเจ้านั้น… เป็นผู้แพ้! หกสิบเท่านั้น! แค่นี้ข้าก็ถือว่าลดให้มากแล้ว หากตกลงพวกเจ้าก็คุยกันต่อเถอะ หรือหากไม่ตกลง พวกเจ้าก็คุยกันเองเถอะ”

โอหัง!

เผด็จการ!

ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้มีช่องเอาตัวรอดใดๆ

เย่หยวนกลับมาในครั้งนี้มันแตกต่างจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง

การเจรจาก่อนหน้านั้นเย่หยวนไม่ได้ปรากฏตัวเสียด้วยซ้ำ เรื่องราวทั้งหมดฝ่ายหอมหาสมบัติได้ประโยชน์ไปมากที่สุด

เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งใต้การดูแลของหอมหาสมบัติ

แต่วันนี้เย่หยวนกลับมาอย่างเหนือฟ้าไม่ไว้หน้าใคร!

ข้าวางราคา พวกเจ้าตกลงกันเองไม่เกี่ยวกับข้า

จากนั้นเย่หยวนก็เดินจากไปทันที

คนทั้งหลายได้แต่ต้องหันมองหน้ากันด้วยความมึนงง

อุตส่าห์คุยแผนการกันไว้มากมาย สุดท้ายเย่หยวนกลับเดินมาทิ้งระเบิดและเดินจากไป แล้วเช่นนี้จะทำอย่างไรกันต่อ?

เทพสวรรค์ดันหยู่หันไปมองหน้าเทพสวรรค์เปียวหยูด้วยรอยยิ้ม “เปียวหยู น้องตัวดีของเจ้านี่ไง! เจ้าอุตส่าห์ถึงขั้นยอมตัดขาดกับหอมหาสมบัติเพ่าอไปช่วยเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ยามมีภัย แล้วดูมันทำสิ!”

เปียวหยูเองก็ได้แต่ต้องยิ้มตอบกลับไป “เทพสวรรค์ผู้นี้ก็คือเทพสวรรค์ผู้นี้ หอมหาสมบัติก็คือหอมหาสมบัติ! เขานั้นไม่ได้จ้องจะเล่นงานเทพสวรรค์ผู้นี้ แต่เขาจะเล่นงานหอมหาสมบัติ! มันเป็นหอมหาสมบัติที่ทอดทิ้งเมืองอินทรีสวรรค์ก่อน! น้องเย่นั้นมีใจที่หนักแน่นชัดเจนตัดสินเรื่องราวแยกจากกัน มันเป็นเจ้าต่างหากที่ควรคิดให้ดีว่าจากนี้จะเอาเรื่องใดไปรายงานจักรพรรดิเทพสวรรค์ว่านเจ๋อ”

เทพสวรรค์ดันหยู่ต้องหรี่ตาลงมองด้วยสีหน้าเหยเก

เพราะเดิมทีคนที่คิดจัดการเจรจาสี่ฝ่ายนี้ขึ้นมามันก็คือพันธมิตรแดนใต้

แต่เวลานี้มันกลับไม่อาจจะเจรจาใดๆ กันได้อีก

หรือว่าต้องทำสงครามการค้ากันอีกครั้ง?

แต่หากเริ่มสงครามขึ้นจริง ทางพันธมิตรแดนใต้ย่อมจะไม่มีเบี้ยให้ใช้ใดๆ!

พันธมิตรแดนใต้ที่เคยครองอำนาจเหนือใครในอดีตนี้กลับกำลังมีเบี้ยจะวางในกระดานน้อยที่สุด!

พวกเขานั้นเป็นกองกำลังที่มีอิทธิพลต่ำที่สุดในเวลานี้

ทางหอมหาสมบัติยังมีสูตรโอสถลับนั้น!

เจ็ดตระกูลใหญ่เองก็มีสูตรโอสถอยู่ในมือเช่นกัน!

ส่วนทางเมืองอินทรีสวรรค์ยิ่งมีผู้ที่สร้างสูตรนั้นอยู่!

มีแค่พันธมิตรแดนใต้เท่านั้นที่ไร้ไพ่ตายใด!

แน่นอนว่าพวกเขานั้นไม่ได้ไร้ซึ่งเบี้ยใดๆ

เพราะพวกเขานั้นมีดินแดน!

…

ไม่นานนักมันก็มีคนมาขอเข้าพบเย่หยวน

แต่คนที่มาในครานี้เป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์!

เทพสวรรค์เปียวหยูนั้นได้นำจักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยแห่งหอมหาสมบัติมาหาเย่หยวน

“ฮ่าๆ ไม่นึกเลยว่าพี่เปียวหยูจะมา ข้ากำลังว่าจะไปหาท่านพอดี ไม่นึกว่าท่านจะเป็นฝ่ายมาหาข้าเอง” เมื่อเย่หยวนเห็นเปียวหยูเขาก็รีบเข้าไปต้อนรับทันที

ส่วนทางตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยที่เดินนำมานั้นกลับถูกทำเหมือนเป็นอากาศธาตุในสายตาของเย่หยวน

อึดอัด!

คนที่กล้าจะปฏิบัติกับจักรพรรดิเทพสวรรค์ราวเป็นอากาศธาตุเช่นนี้ ในแดนใต้นี้มันคงมีเย่หยวนเป็นคนแรก

ทางเปียวหยูเองก็สัมผัสได้ถึงความอึดอัดในบรรยายกาศนี้จึงได้กล่าวขึ้น “น้องข้า ท่านผู้นี้คือผู้ดูแลที่สามแห่งหอมหาสมบัติ ท่านจักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ย!”

แน่นอนว่าหอมหาสมบัติที่มากอำนาจวางตัวไปทั่วแดนนี้ย่อมจะต้องมีจักรพรรดิเทพสวรรค์อยู่มากกว่าหนึ่งคน

ในแดนใต้นี้วังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปานั้นมีอำนาจเหนือล้ำ ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะเอาปัญญาที่ไหนไปทำการค้าทั่วดินแดนได้?

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยนั้นพยายามกลบความอับอายและกล่าวขึ้น “สหายหนุ่มเย่นั้นสร้างชื่อในศึกครั้งนี้จนขึ้นมาเป็นยอดจอมเทพโอสถอันดับหนึ่งแห่งแดนใต้เรา! ข้าได้พบเจอวันนี้มันช่างเป็นการเบิกหูเบิกตาที่ดีนัก!”

เย่หยวนจึงยิ้มตอบกลับไป “เรื่องนั้นจะว่าไปข้าก็ต้องขอบคุณทางหอมหาสมบัติมากที่ช่วยเปิดโอกาสนี้ให้”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยผงะทันทีที่ได้ยิน เวลานี้เขารู้สึกถึงความอึดอัดที่มันจุกขึ้นมาถึงลำคอทันที

“สหายหนุ่มเย่ เรื่องครานี้มันเป็นความผิดของทางหอมหาสมบัติจริง แต่ที่สหายหนุ่มเย่มีวันนี้มาได้มันก็ได้พึ่งพาหอมหาสมบัติไว้ไม่น้อย เราสองจะมาแตกหักกันเพราะเรื่องนี้จริงๆ หรือ?” จักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยกล่าวถาม

…………………………

Related