Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2237 ตอบแทนความเมตตา

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2237 ตอบแทนความเมตตา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ภายในโพรงถ้ำใหญ่โตในเวลานี้มันกำลังมีหลายเงาร่างต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง

บนผนังถ้ำเวลานี้มันเปี่ยมล้นไปด้วยสิ่งมีชีวิตสีดำแดงที่ปกคลุมครอบฟ้าดิน

เวลาเหล่าผีเทพสวรรค์นั้นกำลังปะทะกับเหล่าค้างคาวที่มีดวงตาสีแดงก่ำ

ส่วนอีกด้าน ทางเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งเจ็ดนั้นก็กำลังปะทะกับสุดยอดค้างคาวปีกเลือดขนาดยักษ์สามตัว

โชคยังดีที่ในที่แห่งนี้มิติมันบิดเบี้ยวอย่างมาก คลื่นพลังใดๆ ที่ถูกปล่อยออกมาล้วนถูกดูดหายไปสิ้นไม่ทำให้เกิดแรงสั่นไหวมากล้ำกับตัวถ้ำ

ราชันค้างคาวปีกเลือดทั้งสามตัวนั้นเองก็เป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์เช่นกัน กำลังต่อสู้ของพวกมันนั้นเหนือล้ำอย่างที่แท้ฝ่ายผีจะมีจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งผู้เป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์สองดาว พวกเขาก็ยังไม่อาจจะจบการต่อสู้นี้ลงได้ง่ายๆ

พร้อมๆ กันนั้นที่ด้านบนพนังถ้ำมันก็ปรากฏให้เห็นดอกบัวสีแดงเลือดห้อยลงมาจากด้านบน ส่งคลื่นพลังหนักหน่วงสู่จิตใจของทุกผู้คน

เจ้าสิ่งนี้มันคือสมุนไพรวิญญาณระดับแปด!

ระหว่างที่ต่อสู้ไปตัวเจี่ยวมิ่งก็ได้แต่ต้องร้องร่ำ

“เจ้าโง่ทั้งหลายนี้มันกลับไม่มีปัญญาแม้จะจัดการค้างคาวพวกนี้! คนตั้งมากมายกลับเทียบไม่ได้กับเจ้าเด็กคนนั้นแค่คนเดียว! เป็นขยะเสียจริงๆ!”

ในเวลานี้เขาเริ่มคิดถึงตัวเย่หยวนขึ้นมา

เพราะหลังจากเดินทางมาอีกแสนนานในที่สุดคนทั้งหลายก็มาเจอเข้ากับบัวดอกโลหิต

นี่มันคือสมุนไพรวิญญาณระดับแปด แน่นอนว่าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องเบิกตาโตเมื่อเห็นมัน

แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าเจ้าบัวดอกโลหิตนี้มันจะมีฝูงค้างคาวปีกเลือดปกป้องอยู่มากมายทั้งราชันทั้งสามของฝูงค้างคาวปีกเลือดนี้มันยังเป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์อีกด้วย!

แม้ว่าพวกเขาจะมีกันถึงเจ็ดคนแต่พวกเขาทั้งหลายเองก็ไม่อาจจะจัดการเจ้าค้างคาวปีกเลือดทั้งสามนี้ลงได้ง่ายๆ

เหล่าสิ่งมีชิวิตในบ่อโลหิตทั้งหลายนั้นมันต่างมีวิธีการรับมือกับกายวิญญาณสิ้น

ในหมู่พวกมันทั้งสามนั้นราชันค้างคาวปีกเลือดตัวหนึ่งมันเป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาวขั้นสุด ใช้พลังคลื่นเสียงประหลาดออกมาทำให้แม้แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งก็ยังไม่อาจรับมือได้ง่ายๆ

ส่วนอีกด้านเหล่าค้างคาวปีกเลือดนั้นมันมีจำนวนมากล้นกว่าฝั่งผีเต๋าไปมาก

แม้ว่าพวกมันส่วนใหญ่จะยังอยู่แค่ระดับหก จำนวนค้างคาวปีกเลือดที่ขึ้นถึงระดับเจ็ดนั้นมันไม่ได้มีมากมายใดๆ แต่ถึงจะอย่างไรมันก็ยังคงนับได้ว่ามาก

หลังจากต่อสู้อย่างหนักหน่วง ในที่สุดทั้งฝ่ายราชันค้างคาวปีกเลือดและทางผีจักรพรรดิเทพสวรรค์ต้องบาดเจ็บไปตามๆ กัน

“ให้ตายสิ หากรู้เช่นนี้ข้าคงปล่อยให้เจ้าเด็กคนนี้มันอยู่ต่ออีกหน่อย! เจ้าโง่ทั้งหลายนี้มันไร้ค่าใดๆ อย่างสิ้นเชิงเลย!” จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางกัดฟัน

เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้รู้ถึงความสำคัญของเย่หยวน

แต่มาเสียใจตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว

“พี่เจี่ยวมิ่ง แบบนี้มันไม่ได้การแล้ว ท่านจะยังออมมือไปจนถึงเมื่อไหร่กัน?” จักรพรรดิเทพสวรรค์ฉานหยูถามขึ้น

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งจึงได้แต่ต้องถอนหายใจ “ช่างเถอะ เดิมทีข้าก็ยังคิดจะเก็บกำลังไว้ลุยต่อภายในส่วนลึก แต่พวกมันทั้งหลายนี้ก็เป็นตัวปัญหาที่เกินกว่าจะปล่อยไว้ได้จริงๆ”

พูดจบเขาก็ขยับนิ้วเผยให้เห็นถึงโคมไฟสีดำสนิท

เจ้าโคมสีดำนี้มันส่งคลื่นพลังหนักหน่วงออกมารอบๆ เพราะมันนั้นคือสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์!

เมื่อเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์คนอื่นๆ ได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ยิ้มกว้างออกมา

“โคมผีผสานระกา!” จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม

โคมผีผสานระกานี้มันคือสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์ประจำกายของจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่ง มีพลังแข็งแกร่งอย่างมาก

คงพูดได้ว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งที่ไม่ได้ใช้โคมผีผสานระกานั้นมันแสดงพลังออกมาได้ไม่ถึงครึ่ง

จากนั้นจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งก็ยื่นมือออกมาส่งคลื่นพลังน่าขนลุกออกจากโคมผีผสานระกาทำให้ภายในถ้ำนั้นมันเย็นเยือกลงไปไม่น้อย

“ผีหน้าตะกละ กลืนพวกมัน!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งหรี่ตาลงร้องบอกก่อนจะเกิดใบหน้ายักษ์ขึ้นกลางอากาศพุ่งตัวออกมาจากโคมผีผสานระกา

เจ้าหน้าผีนี้มันเปิดอ้าปากกว้างพุ่งเข้าใส่ราชันค้างคาวปีกเลือดทั้งสามตัว

เมื่อได้เห็นการโจมตีนี้ทางราชันค้างคาวปีกเลือดก็ต้องหรี่ตาลงทันที

พร้อมๆ กนนั้นมันก็เกิดแสงสีแดงเลือดสาดส่อง พร้อมๆ กับที่เจ้าราชันค้างคาวปีกเลือดเปิดปากของมันออก

จากนั้นมันก็เกิดคลื่นเสียงสั่นสะท้านฟ้าดินดังขึ้นอย่างก้องกังวาน

“อั้ก!”

“ผัวะ!”

“อุก!”

ไกลออกไปเหล่าผีเทพสวรรค์ที่อ่อนแอหลายต่อหลายตนต้องแตกสลายหายไปกลางอากาศหลังสัมผัสกับคลื่นเสียงนี้

เวลานี้สีหน้าของเหล่าผีจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งเจ็ดมันก็เปลี่ยนสีไป ไม่นึกไม่ฝันว่าราชันค้างคาวปีกเลือดทั้งสามมันจะยังมีไม้ตายรุนแรงเช่นนี้ซ่อนไว้

แต่พวกเขาทั้งหลายก็ไม่มีเวลาจะคิดให้มากมายรีบใช้ไม้ตายของตนออกมาตามรับการโจมตีของราชันค้างคาวปีกเลือดไว้

จากนั้นคนทั้งหลายก็เริ่มการต่อสู้ตะลุมบอนอีกครา!

ทางผีจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งเจ็ดนั้นมีความได้เปรียบเรื่องจำนวน สุดท้ายพวกเขาก็ย่อมจะเริ่มกดดันทำให้ราชันค้างคาวปีกเลือดทั้งสามไม่อาจทนรับมือได้อีก

เวลานี้เหล่าผีจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งเจ็ดกำลังได้ใจ ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บไปไม่น้อยแต่หากได้บัวดอกโลหิตไปมันก็คงคุ้มค่า

“ว่าไง คึกคักกันดีจริงๆ นะ!”

ในเวลานั้นเองมันก็เกิดเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังของคนทั้งหลาย

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องหรี่ตาลงมองที่เขาร่างนั้นอย่างตกตะลึง

เพราะมันจะเป็นใครไปได้นอกจากเย่หยวน?

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งเบิกตากว้างกล่าวขึ้น “เจ้าเด็กคนนี้กลับยังไม่ตาย? ไม่สิ! ทำไมมันไม่มีบาดแผลใดๆ เลยเล่า?”

ถูกตัวเขมือบวิญญาณเทพสวรรค์ขั้นสุดติดตามไล่ไปเช่นนั้นมีหรือที่เย่หยวนจะรอดออกมาโดยไร้บาดแผล!

เจ้าเด็กคนนี้มันทำได้อย่างไร?

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งเจ็ดนั้นมึนงงอย่างมาก แต่ก็เพราะว่าเรื่องนี้ที่ทำให้พวกเขาเกือบเสียท่าให้ราชันค้างคาวปีกเลือด

เวลานี้มันมิใช่เวลามทาเหม่อคิด พวกเขาทั้งหลายจึงรีบตั้งสติหันไปจัดการเหล่าราชันค้างคาวปีกเลือดต่อ

แท้จริงเย่หยวนได้ตามหลังคนทั้งหลายมาแสนนานและซ่อนตัวหลบอยู่ในช่องว่างห้วงมิติมองดูการต่อสู้ระหว่างเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์และราชันค้างคาวปีกเลือด

ในเวลานี้เขาเห็นว่ามันเหมาะสมแก่เวลาแล้วเย่หยวนจึงได้ปรากฏกายออกมา

“มันเป็นไปได้อย่างไร? เจ้าเด็กน้อย เจ้าคิดจะทำอะไรกัน?” จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางถามขึ้นอย่างไม่วางใจ

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ทำอะไร? แน่นอนว่าข้าต้องตอบแทนความเมตตาของท่านจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลาย เย่ผู้นี้จะช่วยเก็บบัวดอกโลหิตไปเอง”

พูดจบเย่หยวนก็ไม่รอช้าพุ่งตัวลอยขึ้นไปหาบัวดอกโลหิตที่พนังถ้ำด้านบน

จำนวนของค้างคาวปีกเลือดนั้นมันมีไม่น้อย เมื่อเห็นว่าเย่หยวนคิดเข้าใกล้สมบัติของพวกมัน ค้างคาวปีกเลือดระดับเทพสวรรค์หลายตัวก็พุ่งเข้าใส่เย่หยวนหวังจะหยุดเขาลง

แต่ที่ใดที่เย่หยวนพุ่งตัวผ่าน เหล่าค้างคาวปีกเลือดก็จะตายลงอย่างไม่อาจตอบโต้ใดๆ ได้!

พลังการต่อสู้ของเขานี้มันมากกว่าเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหมดในที่นี้รวมกันเสียอีก!

แต่เมื่อเขาลงสนามต่อสู้มา เหล่าค้างคาวปีกเลือดมากมายก็ต้องเข้ามาปิดล้อมเขาตามคาด

เย่หยวนนักยกดาบฟาดฟันสังหารพวกมันจนไม่เหลือชีวิตใดๆ

ไม่มีใครทันรู้ว่าระหว่างที่เย่หยวนฆ่าสังหารเหล่าค้างคาวปีกเลือดไป เขาก็ได้ค่อยๆ วาดวางค่ายกลไปด้วย

อีกด้านเมื่อเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เห็นพวกเขาต่างก็โกรธแค้นไม่พอใจขึ้นอย่างมาก

พวกเขานั้นได้แต่ร้องด่า แต่เย่หยวนก็ไม่คิดสนใจเดินเข้าไปหาบัวดอกโลหิตเรื่อยๆ

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งต้องหรี่ตาลงแน่นก่อนจะยกโคมผีผสานระกาขึ้นมา

พร้อมๆ กันนั้นมันก็เกิดคลื่นพลังหนักแน่นห่อหุ้มร่างกายของเขาไว้

“กายผีวัชระ! จงระเบิด!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งนั้นเหมือนได้เกราะหนามาใส่หุ้มร่างไว้ทำให้พลังโจมตีของเขารุนแรงขึ้นกว่าเก่ามาก

เวลานี้เหล่าราชันค้างคาวปีกเลือดทั้งสามนั้นแทบจะหมดแรงสู้แล้ว มีหรือที่จะยังรับการโจมตีสุดบ้าคลั่งของจักรพรรดิเทพสวรรค์สองดาวไว้ได้อีก?

ตุบ!

ตุบ!

ตุบ!

คลื่นพลังแสนน่าหวาดกลัวถูกส่งออกมาจนถายในถ้ำเริ่มเกิดความบิดเบี้ยวขึ้น

เวลานี้ราชันค้างคาวปีกเลือดทั้งสามได้ตายลงด้วยน้ำมือของจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งสิ้น

ส่วนอีกด้านเย่หยวนก็พุ่งตัวเข้าไปจนเกือบจะถึงบัวดอกโลหิต

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งหัวเราะขึ้นอย่างเย็นเยือก “สวรรค์มีทางให้เดินดีๆ เจ้ากลับจะฝ่าฟันลงนรก! ในเมื่อคิดรนหาที่ตายแล้วจักรพรรดิผู้นี้ก็จะส่งเจ้าไปเอง!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางนั้นยิ้มขึ้น “เด็กน้อย เจ้ารอดพ้นความหายนะมาได้แต่กลับเลือกมารนหาที่ตายเพิ่ม! ครั้งนี้ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าเจ้าจะเอาปัญญาที่ไหนไปหนีอีก! ตาย!”

เทพสวรรค์ตัวน้อยกลับมากล้าแย่งชิงสมบัติที่จักรพรรดิเทพสวรรค์หมายตาทุ่มกำลังแย่งชิงมา

จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งเจ็ดนั้นต่างไม่พอใจพุ่งตัวเข้าไปคิดจัดการเรื่องราวให้มันจบสิ้น

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดคน มันจะต้องเป็นพลังที่ล้นฟ้าปานใด?

เมื่อเหล่าผีเต๋าทั้งหลายได้เห็น พวกเขาต่างก็หน้าซีดขาวลงไปตามๆ กัน

แต่ในเวลานั้นทางเย่หยวนกลับเผยรอยยิ้มออกมา

เมื่อตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งเห็นรอยยิ้มนั้น ตัวเขากลับรู้สึกขนลุกไปทั้งกาย

……………..

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2237 ตอบแทนความเมตตา

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2237 ตอบแทนความเมตตา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ภายในโพรงถ้ำใหญ่โตในเวลานี้มันกำลังมีหลายเงาร่างต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง

บนผนังถ้ำเวลานี้มันเปี่ยมล้นไปด้วยสิ่งมีชีวิตสีดำแดงที่ปกคลุมครอบฟ้าดิน

เวลาเหล่าผีเทพสวรรค์นั้นกำลังปะทะกับเหล่าค้างคาวที่มีดวงตาสีแดงก่ำ

ส่วนอีกด้าน ทางเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งเจ็ดนั้นก็กำลังปะทะกับสุดยอดค้างคาวปีกเลือดขนาดยักษ์สามตัว

โชคยังดีที่ในที่แห่งนี้มิติมันบิดเบี้ยวอย่างมาก คลื่นพลังใดๆ ที่ถูกปล่อยออกมาล้วนถูกดูดหายไปสิ้นไม่ทำให้เกิดแรงสั่นไหวมากล้ำกับตัวถ้ำ

ราชันค้างคาวปีกเลือดทั้งสามตัวนั้นเองก็เป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์เช่นกัน กำลังต่อสู้ของพวกมันนั้นเหนือล้ำอย่างที่แท้ฝ่ายผีจะมีจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งผู้เป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์สองดาว พวกเขาก็ยังไม่อาจจะจบการต่อสู้นี้ลงได้ง่ายๆ

พร้อมๆ กันนั้นที่ด้านบนพนังถ้ำมันก็ปรากฏให้เห็นดอกบัวสีแดงเลือดห้อยลงมาจากด้านบน ส่งคลื่นพลังหนักหน่วงสู่จิตใจของทุกผู้คน

เจ้าสิ่งนี้มันคือสมุนไพรวิญญาณระดับแปด!

ระหว่างที่ต่อสู้ไปตัวเจี่ยวมิ่งก็ได้แต่ต้องร้องร่ำ

“เจ้าโง่ทั้งหลายนี้มันกลับไม่มีปัญญาแม้จะจัดการค้างคาวพวกนี้! คนตั้งมากมายกลับเทียบไม่ได้กับเจ้าเด็กคนนั้นแค่คนเดียว! เป็นขยะเสียจริงๆ!”

ในเวลานี้เขาเริ่มคิดถึงตัวเย่หยวนขึ้นมา

เพราะหลังจากเดินทางมาอีกแสนนานในที่สุดคนทั้งหลายก็มาเจอเข้ากับบัวดอกโลหิต

นี่มันคือสมุนไพรวิญญาณระดับแปด แน่นอนว่าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องเบิกตาโตเมื่อเห็นมัน

แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าเจ้าบัวดอกโลหิตนี้มันจะมีฝูงค้างคาวปีกเลือดปกป้องอยู่มากมายทั้งราชันทั้งสามของฝูงค้างคาวปีกเลือดนี้มันยังเป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์อีกด้วย!

แม้ว่าพวกเขาจะมีกันถึงเจ็ดคนแต่พวกเขาทั้งหลายเองก็ไม่อาจจะจัดการเจ้าค้างคาวปีกเลือดทั้งสามนี้ลงได้ง่ายๆ

เหล่าสิ่งมีชิวิตในบ่อโลหิตทั้งหลายนั้นมันต่างมีวิธีการรับมือกับกายวิญญาณสิ้น

ในหมู่พวกมันทั้งสามนั้นราชันค้างคาวปีกเลือดตัวหนึ่งมันเป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาวขั้นสุด ใช้พลังคลื่นเสียงประหลาดออกมาทำให้แม้แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งก็ยังไม่อาจรับมือได้ง่ายๆ

ส่วนอีกด้านเหล่าค้างคาวปีกเลือดนั้นมันมีจำนวนมากล้นกว่าฝั่งผีเต๋าไปมาก

แม้ว่าพวกมันส่วนใหญ่จะยังอยู่แค่ระดับหก จำนวนค้างคาวปีกเลือดที่ขึ้นถึงระดับเจ็ดนั้นมันไม่ได้มีมากมายใดๆ แต่ถึงจะอย่างไรมันก็ยังคงนับได้ว่ามาก

หลังจากต่อสู้อย่างหนักหน่วง ในที่สุดทั้งฝ่ายราชันค้างคาวปีกเลือดและทางผีจักรพรรดิเทพสวรรค์ต้องบาดเจ็บไปตามๆ กัน

“ให้ตายสิ หากรู้เช่นนี้ข้าคงปล่อยให้เจ้าเด็กคนนี้มันอยู่ต่ออีกหน่อย! เจ้าโง่ทั้งหลายนี้มันไร้ค่าใดๆ อย่างสิ้นเชิงเลย!” จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางกัดฟัน

เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้รู้ถึงความสำคัญของเย่หยวน

แต่มาเสียใจตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว

“พี่เจี่ยวมิ่ง แบบนี้มันไม่ได้การแล้ว ท่านจะยังออมมือไปจนถึงเมื่อไหร่กัน?” จักรพรรดิเทพสวรรค์ฉานหยูถามขึ้น

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งจึงได้แต่ต้องถอนหายใจ “ช่างเถอะ เดิมทีข้าก็ยังคิดจะเก็บกำลังไว้ลุยต่อภายในส่วนลึก แต่พวกมันทั้งหลายนี้ก็เป็นตัวปัญหาที่เกินกว่าจะปล่อยไว้ได้จริงๆ”

พูดจบเขาก็ขยับนิ้วเผยให้เห็นถึงโคมไฟสีดำสนิท

เจ้าโคมสีดำนี้มันส่งคลื่นพลังหนักหน่วงออกมารอบๆ เพราะมันนั้นคือสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์!

เมื่อเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์คนอื่นๆ ได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ยิ้มกว้างออกมา

“โคมผีผสานระกา!” จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม

โคมผีผสานระกานี้มันคือสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์ประจำกายของจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่ง มีพลังแข็งแกร่งอย่างมาก

คงพูดได้ว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งที่ไม่ได้ใช้โคมผีผสานระกานั้นมันแสดงพลังออกมาได้ไม่ถึงครึ่ง

จากนั้นจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งก็ยื่นมือออกมาส่งคลื่นพลังน่าขนลุกออกจากโคมผีผสานระกาทำให้ภายในถ้ำนั้นมันเย็นเยือกลงไปไม่น้อย

“ผีหน้าตะกละ กลืนพวกมัน!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งหรี่ตาลงร้องบอกก่อนจะเกิดใบหน้ายักษ์ขึ้นกลางอากาศพุ่งตัวออกมาจากโคมผีผสานระกา

เจ้าหน้าผีนี้มันเปิดอ้าปากกว้างพุ่งเข้าใส่ราชันค้างคาวปีกเลือดทั้งสามตัว

เมื่อได้เห็นการโจมตีนี้ทางราชันค้างคาวปีกเลือดก็ต้องหรี่ตาลงทันที

พร้อมๆ กนนั้นมันก็เกิดแสงสีแดงเลือดสาดส่อง พร้อมๆ กับที่เจ้าราชันค้างคาวปีกเลือดเปิดปากของมันออก

จากนั้นมันก็เกิดคลื่นเสียงสั่นสะท้านฟ้าดินดังขึ้นอย่างก้องกังวาน

“อั้ก!”

“ผัวะ!”

“อุก!”

ไกลออกไปเหล่าผีเทพสวรรค์ที่อ่อนแอหลายต่อหลายตนต้องแตกสลายหายไปกลางอากาศหลังสัมผัสกับคลื่นเสียงนี้

เวลานี้สีหน้าของเหล่าผีจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งเจ็ดมันก็เปลี่ยนสีไป ไม่นึกไม่ฝันว่าราชันค้างคาวปีกเลือดทั้งสามมันจะยังมีไม้ตายรุนแรงเช่นนี้ซ่อนไว้

แต่พวกเขาทั้งหลายก็ไม่มีเวลาจะคิดให้มากมายรีบใช้ไม้ตายของตนออกมาตามรับการโจมตีของราชันค้างคาวปีกเลือดไว้

จากนั้นคนทั้งหลายก็เริ่มการต่อสู้ตะลุมบอนอีกครา!

ทางผีจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งเจ็ดนั้นมีความได้เปรียบเรื่องจำนวน สุดท้ายพวกเขาก็ย่อมจะเริ่มกดดันทำให้ราชันค้างคาวปีกเลือดทั้งสามไม่อาจทนรับมือได้อีก

เวลานี้เหล่าผีจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งเจ็ดกำลังได้ใจ ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บไปไม่น้อยแต่หากได้บัวดอกโลหิตไปมันก็คงคุ้มค่า

“ว่าไง คึกคักกันดีจริงๆ นะ!”

ในเวลานั้นเองมันก็เกิดเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังของคนทั้งหลาย

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องหรี่ตาลงมองที่เขาร่างนั้นอย่างตกตะลึง

เพราะมันจะเป็นใครไปได้นอกจากเย่หยวน?

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งเบิกตากว้างกล่าวขึ้น “เจ้าเด็กคนนี้กลับยังไม่ตาย? ไม่สิ! ทำไมมันไม่มีบาดแผลใดๆ เลยเล่า?”

ถูกตัวเขมือบวิญญาณเทพสวรรค์ขั้นสุดติดตามไล่ไปเช่นนั้นมีหรือที่เย่หยวนจะรอดออกมาโดยไร้บาดแผล!

เจ้าเด็กคนนี้มันทำได้อย่างไร?

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งเจ็ดนั้นมึนงงอย่างมาก แต่ก็เพราะว่าเรื่องนี้ที่ทำให้พวกเขาเกือบเสียท่าให้ราชันค้างคาวปีกเลือด

เวลานี้มันมิใช่เวลามทาเหม่อคิด พวกเขาทั้งหลายจึงรีบตั้งสติหันไปจัดการเหล่าราชันค้างคาวปีกเลือดต่อ

แท้จริงเย่หยวนได้ตามหลังคนทั้งหลายมาแสนนานและซ่อนตัวหลบอยู่ในช่องว่างห้วงมิติมองดูการต่อสู้ระหว่างเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์และราชันค้างคาวปีกเลือด

ในเวลานี้เขาเห็นว่ามันเหมาะสมแก่เวลาแล้วเย่หยวนจึงได้ปรากฏกายออกมา

“มันเป็นไปได้อย่างไร? เจ้าเด็กน้อย เจ้าคิดจะทำอะไรกัน?” จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางถามขึ้นอย่างไม่วางใจ

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ทำอะไร? แน่นอนว่าข้าต้องตอบแทนความเมตตาของท่านจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลาย เย่ผู้นี้จะช่วยเก็บบัวดอกโลหิตไปเอง”

พูดจบเย่หยวนก็ไม่รอช้าพุ่งตัวลอยขึ้นไปหาบัวดอกโลหิตที่พนังถ้ำด้านบน

จำนวนของค้างคาวปีกเลือดนั้นมันมีไม่น้อย เมื่อเห็นว่าเย่หยวนคิดเข้าใกล้สมบัติของพวกมัน ค้างคาวปีกเลือดระดับเทพสวรรค์หลายตัวก็พุ่งเข้าใส่เย่หยวนหวังจะหยุดเขาลง

แต่ที่ใดที่เย่หยวนพุ่งตัวผ่าน เหล่าค้างคาวปีกเลือดก็จะตายลงอย่างไม่อาจตอบโต้ใดๆ ได้!

พลังการต่อสู้ของเขานี้มันมากกว่าเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหมดในที่นี้รวมกันเสียอีก!

แต่เมื่อเขาลงสนามต่อสู้มา เหล่าค้างคาวปีกเลือดมากมายก็ต้องเข้ามาปิดล้อมเขาตามคาด

เย่หยวนนักยกดาบฟาดฟันสังหารพวกมันจนไม่เหลือชีวิตใดๆ

ไม่มีใครทันรู้ว่าระหว่างที่เย่หยวนฆ่าสังหารเหล่าค้างคาวปีกเลือดไป เขาก็ได้ค่อยๆ วาดวางค่ายกลไปด้วย

อีกด้านเมื่อเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เห็นพวกเขาต่างก็โกรธแค้นไม่พอใจขึ้นอย่างมาก

พวกเขานั้นได้แต่ร้องด่า แต่เย่หยวนก็ไม่คิดสนใจเดินเข้าไปหาบัวดอกโลหิตเรื่อยๆ

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งต้องหรี่ตาลงแน่นก่อนจะยกโคมผีผสานระกาขึ้นมา

พร้อมๆ กันนั้นมันก็เกิดคลื่นพลังหนักแน่นห่อหุ้มร่างกายของเขาไว้

“กายผีวัชระ! จงระเบิด!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งนั้นเหมือนได้เกราะหนามาใส่หุ้มร่างไว้ทำให้พลังโจมตีของเขารุนแรงขึ้นกว่าเก่ามาก

เวลานี้เหล่าราชันค้างคาวปีกเลือดทั้งสามนั้นแทบจะหมดแรงสู้แล้ว มีหรือที่จะยังรับการโจมตีสุดบ้าคลั่งของจักรพรรดิเทพสวรรค์สองดาวไว้ได้อีก?

ตุบ!

ตุบ!

ตุบ!

คลื่นพลังแสนน่าหวาดกลัวถูกส่งออกมาจนถายในถ้ำเริ่มเกิดความบิดเบี้ยวขึ้น

เวลานี้ราชันค้างคาวปีกเลือดทั้งสามได้ตายลงด้วยน้ำมือของจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งสิ้น

ส่วนอีกด้านเย่หยวนก็พุ่งตัวเข้าไปจนเกือบจะถึงบัวดอกโลหิต

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งหัวเราะขึ้นอย่างเย็นเยือก “สวรรค์มีทางให้เดินดีๆ เจ้ากลับจะฝ่าฟันลงนรก! ในเมื่อคิดรนหาที่ตายแล้วจักรพรรดิผู้นี้ก็จะส่งเจ้าไปเอง!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางนั้นยิ้มขึ้น “เด็กน้อย เจ้ารอดพ้นความหายนะมาได้แต่กลับเลือกมารนหาที่ตายเพิ่ม! ครั้งนี้ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าเจ้าจะเอาปัญญาที่ไหนไปหนีอีก! ตาย!”

เทพสวรรค์ตัวน้อยกลับมากล้าแย่งชิงสมบัติที่จักรพรรดิเทพสวรรค์หมายตาทุ่มกำลังแย่งชิงมา

จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งเจ็ดนั้นต่างไม่พอใจพุ่งตัวเข้าไปคิดจัดการเรื่องราวให้มันจบสิ้น

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดคน มันจะต้องเป็นพลังที่ล้นฟ้าปานใด?

เมื่อเหล่าผีเต๋าทั้งหลายได้เห็น พวกเขาต่างก็หน้าซีดขาวลงไปตามๆ กัน

แต่ในเวลานั้นทางเย่หยวนกลับเผยรอยยิ้มออกมา

เมื่อตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งเห็นรอยยิ้มนั้น ตัวเขากลับรู้สึกขนลุกไปทั้งกาย

……………..

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+