Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2340 เย่หยวนผู้รักษาคำพูด

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2340 เย่หยวนผู้รักษาคำพูด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เงาร่างมังกรฟ้านั้นมันมองดูพื้นดินจากที่สูงล้ำราวกับว่ากำลังแสดงความเหยียดหยามต่อผู้คนทั้งโลก

มันเป็นเหมือนดั่งกับว่าโลกหล้าทั้งหมดตรงหน้านี้เป็นของเขาแค่ผู้เดียว!

เมื่อเท้านั้นถูกย่ำลงคนทั้งโลกก็ต้องตื่นตะลึง!

ตูม!

การย่ำครั้งนี้มันทำให้เกิดแผ่นดินไหวสั่นสะท้านจนถึงห้วงมิติ

พลังของคนทั้งสองนี้แข็งแกร่งจนเกินบรรยายจริงๆ

การปะทะครั้งนี้ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบ!

ฉินหูนั้นมีกำลังฝีมือที่แข็งแกร่งเหนือล้ำ ทักษะเทวะภายในของเย่หยวนก็แข็งแกร่งสุดล้ำแม้ในเผ่ามังกร ถึงจะเป็นพลังระดับนั้นก็ยังทำได้แค่เสมอ

กำลังของเด็กชะตาไร้คาดเดานั้นมันได้แสดงออกมาอย่างถึงที่สุดในรูปของฉินหูนี้

แต่จะอย่างไรที่คนทั้งหลายตกตะลึงก็ยังเป็นทางเย่หยวน

เหตุผลนั้นมันง่ายดาย เพราะฉินหูแพ้!

จักรพรรดิเทพสวรรค์สองดาวอย่างเย่หยวนนั้นกลับต่อสู้เสมอได้กับจักรพรรดิเทพสวรรค์สี่ดาวอย่างฉินหู!

แค่นี้มันก็นับว่าเป็นความพ่ายแพ้ย่อยยับแล้ว

“ทักษะเทวะภายในนั้นมันน่ากลัวเสียจริง! ในระดับเดียวกันแล้วใครจะยังเทียบเคียงเขาได้เล่า?”

“นี่มันคือทักษะเทวะภายในประเภทมิติ มันคือสุดยอดของที่สุดในหมู่ทักษะเทวะภายในทั้งหลาย! ดูท่าแล้วเขาผู้นี้คงเป็นสุดยอดตัวตนในเผ่ามังกรแน่นอน!”

“ฉินหูนั้นกล่าวประกาศว่าจะฆ่าจนกว่าเจ้าเด็กคนนี้ไม่กล้าออกเมือง ดูสภาพตอนนี้สิ น่าขันนัก!”

“ดูจากเรื่องนี้แล้วเจ้าเด็กใหม่คนนี้มันคงมีฝีมือถึงระดับแปดพันได้ง่ายๆ!”

ระหว่างที่คนทั้งหลายกำลังชื่นชมกันนั้นตัวฉินหูก็ต้องกระอักเลือดออกมาจากแรงปะทะเมื่อสักครู่พร้อมลอยลิ่วปลิวออกไป

ภายใต้การเสมอของคนทั้งสองนั้น สุดท้ายมันก็ยังเป็นฉินหูที่แพ้!

เพราะการปะทะกันด้วยไม้ตายเช่นนี้มันย่อมจะสร้างภาระให้แก่ร่างต้นของนักยุทธเป็นทุนเดิม

ก็จริงที่ว่าฉินหูนั้นเก่งกาจ แต่มีหรือที่เขาจะเก่งไปกว่าร่างกายของเย่หยวน?

ภายใต้สถานการณ์ที่พลังไม่ได้ห่างชั้นกันมากมายนั้น นักยุทธผู้บ่มเพาะร่างกายย่อมจะได้เปรียบเอาชนะได้เสมอ!

เมื่อเย่หยวนได้เปรียบจากเรื่องครั้งนี้เขาก็พุ่งตัวเข้าไปโจมตีซ้ำทันทีอย่างไม่รอช้า

ฉินหูนั้นเพิ่งได้รับบาดเจ็บมายังไม่ทันตั้งตัว มีหรือที่จะต้านทานการโจมตีทั้งหลายนั้นได้? ในไม่กี่กระบวนท่าเขาก็ต้องลงไปกองนอนรอความตาย

ทุกผู้คนที่ได้เห็นภาพนั้นต่างขนลุกชันไปทั้งกาย การลงมือนี้มันหนักหน่วงอย่างดุร้ายที่สุด

แต่ในมิติสงครามดึกดำบรรพ์นี้ทุกผู้คนอยู่เพื่อแต้มเทพสงคราม ไม่ดุร้ายมันก็คงจะไม่ได้

“หึๆ ขอบคุณสำหรับแต้มเทพสงครามนี้มาก!” เย่หยวนก้มลงเย้ยหยันฉินหูที่นอนรอความตายบนพื้น

ฉินหูจึงร้องกลับมาด้วยแรงเฮือกสุดท้าย “เด็กน้อย หากเจ้าเก่งจริงก็อย่าได้หนีไปไหน! หลังจากข้าฟื้นแล้วข้าจะกลับมาจัดการเจ้าเอง!”

เขานั้นแพ้แต่ยังไม่ยอมรับ!

เขานั้นไม่ได้อ่อนแอกว่าเย่หยวนมากมาย แต่เย่หยวนนั้นใช้ความได้เปรียบของร่างกายที่บ่มเพาะมาหนักหน่วงเอาชนะเขาไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเรื่องแต้มเทพสงคราม เพราะหากเขาตายลงแก่เย่หยวนแล้วมันคงต้องเสียอย่างมากล้น

เขานั้นไม่อาจจะรับการดูถูกนี้ไว้ได้!

เย่หยวนยิ้มรับขึ้นในใจ พอใจกับสีหน้าท่าทางนี้ของฉินหูอย่างมาก

เพราะตราบที่เขาใช้ค่ายกลดาบออกมา ฉินหูใดๆ คงได้กลายเป็นเนื้อบดในพริบตา

การผสานสี่แนวคิดนั้นมันแข็งแกร่งจริง

แต่ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนมันก็คงไม่มีทางเทียบเคียงกับสองพลังต้นกำเนิดเต๋าได้!

แต่ทำไมเย่หยวนถึงไม่คิดลงมือเด็ดขาดและค่อยๆ ปะทะกับฉินหูให้ดูเหมือนศึกเฉียดเป็นเฉียดตาย?

ที่เย่หยวนทำเช่นนั้นก็เพื่อทำให้ฉินหูไม่คิดยอมรับความพ่ายแพ้!

เพื่อที่ฉินหูจะได้กลับมาหาเรื่องแก้แค้นอีก!

ทำเช่นนั้นเขาก็จะได้แย่งชิงแต้มเทพสงครามได้อย่างต่อเนื่อง

อีกฝ่ายนั้นบอกว่าจะสังหารเขาจนไม่กล้าออกเมืองมิใช่หรือ?

‘เช่นนั้นข้าก็จะสังหารเจ้าจนไม่กล้าออกไปไหนเอง!’

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเย่หยวนรู้ดีว่าครั้งต่อไปตัวฉินหูคงไม่ได้ออกมาคนเดียว เขาต้องหาผู้ช่วยมากแน่นอน

ถึงเวลานั้นแล้ว หึๆ!

สภาพของเย่หยวนในเวลานี้กำลังนึกถึงกองภูเขาแต้มเทพสงครามที่จะมากองอยู่ตรงหน้า

“ได้สิ ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่!” เย่หยวนกล่าวรับ

พูดจบเขาก็ยกหมัดขึ้นส่งฉินหูกลับไปจุดเกิด

เวลานั้นมันก็มีอักษรมากหลายพุ่งผ่านเข้ามาในร่างของเย่หยวนจนทำให้เย่หยวนต้องเบิกตากว้าง

มันเป็นแต้มเทพสงครามที่มากมายนัก!

เพราะว่าเย่หยวนนั้นอยู่ในอับดับรั้งท้าย แต่ฉินหูนั้นอยู่ในอันดับราวๆ เจ็ดพัน

ความแตกต่างนี้มันทำให้เย่หยวนได้รับแต้มเทพสงครามของอีกฝ่ายถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์เมื่อสังหารเขาลง!

เวลานี้เย่หยวนนั้นมีแต้มติดตามมากถึงหนึ่งพันสี่ร้อยแปดสิบแต้ม!

พร้อมๆ กันนั้นเขาก็ก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับแปดพันเก้าร้อยสี่สิบเอ็ด

แม้แต่เย่หยวนเองก็ยังตกตะลึงกับเรื่องตรงหน้านี้

“หึๆ สุดยอดจริง!” เย่หยวนกล่าว

กลายเป็นเศรษฐีในพริบตา!

เมื่อได้เห็นสีหน้าของเย่หยวนนั้นคนทั้งหลายต่างก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมาจับใจ

พวกเขานั้นรู้ดีว่าเย่หยวนคงได้แต้มเทพสงครามมามากมายแน่แล้ว!

ในมิติสงครามดึกดำบรรพ์นี้ยิ่งสังหารศัตรูที่แข็งแกร่งมากเท่าใด มันก็จะยิ่งทำให้ได้แต้มเทพสงครามมากขึ้นเท่านั้น

แต่ร้อยปีมานี้อับดับตำแหน่งมันแทบจะหยุดนิ่งอยู่กับที่

มีแต่คนโง่เง่าเท่านั้นที่จะไปท้าทายผู้มีอันดับสูงเหนือหัวตนไปนับพันๆ อันดับ!

แต่การที่เย่หยวนสังหารฉินหูลงนี้มันเหมือนเป็นการดึงเอาเขี้ยวออกมาจากปากเสือ

หลังจากนั้นเย่หยวนก็นั่งลงขัดสมาธิกับพื้นและรอคอยให้ฉินหูกลับออกมาจริงๆ ทำให้หลายต่อหลายคนต้องเบิกตากว้าง

เจ้าเด็กคนนี้มันโง่หรือ?

หรือว่าเขาคิดจริงว่าฉินหูจะกลับมาต่อสู้ตัวต่อตัวด้วยอีกครั้ง?

“เจ้าหนุ่ม รีบๆ กลับเข้าเมืองเถอะ! ฉินหูนั้นมันมีสหายรักอยู่คนหนึ่งนามโมซี กำลังของเขาผู้นั้นเก่งกาจกว่าฉินหูไปขั้นหนึ่ง! หากเจ้ายังอยู่ที่นี่มันจะมีแต่ตายกับตายแล้ว!” นักยุทธใจดีผู้หนึ่งเดินเข้ามากล่าวเตือนเย่หยวน

“ใช่แล้ว เจ้านั้นอย่าได้โลภมากไป! รออยู่ในที่นี้มันมีแต่จะตายกับตายเท่านั้น!”

เย่หยวนหันกลับไปมองคนทั้งสองนั้นด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณพี่ท่านที่เตือน แต่เย่ผู้นี้บอกไปแล้วว่าจะรอมัน ข้าจะไม่มีทางกลับคำของตน จะนั่งรอมันอยู่ตรงนี้จนกว่ามันจะออกมาอีกครา!”

เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นว่าเย่หยวนไม่คิดฟังเช่นนั้น พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวออกมาตามๆ กัน

เจ้าเด็กคนนี้มันหลงตัวเองจนเกินไป!

ต่อให้จะเก่งแค่ไหนมันก็ไร้ค่าหากเป็นคนโง่!

เว้นเสียแต่ว่าเวลานี้หยางเคอที่อยู่ในกลุ่มคนไม่ได้คิดเช่นนั้น

“ข้าล่ะไม่นึกจริงๆ ว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะเก่งกาจได้ปานนี้! แต่จะอย่างไร หึๆ มันก็โง่ กลับคิดนั่งรอให้ฉินหูกลับมาเช่นนี้จริงๆ!” เผิงหยางกล่าว

แต่หยาวเคอนั้นกลับขมวดคิ้วแน่นตอบกลับไป “พวกเจ้าไม่คิดว่ามันแปลกหรือ?”

ทุกผู้คนที่ได้ยินต่างหันกลับมามองอย่างไม่เข้าใจความหมาย

“มันแปลกใดเล่า? เจ้าเด็กคนนี้มันเทียบเคียบฝีมือได้กับฉินหู แต่หากมีโมซีร่วมด้วยแล้วมันย่อมจะตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่!”

“ใช่แล้ว มันมีกายเนื้อที่แข็งแกร่งล้ำ แต่ฉินหูเองก็มีฝีมือไม่ได้อ่อนแอ! หากมันยังไม่ไปตอนนี้มันก็คงเท่ากับรนหาที่ตายแล้ว!”

แต่หยางเคอยังคงขมวดคิ้วแน่นส่ายหัวออกมา “ข้านั้นได้ยินมาว่ามันใช้แต้มเทพสงครามที่ได้จากเราไปซื้อดาบมา! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือมันซื้อดาบนับพันๆ เล่ม! แต่เจ้าได้เห็นมันชักดาบออกมาใช้สักเล่มหรือยัง?”

คนส่วนใหญ่นั้นลืมเรื่องนี้ไปสนิท!

มันมิใช่ว่าพวกเขาจงใจลืม แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเย่หยวนนั้น คนทั้งหลายจึงคิดไปว่านี่คือกำลังที่แท้จริงของเย่หยวนแล้ว

พวกเขาทั้งหลายคิดไปเสียว่าไม้ตายของเย่หยวนนั้นก็คือวรยุทธต่อสู้มือเปล่าและกายทองคำสัมบูรณ์ระดับแปดนั้น!

เย่หยวนนั้นใช้กายทองคำสัมบูรณ์เอาชนะฉินหูผู้ผสานสี่แนวคิดมาได้ แค่นี้มันก็เหนือล้ำเกินกว่าจะทำใจเชื่อลงแล้ว

แล้วเขาจะยังมีไม้ตายอื่นที่เหนือล้ำกว่านี้ไปได้?

แต่หยางเคอนั้นกำลังติดใจสงสัยในเรื่องนั้น!

เขานั้นไม่ทราบได้ว่าดาบของเย่หยวนเหนือล้ำปานใด แต่ในมิติสงครามดึกดำบรรพ์นี้จะมีใครโง่พอเอาแต้มเทพสงครามไปใช้กับสิ่งที่ไม่มีประโยชน์!

พวกหยางเคอนั้นอดไม่ได้ที่จะเงียบปากลงเมื่อรับรู้ถึงเรื่องราว

แต่หยางเคอนั้นกลับยิ้มออกมาอย่างแปลกประหลาด “ข้าล่ะสงสัยจริงๆ ว่ามันจะมีวิชาดาบที่เหนือล้ำฟ้าดินสักแค่ไหน!”

ชั่วโมงต่อมาก็ปรากฏสองเงาร่างเดินพุ่งตัวออกมาจากเมืองและมาถึงหน้าเย่หยวน!

คนทั้งสองย่อมจะเป็นฉินหูและโมซีนั้นแล้ว!

คนทั้งสองนี้หนึ่งหน้าหนึ่งหลังหยุดลงปิดทางหนีของเย่หยวน

ฉินหูนั้นมองดูเย่หยวนพร้อมหัวเราะลั่น “เด็กน้อย เจ้าช่างรักษาสัญญาเสียจริงๆ ถึงกับรอความตายอยู่ที่นี่! ฮ่าๆๆ…”

…………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2340 เย่หยวนผู้รักษาคำพูด

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2340 เย่หยวนผู้รักษาคำพูด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เงาร่างมังกรฟ้านั้นมันมองดูพื้นดินจากที่สูงล้ำราวกับว่ากำลังแสดงความเหยียดหยามต่อผู้คนทั้งโลก

มันเป็นเหมือนดั่งกับว่าโลกหล้าทั้งหมดตรงหน้านี้เป็นของเขาแค่ผู้เดียว!

เมื่อเท้านั้นถูกย่ำลงคนทั้งโลกก็ต้องตื่นตะลึง!

ตูม!

การย่ำครั้งนี้มันทำให้เกิดแผ่นดินไหวสั่นสะท้านจนถึงห้วงมิติ

พลังของคนทั้งสองนี้แข็งแกร่งจนเกินบรรยายจริงๆ

การปะทะครั้งนี้ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบ!

ฉินหูนั้นมีกำลังฝีมือที่แข็งแกร่งเหนือล้ำ ทักษะเทวะภายในของเย่หยวนก็แข็งแกร่งสุดล้ำแม้ในเผ่ามังกร ถึงจะเป็นพลังระดับนั้นก็ยังทำได้แค่เสมอ

กำลังของเด็กชะตาไร้คาดเดานั้นมันได้แสดงออกมาอย่างถึงที่สุดในรูปของฉินหูนี้

แต่จะอย่างไรที่คนทั้งหลายตกตะลึงก็ยังเป็นทางเย่หยวน

เหตุผลนั้นมันง่ายดาย เพราะฉินหูแพ้!

จักรพรรดิเทพสวรรค์สองดาวอย่างเย่หยวนนั้นกลับต่อสู้เสมอได้กับจักรพรรดิเทพสวรรค์สี่ดาวอย่างฉินหู!

แค่นี้มันก็นับว่าเป็นความพ่ายแพ้ย่อยยับแล้ว

“ทักษะเทวะภายในนั้นมันน่ากลัวเสียจริง! ในระดับเดียวกันแล้วใครจะยังเทียบเคียงเขาได้เล่า?”

“นี่มันคือทักษะเทวะภายในประเภทมิติ มันคือสุดยอดของที่สุดในหมู่ทักษะเทวะภายในทั้งหลาย! ดูท่าแล้วเขาผู้นี้คงเป็นสุดยอดตัวตนในเผ่ามังกรแน่นอน!”

“ฉินหูนั้นกล่าวประกาศว่าจะฆ่าจนกว่าเจ้าเด็กคนนี้ไม่กล้าออกเมือง ดูสภาพตอนนี้สิ น่าขันนัก!”

“ดูจากเรื่องนี้แล้วเจ้าเด็กใหม่คนนี้มันคงมีฝีมือถึงระดับแปดพันได้ง่ายๆ!”

ระหว่างที่คนทั้งหลายกำลังชื่นชมกันนั้นตัวฉินหูก็ต้องกระอักเลือดออกมาจากแรงปะทะเมื่อสักครู่พร้อมลอยลิ่วปลิวออกไป

ภายใต้การเสมอของคนทั้งสองนั้น สุดท้ายมันก็ยังเป็นฉินหูที่แพ้!

เพราะการปะทะกันด้วยไม้ตายเช่นนี้มันย่อมจะสร้างภาระให้แก่ร่างต้นของนักยุทธเป็นทุนเดิม

ก็จริงที่ว่าฉินหูนั้นเก่งกาจ แต่มีหรือที่เขาจะเก่งไปกว่าร่างกายของเย่หยวน?

ภายใต้สถานการณ์ที่พลังไม่ได้ห่างชั้นกันมากมายนั้น นักยุทธผู้บ่มเพาะร่างกายย่อมจะได้เปรียบเอาชนะได้เสมอ!

เมื่อเย่หยวนได้เปรียบจากเรื่องครั้งนี้เขาก็พุ่งตัวเข้าไปโจมตีซ้ำทันทีอย่างไม่รอช้า

ฉินหูนั้นเพิ่งได้รับบาดเจ็บมายังไม่ทันตั้งตัว มีหรือที่จะต้านทานการโจมตีทั้งหลายนั้นได้? ในไม่กี่กระบวนท่าเขาก็ต้องลงไปกองนอนรอความตาย

ทุกผู้คนที่ได้เห็นภาพนั้นต่างขนลุกชันไปทั้งกาย การลงมือนี้มันหนักหน่วงอย่างดุร้ายที่สุด

แต่ในมิติสงครามดึกดำบรรพ์นี้ทุกผู้คนอยู่เพื่อแต้มเทพสงคราม ไม่ดุร้ายมันก็คงจะไม่ได้

“หึๆ ขอบคุณสำหรับแต้มเทพสงครามนี้มาก!” เย่หยวนก้มลงเย้ยหยันฉินหูที่นอนรอความตายบนพื้น

ฉินหูจึงร้องกลับมาด้วยแรงเฮือกสุดท้าย “เด็กน้อย หากเจ้าเก่งจริงก็อย่าได้หนีไปไหน! หลังจากข้าฟื้นแล้วข้าจะกลับมาจัดการเจ้าเอง!”

เขานั้นแพ้แต่ยังไม่ยอมรับ!

เขานั้นไม่ได้อ่อนแอกว่าเย่หยวนมากมาย แต่เย่หยวนนั้นใช้ความได้เปรียบของร่างกายที่บ่มเพาะมาหนักหน่วงเอาชนะเขาไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเรื่องแต้มเทพสงคราม เพราะหากเขาตายลงแก่เย่หยวนแล้วมันคงต้องเสียอย่างมากล้น

เขานั้นไม่อาจจะรับการดูถูกนี้ไว้ได้!

เย่หยวนยิ้มรับขึ้นในใจ พอใจกับสีหน้าท่าทางนี้ของฉินหูอย่างมาก

เพราะตราบที่เขาใช้ค่ายกลดาบออกมา ฉินหูใดๆ คงได้กลายเป็นเนื้อบดในพริบตา

การผสานสี่แนวคิดนั้นมันแข็งแกร่งจริง

แต่ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนมันก็คงไม่มีทางเทียบเคียงกับสองพลังต้นกำเนิดเต๋าได้!

แต่ทำไมเย่หยวนถึงไม่คิดลงมือเด็ดขาดและค่อยๆ ปะทะกับฉินหูให้ดูเหมือนศึกเฉียดเป็นเฉียดตาย?

ที่เย่หยวนทำเช่นนั้นก็เพื่อทำให้ฉินหูไม่คิดยอมรับความพ่ายแพ้!

เพื่อที่ฉินหูจะได้กลับมาหาเรื่องแก้แค้นอีก!

ทำเช่นนั้นเขาก็จะได้แย่งชิงแต้มเทพสงครามได้อย่างต่อเนื่อง

อีกฝ่ายนั้นบอกว่าจะสังหารเขาจนไม่กล้าออกเมืองมิใช่หรือ?

‘เช่นนั้นข้าก็จะสังหารเจ้าจนไม่กล้าออกไปไหนเอง!’

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเย่หยวนรู้ดีว่าครั้งต่อไปตัวฉินหูคงไม่ได้ออกมาคนเดียว เขาต้องหาผู้ช่วยมากแน่นอน

ถึงเวลานั้นแล้ว หึๆ!

สภาพของเย่หยวนในเวลานี้กำลังนึกถึงกองภูเขาแต้มเทพสงครามที่จะมากองอยู่ตรงหน้า

“ได้สิ ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่!” เย่หยวนกล่าวรับ

พูดจบเขาก็ยกหมัดขึ้นส่งฉินหูกลับไปจุดเกิด

เวลานั้นมันก็มีอักษรมากหลายพุ่งผ่านเข้ามาในร่างของเย่หยวนจนทำให้เย่หยวนต้องเบิกตากว้าง

มันเป็นแต้มเทพสงครามที่มากมายนัก!

เพราะว่าเย่หยวนนั้นอยู่ในอับดับรั้งท้าย แต่ฉินหูนั้นอยู่ในอันดับราวๆ เจ็ดพัน

ความแตกต่างนี้มันทำให้เย่หยวนได้รับแต้มเทพสงครามของอีกฝ่ายถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์เมื่อสังหารเขาลง!

เวลานี้เย่หยวนนั้นมีแต้มติดตามมากถึงหนึ่งพันสี่ร้อยแปดสิบแต้ม!

พร้อมๆ กันนั้นเขาก็ก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับแปดพันเก้าร้อยสี่สิบเอ็ด

แม้แต่เย่หยวนเองก็ยังตกตะลึงกับเรื่องตรงหน้านี้

“หึๆ สุดยอดจริง!” เย่หยวนกล่าว

กลายเป็นเศรษฐีในพริบตา!

เมื่อได้เห็นสีหน้าของเย่หยวนนั้นคนทั้งหลายต่างก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมาจับใจ

พวกเขานั้นรู้ดีว่าเย่หยวนคงได้แต้มเทพสงครามมามากมายแน่แล้ว!

ในมิติสงครามดึกดำบรรพ์นี้ยิ่งสังหารศัตรูที่แข็งแกร่งมากเท่าใด มันก็จะยิ่งทำให้ได้แต้มเทพสงครามมากขึ้นเท่านั้น

แต่ร้อยปีมานี้อับดับตำแหน่งมันแทบจะหยุดนิ่งอยู่กับที่

มีแต่คนโง่เง่าเท่านั้นที่จะไปท้าทายผู้มีอันดับสูงเหนือหัวตนไปนับพันๆ อันดับ!

แต่การที่เย่หยวนสังหารฉินหูลงนี้มันเหมือนเป็นการดึงเอาเขี้ยวออกมาจากปากเสือ

หลังจากนั้นเย่หยวนก็นั่งลงขัดสมาธิกับพื้นและรอคอยให้ฉินหูกลับออกมาจริงๆ ทำให้หลายต่อหลายคนต้องเบิกตากว้าง

เจ้าเด็กคนนี้มันโง่หรือ?

หรือว่าเขาคิดจริงว่าฉินหูจะกลับมาต่อสู้ตัวต่อตัวด้วยอีกครั้ง?

“เจ้าหนุ่ม รีบๆ กลับเข้าเมืองเถอะ! ฉินหูนั้นมันมีสหายรักอยู่คนหนึ่งนามโมซี กำลังของเขาผู้นั้นเก่งกาจกว่าฉินหูไปขั้นหนึ่ง! หากเจ้ายังอยู่ที่นี่มันจะมีแต่ตายกับตายแล้ว!” นักยุทธใจดีผู้หนึ่งเดินเข้ามากล่าวเตือนเย่หยวน

“ใช่แล้ว เจ้านั้นอย่าได้โลภมากไป! รออยู่ในที่นี้มันมีแต่จะตายกับตายเท่านั้น!”

เย่หยวนหันกลับไปมองคนทั้งสองนั้นด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณพี่ท่านที่เตือน แต่เย่ผู้นี้บอกไปแล้วว่าจะรอมัน ข้าจะไม่มีทางกลับคำของตน จะนั่งรอมันอยู่ตรงนี้จนกว่ามันจะออกมาอีกครา!”

เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นว่าเย่หยวนไม่คิดฟังเช่นนั้น พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวออกมาตามๆ กัน

เจ้าเด็กคนนี้มันหลงตัวเองจนเกินไป!

ต่อให้จะเก่งแค่ไหนมันก็ไร้ค่าหากเป็นคนโง่!

เว้นเสียแต่ว่าเวลานี้หยางเคอที่อยู่ในกลุ่มคนไม่ได้คิดเช่นนั้น

“ข้าล่ะไม่นึกจริงๆ ว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะเก่งกาจได้ปานนี้! แต่จะอย่างไร หึๆ มันก็โง่ กลับคิดนั่งรอให้ฉินหูกลับมาเช่นนี้จริงๆ!” เผิงหยางกล่าว

แต่หยาวเคอนั้นกลับขมวดคิ้วแน่นตอบกลับไป “พวกเจ้าไม่คิดว่ามันแปลกหรือ?”

ทุกผู้คนที่ได้ยินต่างหันกลับมามองอย่างไม่เข้าใจความหมาย

“มันแปลกใดเล่า? เจ้าเด็กคนนี้มันเทียบเคียบฝีมือได้กับฉินหู แต่หากมีโมซีร่วมด้วยแล้วมันย่อมจะตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่!”

“ใช่แล้ว มันมีกายเนื้อที่แข็งแกร่งล้ำ แต่ฉินหูเองก็มีฝีมือไม่ได้อ่อนแอ! หากมันยังไม่ไปตอนนี้มันก็คงเท่ากับรนหาที่ตายแล้ว!”

แต่หยางเคอยังคงขมวดคิ้วแน่นส่ายหัวออกมา “ข้านั้นได้ยินมาว่ามันใช้แต้มเทพสงครามที่ได้จากเราไปซื้อดาบมา! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือมันซื้อดาบนับพันๆ เล่ม! แต่เจ้าได้เห็นมันชักดาบออกมาใช้สักเล่มหรือยัง?”

คนส่วนใหญ่นั้นลืมเรื่องนี้ไปสนิท!

มันมิใช่ว่าพวกเขาจงใจลืม แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเย่หยวนนั้น คนทั้งหลายจึงคิดไปว่านี่คือกำลังที่แท้จริงของเย่หยวนแล้ว

พวกเขาทั้งหลายคิดไปเสียว่าไม้ตายของเย่หยวนนั้นก็คือวรยุทธต่อสู้มือเปล่าและกายทองคำสัมบูรณ์ระดับแปดนั้น!

เย่หยวนนั้นใช้กายทองคำสัมบูรณ์เอาชนะฉินหูผู้ผสานสี่แนวคิดมาได้ แค่นี้มันก็เหนือล้ำเกินกว่าจะทำใจเชื่อลงแล้ว

แล้วเขาจะยังมีไม้ตายอื่นที่เหนือล้ำกว่านี้ไปได้?

แต่หยางเคอนั้นกำลังติดใจสงสัยในเรื่องนั้น!

เขานั้นไม่ทราบได้ว่าดาบของเย่หยวนเหนือล้ำปานใด แต่ในมิติสงครามดึกดำบรรพ์นี้จะมีใครโง่พอเอาแต้มเทพสงครามไปใช้กับสิ่งที่ไม่มีประโยชน์!

พวกหยางเคอนั้นอดไม่ได้ที่จะเงียบปากลงเมื่อรับรู้ถึงเรื่องราว

แต่หยางเคอนั้นกลับยิ้มออกมาอย่างแปลกประหลาด “ข้าล่ะสงสัยจริงๆ ว่ามันจะมีวิชาดาบที่เหนือล้ำฟ้าดินสักแค่ไหน!”

ชั่วโมงต่อมาก็ปรากฏสองเงาร่างเดินพุ่งตัวออกมาจากเมืองและมาถึงหน้าเย่หยวน!

คนทั้งสองย่อมจะเป็นฉินหูและโมซีนั้นแล้ว!

คนทั้งสองนี้หนึ่งหน้าหนึ่งหลังหยุดลงปิดทางหนีของเย่หยวน

ฉินหูนั้นมองดูเย่หยวนพร้อมหัวเราะลั่น “เด็กน้อย เจ้าช่างรักษาสัญญาเสียจริงๆ ถึงกับรอความตายอยู่ที่นี่! ฮ่าๆๆ…”

…………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+