Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2105 กิเลนฟ้ากลืนมิติ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2105 กิเลนฟ้ากลืนมิติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนนี้มันมิใช่แค่ชายหนุ่มผมแดงคนนั้น แต่ทุกผู้คนในที่นี้ต่างมองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง

พลังสายเลือดของอสูรนั้นมันถูกสร้างขึ้นได้ แน่นอนว่ามันไม่แปลกใด ๆ ที่มนุษย์จะมีพลังของสายเลือดเผ่าอสูร

แต่ไม่ว่ามันจะถูกสร้างขึ้นอย่างไร มันก็ย่อมจะไม่เหนือล้ำไปกว่าสายเลือดแท้

แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับใช้สายเลือดกิเลนออกมาอย่างเหนือล้ำกว่าอีกฝ่าย มีหรือที่พวกเขาจะไม่ตื่นตะลึง?

เย่หยวนยิ้มตอบกลับมา “แข็งแกร่งกว่าเจ้าแล้วมันแปลกมากหรือ?”

ที่ด้านข้างนั้นลุงโหยวจึงได้หัวเราะร้องขึ้น “หึ! ขโมยสายเลือดกิเลนเรา สมควรตายหมื่นชาติ! ฉีหยุน อย่าได้ออมมืออีก สังหารมัน!”

ฉีหยุนจึงพยักหน้าตอบกลับด้วยท่าทางหนักแน่น “ไม่นึกเลยว่าเดินทางออกมาครั้งนี้ข้าจะได้พบเจอคนที่ไม่กลัวตายเช่นนี้ ถึงกับกล้าขโมยพลังสายเลือดกิเลนเรา ช่างเถอะ หากเป็นเช่นนั้นข้าก็จะส่งเจ้าลงนรกให้เอง!”

พูดจบทางฉีหยุนก็ได้ประกบสองมือเข้าด้วยกันก่อนจะส่งประกายไฟขึ้นฟ้า

นั่นมันทำให้เกิดคลื่นพลังลึกลับสะท้านฟ้าดินทันที

ที่ด้านหลังฉีหยุนในเวลานี้มันเกิดร่างยักษ์ใหญ่ของสัตว์อสูรขึ้น

ร่างอสูรยักษ์ใหญ่นั้นค่อย ๆ อ้าปากกว้างราวกับว่ามันกำลังจะกลืนกินฟ้าดินลงไป

และแน่นอนว่าร่างอสูรนี้มันย่อมจะเป็นเงาร่างสัตว์เทวะของกิเลน

“นี่มัน…นี่มันทักษะเทวะภายในของเผ่ากิเลน กิเลนฟ้ากลืนมิติ!”

“ว่ากันว่าเมื่อมันถูกปล่อยออกมาแม้แต่มิติก็ยังจะถูกกลืนกิน! มันมีพลังที่ไม่อาจคาดเดาได้!”

“การที่จะสามารถใช้กิเลนฟ้ากลืนมิติออกมาได้เช่นนี้ เจ้าหนุ่มผมแดงคนนี้เองก็คงมีศักดิ์ในเผ่ากิเลนไม่น้อยแน่ ๆ!”

เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังอันน่าหวาดกลัวของกิเลนฟ้ากลืนมิติคนทั้งหลายก็ต้องร่ำร้องขึ้นมาตาม ๆ กัน

แม้ว่าเผ่าอสูรอย่างเผ่ากิเลนนั้นจะเก็บตัวไม่ออกสู่โลกภายนอกมากมายแต่ตำนานของพวกเขามันก็ยังคงถือเล่าลือไปทั่วหล้า

และเจ้ากิเลนฟ้ากลืนมิตินี่เองที่เป็นวิชาในตำนานของเผ่ากิเลน

หลังจากที่เผ่าอสูรบ่มเพาะไปได้จนถึงระดับหนึ่งแล้วพวกเขาก็อาจจะปลุกทักษะเทวะภายในของเผ่าตนออกมาได้

เพียงแค่ว่ากับสัตว์เทวะในตำนานอย่างกิเลนแล้ว ทักษะเทวะภายในมันย่อมจะเป็นสิ่งที่รุนแรงเหนือล้ำ

ในด้านของพลังฝีมือ ฉีหยุนคนนี้อาจจะเก่งกาจไม่เท่าเฟิงเทียนหยาง แต่เมื่อใช้กิเลนฟ้ากลืนมิตินี้ออกมามันก็ย่อมจะเหนือล้ำกว่าเฟิงเทียนหยางไปได้มาก

การปลุกทักษะเทวะภายในนี้ขึ้นมามันย่อมจะไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับแนวคิด เพราะมันเกี่ยวข้องกับยอดเต๋าโดยตรง

หรือก็คือมันเป็นพลังจากสวรรค์อย่างแท้จริง!

และพลังเช่นนี้เองที่ทำให้เผ่าอสูรยังคงยืนหยัดไม่พ่ายแพ้ให้แก่มนุษย์

เมื่อได้เห็นกิเลนฟ้ากลืนมิตินี้ผู้คนทั้งหลายก็ย่อมจะหันไปมองเย่หยวนด้วยสายตาสงสาร

พวกเขารู้ว่าการใช้พลังสายเลือดออกมามันกลับกลายเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวงของเย่หยวนแล้ว

ฉีหยุนมองดูลงมาจากท้องฟ้าสูง มองดูเย่หยวนด้วยสายตาดูถูกเต็มที่ “ต่อให้จะขโมยเลือดกิเลนไปแล้วทำไมเล่า? มีหรือที่เผ่ากิเลนเราจะอ่อนแอจนเจ้าเลียนแบบได้? เมื่อใดก็ตามที่กิเลนฟ้ากลืนมิตินี้ถูกปล่อยออกไป ต่อให้เป็นห้วงมิติก็คงไม่อาจหลบหนีไปพ้น เจ้า…ไปตายอย่างสบายใจเสียเถอะ!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับมา “กิเลนฟ้ากลืนมิติหรือ? โชคดีจริง ๆ ที่ข้าเองก็เพิ่มปลุกมันขึ้นมาได้”

“เจ้า? กิเลนฟ้ากลืนมิติ? ฮ่า ๆ ๆ… หา?”

เมื่อฉีหยุนได้ยินคำของเย่หยวนแน่นอนว่าเขาย่อมจะหัวเราะเย้ย แต่ยังหัวเราะได้ไม่ถึงสามคำเขาก็ต้องเงียบปากลงทันที

เพราะในเวลานี้ทางด้านเย่หยวนก็ได้ปล่อยคลื่นพลังลึกลับออกมาเช่นกัน!

และคลื่นพลังนี้มันกลับเหมือนพลังของเขาไม่มีผิด!

กิเลนฟ้ากลืนมิติ!

ที่ด้านหลังเย่หยวนมันได้เกิดเงาร่างของกิเลนยักษ์ขึ้นมาเหมือนกับตัวเขา

กิเลนทั้งสองอ้าปากจ้องหน้ากันอย่างไม่มีฝ่ายไหนคิดยอม

นั่นทำให้ผู้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างไม่มีใครกล้าพูดกว่า ได้แต่มองดูเงาร่างของกิเลนยักษ์ทั้งสองบนท้องฟ้า

ลุงโหยวคนนั้นกล่าวขึ้นด้วยความตื่นตะลึงเต็มใบหน้า “เป็นไปได้อย่างไร!? เจ้ามนุษย์คนนี้กลับมีสายเลือดกิเลนที่หนักแน่นจนปลุกทักษะเทวะภายในขึ้นมาได้?”

เย่หยวนชี้นิ้วออกมาพร้อมกล่าวขึ้น “กิเลนฟ้ากลืนมิติ กลืนกินมันเสีย!”

ฉีหยุนที่ได้ยินก็กัดฟันแน่นขึ้นมาตาม “เจ้ามีกิเลนฟ้ากลืนมิติแล้วจะทำไม? ไปสังหารมัน!”

ตูม!

กิเลนทั้งสองเข้าปะทะกับอย่างบ้าคลั่งบนท้องฟ้า..Aileen-novel

ตอนนี้ท้องฟ้าของเมืองมันค่อย ๆ มืดดับลงเพราะพลังงานมากมายมหาศาลที่ถูกกลืนกินลงไป จนในที่สุดร่างของพวกเย่หยวนทั้งสองคนมันก็ได้ถูกความมืดมิดนั้นกลืนกินไปสิ้น

ในพริบตาเดียวคลื่นพลังมหาศาลนั้นมันก็ได้พุ่งทะยานไปทั่วทั้งเมืองจนทำให้ยอดฝีมือทั้งหลายตื่นตระหนก

“นี่มันทักษะเทวะภายในของเผ่ากิเลน? แข็งแกร่งสมชื่อจริง ๆ!”

“ต่อให้จะเป็นการปะทะของระดับหกขั้นสุดมันก็คงไม่น่าจะรุนแรงได้ปานนี้ใช่ไหม? พลังนี้มันจะน่าเกรงกลัวเกินไปแล้ว!”

“เพียงแค่ว่าฝ่ายไหนจะชนะกัน? ข้าเดาไม่ออกจริง ๆ!”

เมื่อเหล่านักยุทธทั้งหลายได้เห็นเหตุการณ์พวกเขาก็ย่อมจะวิเคราะห์พูดกันไปต่าง ๆ นา ๆ จนในที่สุดมันก็มีเงาร่างหนึ่งร่วงลงมาจากท้องฟ้าจนทำให้ลุงโหยวหน้าถอดสี

เพราะคนที่ร่วงลงมานั้นมันคือฉีหยุน

สภาพของฉีหยุนเวลานี้ได้หมดสติลงพร้อมบาดแผลทั่วร่าง ราวกับว่าเขานั้นถูกอะไรบดขยี้มา

ดูแค่นี้มันก็รู้ได้ทันทีว่าแผลของเขานั้นสาหัสเอาการ

หลังจากนั้นมันก็ได้มีเงาร่างหนึ่งเดินออกมาตามอย่างสง่างาม แน่นอนว่าย่อมจะเป็นเย่หยวน

เมื่อได้เห็นเช่นนั้นเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต่างก็ได้แต่ต้องเบิกตากว้าง

มันเป็นเรื่องอะไรกัน?

กิเลนฟ้ากลืนมิติปลอมนั้นกลับเอาชนะกิเลนฟ้ากลืนมิติจริงลงได้?

เจ้ามนุษย์คนนี้มันจะแข็งแกร่งอะไรปานนั้น?

ลุงโหยวคนนั้นจึงได้ร้องขึ้นอย่างดุดัน “เด็กน้อย เจ้ากล้าทำร้ายฉีหยุน เจ้าตายแน่!”

เย่หยวนจึงหันไปมองที่ชายคนนั้นพร้อมหัวเราะเย้ย “ข้าก็บอกไปแล้วว่าจะสั่งสอนมันแทนพอแม่ผู้ใหญ่ในบ้านให้ สมบัติธรรมชาตินั้นมันเป็นสิ่งที่ใครมีชะตาก็ได้มันไป เรื่องนี้มันเป็นสิ่งปกติใจมหาพิภพถงเทียน ข้านั้นผ่านความยากลำบากมากมายจนเกือบตายกว่าจะได้สมบัติกิเลนชิ้นนี้มา แต่เจ้ากลับจะเอามันไปเพราะพูดคำเดียวนั้น? ทั้งยังจะให้ข้าขอโทษยอมรับผิด? มันใช้ตรรกะประเภทใดกัน?”

ลุงโหยวนั้นตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “เผ่ากิเลนข้านี่แหละคือตรรกะ เทพสวรรค์ผู้นี้จะส่งเจ้าลงนรกเอง!”

พูดจบลุงโหยวคนนั้นก็พุ่งกายออกมาพร้อมหมัดหนักหน่วง

แต่แน่นอนว่ากู้หงย่อมจะไม่ปล่อยให้เรื่องราวเกิดขึ้นตามที่เขาต้องการและพุ่งตัวเข้าไปขวางหมัดนั้นทันที

กู้หงนั้นมีพลังบ่มเพาะที่เหนือกว่าทางลุงโหยวคนนี้ เพียงแค่ว่าพลังของเผ่ากิเลนนั้นมันทำให้ลุงโหยวคนนี้มีฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่าทางกู้หงเลย

ลุงโหยวร้องออกมาด้วยใบหน้าเคียดแค้น “เด็กน้อย หากวันนี้เจ้าไม่ชดใช้มาก็อย่าหวังว่าจะไปไหนได้เลย!”

เย่หยวนจึงได้ตอบกลับไป “ด้วยแค่เจ้านี้?”

ในเวลานั้นเองมันก็ได้ปรากฏเงาร่างอีกเงาหนึ่งขึ้นบนท้องฟ้าหันมามองดูเย่หยวนพร้อมกล่าว “มันทำไม่ได้ แล้วข้าเล่า?”

คนที่ออกมานี้เป็นชายแก่มีคลื่นพลังหนักหน่วง ดูท่าแล้วคงเป็นถึงเทพสวรรค์ขั้นปลายเป็นแน่

เมื่อลุงโหยวคนนั้นเห็นผู้มาถึงนั้นเขาก็ยิ้มร่าขึ้นทันทีก่อนจะรีบพูด “ฉีโหยวคารวะท่านเฉิน! ไอ้เจ้าเด็กคนนี้…”

ฉีเฉินพูดขัดฉีโหยวขึ้นพร้อมยกมือโบกปัด “เทพสวรรค์ผู้นี้รู้แล้ว”

เขานั้นหันไปมองเย่หยวนพร้อมกล่าวขึ้น “เด็กน้อย ส่งสมบัติเผ่ากิเลนออกมา จากนั้นก็ฆ่าตัวตายเสีย แล้วเฒ่าคนนี้จะไม่ทำให้เจ้าทรมาน”

เย่หยวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเมื่อได้ยิน “ดูท่าเผ่ากิเลนพวกเจ้านี้มันจะมีคนเฒ่าคนแก่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่ลูกหลาน พวกมันจึงได้ทำตามอย่างไม่ลดละ! น่าละอายจริง ๆ แต่ข้าก็จะขอยืนยันคำเติม สมบัติอยู่กับข้านี้ มีปัญญาก็เข้ามาเอาไป”

ฉีเฉินจึงหรี่ตามองด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก “เด็กน้อย เจ้าจะใจดีเกินไปแล้ว หากเป็นเช่นนั้นเทพสวรรค์ผู้นี้ก็จะไม่ขอเกรงใจ”

กู้หงที่ได้ยินถึงกับต้องหน้าถอดสีทันที เขาคิดจะพุ่งตัวเข้ามาป้องกันเย่หยวนแต่กลับได้ยินเสียงห้ามของเย่หยวนขึ้นมาก่อน “ไม่เป็นไร ให้มันมา”

กู้หงที่ได้ยินก็ต้องผงะไปทันที แต่สุดท้ายเขาก็ได้แต่ทำตามสั่ง

คลื่นพลังหนักหน่วงนั้นจับจ้องที่เย่หยวน ฉีเฉินผู้นี้มีพลังสมเป็นเทพสวรรค์ขั้นปลายจริง ๆ

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายในเมืองนั้นต่างหันไปมองเย่หยวนอย่างมึงงง ราวกับว่าเขาคนนี้เสียสติไปแล้ว

พวกเขาทั้งหลายย่อมจะไม่เข้าใจว่าเย่หยวนไปเอาความมั่นใจใด ๆ มาจากไหน

หรือว่าแค่เขามีกิเลนฟ้ากลืนมิติเขาก็จะเก่งกาจเหนือฟ้าดินได้แล้ว?

เย่หยวนยืนมือไพล่หลังรออยู่ตรงนั้นโดยไม่มีท่าทางคิดจะตอบโต้หรือขยับหลบใด ๆ เพราะเขานั้นแค่อยากจะเห็นว่าเฒ่าพวกนั้นมันจะคิดทำอย่างไรต่อไป

…………………………

ตอนต่อไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2105 กิเลนฟ้ากลืนมิติ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2105 กิเลนฟ้ากลืนมิติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนนี้มันมิใช่แค่ชายหนุ่มผมแดงคนนั้น แต่ทุกผู้คนในที่นี้ต่างมองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง

พลังสายเลือดของอสูรนั้นมันถูกสร้างขึ้นได้ แน่นอนว่ามันไม่แปลกใด ๆ ที่มนุษย์จะมีพลังของสายเลือดเผ่าอสูร

แต่ไม่ว่ามันจะถูกสร้างขึ้นอย่างไร มันก็ย่อมจะไม่เหนือล้ำไปกว่าสายเลือดแท้

แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับใช้สายเลือดกิเลนออกมาอย่างเหนือล้ำกว่าอีกฝ่าย มีหรือที่พวกเขาจะไม่ตื่นตะลึง?

เย่หยวนยิ้มตอบกลับมา “แข็งแกร่งกว่าเจ้าแล้วมันแปลกมากหรือ?”

ที่ด้านข้างนั้นลุงโหยวจึงได้หัวเราะร้องขึ้น “หึ! ขโมยสายเลือดกิเลนเรา สมควรตายหมื่นชาติ! ฉีหยุน อย่าได้ออมมืออีก สังหารมัน!”

ฉีหยุนจึงพยักหน้าตอบกลับด้วยท่าทางหนักแน่น “ไม่นึกเลยว่าเดินทางออกมาครั้งนี้ข้าจะได้พบเจอคนที่ไม่กลัวตายเช่นนี้ ถึงกับกล้าขโมยพลังสายเลือดกิเลนเรา ช่างเถอะ หากเป็นเช่นนั้นข้าก็จะส่งเจ้าลงนรกให้เอง!”

พูดจบทางฉีหยุนก็ได้ประกบสองมือเข้าด้วยกันก่อนจะส่งประกายไฟขึ้นฟ้า

นั่นมันทำให้เกิดคลื่นพลังลึกลับสะท้านฟ้าดินทันที

ที่ด้านหลังฉีหยุนในเวลานี้มันเกิดร่างยักษ์ใหญ่ของสัตว์อสูรขึ้น

ร่างอสูรยักษ์ใหญ่นั้นค่อย ๆ อ้าปากกว้างราวกับว่ามันกำลังจะกลืนกินฟ้าดินลงไป

และแน่นอนว่าร่างอสูรนี้มันย่อมจะเป็นเงาร่างสัตว์เทวะของกิเลน

“นี่มัน…นี่มันทักษะเทวะภายในของเผ่ากิเลน กิเลนฟ้ากลืนมิติ!”

“ว่ากันว่าเมื่อมันถูกปล่อยออกมาแม้แต่มิติก็ยังจะถูกกลืนกิน! มันมีพลังที่ไม่อาจคาดเดาได้!”

“การที่จะสามารถใช้กิเลนฟ้ากลืนมิติออกมาได้เช่นนี้ เจ้าหนุ่มผมแดงคนนี้เองก็คงมีศักดิ์ในเผ่ากิเลนไม่น้อยแน่ ๆ!”

เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังอันน่าหวาดกลัวของกิเลนฟ้ากลืนมิติคนทั้งหลายก็ต้องร่ำร้องขึ้นมาตาม ๆ กัน

แม้ว่าเผ่าอสูรอย่างเผ่ากิเลนนั้นจะเก็บตัวไม่ออกสู่โลกภายนอกมากมายแต่ตำนานของพวกเขามันก็ยังคงถือเล่าลือไปทั่วหล้า

และเจ้ากิเลนฟ้ากลืนมิตินี่เองที่เป็นวิชาในตำนานของเผ่ากิเลน

หลังจากที่เผ่าอสูรบ่มเพาะไปได้จนถึงระดับหนึ่งแล้วพวกเขาก็อาจจะปลุกทักษะเทวะภายในของเผ่าตนออกมาได้

เพียงแค่ว่ากับสัตว์เทวะในตำนานอย่างกิเลนแล้ว ทักษะเทวะภายในมันย่อมจะเป็นสิ่งที่รุนแรงเหนือล้ำ

ในด้านของพลังฝีมือ ฉีหยุนคนนี้อาจจะเก่งกาจไม่เท่าเฟิงเทียนหยาง แต่เมื่อใช้กิเลนฟ้ากลืนมิตินี้ออกมามันก็ย่อมจะเหนือล้ำกว่าเฟิงเทียนหยางไปได้มาก

การปลุกทักษะเทวะภายในนี้ขึ้นมามันย่อมจะไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับแนวคิด เพราะมันเกี่ยวข้องกับยอดเต๋าโดยตรง

หรือก็คือมันเป็นพลังจากสวรรค์อย่างแท้จริง!

และพลังเช่นนี้เองที่ทำให้เผ่าอสูรยังคงยืนหยัดไม่พ่ายแพ้ให้แก่มนุษย์

เมื่อได้เห็นกิเลนฟ้ากลืนมิตินี้ผู้คนทั้งหลายก็ย่อมจะหันไปมองเย่หยวนด้วยสายตาสงสาร

พวกเขารู้ว่าการใช้พลังสายเลือดออกมามันกลับกลายเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวงของเย่หยวนแล้ว

ฉีหยุนมองดูลงมาจากท้องฟ้าสูง มองดูเย่หยวนด้วยสายตาดูถูกเต็มที่ “ต่อให้จะขโมยเลือดกิเลนไปแล้วทำไมเล่า? มีหรือที่เผ่ากิเลนเราจะอ่อนแอจนเจ้าเลียนแบบได้? เมื่อใดก็ตามที่กิเลนฟ้ากลืนมิตินี้ถูกปล่อยออกไป ต่อให้เป็นห้วงมิติก็คงไม่อาจหลบหนีไปพ้น เจ้า…ไปตายอย่างสบายใจเสียเถอะ!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับมา “กิเลนฟ้ากลืนมิติหรือ? โชคดีจริง ๆ ที่ข้าเองก็เพิ่มปลุกมันขึ้นมาได้”

“เจ้า? กิเลนฟ้ากลืนมิติ? ฮ่า ๆ ๆ… หา?”

เมื่อฉีหยุนได้ยินคำของเย่หยวนแน่นอนว่าเขาย่อมจะหัวเราะเย้ย แต่ยังหัวเราะได้ไม่ถึงสามคำเขาก็ต้องเงียบปากลงทันที

เพราะในเวลานี้ทางด้านเย่หยวนก็ได้ปล่อยคลื่นพลังลึกลับออกมาเช่นกัน!

และคลื่นพลังนี้มันกลับเหมือนพลังของเขาไม่มีผิด!

กิเลนฟ้ากลืนมิติ!

ที่ด้านหลังเย่หยวนมันได้เกิดเงาร่างของกิเลนยักษ์ขึ้นมาเหมือนกับตัวเขา

กิเลนทั้งสองอ้าปากจ้องหน้ากันอย่างไม่มีฝ่ายไหนคิดยอม

นั่นทำให้ผู้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างไม่มีใครกล้าพูดกว่า ได้แต่มองดูเงาร่างของกิเลนยักษ์ทั้งสองบนท้องฟ้า

ลุงโหยวคนนั้นกล่าวขึ้นด้วยความตื่นตะลึงเต็มใบหน้า “เป็นไปได้อย่างไร!? เจ้ามนุษย์คนนี้กลับมีสายเลือดกิเลนที่หนักแน่นจนปลุกทักษะเทวะภายในขึ้นมาได้?”

เย่หยวนชี้นิ้วออกมาพร้อมกล่าวขึ้น “กิเลนฟ้ากลืนมิติ กลืนกินมันเสีย!”

ฉีหยุนที่ได้ยินก็กัดฟันแน่นขึ้นมาตาม “เจ้ามีกิเลนฟ้ากลืนมิติแล้วจะทำไม? ไปสังหารมัน!”

ตูม!

กิเลนทั้งสองเข้าปะทะกับอย่างบ้าคลั่งบนท้องฟ้า..Aileen-novel

ตอนนี้ท้องฟ้าของเมืองมันค่อย ๆ มืดดับลงเพราะพลังงานมากมายมหาศาลที่ถูกกลืนกินลงไป จนในที่สุดร่างของพวกเย่หยวนทั้งสองคนมันก็ได้ถูกความมืดมิดนั้นกลืนกินไปสิ้น

ในพริบตาเดียวคลื่นพลังมหาศาลนั้นมันก็ได้พุ่งทะยานไปทั่วทั้งเมืองจนทำให้ยอดฝีมือทั้งหลายตื่นตระหนก

“นี่มันทักษะเทวะภายในของเผ่ากิเลน? แข็งแกร่งสมชื่อจริง ๆ!”

“ต่อให้จะเป็นการปะทะของระดับหกขั้นสุดมันก็คงไม่น่าจะรุนแรงได้ปานนี้ใช่ไหม? พลังนี้มันจะน่าเกรงกลัวเกินไปแล้ว!”

“เพียงแค่ว่าฝ่ายไหนจะชนะกัน? ข้าเดาไม่ออกจริง ๆ!”

เมื่อเหล่านักยุทธทั้งหลายได้เห็นเหตุการณ์พวกเขาก็ย่อมจะวิเคราะห์พูดกันไปต่าง ๆ นา ๆ จนในที่สุดมันก็มีเงาร่างหนึ่งร่วงลงมาจากท้องฟ้าจนทำให้ลุงโหยวหน้าถอดสี

เพราะคนที่ร่วงลงมานั้นมันคือฉีหยุน

สภาพของฉีหยุนเวลานี้ได้หมดสติลงพร้อมบาดแผลทั่วร่าง ราวกับว่าเขานั้นถูกอะไรบดขยี้มา

ดูแค่นี้มันก็รู้ได้ทันทีว่าแผลของเขานั้นสาหัสเอาการ

หลังจากนั้นมันก็ได้มีเงาร่างหนึ่งเดินออกมาตามอย่างสง่างาม แน่นอนว่าย่อมจะเป็นเย่หยวน

เมื่อได้เห็นเช่นนั้นเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต่างก็ได้แต่ต้องเบิกตากว้าง

มันเป็นเรื่องอะไรกัน?

กิเลนฟ้ากลืนมิติปลอมนั้นกลับเอาชนะกิเลนฟ้ากลืนมิติจริงลงได้?

เจ้ามนุษย์คนนี้มันจะแข็งแกร่งอะไรปานนั้น?

ลุงโหยวคนนั้นจึงได้ร้องขึ้นอย่างดุดัน “เด็กน้อย เจ้ากล้าทำร้ายฉีหยุน เจ้าตายแน่!”

เย่หยวนจึงหันไปมองที่ชายคนนั้นพร้อมหัวเราะเย้ย “ข้าก็บอกไปแล้วว่าจะสั่งสอนมันแทนพอแม่ผู้ใหญ่ในบ้านให้ สมบัติธรรมชาตินั้นมันเป็นสิ่งที่ใครมีชะตาก็ได้มันไป เรื่องนี้มันเป็นสิ่งปกติใจมหาพิภพถงเทียน ข้านั้นผ่านความยากลำบากมากมายจนเกือบตายกว่าจะได้สมบัติกิเลนชิ้นนี้มา แต่เจ้ากลับจะเอามันไปเพราะพูดคำเดียวนั้น? ทั้งยังจะให้ข้าขอโทษยอมรับผิด? มันใช้ตรรกะประเภทใดกัน?”

ลุงโหยวนั้นตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “เผ่ากิเลนข้านี่แหละคือตรรกะ เทพสวรรค์ผู้นี้จะส่งเจ้าลงนรกเอง!”

พูดจบลุงโหยวคนนั้นก็พุ่งกายออกมาพร้อมหมัดหนักหน่วง

แต่แน่นอนว่ากู้หงย่อมจะไม่ปล่อยให้เรื่องราวเกิดขึ้นตามที่เขาต้องการและพุ่งตัวเข้าไปขวางหมัดนั้นทันที

กู้หงนั้นมีพลังบ่มเพาะที่เหนือกว่าทางลุงโหยวคนนี้ เพียงแค่ว่าพลังของเผ่ากิเลนนั้นมันทำให้ลุงโหยวคนนี้มีฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่าทางกู้หงเลย

ลุงโหยวร้องออกมาด้วยใบหน้าเคียดแค้น “เด็กน้อย หากวันนี้เจ้าไม่ชดใช้มาก็อย่าหวังว่าจะไปไหนได้เลย!”

เย่หยวนจึงได้ตอบกลับไป “ด้วยแค่เจ้านี้?”

ในเวลานั้นเองมันก็ได้ปรากฏเงาร่างอีกเงาหนึ่งขึ้นบนท้องฟ้าหันมามองดูเย่หยวนพร้อมกล่าว “มันทำไม่ได้ แล้วข้าเล่า?”

คนที่ออกมานี้เป็นชายแก่มีคลื่นพลังหนักหน่วง ดูท่าแล้วคงเป็นถึงเทพสวรรค์ขั้นปลายเป็นแน่

เมื่อลุงโหยวคนนั้นเห็นผู้มาถึงนั้นเขาก็ยิ้มร่าขึ้นทันทีก่อนจะรีบพูด “ฉีโหยวคารวะท่านเฉิน! ไอ้เจ้าเด็กคนนี้…”

ฉีเฉินพูดขัดฉีโหยวขึ้นพร้อมยกมือโบกปัด “เทพสวรรค์ผู้นี้รู้แล้ว”

เขานั้นหันไปมองเย่หยวนพร้อมกล่าวขึ้น “เด็กน้อย ส่งสมบัติเผ่ากิเลนออกมา จากนั้นก็ฆ่าตัวตายเสีย แล้วเฒ่าคนนี้จะไม่ทำให้เจ้าทรมาน”

เย่หยวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเมื่อได้ยิน “ดูท่าเผ่ากิเลนพวกเจ้านี้มันจะมีคนเฒ่าคนแก่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่ลูกหลาน พวกมันจึงได้ทำตามอย่างไม่ลดละ! น่าละอายจริง ๆ แต่ข้าก็จะขอยืนยันคำเติม สมบัติอยู่กับข้านี้ มีปัญญาก็เข้ามาเอาไป”

ฉีเฉินจึงหรี่ตามองด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก “เด็กน้อย เจ้าจะใจดีเกินไปแล้ว หากเป็นเช่นนั้นเทพสวรรค์ผู้นี้ก็จะไม่ขอเกรงใจ”

กู้หงที่ได้ยินถึงกับต้องหน้าถอดสีทันที เขาคิดจะพุ่งตัวเข้ามาป้องกันเย่หยวนแต่กลับได้ยินเสียงห้ามของเย่หยวนขึ้นมาก่อน “ไม่เป็นไร ให้มันมา”

กู้หงที่ได้ยินก็ต้องผงะไปทันที แต่สุดท้ายเขาก็ได้แต่ทำตามสั่ง

คลื่นพลังหนักหน่วงนั้นจับจ้องที่เย่หยวน ฉีเฉินผู้นี้มีพลังสมเป็นเทพสวรรค์ขั้นปลายจริง ๆ

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายในเมืองนั้นต่างหันไปมองเย่หยวนอย่างมึงงง ราวกับว่าเขาคนนี้เสียสติไปแล้ว

พวกเขาทั้งหลายย่อมจะไม่เข้าใจว่าเย่หยวนไปเอาความมั่นใจใด ๆ มาจากไหน

หรือว่าแค่เขามีกิเลนฟ้ากลืนมิติเขาก็จะเก่งกาจเหนือฟ้าดินได้แล้ว?

เย่หยวนยืนมือไพล่หลังรออยู่ตรงนั้นโดยไม่มีท่าทางคิดจะตอบโต้หรือขยับหลบใด ๆ เพราะเขานั้นแค่อยากจะเห็นว่าเฒ่าพวกนั้นมันจะคิดทำอย่างไรต่อไป

…………………………

ตอนต่อไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+