Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2244 ข้ามีหนึ่งกระบวนดาบ เจ้ากล้ารับหรือไม่?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2244 ข้ามีหนึ่งกระบวนดาบ เจ้ากล้ารับหรือไม่? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แต่ทว่า เมื่อดาบนั้นของเจ้าสิ้นไปแล้ว เจ้าจะยังเอาอะไรมาต่อสู้กับข้าได้อีกเล่า?” เทียนเหอยิ้มเย้ยเย่หยวน

เย่หยวนนั้นผสานแนวคิดแห่งดาบเข้ากับแนวคิดแห่งห้วงมิติทำให้เกิดเป็นวิชาดาบที่ล้ำฟ้าดิน ใครได้เห็นก็ต้องขนลุกซ่าน

พลังการต่อสู้เช่นนี้มันจึงจะเหมาะสมกับคำว่าต่อต้านสวรรค์

เพราะฉะนั้นเทียนเหอจึงได้ยอมเสี่ยงเอาตัวเองเข้าอันตรายทำลายดาบของเย่หยวนนั้นทิ้งเสีย

นักดาบที่ไร้ดาบมันจะเป็นอะไรไปได้?

ดาบกระดูกนั้นมันเป็นสิ่งที่สำคัญกับเย่หยวนอย่างมากมายมหาศาล

ตั้งแต่ที่เขาเข้าไปในสนามรบเทพโบราณครานั้น เย่หยวนก็ได้ใช้ดาบกระดูกนี้เป็นดาบประจำกายมาเสมอ

ดาบนี้มันคือสิ่งของที่สืบทอดมาจากตำนาน เย่หยวนจึงใช้มันได้อย่างคล่องมือมาก

การแตกสลายของดาบนี้มันทำให้จิตใจเย่หยวนสั่นคลอนไม่น้อย ราวกับว่าเขาได้เสียสิ่งที่รักไปอย่างหนึ่ง

แต่ในวินาทีนั้นเขาก็ได้สัมผัสถึงเรื่องราวที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน!

ราวกับว่าเขากำลังจะเข้าใจอะไรบางอย่างได้

เย่หยวนนั้นมีจิตใจหนักแน่นสงบนิ่ง เขาจึงได้ตอบกลับไป “ไม่มีดาบ! ก็ใช้มือ!”

ฟุบ!

ในพริบตาต่อมาคลื่นพลังชีวิตของเย่หยวนพุ่งทะยานพร้อมพลังสายเลือดมังกรที่ถูกปล่อยกดทับฟ้าดิน

เทพมังกรเหยียบสวรรค์!

ฝ่ามือล้ำจักรวาล!

หัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์!

แต่ละหมัดของเย่หยวนนี้มันมีแต่จะเร็วขึ้นเร็วขึ้นจนทำให้เกิดเป็นภาพราวกับว่าตัวเย่หยวนมีแขนนับพัน

คลื่นพลังในเวลานี้มันทำให้จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง

ก่อนหน้านี้พวกเขายังคิดว่าเย่หยวนที่ไร้ดาบมันก็เหมือนดั่งเสือที่ไร้เขี้ยว

แต่เวลานี้พวกเขาได้พบแล้วว่าเมื่อเย่หยวนไม่มีดาบ จากเสือเขากลับกลายเป็นมังกรไปแทน!

มังกรที่ไร้ต้าน!

ภายใต้หมัดชุดนั้นตัวเทียนเหอแทบต้องกระอักเลือดออกมา

นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาคาดเดาผิดไป กำลังฝีมือของเย่หยวนนี้มันน่ากลัวจนถึงขั้นสุดที่ทำให้เผ่าเทวาของเขาต้องอับอาย

เมื่อถูกเย่หยวนกดดันเช่นนั้น ตัวเขาก็ย่อมจะไม่มีอะไรไปต่อต่านได้จึงได้แต่ต้องตั้งรับอย่างสุดตัว

ตอนที่รับธนูสาบานสังหารเทพก่อนหน้านี้แม้เขาจะป้องกันมันไว้ได้แต่มันก็ได้สร้างความบาดเจ็บไม่น้อยแก่ร่างกายของเขา

ไม่เช่นนั้นแล้วมีหรือที่เย่หยวนจะทำอะไรตัวเขานี้ได้?

ทั้งๆ อย่างนั้นเย่หยวนก็ยังมีวิชาการต่อสู้ที่ทำให้เขาไม่อาจจะต่อต้านได้แม้แต่น้อย

“เจ้าเด็กคนนี้มันกลับมีกายเนื้อถึงระดับสัมบูรณ์! สัตว์ประหลาดเช่นนี้มันไปเกิดขึ้นในเผ่ามนุษย์ได้อย่างไรกัน?”

แต่ละหมัดนั้นหนักหน่วงกว่าหมัดก่อนหน้าเสมอ รุนแรงกว่าเสมอ

คลื่นพลังของเย่หยวนนั้นเพิ่มทะยานขึ้นมาจนถึงจุดสุดยอด

เวลานี้เขามีแค่ความคิดเดียวคือสังหารเทียนเหอและชิงเอาข่ายเงินแก่นโลหิตมา!

เขาไม่กล้าที่จะปล่อยให้เรื่องราวยืดยาวไปกว่านี้แล้ว!

“มังกรนอกรีตครองมิติ!”

เย่หยวนเหยียบเท้าออกมาพร้อมเงาร่างของมังกรฟ้าที่เหยียบเท้าออกมาจากห้วงมิติ

ทักษะเทวะภายในนี้เย่หยวนได้ใช้พลังออกมาจนถึงที่สุด รุนแรงจนไม่อาจจินตนาการได้

ด้วยการเหยียบย่ำนี้มิติก็เริ่มแตกแยกลายพระเจ้าบนร่างของเทียนเหอค่อยๆ เบาบางหายลงไปดูท่าต้องใช้กำลังสุดตัวต้านทานมันไว้

แต่สุดท้ายเขาก็ยังต้องกระอักเลือดออกมาอย่างหนักหน่วงพร้อมลอยลิ่วไปไกลจมพื้นดิน

เย่หยวนยืนมองเขาอยู่บนฟ้าราวกับเทพเจ้าที่ก้มลงมองดูโลกหล้า

เวลานี้แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็ยังต้องอ้าปากค้าง

พวกเขานั้นได้เห็นถึงพลังของเทียนเหอมาก่อนและย่อมเข้าใจว่าคนผู้นี้มีพลังทำลายฟ้าดินได้

แม้จะเป็นธนูสาบานสังหารเทพนั้นมันก็ยังถูกเขาผู้นี้รับไว้ได้

แต่เวลานี้กลับกำลังพ่ายแพ้ลงต่อหน้าเย่หยวน

ภาพนี้มันเหนือล้ำกว่าที่จะมีใครคาดคิดถึง

แต่พลังของเผ่าเทวามันก็ยังเหนือล้ำกว่าที่คนทั้งหลายคาดเดาไปมาก

เทียนเหอจึงพุ่งตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง

หากเป็นเทพสวรรค์ขั้นสุดทั่วๆ ไปโดนการโจมตีเช่นนี้ร่างกายคงแตกสลายเป็นผุยผง

เพียงแค่ว่าตัวเทียนเหอในเวลานี้มันไม่ได้มีสภาพของยอดคนใดๆ อีกต่อไป ร่างกายของเขานั้นเต็มไปด้วยเศษฝุ่นอาการบาดเจ็บดูอ่อนแออย่างมาก

เขามองดูเย่หยวนด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “ดีจริงๆ ข้าประมาทเจ้าไป! ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะยังมีสายเลือดมังกรอยู่ในกาย! กระบวนท่านี้ มังกรนอกรีตครองมิตินี้ ข้าไม่ได้เห็นมันมาเสียนาน!”

เย่หยวนขมวดคิ้วถาม “เจ้ารู้จักกระบวนท่านี้?”

เทียนเหอจึงยิ้มตอบกลับมา “ยิ่งเสียกว่ารู้! เจ้าคงไม่รู้ว่ามังกรบรรพกาลคนก่อนมันได้ตายลงด้วยมือข้านี้! หึ เจ้านั้นอาจจะไม่ได้รู้ถึงตัวตนของมังกรบรรพกาลแต่มันนั้นคือตัวตนที่อยู่ในระดับชั้นเดียวกับเต๋าบรรพกาล! แม้ว่าอาจจะไม่แกร่งเท่า แต่มันก็ไม่อ่อนแอไปกว่ากันนัก!”

เย่หยวนหรี่ตาลงมองด้วยจิตสังหารรุนแรง

เขานั้นไม่ได้ชื่นชอบคนเผ่ามังกรมากมายนัก แต่พลังของเขาทั้งหลายนี้มันก็มีที่มาจากเผ่ามังกร

ต้นกำเนิดสายเลือดนี้เขาย่อมจะไม่อาจปฏิเสธได้

แต่ถึงจะอย่างนั้นมันก็ยังตื่นตะลึง!

ในโลกหล้านี้มันจะมีใครที่ยืนอยู่ในระดับเดียวกับเต๋าบรรพกาลได้?

ในสายตาของเทียนเหอนั้นมันดูเหมือนเขาจะไม่ได้คิดสนใจเต๋าบรรพกาลใดๆ เลย

หรือว่ากำลังของเขาในตอนสมบูรณ์มันจะเหนือล้ำกว่าเต๋าบรรพกาลไปอีก?

เรื่องนี้มันทำให้เกิดความหวั่นไหวขึ้นไม่น้อย!

เท่าที่ตัวเขาเข้าใจก่อนๆ มานั้นเต๋าบรรพกาลคือที่สุดของขุมพลัง เป็นตัวตนที่อยู่เหนือโลก

แต่ยิ่งบ่มเพาะมาเรื่อยๆ เย่หยวนก็เริ่มจะได้เข้าใจว่ามันอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป!

ก็จริงที่ว่าเต๋าบรรพกาลอาจจะเก่งกาจเหนือล้ำ แต่ตัวตนที่ก้าวข้ามอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ไปได้มันก็ต่างต้องแข็งแกร่งสิ้น!

คำพูดของเทียนเหอนี้มันทำให้ความเข้าใจต่างๆ ที่เคยมีแตกสลายลง!

คนที่ตื่นตะลึงนั้นมิใช่แค่เย่หยวนแต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็ตื่นตะลึงไม่แพ้กัน

มีเพียงแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางเท่านั้นที่หรี่ตาลงมองเหมือนจะรู้อะไรมาก่อน

เทียนเหอนั้นยิ้มออกมาที่พูดถ่วงเวลาเย่หยวนได้ “เจ้าตื่นตกใจมากหรือ? เต๋าบรรพกาลมันจะตายได้อย่างไร? จะมีใครไปเทียบเคียงเต๋าบรรพกาลได้? บรรพกาลผู้นี้จะบอกให้ เต๋าบรรพกาลนั้น… มันก็มีทั้งที่เก่งกาจและอ่อนแอ! หากพวกเจ้ามนุษย์ทั้งหลายมันไม่หน้าด้านไม่อายคนคิดใช้จำนวนเข้าสู้ มีหรือที่เผ่าเทวาเราจะถูกกดดันมาหลายยุคสมัยเช่นนี้?”

เย่หยวนยืนนิ่งมองดูด้วยสายตาตื่นตะลึง

เทียนเหอนนั้นหัวเราะลั่นขึ้น “แน่นอนว่าเจ้าไม่ต้องไปรู้เรื่องพวกนั้นหรอก! เพราะว่าในเมื่อบรรพกาลผู้นี้ได้มาเจออนาคตมังกรบรรพกาลก่อนแล้ว มันก็ย่อม… จะไม่มีมังกรบรรพกาลในยุคนี้อีกต่อไป! มังกรบรรพกาลของสองยุคสมัยตายลงด้วยมือข้านี้มันย่อมจะน่าดีใจนัก! สะใจจริงๆ! ฮ่าๆๆ… หากถึงเวลาสงครามสิ้นโลกครั้งต่อไปแล้วเผ่าเทวาข้าจะต้องยึดครองมหาพิภพถงเทียนไปได้แน่!”

ตูม!

เสียงของเขายังไม่ทันพูดจบมันก็เกิดคลื่นพลังทลายฟ้าดินขึ้นมา

พลังของเต๋าสวรรค์จุติลงมา

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายในที่นี้ต่างต้องเบิกตาค้าง

เมื่อขึ้นมาถึงระดับของเทียนเหอแล้วทุกการกระทำของเขาย่อมเป็นเต๋า

มันเป็นพลังที่ไม่อาจคาดเดาได้

เขานั้นถูกเย่หยวนโจมตีต่อเนื่องอย่างไม่อาจมีเวลาจะดึงพลังของเต๋าสวรรค์ใดๆ มาใช้

แต่ตอนนี้มันมิใช่แล้ว!

เพราะเขานั้นกลับข้อมูลทั้งหลายออกมาให้เย่หยวนมึนงงงสับสนจะได้ซื้อเวลานี้มาให้ตัวเอง

เย่หยวนนั้นมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำ วิชาการเคลื่อนไหวของเขานั้นมันรวดเร็วราวแสง

การโจมตีอันหนักหน่วงด้วยความเร็วเช่นนั้นมันย่อมจะไม่มีที่ว่างให้เขาได้ทำอะไร

หากพลังบ่มเพาะของเขาเหนือกว่านี้หน่อยมันก็ยังพอได้ แต่เวลานี้ทั้งพลังบ่มเพาะทั้งอาการบาดเจ็บมันทำให้เขาใช้พลังออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งในหมื่นจากเวลาปกติ

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มีหรือที่เขาจะเรียกใช้พลังจริงๆ ออกมาได้

เย่หยวนเองก็ย่อมจะรู้เรื่องนี้จึงได้โจมตีออกมาอย่างไม่หยุดมือราวกับฟ้าดินจะถล่มทลายลงมา

น่าเสียดายที่ว่าเด็กน้อยจะอย่างไรก็เป็นเด็กน้อย

“ฮ่าๆๆ… บรรพกาลผู้นี้ได้จุติขึ้นบนโลกอีกครั้งแล้ว พวกเจ้าเหล่ามนุษย์ อสูร ปีศาจและเผ่าพันธุ์ทั้งหลายจงสั่นกลัวเถอะ! เด็กน้อย ลองรับกระบวนท่านี้ของบรรพกาลผู้นี้ไว้เถอะ! เต๋าสวรรค์ครามทอง!”

เทียนเหอหัวเราะลั่นด้วยสีหน้าเย้ยหยัน

มีหรือที่พลังของเขานี้จะเป็นสิ่งที่แมลงตัวน้อยนั้นเข้าใจได้?

เย่หยวนนั้นยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นพร้อมมือไพล่หลังมองดูเทียนเหอ “เจ้า… คิดมากเกินไปหรือไม่? ที่เจ้ารวบรวมกำลังได้ก็เพราะข้าปล่อยให้เจ้าทำ! มิใช่ว่าแผนการของเจ้ามันฉลาดล้ำใดๆ! ต้องขอบคุณเจ้านี้ข้าจึงได้บรรลุมันแล้ว ข้ามีหนึ่งกระบวนดาบ เจ้ากล้ารับหรือไม่?”

…………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2244 ข้ามีหนึ่งกระบวนดาบ เจ้ากล้ารับหรือไม่?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2244 ข้ามีหนึ่งกระบวนดาบ เจ้ากล้ารับหรือไม่? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แต่ทว่า เมื่อดาบนั้นของเจ้าสิ้นไปแล้ว เจ้าจะยังเอาอะไรมาต่อสู้กับข้าได้อีกเล่า?” เทียนเหอยิ้มเย้ยเย่หยวน

เย่หยวนนั้นผสานแนวคิดแห่งดาบเข้ากับแนวคิดแห่งห้วงมิติทำให้เกิดเป็นวิชาดาบที่ล้ำฟ้าดิน ใครได้เห็นก็ต้องขนลุกซ่าน

พลังการต่อสู้เช่นนี้มันจึงจะเหมาะสมกับคำว่าต่อต้านสวรรค์

เพราะฉะนั้นเทียนเหอจึงได้ยอมเสี่ยงเอาตัวเองเข้าอันตรายทำลายดาบของเย่หยวนนั้นทิ้งเสีย

นักดาบที่ไร้ดาบมันจะเป็นอะไรไปได้?

ดาบกระดูกนั้นมันเป็นสิ่งที่สำคัญกับเย่หยวนอย่างมากมายมหาศาล

ตั้งแต่ที่เขาเข้าไปในสนามรบเทพโบราณครานั้น เย่หยวนก็ได้ใช้ดาบกระดูกนี้เป็นดาบประจำกายมาเสมอ

ดาบนี้มันคือสิ่งของที่สืบทอดมาจากตำนาน เย่หยวนจึงใช้มันได้อย่างคล่องมือมาก

การแตกสลายของดาบนี้มันทำให้จิตใจเย่หยวนสั่นคลอนไม่น้อย ราวกับว่าเขาได้เสียสิ่งที่รักไปอย่างหนึ่ง

แต่ในวินาทีนั้นเขาก็ได้สัมผัสถึงเรื่องราวที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน!

ราวกับว่าเขากำลังจะเข้าใจอะไรบางอย่างได้

เย่หยวนนั้นมีจิตใจหนักแน่นสงบนิ่ง เขาจึงได้ตอบกลับไป “ไม่มีดาบ! ก็ใช้มือ!”

ฟุบ!

ในพริบตาต่อมาคลื่นพลังชีวิตของเย่หยวนพุ่งทะยานพร้อมพลังสายเลือดมังกรที่ถูกปล่อยกดทับฟ้าดิน

เทพมังกรเหยียบสวรรค์!

ฝ่ามือล้ำจักรวาล!

หัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์!

แต่ละหมัดของเย่หยวนนี้มันมีแต่จะเร็วขึ้นเร็วขึ้นจนทำให้เกิดเป็นภาพราวกับว่าตัวเย่หยวนมีแขนนับพัน

คลื่นพลังในเวลานี้มันทำให้จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง

ก่อนหน้านี้พวกเขายังคิดว่าเย่หยวนที่ไร้ดาบมันก็เหมือนดั่งเสือที่ไร้เขี้ยว

แต่เวลานี้พวกเขาได้พบแล้วว่าเมื่อเย่หยวนไม่มีดาบ จากเสือเขากลับกลายเป็นมังกรไปแทน!

มังกรที่ไร้ต้าน!

ภายใต้หมัดชุดนั้นตัวเทียนเหอแทบต้องกระอักเลือดออกมา

นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาคาดเดาผิดไป กำลังฝีมือของเย่หยวนนี้มันน่ากลัวจนถึงขั้นสุดที่ทำให้เผ่าเทวาของเขาต้องอับอาย

เมื่อถูกเย่หยวนกดดันเช่นนั้น ตัวเขาก็ย่อมจะไม่มีอะไรไปต่อต่านได้จึงได้แต่ต้องตั้งรับอย่างสุดตัว

ตอนที่รับธนูสาบานสังหารเทพก่อนหน้านี้แม้เขาจะป้องกันมันไว้ได้แต่มันก็ได้สร้างความบาดเจ็บไม่น้อยแก่ร่างกายของเขา

ไม่เช่นนั้นแล้วมีหรือที่เย่หยวนจะทำอะไรตัวเขานี้ได้?

ทั้งๆ อย่างนั้นเย่หยวนก็ยังมีวิชาการต่อสู้ที่ทำให้เขาไม่อาจจะต่อต้านได้แม้แต่น้อย

“เจ้าเด็กคนนี้มันกลับมีกายเนื้อถึงระดับสัมบูรณ์! สัตว์ประหลาดเช่นนี้มันไปเกิดขึ้นในเผ่ามนุษย์ได้อย่างไรกัน?”

แต่ละหมัดนั้นหนักหน่วงกว่าหมัดก่อนหน้าเสมอ รุนแรงกว่าเสมอ

คลื่นพลังของเย่หยวนนั้นเพิ่มทะยานขึ้นมาจนถึงจุดสุดยอด

เวลานี้เขามีแค่ความคิดเดียวคือสังหารเทียนเหอและชิงเอาข่ายเงินแก่นโลหิตมา!

เขาไม่กล้าที่จะปล่อยให้เรื่องราวยืดยาวไปกว่านี้แล้ว!

“มังกรนอกรีตครองมิติ!”

เย่หยวนเหยียบเท้าออกมาพร้อมเงาร่างของมังกรฟ้าที่เหยียบเท้าออกมาจากห้วงมิติ

ทักษะเทวะภายในนี้เย่หยวนได้ใช้พลังออกมาจนถึงที่สุด รุนแรงจนไม่อาจจินตนาการได้

ด้วยการเหยียบย่ำนี้มิติก็เริ่มแตกแยกลายพระเจ้าบนร่างของเทียนเหอค่อยๆ เบาบางหายลงไปดูท่าต้องใช้กำลังสุดตัวต้านทานมันไว้

แต่สุดท้ายเขาก็ยังต้องกระอักเลือดออกมาอย่างหนักหน่วงพร้อมลอยลิ่วไปไกลจมพื้นดิน

เย่หยวนยืนมองเขาอยู่บนฟ้าราวกับเทพเจ้าที่ก้มลงมองดูโลกหล้า

เวลานี้แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็ยังต้องอ้าปากค้าง

พวกเขานั้นได้เห็นถึงพลังของเทียนเหอมาก่อนและย่อมเข้าใจว่าคนผู้นี้มีพลังทำลายฟ้าดินได้

แม้จะเป็นธนูสาบานสังหารเทพนั้นมันก็ยังถูกเขาผู้นี้รับไว้ได้

แต่เวลานี้กลับกำลังพ่ายแพ้ลงต่อหน้าเย่หยวน

ภาพนี้มันเหนือล้ำกว่าที่จะมีใครคาดคิดถึง

แต่พลังของเผ่าเทวามันก็ยังเหนือล้ำกว่าที่คนทั้งหลายคาดเดาไปมาก

เทียนเหอจึงพุ่งตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง

หากเป็นเทพสวรรค์ขั้นสุดทั่วๆ ไปโดนการโจมตีเช่นนี้ร่างกายคงแตกสลายเป็นผุยผง

เพียงแค่ว่าตัวเทียนเหอในเวลานี้มันไม่ได้มีสภาพของยอดคนใดๆ อีกต่อไป ร่างกายของเขานั้นเต็มไปด้วยเศษฝุ่นอาการบาดเจ็บดูอ่อนแออย่างมาก

เขามองดูเย่หยวนด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “ดีจริงๆ ข้าประมาทเจ้าไป! ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะยังมีสายเลือดมังกรอยู่ในกาย! กระบวนท่านี้ มังกรนอกรีตครองมิตินี้ ข้าไม่ได้เห็นมันมาเสียนาน!”

เย่หยวนขมวดคิ้วถาม “เจ้ารู้จักกระบวนท่านี้?”

เทียนเหอจึงยิ้มตอบกลับมา “ยิ่งเสียกว่ารู้! เจ้าคงไม่รู้ว่ามังกรบรรพกาลคนก่อนมันได้ตายลงด้วยมือข้านี้! หึ เจ้านั้นอาจจะไม่ได้รู้ถึงตัวตนของมังกรบรรพกาลแต่มันนั้นคือตัวตนที่อยู่ในระดับชั้นเดียวกับเต๋าบรรพกาล! แม้ว่าอาจจะไม่แกร่งเท่า แต่มันก็ไม่อ่อนแอไปกว่ากันนัก!”

เย่หยวนหรี่ตาลงมองด้วยจิตสังหารรุนแรง

เขานั้นไม่ได้ชื่นชอบคนเผ่ามังกรมากมายนัก แต่พลังของเขาทั้งหลายนี้มันก็มีที่มาจากเผ่ามังกร

ต้นกำเนิดสายเลือดนี้เขาย่อมจะไม่อาจปฏิเสธได้

แต่ถึงจะอย่างนั้นมันก็ยังตื่นตะลึง!

ในโลกหล้านี้มันจะมีใครที่ยืนอยู่ในระดับเดียวกับเต๋าบรรพกาลได้?

ในสายตาของเทียนเหอนั้นมันดูเหมือนเขาจะไม่ได้คิดสนใจเต๋าบรรพกาลใดๆ เลย

หรือว่ากำลังของเขาในตอนสมบูรณ์มันจะเหนือล้ำกว่าเต๋าบรรพกาลไปอีก?

เรื่องนี้มันทำให้เกิดความหวั่นไหวขึ้นไม่น้อย!

เท่าที่ตัวเขาเข้าใจก่อนๆ มานั้นเต๋าบรรพกาลคือที่สุดของขุมพลัง เป็นตัวตนที่อยู่เหนือโลก

แต่ยิ่งบ่มเพาะมาเรื่อยๆ เย่หยวนก็เริ่มจะได้เข้าใจว่ามันอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป!

ก็จริงที่ว่าเต๋าบรรพกาลอาจจะเก่งกาจเหนือล้ำ แต่ตัวตนที่ก้าวข้ามอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ไปได้มันก็ต่างต้องแข็งแกร่งสิ้น!

คำพูดของเทียนเหอนี้มันทำให้ความเข้าใจต่างๆ ที่เคยมีแตกสลายลง!

คนที่ตื่นตะลึงนั้นมิใช่แค่เย่หยวนแต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็ตื่นตะลึงไม่แพ้กัน

มีเพียงแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางเท่านั้นที่หรี่ตาลงมองเหมือนจะรู้อะไรมาก่อน

เทียนเหอนั้นยิ้มออกมาที่พูดถ่วงเวลาเย่หยวนได้ “เจ้าตื่นตกใจมากหรือ? เต๋าบรรพกาลมันจะตายได้อย่างไร? จะมีใครไปเทียบเคียงเต๋าบรรพกาลได้? บรรพกาลผู้นี้จะบอกให้ เต๋าบรรพกาลนั้น… มันก็มีทั้งที่เก่งกาจและอ่อนแอ! หากพวกเจ้ามนุษย์ทั้งหลายมันไม่หน้าด้านไม่อายคนคิดใช้จำนวนเข้าสู้ มีหรือที่เผ่าเทวาเราจะถูกกดดันมาหลายยุคสมัยเช่นนี้?”

เย่หยวนยืนนิ่งมองดูด้วยสายตาตื่นตะลึง

เทียนเหอนนั้นหัวเราะลั่นขึ้น “แน่นอนว่าเจ้าไม่ต้องไปรู้เรื่องพวกนั้นหรอก! เพราะว่าในเมื่อบรรพกาลผู้นี้ได้มาเจออนาคตมังกรบรรพกาลก่อนแล้ว มันก็ย่อม… จะไม่มีมังกรบรรพกาลในยุคนี้อีกต่อไป! มังกรบรรพกาลของสองยุคสมัยตายลงด้วยมือข้านี้มันย่อมจะน่าดีใจนัก! สะใจจริงๆ! ฮ่าๆๆ… หากถึงเวลาสงครามสิ้นโลกครั้งต่อไปแล้วเผ่าเทวาข้าจะต้องยึดครองมหาพิภพถงเทียนไปได้แน่!”

ตูม!

เสียงของเขายังไม่ทันพูดจบมันก็เกิดคลื่นพลังทลายฟ้าดินขึ้นมา

พลังของเต๋าสวรรค์จุติลงมา

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายในที่นี้ต่างต้องเบิกตาค้าง

เมื่อขึ้นมาถึงระดับของเทียนเหอแล้วทุกการกระทำของเขาย่อมเป็นเต๋า

มันเป็นพลังที่ไม่อาจคาดเดาได้

เขานั้นถูกเย่หยวนโจมตีต่อเนื่องอย่างไม่อาจมีเวลาจะดึงพลังของเต๋าสวรรค์ใดๆ มาใช้

แต่ตอนนี้มันมิใช่แล้ว!

เพราะเขานั้นกลับข้อมูลทั้งหลายออกมาให้เย่หยวนมึนงงงสับสนจะได้ซื้อเวลานี้มาให้ตัวเอง

เย่หยวนนั้นมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำ วิชาการเคลื่อนไหวของเขานั้นมันรวดเร็วราวแสง

การโจมตีอันหนักหน่วงด้วยความเร็วเช่นนั้นมันย่อมจะไม่มีที่ว่างให้เขาได้ทำอะไร

หากพลังบ่มเพาะของเขาเหนือกว่านี้หน่อยมันก็ยังพอได้ แต่เวลานี้ทั้งพลังบ่มเพาะทั้งอาการบาดเจ็บมันทำให้เขาใช้พลังออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งในหมื่นจากเวลาปกติ

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มีหรือที่เขาจะเรียกใช้พลังจริงๆ ออกมาได้

เย่หยวนเองก็ย่อมจะรู้เรื่องนี้จึงได้โจมตีออกมาอย่างไม่หยุดมือราวกับฟ้าดินจะถล่มทลายลงมา

น่าเสียดายที่ว่าเด็กน้อยจะอย่างไรก็เป็นเด็กน้อย

“ฮ่าๆๆ… บรรพกาลผู้นี้ได้จุติขึ้นบนโลกอีกครั้งแล้ว พวกเจ้าเหล่ามนุษย์ อสูร ปีศาจและเผ่าพันธุ์ทั้งหลายจงสั่นกลัวเถอะ! เด็กน้อย ลองรับกระบวนท่านี้ของบรรพกาลผู้นี้ไว้เถอะ! เต๋าสวรรค์ครามทอง!”

เทียนเหอหัวเราะลั่นด้วยสีหน้าเย้ยหยัน

มีหรือที่พลังของเขานี้จะเป็นสิ่งที่แมลงตัวน้อยนั้นเข้าใจได้?

เย่หยวนนั้นยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นพร้อมมือไพล่หลังมองดูเทียนเหอ “เจ้า… คิดมากเกินไปหรือไม่? ที่เจ้ารวบรวมกำลังได้ก็เพราะข้าปล่อยให้เจ้าทำ! มิใช่ว่าแผนการของเจ้ามันฉลาดล้ำใดๆ! ต้องขอบคุณเจ้านี้ข้าจึงได้บรรลุมันแล้ว ข้ามีหนึ่งกระบวนดาบ เจ้ากล้ารับหรือไม่?”

…………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2244 ข้ามีหนึ่งกระบวนดาบ เจ้ากล้ารับหรือไม่?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2244 ข้ามีหนึ่งกระบวนดาบ เจ้ากล้ารับหรือไม่? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แต่ทว่า เมื่อดาบนั้นของเจ้าสิ้นไปแล้ว เจ้าจะยังเอาอะไรมาต่อสู้กับข้าได้อีกเล่า?” เทียนเหอยิ้มเย้ยเย่หยวน

เย่หยวนนั้นผสานแนวคิดแห่งดาบเข้ากับแนวคิดแห่งห้วงมิติทำให้เกิดเป็นวิชาดาบที่ล้ำฟ้าดิน ใครได้เห็นก็ต้องขนลุกซ่าน

พลังการต่อสู้เช่นนี้มันจึงจะเหมาะสมกับคำว่าต่อต้านสวรรค์

เพราะฉะนั้นเทียนเหอจึงได้ยอมเสี่ยงเอาตัวเองเข้าอันตรายทำลายดาบของเย่หยวนนั้นทิ้งเสีย

นักดาบที่ไร้ดาบมันจะเป็นอะไรไปได้?

ดาบกระดูกนั้นมันเป็นสิ่งที่สำคัญกับเย่หยวนอย่างมากมายมหาศาล

ตั้งแต่ที่เขาเข้าไปในสนามรบเทพโบราณครานั้น เย่หยวนก็ได้ใช้ดาบกระดูกนี้เป็นดาบประจำกายมาเสมอ

ดาบนี้มันคือสิ่งของที่สืบทอดมาจากตำนาน เย่หยวนจึงใช้มันได้อย่างคล่องมือมาก

การแตกสลายของดาบนี้มันทำให้จิตใจเย่หยวนสั่นคลอนไม่น้อย ราวกับว่าเขาได้เสียสิ่งที่รักไปอย่างหนึ่ง

แต่ในวินาทีนั้นเขาก็ได้สัมผัสถึงเรื่องราวที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน!

ราวกับว่าเขากำลังจะเข้าใจอะไรบางอย่างได้

เย่หยวนนั้นมีจิตใจหนักแน่นสงบนิ่ง เขาจึงได้ตอบกลับไป “ไม่มีดาบ! ก็ใช้มือ!”

ฟุบ!

ในพริบตาต่อมาคลื่นพลังชีวิตของเย่หยวนพุ่งทะยานพร้อมพลังสายเลือดมังกรที่ถูกปล่อยกดทับฟ้าดิน

เทพมังกรเหยียบสวรรค์!

ฝ่ามือล้ำจักรวาล!

หัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์!

แต่ละหมัดของเย่หยวนนี้มันมีแต่จะเร็วขึ้นเร็วขึ้นจนทำให้เกิดเป็นภาพราวกับว่าตัวเย่หยวนมีแขนนับพัน

คลื่นพลังในเวลานี้มันทำให้จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง

ก่อนหน้านี้พวกเขายังคิดว่าเย่หยวนที่ไร้ดาบมันก็เหมือนดั่งเสือที่ไร้เขี้ยว

แต่เวลานี้พวกเขาได้พบแล้วว่าเมื่อเย่หยวนไม่มีดาบ จากเสือเขากลับกลายเป็นมังกรไปแทน!

มังกรที่ไร้ต้าน!

ภายใต้หมัดชุดนั้นตัวเทียนเหอแทบต้องกระอักเลือดออกมา

นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาคาดเดาผิดไป กำลังฝีมือของเย่หยวนนี้มันน่ากลัวจนถึงขั้นสุดที่ทำให้เผ่าเทวาของเขาต้องอับอาย

เมื่อถูกเย่หยวนกดดันเช่นนั้น ตัวเขาก็ย่อมจะไม่มีอะไรไปต่อต่านได้จึงได้แต่ต้องตั้งรับอย่างสุดตัว

ตอนที่รับธนูสาบานสังหารเทพก่อนหน้านี้แม้เขาจะป้องกันมันไว้ได้แต่มันก็ได้สร้างความบาดเจ็บไม่น้อยแก่ร่างกายของเขา

ไม่เช่นนั้นแล้วมีหรือที่เย่หยวนจะทำอะไรตัวเขานี้ได้?

ทั้งๆ อย่างนั้นเย่หยวนก็ยังมีวิชาการต่อสู้ที่ทำให้เขาไม่อาจจะต่อต้านได้แม้แต่น้อย

“เจ้าเด็กคนนี้มันกลับมีกายเนื้อถึงระดับสัมบูรณ์! สัตว์ประหลาดเช่นนี้มันไปเกิดขึ้นในเผ่ามนุษย์ได้อย่างไรกัน?”

แต่ละหมัดนั้นหนักหน่วงกว่าหมัดก่อนหน้าเสมอ รุนแรงกว่าเสมอ

คลื่นพลังของเย่หยวนนั้นเพิ่มทะยานขึ้นมาจนถึงจุดสุดยอด

เวลานี้เขามีแค่ความคิดเดียวคือสังหารเทียนเหอและชิงเอาข่ายเงินแก่นโลหิตมา!

เขาไม่กล้าที่จะปล่อยให้เรื่องราวยืดยาวไปกว่านี้แล้ว!

“มังกรนอกรีตครองมิติ!”

เย่หยวนเหยียบเท้าออกมาพร้อมเงาร่างของมังกรฟ้าที่เหยียบเท้าออกมาจากห้วงมิติ

ทักษะเทวะภายในนี้เย่หยวนได้ใช้พลังออกมาจนถึงที่สุด รุนแรงจนไม่อาจจินตนาการได้

ด้วยการเหยียบย่ำนี้มิติก็เริ่มแตกแยกลายพระเจ้าบนร่างของเทียนเหอค่อยๆ เบาบางหายลงไปดูท่าต้องใช้กำลังสุดตัวต้านทานมันไว้

แต่สุดท้ายเขาก็ยังต้องกระอักเลือดออกมาอย่างหนักหน่วงพร้อมลอยลิ่วไปไกลจมพื้นดิน

เย่หยวนยืนมองเขาอยู่บนฟ้าราวกับเทพเจ้าที่ก้มลงมองดูโลกหล้า

เวลานี้แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็ยังต้องอ้าปากค้าง

พวกเขานั้นได้เห็นถึงพลังของเทียนเหอมาก่อนและย่อมเข้าใจว่าคนผู้นี้มีพลังทำลายฟ้าดินได้

แม้จะเป็นธนูสาบานสังหารเทพนั้นมันก็ยังถูกเขาผู้นี้รับไว้ได้

แต่เวลานี้กลับกำลังพ่ายแพ้ลงต่อหน้าเย่หยวน

ภาพนี้มันเหนือล้ำกว่าที่จะมีใครคาดคิดถึง

แต่พลังของเผ่าเทวามันก็ยังเหนือล้ำกว่าที่คนทั้งหลายคาดเดาไปมาก

เทียนเหอจึงพุ่งตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง

หากเป็นเทพสวรรค์ขั้นสุดทั่วๆ ไปโดนการโจมตีเช่นนี้ร่างกายคงแตกสลายเป็นผุยผง

เพียงแค่ว่าตัวเทียนเหอในเวลานี้มันไม่ได้มีสภาพของยอดคนใดๆ อีกต่อไป ร่างกายของเขานั้นเต็มไปด้วยเศษฝุ่นอาการบาดเจ็บดูอ่อนแออย่างมาก

เขามองดูเย่หยวนด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “ดีจริงๆ ข้าประมาทเจ้าไป! ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะยังมีสายเลือดมังกรอยู่ในกาย! กระบวนท่านี้ มังกรนอกรีตครองมิตินี้ ข้าไม่ได้เห็นมันมาเสียนาน!”

เย่หยวนขมวดคิ้วถาม “เจ้ารู้จักกระบวนท่านี้?”

เทียนเหอจึงยิ้มตอบกลับมา “ยิ่งเสียกว่ารู้! เจ้าคงไม่รู้ว่ามังกรบรรพกาลคนก่อนมันได้ตายลงด้วยมือข้านี้! หึ เจ้านั้นอาจจะไม่ได้รู้ถึงตัวตนของมังกรบรรพกาลแต่มันนั้นคือตัวตนที่อยู่ในระดับชั้นเดียวกับเต๋าบรรพกาล! แม้ว่าอาจจะไม่แกร่งเท่า แต่มันก็ไม่อ่อนแอไปกว่ากันนัก!”

เย่หยวนหรี่ตาลงมองด้วยจิตสังหารรุนแรง

เขานั้นไม่ได้ชื่นชอบคนเผ่ามังกรมากมายนัก แต่พลังของเขาทั้งหลายนี้มันก็มีที่มาจากเผ่ามังกร

ต้นกำเนิดสายเลือดนี้เขาย่อมจะไม่อาจปฏิเสธได้

แต่ถึงจะอย่างนั้นมันก็ยังตื่นตะลึง!

ในโลกหล้านี้มันจะมีใครที่ยืนอยู่ในระดับเดียวกับเต๋าบรรพกาลได้?

ในสายตาของเทียนเหอนั้นมันดูเหมือนเขาจะไม่ได้คิดสนใจเต๋าบรรพกาลใดๆ เลย

หรือว่ากำลังของเขาในตอนสมบูรณ์มันจะเหนือล้ำกว่าเต๋าบรรพกาลไปอีก?

เรื่องนี้มันทำให้เกิดความหวั่นไหวขึ้นไม่น้อย!

เท่าที่ตัวเขาเข้าใจก่อนๆ มานั้นเต๋าบรรพกาลคือที่สุดของขุมพลัง เป็นตัวตนที่อยู่เหนือโลก

แต่ยิ่งบ่มเพาะมาเรื่อยๆ เย่หยวนก็เริ่มจะได้เข้าใจว่ามันอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป!

ก็จริงที่ว่าเต๋าบรรพกาลอาจจะเก่งกาจเหนือล้ำ แต่ตัวตนที่ก้าวข้ามอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ไปได้มันก็ต่างต้องแข็งแกร่งสิ้น!

คำพูดของเทียนเหอนี้มันทำให้ความเข้าใจต่างๆ ที่เคยมีแตกสลายลง!

คนที่ตื่นตะลึงนั้นมิใช่แค่เย่หยวนแต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็ตื่นตะลึงไม่แพ้กัน

มีเพียงแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางเท่านั้นที่หรี่ตาลงมองเหมือนจะรู้อะไรมาก่อน

เทียนเหอนั้นยิ้มออกมาที่พูดถ่วงเวลาเย่หยวนได้ “เจ้าตื่นตกใจมากหรือ? เต๋าบรรพกาลมันจะตายได้อย่างไร? จะมีใครไปเทียบเคียงเต๋าบรรพกาลได้? บรรพกาลผู้นี้จะบอกให้ เต๋าบรรพกาลนั้น… มันก็มีทั้งที่เก่งกาจและอ่อนแอ! หากพวกเจ้ามนุษย์ทั้งหลายมันไม่หน้าด้านไม่อายคนคิดใช้จำนวนเข้าสู้ มีหรือที่เผ่าเทวาเราจะถูกกดดันมาหลายยุคสมัยเช่นนี้?”

เย่หยวนยืนนิ่งมองดูด้วยสายตาตื่นตะลึง

เทียนเหอนนั้นหัวเราะลั่นขึ้น “แน่นอนว่าเจ้าไม่ต้องไปรู้เรื่องพวกนั้นหรอก! เพราะว่าในเมื่อบรรพกาลผู้นี้ได้มาเจออนาคตมังกรบรรพกาลก่อนแล้ว มันก็ย่อม… จะไม่มีมังกรบรรพกาลในยุคนี้อีกต่อไป! มังกรบรรพกาลของสองยุคสมัยตายลงด้วยมือข้านี้มันย่อมจะน่าดีใจนัก! สะใจจริงๆ! ฮ่าๆๆ… หากถึงเวลาสงครามสิ้นโลกครั้งต่อไปแล้วเผ่าเทวาข้าจะต้องยึดครองมหาพิภพถงเทียนไปได้แน่!”

ตูม!

เสียงของเขายังไม่ทันพูดจบมันก็เกิดคลื่นพลังทลายฟ้าดินขึ้นมา

พลังของเต๋าสวรรค์จุติลงมา

เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายในที่นี้ต่างต้องเบิกตาค้าง

เมื่อขึ้นมาถึงระดับของเทียนเหอแล้วทุกการกระทำของเขาย่อมเป็นเต๋า

มันเป็นพลังที่ไม่อาจคาดเดาได้

เขานั้นถูกเย่หยวนโจมตีต่อเนื่องอย่างไม่อาจมีเวลาจะดึงพลังของเต๋าสวรรค์ใดๆ มาใช้

แต่ตอนนี้มันมิใช่แล้ว!

เพราะเขานั้นกลับข้อมูลทั้งหลายออกมาให้เย่หยวนมึนงงงสับสนจะได้ซื้อเวลานี้มาให้ตัวเอง

เย่หยวนนั้นมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำ วิชาการเคลื่อนไหวของเขานั้นมันรวดเร็วราวแสง

การโจมตีอันหนักหน่วงด้วยความเร็วเช่นนั้นมันย่อมจะไม่มีที่ว่างให้เขาได้ทำอะไร

หากพลังบ่มเพาะของเขาเหนือกว่านี้หน่อยมันก็ยังพอได้ แต่เวลานี้ทั้งพลังบ่มเพาะทั้งอาการบาดเจ็บมันทำให้เขาใช้พลังออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งในหมื่นจากเวลาปกติ

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มีหรือที่เขาจะเรียกใช้พลังจริงๆ ออกมาได้

เย่หยวนเองก็ย่อมจะรู้เรื่องนี้จึงได้โจมตีออกมาอย่างไม่หยุดมือราวกับฟ้าดินจะถล่มทลายลงมา

น่าเสียดายที่ว่าเด็กน้อยจะอย่างไรก็เป็นเด็กน้อย

“ฮ่าๆๆ… บรรพกาลผู้นี้ได้จุติขึ้นบนโลกอีกครั้งแล้ว พวกเจ้าเหล่ามนุษย์ อสูร ปีศาจและเผ่าพันธุ์ทั้งหลายจงสั่นกลัวเถอะ! เด็กน้อย ลองรับกระบวนท่านี้ของบรรพกาลผู้นี้ไว้เถอะ! เต๋าสวรรค์ครามทอง!”

เทียนเหอหัวเราะลั่นด้วยสีหน้าเย้ยหยัน

มีหรือที่พลังของเขานี้จะเป็นสิ่งที่แมลงตัวน้อยนั้นเข้าใจได้?

เย่หยวนนั้นยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นพร้อมมือไพล่หลังมองดูเทียนเหอ “เจ้า… คิดมากเกินไปหรือไม่? ที่เจ้ารวบรวมกำลังได้ก็เพราะข้าปล่อยให้เจ้าทำ! มิใช่ว่าแผนการของเจ้ามันฉลาดล้ำใดๆ! ต้องขอบคุณเจ้านี้ข้าจึงได้บรรลุมันแล้ว ข้ามีหนึ่งกระบวนดาบ เจ้ากล้ารับหรือไม่?”

…………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+