War sovereign Soaring The Heavens 1462

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 1462 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ราคายันต์เต๋าสูงเทียมฟ้า!

 

“ข้าชื่อต้วนหลิงเทียน”

 

ต้วนหลิงเทียนยิ้มตอบ

 

“เจ้า…เจ้าคือต้วนหลิงเทียนงั้นเหรอ!?”

 

พอได้ยินคำตอบของต้วนหลิงเทียน ชายชราอดไม่ได้ที่จะตกใจ มันรีบมองไปยังเอวของต้วนหลิงเทียนทันที พอเห็นป้ายศิษย์ฝ่ายนอกที่แขวนห้อยอยู่ ลูกตาของมันก็ส่องสว่างขึ้นมาทันใด “เจ้าเป็นศิษย์ฝ่ายนอกที่ฆ่ายอดฝีมือติดอันดับในรายนามปฐพีเมื่อวานนี้ในการประลองเป็นตายที่ลานฝึกซ้อมของฝ่ายนอกงั้นเหรอ!?”

 

“อาวุโสก็ได้ยินเรื่องนี้มาเหมือนกันเหรอ?”

 

ต้วนหลิงเทียนหัวเราะเบาๆ เป็นการยอมรับทางอ้อม

 

“ประเสริฐ ประเสริฐนัก…ความสามารถในเชิงยุทธ์ของเจ้าสูงถึงเพียงนี้ มิคาดเจ้ายังอ่อนน้อมถ่อมตนนัก!”

 

ใบหน้าชายชราเผยความถูกใจไม่น้อย

 

“อาวุโสกล่าวชมข้าเกินไปแล้ว”

 

ต้วนหลิงเทียนยิ้มรับอย่างอ่อนน้อม

 

“ข้าเรียกว่าฟ่างเฉียน หากวันหน้าเจ้ามีปัญหาอันใดสามารถมาหาข้าที่ศาลาอุทิศแห่งนี้ได้…หากมาที่นี่แล้วไม่เจอข้า เจ้าก็สามารถไปตามหาข้าได้ที่ฝ่ายใน”

 

ชายชราหัวเราะ

 

“ขอบคุณสำหรับความเมตตาของท่าน อาวุโสฟางเฉียน”

 

ต้วนหลิงเทียนไม่คิดเลยว่าชายชราจะกล่าวกับเขาเป็นมั่นเหมาะแบบนี้ เขาเร่งกล่าวขอบคุณอีกฝ่ายออกไปทันที ในใจเต็มไปด้วยอารมณ์แช่มชื่นนัก

 

ท้ายที่สุดแล้วเขาก็แค่กล่าวขอบคุณอีกฝ่ายเท่านั้นเอง

 

หลังจากกล่าวคำร่ำลากับชายชราแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ออกจากชั้น 2 ศาลาอุทิศเพื่อขึ้นไปยังชั้น 3 ของศาลาอุทิศ

 

เมื่อขึ้นมาถึงชั้น 3 ของศาลาอุทิศ ต้วนหลิงเทียนก็แลเห็นโต๊ะรับรองที่ไม่ต่างอะไรจากชั้น 2

 

ด้านหลังโต๊ะรับรองเป็นชายวัยกลางคน 2 คน เห็นชัดว่าทั้งคู่เป็นผู้รับผิดชอบดูแลชั้น 3 ของศาลาอุทิศ

 

พอสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่ทั้ง 2 แผ่กวาดออกมาตรวจสอบ ต้วนหลิงเทียนก็รู้ได้ทันทีว่าพลังฝีมืออ่อนด้อยกว่าชายชราชั้น 2

 

‘สองคนนี้พลังฝีมือสมควรทัดเทียมกับเหล่าอาวุโสฝ่ายนอก งั้นถ้าไม่ใช่อาวุโสฝ่ายนอกก็น่าจะเป็นผู้ดูแลฝ่ายใน’

 

ต้วนหลิงเทียนพอจะคาดเดาฐานะของทั้งคู่ได้คร่าวๆ

 

“วางอุปกรณ์พื้นที่ไว้ แล้วเจ้าเข้าไปได้”

 

ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งมองต้วนหลิงเทียนกล่าวออกด้วยเสียงไม่แยแส

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับ วางแหวนพื้นที่ ก่อนที่จะเดินเข้าไปด้านใน

 

เมื่อเข้ามาในโถงชั้น 3 ของศาลาอุทิศพร้อมว่ายตามองดูรอบหนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะโค้งคิ้วขึ้นเล็กน้อย…นั่นเพราะชั้น 3 ของศาลาอุทิศแห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วนก็มีสิ่งของวางขายต่างกันไป

 

3 ส่วนที่ว่ามี ส่วนของโอสถเซียน ส่วนศาสตราเซียน และส่วนยันต์เต๋า

 

ต้วนหลิงเทียนเลือกเดินไปยังส่วนของโอสถก่อน และเลือกหยิบโอสถเซียนรักษาระดับ 3 ดาว และโอสถเพิ่มจิตสัมผัสระดับ 3 ดาวจำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้นเขายังหยิบโอสถเซียนระดับ 4 ดาวมาบางส่วน

 

พอคิดถึงคะแนนอุทิศที่ต้องสูญเสียไป ใจก็อดเจ็บปวดขึ้นมาเสียไม่ได้

 

โอสถเซียนระดับ 4 ดาวนั้น ราคาของมันต่ำสุดก็ล่อไป 10,000 คะแนนอุทิศแล้ว!

 

เรื่องนี้แม้ต้วนหลิงเทียนจะปวดใจ แต่ก็ไม่ได้แปลกใจกับราคาของมัน

 

เพราะเท่าที่เขารู้นั้น ในสำนักจันทร์จรัสแสงแห่งนี้ ปรมาจารย์เซียนหลอมโอสถมีระดับแค่ 3 ดาวเท่านั้น ซึ่งเต็มที่ก็สามารถหลอมสร้างได้แค่โอสถเซียน 3 ดาว

 

สำนักจันทร์จรัสแสงได้รวบรวมโอสถเซียนระดับ 4 มาด้วยการแลกเปลี่ยนผ่านช่องทางอื่นๆในราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้ยามนำมาขาย ราคาจึงต้องแพงเป็นธรรมดา

 

โอสถที่ต้วนหลิงเทียนซื้อหามาครั้งนี้ มีราคาทั้งสิ้น 200,000 คะแนนอุทิศ

 

เมื่อออกจากส่วนของโอสถเซียน ต้วนหลิงเทียนก็เลือกจะเดินมายังส่วนของศาสตราเซียนก่อน เขาพบว่าส่วนใหญ่ศาสตราเซียนที่วางขายเป็นศาสตราเซียนระดับปฐพี นอกจากนั้นโดยมากแล้วพวกมันยังมีอาคมเซียนจารึกไว้อีก

 

แน่นอนว่าศาสตราเซียนที่ถูกจารึกด้วยอาคมเซียนประเภทต่างๆ ก็ยังมีราคาที่แตกต่างกัน

 

ศาสตราเซียนที่ไร้อาคมเซียนจารึก ย่อมราคาถูกที่สุดอย่างที่ไม่ต้องสงสัย

 

ศาสตราเซียนที่จารึกอาคมเซียนพื้นฐานระดับ 1 ดาวนั้นแพงกว่าศาสตราเซียนธรรมดาเล็กน้อย

 

ศาสตราเซียนที่จารึกอาคมเซียนที่ดีขึ้นมาหน่อย ราคาก็ถีบตัวสูงขึ้นตามไปด้วย

 

และศาสตราเซียนที่มีอาคมเซียน 1 ดาวดีๆจารึกไว้หลายอาคมก็ยิ่งแพงเข้าไปใหญ่

 

แต่แน่นอนว่าศาสตราเซียนที่จารึกอาคมเซียนระดับ 1 ดาวก็ยังไม่แพงเท่าศาสตราเซียนที่จารึกอาคมเซียนระดับ 2 ดาวเอาไว้

 

อาคมเซียนระดับ 2 ดาวเองก็มีแบ่งแยกสูงต่ำไว้ด้วยเช่นกัน

 

ที่นี่ต้วนหลิงเทียนพบเห็นศาสตราเซียนที่มีอาคมเซียน 2 ดาวจารึกเอาไว้ และคุณภาพยังทัดเทียมกับ ดาบใหญ่ ของเฝิงฟ่าน รวมถึงค้อนสลาตันของโจวฉี ยิ่งไปกว่านั้นยังมีศาสตราเซียนที่ดียิ่งกว่าสองอย่างนี้เสียอีก เพราะมันจารึกไว้ด้วยอาคมเซียนระดับ 2 ดาวมากกว่า 1 อาคม!

 

แน่นอนว่าราคาของมันก็ยิ่งถีบตัวสูงขึ้นไปจนน่ากลัว

 

ชิ้นที่แพงๆหน่อยราคาของมันก็เหยียบๆล้านคะแนนอุทิศ!

 

‘ศาสตราเซียนพวกนี้นับว่าเป็นตัวผลาญเงินไม่น้อยจริงๆ…! อย่างไรเสียนอกจากเกาทัณฑ์ดับตะวันข้าก็ยังมีดาบใหญ่จากเฝิงฟ่านที่จารึกอาคมพันทวีไว้ใช้ ถ้างั้นตอนนี้ศาสตราเซียนพวกนี้ก็ยังไม่นับว่าจำเป็นสักเท่าไร ไม่ต้องซื้อก็ได้’

 

ต้วนหลิงเทียนเดาะลิ้นเบาๆ ก่อนที่จะตัดใจไม่ซื้ออาวุธอะไรเพิ่ม หลังจากนั้นก็เดินไปยังส่วนที่ 3 อันเป็นส่วนยันต์เต๋า

 

ส่วนของยันต์เต๋านั้น เรียกว่ามียันต์เต๋าขายแทบทุกประเภทการใช้งาน

 

และข้างๆปึกยันต์เต๋าชนิดต่างๆก็จะมีป้ายอธิบายรายละเอียดของตัวยันต์เอาไว้ชัดเจน

 

“ยันต์เต๋าม่านพลังทอง 2 ดาว…เมื่อใช้งานจะสร้างม่านพลังสีทองกำบังคุมครองร่างผู้ใช้ยันต์ ม่านพลังอยู่ได้นาน 15 นาที สามารถป้องกันการโจมตีจากผู้ฝึกยุทธ์หรือผู้ฝึกเต๋าที่มีด่านพลังสู่เซียนขั้นเชี่ยวชาญหรือต่ำกว่านั้น ทว่าหากถูกโจมตีด้วยพลังของสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ม่านพลังจะสลายไปในทันที…”

 

เมื่อเห็นรายละเอียดของยันต์แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะอึ้ง

 

เพราะหากมียันต์เต๋าใบนี้ ถึงแม้จะเป็นแค่คนธรรมดา แต่ก็สามารถต้านทานการโจมตีจากผู้ฝึกตนที่อยู่ในขอบเขตสู่เซียนขั้นเชี่ยวชาญลงมาได้เป็นเวลา 1 เค่อ ทั้งยังสามารถป้องกันได้อย่างหมดจดไร้ความเสียหาย…

 

“ของดีนี่นา!”

 

ลูกตาต้วนหลิงเทียนสว่างวาบขึ้นมาทันใด มองยันต์เต๋าม่านพลังทอง 2 ดาวตาเป็นมัน!

 

“20,000 คะแนนอุทิศ?”

 

ทว่าพอเห็นราคามุมปากต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกขึ้นมาทันใด “บ้าไปแล้ว! ยันต์เต๋าที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งแบบนี้กลับมีราคาถึง 20,000 คะแนนอุทิศ! นี่มันขายหรือปล้นกันกลางวันแสกๆเนี่ย!?”

 

มาตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้แล้ว ว่าไฉนเขาถึงเคยได้ยินมาว่าอาชีพปรมาจารย์ยันต์เต๋านั้น เป็น 1 ใน 2 อาชีพที่สามารถทำให้ท่านร่ำรวยมั่งมีเหนือผู้ใดได้ง่ายๆในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแห่งนี้…

 

ส่วนอีกอาชีพที่เหลือแน่นอนว่าย่อมเป็นปรมาจารย์จารึกเซียน

 

ต้วนหลิงเทียนไล่เดินดูไปเรื่อยๆ ยันต์เต๋ามากมายหลายหลากผ่านเข้ามาในสายตาของต้วนหลิงเทียน

 

คำอธิบายของพวกมันก็ผ่านตาเขาไปทีละชนิดๆ ทำให้รู้สึกอื้ออึงอยู่บ้าง

 

“ยันต์เต๋าเทพเคลื่อนระดับ 2 ดาว…เมื่อใช้จะทำให้ความเร็วของผู้ใช้ทัดเทียมกับผู้ฝึกตนขอบเขตสู่เซียนขั้นเชี่ยวชาญเป็นเวลา 1 เค่อ”

 

ยันต์เต๋าเทพเคลื่อนนี้ นับเป็นอีกยันต์ช่วยชีวิตที่นับว่าดีงามไม่น้อย

 

นอกจากยันต์เต๋าเทพเคลื่อนระดับ 2 ดาวแล้ว ชั้น 3 ของศาลาอุทิศแห่งนี้ก็มียันต์เต๋าเทพเคลื่อนระดับ 1 ดาวอยู่ด้วยเช่นกัน ส่วนยันต์เต๋าเทพเคลื่อนระดับ 3 ดาวนั้นมีขายเพียงไม่กี่แผ่นเท่านั้น

 

ยันต์เต๋าเทพเคลื่อนระดับ 1 ดาว สามารถเพิ่มความเร็วของผู้ใช้ให้ทัดเทียมกับผู้ฝึกตนขอบเขตสู่เซียนขั้นต้น และเวลาใช้งานก็เท่าเทียมกับยันต์เต๋าระดับ 2 ดาว

 

ส่วนยันต์เต๋าเทพเคลื่อนระดับ 3 ดาวนั้น เมื่อใช้จะสามารถเพิ่มความเร็วของผู้ใช้ให้ทัดเทียมกับตัวตนขอบเขตสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ ในเวลาที่เท่ากันกับระดับ 1-2 ดาว…

 

“ความเร็วทัดเทียมกับผู้ฝึกตนขอบเขตสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่!”

 

ลูกตาต้วนหลิงเทียนส่องสว่างจ้าขึ้นมาทันใด ยังรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย “ข้าต้องซื้อยันต์แผ่นนี้เอาไปตุนไว้ป้องกันตัวเอง!”

 

อย่างไรก็ตามพอเห็นราคาของมัน ต้วนหลิงเทียนก็เสมือนถูกน้ำเย็นราดรดศีรษะให้ตื่นขึ้นมาทันที “สะ…300,000 คะแนนอุทิศ!? นี่มันปล้นกันชัดๆ!!”

 

ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะโพล่งออกมาด้วยความตกใจ

 

อย่างไรก็ตามแม้จะอุทานออกมาด้วยความตกใจ แต่ต้วนหลิงเทียนก็กัดฟันหยิบยันต์เต๋าเทพเคลื่อนระดับ 3 ดาวมาแผ่นหนึ่ง ในใจรู้สึกเจ็บปวดนัก!

 

หากทว่าในช่วงจังหวะเวลาวิกฤต สิ่งนี้สามารถช่วยชีวิตเขาได้!

 

“คะแนนอุทิศ 300,000 แต้มหายไปในพริบตา! รวมกับโอสถเซียนก่อนหน้า ก็เป็น 500,000 คะแนนอุทิศแล้ว!”

 

ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้ถึงความรู้สึกของ ‘ใช้เงินเหมือนเทน้ำ’ จังหวะนี้ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดาย เรื่องที่เขาคืนคะแนนอุทิศไปครึ่งหนึ่งเสียไม่ได้

 

แน่นอนว่าเพียงเสียดายได้ไม่ทันไร เขาก็ไม่คิดอะไรมากอีก

 

ไม่ว่าจะอย่างไรการจ่ายคะแนนอุทิศคืนไปก็เป็นหนึ่งในตาหมากของเขา

 

ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ผลเลิศล้ำอะไรมากมาย แต่อย่างน้อยๆเขาก็สามารถผูกมิตรกับผู้คนในฝ่ายนอกได้เป็นส่วนใหญ่ ใครจะลงมือกับเขาก็ต้องมีกริ่งเกรงกันบ้าง

 

“ยังมียันต์ม่านพลังทองคำระดับ 3 ดาวนี่อีก…สามารถป้องกันการโจมตีจากผู้ฝึกตนขอบเขตสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ได้เป็นเวลา 1 เค่อ…200,000 คะแนนอุทิศ…ถึงมันจะถูกกว่ายันต์เทพเคลื่อน 3 ดาวแต่ก็ยังแพงเกิน!”

 

ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าไปมา

 

ยันต์เต๋า 3 ดาวนับว่าราคาขูดเลือดขูดเนื้อผู้คนนัก!

 

อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นยันต์เต๋าสายป้องกัน มันย่อมถูกกว่ายันต์เต๋าสายเคลื่อนที่อยู่แล้ว

 

ไม่เพียงแต่ยันต์เต๋าม่านพลังทองกับยันต์เต๋าเทพเคลื่อน 3 ดาวเท่านั้นที่ราคาต่างกัน กระทั่งยันต์เต๋าประเภทเดียวกันแต่เป็น 2 ดาวก็มีราคาแตกต่างกันตามสัดส่วนนี้ด้วย

 

ยันต์เต๋าม่านพลังทองระดับ 2 ดาวนั้น ราคา 20,000 คะแนนอุทิศ

 

ส่วนยันต์เต๋าเทพเคลื่อนระดับ 2 ดาวนั้นมีราคา 30,000 คะแนนอุทิศ

 

“ถึงจะเป็นยันต์เต๋า 2 ชนิดนี้แต่มีระดับ 1 ดาว ราคาก็ยังต่างกันตามสัดส่วนนี้…2,000 กับ 3,000 คะแนนอุทิศ แต่ผลของยันต์ระดับ 1 ดาวนั้นไม่ได้ดีเด่อะไร ยันต์เทพเคลื่อน 1 ดาวทำให้มีความเร็วทัดเทียนกับสู่เซียนขั้นต้น…ส่วนยันต์ม่านพลังทอง 1 ก็แค่ป้องกันการโจมตีธรรมดาของผู้ฝึกตนขอบเขตสู่เซียนขั้นต้นได้เท่านั้น”

 

สำหรับต้วนหลิงเทียนแล้ว ยันต์เต๋า 1 ดาวนี้ไม่ได้มีความสำคัญสักเท่าไร

 

ในเมื่อมียันต์เต๋าป้องกันกับการเคลื่อนที่แล้ว แน่นอนว่าต้องมียันต์เต๋าสำหรับโจมตีด้วยเช่นกัน

 

ยังมียันต์เต๋าโจมตีมากมายหลายประเภทอีกด้วย ทำให้ต้วนหลิงเทียนถึงกับชมดูจนละลานตาอยู่บ้าง

 

อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนยืนยันได้เรื่องหนึ่ง

 

นั้นคือยันต์เต๋าสายโจมตีนั้น ราคาแพงกว่ายันต์เต๋าประเภทป้องกันกับเสริมความเร็วมาก! ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ยังมียันต์เต๋าประเภทโจมตีแค่ 1 กับ 2 ดาวขายเท่านั้น มันไม่มียันต์เต๋าประเภทโจมตีระดับ 3 ดาวขายเลยแม้แต่ใบเดียว!!

 

ยันต์เต๋าสายจู่โจมระดับ 2 ดาว สามารถสร้างการโจมตีที่รุนแรงเทียบได้กับผู้ฝึกตนขอบเขตสู่เซียนขั้นเชี่ยวชาญ

 

หากปะทะกับผู้ฝึกตนที่อยู่ในขอบเขตสู่เซียนขั้นเชี่ยวชาญหรือต่ำกว่านั้น ยันต์เต๋าสายจู่โจมระดับ 2 ดาวนี้สามารถสังหารพวกมันได้ และต่อให้ไม่ตายก็ต้องพิการ!

 

“ราคายันต์เต๋าสายจู่โจมระดับ 2 ดาวกลับแพงเท่าๆราคายันต์เต๋า 3 ดาวเลยเหรอ…นี่มันบ้าไปแล้ว!”

 

ต้วนหลิงเทียนถึงกับเดาะลิ้นอย่างขัดใจ

 

อย่างไรก็ตามเขายังหยิบยันต์เต๋าจู่โจมระดับ 2 ดาวไปใบหนึ่งเพื่อเก็บไว้ใช้งานยามคับขัน

 

หลังจากที่เดินดูสิ่งของทั่วชั้น 3 ของศาลาอุทิศแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็จับจ่ายใช้สอยไปถึง 700,000 คะแนนอุทิศ!

 

โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีศิษย์คนไหนอยู่ที่ชั้น 3 ของศาลาอุทิศ หาไม่แล้วหากพวกมันเห็นต้วนหลิงเทียนหอบของพะรุงพะรังแบบนี้มันต้องตกใจจนตาเหลือก

 

อย่างไรก็ตาม พอต้วนหลิงเทียนนำสิ่งของทั้งหมดไปชำระคะแนนอุทิศที่โต๊ะรับรอง เขาก็ทำให้ชายวัยกลางคนทั้ง 2 ที่ประจำโต๊ะรับรองถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตะลึง

 

“จะ…เจ้าแน่ใจนะว่าจะซื้อหมดนี่เลย?”

 

หนึ่งในผู้ดูแลกลืนน้ำลายลงคอ ค่อยกล่าวถามออกมาด้วยความเหลือเชื่อ

 

มันจำต้องถามออกมา!

 

เพราะแม้แต่ศิษย์ฝ่ายในก็ไม่มีใครจับจ่ายมือเติบถึงเพียงนี้!

 

ยิ่งไปกว่านั้น จากป้ายประจำตัวที่ชายหนุ่มเบื้องหน้าห้อยแขวนที่เอว ก็บอกฐานะชัดว่าเป็นแค่ศิษย์ฝ่ายนอกเท่านั้น

 

“ส่งบัตรแก้วมาเถอะ”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกเสียงเรียบ และทันทีที่คะแนนอุทิศไหลออกจากบัตรแก้วเขาไป 700,000 แต้ม เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดอยู่บ้าง

 

เมื่อเห็นว่าคะแนนอุทิศจำนวน 700,000 แต้มถูกถ่ายโอนมาจริงๆ ชายวัยกลางคนที่ประจำโต๊ะรับรองถึงกับอื้ออึง หันหน้ามามองสบตากันทันใด และเห็นถึงความประหลาดใจในสายตาของอีกฝ่าย

 

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ศิษย์ฝ่ายนอกมี ‘ทรราชท้องถิ่น’ แบบนี้…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด