War sovereign Soaring The Heavens 1569

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 1569 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คฤหาสน์หลิ่งหนานหยวน

 

“ท่านปู่ พวกเรามิมีหลักฐานเอาผิดมัน…”

 

ซือถูหังกล่าวออกด้วยรอยยิ้มขื่นขม

 

“มิใช่ว่ามีคุณชายท่านนี้หรอกรึ?”

 

ซือถูโฮ่วกล่าวออกมา ก่อนที่จะหันมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาเลื่อมไส เห็นได้ชัดว่าเชื่อถือในความสามารถของต้วนหลิงเทียนแล้ว

 

แน่นอนว่านี่เป็นเพราะต้วนหลิงเทียนพึ่งสร้างปาฏิหาริย์ ฟื้นฟูอาการซือถูหังได้ทันตาเห็น ซึ่งเรื่องนี้เป็นอะไรที่กระทั่งปรมาจารย์เซียนหลอมโอสถระดับ 4 ดาว ปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 4 ดาว และแม้แต่ปรมาจารย์แพทย์ที่เป็นหมอหลวงยังไม่อาจกระทำได้สำเร็จ!!

 

“จากที่คุณชายท่านนี้กล่าวบอก อาคมมาร ที่ว่ามันไร้ร่องรอยยากแยกแยะ…การที่คุณชายท่านนี้สามารถค้นพบอาคมมารได้ล้วนเป็นเพราะคุณชายมีความสามารถสูงส่ง…ทว่าคนอื่นไหนเลยจักมีปัญญาค้นพบมันได้?”

 

ซือถูหังเผยความกังวลออกมา

 

“ตราบใดที่คุณชายท่านนี้รักษาเจ้าจนหายดี ยังกล้ามีอ้ายอีตัวใดไม่เชื่อ?!”

 

ซือถูโฮ่วเห็นชัดว่าไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆทั้งสิ้น

 

“ถึงแม้ว่าคุณชายท่านนี้จักรักษาข้าได้ แต่เกรงว่าอาศัยเพียงถ้อยคำวาจา ย่อมมิอาจทำให้ผู้ใดเชื่อเรื่องอาคมมารได้ลง…เพราะหากคุณชายท่านนี้มิได้เล่าเรื่องราวของอาคมมารออกมา ข้าเองก็มิรู้ด้วยซ้ำว่าโลกหล้าที่แท้มีอาคมมารอยู่ด้วย แถมซือถูจั๋วมิใช่ตัวโง่งม มันย่อมปัดสวะให้พ้นตัว กระทั่งสามารถรอดพ้นข้อกล่าวหาไปได้แน่…”

 

ซือถูหังกล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ

 

“คุณชายซือถูกล่าวถูกแล้ว พวกเราไม่อาจวู่วาม…หากท่านคิดจะไปจับซือถูจั๋วที่ว่าจริง เรื่องนี้ต้องคิดให้มาก”

 

สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็กล่าวออกมา

 

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าซือถูจั๋วเป็นใคร แต่จากท่าทีของซือถูหังและซือถูโฮ่ว เห็นชัดว่าซือถูจั๋วต้องมีความเกี่ยวข้องกับซือถูหังในฐานะคู่แข่งหรืออะไรสักอย่าง

 

“คุณชายท่านนี้กล่าวถูกแล้ว…”

 

ซือถูหังพยักหน้าเห็นด้วยกับต้วนหลิงเทียน มันพยายามกระเสือกกระสนลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างยากลำบาก ค่อยประสานมือโค้งคารวะต้วนหลิงเทียนด้วยความขอบคุณ “ขอบคุณท่านปรมาจารย์ที่ช่วยเหลือข้า…หาไม่แล้วน่ากลัวว่าตัวข้าคงมิอาจอยู่พ้นเกินสิ้นเดือน…”

 

ถึงแม้ชายหนุ่มในชุดสีม่วงเบื้องหน้าจะยังไม่ทันรักษามันให้หายดี แต่อาการของมันก็ดีขึ้นทันตาเห็นราวปาฏิหาริย์ ยังเปลี่ยนคำเรียกหาด้วยความยกย่องเลื่อมไส

 

“คุณชายใหญ่ซือถูเกรงใจไปแล้ว”

 

ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆ

 

“ข้าขอทราบนามสูงส่งของท่านปรมาจารย์ได้หรือไม่?”

 

ซือถูหังกล่าวถามด้วยความสุภาพ

 

“ต้วนหลิงเทียน”

 

ภายใต้สายตาที่จับจ้องมองมาด้วยความสนใจบองซือถูหังกับซือถูโฮ่ว ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆกล่าวตอบ

 

จนถึงตอนนี้ยิ่งมองเขายิ่งประทับใจในตัวคุณชายใหญ่ผู้นี้นัก

 

ด้วยประสบการณ์ 2 ช่วงชีวิต สายตาในการดูคนของเขาไม่ใช่ต่ำทราม เพียงเห็นกริยาและการกระทำของอีกฝ่าย เขาก็รู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่คนรวยรุ่นที่ 2 จำพวกนายน้อยอวดดีนิยมวางอำนาจบาตรใหญ่ หากแต่เป็นสุภาพบุรุษและวิญญูชนอันเที่ยงแท้คนหนึ่ง

 

“เป็นปรมาจารย์ต้วนนี่เอง”

 

อย่างไรก็ตามอาการของซือถูหังก็ไม่ใช่ว่าจะฟื้นฟูดีขึ้นมากมายอะไร หลังยืนได้ไม่นานร่างมันก็ทรุดลงไปนั่งบนเตียงอีกครั้ง

 

“เสี่ยวหังเจ้าพักผ่อนก่อนเถอะ”

 

เห็นดังนั้น ซือถูเร่งวูบร่างมาประคองให้อีกฝ่ายนอนลงทันที

 

“อา”

 

ซือถูหังเชื่อฟังคำ ก่อนที่จะยิ้มให้ต้วนหลิงเทียนด้วยความขอบคุณอีกครั้ง สองตาปิดลงพักผ่อน…

 

ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนก็รู้งาน เมื่อเห็นซือถูโฮ่วเดินออกไป เขาก็เดินตามไปเพื่อให้ซือถูหังได้พักผ่อนดีๆ

 

“ปรมาจารย์ต้วนข้าต้องขออภัยกริยาไม่เหมาะสมและความหยาบคายที่ตัวข้ากระทำลงไปก่อนหน้านี้ด้วย…”

 

ทันทีที่ออกมาจากห้องของซือถูหัง ซือถูโฮ่วก็ประสานมือกล่าวขอขมาต้วนหลิงเทียนออกมาด้วยแววตาสำนึกผิดและเสียใจ เห็นได้ชัดว่ามันกล่าวถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่ลอบสั่งให้ผู้ดูแลฝูทดสอบต้วนหลิงเทียน

 

“อาวุโสโฮ่วอย่าได้คิดมากไป ข้าเข้าใจดีว่าท่านเป็นห่วงคุณชายใหญ่มากเพียงใด”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าว

 

หลังจากได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน ซือถูโฮ่วพลันยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ทั้งเร่งถามออกมาด้วยความสนใจทันที “ปรมาจารย์ต้วน ท่านใช่ยอดฝีมือในรายนามนภาหรือไม่?”

 

“ยอดฝีมือในรายนามนภา?”

 

เมื่อเห็นซือถูโฮ่วมองถามมาตาเป็นประกายด้วยความคาดหวัง ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะสับสน “เอ่อ…นั่นมันอะไรเหรอ?”

 

‘รายนามปฐพี’ เขาเคยได้ยินมาก่อน

 

หากแต่ ‘รายนามนภา’ นั่นมันอะไรกัน?

 

“ปรมาจารย์ต้วน…ท่านมิรู้จักรายนามนภาหรือ?”

 

เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนไม่คล้ายแสร้งทำเป็นไม่รู้จริงๆ ซือถูโฮ่วอดไม่ได้ที่จะกล่าวถามออกมาด้วยความประหลาดใจ

 

“ข้าพึ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกนี่ล่ะ”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบ “ข้าเคยได้ยินเรื่อง รายนามปฐพี มาก่อน ว่ามันมีไว้จัดอันดับยอดฝีมือในขอบเขตหลุดพ้นมนุษย์”

 

“รายนามปฐพีกับรายนามนภานั้นต่างกันราวฟ้าดิน…ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า มีรายนามปฐพีมากมายหลายชุดนัก หากแต่มีรายนามนภาเพียงแค่ราวๆ 10 กว่าชุดเท่านั้น”

 

ซือถูโฮ่วส่ายหัวไปมา

 

“ท่านบอกรายละเอียดของมันได้หรือไม่?”

 

หลังได้ยินคำของซือถูโฮ่ว ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวถามเพิ่มเติมออกมา เขาเริ่มสนใจรายนามนภาอะไรนี่ขึ้นมาแล้ว

 

จากนั้นภายใต้การกล่าวชี้แนะของซือถูโฮ่ว ต้วนหลิงเทียนก็ได้รับทราบว่ารายนามนภาที่ว่าคืออะไร มันคือสิ่งที่ขุมพลังชั้น 5 ได้จัดสร้างขึ้นภายใต้การปกครอง เป็นการจัดอันดับยอดฝีมือในขอบเขตสู่เซียน ในรายนามได้รวบรวมไว้ซึ่งรายชือของสุดยอดฝีมือขอบเขตสู่เซียน!

 

ประเทศฝูเฟิงแม้จะเป็นขุมพลังชั้น 6 และตั้งตัวเป็นประเทศอิสระ แต่กล่าวไปก็อยู่ภายในเขตอิทธิพลของขุมพลังชั้น 5 อย่างคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวน และยังต้องจ่ายส่วยเพื่อตัดปัญหาเช่นกัน

 

ในพื้นที่อิทธิพลของ คฤหาสน์หลิ่งหนานหยวนนั้นมีขุมพลังชั้น 6 ทั้งสิ้น 11 ขุมพลัง และประเทศฝูเฟิงก็เป็น 1 ในนั้น

 

ดังนั้นแล้วยอดฝีมือในรายนามนภาของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวน ก็คือสุดยอดฝีมือขอบเขตสู่เซียนในเขตอิทธิพลของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวน

 

ในบรรดายอดฝีมือขอบเขตสู่เซียนมากมายที่อยู่ในเขตอิทธิพลนี้ มีเพียงคนในประเทศฝูเฟิงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ติดอันดับในรายนามนภา

 

“ข้ามิคาดจริงๆว่าอย่างท่านปรมาจารย์ต้วนจักไม่ทราบเรื่องรายนามนภา…ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าปรมาจารย์ต้วนมาจากที่ใด?”

 

ซือถูโฮ่วกล่าวถามด้วยความสงสัย

 

“ข้ามาจากเขตปกครองของ 9 พันธมิตรน่ะ”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกไปตามตรง เพราะเดิมทีเขาก็ตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าจะขอแรงตระกูลซือถูให้ช่วยตามหา พวกป๋ายลี่หง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร

 

“เขตปกครอง 9 พันธมิตรหรือ?”

 

ซือถูโฮ่ว โค้งคิ้วขึ้น “หากข้าจำมิผิดเขตปกครอง 9 พันธมิต สมควรตั้งอยู่ในพื้นที่ชายขอบดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเรา เลยจากทะเลทรายลงไปตอนใต้…มิคิดเลยว่าสถานที่เช่นนั้นจักเพาะสร้างคนอย่างปรมาจารย์ต้วนขึ้นมาได้”

 

ซือถูโฮ่วถอนหายใจออกมา

 

“อาวุโสโฮ่ว ก่อนหน้าพวกท่านกล่าวถึง ซือถูจั๋ว ข้าสงสัยว่าคนผู้นี้เป็นใครกันเหรอ?”

 

ต้วนหลิงเทียนอยากรู้เรื่องนี้

 

ต้องทราบด้วยว่าคุณชายใหญ่ตระกูลซือถูอย่างซือถูหังนั้น คือว่าที่ผู้นำตระกูลซือถูคนต่อไป…

 

กลับมีบางคนคิดฆ่า!

 

ยิ่งไปกว่านั้นฟังจากแซ่แล้ว สมควรเป็นคนของตระกูลซือถู!

 

“ซือถูจั๋ว ก็นับเป็นคนในตระกูลซือถูของเรา อีกทั้งยังเป็นคุณชายรอง…หากแต่มันก็มิได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเสี่ยวหัง หากจะไล่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดจริงๆ เกรงว่าต้องย้อนไปหลาย 10 ชั่วอายุคน”

 

ซือถูโฮ่วกล่าวออกอย่างไม่รีบไม่ร้อน

 

จากคำพูดของซือถูโฮ่วทำให้ต้วนหลิงเทียนเข้าใจได้ ว่าซือถูจั๋วกับซือถูหังต่างก็เป็นรุ่นเยาว์ในตระกูลซือถู หากแต่ไม่ได้มาจากสายเลือดเดียวกัน

 

“การสืบทอดมรดกและตำแหน่งประมุขของตระกูลซือถูมิได้อิงตามสายเลือด หากแต่คัดเลือกจากคนในรุ่นรองที่มีความสามารถโดดเด่นที่สุด และทำการสนับสนุนอุ้มชูให้กลายเป็นประมุขคนต่อไป ตอนนี้ผู้นำตระกูลซือถูของพวกเราคือบิดาของเสี่ยวหัง…ทว่าด้วยความสามารถ เสี่ยวหังก็เป็นผู้ที่โดดเด่นที่สุด จึงเป็นเหตุผลที่ไฉนถูกตั้งให้เป็นว่าที่ผู้นำรุ่นต่อไป…”

 

ซือถูโฮ่วกล่าวสืบต่อ “อย่างไรก็ตามในชนรุ่นเดียวกันกับเสี่ยวหัง ก็ยังมีผู้ที่โดดเด่นอีกคน…หากเสี่ยวหังมิอาจดำรงตำแหน่งผู้นำได้ มันย่อมเสียบตำแหน่งว่าที่ผู้นำทันที และจักได้เป็นผู้นำคนต่อไปของตระกูล”

 

“คนผู้นั้นก็คือซือถูจั๋ว?”

 

หลังได้ยินเรื่องราวจากปากซือถูโฮ่ว ต้วนหลิงเทียนก็เข้าใจได้ทันทีว่าแรงจูงใจในการฆ่าซือถูหังของซือถูจั๋วคืออะไร…ที่แท้ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าคิดช่วงชิงตำแหน่งกล่ายเป็นผู้สืบทอดคนต่อไปของตระกูลซือถู

 

เพราะสุดท้ายแล้วตราบใดที่ซือถูหังยังมีลมหายใจ มันก็สิ้นไร้โอกาส…

 

“ใช่!”

 

ลูกตาซือถูโฮ่วทอประกายด้วยแสงเย็นเยียบค่อยกล่าวสืบต่อ “ข้ามิคิดเลยว่ามันจะหาญกล้าขนาดนี้…ถึงขั้นกล้าทำลายกฏของตระกูล!”

 

กฏข้อแรกของตระกูลซือถูก็คือ…ห้ามไม่ให้ลูกหลานในตระกูลเข่นฆ่ากันเองอย่างเด็ดขาด!

 

“ก็นะ…อาคมมาร มันไม่ใช่อะไรที่ผู้คนทั่วไปจะสามารถมองออกได้”

 

ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา

 

“ปรมาจารย์ต้วน ท่านก็พักอยู่ในเรือนของเสี่ยวหังเถอะ…ก่อนอื่นข้าจักรีบไปแจ้งเรื่องนี้ให้ผู้นำตระกูลทราบก่อน ตอนนี้ข้าไม่รบกวนท่านพักผ่อนแล้ว”

 

ซือถูโฮ่วกล่าวกับต้วนหลิงเทียนจบ ก็หันไปสั่งให้หญิงรับใช้ในเรือนมาดูแลต้วนหลิงเทียน ก่อนที่จะจากไป

 

“คุณชายต้วนโปรดตามข้ามาทางนี้”

 

ในฐานะเรือนของคุณชายใหญ่ตระกูลซือถู ย่อมมีสตรีรับใช้อยู่มากมาย เมื่อได้ยินคำสั่งของซือถูโฮ่ว หนึ่งในนั้นก็รีบเข้ามานำพาต้วนหลิงเทียนไปยังห้องพักทันที

 

ห้องพักนั้นแม้จะว่างเปล่า ไร้สิ่งของตกแต่งอะไรมากมาย แต่ก็สะอาดสะอ้านแลดูโล่งสบายน่าอยู่ สมควรมีคนมาปัดกวาดเช็ดถูเป็นประจำ

 

“คุณชายต้วนหากท่านต้องการอันใด ข้าน้อยรอฟังคำสั่งท่านอยู่หน้าประตู”

 

ในขณะที่สตรีรับใช้กล่าวกับต้วนหลิงเทียน นางก็พยายามเล่นหูเล่นตาโปรยเสน่ห์ใส่ต้วนหลิงเทียนเต็มที่ ถึงแม้นางไม่รู้ว่าชายหนุ่มในชุดสีม่วงคนนี้เป็นใคร และจะสามารถรักษาคุณชายใหญ่ได้หรือไม่ แต่อาศัยท่าทีปฏิบัติที่อาวุโสระดับสูงอย่างซือถูโฮ่วมีให้ นางก็ยินดีทอดสะพานเตรียมรับใช้ปรนิบัติเขาด้วยดี…ทุกเรื่อง!

 

หากนางสามารถทำให้ตัวตนเช่นนี้หลงใหลหรือถูกใจได้ ก็เป็นโอกาสที่นางจะได้ท่องทะยานขึ้นฟ้าในคราวเดียว…

 

อนิจจาแม้สตรีรับใช้นางนี้จะแลดูใช้ได้ทั้งทรวดทงองค์เอวเข้ารูปไม่เบา แต่ยังนับว่าห่างไกลจากคู่หมั้นทั้ง 2 ของต้วนหลิงเทียนหลายขุม

 

‘ไม่รู้ว่าตอนนี้ศิษย์พี่กับพวกลุงเฟิ่งไปอยู่ที่ไหน…ข้าหวังว่าทั้งหมดจะเดินทางมายังประเทศฝูเฟิงเช่นกัน’

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวพึมพำในใจ

 

‘ค่อยถามผู้นำตระกูลซือถูดู ว่ามีขุมพลังชั้น 5 ไหนที่มีแซ่หานบ้าง’

 

นี่เป็นเบาะแสเดียวที่ต้วนหลิงเทียนมีเกี่ยวกับภูมิหลังของหานเฉวี่ยไน่

 

ตระกูลของหานเฉวี่ยไน่นั้นเห็นชัดว่าสมควรเป็นตระกูลใหญ่ กระทั่งตระกูลหานโบราณในทวีปเมฆาล่อง ก็ถูกสร้างขึ้นด้วยข้ารับใช้ธรรมดาๆของตระกูลหานที่ออกจากตระกูลไปเมื่อ 10,000 ปีก่อน

 

และเรื่องที่เขาเดาว่าตระกูลของหานเฉวี่ยไน่น่าจะเป็นขุมพลังชั้น 5 ก็มาจากหินเซียนที่นางมอบให้เขา

 

หินเซียนที่นางมอบมา 9 ส่วนเป็นหินเซียนระดับ 5 และ 1 ส่วนเป็นหินเซียนระดับ 4

 

นี่เป็นไปตามเกณฑ์หินเซียนที่จะขุดได้จากสายแร่หินเซียนระดับ 5 ซึ่งมีขุมพลังชั้น 5 ครอบครอง!

 

ต้วนหลิงเทียนนอนคิดเรื่องราวอยู่บนเตียงไม่ได้เข้าไปฝึกฝนในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติแต่อย่างไร

 

เพราะเขารู้ดีว่าแม้จะเข้าไปฝึกก็ไม่อาจฝึกได้นาน

 

และหลังจากที่นั่งๆนอนคิดเรื่องราวอะไรไปได้ไม่ทันไร ต้วนหลิงเทียนก็ได้ยินเสียงเรียกของสตรีรับใช้หน้าห้อง ว่าผู้นำมารอพบเขาแล้ว

 

ผู้นำ ที่สตรีรับใช้กล่าวรายงานก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นผู้นำตระกูลซือถูนั่นเอง

 

ที่ต้วนหลิงเทียนไม่ได้เข้าไปฝึกในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติก็เพราะรู้ดีว่าผู้นำตระกูลซือถูต้องเร่งรุดมาหาเขาโดยเร็วที่สุดเป็นแน่! เพราะอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นบิดาบังเกิดเกล้าของซือถูหัง เมื่อรู้ว่ามีคนที่จะสามารถช่วยชีวิตลูกชายได้ปรากฏตัวออกมา ไหนเลยยังจะกล้ารอช้าได้?

 

นี่คือความห่วงใยของบุพการี!

 

ไม่มีบิดามารดาคนใดไม่รักลูก!

 

เมื่อก้าวออกมาจากห้องต้วนหลิงเทียนก็ได้เห็นซือถูโฮ่วอีกครั้ง และข้างๆซือถูโฮ่วก็มีร่างที่แลดูไม่ธรรมดามาด้วย อีกฝ่ายเป็นชายวัยกลางคน สูงเท่าค่าเฉลี่ยมาในชุดคลุมสีน้ำเงิน ใบหน้าหล่อได้รูปปานหยกเสลา หว่างคิ้วคมเข้มดั่งดาบ อำนาจบารมีแผ่พุ่งออกมาไม่น้อย

 

เห็นได้ชัดว่าสมควรเป็นผู้นำตระกูลซือถู ซือถูฮ่าว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด