War sovereign Soaring The Heavens 1863

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 1863 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1,863 : เสียใจ

 

5 ปี…แค่ 5 ปีเท่านั้น!

 

ถึงแม้ว่าตี้จิ่วจะยังไม่ได้คืนร่างจริง หากแต่มันก็ใช้พลังในร่างมนุษย์เต็มกำลัง ลงมืออย่างไร้ปราณีแล้ว!

 

อย่างไรก็ตาม ขนาดนั้นแล้วยังไม่อาจเอาชัยต้วนหลิงเทียนได้!

 

เรื่องนี้หมายความว่าอะไร?

 

นั่นหมายความว่าพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนทัดเทียมได้กับขอบเขตเซียนปฐพีขั้นต้น!

 

‘ปะ…เป็นไปได้อย่างไร เรื่องพรรค์นี้มันเป็นไปไม่ได้!ไม่มีทางเป็นไปได้!!’

 

ลูกตาตี้จิ่วเบิกกว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเสียขวัญระคนเหลือเชื่อ ไม่อาจทำใจยอมรับความจริงเบื้องหน้า…

 

“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้เก็บซ่อนไว้มิดชิดนัก!”

 

ตี้ชานเองก็ชักสีหน้าเคร่งเครียด

 

ตี้ชานย่อมเห็นชัดเจนว่าตี้จิ่วนั้นได้ลงมือสุดกำลังเท่าที่จะใช้ออกได้ในร่างมนุษย์แล้ว หากแต่ต้วนหลิงเทียนกลับสู้เสมอตี้จิ่วได้! นี่นับเป็นอะไรที่น่าตื่นตระหนกนัก!!

 

ขณะเดียวกันในใจของมันก็เริ่มบังเกิดความรู้สึกเสียใจขึ้นมา

 

หากมันล่วงรู้แต่แรกว่าพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนมันสูงถึงขนาดนี้ มันไม่มีวันยอมให้ตี้จิ่วรับคำท้าประลองเป็นตายเด็ดขาด!

 

เหตุผลเดียวที่ตี้ชานไม่คิดคัดค้านการประลองเป็นตาย เป็นเพราะมันได้ใช้สำนึกเทวะตรวจสอบพลังฝึกปรือต้วนหลิงเทียน จนได้รู้ว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้เป็นภัยคุกคามอะไรแล้ว…

 

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มังกรอย่าง ‘สระชำระมังกร’ นั้น มีค่ากับเผ่าพันธุ์มังกรอย่างยิ่งยวด! ทว่าหากเลือกได้…มันเลือกให้ตี้จิ่วมีชีวิตรอดดีกว่า!!

 

เพราะตี้จิ่วเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวที่มันมี

 

มันไม่มีวันยอมให้ตี้จิ่วเกิดเรื่อง!

 

ตอนนี้พอมาเห็นพลังความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียน ใจมันจึงสะท้านไปอย่างร้อนรน ‘ไม่ดีแล้ว!ตอนนี้ทางเดียวที่ตี้จิ่วจะเอาชนะได้มีเพียงคืนร่างมังกร! หวังว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนนั่นมันจะใช้พลังถึงขีดจำกัด…หาไม่แล้วคงยากที่ตี้จิ่วจะเอาชนะมันได้ เรื่องสังหารยิ่งไม่ต้องหวัง!’

 

แม้จะไม่ทราบว่าทำไม แต่ตี้ชานรู้สึกปวดแปลบขึ้นมาในใจอย่างบอกไม่ถูก

 

ตอนนี้ต่อให้เป็นตัวมัน ก็ยากที่จะสงบใจลงได้อีก

 

“เป็นไปได้อย่างไรกัน!?”

 

ไม่ว่าจะระดับสูงหรือต่ำ ตอนนี้คนของเผ่าพันธุ์มังกรล้วนตกตะลึงกันทั้งสิ้น

 

พวกมันไม่ใช่ตัวโง่งม เพียงเห็นเรื่องราวบนฟ้าตอนนี้ ก็ตระหนักได้ชัดเจน…การลงมือครั้งนี้ ตี้จิ่วสมควรลงมือเต็มที่แล้ว หากทว่ายังทำได้แค่เสมอกับต้วนหลิงเทียน!

 

“อึก~~”

 

“อึก~~ อึก ~~”

 

“อึก~~ อึก ~~ อึก ~~”

 

……

 

ครู่ต่อมาเสียงกลืนน้ำลายของคนเผ่ามังกรพลันดังขึ้นไปทั่วหุบเขา แต่ละคนตอนนี้อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอจริงๆ ต่างรู้สึกเสมือนลำคอแห้งผากอย่างไรไม่ทราบ!!

 

นี่เผยให้เห็นว่าคนของเผ่ามังกรทั้งหมด ต่างรู้สึกกดดันจากพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียน!

 

“นายน้อยตำหนักเมฆาครามช่างเหนือความคาดหมายยิ่งนัก! ครั้งแรกอาจกล่าวได้ว่าเป็นตี้จิ่วที่ย่ามใจประมาทคู่ต่อสู้เอง…ทว่าครั้งที่สองนี่ตี้จิ่วที่ลงมือเต็มกำลังแล้ว กลับทำได้แค่ทัดเทียมจริงๆ!”

 

“สมแล้วที่เป็นบุตรชายของต้วนหรูเฟิงจ้าวตำหนกเมฆาคราม ทั้งบิดาทั้งบุตรล้วนเป็นปีศาจด้วยกันทั้งคู่!”

 

“มิน่าแปลกใจเลยที่ไฉนต้วนหลิงเทียนถึงได้กล้าท้าประลองเป็นตายกับตี้จิ่ว ที่แท้มีความมั่นใจว่าสามารถเอาชนะตี้จิ่วได้! ว่าแต่จักฆ่าตี้จิ่วได้จริงๆหรือ?”

 

“นั่นสิ จะอย่างไรตอนนี้ตี้จิ่วก็ยังคงใช้ร่างมนุษย์อยู่ แม้จะสู้เสมอก็ใช่ว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะตัดสินได้…หากตี้จิ่วหวนคืนสู่ร่างมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บ ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของสายเลือดขัตติยะจักสำแดงออกมา! กระทั่งยังใช้เวทย์พลังที่สืบทอดต่อกันมาของเผ่าพันธุ์มังกรได้!!”

 

“เวทย์พลังของเผ่าพันธุ์มังกรข้าเองก็เคยได้ยินคำร่ำลือมา…มีเพียงมังกรที่โดดเด่นเท่านั้นที่จักควบคุมใช้งานมันได้!”

 

“ใช่ ด้วยเหตุนี้หากตี้ติ่วหวนคืนสู่ร่างที่แท้จริง พลังอำนาจย่อมเหนือล้ำสุดที่ร่างมนุษย์จะเทียบได้”

 

 

ผู้คนของขุมพลังกึ่งชั้น 3 ต่างกล่าวคาดเดากันไปต่างๆนาๆ

 

ถึงแม้พลังฝีมือที่ต้วนหลิงเทียนสำแดงออกมาจะร้ายกาจไม่เบา แต่ก็ไม่มีใครมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะตี้จิ่วได้แน่ๆหากตี้จิ่วหวนคืนสู่ร่างกายที่แท้จริง…

 

เพราะสุดท้ายแล้วร่างที่แท้จริงของตี้จิ่วไม่ใช่แค่มังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บทั่วไป แต่เป็นมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บ!!

 

“ฆ่า!!”

 

น่านฟ้ากลางหุบเขา ตี้จิ่วได้ลงมือเคลื่อนไหวอีกครั้ง ลูกตาทออำมหิตดุร้าย พลังอาคมเซียนทั้ง 10 ในตัวดาบเปล่งพลังอำนาจเต็มกำลัง!

 

ส่วนอีกด้านนั้น ต้วนหลิงเทียนที่เผชิญหน้ากับการลงมือเต็มกำลังของตี้จิ่วอีกรอบก็ไม่ได้ครั่นคร้ามใด พุ่งทะยานเข้าใส่พร้อมจ่ายพลังลงกระบี่ทมิฬ มวลปราณผนึกควบถ่ายทอดเปิดใช้อาคมจารึกเซียนทั้ง 10 บนตัวกระบี่เช่นกัน!

 

วู้ม! วู้ม! วู้ม!

……

 

อาคมเซียนทั้ง 10 ในตัวดาบตี้จิ่วแผลงฤทธิ์ไม่ใช่ชั่ว ทุกคราที่ตี้จิ่วฟันฟาดดาบเล่มเขื่องออก ปรากฏคลื่นพลังสะบั้นฉีกฟ้าแหกไปเป็นทาง คลื่นพลังแลดูเกรี้ยวกราดดุร้ายราวกับจะผ่าร่างต้วนหลิงเทียนให้จงได้!

 

อนิจจาคลื่นสะบั้นว่าร้ายกาจแล้ว เชิงกระบี่ของต้วนหลิงเทียนยิ่งไม่ใช่ชั่ว ทุกคลื่นสะบั้นล้วนถูกกระบี่ชักนำให้เบี่ยงทิศทาง บ้างก็อาศัยท่าร่างพิสดาร คนคล้ายเมฆควันยากจับต้อง หลบหลีกการโจมตีไปได้อย่างเหนือคาดคิด

 

ยิ่งมาการปะทะย่อมเผยสูงต่ำ กระบี่ต้วนหลิงเทียนแต่ละครั้งที่วาดออก รังสีพลังคล้ายมีดวงตางอกเงยพุ่งไปเชือดเฉือนร่างแกร่งของตี้จิ่วจนเป็นแผลเล็กแผลน้อย!!

 

พั่บ! พั่บ!

 

กลับกัน การโจมตีส่วนใหญ่ของตี้จิ่วได้แต่จั่วอากาศฟาดฟ้าฆ่าลม! ถูกต้วนหลิงเทียนที่ใช้เวทย์พลังปีกอีกาทองคำพลิ้วหลบได้ได้อย่างหมดจด!!

 

เรียกว่าถึงแม้เขาเองจะไม่อาจทำร้ายตี้จิ่วให้เป็นแผลฉกรรจ์ แต่ตี้จิ่วก็เสมือนคนตาบอดไขว่คว้าหมอกควัน!

 

ไม่ใช่ว่าต้วนหลิงเทียนไม่คิดทำร้ายตี้จิ่วให้เจ็บหนัก หรือกระทั่งปะทะหักหาญหมายเอาชัยตี้จิ่วตรงๆ…แต่เพราะเขาเองก็ทำไม่ได้!

 

ตอนนี้เหตุผลเดียวที่ทำให้เขาสามารถต่อกรกับตี้จิ่วผู้อยู่ในขอบเขตเซียนปฐพีขั้นต้นได้อย่างไม่เสียเปรียบนั้น เป็นเพราะปราณสุริยันแรกกำเนิดที่เพิ่มพูนขึ้นจากปฐมเวทย์กลืนกิน!

 

ทว่าปราณสุริยันแรกกำเนิดเหล่านี้มิใช่จะคงอยู่ตลอดไป!

 

แต่เมื่อมันหมดลงเขาสามารถใช้ปฐมเวทย์กลืนกินเพิ่มพูนขึ้นมาอีกครั้งได้!

 

แน่นอนว่าจนถึงตอนนี้ต้วนหลิงเทียนยังไม่ได้ใช้ปฐมเวทย์กลืนกินเต็มกำลัง ก่อนหน้านี้แม้เขาจะเริ่มสร้างอาณาเขตดูดกลืนได้ถึง 10 หมี่แล้ว แต่เพียงดูดกลืนพลังเข้าร่างแค่บางส่วนเท่านั้น…หากคิดจะเพิ่มพลังมากกว่านั้นเขาจำต้องดูดกลืนให้มากกว่านี้!!

 

ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากดูดกลืนพลังให้มากกว่านั้น…ทว่าเขาต้องหาโอกาสอันดีที่จะใช้ปฐมเวทย์กลืนกินให้พบเสียก่อน!

 

การใช้ปฐมเวทย์กลืนกินนั้นมันสร้างภาระให้ร่างกายเขาไม่น้อย

 

อีกทั้งทุกชั่วขณะเวลาพลังวิญญาณของเขาก็พร่องไปด้วยความเร็วน่ากลัวนัก ทั้งหมดเพื่อคงสภาพปฐมเวทย์กลืนกิน!

 

“ตี้จิ่วข้าขอเตือนอะไรเจ้าอย่าง…รีบคืนร่างที่แท้จริงเสียเถอะ อาศัยพลังเพียงเท่านี้ของเจ้า ชาติหน้าก็ฆ่าข้าไม่ได้หรอก!”

 

ทันใดนั้นเองต้วนหลิงเทียนก็แผ่พลังเข้าสู่ปีกอีกาทองคำเพิ่มเล็กน้อย ทำให้ตัวปีกปลดปล่อยอานุภาพสูงขึ้นไปอีกระดับ ยังผลให้ความเร็วของต้วนหลิงเทียนกลายเป็นเหนือกว่าตี้จิ่ว! ฉีกระยะทิ้งห่างมันออกมาทันที!!

 

แน่นอนว่าการเพิ่มพลังเพื่อเร่งความเร็วนั้น มันกินปราณสุริยันแรกกำเนิดของต้วนหลิงเทียนมากขึ้น!เขาจึงไม่คิดใช้ความเร็วระดับนี้ตลอดเวลา!!

 

เพียงแค่ใช้ออกมาตอนนี้ ในใจต้วนหลิงเทียนก็แทบจะหลั่งเลือดเสียให้ได้!

 

“เร็วยิ่ง!”

 

ผู้ชมจากขุมพลังกึ่งชั้น 3 พอเห็นต้วนหลิงเทียนอยู่ๆก็ปะทุความเร็วเหนือชั้นออกมา ถึงกับเบิกตาโพลงปานลูกวัวแรกเกิด! ส่วยคนของเผ่าพันธุ์มังกรด้วยไม่ว่าจะระดับต่ำสูง เรียกว่าหน้าผวานัยน์ตาหดไปไม่น้อย!

 

พวกมันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าต้วนหลิงเทียนยังจะเร่งความเร็วขึ้นได้อีก!

 

และความเร็วที่ต้วนหลิงเทียนใช้วูบร่างฉีกระยะออกไปเมื่อครู่ เรียกว่าเกินขอบเขตความเร็วของเซียนปฐพีขั้นต้นไปแล้ว…แทบจะบรรลุถึงขอบเขตเซียนปฐพีขั้นกลางเต็มที!!

 

สีหน้าผู้นำเผ่าพันธุ์มังกร ตี้ชาน ยิ่งมายิ่งบิดเบี้ยวอัปลักษณ์ ตอนนี้มันเริ่มอยู่ไม่สุขแล้ว ยังรู้สึกราวกับมีอันตรายมาจ่อที่คอหอย!

 

“ตี้จิ่ว รีบคืนร่างจริงแล้วฆ่ามันให้เร็วที่สุด!!”

 

ตี้ชานไม่อาจทนต่อไปได้ไหว เร่งส่งเสียงกล่าวเตือนตี้จิ่วทันที “ต้วนหลิงเทียนนั่นมันผิดมนุษย์เกินไป!รีบคืนร่างที่แท้จริงแล้วฆ่ามันให้เร็วที่สุด หาไม่แล้วข้าเกรงว่าเจ้าอาจจะมิใช่คู่ต่อสู้ของมัน!!”

 

ต่างกับใบหน้าหวาดกลัวเต็มไปด้วยความวิตกกังวลของคนเผ่าพันธุ์มังกร ด้านคนของตำหนักเมฆาครามถึงกับเผยยิ้มออกมาอย่างสนุกสนาน!

 

ถึงแม้ว่าพวกมันจะยังประหลาดใจในความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียน แต่ทว่าภาพเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นอะไรที่พวกมันอยากจะเห็นนัก!

 

“น้องต้วนฆ่ามัน! ระเบิดพลังปลิดหัวสุนัขของมันทิ้งเสีย!!”

 

กู่ลี่ที่เดิมเคร่งเครียดบัดนี้กู่ร้องอย่างลืมมาด หมัดของมันกำแน่นชูขึ้น วาจาที่ตะโกนยังฮึกเหิมลำพองไม่น้อย

 

ส่วนด้านคนของตลาดมืดหยินชานทั้ง 3 นอกจากตัวผู้นำอย่างตู้กูที่มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาสนใจ เฝิงปู่อี้กับจงฉีชานรองผู้นำตลาดมืดหยินชานทั้งสอง ต่างอึ้งเป็นตัวโง่งมไปพักหนึ่งแล้ว

 

พลังฝีมือของนายน้อยตำหนักเมฆาครามร้ายกาจเหลือเกิน!

 

นี่ช่างเหนือความคาดหมายของพวกมันนัก!

 

หลังจากนั้นครู่หนึ่งคล้ายพวกมันนึกอะไรได้ออก ต่างหันขวับไปมองผู้นำของพวกมันอย่างพร้อมเพรียง

 

ดูเหมือนว่าในบรรดาพวกมัน จะมีเพียงผู้นำของพวกมันเท่านั้น ที่แลเห็นถึงความสามารถอันสูงส่งของต้วนหลิงเทียนแต่แรก

 

“ในเมื่อเจ้ารีบร้อนด่วนตายนัก! ข้าจะสนองให้!!”

 

เผชิญหน้ากับความเร็วที่ปะทุออกในฉับพลันของต้วนหลิงเทียน ทั้งได้ยินเสียงกล่าวเตือนจากตี้ชาน ตี้จิ่วก็ไม่คิดฝืนรั้งอะไรอีกต่อไป มันเลือกคืนร่างจริงทันที!

 

ทันใดนั้นทั้งหุบเขาก็คล้ายจะถูกเงาดำขนาดมหึมาคลุมครอบ ร่างมังกรที่แท้จริงอันใหญ่โตมหึมาของตี้จิ่วพลันปรากฏขึ้นกลางหาว…!

 

กล่าวให้ชัดมันคือร่าง มังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บ!

 

ลำตัวของมันเลื้อยลดขนดยาวหลายร้อยหมี่ เกล็ดสีทองทั่วร่างยอมต้องแสงอัสดงต่างสะท้อนประกายเรืองระยับ ยามร่างมันลอยล่องตระหง่านค้างกลางหาวเช่นนี้ ให้ความรู้สึกคล้ายตัวตนอมตะไร้วันตาย

 

ทันใดนั้นเองเสียงมังกรคำรามพลันก้องไปทั่วฟ้า!

 

เป็นตี้จิ่วเงยหน้าขึ้นกู่ร้องคำรามประกาศศักดิ์ดา!

 

หลังจากที่มันกู่ร้องคำรามแล้ว ศีรษะมังกรมหึมาก็ค่อยๆลดลงมามองร่างต้วนหลิงเทียน กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงโอหังถือดี “ไม่ใช่เจ้าเรียกร้องหาร่างที่แท้จริงของข้างั้นหรือ คราวนี้เจ้าจักได้ตายสมใจ!!”

 

ทันทีที่กล่าวจบคำร่างมหึมาของตี้จิ่วก็เคลื่อนไหวทันที!

 

ร่างของมันแม้จะใหญ่โตมหึมา แต่กลับหาได้เทอะทะเชื่องช้าไม่! ลงมือจู่โจมออกได้ในเสี้ยวพริบตา!!

 

หางมังกรสะบัดตบฟาดมาอย่างทรงอานุภาพยิ่งกว่าเชือกแส้ใดๆทั้งมวล! แหวกฟ้าถาโถมเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนอย่างเกรี้ยวกราด!!

 

บรึมม!!

 

เสียงลมระเบิดดังลั่นก้องหุบเขา ชั่วพริบตาหางมังกรน่ากลัวก็เจียนบรรลุถึงตัวต้วนหลิงเทียนเต็มที!หากต้วนหลิงเทียนไม่รีบหลบหลีกมิแคล้วถูกตบฟาดปลิดปลิวละลิ่วแน่!!

 

ทว่าในห้วงเวลาสุ่มเสี่ยงนี้เอง ปฐมเวทย์กลืนกินของต้วนหลิงเทียนพลันสำแดงอำนาจอีกครั้ง!อาณาบริเวณกินรัศมี 10 หมี่รอบกายปรากฏวังวนหนึ่ง ดูดกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินเข้าร่างเร็วรี่!!

 

พั่บ! พั่บ!

 

ปีกอีกาทองคำคู่งามกระพือออกด้วยความฉับไว ส่งร่างต้วนหลิงเทียนพุ่งทะยานขึ้นฟ้าในห้วงเวลาสุดท้าย หลีกหลบหางมังกรของตี้จิ่วที่ฟาดเข้ามาได้อย่างฉิวเฉียด! การลงมือครั้งแรกหลังคืนร่างที่แท้จริงของตี้จิ่ว…เป็นอันพลาดเป้า!!

 

ตอนนี้ปราณสุริยันแรกกำเนิดในร่างของต้วนหลิงเทียน ก็ได้เพิ่มพูนขึ้นถึงขีดจำกัดเท่าที่เขาจะทำได้ในตอนนี้แล้ว!

 

เหตุผลที่กล่าวว่าถึงขีดจำกัดในตอนนี้ ไม่ใช่เพราะปฐมเวทย์กลืนกินสามารถเพิ่มพลังให้ต้วนหลิงเทียนได้แค่นี้ แต่เป็นเพราะเขายังไม่แตกฉานมันจนถึงขั้นตอนไร้ตำหนิ จึงทำให้เขาสามารถดูดกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบมาเพิ่มพูนปราณแรกกำเนิดได้เท่านี้..

 

‘ปราณสุริยันแรกกำเนิดระดับนี้…น่าจะมากพอให้จัดการตี้จิ่วแล้ว’

 

สูดลมหายใจเข้าลึกๆครั้งหนึ่ง ต้วนหลิงเทียนพลันกะพือปีกอีกาทองคำอีกครั้ง ส่งร่างพุ่งทะยาน เหินไปปานอัสนีข้ามฟ้า!

 

และทิศทางที่เขาพุ่งไปคราวนี้กลับไม่ใช่พื้นที่โล่งอะไร แต่เป็นศีรษะของตี้จิ่ว!

 

“เจ้าคิดว่าจักหลบได้ตลอดงั้นเหรอ!?”

 

ตี้จิ่วเริ่มร้อนรนใจขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อพบว่าความเร็วของต้วนหลิงเทียนคล้ายจะเพิ่มสูงขึ้นอีกแล้ว!

 

ถึงแม้ตัวมันจะคืนร่างจริงแล้วแท้ๆ แต่ความเร็วของมันในร่างที่แท้จริง กลับยังไม่อาจเทียบต้วนหลิงเทียนได้!

 

นับเป็นครั้งแรก ที่ลึกๆข้างในของมันเริ่มบังเกิดความรู้สึกเสียใจขึ้นมา!

 

เสียใจที่ดันไปรับคำท้าประลองเป็นตายของต้วนหลิงเทียนตั้งแต่แรก!

 

เพราะตอนนี้มันไม่มีความมั่นใจเลย ว่าจะฆ่าต้วนหลิงเทียนได้หรือไม่!

 

เพราะความเร็วของต้วนหลิงเทียนในตอนนี้ สุดที่มันจะจับได้ไล่ทัน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด