War sovereign Soaring The Heavens 2070

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 2070 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2,070 : อยู่บนยอดคลื่น

 

ก่อนหน้านี้ไม่นาน ชิวมู่ชิง ได่นั่งลงข้างบุรุษแปลกหน้าคนหนึ่ง และบุรุษแปลกหน้าคนนั้นก็ทะเลาะกับคุณชายรองตระกูลตงฟางอย่างตงฟางฉู่ มิหนำซ้ำไม่เพียงทรมานคุณชายรองตระกูลตงฟาง บุรุษแปลกหน้าผู้นั้นยังกล้ากระทั่งยังซัดร่างคุณชายรองกระเด็นตกเหลา?!

 

จากนั้น ชิวมู่ชิงก็จูงมือบุรุษผู้นั้นวิ่งออกจากเหลาไป?!

 

หลังได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ชิวกังยี่ ผู้เป็นนายท่านรองหรือรองผู้นำของของสกุลชิว ก็แทบจะอกแตกตายด้วยโทสะ! สีหน้ายังเปลี่ยนเป็นสีเขียวปั๊ดด้วยความโมโห!

 

ยิ่งคิดก็ยิ่งเขียวจนแทบจะม่วงแล้วด้วยซ้ำ!!

 

สองตายังเบิกกว้างทอประกายดุร้ายเอาเรื่อง คำรามออกเสียงหนัก “ชิวมู่ชิง…นังตัวดี! มิใช่ว่าแต่ก่อนเจ้าถือตัวมากนักหรือไร!? ไฉนอยู่ๆถึงได้กระทำการเหลวไหลไร้ยางอายเช่นนี้ได้!?”

 

“บัดซบ! นางมิรู้หรือไรกระทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะหักหน้าตระกูลตงฟางอย่างแรง! ยังแทบจะผลักไสให้อีกฝ่ายกลายเป็นศัตรูที่ไม่อาจมองหน้ากับสกุลชิวเราได้อีก!!”

 

“กลับตระกูล!”

 

หลังกล่าวบ่นจบ ชิวกังยี่ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับโทสะ ค่อยกล่าวตวาดสั่งคนออกมาเสียงเย็น

 

‘กลับไปถึงตระกูลเมื่อไหร่ ข้าจะไปหาความจากตัวดีชิวมู่ชิงนั่น! คอยดูกันเถอะว่านังตัววดีจักมีคำอธิบายอันใด แล้วที่แท้บุรุษบัดซบนั่นมันเป็นผู้ใดกันแน่ ถึงทำให้นางกล้าปล่อยเนื้อปล่อยตัวจูงมือมันต่อหน้าผู้คนอย่างไม่สนเรื่องข้อห้ามหญิงชายเช่นนี้…’

 

‘จูงมือบุรุษอื่นต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนั้น การแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างตระกูลตงฟางกับตระกูลชิวล้วนเป็นหมันสิ้น! คนตระกูลตงฟางไหนเลยจะรับสตรีที่ชื่อเสียงมัวหมองเช่นนี้เป็นสะใภ้!’

 

ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ สีหน้าชิวกังยี่ก็ยิ่งคล้ำขึ้นเท่านั้น

 

เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับตระกูลใหญ่อย่างตระกูลตงฟางก็คือชื่อเสียง และ หน้าตา!

 

วันนี้คุณหนูตระกูลชิวอย่างชิวมู่ชิงกล้าจูงมือบุรุษออกจากเหลาต่อหน้าผู้คนมากมาย เรื่องนี้มากพอจะทำให้ชื่อเสียงของชิวมู่ชิงจบสิ้น น้ำแข็งใสหยกกระจ่างใดไม่มีแล้ว!

 

สำหรับตระกูลใหญ่อย่างตงฟาง…ย่อมไม่มีวันแต่งสะใภ้ที่เสื่อมเสียมัวหมองเช่นนี้เข้าตระกูลเด็ดขาด!!

 

‘ชิวมู่ชิง! นังตัวดี! ครั้งนี้เจ้าเอาแต่ใจเกินไปแล้ว!!’

 

‘แต่ปกตินังตัวดีนี่ก็เอาแต่ใจเล็กๆน้อยๆเท่านั้นมิเคยทำให้ตระกูลเดือดร้อน…ไฉนครั้งนี้นางถึงกล้าก่อปัญหาใหญ่ได้ นางไม่ทราบหรือไรว่าเรื่องนี้มันร้ายแรงจนถึงขั้นทำลายความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเรากับตงฟางที่มีมาช้านานจนหมดสิ้น!?’

 

‘เหอะ! คราวนี้ต่อให้ประมุขคิดจะปกป้องนาง ก็ไม่อาจปกป้องนางได้สืบไป! อย่างไรนางต้องโดนลงโทษสถานหนัก!!’

 

ระหว่างเดินทางกลับ สีหน้าชิวกังยี่ยิ่งมายิ่งมืดคล้ำดำลงปานจะคั้นได้เป็นน้ำหมึก ในใจคาดโทษชิวมู่ชิงเอาไว้สาหัสนัก!

 

มันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชิวมู่ชิงที่มันคาดโทษในใจ ไม่เพียงจูงมือบุรุษต่อหน้าผู้คน ยังพาบุรุษผู้นั้นเข้าตระกูลชิว กระทั่งถึงขั้นพาเข้าเรือนของนาง…

 

“นายท่านรอง!”

 

“นายท่านรอง!”

 

……

 

บริเวณประตูหน้าของตระกูลชิว เมื่อข้ารับใช้ที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูเห็นชิวกังยี่มาถึง พวกมันก็เร่งรุดคารวะทันที

 

“พวกเจ้า…เห็นคุณหนูใหญ่ของพวกเจ้ากลับมาแล้วหรือไม่?”

 

ชิวกังยี่มองจ้องไปยังผู้เฝ้าประตูทั้งหลายตาเขม็ง กล่าวถามออกเสียงเหี้ยม

 

“คุณหนูใหญ่กลับมาแล้วท่านรองผู้นำ”

 

ข้ารับใช้สกุลชิวคนหนึ่งกล่าว

 

“ไม่เพียงคุณหนูใหญ่จะกลับมาแล้ว…คุณหนูใหญ่ยังพาแขกมาด้วยคนนึงขอรับ”

 

อีกคนกล่าวเสริม

 

“แขกรึ?”

 

ได้ยินวาจานี้จากข้ารับใช้เฝ้าประตู ลูกตาชิวกังยี่หดหยีลงทันใด ลมหายใจยังเริ่มถี่ขึ้น ทว่าเสียงกล่าวกลับเยียบเย็นถึงขีดสุด “อย่าได้บอกข้า…ว่าแขกที่คุณหนูพากลับมา เป็นชายหนุ่มชุดม่วง”

 

เรียกว่าท้ายประโยค เสียงชิวกังยี่เยียบเย็นจนแทบจะแช่ผู้คนให้เป็นน้ำแข็ง!

 

“ใช่ขอรับ”

 

แม้จะได้ยินว่าน้ำเสียงของชิวกังยี่ผิดท่าอยู่บ้าง แต่ข้ารับใช้เฝ้าประตูไหนเลยจะกล้ารอช้าหรือปิดบังอะไร เร่งกล่าวตอบไปตามตรงทันที ในขณะเดียวกันพวกมันก็แปลกใจไม่น้อย…

 

หรือนายท่านรองจะรู้แต่แรกแล้วว่าคุณหนูพาบุรุษกลับบ้าน?

 

“งามหน้า! ช่างงามหน้านัก!!”

 

หลังได้ฟังคำยืนยันจากข้ารับใช้เฝ้าประตู ชิวกังยี่แทบลมจับ! กว่าจะสงบอารมณ์ที่พุ่งพล่านขึ้นมาได้ก็ถึงกับต้องสูดลมหายใจเข้าเฮือกๆยกใหญ่!

 

ในสายตาของมัน

 

ก่อนหน้านี้แค่เพียงชิวมู่ชิงจูงมือบุรุษแปลกหน้าที่ทำให้คุณชายรองตงฟางอับอายขายหน้าวิ่งออกจากเหลา เรียกว่าผิดต่อตระกูลตงฟางและผลักไสให้ตระกูลตงฟางแปรเปลี่ยนเป็นศัตรูแล้วล่ะก็…

 

มาตอนนี้พอได้ยินเรื่องที่ชิวมู่ชิงถึงกับกล้านำบุรุษแปลกหน้ากลับมาที่ตระกูลชิว…

 

เช่นนั้นตระกูลชิวกับตระกูลตงฟางยังจะเหลือที่ว่างให้สมานฉันท์อยู่อีกหรือไร?!

 

ด้วยเหตุนี้สีหน้าของชิวยี่กังถึงได้กลายเป็นเขียว ยังเขียวปั๊ดจนม่วง! พาลให้ข้ารับใช้เฝ้าประตูทั้งหลายยืนตัวเกร็ง แทบไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง!!

 

ตึง! ตึง! ตึง!

 

……

 

จากนั้น ชิวกังยี่ที่เดือดดาลอย่างหนัก สองเท้าย่ำพื้นดังตึงๆ คนก้าวอาดๆเข้าตัวตึกใหญ่ไปอย่างเกรี้ยวกราด! ราวกับจะหาผู้ใดมารองรับโทสะอันเดือดพล่านของมัน!!

 

และในเวลาเดียวกันกับที่ชิวกังยี่กลับมาถึงตระกูลชิวนั้น…ที่เหลาอาหารชื่อดังของเมืองคังหมิง ก็ต้อนรับการมาเยือนของคุณชายรองตระกูลตงฟางอีกครั้ง!

 

อย่างไรก็ตามคราวนี้ตงฟางฉู่ไม่ได้มาคนเดียว…

 

ข้างๆทั้งซ้ายขวาของมันปรากฏชายชราชุดเทาซึ่งเป็น ‘ผู้ช่วย’ ที่มันพามาจากตระกูลตงฟาง และทั้งคู่ยังเป็นถึงชนชั้นอาวุโสของตระกูลตงฟางอีกด้วย

 

“มันไปแล้ว!?”

 

หลังเข้ามาในเหลาอาหาร ตงฟางฉู่ก็พบว่า…ไม่ว่าจะเป็นชายหนุ่มชุดม่วงที่ทำให้มันอับอายขายหน้าผู้คนหรือคุณหนูใหญ่สกุลชิว ล้วนจากไปหมดแล้ว!

 

มันมาช้าไป!

 

สีหน้าตงฟางฉู่พลันเปลี่ยนเป็นมืดดำ “ช่างขี้ขลาดนัก! ไม่คิดเลยว่ามันจะกล้าหนีหน้าข้าไปดื้อๆ!!”

 

อย่างไรก็ตาม ครู่ต่อมามันก็ได้รับทราบว่า เป็นชิวมู่ชิงที่พะเน้าพะนอให้ชายหนุ่มชุดม่วงนั่นจากไป

 

อีกทั้งแม้จะโดนพะเน้าพะนอแล้ว แต่ชายหนุ่มชุดม่วงก็ยังไม่คิดจากไป สุดท้ายเป็นชิวมู่ชิงที่ลุกพรวดขึ้นมาจูงมือคนแล้วพาวิ่งออกจากเหลาไปหน้าตาเฉย…

 

“อะไร! ชิวมู่ชิงจับมือเจ้านั่นแล้วพาวิ่งออกจากเหลา?”

 

ตอนแรกตงฟางฉู่แทบไม่อยากจะเชื่อ

 

เพราะมันมั่นใจว่าชิวมู่ชิงนั้นไม่รู้จักชายหนุ่มชุดม่วงนั่นมาก่อนแน่นอน! ไม่เหมือนกับคนอื่นที่คิดว่าทั้งคู่อาจรู้จักกันมาก่อน!!

 

ทว่ากับบุรุษที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ชิวมู่ชิงถึงกับจับมืออีกฝ่ายพาวิ่ง?

 

ทันทีที่ได้ยินเรื่องนี้ความคิดแรกสุดของมันคือ เป็นไปไม่ได้!

 

จนเมื่อได้ยินคนที่มาดื่มกินในเหลากล่าวกันซ้ำๆหลายโต๊ะมันถึงเชื่อ

 

และพอมันถึงนึกอาการขวยเขินของชิวมู่ชิงยามนั่งข้างชายหนุ่มชุดม่วงขึ้นมา มันก็คิดว่าเรื่องนี้อาจเป็นไปได้!

 

“แพศยา! นังแพศยา!!”

 

จังหวะนี้ตงฟางฉู่โมโหจนอดสบถด่าออกมาไม่ได้

 

มันไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลย

 

ว่าชิวมู่ชิงที่แลดูบริสุทธิ์ผุดผ่องในสายตาของมันมานาน จะกลายเป็นสตรีไร้ยางอายกับคนแปลกหน้าขึ้นมาได้!

 

เรียกว่าตอนนี้ในใจตงฟางฉู่เต็มไปด้วยโทสะอันยากจะกล่าว อึดอัดจนแทบกระอักเลือด!!

 

“ที่แท้ชิวมูชิ่งนั่นก็เป็นสตรีไร้ยางอาย!”

 

“สตรีไร้ยางอายเช่นนี้ ไหนเลยจะแต่งเข้าตระกูลตงฟางของพวกเราได้!”

 

อาวุโสตระกูลตงฟาง 2 คนที่มาด้วยกันกับตงฟางฉู่เองก็ถึงกับกล่าวออกด้วยน้ำโห หลังได้ยินบทสนทนาในเหลา

 

พวกมันไม่คิดเลยจริงๆว่าชิวมู่ชิงจะกล้าหักหน้าตระกูลตงฟางของพวกมันเช่นนี้

 

ในเมืองคงหมิงตอนนี้…

 

ยังไม่ใครไม่รู้บ้างว่าตระกูลชิวกับตระกูลตงฟางกำลังจะจัดงานวิวาห์ครั้งใหญ่?

 

ยังมีผู้ใดไม่ทราบบ้าง…ว่าเจ้าบ่าวและเจ้าสาวในงานวิวาห์ครั้งนี้คือคุณชายรองตระกูลตงฟางกับคุณหนูใหญ่ตระกูลชิว?

 

ทว่าวันนี้ชิวมู่ชิงกลับไม่รักนวลสงวนตัว ประพฤติตัวอย่างไร้ซึ่งคุณสมบัติของกุลสตรี!

 

กล้าฉุดกระชากลากถู จูงมือบุรุษอย่างเปิดเผย…เรื่องนี้นับว่าสร้างความอัปยศอดสูให้ตระกูลตงฟางนัก!

 

และในขณะที่ตงฟางฉู่และอาวุโสชราทั้ง 2 ของตระกูลตงฟางกำลังมีโมโหนั้นเอง พวกมันก็ได้รับข่าวหนึ่งจากตระกูลชิว พาลให้พวกมันยิ่งเดือดดาลมากยิ่งขึ้น!

 

“คุณหนูใหญ่ตระกูลชิวถึงกับพาบุรุษผู้นั้นเข้าตระกูลด้วยตัวเอง?”

 

หากบอกว่าเรื่องที่ชิวมู่ชิงจูงมือบุรุษอื่นก่อนหน้า ทำให้คนตระกูลตงฟางทั้ง 3 รู้สึกอับอายขายหน้าจนมีโมโหหนักเพราะถูกชิวมู่ชิงหักหน้าแล้ว่ละก็

 

พอได้ยินเรื่องนี้เข้าไปเพิ่มอีก อกพวกมันก็แทบแตกตาย! สองตายังเผยประกายดุร้ายปานเพลิงไฟ!!

 

“แพศยาสารเลว! นังแพศยาสารเลว!!”

 

ตงฟางฉู่ยังคงสบถด่าออกมาด้วยโทสะ ลูกตาเผยประกายดุร้าย ลอบกล่าวคำมั่นในใจอย่างคับแค้น ‘ข้าตงฟางฉู่ขอสาบาน! ต่อให้ข้ามิอาจแต่งกับเจ้าได้อีก แต่ข้าจะถล่มเจ้าให้ร้องขอชีวิต! เอาให้เจ้าต้องเสียใจกับสิ่งที่เจ้าทำในวันนี้ไปจนวันตาย!!

 

“ชิวมู่ชิงอันประเสริฐ! ตระกูลชิวอันประเสริฐ!!”

 

คราวนี้กระทั่งอาวุโสตระกูลตงฟางทั้ง 2 ยังอดไม่ไหวจำต้องกล่าวคำออกมาด้วยอำมหิต

 

ขณะเดียวกันพวกมันทั้ง 3 ก็สัมผัสได้ถึงสายตาแปลกๆมากมายของผู้คนที่มาดื่มกินในเหลาอาหาร ทำให้ใบหน้าพวกมันร้อนผ่าวไปด้วยความอับอาย แทบอยากจะหาสิ่งใดมาคลุมหัว! ไม่ก็ขุดดินมุดหลบเพื่อหนีหน้านัก!!

 

พวกมันรู้ดีว่าการที่ชิวมู่ชิงกระทำเช่นนั้น ไม่ต่างอะไรกับตบหน้าตระกูลตงฟางฉาดใหญ่!

 

พวกมันในฐานะคนของตระกูลตงฟางย่อมรู้สึกอับอายขายหน้าไม่น้อย!!

 

“คุณชายรอง พวกเรากลับตระกูลก่อนเถอะ! เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้หาใช่แค่เรื่องส่วนตัวของท่านอีกต่อไปไม่! ทว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันถึงทั้งตระกูลตงฟางเรา…ชิวมู่ชิงกับตระกูลชิวนั่นทำเกินไป! พวกมันทำเกินไป!!”

 

ครู่ต่อมาอาวุโสคนหนึ่งของตระกูลตงฟางก็เร่งเหินร่างจากไปทันที

 

เพราะมันไม่อยากจะอยู่ที่นี่ให้ขายหน้าต่อแม้วินาทีเดียว

 

“ชิวมู่ชิงตระกูลชิว…ดี! ดี! ดีมาก!!”

 

อาวุโสอีกคนก็โมโหจนพูดอะไรไม่ออก เร่งรุดเหินร่างจากไปด้วยใบหน้ามืดดำทันที

 

หลังอาวุโสตระกูลตงฟางทั้ง 2 จากไป สีหน้าตงฟางฉู่ก็เริ่มบิดเบี้ยวอัปลักษณ์หนักข้อ

 

เพราะมันเองก็ไม่อาจทานทนรับสายตาแปลกๆที่มองมาของเหล่าผู้คนในเหลาได้อีกต่อไป เร่งเหินร่างจากไปอีกคนทันที

 

“เหอะๆ พวกเจ้าเห็นสีหน้าพวกมันหรือไม่…ครั้งนี้นับเป็นความอัปยศของตระกูลตงฟางอย่างแท้จริง”

 

หลังจากที่คนตระกูลตงฟางทั้ง 3 จากไป ในเหลาก็เริ่มกล่าวกันออกมาสุนกปากอีกครั้งอย่างไร้ซึ่งความเกรงใจใดๆ

 

“ยังจะไม่ใช่หรือไร ในเมืองคงหมิงเรามีผู้ใดบ้างที่ไม่รู้ว่าตระกูลตงฟางกับตระกูลชิวจะมีงานวิวาห์ระหว่างคุณหนูใหญ่ตระกูลชิว ชิวมู่ชิง กับคุณชายรองตระกูลตงฟาง ตงฟางฉู่ …ทว่าตอนนี้งานวิวาห์นั่นเห็นที่จะล่มเสียแล้ว!”

 

“จะว่าไปชิวมู่ชิงก็กล่าวบอกเจตนาชัดแต่แรกแล้วว่านางไม่อยากแต่งกับตงฟางฉู่…มาครานี้นับว่านางลงมือได้อย่างหมดจดยิ่ง!”

 

“อย่างไรเสียการกระทำของนางวันนี้นับว่าตบหน้าตระกูลตงฟางอย่างแรง…สำหรับตระกูลตงฟางแล้วนี่เสมือนถูกหยามหน้าให้อัปยศครั้งยิ่งใหญ่ พวกมันไม่มีวันยอมเลิกราง่ายๆแน่!”

 

“ไม่ผิด เรื่องวันนี้หากตระกูลตงฟางไม่ออกมาทำอะไรเพื่อกู้หน้าล่ะก็ พวกมันได้กลายเป็นตัวตลกของผู้คนทั้งเมืองคงหมิงไปอีกนาน!”

 

….

 

ตอนแรกก็มีแค่ในเหลาอาหารชื่อดังแห่งนี้เท่านั้น ที่จ้อกันถึงเรื่องนี้อย่างสนุกปาก

 

แต่ทว่าในเวลาไม่นาน เรื่องสนุกปากในเหลา ก็กลายเป็นเรื่องสนุกปากของผู้คนทั้งเมืองคงหมิง…

 

ตระกูลตงฟางถูกผลักให้ทะยานขึ้นสู่ยอดคลื่นแล้ว!

 

(อยู่บนยอดคลื่น = กลายเป็นจุดศูนย์รวมความสนใจ,จุดเด่น)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด