War sovereign Soaring The Heavens 1623

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 1623 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1,623 : ทรยศ!

 

ก่อนที่ซือถูหมิงจะมาถึงที่นี่ มันก็ครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้เอาไว้มากมาย

 

มันยังคิดไปว่าหรือนิกายหยินหมิงไปล่วงเกินอ๋องเฉียนเข้า…จึงถูกฆ่าล้างนิกาย กระทั่งจับตัวอี้เฟิงประมุขนิกายหยินหมิงเอาไว้!

 

แต่ดูท่าทางแล้วเรื่องราวจะไม่ได้เป็นแบบนั้น

 

มันคิดไม่ถึงจริงๆว่าไม่เพียงแต่อี้เฟิงจะทรยศมัน กระทั่งยังกล้าชักชวนให้มันออกจากตระกูลซือถู!

 

“ท่านอ๋องเฉียน หากท่านคิดเชิญข้ามาเพราะเรื่องนี้ เกรงว่าข้าต้องขออภัยด้วย แต่ข้าคงมิอาจอยู่สนทนาด้วยได้อีก”

 

สูดลมหายเข้าลึกๆครั้งหนึ่ง ซือถูหมิงก็ลุกขึ้นยืนพร้อมมองกล่าวกับอ๋องเฉียนออกมาตรงๆ

 

ล้อกันเล่นหรือไง!

 

ตลอดชีวิตมันพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตำแหน่งผู้นำตระกูล!

 

ถึงแม้ว่ามันจะแพ้พ่ายซือถูฮ่าวมันก็ไม่เคยถอดใจ มันต้องการจะช่วยสนับสนุนให้ลูกชายของมันชนะลูกชายของซือถูฮ่าว เพื่อให้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปให้จงได้ ถึงตอนนั้นมันก็สามารถเป็นผู้ชักใยอยู่หลังฉากได้ไม่ยาก! แต่อ๋องเฉียนกลับคิดให้มันพาคนของฝ่ายมันมาเข้าร่วมกับจวนอ๋อง นั่นคือการทรยศตระกูล!

 

เมื่อมันทรยศตระกูล นั่นก็หมายความว่ามันจะกลายเป็นผู้ทรยศต่อตระกูล และไม่มีวันที่สายโลหิตของมันจะได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลได้อีก

 

เมื่อมันเลือกที่จะทรยศตระกูล นั่นก็คือการทำลายความพยายามชั่วชีวิตที่ผ่านมาทั้งหมด!

 

มันย่อมไม่เคยคิดจะเลือกหนทางเช่นนี้!

 

หลังจากกล่าวจบคำ ซือถูหมิงก็หันหลังเตรียมจากไปทันที

 

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่มันหันหลังกลับมา มันก็ถูกชายชรา 2 คนที่คอยประกบอยู่ด้านหลังอ๋องเฉียนพุ่งมาหยุดเอาไว้

 

“อ๋องเฉียน ท่านทำเช่นนี้หมายความว่าอะไร””

 

หน้าซือถูหมิงเปลี่ยนสีทันที หันมามองอ๋องเฉียนอีกครั้ง ในแววตาเผยให้เห็นโทสะชัดเจน

 

“รองผู้นำหมิงหากเจ้าคิดจะจากไป ข้าก็ไม่ห้ามแต่ก่อนหน้านั้นเจ้าช่วยฟังคำพูดของอี้เฟิงเสียก่อน…หากอี้เฟิงกล่าวจบแล้ว แต่เจ้ายังคิดจะอยู่ในตระกูลซือถูก็ตามใจ”

 

อ๋องเฉียนกล่าว

 

ซือถูหมิงที่ได้ฟัง ก็หันไปเหลือบมองอี้เฟิง “เจ้าคิดพูดอะไรก็พูด แต่เจ้าคิดจริงๆหรือว่าเจ้าจะกล่อมให้ข้าทรยศตระกูลซือถูได้?”

 

“รองผู้นำหมิง อย่าพึ่งด่วนสรุปไป”

 

เมื่อเห็นซือถูหมิงเหลือบมองมาด้วยสายตาดูแคลนอี้เฟิงก็ไม่ได้มีโมโหอะไร เพียงกล่าวออกเสียงเรียบ “อันที่จริงเรื่องที่ข้าอยากให้ท่านมาเข้าร่วมกับจวนอ๋องเฉียน ล้วนเป็นเพราะคิดช่วยชีวิตของท่าน…”

 

“ช่วยชีวิตข้า? เจ้าหมายความว่าอะไร?”

 

หน้าซือถูหมิงจมลงทันใด

 

“ซือถูหมิง ท่านรู้หรือไม่ว่าไฉนข้าถึงมาอยู่ที่จวนอ๋องเฉียนได้?”

 

อี้เฟิงกล่าวถาม

 

เมื่อเห็นว่าซูถือหมิงนิ่งไปไร้คำตอบ อี้เฟิงก็มองสบตาพร้อมกล่าว “ที่ข้าต้องมาอยู่ที่จวนอ๋องเฉียนเพราะข้าไม่อยากตาย! ท่านรู้หรือไม่ว่าไฉนข้าต้องหนีมาพึ่งใบบุญของท่านอ๋องเฉียน? เรื่องนี้ง่ายดายนัก…ความแข็งแกร่งของขุมพลังต้วนหลิงเทียนช่างน่ากลัวยิ่ง! กระทั่งผู้อาวุโสสูงสุดของข้าก็ตายเพราะมัน!”

 

“และเพราะข้าหวาดกลัวมัน ข้าถึงได้หนีหัวซุกหัวซุนมาเช่นนี้!”

 

อี้เฟิงกล่าวสืบต่อ

 

และเมื่อเห็นสายตาไม่เชื่อของซือถูหมิง อี้เฟิงพลันกัดนิ้วหลั่งโลหิตสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าทันที “หากผู้อาวุโสสูงสุดมิได้ตกตายเพราะต้วนหลิงเทียน และข้ามิได้หลบหนีมาเยี่ยงสุนัขเพราะหวาดกลัวขุมพลังของต้วนหลิงเทียน ขอให้อัสนีสวรรค์พิฆาตร่างข้าตายตก!”

 

ทันที่ที่หยดเลือดของอี้เฟงพวยพุ่งขึ้นไปก่อนจะวูบหายไปอย่างลี้ลับ เสียงอัสนีสวรรค์พลันฟาดผ่าดังติดต่อกัน 9 คำรบเป็นการตอบรับคำสาบาน!

 

ทว่าหลังจากที่กล่าวคำสาบานไปแล้ว อี้เฟิงกลับยังอยู่ดี ไม่ถูกอัสนีจากฟ้าพิฆาตมอดม้วย…

 

นั่นมากพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่ามันไม่ได้กล่าวโป้ปด!

 

ทันทีที่อี้เฟิงกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าแล้วยังอยู่ดี สีหน้าซือถูหมิงก็เปลี่ยนไปอย่างมหันต์ “ต้วนหลิงเทียนนั่น มันมีขุมพลังหนุนหลังแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยหรือ!?”

 

“ใช่! และที่สำคัญ…เรื่องนี้มิมีส่วนเกี่ยวข้องกับนิกายอัคคีล่องลอยอะไรทั้งสิ้น!”

 

อี้เฟิงยังกล่าวต่อ “ถึงแม้ว่าข้าจักมิรู้ว่าต้วนหลิงเทียน ไฉนถึงมีขุมพลังเช่นนี้อยู่…หากแต่ความแข็งแกร่งของมันมิได้ด้อยไปกว่าตระกูลซือถูแม้แต่น้อย”

 

“มิใช่นิกายอัคคีล่องลอย?”

 

พอได้ยินว่าขุมพลังที่อยู่เบื้องหลังของต้วนหลิงเทียนไม่ใช่นิกายอัคคีล่องลอย สีหน้าซือถูหมิงยิ่งคล้ำลงไปกันใหญ่!

 

ในใต้หล้าที่น่ากลัวที่สุดก็คือความไม่รู้!

 

ขุมพลังต้วนหลิงเทียนกลับลึกลับแบบนี้ หากคิดลงมือต่อมันคงยากที่จะทานรับแล้ว!

 

‘ความสามารถในการฆ่าอาวุโสสูงสุดนิกายหยินหมิง และบีบบังคับให้อี้เฟิงต้องหลบหนีมาโดยปล่อยให้นิกายหยินหมิงล่มสลาย…ความแข็งแกร่งของขุมพลังต้วนหลิงเทียนนั่น ไม่ใช่อะไรที่ตัวข้าจะสามารถต้านทานได้เลย!’

 

ตอนนี้สีหน้าซือถูหมิงสลับกลับกลาย เริ่มบังเกิดความลังเลไม่แน่นอน

 

‘เพราะอะไร! ไฉนซือถูฮ่าวถึงไปรับตัวคนที่โดดเด่นเช่นต้วนหลิงเทียนมาเข้าพวกได้! บิดาข้าถูกกำหนดให้แพ้พ่ายบิดาซือถูฮ่าว ข้าก็แพ้พ่ายต่อมัน กระทั่งลูกข้าก็กำลังสิ้นไร้หนทาง ข้าไม่ยอมรับ! ข้าไม่ยอมรับ!!’

 

ใจของซือถูหมิงร่ำร้องแทบบ้า!

 

อย่างไรก็ตามมันรู้ดีว่าต่อให้มันจะไม่พอใจแค่ไหน มันก็จำต้องเลือก!

 

อี้เฟิงกล่าวเป็นเชิงว่าหากมันยังรั้งอยู่ในตระกูลซือถูต่อไปมันต้องตายแน่…เพราะหากขุมพลังของต้วนหลิงเทียนเข้าร่วมกับซือถูฮ่าวจริง มันจะเอาปัญญาที่ไหนไปสู้!!

 

“ท่านอ๋องเฉียน ข้าซือถูหมิงยินดีรับใช้ท่าน”

 

ไม่นานซือถูหมิงก็ตัดสินใจเข้าร่วมกับอ๋องเฉียน

 

เพราะตอนนี้มันไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว

 

“รองผู้นำหมิง..คิดเข้าร่วมกับท่านอ๋อง ท่านก็จำต้องแสดงความจริงใจสักเล็กน้อย”

 

อี้เฟิงกล่าวพร้อมหัวเราะ

 

“แสดงความจริงใจอันใด?”

 

หน้าซือถูหมิงจมลงโดยพลัน

 

แต่ก่อนอี้เฟิงกล้ากล่าวล้อเล่นกับมันเช่นนี้หรือ?

 

“แน่นอนว่าต้องสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า”

 

อี้เฟิงกล่าวสืบต่อ

 

“เจ้า…”

 

หน้าซือถูหมิงเปลี่ยนสีทันที แต่เมื่อมันพบว่าอ๋องเฉียนกำลังจับตาดูมันอยู่ คล้ายรอฟังคำสาบานของมัน ว่าจะรับใช้จวนอ๋องเฉียนและหากทรยศก็ต้องถูกฟ้าพิฆาตตายตก

 

“ท่านอ๋องเฉียนข้าคิดว่าอาจจะดีเสียกว่าหากให้ข้ากับคนของข้ายังคงแฝงตัวอยู่ที่ตระกูลซือถูดั่งสายลับ เพราะบางทีข้าอาจจะหาทางชิงตำแหน่งผู้นำมาได้”

 

ซือถูหมิงกล่าวแนะ

 

กระทั่งถึงตอนนี้มันก็ยังไม่สิ้นหวังในการครอบครองตระกูล และกล่าวเป็นเชิงให้อ๋องเฉียนอนุญาติให้มันรั้งอยู่ที่ตระกูลซือถู

 

แน่นอนว่ามันกล่าวเช่นนี้เพราะเพื่อตัวมันเอง

 

มันไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นตัวทรยศตระกูลซือถู เพราะถ้ามันเลือกที่จะทรยศตระกูลหมายความว่ามันจะไม่มีส่วนเกี่ยวของกับตระกูลซือถูอีกต่อไป…กระทั่งผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชามันก็ไม่แน่ว่าจะเลือกติดตามมันมา

 

ก็จริงที่อาวุโสเหล่านั้นสนับสนุนมันให้ขึ้นเป็นผู้นำ แต่ถ้ามันเลือกจะทรยศตระกูลแบบนี้ ทั้งหลายอาจไม่บ้าทรยศตระกูลไปพร้อมกับมัน!

 

“นั่นมิจำเป็น!”

 

อย่างไรก็ตามอ๋องเฉียนปฏิเสธออกมาทันที “ด้วยมีต้วนหลิงเทียนนั่นอยู่สักคน เจ้าไม่มีวันสู้ฝ่ายซือถูฮ่าวได้เลย!”

 

ได้ฟังคำนี้ซือถูหมิงก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทันที

 

มันยังคิดจะกล่าวว่า ‘มิใช่ข้าก็มีท่านสนับสนุนหรือ’ แต่มันก็พูดไม่ออก

 

เห็นได้ชัดว่าอ๋องเฉียนอยากให้มันทรยศตระกูลอย่างตั้งใจ

 

และอ๋องเฉียนคิดอะไรอยู่มันก็รู้ดี อีกฝ่ายคิดใช้การทรยศของมันในการเยาะเย้ยอ๋องหรง องค์ชายรองที่เป็นคู่แข่งในการช่วงชิงบัลลังก์!

 

“ข้าจะให้เวลาเจ้าหนึ่งวัน ไปพาคนที่ยินดีติดตามเจ้ามาเข้าร่วมกับจวนข้าเสีย!”

 

ดั่งคำที่ว่า กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ อ๋องเฉียนกล่าวจบก็หันมองชายชราที่อยู่ด้านหลังทั้งสองทันที “พวกเจ้าไปช่วยเหลือรองผู้นำหมิงตระเตรียมการย้ายเถอะ…หากรองผู้นำหมิงกลับไปตระกูลซือถูคนเดียว ข้าเกรงว่าจักมิได้กลับออกมาอีก!”

 

หลังจากที่ซือถูหมิงจากไปโดยมีชายชราทั้ง 2 ประกบติด ในห้องโถงก็หลงเหลือเพียงอี้เฟิงกับอ๋องเฉียน

 

“เจ้านับว่าฉลาดเฉลียวมิเบา ที่ไม่กล่าวถึงตราผนึกมารแม้แต่คำเดียว!”

 

อ๋องเฉียนมองอี้เฟิงด้วยความชื่นชมและพึงพอใจกับ ‘ไหวพริบ’ ของอีกฝ่ายนัก

 

“เรื่องนี้ คนล่วงรู้น้อยเท่าใดยิ่งดี”

 

อี้เฟิงฉีกยิ้มรับ

 

วันต่อมา ตระกูลซือถูประหนึ่งพบพานกับเรื่องราวดั่งฟ้าถล่มก็ไม่ปาน

 

ทั้งหมดนี้เพราะการจากไปของรองผู้นำตระกูลซือถู ซือถูหมิง กล่าวให้ชัดว่าทรยศแล้ว!

 

รองผู้นำตระกูลซือถู ซือถูหมิง ได้นำพาบุตรชายซือถูจั๋ว และอาวุโสของตระกูลซือถูบางส่วน รวมถึงผู้ดูแลจำนวนหนึ่งออกจากตระกูล โดยมีชายชรา 2 คนอันเป็นยอดฝีมือของจวนอ๋องเฉียนมากำกับดูแลการเดินทาง

 

เรื่องราวการออกจากตระกูลซือถูของฝ่ายซือถูหมิงบางส่วน เป็นดั่งพายุที่กระหน่ำซัดตระกูลซือถูหลังจากเรื่องราวในตระกูลสงบไปพักหนึ่ง!

 

ภายในโถงประชุมหลักของตระกูลซือถู เหล่าอาวุโสมากมายหลายคนที่เคยอยู่ข้างซือถูหมิง กำลังคุกเข่าบนพื้นต่อหน้าผู้นำตระกูลซือถู อย่างซือถูฮ่าว

 

“ท่านผู้นำ ข้ามันหูตามืดมัวมิอาจแยกแยะผิดชอบชั่วดี ข้าไม่คิดเลยจริงๆว่าซือถูหมิงมันจะกล้าทรยศตระกูลซือถูเช่นนี้…ข้าจักให้คำสัตย์ปฏิญาณต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าว่าจากนี้ไปทั้งชีวิตของข้า จักมีไว้เพื่อท่านผู้นำและตระกูลเท่านั้น!!”

 

เหล่าอาวุโสหลายคนที่อยู่ด้านหน้าโขกศีรษะกล่าววาจาออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว

 

และพอกล่าวจบคำพวกมันก็พร้อมใจกันหลั่งโลหิตกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าทันที

 

เหล่าอาวุโสด้านหลังก็เริ่มทำตามกันไปติดๆ

 

การที่ผู้อาวุโสเหล่านี้ย้ายมาอยู่ข้างมัน หากเป็นในการก่อนซือถูฮ่าวคงมีความสุขความยินดีนัก

 

ทว่าตอนนี้ใบหน้าของมันบิดเบี้ยวอัปลักษณ์อย่างสุดจะทน เพราะมันทราบว่าซือถูหมิงทรยศตระกูลแล้วจากไปเช่นนี้!

 

“ท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย การที่พวกท่านไม่ติดตามซือถูหมิงไป ก็มากเกินพอจะพิสูจน์ความจริงใจของพวกท่านแล้ว ที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันแล้วกันไปเถอะ อดีตเป็นเช่นไรมิสำคัญ! จากนี้ต่อไปข้าหวังเพียงว่าทุกคนจักทำเพื่อตระกูลของเราให้ดีที่สุด!”

 

ซือถูฮ่าวกล่าวกับเหล่าอาวุโสทั้งหลาย

 

“ขอบคุณท่านผู้นำ!”

 

เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายเร่งขอบคุณซือถูฮ่าวเป็นการใหญ่

 

“หืม? ซือถูหมิงนั่นมันทรยศตระกูลซือถู และจากไปแล้วงั้นเหรอ?”

 

ที่บ้านลาน พอต้วนหลิงเทียนได้รับทราบเรื่องราวจากซือถูหังเขาก็ประหลาดใจไม่น้อย “แล้วหลังจากที่มันทรยศตระกูลซือถู มันไปอยู่ที่ไหนรึ?”

 

“จวนอ๋องเฉียน”

 

ซือถูหังกล่าวออกด้วยใบหน้าปั้นยาก “ซือถูหมิงนั่นมันช่างกล้านัก ข้าคิดว่ามันเพียงอยากสู้กับบิดาเพื่อช่วงชิงตำแหน่งผู้นำ…แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะเลือกหักหลังตระกูลเช่นนี้! พอมันออกจากตระกูลซือถูไป พวกเราก็เสมือนเสียตัวตนขอบเขตเซียนไปถึง 2!”

 

“แล้วบรรพบุรุษของตระกูลซือถูเล่า รู้เรื่องนี้แล้วหรือยัง?”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวถาม

 

“ท่านพ่อข้าสมควรไปแจ้งเรื่องราวต่อท่านบรรพบุรุษแล้ว…ท่านบรรพบุรุษผู้เฒ่าต้องมีโมโหหนักแน่เมื่อทราบเรื่องนี้! อย่างไรก็ตามป่านนี้ซือถูหมิงมันพาผู้คนของมันไปถึงจวนอ๋องเฉียนแล้ว ต่อให้ท่านบรรพบุรุษผู้ฒ่าโกรธไปก็ไร้ประโยชน์!”

 

วาจาท้ายประโยคของซือถูหังยังเผยความอับจนไม่น้อย

 

ต้วนหลิงเทียนไม่ได้พึ่งมาอยู่ที่ประเทศฝูเฟิงวันสองวัน เขาย่อมรู้ดีว่า จวนอ๋องเฉียน คือสถานที่อย่างไร

 

“ท่านปรมาจารย์ต้วน มีใครบางคนมาฝากข้อความเอาไว้ให้ท่าน และยังกำชับข้าให้ส่งถึงมือท่าน”

 

ทว่าทันใดนั้นเอง เสียงเปี่ยมความเคารพพลันดังขึ้นจากด้านนอกลาน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด