War sovereign Soaring The Heavens 2001

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 2001 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2,001 : เป็นโอสถต้องห้ามอีกครั้ง!

 

“ช่างรวดเร็วยิ่ง!”

 

เมื่อเห็นภาพติดตาดั่งภูตผีที่เหลือทิ้งไว้นับพันๆร่างเหนือฟ้าของหยางเหวิน เหล่าศิษย์ชั้นยอดไม่กล้าแม้แต่จะกระพริบตา เฝ้าชมเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยใจจดจ่อด้วยกลัวจะพลาดฉากสำคัญ

 

ตอนนี้พวกมันยังคล้ายได้เห็นภาพต้วนหลิงเทียนถูกเงาร่างนับพันล่อลวงจนไม่อาจทำอะไรได้ สุดท้ายเวทย์พลังสนับสนุนก็สิ้นระยะเวลาแสดงผล และถูกหยางเหวินฆ่าตายในที่สุด

 

“ความเร็วของศิษย์พี่หยางเหวินตอนนี้ สมควรเหนือล้ำยิ่งกว่าความเร็วของต้วนหลิงเทียนยามใช้เวทย์พลังเสริมท่าร่างขั้นสูงนั่น…เช่นนั้นผลการต่อสู้ครั้งนี้ก็ไม่ต้องสงสัยแล้ว!”

 

“ข้ารู้สึกเสียดายจริงๆที่ไม่ได้ทุ่มแทงข้างศิษย์พี่หยางเหวินให้มากกว่านี้”

 

“ข้าด้วย ข้าลงคะแนนสะสมข้างศิษย์พี่หยางเหวินไปแค่ 1,000 เท่านั้น”

 

……

 

เหล่าศิษย์ชั้นยอดหลายคนที่รู้สึกว่าวันนี้ต้วนหลิงเทียนต้องเป็นฝ่ายตกตายแน่แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาด้วยความเสียดาย! เสียดายที่ไม่ได้ทุ่มคะแนนสะสมแทงข้างหยางเหวินให้มากกว่านั้น พวกมันคิดว่านี่เป็นการค้าที่ทำกำไรงามอย่างแท้จริง!!

 

“ความเร็วของหยางเหวินตอนนี้ เหนือล้ำกว่าความเร็วที่ต้วนหลิงเทียนสำแดงออกก่อนหน้า…หากต้วนหลิงเทียนไม่มีวิธีรับมืออื่นอีก เกรงว่าจะไม่ใช่คู่มือหยางเหวิน”

 

หลิวอวิ๋นที่ชักหน้าเคร่งมองชมเรื่องราวเบื้องล่างกล่าวออกเสียงหนัก

 

100,000 คะแนนสะสมที่ลงข้างต้วนหลิงเทียน แม้จะไม่ถึงขั้นเฉือนเนื้อแต่กล่าวบอกว่าเถือหนังก็ไม่เกินเลย หากสูญเปล่าไปแบบนี้ก็นับว่าปวดใจไม่น้อย!

 

“ศิษย์น้องหลิงเทียนไม่ได้มีดีเพียงเท่านี้แน่!”

 

หลิวมู่คล้ายจะเชื่อมั่นในตัวต้วนหลิงเทียนอย่างไร้เงื่อนไข อดทำให้หลิวอวิ๋นส่ายหัวไปมาด้วยความอ่อนใจเสียไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

 

“ศิษย์น้องหลิงเทียน…”

 

“ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน!”

 

ไม่ว่าจะเป็นซุนเต๋อหรือกวนซิ่วล้วนใจเต้นไปไม่เป็นจังหวะ

 

พวกมันรู้แก่ใจดี ในเมื่อหยางเหวินสำแดงวรยุทธ์เซียนพร้อมเวทย์พลังเสริมท่าร่างขั้นสูงอย่าง ‘สถิตย์วิญญาณวายุ’ ออกมา การต่อสู้ครั้งนี้ก็สมควรจบลงแล้ว…

 

หากต้วนหลิงเทียนไม่กริ่งเกรงความเร็วนี้ของหยางเหวินและมีหนทางรับมือ ย่อมมีโอกาสชนะ

 

แต่หากความเร็วนี้ของหยางเหวินสามารถบดขยี้ความเร็วของต้วนหลิงเทียนได้ขาดลอย เช่นนั้นไม่เป็นหยางเหวินลงมือสังหารต้วนหลิงเทียนได้ทันที หรือลากถ่วงจนเวทย์พลังหนุนเสริมของต้วนหลิงเทียนสิ้นระยะเวลาแสดงผล สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็ต้องตาย!

 

ในใจของพวกมันล้วนเห็นว่าเรื่องราวคงเป็นอย่างหลังมากกว่า

 

ไม่ใช่ว่าพวกมันจะไม่เชื่อในตัวต้วนหลิงเทียน แต่พวกมันไม่รู้จะเอาอะไรมาเชื่อมั่น!

 

หลังจากทั้งหมดแล้วด่านพลังตั้งต้นของทั้งคู่ก็แตกต่างกันเกินไป!

 

ถึงแม้ว่าต้วนหลิงเทียนจะใช้เวทย์พลังสนับสนุนจนทำให้พลังฝึกปรือยกระดับจากเซียนปฐพีขั้นสูงสุดเป็นเซียนนภาขั้นกลาง ทว่าพลังฝึกปรือของหยางเหวินก็บรรลุเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยนแต่แรก และพลังเซียนต้นกำเนิดก็มีอานุภาพสะกดข่มพลังเซียนไม่น้อย นี่คือข้อได้เปรียบของเซียนสวรรค์!!

 

การที่ต้วนหลิงเทียนสามารถบีบคั้นให้หยางเหวินจำต้องใช้ออกด้วยเวทย์พลังเสริมท่าร่างอย่าง ‘สถิตย์วิญญาณวายุ’ ได้ ในสายตาของพวกมันก็นับเป็นเรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อมากแล้ว!

 

สำหรับเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนจะมอบความพ่ายแพ้ให้หยางเหวิน กระทั่งฆ่าหยางเหวินได้นั้น พวกมันไม่กล้าคิดฝัน!

 

“อ๋าวววู~~”

 

เสียงคำรามของลิงยักษ์ที่ต้วนหลิงเทียนฟันทำลายไปก่อนหน้าดังขึ้นอีกครั้ง เป็นหยางเหวินเร่งเร้าพลังเซียนต้นกำเนิดใช้ออกด้วย 3 บุปผารวมหนึ่งอันเป็นเวทย์พลังสายจู่โจมระดับกลางอีกครา!!

 

“เจ้าคิดว่าทักษะใช้การไม่ได้นี่จะทำอะไรข้าได้?”

 

วาจาไม่แยแสของต้วนหลิงเทียนพลันดังขึ้น และพริบตาต่อมาทุกผู้คนในวิหารเป็นตายก็ได้ยินเสียงหอนของกระบี่อีกครั้ง!

 

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

 

 

สำหรับศิษย์ชั้นยอดที่ด่านพลังฝึกปรือยังไม่บรรลุขอบเขตเซียนสวรรค์ พวกมันก็ได้ยินแต่เสียงเท่านั้น กระทั่งเงากระบี่ก็ไม่อาจแลเห็น

 

และภายใต้สายตาของทุกคน

 

หยางเหวินที่จ่ายพลังเซียนต้นกำเนิดออกไปไม่น้อยเพื่อใช้ออกด้วยเวทย์พลัง 3 บุปผารวมหนึ่งสร้างลิงยักษ์ออกมา อนิจจาลิงยักษ์ดังกล่าวก็ไม่ได้มีบทบาทแต่อย่างใด ยังถูกต้วนหลิงเทียนทั้ง 5 ร่างฟันฟาดทำลายจนสิ้นซากไปอีกรอบ!

 

“ตาย!!”

 

ผู้คนยังไม่ทันหายตะลึงจากการเห็นลิงยักษ์ถูกทำลายได้ง่ายดายอีกรอบ เสียงตะโกนของหยางเหวินพลันดังขึ้นลั่นวิหารเป็นตาย!

 

ครู่ต่อมาพวกมันก็เห็นหยางเหวินที่ไม่ทราบนำหอกร้อยอาคมเซียนออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ กำลังพุ่งทะยานเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนอย่างเกรี้ยวกราด แน่นอนว่าที่พวกมันเห็นคือเงาร่างหยางเหวินถือหอกนับพันกำลังจี้เข้าใส่ต้วนหลิงเทียนทั้ง 5 ร่างอย่างพร้อมเพรียง!!

 

“ศิษย์พี่หยางเหวินใช้หอกร้อยอาคมเซียนแล้ว!!”

 

ทันใดนั้นสายตาของศิษย์ชั้นยอดที่แทงข้างหยางเหวินก็ลุกวาวขึ้น!

 

วู้มม!! ซู่มมม!!

 

ฉวยโอกาสที่เกิดขึ้นในพริบตา ช่วงที่ต้วนหลิงเทียนฟันกระบี่สร้างข่ายพลังสังหารลิงยักษ์ หยางเหวินก็เร่งเร้าพลังใช้ออกด้วยสถิตย์วิญญาณวายุเต็มกำลัง คนคล้ายแปรเปลี่ยนเป็นสายลมหอมหนึ่งพัดกรรโชกเข้าหาต้วนหลิงเทียนอย่างดุร้าย หอกร้อยอาคมเซียนยังสำแดงพลังอำนาจสูงสุด!!

 

ครืน! ครืน! ครืน!

 

 

ยามหอกจากร่างเงานับพันทิ่มทะลวงเข้าหาต้วนหลิงเทียน พวกมันไม่เพียงจะฉาบไว้ด้วยพลังอาคมเซียนนับร้อยอันน่าพรั่นพรึง ยังมีพลังร้ายกาจอีกขุมหนึ่งจากวรยุทธ์เซียนสายหอกขั้นสูง!

 

ตัวหอกเปล่งพลังอำนาจกล้าแกร่ง! มวลอากาศถูกทะลวงแหลกแตกออกเสียงดังไม่หยุดหย่อน!!

 

หอกอันเปี่ยมล้นไปด้วยพลังอาคมเซียนพร้อมด้วยวรยุทธ์เซียนอันเกรี้ยวกราดจี้แทงทะลวงฉับไว พริบตาก็เจียนบรรลุถึงลำคอต้วนหลิงเทียนทั้ง 5!!

 

ดูท่าหยางเหวินหมายทะลวงคอหอยต้วนหลิงเทียนให้ตายตกในกระบวนเดียว!!

 

“ช้าไป…”

 

เผชิญหน้ากับหอกหยางเหวินที่เปี่ยมสภาวะสังหารอันเกรี้ยวกราด ต้วนหลิงเทียนไม่หลีกหนีลี้หลบ เพียงเลือกหยุดร่างลงอาศัยนิ่งสงบสยบเคลื่อนไหว กล่าวคำออกด้วยวาจาเฉื่อยชาไม่แยแส

 

“ยังจะกล้าเสแสร้งทำเป็นลึกลับอยู่อีก!!”

 

เห็นใบหน้าสงบไม่แยแสของต้วนหลิงเทียน หยางเหวินพลันคำรามออกลั่น แม้ในใจจะบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลประการหนึ่ง แต่หอกยังคงทิ่มทะลวงแทงจี้เข้าใส่ลำคอต้วนหลิงเทียนด้วยสภาวะเกรี้ยวกราดไม่ถดถอย!

 

ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ!

 

 

ทว่าทันใดนั้นเอง เสียงหอนกระบี่พลันดังขึ้นเข้าหูหยางเหวินอีกครั้ง และครานี้กระบี่ของต้วนหลิงเทียนกลับฉับไวยิ่งกว่าที่ฟันฟาดออกมาก่อนหน้า! ยังเร็วยิ่งกว่าความเร็วในการเคลื่อนไหวของมันที่ผสานวรยุทธ์เซียนและเวทย์พลังเสริมท่าร่างขั้นสูงแล้วเต็มกำลังเสียอีก!!

 

จังหวะนี้หยางเหวินอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความหวาดกลัวสะท้านลงลึกไปถึงจิตวิญญาณ!!

 

‘เป็นไปไม่ได้! ไฉนเพลงกระบี่ของมันถึงได้รวดเร็วถึงเพยีงนี้!?’

 

แม้ในใจหยางเหวินจะร่ำร้องเพียงใด แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงเบื้องหน้า…ว่าถ้าหากดันทุรังลงมือจู่โจมต้วนหลิงเทียนเช่นนี้สืบต่อ…

 

มันได้ตายแน่! เพราะความเร็วในการลงมือของมันแม้จะใช้ออกด้วยเวทย์พลังเสริมท่าร่างระดับสูงแล้ว แต่กลับยังช้ากว่าความเร็วในการฟันกระบี่ของต้วนหลิงเทียน!!

 

ปงงง!!

 

เช่นนั้นหยางเหวินจึงรีบถอนรั้งพลังกลับคืนอย่างตื่นตระหนก ยอมทนรับพลังสะท้อนจากการหยุดกระบวนหอกและเลือกที่จะเร่งเร้าเวทย์พลังสถิตย์วิญญาณวายุเต็มกำลัง เท้าข้างหนึ่งกระทืบพื้นสังเวียนอย่างแรง หมายอาศัยแรงสะท้อนหลบหนีให้พ้นรัศมีสังหารของข่ายกระบี่ฉับไวอันน่ากลัวนี้ทันที!!

 

หากทว่าเรื่องราวใดๆในหล้าคิดง่ายแต่ทำยาก! ข่ายกระบี่สังหารมาได้รวดเร็วเกินไป!!

 

ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ! ฉัวะ!!

 

……

 

ข่ายกระบี่สังหารคล้ายมีทวยเทพหนุนเสริมก็ไม่ปาน อยู่ดีๆกลับปะทุความเร็วที่เหนือล้ำขึ้นไปอีกขั้น หยางเหวินที่แม้จะเร่งเร้าพลังทั้งหมดเพื่อล่าถอยแล้ว มิคาดกลับมิอาจรอดพ้นคมกระบี่นี้ไปได้ เสียงกระบี่เฉือนหั่นเลือดเนื้อดังขึ้น!!

 

“อ๊าคคคค!!!”

 

ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดปานจะขาดใจพลันลั่นก้องไปทั่ววิหารเป็นตาย!

 

ภายใต้สายตาของทุกคน หยางเหวินที่แม้จะเร่งเร้าพลังสุดตัวล่าถอยไปนั้น…กลับต้องสังเวยขาไปข้างหนึ่ง! ไม่อาจหลีกหนีลี้หลบคมกระบี่ต้วนหลิงเทียนได้พ้น!!

 

โลหิตฉีดพุ่งพร่างพราวเต็มฟ้าเงาร่างนับพันสลายหาย ต้วนหลิงเทียนเองที่กลับมาเหลือร่างเดียวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบยืนมองเรื่องราวด้วยสายตาไร้แยแส เพียงตวัดกระบี่ออกตามอำเถอใจคราหนึ่ง พลังกระบี่ก็พุ่งไปสับทำลายขาที่ขาดของหยางเหวินจนแหลกเป็นละอองเลือดนองพื้น…

 

อย่างไรก็ตามไม่มีใครสนใจเรื่องนี้ ทุกสายตาเพียงมองไปยังร่างเหวินที่ขาขาดด้วยสายตาอื้ออึง

 

“ขาของศิษย์พี่หยางเหวิน…ถูกฟันขาดแล้ว?”

 

เหล่าศิษย์ชั้นยอดในวิหารเป็นตายหลายต่อหลายคนถึงกับลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นตระหนก สองตาจับจ้องมองไปยังหยางเหวินที่ขาขาดด้วยความเหลือเชื่อ!

 

ตอนนี้ร่างหยางเหวินที่ล่าถอยออกไป พยายามเร่งเร้าพลังเพื่อห้ามเลือดที่กรูทะลักออกมาจากขาข้างที่ขาดปานเขื่อนแตกอย่างรีบร้อน ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นชุ่มโชกสีสันโลหิตยังแทบไม่มีเหลืออยู่ หากแต่ดวงตาที่จับจ้องมองมายังต้วนหลิงเทียนกลับยิ่งเยียบเย็นถึงขีดสุด!

 

คล้ายว่าตอนนี้ความเคียดแค้นชิงชังที่มันมีต่อต้วนหลิงเทียน จะพุ่งทะยานทะลุฟ้า!

 

“เพลงกระบี่นั่นของต้วนหลิงเทียน ยังเร่งความเร็วได้อีกหรือ…”

 

คราวนี้กระทั่งหลิวอวิ๋นก็นั่งไม่ติดที่ ร่างมันทะลึงพรวดลุกขึ้นยืน สองตามองไปยังร่างต้วนหลิงเทียนด้วยความตื่นตระหนก มันไม่คิดเลยว่ากระบี่ของต้วนหลิงเทียนจะบรรลุถึงความเร็วอัศจรรย์ระดับนี้ได้ เพลงกระบี่นั่นมันคิดมอง ก็มองไม่ทันแล้ว!!

 

“ดี! ดี! ดี!!”

 

หลิวมู่ก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน ทีท่ามันคล้ายตื่นเต้นสุดระงับมือกำหมัดแน่นอย่างฮึกเหิม!

 

“เป็นเพลงกระบี่อันเลิศล้ำนัก!”

 

กระทั่งสีหน้าของอาวุโสคุมวิหารเป็นตายอย่างเนี่ยสุ้ย บัดนี้ยังเผยความเข้มขึงจริงจังไม่น้อย “หากเพลงกระบี่นั่นของมันเป็นวรยุทธ์เซียนสายกระบี่…ย่อมนับเป็นวรยุทธ์เซียนกระบี่ที่เลิศล้ำที่สุดในใต้หล้า! ข้าเห็นวรยุทธ์เซียนกระบี่ระดับนภาโดดเด่นที่บรรลุขั้นตอนไร้ตำหนิผ่านตามาก็มาก แต่ทั้งหมดยังห่างไกลเกินกว่าจะเทียบเพลงกระบี่ที่เจ้าหนุ่มนั่นมันฟันออก!”

 

อาวุโสเพลิงทองแดงทั้ง 3 ที่มองเรื่องราวอย่างเหลือเชื่อ อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอดังอึก ก่อนที่พวกมันจะหันหน้ามามองสบตากัน สุดท้ายจึงได้เห็นรอยยิ้มขื่นขมของกันและกัน

 

“ครั้งนี้พวกเราเลอะเลือนทั้งหุนหันไปแล้วจริงๆ ดันไปลงคะแนนสะสมข้างหยางเหวินมากมายถึงเพียงนั้น…นี่หากพวกเราเจียดคะแนนสะสมออกมาลงข้างต้วนหลิงเทียนบ้าง ต่อให้เสียก็คงไม่ต้องเสียมากขนาดนี้…”

 

อาวุโสเพลิงทองแดงคนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงขื่นขม สองตาของมันหงอยเหงาเศร้าสร้อยนัก

 

พอได้เห็นว่าเพลงกระบี่ของต้วนหลิงเทียนที่แท้ยังเร่งความเร็วได้มากขึ้น กระทั่งอยู่ๆก็ปะทุความเร็วในการฟันฟาดอัศจรรย์เหนือกว่าที่สายตาของพวกมันจะมองตามได้ทัน เหนือกว่าความเร็วของหยางเหวินที่แม้จะใช้เวทย์พลังเสริมท่าร่างขั้นสูงแล้ว พวกมันก็รู้ได้ทันทีว่าหยางเหวินหมดสิ้นหนทางชนะ…

 

“ช้าก่อน พวกเราอย่าได้ร้อนรนไป…อย่าลืมว่าหยางเหวินอาจจะมีโอสถต้องห้าม!”

 

อาวุโสเพลิงทองแดงคนหนึ่งที่คล้ายนึกอะไรได้ออก พลันกล่าวออกมาด้วยสองตาลุกวาวทันที

 

“จริงสิ! หยางเหวินจะอย่างไรก็เป็นถึงบุตรชายคนโตของอาวุโส 5 วังอุดรไพศาล มันย่อมมีไพ่ตายไว้รักษาชีวิตแน่ ข้าเชื่อว่าอย่างมันต้องมีโอสถต้องห้ามติดตัว!”

 

อาวุโสเพลิงทองคนสุดท้ายพยักหน้ารับ ค่อยมองเพ่งไปยังร่างพิการของหยางเหวิน “หากหยางเหวินมันฉลาดก็สมควรเร่งเอาโอสถต้องห้ามออกมาใช้เสียตั้งแต่ตอนนี้…หากล่าช้ามิแคล้วต้องได้รับบาดเจ็บเพิ่ม ถึงตอนนั้นก็บาดเจ็บสาหัสเกินไป…ต่อให้ใช้โอสถต้องห้ามก็อาจจะไม่ใช่คู่มือต้วนหลิงเทียน”

 

“อย่างไรเสีย ร้อยพันหมื่นคาดข้าก็มิเคยคิด ว่าต้วนหลิงเทียนที่เป็นเพียงเซียนปฐพีขั้นสูงสุด กลับมีเพลงกระบี่อันร้ายกาจทั้งทรงพลังถึงขีดขั้นนี้…”

 

จังหวะนี้พอเหล่าอาวุโสเพลิงทองแดงทั้ง 3 หันมาจับจ้องมองไปยังร่างของต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง แววตาก็เผยความซับซ้อนนัก

 

“ขาศิษย์พี่หยางเหวินขาดไปแล้วข้างหนึ่งเช่นนี้…ศิษย์พี่กำลังจะแพ้หรือ?”

 

“ไฉนต้วนหลิงเทียนถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้กัน มันฟันขาของศิษย์พี่หยางเหวินจนด้วนได้อย่างไร?”

 

“หากศิษย์หยางเหวินแพ้พ่ายตกตาย…ไม่ใช่คะแนนสะสมทั้งหมดของข้าต้องมลายสูญแล้วรึไง! บัดซบข้าดันแทงข้างศิษย์พี่หยางเหวินไปหมดตัว!!”

 

……

 

ความหวาดกลัวทั้งกระสับกระส่ายฉายชัดออกบนใบหน้าของเหล่าศิษย์ชั้นยอดที่ทุ่มคะแนนสะสมแทงข้างหยางเหวิน ตอนนี้พวกมันรู้สึกเสียใจอย่างสุดแสนที่ดันไปแทงข้างหยางเหวิน!!

 

“อย่าได้ตีตนไปก่อนไข้! ศิษย์พี่หยางเหวินต้องมีไพ่ตายซุกซ่อนไว้อยู่แน่!!”

 

“ถูกแล้ว! ศิษย์พี่หยางเหวินในฐานะบุตรชายคนโตของอาวุโส 5 วังอุดรไพศาล ไหนเลยจักไม่มีไพ่ตายเก็บไว้สักใบสองใบ!!”

 

 

ได้ยินคำกล่าวของศิษย์ชั้นยอดกลุ่มหนึ่ง เหล่าศิษย์ชั้นยอดที่ถอดใจและซึมเศร้า พลันเงยหน้าขึ้นมาพร้อมสองตาทอประกายวูบวาบ ปานพวกมันได้เห็นแสงแห่งความหวังอีกครั้ง!

 

“ดูนั่นเร็ว…นั่นใช่โอสถต้องห้ามหรือไม่?!”

 

ทันใดนั้นไม่ทราบเป็นใครที่โพล่งร้องออกมาดังลั่น

 

สายตาของทุกคนพลันหันไปมองหยางเหวินทันที

 

ทุกคนจึงทันได้เห็นภาพหยางเหวินที่ไม่ทราบหยิบโอสถสีดำมืดเม็ดหนึ่งออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และตอนนี้ก็ตบเข้าปากไปเป็นที่เรียบร้อย!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด