War sovereign Soaring The Heavens 1850

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 1850 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1,850 : ยุคนั้น

 

ถึงแม้ลี่เฟยจะไม่ได้พูดอะไร แต่นางก็มองจ้องไปยังต้วนหรูเฟิงตาเขม็ง รอฟังว่าต้วนหรูเฟิงจะตอบคำถามของลี่หลัวอย่างไร

 

นางเองก็ได้เห็นพลังอันน่ากลัวของตี้จิ่วมากับตา!

 

ในตอนนั้นตี้จิ่วเผยพลังอำนาจดั่งเทพเทวาเข่นฆ่าสังหารผู้คนราวผักปลา ทำลายนิกายหลิงเทียนจนราบพนาสูร!

 

ผู้บริสุทธิ์บนเกาะป้านเยว่ทั้งเกาะ ตกตายด้วยน้ำมือของมัน!

 

นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ลี่เฟยยังอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวจับใจ

 

“หลัวเอ๋อ…สัญญานัดหมายประลอง 5 ปี เป็นท่านผู้เฒ่าพยากรณ์ชี้แนะให้ข้าไปทำ…เช่นนั้นเจ้ามั่นใจได้เลยว่าเทียนเอ๋อต้องปลอดภัยแน่!”

 

ต้วนหรูเฟิงกล่าวปลอบลี่หลัว “ยิ่งไปกว่านั้น วันประลองตามสัญญานัดหมาย 5 ปี ข้าเองก็อยู่ข้างๆเทียนเอ๋อ…ข้าสัญญากับเจ้า…หากวันนั้นหากเทียนเอ๋อมีทีท่าว่าจะสู้ไม่ได้ข้าจะรีบลงมือทันที”

 

ต้วนหรูเฟิงได้เตรียมตัวอธิบายเรื่องนี้มานานแล้ว จึงสามารถกล่าวปลอบลี่หลัวได้ไม่ยาก

 

ผู้เฒ่าพยากรณ์! อาวุโสแสนลึกลับ!!

 

เมื่อได้ยินคำของต้วนหรูเฟิงลี่หลัวก็ตกใจไม่น้อย แน่นอนว่านางรู้จักผู้เฒ่าพยากรณ์ที่สามีกล่าวถึง อีกฝ่ายคือตัวตนที่มีชื่อเสียงเลื่องลือทั้งภูมิภาคเบื้องบนและภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า

 

เมื่อนึกถึงผู้เฒ่าพยากรณ์ ทั้งคำรับประกันจากปากของต้วนหรูเฟิง ลี่หลัวจึงเริ่มใจเย็นลง

 

“ไม่เป็นไรแน่หรือ?”

 

หากแต่แม้จะใจเย็นลง แต่ลี่หลัวก็ยังอดห่วงไม่ได้อยู่ดี

 

“ไม่ต้องกังวล”

 

ต้วนหรูเฟิงพยักหน้าทั้งยืนยันกับลี่หลัว ก่อนที่จะหันไปมองลี่เฟยด้วยรอยยิ้ม กล่าวว่า “เฟยเอ๋อเจ้าเองก็วางใจได้เลย…เทียนเอ๋อจะอย่างไรก็เป็นลูกชายข้า ข้าไม่มีวันปล่อยให้ใครทำร้ายเขาได้! โอกาสในการเข้าใช้สระชำระมังกรนั้นสำคัญกับเทียนเอ๋อนัก และเทียนเอ๋อก็เลือกที่จะสู้ด้วยตัวเอง มิใช่ถูกข้าบังคับ…”

 

ลี่เฟยอาศัยอยู่ในตำหนักเมฆาครามมานานแล้ว เรื่องราวต่างๆนางเองก็ได้รับทราบจากลี่หลัว

 

เมื่อต้วนหรูเฟิงกล่าวถึงผู้เฒ่าพยากรณ์ นางเองก็รู้สึกสบายใจขึ้นทันทีเหมือนลี่หลัว

 

ยิ่งได้ยินคำรับประกันด้วยท่าทางมั่นใจของต้วนหรูเฟิง นางก็พยักหน้ารับอย่างเชื่อฟังและคล้อยตามทันที

 

ในเมื่อนี่เป็นสิ่งที่บุรุษของนางเลือก นางก็ย่อมสนับสนุนเขาเต็มที่

 

หากเขาปลอดภัยก็ดีไป แต่หากเกิดเรื่องอะไรกับเขาขึ้นมา นางก็ไม่คิดอยู่คนเดียว!

 

กษัตริย์อยู่คนอยู่ กษัตริย์ตายคนตาย!

 

นี่คือความรักที่ลี่เฟยมีต่อต้วนหลิงเทียน นางเสมือนแมลงเม่าที่แม้นรู้ว่าบินเข้ากองไฟแล้วต้องตาย แต่นางก็ยินดีที่จะบินเข้าไป! ถึงแม้นี่จะแลดูเป็นการประทำไร้ค่า แต่คิดกระทำยังต้องใช้ความกล้าไม่น้อย

 

แน่นอนว่าเรื่องราวทั้งหมดที่ว่า ต้วนหลิงเทียนไม่รู้เลยสักนิด

 

ตอนนี้เขากำลังขยันตรากตรำอย่างหนักในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ

 

ณ ตลาดมืดหยินชานสาขาหลัก ผู้นำอย่างตู้กูเองก็ได้รับทราบข่าวที่เผ่าพันธุ์มังกรปล่อยออกมาเช่นกัน นับว่าสัญญานัดหมายประลอง 5 ปีระหว่างบุตรชายของต้วนหรูเฟิงกับตี้จิ่วแห่งเผ่าพันธุ์มังกรเป็นอะไรที่น่าสนใจสำหรับมันนัก นอกจากนั้นมันยังรู้ว่าอีกเพียงไม่กี่เดือนก็จะถึงเวลานัดหมายแล้ว!!

 

“ลูกชายของต้วนหรูเฟิงไม่ใช่ว่าหายตัวไปแล้วหรอกหรือ…มันจะมาปรากฏตัวทันนัดหมายประลอง 5 ปีนี่หรือไร?”

 

ตู้กูสงสัยไม่น้อย

 

ในตอนนั้นเมื่อข่าวบุตรชายต้วนหรูเฟิงอย่างต้วนหลิงเทียนมีตราผนึกมารในครอบครองแพร่กระจายออกมา มันเองก็ได้สั่งลูกน้องให้ตามล่าหาตัวต้วนหลิงเทียนโดยไม่สนใจค่าใช้จ่าย

 

ทว่าตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้แม้พวกมันจะไม่ได้หยุดค้นหา แต่พวกมันก็ทำได้แค่คว้าน้ำเหลวและได้ข้อมูลมาแค่เล็กๆน้อยๆเท่านั้น

 

กระทั่งตอนนี้รอบๆตำหนักเมฆาคราม ตู้กูยังส่งคนไปลอบจับตามองเรื่องราวอยู่ไม่ขาด

 

การคงอยู่ของคนเหล่านี้คือขัดขวางไม่ให้ต้วนหลิงเทียนกลับตำหนักเมฆาครามได้สำเร็จ

 

น่าเสียดายที่หลังจากผ่านไปหลายปีดีดัก ต้วนหลิงเทียน ก็หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย และไม่เคยกลับมายังตำหนักเมฆาครามเลย!

 

อย่างน้อยๆในสายตาของยอดฝีมือที่ไปจับตาดูรอบๆตำหนักเมฆาคราม ก็ไม่มีใครเห็นต้วนหลิงเทียนกลับตำหนัก

 

พวกมันไม่ได้รู้เลยว่าไม่เพียงแต่ต้วนหลิงเทียนจะกลับมาถึงตำหนักเมฆาครามแล้ว แต่ยังบ่มเพาะพลังอย่างแข็งขันในตำหนักเมฆาคราม จนพลังฝีมือก้าวหน้าว่องไว เตรียมพร้อมรับมือสัญญานัดหมายประลอง 5 ปีที่จะครบกำหนดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า!

 

ไม่ต้องกล่าวถึงพวกมันด้วยซ้ำ กระทั่งต่อให้ตัวผู้นำตลาดมืดหยินชานอย่างตู้กูมาเอง เกรงว่าคงไม่อาจมองการแปลงโฉมของต้วนหลิงเทียนได้ออก สุดท้ายคงเห็นแค่ว่าชายหนุ่มหน้าตาซือบื้อโง่งมคนหนึ่งหายเข้าไปในตำหนักเมฆาครามเท่านั้น…

 

นั่นเพราะ ทักษะลับแปลงโฉม ของต้วนหลิงเทียนที่ผู้เฒ่าหั่วถ่ายทอดให้มามันเลิศล้ำเกินไป! เขาจึงกลับมาตำหนักเมฆาครามได้ทั้งๆที่มีสายตาของยอดฝีมือจับจ้องอยู่มากมาย!!

 

หาไม่แล้วต่อให้ไม่ตายเขาก็ต้องถูกตลาดมืดหยินชานจับตัวไว้

 

“ท่านผู้นำ ไหนๆช่วงนี้พวกเราก็ว่างกันอยู่ ไฉนพวกเราไม่ไปชมดูเรื่องราวสนุกสนานเล่าขอรับ? ไปดูให้รู้ว่าต้วนหลิงเทียนนั่นที่แท้จะปรากฏตัวขึ้นมาหรือไม่?”

 

รองผู้นำตลาดมืดหยินชาน เฝิงปู่อี้ ที่ยืนอยู่ด้านขวาของตู้กูกล่าวเสนอออกมาด้วยน้ำเสียงสุภาพเคารพ

 

มันไม่อาจไม่เคารพ!

 

ถึงแม้ผู้นำคนนี้จะมีอายุน้อยกว่ามันมาก แต่พลังฝีมือกลับเหนือล้ำก้าวข้ามมันไปแสนไกล!

 

ในสายตาของมันทั่วทั้งภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ผู้ที่สามารถทัดเทียมประชันขันแข่งกับผู้นำตลาดมืดหยินชานผู้นี้ของมันได้ในตอนนี้ เห็นทีจะมีเพียงแต่จ้าวตำหนักเมฆาครามคนเดียวเท่านั้น!

 

สำหรับอัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่เป็นดั่งดาวรุ่งก็เห็นแต่จะมีเพียง หลิงเทียน เท่านั้นที่ในอนาคตสามารถทัดเทียมกับผู้นำของมันได้

 

“เอาสิ พวกเราไปชมดูเรื่องราวที่เผ่าพันธุ์มังกรกัน”

 

ตู้กูพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนที่จะหยีตากล่าวออก “ต้วนหรูเฟิง ข้าหวังว่าวันนั้นลูกชายเจ้าจะมานะ…ข้าล่ะอยากเห็นจริงๆ ว่าลูกชายของปีศาจเช่นเจ้า จะสร้างความประหลาดใจอันใดให้ข้าได้หรือไม่! อืม…วันนั้นจากที่ตี้จิ่วกล่าวไว้ ลูกชายของเจ้ายังไม่แม้จะทะลวงถึงเซียนดั้งเดิมด้วยซ้ำเมื่อ 5 ปีที่แล้ว!”

 

ในภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแห่งนี้ ด้วยฐานะผู้นำของตลาดมืดหยินชาน ตู้กู ก็คือสุดยอดอัจฉริยะที่นับร้อยนับพันปีจะมีสักคน! ทำให้ตัวมันรู้สึกเหงาด้วยไร้คู่ต่อกรไม่น้อย…กระทั่งในยามอ้างว้างเดียวดาย มันยังยกจอกเมรัยไถ่ถามฟ้าอยู่บ่อยครั้ง ว่าวันใดที่มันจะมีคู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อ

 

จนกระทั่งจ้าวตำหนักเมฆาคราม ต้วนหรูเฟิงปรากฏตัวขึ้นมาดั่งฟ้าตอบรับคำขอ…จึงทำให้ชีวิตของมันรู้สึกมีสีสันขึ้นมาทันตา!

 

ถึงแม้ในแง่หนึ่งมันกับต้วนหรูเฟิงจะถือว่าเป็นคู่แข่งกัน แต่มันกับต้วนหรูเฟิงก็เคารพซึ่งกันและกัน หรืออย่างน้อยๆก็เป็นมันที่ให้ความเคารพอีกฝ่าย

 

ด้วยเหตุนี้แม้จะรู้ว่าบุตรชายของต้วนหรูเฟิงที่แท้จะเป็น ต้วนหลิงเทียนที่ครอบครองตราผนึกมารคนนั้น มันก็ไม่ได้แพร่กระจายเรื่องนี้ออกไป…

 

ถึงมันจะรู้ดีแก่ใจว่าหากแพร่เรื่องราวนี้ออกไป ต้องสร้างปัญหาให้ตำหนักเมฆาครามครั้งใหญ่ แต่มันก็ไม่ได้คิดทำอะไรแบบนั้น…

 

แน่นอนว่า ตราผนึกมารนั้นมากพอจะดึงดูดยอดฝีมือที่ร้ายกาจจากภูมิภาคเบื้องบน!

 

ทว่าในสายตาของตู้กู หากจะเอาชนะต้วนหรูเฟิง หรือสยบปราบตำหนักเมฆาคราม มีแต่มันหรือตลาดมืดหยินชายของมันเท่านั้นที่ลงมือ! มันไม่คิดกระทำต่ำช้าอย่างยืมมีดฆ่าคนแต่อย่างใด!!

 

กระทั่งตัวมันยังดูถูกความคิดยืมมีดฆ่าคนด้วยซ้ำ!

 

‘ตู้กูเหนือ หรูเฟิงใต้ สองจ้าวสยบแดนดิน….ต้วนหรูเฟิง เจ้ากับข้าสักวันต้องซัดกันให้รู้แพ้รู้ชนะสักตั้ง มาดูกันว่าระหว่างพวกเราใครมันจะแน่กว่ากัน! พิกลนัก ใจหนึ่งข้าหวังว่าวันนั้นจะมาถึงในเร็ววัน…แต่อีกใจข้ากลับไม่อยากให้มันมาถึง ข้าจะเหงาอีกหรือไม่? ข้าจะรู้สึกอ้างว้างเดียวดายอีกหรือไม่…หากกระทั่งเจ้าและตำหนักเมฆาครามก็ถูกข้าสยบปราบ?’

 

ตู้กูกล่าวรำพันในใจอย่างเงียบงัน ‘ต้วนหรูเฟิง…ข้าหวังว่าหากวันนั้นมาถึง เจ้าจะต่อสู้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี อย่าให้ข้าเอาชนะเจ้าได้เร็วเกินไป! อย่างน้อยๆก็อย่าให้ข้าก้าวข้ามเจ้าไปไกลก่อนที่ข้าจะออกจากภูมิภาคเบื้องล่าง…’

 

‘หากเป็นเช่นนั้น…ข้าคงไม่ชินกับการอยู่ภูมิภาคเบื้องล่างโดยไร้คู่แข่งเช่นเจ้า…’

 

 

ณ สถานที่แห่งหนึ่งของภูมิภาคเบื้องล่างดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า

 

สถานที่ตั้งเดิมของ 7 ทวาราเที่ยงแท้

(อันที่ 7 ทวาราเที่ยงแท้นี้…ผมอยากแปลว่า 7 ด่านสุดขั้ว แต่ไม่รู้อันไหนมันเข้ากว่ากัน วันนั้นโยนหัวก้อยก็เลยใช้อันแรก ถ้านึกอยากเปลี่ยนวันไหนจะบอกนะ…)

 

“ตอนนั้นผู้ใดหนอจะคาดคิด…ว่าวันหนึ่ง 7 ทวาราเที่ยงแท้จักตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้…”

 

เหนือขึ้นไปกลางเวหานภากาศ ท่ามกลางสายลมยะเยือกที่พัดโชยลิ้วหอบไอเย็นผ่านไปมา ปรากฏร่างชายชราหนึ่งลอยตัวต้านทานลมหนาว สองมือไพร่หลัง สองตาเหม่อมองไปยังซากปรักหักพังเบื้องล่าง ปากกล่าววาจารำพัน ใจหวนคำนึง…

 

หากต้วนหรูเฟิงมาอยู่ตรงนี้ คงจดจำอีกฝ่ายได้ทันที

 

ชายชราผู้นี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ผู้เฒ่าพยากรณ์ ที่เป็นดั่งมังกรเทพยาดาเห็นหัวไม่เห็นหาง!

 

7 ทวาราเที่ยงแท้นั้น มี 7 ผู้เที่ยงแท้

 

ชายชรา ผู้เฒ่าพยากรณ์คนนี้ ก็คือเที่ยงแท้ลำดับที่ 2 ความลับสวรรค์!

 

ตอนนี้มันยังดำรงตำแหน่ง ผู้รักษาการประมุข ของ 7 ทวาเที่ยงแท้อีกด้วย! ที่สำคัญที่สุด มันก็คือคนที่ 3 ลัทธิ ทุ่มกำลังตามล่าหาตัวไปทุกแห่งหน! เรียกว่า 3 ลัทธินั้นอยากฆ่าชายชราผู้นี้ให้ตายถึงขั้นเก็บเอาไปฝัน!

 

7 ทวาราเที่ยงแท้นั้น ในอดีตด้วยมีการนำพาของเซียนกระบี่ฟงชิงหยาง ผู้สืบทอด หมอกพิรุณ! จึงได้สร้างมรสุมไปทั่วดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า!!

 

ในยุคนั้น ดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋ายังไม่ถูกแบ่งแยกออกเป็น ภูมิภาคเบื้องบนและภูมิภาคเบื้องล่าง…

 

หากมีผู้ใดกล่าวถามว่า…

 

ในยุคนั้น 7 ทวาราเที่ยงแท้แข็งแกร่งเพียงใด…

 

คำตอบในตอนนั้นคงจะเป็น…กระทั่ง 3 ลัทธิยังถูกไล่ต้อน จำต้องหันหน้ามาผนึกกำลังกันเป็นครั้งแรกเพื่อต่อต้าน 7 ทวาราเที่ยงแท้ แต่แม้กระนั้นพวกมันก็ทำได้แค่หนีตายไม่ก็ช่วยกันต้านทานเอาตัวรอดยามพบคนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้เท่านั้น!

 

หากพวกมันไม่ผนึกกำลังกันต้านทานแล้วไซร้ ในวันนี้ดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าคงไร้ซึ่ง 3 ลัทธิสืบไป…

 

เช่นนั้นแล้วหากไปถามไถ่ผู้ใดในยุคนั้น ว่าขุมพลังใดคือเอกอุในแดนดิน ทุกผู้คนล้วนต้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า…

 

7 ทวาราเที่ยงแท้!

 

และในยุคนั้นหากไถ่ถามว่าผู้ใดคือจ้าวผู้อยู่เหนือ สามารถลิขิตเป็นตายได้ทุกสรรพชีวิต ทุกผู้คนก็ล้วนกล่าวออกเป็นเสียงเดียวกันว่า…

 

เซียนกระบี่ฟงชิงหยาง!

 

ในยุคนั้นกล่าวไปคล้าย 7 ทวาราเที่ยงแท้ได้ผลพลอยได้จากนามของเซียนกระบี่ฟงชิงหยาง ผู้สืบทอดหมอกพิรุณก็ไม่ปาน…เพราะ 7 ทวาราเที่ยงแท้ต้องพึ่งฟงชิงหยาง ทว่าตัวฟงชิงหยาง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพา 7 ทวาราเที่ยงแท้แม้แต่น้อย

 

เพียงหนึ่งคนหนึ่งกระบี่ก็พิชิตชัยไร้ผู้ต้านทั่วแดนดินเทพยุทธ์เซียนเต๋า!

 

ยุคนั้น 3 ลัทธิผู้มหาอำนาจยักษ์ใหญ่ในปัจจุบัน ทำได้แค่ผนึกกำลังกันเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น

 

ยุคนั้น เป็นยุคของเซียนกระบี่ฟงชิงหยาง และ 7 ทวาราเที่ยงแท้

 

จนกระทั่งเซียนกระบี่ฟงชิงหยางเยื้องย่างขึ้นสู่สวรรค์ ท่องทะยานขึ้นไปโลดแล่นในภพภูมิที่สูงกว่า ยุคดังกล่าวจึงสิ้นสุดลง…

 

และจุดสิ้นสุดของยุคดังกล่าวก็ถูกกำหนดให้เกิดการนองเลือด…

 

3 ลัทธิที่สามารถเอาตัวรอดมาได้ หลังอดทนกล้ำกลืนความอัปยศมานานปี ในที่สุดพวกมันก็มีโอกาสได้ตอบโต้ระบายความอัดอั้น!

 

7 ทวาราเที่ยงแท้ที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ถึงแม้แต่ละคนจะมีพลังฝีมือกล้าแข็ง หากแต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ มิอาจทานทนรับการตอบโต้สุดกำลังของ 3 ลัทธิเอาไว้ได้ไหว เพียงเวลาแค่ 3 เดือนทุกสิ่งก็จบสิ้น…

 

โชคดีที่แม้ 7 ทวาราเที่ยงแท้จะถูกทำลาย  แต่มรดกยังไม่ขาดหาย…

 

นอกเหนือจากการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นโดยคนสู่คนแล้ว การสืบทอดของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ ยังเป็นรูปแบบวาสนา ให้โชคชะตานำพา!

 

คนในยุคก่อนทิ้งมรดกเอาไว้ทั่วแดนดิน รอวันให้ชนรุ่นหลังที่เหมาะสมถูกโชคชะตานำพามาให้พบพานกระทั่งรับสืบทอดต่อไป…

 

ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวได้ว่ารากฐานของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ ยังไม่ถูกทำลาย!

 

เรื่องนี้แน่นอนว่า 3 ลัทธิเองก็ล่วงรู้ และพวกมันก็หวาดกลัวนักยังตื่นตระหนกไปไม่น้อย เช่นนั้นพวกมันจึงระดมพลและส่งคนกระจายออกไปทั่วดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า เพื่อตามล่าหามรดกที่ชนรุ่นก่อนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้เหลือทิ้งไว้…

 

พวกมันทั้งหวาดกลัวทั้งกังวล ว่าในภายภาคหน้าจะอุบัติตัวตนที่เป็นเหมือนเซียนกระบี่ฟงชิงหยางขึ้นมาอีกครั้ง และฟื้นฟู 7 ทวาราเที่ยงแท้ขึ้นมาอีกครา! ทำให้พวกมันทุ่มเททุกสิ่งอย่างเพื่อตามล่าและทำลายมรดกของ 7 ทวาราเที่ยงแท้อย่างเอาเป็นเอาตาย!

 

7 ทวาราเที่ยงแท้เป็นศัตรูที่มิอาจอยู่ฟ้าเดียวกันกับพวกมันได้!

 

จนกระทั่งถึงยุคที่ดินแดนเทพยุทธืเซียนเต๋าถูกแบ่งออกเป็น 2 ภูมิภาค 3 ลัทธิ จึงย้ายรกรากไปลงหลักปักฐานในภูมิภาคเบื้องบน และหยุดค้นหามรดกของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ที่ถูกทิ้งไว้ในภูมิภาคเบื้องล่าง

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกมันสงสัยว่าใครที่มีทีท่าว่าจะเป็นคนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ และขึ้นมายังภูมิภาคเบื้องบน พวกมันจะฆ่าไม่ละเว้น! ฆ่าคนผิดพันคนไม่เป็นไร แต่พวกมันจะไม่ปล่อยให้คนผิดคนเดียวหนีรอดไปได้!

 

เช่นเดียวกับผู้สืบทอด เที่ยงแท้ลำดับ 2 ความลับสวรรค์ ของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ ผู้เฒ่าพยากรณ์ก็ถูกขึ้นบัญชีดำของ 3 ลัทธิในภูมิภาคเบื้องบนเรียบร้อย

 

ไม่ว่ามันไปปรากฏตัวที่ใด ตราบใดที่ 3 ลัทธิรู้ข่าว พวกมันจะส่งยอดฝีมือออกมาไล่ฆ่าชายชราทันที!

 

“การเข้าใช้สระชำระมังกรครั้งนี้…จักทำให้ผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1  หมอกพิรุณ ของพวกเรา เสมือนตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์…ยามเมื่อผู้สืบทอดหมอกพิรุณสามารถผ่านกระบวนการปลุกพลังมังกรได้ล่ะก็! เหอะๆ…ข้าแทบรอดูชมมิไหวแล้ว…”

 

กล่าวจบร่างผู้เฒ่าพยากรณ์ก็อันตธานหายไปในอากาศว่างเปล่า คงเหลือเพียงถ้อยคำที่ทิ้งไว้ในสายลมหนาว…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด