War sovereign Soaring The Heavens 1523

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 1523 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบ!

 

“ค่ายกลที่แตกต่างกันถึง 3 ชนิด!”

 

ได้ยินคำผู้เฒ่าหั่ว สองตาต้วนหลิงเทียนก็ลุกวาวทันที

 

ตอนแรกเขายังกังวลว่าค่ายกลที่ติดตั้งอยู่ในจานค่ายกลจะเป็นชนิดเดียวกันอยู่หรือไม่

 

แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะห่วงเรื่องไม่เป็นเรื่อง

 

“ผู้เฒ่าหั่ว แล้วจานค่ายกลที่ท่านสามารถซ่อมได้เร็วที่สุด มันเป็นค่ายกลอะไรเหรอ?”

 

ต้วนหลิงเทียนถามด้วยความสงสัย

 

ใจเขาลอบหวังเอาไว้เล็กๆ ว่ามันจะเป็นค่ายกลโจมตี!

 

เขาเชื่อว่าพลังโจมตีที่บังเกิดจากค่ายกลที่ผู้เฒ่าหั่วบอกว่าดีสำหรับเขา ต้องมีพลังอำนาจจู่โจมเหนือกว่าเขาลงมือเองแน่!

 

ดังนั้นเขาเลยหวังว่าจานค่ายกลที่จะซ่อมแซมได้เร็วที่สุดเป็นจานค่ายกลที่มีค่ายกลจู่โจม!

 

อนิจจาภาพฝันสวยหรูแต่ความเป็นจริงช่างโหดร้ายนัก

 

“เป็นค่ายกลมายาหลอนประสาท”

 

คำตอบของผู้เฒ่าหั่วทำให้ต้วนหลิงเทียนผิดหวังนัก หากเป็นจายค่ายกลที่มีค่ายกลป้องกันเสียยังจะดีกว่า ทำไมต้องเป็นค่ายกลมายาหลอนประสาทด้วย?

 

ค่ายกลมายาหลอนประสาทก็ไม่ต่างใดจากค่ายกลลวงตาหรือค่ายกลมายาที่เขาเคยพบเจอในทวีปเมฆาล่อง สามารถใช้ภาพมายาล่อลวงเป้าหมาย

 

แต่พอคิดไปคิดมาต้วนหลิงเทียนก็ค่อยๆเผยยิ้ม ‘เอาเถอะ เป็นค่ายกลมายาหลอนประสาทก็ดี อย่างน้อยก็สามารถใช้สร้างความสับสนให้ศัตรูได้ชั่วขณะเปิดโอกาสให้ข้าลงมือ ใครจะไปรู้มันอาจจะแก้ไขสถานการณ์วิกฤตให้ข้าก็เป็นได้’

 

สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็ยินดี ที่จานค่ายกลนี้กำลังจะถูกซ่อมจนใช้ได้ในเวลาไม่นาน

 

อย่างไรเสียนี่ก็เป็นของที่เขาได้รับมาโดยไม่คาดหมาย มีไว้ก็ย่อมดีกว่าไม่มีอยู่แล้ว

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่อาจอารมณ์ดีได้อยู่นาน

 

นั่นเพราะพอเขาเขากลับมาถึงบ้าน ป๋ายลี่หงก็แจ้งเรื่องราวหนึ่งให้เขาทราบ

 

“ครูเกือบถูกหลิวฮ่วนฆ่าตายงั้นเหรอ!?”

 

หน้าต้วนหลิงเทียนมืดลงทันใด ลูกตายังเผยประกายดุร้ายเลือดเย็น “หลิวฮ่วนมันไปลงมือกับอาจารย์เพราะทำอะไรข้าไม่ได้สินะ”

 

“ศิษย์น้อง ข้ายังคิดว่าเป็นหลิวฮ่วนที่ไปจ้างนักฆ่าของตลาดมืดหยินชานให้มาสังหารเจ้า…”

 

ป๋ายลี่หงคาดเดา

 

“เป็นไปได้สูง”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับกล่าวออกเสียงเข้ม ประกายที่วูบวาบในแววตายิ่งมายิ่งเย็นเยียบ

 

“ฮึ่ม! ข้าคิดว่าหลิวฮ่วนนั่นมันจะสำเหนียกตัวหลังจากข้าไปหามัน…ไม่คิดว่ามันจะเสแสร้งแต่เพียงผิวเผิน กลับกล้าลงมืออุกอาจเช่นนี้! ครั้งนี้ข้าจะไม่ปล่อยมันไปแน่!!”

 

ป๋ายลี่หงกล่าวออกเสียงเย็น แววตาเผยจิตสังหาร

 

บางทีกระทั่งตัวหลิวฮ่วนเองก็คงคิดไม่ถึง ว่าความสำคัญของต้วนหลิงเทียนในใจป๋ายลี่หงจะสูงขนาดนี้

 

ถึงขั้นที่ป๋ายลี่หงคิดฆ่าหลิวฮ่วนทิ้ง เพราะหลิวฮ่วนไปพยายามฆ่าฟางฮุ่ย รวมถึงสงสัยว่ามันน่าจะเป็นคนที่จ้างนักฆ่าของตลาดมืดหยินชานให้มาเล่นงานต้วนหลิงเทียน

 

หากหลิวฮ่วนรู้เรื่องนี้ หลังออกจากเมืองชงซันแล้วมันคงไม่กล้าย้อนมาสำนักจันทร์จรัสแสงอีก

 

“ศิษย์พี่อย่าห่วงไป เรื่องนี้ข้าจะจัดการด้วยตัวเอง”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกเสียงเข้ม ยังเต็มไปด้วยความเย็นเยียบจับใจ แววตาไร้อารมณ์ใดๆแม้แต่น้อย

 

หลิวฮ่วนนับว่าแตะขีดจำกัดล่างของเขาแล้วจริงๆ

 

“ข้าเข้าใจ”

 

เมื่อเห็นใบหน้าเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ของต้วนหลิงเทียน ป๋ายลี่หงก็เข้าใจได้ว่าต้วนหลิงเทียนคิดอะไรอยู่ เมื่อรู้ดีว่าอีกฝ่ายตัดสินใจแล้วมันจึงได้แต่พยักหน้ารับ

 

“จริงสิ ตอนนี้ฟางฮุ่ยเองก็อยู่ที่ฝ่ายนอก เจ้าต้องการพบหรือไม่?”

 

ป๋ายลี่หงบอกต้วนหลิงเทียน

 

“ครูอยู่ที่นี่งั้นเหรอ?”

 

ลูกตาต้วนหลิงเทียนส่องแสงสว่างวาบ เขาลาป๋ายลี่หงและออกจากฝ่ายในไปฝ่ายนอกเพื่อพบฟางฮุ่ยทันที

 

เมื่อเห็นฟางฮุ่ย ต้วนหลิงเทียนก็ยังคงเป็นแบบเดิม เรียกหาอีกฝ่ายว่าครูเหมือนกาลก่อน

 

“ตอนนี้เจ้าเป็นถึงศิษย์น้องของท่านผู้อาวุโสป๋ายลี่แล้ว เจ้ามิอาจเรียกหาข้าว่าครูได้อีกต่อไป…ผู้อื่นจะมองเจ้าไม่ดีหากมาได้ยินเรื่องนี้”

 

ได้เห็นต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ใบหน้าฟางฮุ่ยก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มทันที

 

“พวกมันจะมองจะพูดอะไรก็ช่างหัวพวกมันเถอะ ท่านยังคงเป็นครูของข้าและมันจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกด้วยความจริงจัง

 

“สองอย่างในชีวิตที่ข้าภาคภูมิใจและรู้สึกเป็นเกียรติสูงสุดนั้นคือได้รับเจ้าและซูฉีเป็นศิษย์!”

 

ฟางฮุ่ยกล่าวออกด้วยมวลอารมณ์ท่วมท้นใจ

 

“ซูฉี?”

 

ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

 

ซูฉีไม่ใช่ว่าทรยศฟางฮุ่ยหรือไร? ไฉนฟางฮุ่ยถึงกล่าวว่าเป็นเกียรติและภาคภูมิใจ?

 

เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้ว ฟางฮุ่ยก็รู้ได้ทันทีว่าในใจต้วนหลิงเทียนคิดอะไร

 

หลังจากนั้นฟางฮุ่ยก็กล่าวเรื่องที่ซูฉีแสร้งทรยศหักหลัง เลือกเดินบนหนทางอัปยศและโดดเดี่ยวเพื่อตั้งใจล้างแค้นให้มัน นอกจากนี้ยังเล่าถึงเรื่องที่ซูฉีสละชีวิต จนตายตกคามือหลิวฮ่วนออกมา

 

หลังจากฟังวาจาของฟางฮุ่ยแล้ว ใจต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทันที

 

ซูฉีนับว่าได้ทำเพื่อครูของเขาอย่างมาก!

 

ขณะนี้กระทั่งเขาเองยังอดไม่ได้ที่จะละอายใจ

 

“ซูฉี เป็นข้าผิดที่มองเจ้าผิดไปวันนั้น…เจ้าหลับพักผ่อนให้สบายเถอะ ข้าจะชำระหนี้เลือดให้เจ้า!”

 

ต้วนหลิงเทียนแหงนมองฟ้าไปยังทิศตะวันตกค่อยกล่าวพึมพำออกมา วาจายังเต็มไปด้วยความแน่วแน่

 

“ครู ท่านไม่ควรกลับไปเมืองชงซันแล้ว…ข้าจะไปบอกอาวุโสตงฟางให้ท่านอยู่ที่นี่”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวออก

 

อาวุโสตงฟางที่เขาเอยถึง ย่อมเป็นตงฟางเฉียน อาวุโสสูงสุดฝ่ายนอกของสำนักจันทร์จรัสแสง

 

“มิต้อง”

 

ฟางฮุ่ยส่ายหัวและปฏิเสธความหวังดีของต้วนหลิงเทียน “ข้าคุ้นชินกับเมืองชงซันและอยู่มาหลายปีแล้ว…เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้า เพราะมีคนที่อาวุโสป๋ายลี่ส่งมาคุ้มครองข้า”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับ ค่อยถามสืบต่อ “แล้วครูจะกลับเมืองชงซันตอนไหนหรือ? ข้าจะได้ไปส่ง”

 

“ที่ข้ามานี่เพียงคิดพบหน้าเจ้าสักครั้ง ในเมื่อตอนนี้ได้พบแล้วข้าก็กลับไปได้อย่างหมดห่วง”

 

ฟางฮุ่ยกล่าว

 

“งั้นท่านค่อยออกเดินทางพรุ่งนี้เถอะ ข้าจะไปส่งท่านเอง”

 

ต้วนหลิงเทียนครุ่นคิดเล็กน้อยค่อยตอบกลับไป

 

ใจเขาเองก็มีแผนจะกลับไปยังเมืองชงซันเพื่อพบเจอคนที่ไม่เห็นกันนาน ก่อนที่จะปิดด่านบ่มเพาะ เพื่อทะลวงไปยังขอบเขตสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบ

 

หลังจากที่ทะลวงถึงสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว เขาก็จะออกเดินทางออกจากสำนักจันทร์จรัสแสง เพื่อกลับเกาะป้านเยว่

 

“ดี!”

 

ฟางฮุ่ยเห็นด้วย

 

เช้าวันต่อมาต้วนหลิงเทียนก็เดินทางกลับเมืองชงซันพร้อมฟางฮุ่ย โดยมีอีกคนที่ติดตามมาอีกคนก็คือป๋ายลี่หง

 

เหตุผลที่ป๋ายลี่หงติดตามมาด้วยล้วนเป็นเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยของต้วนหลิงเทียน

 

ด้วยมีป๋ายลี่หงมาด้วย การเดินทางกลับเมืองชงซันของต้วนหลิงเทียนจึงราบรื่นนัก

 

เมื่อได้รับรู้ว่าฟางฮุ่ยกลับเมืองชงซันไปพร้อมต้วนหลิงเทียนกับป๋ายลี่หง สีหน้าหลิวฮ่วนถึงกับบิดเบี้ยวเหยเก “ไอพวกตลาดมืดหยินชานมันมัวทำบ้าอะไรอยู่กันแน่? ไฉนถึงพลาดโอกาสดีที่จะสังหารต้วนหลิงเทียนในการแข่งขันล่าสัตว์ได้?”

 

“หวังว่าครั้งนี้พวกมันจะไม่ทำให้ข้าต้องผิดหวังอีก!”

 

หลิวฮ่วนคิดไปว่าคนของตลาดมืดหยินชานคงไม่รู้ข่าวเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนไปเข้าแข่งขันล่าสัตว์ จึงทำให้ต้วนหลิงเทียนยังมีชีวิตอยู่

 

หากหลิวฮ่วนได้รับทราบว่า ตลาดมืดหยินชานได้เพิกถอนภารกิจสังหารต้วนหลิงเทียนไปแล้ว ไม่รู้มันจะทำหน้าอย่างไร…

 

กลับไปยังเมืองชงซันครั้งนี้ ต้วนหลิงเทียนรู้สึกเวลามันผ่านไปไวนัก

 

ครั้งนี้ที่กลับไปยังเมืองชงซัน เขาก็อยากพบเจอพี่ใหญ่อย่างหงอวี่รวมถึงเด็กน้อยอย่างซือซือ

 

ไม่กี่วันหลังจากที่ต้วนหลิงเทียนจากไป ฟางฮุ่ยก็พาหงอวี่กับซือซือเข้ามาอาศัยอยู่ในจวนเจ้าเมือง นี่ทำให้ตำแหน่งของหงอวี่สูงขึ้นอีกครั้ง และได้มีโอกาสที่จะพบเจอระดับสูงๆของเมืองชงซัน

 

หงอวี่รู้ดีแก่ใจว่าโอกาสอันดีนี้เป็นต้วนหลิงเทียนมอบให้

 

หาไม่แล้วเรื่องแบบนี้คงยากที่จะเกิดขึ้นกับหัวหน้ากองรักษาการณ์ในเมืองอย่างมัน

 

ขณะเดียวกันพรสวรรค์ของเด็กสาวตัวน้อยอย่างซือซือในฐานะผู้ฝึกสัตว์ก็เปล่งประกายออกมาไม่น้อย ต้วนหลิงเทียนจึงกำชับเรื่องนี้กับฟางฮุ่ยก่อนที่จะจากมา และหวังให้ฟางฮุ่ยส่งเสริมนางในเรื่องนี้อย่างดี

 

ฟางฮุ่ยแน่นอนว่าเห็นด้วยกับเรื่องนี้อย่างมาก

 

อีกทั้งมันก็เอ็นดูเด็กสาวแก้มชมพูแลดูสดใสไม่น้อย

 

ในขณะที่เดินทางออกจากเมืองชงซันพร้อมป๋ายลี่หง ในใจต้วนหลิงเทียนปรากฏร่างสตรีนางหนึ่งขึ้นมา เป็นสตรีที่เข้าสู่ค่ายมังกรซ่อนของจวนเจ้าเมืองชงซันพร้อมกันกับเขา นางเป็นคนจิตใจดีและกล้าหาญนัก ยังมีความเด็ดเดี่ยวเหนือกว่าบุรุษทั่วไปเสียอีก

 

อย่างไรก็ตามการกลับมาเมืองชงซันรอบนี้ เขาก็ไม่ได้ไปหานางในฐานะสหายเก่าแต่อย่างไร เพียงฝากเรื่องราวไว้กับฟางฮุ่ย ให้ดูแลนางอย่างดี

 

ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่ต้วนหลิงเทียนคนเดิมอีกต่อไป ฟางฮุ่ยแน่นอนว่าไม่คิดลังเลหรือปฏิเสธคำขอของเขา

 

ถึงแม้มันจะเป็นครูของต้วนหลิงเทียนแต่เพียงในนาม แต่ความสำคัญของต้วนหลิงเทียนในใจมันก็สูงนัก

 

หลังจากกลับมาถึงสำนักจันทร์จรัสแสงพร้อมป๋ายลี่หง ต้วนหลิงเทียนก็แจ้งเรื่องปิดด่านฝึกฝนกับอีกฝ่าย เพื่อที่จะทะลวงไปยังขอบเขตสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบ…

 

แน่นอนว่าการทะลวงขีดขั้นย่อมมีอุปสรรคไม่ใช่น้อย วันใดที่ต้วนหลิงเทียนรู้สึกถึงจุดรอคอย เขาก็จะหยุดบ่มเพาะ หันไปฝึกฝนวรยุทธ์เซียนแทน

 

ต้วนหลิงเทียนที่ใช้วันเวลาฝึกปรือบ่มเพาะในชั้น 3 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติไม่นานก็ฝึกพิรุณดาวตกให้บรรลุถึงขั้นตอนไร้ตำหนิได้ในที่สุด

 

“พิรุณดาวตกบรรลุขั้นตอนไร้ตำหนิแล้ว…ตอนนี้ข้าจะได้เริ่มฝึกวรยุทธ์ป้องงกันเพียงหนึ่งเดียวของมหาเกาทัณฑ์ดาวตกเสียที ระฆังศรคลุมกาย!”

 

ต้วนหลิงเทียนรู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง วันที่เขาเฝ้ารอในที่สุดก็มาถึง

 

ระฆังศรคลุมกายเป็นเคล็ดป้องกันหนึ่งเดียวของวรยุทธ์เซียนมหาเกาทัณฑ์ดาวตกที่เป็นวรยุทธ์เซียนระดับมนุษย์โดดเด่น พลังอำนาจของมันย่อมเหนือกว่าวรยุทธ์ป้องกันอื่นๆในระดับนี้ไปมาก

 

การฝึกฝนจึงนับว่ายากเย็นไม่น้อย

 

หลังจากที่เริ่มฝึกฝนระฆังศรคลุมกาย ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็เข้าใจได้เสียทีว่าทำไมต้องฝึกพิรุณดาวตกให้บรรลุถึงขั้นตอนไร้ตำหนิเสียก่อน

 

นั่นเพราะระฆังศรคลุมกายนั้น จะถูกสร้างขึ้นจากพิรุณดาวตก!

 

กล่าวให้ชัดมันจะถูกสร้างขึ้นจากพิรุณดาวตกที่บรรลุขั้นตอนไร้ตำหนิ!

 

ดอกศรจากเคล็ดพิรุณดาวตกจำนวนมหาศาล จะถูกควบคุมให้หมุนวนรอบตัวต้วนหลิงเทียนด้วยความเร็วสูงล้ำ ก่อเกิดเป็นม่านศรป้องกัน แม้จะพึ่งฝึกฝนได้ไม่นานแต่ความสามารถในการป้องกันของมันก็อยู่เหนือวรยุทธ์เซียนสายป้องกันระดับมนุษย์โดดเด่นไปมาก

 

และเพราะต้วนหลิงเทียนเฝ้ารอที่จะฝึกระฆังศรคลุมกายมาแสนนาน รวมถึงพลังในการป้องกันมันก็เลิศล้ำ เขาจึงทุ่มเทให้มันเป็นพิเศษ

 

อย่างไรก็ตามในขณะที่ฝึกฝนระฆังศรคลุมกาย ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ลืมที่จะบ่มเพาะพลังแต่อย่างใด

 

ในที่สุดหลังจากที่เขาใช้เวลา 4 เดือนในโลกภายนอก หรือ 20 เดือนภายในชั้น 3 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ ต้วนหลิงเทียนก็ทะลวงจุดรอคอยสุดท้าย ตัดผ่านไปถึงสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบได้สำเร็จ!

 

“ทะลวงผ่านแล้ว!”

 

หลังจากที่ด่านพลังตัดผ่าน ต้วนหลิงเทียนที่นั่งหลับตาบ่มเพาะพลัง ก็ค่อยๆเปิดตาขึ้นมา ใบหน้าเผยยิ้มสดใสไม่น้อย “ได้เวลาเดินทางออกจากสำนักกลับเกาะป้านเยว่เสียที”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด