War sovereign Soaring The Heavens 3193

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3193 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

WSSTH ตอนที่ 3,193 : 100 อันดับแรก

 

 

 

จวินวั่งเฉิน จะอย่างไรก็เป็นถึงศิษย์หลักของนิกายวิถีวายุอัสนี ทั้งยังบรรลุถึงขอบเขตราชาอมตะ 10 ทิศแล้ว แถมยังมีกระบี่อมตะระดับจอมราชัน รวมถึงชุดเกราะอมตะระดับจอมราชัน

 

อนิจจา มันกลับตกตายลงด้วยน้ำมือของโฉมสะคราญอายุไม่ถึงร้อยปีนางหนึ่ง และแต่ต้นจนจบเวลาก็พึ่งจะล่วงเลยไปไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น…

 

“เมื่อครู่นางสมควรใช้ความลึกซึ้งส่งผ่านของกฏมิติ เคลื่อนย้ายคมมีดมิติทั้ง 3 ผ่านห้วงมิติไปผุดโผล่ด้านหลังม่านพลังป้องกันจวินวั่งเฉิน สุดท้ายก็ทำให้จวินวั่งเฉินที่ไม่ทันตั้งตัวถูกฆ่าตาย!”

 

“อยู่ๆเจอแบบนี้ จวินวั่งเฉินนั่น ไหนเลยจะมีเวลาหยิบป้ายหยกออกมาบดขยี้เพื่อหลบหนีออกจากแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงได้ทัน…”

 

“จะให้โทษผู้ใดได้ เป็นมันประมาทผู้อื่นเขาเอง หากมันเลือกจะทุบทำลายป้ายหยกทิ้งตั้งแต่ตอนที่เห็นคมมีดมิติ 3 สายของแม่นางน้อยผู้นั้น มันก็รอดแล้ว!”

 

“ความประมาท เป็นหนทางสู่ความตายโดยแท้…”

 

 

เหล่าผู้คนที่ซุ่มซ่อนตัวอยู่ในความมืด ไม่เว้นผู้ที่ใช้อาคมล่องหนอยู่ พอเห็นจวินวั่งเฉินตกตายลงอย่างโง่งม ก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ เพราะทุกคนรู้ดีว่าที่จวินวั่งเฉินตาย เป็นเพราะมันประมาทผู้อื่นเขาล้วนๆ…

 

และพอหันกลับไปมองร่างบางในชุดขาวที่ลอยล่องกลางหาวอีกครั้ง แววตาทั้งท่าทีของทุกคนก็เริ่มเปลี่ยนเป็นจริงจังขึงขัง

 

ถึงสตรีนางนี้จะเป็นแค่ราชาอมตะ 6 ผสาน แต่นางกลับเข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติจนบรรลุความสำเร็จขั้นตอนเล็กน้อยได้ 2 ประการแล้ว…

 

ไม่ใช่เรื่องยากที่พวกมันจะสังเกตเห็นได้ ว่าความลึกซึ้งผ่ามิมิตที่โฉมสะคราญเบื้องหน้าใช้จบชีวิตจวินวั่งเฉินนั้น นางเข้าใจถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยแล้ว…

 

“พี่หลิงเทียน”

 

หลังจากที่จวินวั่งเฉินตกตาย ฮ่วนเอ๋อก็ไม่ลืมใช้พลังดูดรั้งแหวนพื้นที่ กระบี่ รวมถึงชุดเกราะอมตะของอีกฝ่ายมา จากนั้นนางก็วูบร่างกลับมาหาต้วนหลิงเทียน พลางยื่นแหวนพื้นที่ให้ด้วยท่าทางน่าเอ็นดู

 

เป็นธรรมดา กระบี่อมตะระดับจอมราชันรวมถึงชุดเกราะอมตะระดับจอมราชันนางก็มอบมาให้ต้วนหลิงเทียนด้วย

 

หลังรับกระบี่กับเกราะมาเก็บแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็หยดเลือดผูกพันธะครองแหวนทันที

 

พอส่องภายในดูของในแหวน เขาก็พบภูเขาผลึกอมตะระดับสูง ยันต์อมตะทั้งโอสถอมตะมากมาย และก็มีวัตถุดิบแปลกตากองอยู่อีกมุม

 

‘หืม?!’

 

‘นี่มัน…ยันต์อมตะหลบหนี…ยันต์เงาวายุนี่?’

 

ในกองยันต์อมตะของแหวนพื้นที่จวินวั่งเฉิน ต้วนหลิงเทียนก็พบเจอยันต์เงาวายุ 2 แผ่น ซึ่งเป็นยันต์อมตะหลบหนีชนิดเดียวกับที่ซุนเหลียงเผิงประมุขนิกายอมตะเป้าผู่มอบให้เขาตอนนั้น

 

ที่สำคัญ ยันต์เงาวายุในแหวน จากกลิ่นอายพลังของมัน ก็บอกให้รู้ว่ามีระดับพอๆกับยันต์เงาวายุที่ซุนเหลียงเผิงให้เขามาใช้วันนั้น! แถมดูเหมือนจะเหนือกว่าเสียอีก!!

 

‘จวินวั่งเฉินผู้นี้ หากมันใช้ยันต์เงาวายุ ฮ่วนเอ๋อก็คงไล่มันไม่ทัน…แต่ก็นะ ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงแบบนี้ ใครจะมาใช้ยันต์หลบหนีพวกนี้ให้เปลือง เพราะแค่ทำลายป้ายหยกก็หลบหนีไปได้ทุกเมื่อ’

 

‘ทั้งหมดเพราะมันประมาทเอง’

 

สาเหตุที่ทำให้จวินวั่งเฉินตกตาย  ต้วนหลิงเทียนเห็นได้ชัดเจน

 

เมื่อครู่ แค่ดูจากแววตาของจวินวั่งเฉินนั่น เขาก็รู้แล้วว่ามันแบ่งรับแบ่งสู้ หมายดูก่อนว่าม่านพลังของมันจะป้องกันคมมีดมิติทั้ง 3 ของฮ่วนเอ๋อได้ไหม ถ้าม่านพลังของมันส่อแววว่าจะพังทลายลงในเวลาอันสั้น ไม่พ้นมันต้องทำลายป้ายหยกเพื่อหลบหนีไปแน่นอน

 

เช่นนั้นเขาจึงกล่าวแนะให้ฮ่วนเอ๋อใช้ความลึกซึ้งส่งผ่าน เพื่อให้คมมีดมิติเพิกเฉยม่านพลังป้องกันของจวินวั่งเฉินไปเล่นงานมันโดยตรง ฆ่ามันก่อนที่มันจะทำลายป้ายหยกหลบหนีได้ทัน หาไม่แล้วจวินวั่งเฉินนั่นสุดท้ายก็คงหนีรอดไปได้…

“ครึ่งปีมานี้จวินวั่งเฉินมันติด 100 อันดับแรกแล้วได้แล้ว…หากข้าจำไม่ผิด ดูเหมือนก่อนตามันจะอยู่ในอันดับที่ 92 ด้วยคะแนนสะสม59 แต้ม”

 

“ใช่ ตอนนี้แม่นางน้อยผู้นั้นฆ่ามันได้ ถึงนางจะพึ่งเข้ามาแต่ก็สมควรติดอยู่ใน 100 อันดับแรกทันที”

 

“ข้าเห็นแล้ว! พวกเจ้าดูอันดับที่ 92 เร็ว เป็นชื่อใหม่ที่พึ่งปรากฏ…ฮ่วนเอ๋อ? แม่นางน้อยผู้นี้เรียกว่าฮ่วนเอ๋อ!”

 

“อายุไม่ถึงร้อยปี รูปโฉมงดงามสุดที่ผู้ใดจะเทียบเทียม กิริยาท่าทางไม่ธรรมดา บรรลุราชาอมตะ 6 ผสาน เข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติ 2 ประการถึงขั้นตอนเล็กน้อย! ที่แท้นางเป็นผู้ใดมาจากไหนกันแน่? ต่อให้เป็น 10 ตระกูลใหญ่ 5 นิกายหลักก็ไม่มีอัจฉริยะที่ร้ายกาจเช่นนางมิใช่หรือ?!”

 

“นางช่างร้ายกาจนัก…ข้าไม่เคยเห็นราชาอมตะ 6 ผสานที่ไหนร้ายกาจเท่านางมาก่อนเลย!”

 

 

ในขณะที่กลุ่มคนที่ซ่อนตัวกำลังตื่นตระหนกกับความสามารถของฮ่วนเอ๋อ ต้วนหลิงเทียนก็องถ่ายสำนึกเทวะลงป้ายหยกประจำตัว จึงพบเห็นตารางจัดอันดับ และอันดับในปัจจุบันของฮ่วนเอ๋อ นับว่าป้ายหยกประจำตัวของแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง มีความเอนกประสงค์ สุดที่ป้ายหยกสะสมคะแนนของแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางจะเทียบได้จริงๆ!

 

หลังฆ่าจวินวั่งเฉินศิษย์หลักนิกายวิถีวายุอัสนีได้แล้ว ฮ่วนเอ๋อที่ได้คะแนนของมันมาก็มีชื่อปรากฏในตารางจัดอันดับทันที ติด 100 อันดับแรกเรียบร้อย!

 

ตอนนี้คะแนนสะสมของฮ่วนเอ๋อก็มีทั้งสิ้น 60 แต้ม นอกจาก 1 แต้มที่นางมีติดตัว หมายความว่านางได้คะแนนสะสมจากจวินวั่งเฉินมาทั้งสิ้น 59 แต้ม!

 

“ฮ่วนเอ๋อ เจ้าเห็นอันดับในป้ายรึยัง? อ่าจริงสิ…เจ้าลองแผ่สำนึกเทวะลงไปในป้ายดู”

 

ต้วนหลิงเทียนที่ถอนสำนึกเทวะออกจากป้ายก็หันไปกล่าวกับฮ่วนเอ๋อด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าฮว่นเอ๋ออาจไม่รู้ จึงแนะนำให้ฮ่วนเอ๋อลองถ่ายสำนึกเทวะลงป้ายเพื่อดูคะแนนและอันดับของตัวเอง

 

และอันดับรวมถึงคะแนนของผู้ที่เข้ามาในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงนั้น คนนอกไม่มีทางล่วงรู้เลย ต่อให้จะนำป้ายหยกประจำตัวออกไปด้านนอกก็ตาม

 

เพราะหากป้ายหยกประจำตัวถูกนำออกไปนอกแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง แม้คะแนนสะสมจะคงอยู่ หากแต่จะไม่อาจตรวจสอบคะแนนอันดับอะไรได้อีก

 

หากคนนอกอยากจะรับรู้สถานการณ์ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง ว่าใครได้อันดับเท่าไหร่ มีคะแนนเท่าใด ก็มีแค่วิธีเดียวเท่านั้น…

 

นั่นคือล่วงรู้จากปากของผู้ที่อยู่ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง…ให้ผู้ที่อยู่ด้านในรายงานเรื่องราวออกมา!

 

เนื่องเพราะในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงนั้น ไม่เพียงแต่อุปกรณ์อมตะจะสามารถใช้งานได้  จะโอสถอมตะหรือยันต์อมตะอันใดก็สามารถใช้การได้ทั้งหมด เรียกว่าท่านสามารถใช้ได้ทุกสิ่งเพื่อเข่นฆ่ากันได้ไม่ต่างอะไรจากโลกภายนอก!

 

ด้วยเหตุนี้ผู้คนที่อยู่ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงก็ดี หรืออยู่ด้านนอกก็ดี สามารถสนทนาพูดคุยกันได้ผ่านยันต์อมตะสื่อสารทางวิญญาณตลอดเวลา

 

และจวินวั่งเฉินผู้นี้ จะอย่างไรมันก็เป็นถึงศิษย์หลักนิกายวิถีวายุอัสนี พอมันถูกฮ่วนเอ๋อฆ่าตาย เรื่องราวก็ถูกเซียนอมตะมุงทั้งหลายแพร่งพรายออกไปเร็วไว

 

แม้ในบรรดาคนที่ซุ่มดูเรื่องราวอยู่จะไม่มีคนของนิกายวิถีวายุอัสนี แต่ก็มีบางคนที่รู้จักสหายในนิกายวิถีวายุอัสนี

 

“เฮ่พวก! เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าพึ่งเห็นอะไรมา…ศิษย์หลักของนิกายวิถีวายุอัสนีเจ้าพึ่งถูกฆ่าตายในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงต่อหน้าต่อตาข้าเลย…ไม่ต้องเดาว่าใคร เป็นจวินวั่งเฉินที่วางท่าคนนั้นนั่นล่ะ!!”

 

“พี่เถียน จวินวั่งเฉินศิษย์หลักของนิกายท่าน พึ่งถูกสตรีอายุไม่ถึงร้อยนางหนึ่งฆ่าตาย! สตรีนางนั้นเรียกว่าฮ่วนเอ๋อ!!”

 

“น้องฉิน จวินวั่งเฉินศิษย์น้องเจ้าที่ปากดีๆหน่อย มันตกตายเพราะสตรีนนางหนึ่งแล้ว…”

 

 

เรียกว่าเหล่าผู้เห็นเหตุการณ์ติดต่อสหายในนิกายวิถีวายุอัสนีได้ไม่ทันไร เรื่องราวการตายของจวินวั่งเฉิน ก็เริ่มแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้างดั่งไฟลามทุ่ง

 

ต้วนหลิงเทียนแน่นอนว่าไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย

 

แต่เป็นธรรมดาว่าถึงเขาจะรู้ เขาก็คงไม่สนใจอะไร

 

เมื่อท่านเลือกจะเข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงเพื่อช่วงชิงโอกาสแล้ว หมายความว่าท่านพร้อมยอมรับความตายเช่นกัน การที่จวินวั่งเฉินตกตาย ก็เพราะทักษะอ่อนด้อยกว่าผู้อื่นเขา ยังจะโทษใครได้?

 

หรือคนของนิกายวิถีวายุอัสนีแพ้ไม่เป็น จมไม่ลง ถึงขั้นต้องบุกมาถึงคฤหาสน์เฉวียนโยวและบีบคฤหาสน์เฉวียนโยวให้ส่งตัวเขาออกไป?

 

อย่างไรนิกายวิถีวายุอัสนีก็เป็นถึง 1 ใน 5 นิกายหลักของแดนสวรรค์ใต้ พวกมันย่อมห่วงภาพลักษณ์เป็นที่สุด ไม่มีวันทำอะไรให้เป็นที่เสื่อมเสีย จนตกเป็นขี้ปากผู้คนแบบนั้นแน่นอน!

 

ทั้งหมดที่พวกมันทำได้ก็คือ ส่งยอดฝีมือเข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงเพื่อล้างแค้นให้จวินวั่งเฉิน ไม่อาจเล่นนอกเกมหรือลงมือล้างแค้นเขาด้านนอกได้!

 

“พี่หลิงเทียน อันดับมันได้ง่ายเกินไปหรือไม่…แค่ทุบตีตัวโง่งมตายไปคนเดียวก็ติด 100 อันดับแรกแล้วหรือ?”

 

หลังตรวจสอบคะแนนและอันดับในป้ายหยกประจำตัวแล้ว ฮ่วนเอ๋อก็เงยหน้าขึ้นมามองถามต้วนหลิงเทียนตาปริบๆ

 

ฟังจากคำพูดของนาง คล้ายการติดอยู่ใน 100 อันดับแรกเป็นเรื่องงราวอันง่ายดายนัก

 

“ฮ่วนเอ๋อ…ที่เจ้าติด 100 อันดับแรกทันทีแบบนี้ เพราะที่เจ้าพึ่งฆ่าไปคือผีดวงกุดที่มีคะแนนสะสม 59 แต้ม…”

(ผีดวงกุด ,ผีอับโชค = คนที่ตายเพราะความโชคร้าย)

 

“จะอย่างไรตอนนี้มันก็ผ่านมาครึ่งปีแล้วหลังจากการล้างอันดับครั้งสุดท้าย…กล่าวได้ว่าผลงานที่เจ้าผีดวงกุดนั่นมันลำบากทำมาตลอดระยะเวลาครึ่งปี ได้ตกเป็นของเจ้าทั้งหมดอย่างไรเล่า…”

 

ต้วนหลิงเทียนก็รู้ว่าฮ่วนเอ๋อยังไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไรในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงสักเท่าไหร่ จึงค่อยๆบอกให้นางรับรู้

 

หลังได้ยินสิ่งที่ต้วนหลิงเทียนบอก ฮ่วนเอ๋อก็ตระหนักเรื่องราวได้ทันที “แบบนี้นี่เอง…หมายความว่าหากพวกเราพบเจอคนอย่างเจ้าผีดวงกุดบ่อยๆ พวกเราก็จะได้คะแนนสะสมเยอะๆมาง่ายๆ?”

 

“จะว่าไปมันก็เป็นแบบนั้นนั่นล่ะ…แต่คนที่มีแต้มมากกว่ามันตอนนี้ ทั้งแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงก็มีไม่ถึง 100 คนแล้ว ไม่ใช่ว่าพวกเราจะหาเจอกันได้ง่ายๆ…”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวพลางส่ายหัวไปมา

 

“ไปกันต่อเถอะฮ่วนเอ๋อ…ลองดูว่าพวกเราจะได้อะไรดีๆติดไม้ติดมือกลับไปอย่างที่หวังไว้หรือไม่”

 

หลังจากกล่าวชักชวนฮ่วนเอ๋อ ต้วนหลิงเทียนก็สุ่มเหินร่างมุ่งหน้าไปยังทิศทางหนึ่งทันที

 

เมื่อพวกเขาจากไปได้สักพัก เหล่าคนที่ซ่อนตัวดูชมเรื่องราวอยู่แต่แรก ก็พอได้ระบายลมหายยใจออกมาอย่างโล่งอก หลายคนถึงกับลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าพวกมันไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร เพราะสุดท้ายพวกต้วนหลิงเทียนก็ไม่มีทางหาพวกมันที่ใช้อาคมล่องหนเจออยู่ดี

 

ก็แค่รู้สึกโล่งอกที่เห็นพวกต้วนหลิงเทียนจากไปเท่านั้น

 

“เฮ่ พวกเจ้ามีผู้ใดรู้จักสตรีคนเมื่อครู่บ้าง?”

 

หลายคนเริ่มหันไปเอ่ยถามสหายข้างกาย

 

ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง ราชาอมตะที่พลังฝีมือไม่ค่อยสูงนัก ก็มักจะรวมกลุ่มเดินทางกันหลายๆคน

 

และเป็นธรรมดาว่าผู้ที่จะรวมกลุ่มกัน ก็คือสหายที่สนิทสนมคุ้นเคยกันในระดับหนึ่ง

 

หาไม่แล้วอาจมีคนแทงข้างหลังท่านได้

 

“ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนางมาก่อนเลย…ฮ่วนเอ๋อ ชื่อนี้สมควรปรากฏขึ้นในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงครั้งแรกเลยกระมัง?”

 

“สมควรเป็นอย่างนั้น เพราะข้าเองก็ไม่เคยได้ยินชื่อนางมาก่อนเหมือนกัน”

 

“หากนางเคยเข้ามา เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะไม่มีใครไม่รู้จักนาง…ไม่ต้องพูดถึงพลังฝีมือของนางด้วยซ้ำ เอาแค่รูปโฉมของนาง ก็มากพอจะทำให้แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง ไม่สิ กระทั่งทั่วทั้งแดนสวรรค์ใต้ปั่นป่วนแล้ว!”

 

“จริง…ข้าว่านางพึ่งจะเคยเข้ามาเป็นครั้งแรก!”

 

 

เรียกว่าตอนนี้ในใจของพวกมันได้สลักนาม ฮ่วนเอ๋อ พร้อมจดจำรูปโฉมอันงดงามไร้คู่เปรียบเอาไว้ อย่างยากจะลบเลือน

 

และหลายๆคนก็เริ่มบังเกิดความอิจฉาชายหนุ่มชุดม่วงที่อยู่ข้างๆสตรีชุดขาวขึ้นมาตงิดๆ

 

ในเมื่อล้วนเป็นบุรุษเหมือนกัน แล้วไฉนเจ้าหนุ่มชุดม่วงนั่นมันถึงได้ครอบครองสตรีงามพิลาศล้ำอยู่คนเดียวเล่า?

 

ไฉนจึงโชคดีนัก?

 

‘พลังฝีมือร้ายกาจ รูปโฉมงดงาม อายุไม่ถึงร้อย ใส่ชุดขาว…แถมให้ความรู้สึกคลุมเครือราวกับนางเป็นคนเผ่าเดียวกันกับข้า…’

 

‘นอกจากนี้เจ้าหนุ่มชุดม่วงที่ติดตามอยู่ข้างกายนั่น…สองคนนี้จะใช่ต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อ ที่ท่านพ่อกล่าวถึงหรือไม่? สตรีชุดขาวนั่น คือคนที่ทางเผ่าสงสัยว่าจะเป็นจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายางั้นหรือ?’

 

ท่ามกลางผู้ชมที่ซุ่มซ่อนอยู่ มีชายหนุ่มในชุดสีเทาแลดูถ่อมตนคนหนึ่งกำลังหยีตามองตามทิศทางที่ต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อหายตัวไป ด้วยสายตาเป็นประกายวูบวาบ จากนั้นมันก็เร่งบดขยี้ยันต์อมตะส่งข้อความออกไปทันที

 

ไม่นานนัก มันก็ได้รับข้อความติดต่อกลับมา เป็นการถามไถ่ว่า “ชายหนุ่มชุดม่วงผู้นั้นมีลักษณะอย่างไร?”

 

ชายหนุ่มชุดเทาก็ค่อยๆบรรยายลักษณะรูปร่างหน้าตาทั้งชุดสวมใส่ออกไปอย่างละเอียด

 

ครู่ต่อมามันก็รับข้อความติดต่อกลับมา “ไม่ผิดคนแน่ เจ้านั่นสมควรเป็นต้วนหลิงเทียนอย่างไม่ต้องสงสัยเลย…ตอนไปเยือนคฤหาสน์เฉวียนโยวกับท่านหัวหน้าเผ่า ข้าเคยเจอมัน!”

 

“สำหรับสตรีงามหมดจดชุดขาวที่อยู่ข้างๆกายมัน ไม่พ้นเป็นสตรีที่ปิดหน้าปิดตาที่คนของพวกเราลอบสะกดรอยตามไป ก่อนจะตกตายใกล้คฤหาสน์เฉวียนโยวเป็นแน่…นางคือคนที่พวกเราสงสัยว่าจะเป็นจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายา!”

 

“นอกจากนั้นเมื่อรวมกับข้อมูลที่พวกเราส่งคนไปสืบหามาจากพื้นที่ชายแดนรอบนอก…เรื่องที่ข้างกายต้วนหลิงเทียนมักมีสตรีนามฮ่วนเอ๋อติดตามไม่ห่าง ทั้งหมดก็บ่งชี้ชัดเจน เป็นพวกมัน 2 คนจริงๆ!”

 

ผู้ที่กำลังส่งข้อความติดต่อกับชายหนุ่มในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงนั้น เป็นชายชราคนหนึ่งที่อยู่ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงเช่นกัน

 

และหากต้วนหลิงเทียนได้เห็นชายชราคนนี้ เขาย่อมจดจำมันได้ทันที เพราะมันก็คือ 1 ใน 2 ชายชราที่ติดตามหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกมายาที่มาสืบความถึงคฤหาสน์เฉวียนโยวเมื่อ 30 ปีก่อน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด