War sovereign Soaring The Heavens 3425

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3425 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3,425 : คนนิกายลั่วสุ่ยฆ่าล้างระนาบเซียน
ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่รู้เลย ว่าหลังจากเขากับผู้เฒ่าหั่วออกจากฝูโหย่วเทียนและย้อนกลับมายังจี้เมี่ยเทียนได้ไม่นาน จักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้ว ข่งเฝิน ก็ได้ออกจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียน
อารมณ์ของต้วนหลิงเทียนก็ไม่ค่อยสู้ดีทั้งอึมครึมนัก
เขารู้ดีว่าเหตุผลเดียวที่ทำให้จักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนกล้าปกป้องจักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้วอย่างออกหน้าออกตาแบบนี้ เพราะจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน ฟงชิงหยาง ไม่อยู่
อันที่จริง ต่อให้ฟงชิงหยางไม่อยู่ แต่ขอแค่ตัวเขาเองมีพลังแข็งแกร่งกว่าหยางอวิ๋นเซียว อีกฝ่ายก็คงไม่มีวันปกป้องจักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้วแน่นอน
‘ทั้งหมดเป็นเพราะข้าอ่อนแอกว่ามัน…กระทั่งในสายตาของหยางอวิ๋นเซียว ข้าอาจไม่ต่างอะไรไปจากมดตัวหนึ่ง’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ
และมันเป็นแบบนั้นจริงๆ
ที่ไฉนหยางอวิ๋นเซียวถึงเรียกหาต้วนหลิงเทียนว่าศิษย์หลาน ทั้งแลดูมากอัธยาศัย ให้ของขวัญแรกพบ ทั้งหมดเป็นเพราอีกฝ่ายเห็นแก่หน้าฟงชิงหยางทั้งสิ้น
หาไม่แล้วอาศัยพลังของตัวต้วนหลิงเทียนเอง เกรงว่าหยางอวิ๋นเซียวคงไม่เห็นอยู่ในสายตา
เนื่องจากเกิดเรื่อดั่งระเบิดลงที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียน พอกลับมาถึงพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน ต้วนหลิงเทียนก็โจรเข้าห้องหับและปิดด่านบ่มเพาะทันที
สำหรับครอบครัวของเขา ทั้งหมดก็บ่มเพาะพลังกันในโลกใบเล็กภายในกายเขา
เป็นธรรมดาว่าเขาก็ชักนำพลังวิญญาณฟ้าดินออกมาจากโลกใบเล็กตัวเองเพื่อบ่มเพาะ สุดท้ายแล้วไอพลังวิญญาณฟ้าดินในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จะดีแค่ไหน มันก็ไม่อาจสู้ได้
และตอนนี้ไม่ว่าให้มีผลึกเทพกี่ก้อนมากอง ก็เทียบไม่ได้กับพลังวิญญาณฟ้าดินในโลกใบเล็กของเขา ท้ายที่สุดแล้วนั่นก็คือพลังวิญญาณฟ้าดินจากระนาบเทพจริงๆ ระดับของมันสูงกว่ากันมาก
ถึงแม้ในระนาบเทวโลกจะมีผลึกเทพให้เห็นไม่น้อย แต่มันก็แค่พลังวิญญาณฟ้าดินที่ก่อตัวในระนาบเทวโลก จะไปสู้กับของแท้จากราบเทพได้อย่างไร?
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนจดจ่ออยู่กับการบ่มเพาะพลัง ครอบครัวและคนสนิทของเขาก็ตั้งหน้าตั้งตาบ่มเพาะเช่นกัน
สำหรับบิดามารดาของต้วนหลิงเทียนอย่าง ต้วนหรูเฟิง กับลี่หลัวนั้น ก็บ่มเพาะพลังอยู่ในโลกใบเล็กของต้วนหลิงเทียนอย่างมีความสุข และชมชอบอยู่ภายในโลกใบเล็กของต้วนหลิงเทียนมาก อย่างน้อยก็ไม่ต้องแยกจากลูกชายอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม บางครั้งทั้งคู่เองก็ต้องการทำเรื่องที่ไม่อาจบรรยายกันสองคน ก็มักจะออกจากโลกใบเล็กของต้วนหลิงเทียนและไปยังห้องพักอื่นๆ
สถานที่พักอาศัยของต้วนหลิงเทียนภายในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน ก็คือจวนหลังใหญ่หลังหนึ่งที่มีห้องหับและลานส่วนตัวมากมาย ไม่เพียงแต่ต้วนหรูเฟิงกับลี่หัววจะมีเรือนพักส่วนตัว แต่เรือนส่วนตัวของเฟิ่งหวู่เต้ากับบทุกคนก็มีพอ
“พี่เฟิง ว่างๆพววกเรากับไปบ้านเกิดกันดีหรือไม่…กล่าวไปพวกเราก็จากมาหลายร้อยปีแล้ว ไม่ทราบตอนนี้ที่นั่นเป็นอย่างไรกันบ้าง”
ลี่หลัวหันไปกล่าวกับต้วนหรูเฟิง
“อืม ก็ดีเหมือนกัน หลังจากนี้สักพักค่อยกลับไปดูกันหน่อย”
ต้วนหรูเฟิงพยักหน้า

ระนาบเซียน เป็นระนาบโลกียะขนาดเล็ก หนึ่งในระนาบโลกียะนับอนันต์ท่ามกลางสวรรค์และโลก
ถึงแม้ระนาบเซียนจะปรากฏตัวตนอันยอดเยี่ยมอย่างฟงชิงหยาง ที่กลายเป็นจักรพรรดิสวรรค์ ตัวตนที่อยู่เหนือสุดในระนาบเทวโลกแห่งหนึ่ง แต่ผู้คนในระนาบเซียนก็แทบไม่รู้เรื่องเหล่านี้เลย
“พี่ชิว นี่ก็ผ่านมาสักพักแล้ว พวกเราไปเยี่ยมฮ่วนเอ๋อกับเสี่ยวเทียนที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ดีหรือไม่?”
สตรีงามหมดจดนางหนึ่งที่ลอยร่างเหนือทะเลแห่งหนึ่งบนระนาบเซียน หันไปกล่าวกับบุรุษข้างกาย
“ไปหาลูกๆหน่อยก็ดี…อย่างไรพวกเราก็ท่องเที่ยวไปทั่วทุกมุมของระนาบเซียนแห่งนี้แล้ว ไปบ่มเพาะพลังที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนก็ดีเหมือนกัน”
เหลียนชิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถึงแม้พลังฝีมือของพวกเราคงไม่อาจไล่ตามลูกสาวกับลูกเขยได้ทันแน่นอน…แต่เรื่องได้ไปบ่มเพาะพลังที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนนี่ เป็นความฝันของข้าเลยนะ”
เหลียนชิวเดิมทีก็เป็นเซียนอมตะที่ฝึกกระบี่คนหนึ่ง และเคยอยู่ในขุมกำลังระดับสวรรค์ของจี่เมี่ยเทียนอย่างหุบเขากระบี่ฟ้า
และในจี้เมี่ยเทียน เหล่าเซียนอมตะที่ฝึกกระบี่ทั้งหลาย ทั้งหมดถือว่าจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนฟงชิงหยางเป็นดั่งแบบอย่างชั่วชีวิต! ตัวเหลียนชิวเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
กระทั่งเหลียนชิวยังไม่เคยคิดฝันมาก่อนด้วยซ้ำ ว่าวันหนึ่งลูกสาวของตัวเอง จะทำให้มันมีโชคชะตาคาบเกี่ยวกับจักกรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางได้…ลูกเขยของมันเป็นถึงศิษย์ที่แท้จริงของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยาง!
และยังเป็นศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียว!!
ตอนแรกหลังจากที่ต้วนหลิงเทียนพาฮ่วนเอ๋อออกจากสมรภูมิอเวจี พอไปยืนยันตัวตนที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนแล้ว ไม่ทันที่จะมีเรื่องออกไปตามหาต้วนหรูเฟิง ลี่หลัวและคนอื่นๆ ต้วนหลิงเทียนก็ได้ย้อนกลับมายังระนาบเซียนเพื่อแจ้งเรื่องราวให้เหลียนชิวและตู้เสวียนทราบไว้
ตอนที่ทั้งคู่ได้รับรู้เรื่องนี้ครั้งแรก ก็ตกตะลึงกันไม่น้อย
วันนั้นเดิมทีต้วนหลิงเทียนก็คิดพาทั้งคู่ออกจากระนาบเซียนและกลับไปด้วยกัน แต่ด้วยความที่ทั้งคู่พึ่งได้รับอิสระคืนกับ และได้อยู่ในระนาบเซียนสักพักจึงชมชอบความสงบที่นี่ไม่น้อย ก็เลยบอกต้วนหลิงเทียนว่าจะขออยู่ต่ออีกสักพัก
เหน็ดเหนื่อยทรมานในคุกมานาน พอมีโอกาสได้หลบลี้ความวุ่นวายมาพักผ่อนเงียบๆในระนาบโลกียะ แล้วจะรีบไปไหน?
ต้วนหลิงเทียนเองก็เคารพความคิดทั้งคู่ เช่นนั้นก่อนจะออกจากระนาบเซียนเขาก็บอกทั้งคู่ไว้ว่า เขาจะไปปักหลักอยู่ที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน หากตอนที่ทั้งคู่กลับไปพอดีกับบเขาออกไปธุระอะไรด้านนอกก็ให้เรียกหาเมิ่งหัวได้เลย
“หืม?”
ทันใดนั้นเอง เหลียนชิวคล้ายสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ลูกตาหดเล็กลงเร็วไว รอยยิ้มชื่นมื่นบนใบหน้าแข็งค้างไปในพริบตา
ตูมมม!!
ครืนนนน!!

เสียงระเบิดดังขึ้นจากทะเลเบื้องหน้า จากนั้นเหลียนชิวก็พบสัตว์อสูรลอยขึ้นมาตัวแล้วตัวเล่าจนนับไม่ถ้วน เพียงแค่พวกมันไร้ซึ่งกลิ่นอายพลังชีวิต…ทั้งหมดตกตายหมดสิ้น!
และเพียงชั่วพริบตา ทะเลสีฟ้าครามเบื้องล่างก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน
“นี่มันเรื่องอะไรกัน!?”
เห็นฉากดังกล่าว ตู้เสวียนก็อึ้งไปทันที
“มีคนฆ่าพวกมัน…แถมคนลงมือยังเป็นจักรพรรดิอมตะอีกด้วย!”
เหลียนชิววกล่าวออกกเสียงเข้ม
ครู่ต่อมาคล้ายเหลียนชิวจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ใช้พลังหอบหิ้วร่างตู้เสวียนเหินขึ้นฟ้าทิศทางหนึ่งทันที
และที่นั่น ก็ปรากฏร่างชายวัยกลางคน 2 คนกำลังลอยล่องอยู่กลางอากาศ แต่ละคนทำท่าผลักฝ่ามือลงไปเบื้องล่าง ปลายนิ้วทั้ง 10 ปลดปลอยกระแสพลังสังหารไหลออกไปไม่ขาดสาย ราวกับลำแสงอันมีดววงตางอกเงยหนึ่ง สาดยิงเข่นฆ่าสัตว์อสูรในทะเลเบื้องล่างไม่หยุด!
กระแสพลังสังหารหังเข่นฆ่าสัตว์อสูรตัวหนึ่งก็พุ่งทะลุไปเข่นฆ่าสัตว์อสูรตัวอื่นต่อด้วย เข่นฆ่าไปนับพันนับหมื่นตัวกว่ากระแสพลังที่ยิงส่งๆจึงจะสิ้นอานุภาพ…และต้องทราบด้วยว่าพวกมันยิงกระแสพลังสังหารออกมารัวถี่ยิบ!
“หืม?”
ขณะเดียวกันพอเหลียนชิวกับตู้เสวียนปรากฏตัว ชายวัยกลางคนทั้ง 2 ก็สังเกตเห็นทั้งคู่เร็วไว สองตาพลันฉายรังสีฆ่าฟัน กระทั่งหนึ่งในนั้นยังหันไปซัดพลังสังหารเข้าใส่ทั้งคู่ทันที!
ซู่มม!!
ซู่มมม!!

เพลิงพลังควบแน่นก่อเกิดเป็นลำแสงสังหารเข่นฆ่าเข้าใส่เหลียนชิวกับตู้เสวียน สภาวะพลังรุนแรงฉับไวประหนึ่งดาวตกดวงน้อยร่วงฟ้า และอานุภาพพลังนี้จากกลิ่นอายแล้วก็เป็นพลังขอบบเขตจักรพรรดิอมตะ แต่ยังห่างไกลจากระดับจักรพรรดิอมตะสมญานาม
เป็นธรรมดาว่าอาศัยพลังระดับนี้ เหลียนชิวย่อมไม่เห็นอยู่ในสายตา
ชิ้ง!
เสียงกระบี่ดังขึ้นเสียดฟ้า เป็นพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดเหลียนชิวปะทุออกมาฉับไว พริบตาก็หลอมผสานเข้ากับพลังแห่งกฏ ก่อเกิดกระบี่พลังเล่มเขื่องหนึ่งกลางหาว พุ่งจ้วงเข้าใส่ลำแสงเพลิง 2 สายทันที!
ปงงง!!
เสียงระเบิดของพลังดังขึ้น กระบี่พลังไม่เพียงทำลายลำลแสงพลังสังหาร 2 สายได้ง่ายดาย แต่ยังเข่นฆ่าเข้าใส่ผู้งมือสืบต่อ!
“จักรพรรดิอมตะ!!”
ตอนนี้เองชายวัยกลางคนทั้งคู่พลันตระหนักได้ว่าทั้ง 2 ที่อยู่ๆก็มาปรากฏกายที่แท้เป็นถึงจักรพรรดิอมตะ ซ้ำร้ายชายผู้ลงมือนั่น เกรงว่าพลังฝีมือปริ่มๆจะเป็นจักรพรรดิอมตะสมญานามเต็มทีแล้ว
จะอย่างไรก็ตาม สุดท้ายเหลียนชิวก็ไม่คิดจะลงมือเข่นฆ่าพวกมันจริงจัง เช่นนั้นพอกระบี่จี้ถึงหว่างคิ้วชายวัยกลางคนผู้เปิดฉากลงมือก็หยุดลง
“พวกท่านที่แท้เป็นใคร? ดูแล้วมิน่าใช่คนของนิกายลั่วสุ่เรา?”
ชายวัยกลางผู้ลงมืออดไม่ได้ที่จะกล่าวถามออกมาด้วยสีหน้าหวาดกลัว ด้วยไม่คิดไม่ฝันว่าในระนาบโลกียยะเล็กๆนี่จะมีตัวตนระดับจักรพรรดิอมตะดำรงอยู่ได้
“นิกายลั่วสุ่ย?”
ลูกตาเหลียนชิวหดเล็กลงอยู่บ้าง ก็จริงที่ระนาบเทวโลกมีขุมกำลังระดับสวรรค์รวมๆกันแล้วไม่น้อย คงยากที่ใครจะจำชื่อได้หมด
อย่างไรก็ตามมีขุมกำลังระดับสวรรค์บบางแห่ง ที่ผู้คนสามารถจดจำชื่อได้
นั่นรวมถึงนิกายลั่วสุ่ยด้วย
เนื่องเพราะนิกายลั่วสุ่ยเป็นขุมกำลังระดับสวรรค์ที่แกร่งที่สุดในลั่วสุ่ยเทียน แถมตัวประมุขนิกายก็เป็นคนๆเดียวกับจักรพรรดินีสวรรค์แห่งลั่วสุ่ยเทียนอีกด้วย
ขุมกำลังสวรรค์ระดับนี้อย่าว่าแต่หุบเขากระบี่ฟ้าที่มันเคยอยู่เลย ต่อให้เป็นวังเทียนฉือแห่งอู๋หยาเทียนก็ไม่อาจเปรียบเทียบ
“พวกเจ้าเป็นของนิกายลั่วสุ่ยงั้นรึ? แล้วที่แท้มาทำอะไรที่นี่?”
เหลียนชิวขมวดคิ้วเอ่ยถาม
“พวกเรารับคำสั่งท่านประมุข มาเข่นฆ่าทุกสรรพชีวิตบนระนาบเซียนแห่งนี้!”
ชายวัยกลางคนอีกคน มองจ้องเหลียนชิวด้วยสายตาราวอัสนีฟาด กล่าวออกเสียงหนัก!
“ประมุข!?”
หน้าเหลียนชิวเปลี่ยนสีไปทันที ด้วยไม่คิดว่าจุดประสงค์การมาของอีกฝ่ายก็คือเข่นฆ่าทุกสรรพชีวิตบบนระนาบเซียน แถมนี่ยังเป็นคำสั่งของประมุขนิกายลั่วสุ่ยอีก!?
“ประมุขที่เจ้าว่า…ใช่จักรพรรดินีสวรรค์ของลั่วสุ่ยเทียนหรือไม่?”
เหลียนชิวเอ่ยถาม
“มิผิด ใต้เท้าจักรพรรดินีสวรรค์เป็นประมุขนิกายลั่วสุ่ยเรา”
ชายวัยกลางคนเอ่ยออกเสียงเรียบ “อย่างไรเสียคำสั่งที่พวกเราได้รับนั้นถูกถ่ายทอดมาจากองค์ธิดาเทพของพวกเราอีกที…เป็องค์ธิดาเทพที่ได้รับคำสั่งจากท่านประมุขโดยตรง”
เหลียนชิวขมวดคิ้ว มันเองก็เคยได้ยินมาว่าธิดาเทพของนิกายยลั่วสุ่ย ก็คือลูกสาวของแท้ๆของประมุขนิกายลั่วสุ่ยที่พ่วงตำแหน่งจักรพรรดินีสวรรค์แห่งลั่วสุ่ยเทียน
“ไฉนจักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนของพวกเจ้าต้องมาฆ่าสิ่งมีชีวิตต่ำต้อยในระนาบโลกียะเล็กๆด้วยเล่า? อาศัยคนในระนาบโลกียะแห่งนี้ ไม่น่าจะมีปัญญาไปสร้างปัญหาอะไรให้พวกเจ้าได้เลยนี่?”
เหลียนชิวเอ่ยถามเสียงเข้ม ฆ่าล้างสรรพชีวิตในระนาบโลกียะระนาบหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นแค่ระนาบโลกียะเล็กๆ แต่การลงมืออำมหิตแบบนี้ก็มากพอจะขู่ขวัญผู้คนให้หวาดกลัวแล้ว
“นั่นมิใช่เรื่องที่พวกเราต้องรู้?”
ชายวัยกลางคนกล่าว
“ว่าแต่คนของนิกายลั่วสุ่ยที่มาลงมือ มีแค่พวกเจ้า 2 คนรึ?”
เหลียนชิวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงปกติ หากแต่ลึกลงไปในดวงตากลับฉายเจตนาฆ่าฟันเรืองขึ้นวาบหนึ่ง ก่อนจะดับวูบไปโดยที่ไม่มีใครสัมผัสได้
เพราะหากคนของนิกายลั่วสุ่ยมีแค่ 2 คนเบื้องหน้า มันก็คิดจะฆ่าอีกฝ่ายทิ้งทันที จากนั้นก็เร่งกลับไปรายงานเรื่องราวที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์…เพราะตัวมันรู้ดี ว่าที่นี่ไม่ใช่แค่บ้านเกิดของลูกเขยเท่านั้น แต่ยังเป็นมาตุภูมิของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนอีกด้วย!!
จักรพรรดินีสวรรค์แห่งลั่วสุ่ยเทียนออกคำสั่งงฆ่าล้างระนาบแบบนี้ ใช่คิดมุ่งเป้าไปยังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนรึเปล่า?
เหลียนชิวลองคิดดู เรื่องนี้มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลย!
จักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนนั่น ต่อให้เป็นตอนที่จักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนยังงงไม่ได้เข้าสู่นรกอสุรา พลังฝีมือก็สู้ไม่ได้แต่แรก…
มาตอนนี้จักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนไม่เพียงแต่จะรอดกลับออกมาจากนรกอสุรา แต่ยังคาดว่าพลังฝึกปรืออาจบรรลุถึงขอบเขตเทพไปแล้ว
ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว เว้นเสียแต่จักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนเป็นตัวโง่งมแห่งยุค หาไม่แล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเพ่งเป้ามาที่จักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน
“แน่นอนว่าไม่”
คนของนิกายลั่วสุ่ยทั้งสองย่อมไม่สังเกตเห็นจิตสังหารที่วาบขึ้นในแววตาเหลียนชิว ส่ายหัวไปมาพลางกล่าว “พวกเรามาที่นี่กันสิบกว่าคน และนำกลุ่มโดยจักรพรรดิอมตะสมญานาม 2 คน”
พอได้ฟังใจเหลียนชิวก็สั่นไปทันที หากแต่ยังคงปั้นหน้ายิ้มกล่าวไปว่า “เหอะๆ ข้าไม่คิดเลยว่าพวกเราคู่รักจะมีโชคดีขนาดนี้…ยากนักที่ออกมาเที่ยวพักผ่อนในระนาบโลกียะสักแห่ง แต่ดันมาเที่ยวในระนาบโลกียะที่จักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนคิดฆ่าล้างพอดี…”
“เอาล่ะ สหายทั้งสองจากนิกายลั่วสุ่ย ในเมื่อพวกเจ้ามีเรื่องต้องกระทำ เช่นนั้นพวกเราก็ไม่คิดอยู่รบกวนแล้วล่ะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

War sovereign Soaring The Heavens 3425

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3425 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3,425 : คนนิกายลั่วสุ่ยฆ่าล้างระนาบเซียน
ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่รู้เลย ว่าหลังจากเขากับผู้เฒ่าหั่วออกจากฝูโหย่วเทียนและย้อนกลับมายังจี้เมี่ยเทียนได้ไม่นาน จักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้ว ข่งเฝิน ก็ได้ออกจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียน
อารมณ์ของต้วนหลิงเทียนก็ไม่ค่อยสู้ดีทั้งอึมครึมนัก
เขารู้ดีว่าเหตุผลเดียวที่ทำให้จักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนกล้าปกป้องจักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้วอย่างออกหน้าออกตาแบบนี้ เพราะจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน ฟงชิงหยาง ไม่อยู่
อันที่จริง ต่อให้ฟงชิงหยางไม่อยู่ แต่ขอแค่ตัวเขาเองมีพลังแข็งแกร่งกว่าหยางอวิ๋นเซียว อีกฝ่ายก็คงไม่มีวันปกป้องจักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้วแน่นอน
‘ทั้งหมดเป็นเพราะข้าอ่อนแอกว่ามัน…กระทั่งในสายตาของหยางอวิ๋นเซียว ข้าอาจไม่ต่างอะไรไปจากมดตัวหนึ่ง’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ
และมันเป็นแบบนั้นจริงๆ
ที่ไฉนหยางอวิ๋นเซียวถึงเรียกหาต้วนหลิงเทียนว่าศิษย์หลาน ทั้งแลดูมากอัธยาศัย ให้ของขวัญแรกพบ ทั้งหมดเป็นเพราอีกฝ่ายเห็นแก่หน้าฟงชิงหยางทั้งสิ้น
หาไม่แล้วอาศัยพลังของตัวต้วนหลิงเทียนเอง เกรงว่าหยางอวิ๋นเซียวคงไม่เห็นอยู่ในสายตา
เนื่องจากเกิดเรื่อดั่งระเบิดลงที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียน พอกลับมาถึงพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน ต้วนหลิงเทียนก็โจรเข้าห้องหับและปิดด่านบ่มเพาะทันที
สำหรับครอบครัวของเขา ทั้งหมดก็บ่มเพาะพลังกันในโลกใบเล็กภายในกายเขา
เป็นธรรมดาว่าเขาก็ชักนำพลังวิญญาณฟ้าดินออกมาจากโลกใบเล็กตัวเองเพื่อบ่มเพาะ สุดท้ายแล้วไอพลังวิญญาณฟ้าดินในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จะดีแค่ไหน มันก็ไม่อาจสู้ได้
และตอนนี้ไม่ว่าให้มีผลึกเทพกี่ก้อนมากอง ก็เทียบไม่ได้กับพลังวิญญาณฟ้าดินในโลกใบเล็กของเขา ท้ายที่สุดแล้วนั่นก็คือพลังวิญญาณฟ้าดินจากระนาบเทพจริงๆ ระดับของมันสูงกว่ากันมาก
ถึงแม้ในระนาบเทวโลกจะมีผลึกเทพให้เห็นไม่น้อย แต่มันก็แค่พลังวิญญาณฟ้าดินที่ก่อตัวในระนาบเทวโลก จะไปสู้กับของแท้จากราบเทพได้อย่างไร?
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนจดจ่ออยู่กับการบ่มเพาะพลัง ครอบครัวและคนสนิทของเขาก็ตั้งหน้าตั้งตาบ่มเพาะเช่นกัน
สำหรับบิดามารดาของต้วนหลิงเทียนอย่าง ต้วนหรูเฟิง กับลี่หลัวนั้น ก็บ่มเพาะพลังอยู่ในโลกใบเล็กของต้วนหลิงเทียนอย่างมีความสุข และชมชอบอยู่ภายในโลกใบเล็กของต้วนหลิงเทียนมาก อย่างน้อยก็ไม่ต้องแยกจากลูกชายอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม บางครั้งทั้งคู่เองก็ต้องการทำเรื่องที่ไม่อาจบรรยายกันสองคน ก็มักจะออกจากโลกใบเล็กของต้วนหลิงเทียนและไปยังห้องพักอื่นๆ
สถานที่พักอาศัยของต้วนหลิงเทียนภายในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน ก็คือจวนหลังใหญ่หลังหนึ่งที่มีห้องหับและลานส่วนตัวมากมาย ไม่เพียงแต่ต้วนหรูเฟิงกับลี่หัววจะมีเรือนพักส่วนตัว แต่เรือนส่วนตัวของเฟิ่งหวู่เต้ากับบทุกคนก็มีพอ
“พี่เฟิง ว่างๆพววกเรากับไปบ้านเกิดกันดีหรือไม่…กล่าวไปพวกเราก็จากมาหลายร้อยปีแล้ว ไม่ทราบตอนนี้ที่นั่นเป็นอย่างไรกันบ้าง”
ลี่หลัวหันไปกล่าวกับต้วนหรูเฟิง
“อืม ก็ดีเหมือนกัน หลังจากนี้สักพักค่อยกลับไปดูกันหน่อย”
ต้วนหรูเฟิงพยักหน้า

ระนาบเซียน เป็นระนาบโลกียะขนาดเล็ก หนึ่งในระนาบโลกียะนับอนันต์ท่ามกลางสวรรค์และโลก
ถึงแม้ระนาบเซียนจะปรากฏตัวตนอันยอดเยี่ยมอย่างฟงชิงหยาง ที่กลายเป็นจักรพรรดิสวรรค์ ตัวตนที่อยู่เหนือสุดในระนาบเทวโลกแห่งหนึ่ง แต่ผู้คนในระนาบเซียนก็แทบไม่รู้เรื่องเหล่านี้เลย
“พี่ชิว นี่ก็ผ่านมาสักพักแล้ว พวกเราไปเยี่ยมฮ่วนเอ๋อกับเสี่ยวเทียนที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ดีหรือไม่?”
สตรีงามหมดจดนางหนึ่งที่ลอยร่างเหนือทะเลแห่งหนึ่งบนระนาบเซียน หันไปกล่าวกับบุรุษข้างกาย
“ไปหาลูกๆหน่อยก็ดี…อย่างไรพวกเราก็ท่องเที่ยวไปทั่วทุกมุมของระนาบเซียนแห่งนี้แล้ว ไปบ่มเพาะพลังที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนก็ดีเหมือนกัน”
เหลียนชิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถึงแม้พลังฝีมือของพวกเราคงไม่อาจไล่ตามลูกสาวกับลูกเขยได้ทันแน่นอน…แต่เรื่องได้ไปบ่มเพาะพลังที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนนี่ เป็นความฝันของข้าเลยนะ”
เหลียนชิวเดิมทีก็เป็นเซียนอมตะที่ฝึกกระบี่คนหนึ่ง และเคยอยู่ในขุมกำลังระดับสวรรค์ของจี่เมี่ยเทียนอย่างหุบเขากระบี่ฟ้า
และในจี้เมี่ยเทียน เหล่าเซียนอมตะที่ฝึกกระบี่ทั้งหลาย ทั้งหมดถือว่าจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนฟงชิงหยางเป็นดั่งแบบอย่างชั่วชีวิต! ตัวเหลียนชิวเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
กระทั่งเหลียนชิวยังไม่เคยคิดฝันมาก่อนด้วยซ้ำ ว่าวันหนึ่งลูกสาวของตัวเอง จะทำให้มันมีโชคชะตาคาบเกี่ยวกับจักกรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางได้…ลูกเขยของมันเป็นถึงศิษย์ที่แท้จริงของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยาง!
และยังเป็นศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียว!!
ตอนแรกหลังจากที่ต้วนหลิงเทียนพาฮ่วนเอ๋อออกจากสมรภูมิอเวจี พอไปยืนยันตัวตนที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนแล้ว ไม่ทันที่จะมีเรื่องออกไปตามหาต้วนหรูเฟิง ลี่หลัวและคนอื่นๆ ต้วนหลิงเทียนก็ได้ย้อนกลับมายังระนาบเซียนเพื่อแจ้งเรื่องราวให้เหลียนชิวและตู้เสวียนทราบไว้
ตอนที่ทั้งคู่ได้รับรู้เรื่องนี้ครั้งแรก ก็ตกตะลึงกันไม่น้อย
วันนั้นเดิมทีต้วนหลิงเทียนก็คิดพาทั้งคู่ออกจากระนาบเซียนและกลับไปด้วยกัน แต่ด้วยความที่ทั้งคู่พึ่งได้รับอิสระคืนกับ และได้อยู่ในระนาบเซียนสักพักจึงชมชอบความสงบที่นี่ไม่น้อย ก็เลยบอกต้วนหลิงเทียนว่าจะขออยู่ต่ออีกสักพัก
เหน็ดเหนื่อยทรมานในคุกมานาน พอมีโอกาสได้หลบลี้ความวุ่นวายมาพักผ่อนเงียบๆในระนาบโลกียะ แล้วจะรีบไปไหน?
ต้วนหลิงเทียนเองก็เคารพความคิดทั้งคู่ เช่นนั้นก่อนจะออกจากระนาบเซียนเขาก็บอกทั้งคู่ไว้ว่า เขาจะไปปักหลักอยู่ที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน หากตอนที่ทั้งคู่กลับไปพอดีกับบเขาออกไปธุระอะไรด้านนอกก็ให้เรียกหาเมิ่งหัวได้เลย
“หืม?”
ทันใดนั้นเอง เหลียนชิวคล้ายสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ลูกตาหดเล็กลงเร็วไว รอยยิ้มชื่นมื่นบนใบหน้าแข็งค้างไปในพริบตา
ตูมมม!!
ครืนนนน!!

เสียงระเบิดดังขึ้นจากทะเลเบื้องหน้า จากนั้นเหลียนชิวก็พบสัตว์อสูรลอยขึ้นมาตัวแล้วตัวเล่าจนนับไม่ถ้วน เพียงแค่พวกมันไร้ซึ่งกลิ่นอายพลังชีวิต…ทั้งหมดตกตายหมดสิ้น!
และเพียงชั่วพริบตา ทะเลสีฟ้าครามเบื้องล่างก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน
“นี่มันเรื่องอะไรกัน!?”
เห็นฉากดังกล่าว ตู้เสวียนก็อึ้งไปทันที
“มีคนฆ่าพวกมัน…แถมคนลงมือยังเป็นจักรพรรดิอมตะอีกด้วย!”
เหลียนชิววกล่าวออกกเสียงเข้ม
ครู่ต่อมาคล้ายเหลียนชิวจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ใช้พลังหอบหิ้วร่างตู้เสวียนเหินขึ้นฟ้าทิศทางหนึ่งทันที
และที่นั่น ก็ปรากฏร่างชายวัยกลางคน 2 คนกำลังลอยล่องอยู่กลางอากาศ แต่ละคนทำท่าผลักฝ่ามือลงไปเบื้องล่าง ปลายนิ้วทั้ง 10 ปลดปลอยกระแสพลังสังหารไหลออกไปไม่ขาดสาย ราวกับลำแสงอันมีดววงตางอกเงยหนึ่ง สาดยิงเข่นฆ่าสัตว์อสูรในทะเลเบื้องล่างไม่หยุด!
กระแสพลังสังหารหังเข่นฆ่าสัตว์อสูรตัวหนึ่งก็พุ่งทะลุไปเข่นฆ่าสัตว์อสูรตัวอื่นต่อด้วย เข่นฆ่าไปนับพันนับหมื่นตัวกว่ากระแสพลังที่ยิงส่งๆจึงจะสิ้นอานุภาพ…และต้องทราบด้วยว่าพวกมันยิงกระแสพลังสังหารออกมารัวถี่ยิบ!
“หืม?”
ขณะเดียวกันพอเหลียนชิวกับตู้เสวียนปรากฏตัว ชายวัยกลางคนทั้ง 2 ก็สังเกตเห็นทั้งคู่เร็วไว สองตาพลันฉายรังสีฆ่าฟัน กระทั่งหนึ่งในนั้นยังหันไปซัดพลังสังหารเข้าใส่ทั้งคู่ทันที!
ซู่มม!!
ซู่มมม!!

เพลิงพลังควบแน่นก่อเกิดเป็นลำแสงสังหารเข่นฆ่าเข้าใส่เหลียนชิวกับตู้เสวียน สภาวะพลังรุนแรงฉับไวประหนึ่งดาวตกดวงน้อยร่วงฟ้า และอานุภาพพลังนี้จากกลิ่นอายแล้วก็เป็นพลังขอบบเขตจักรพรรดิอมตะ แต่ยังห่างไกลจากระดับจักรพรรดิอมตะสมญานาม
เป็นธรรมดาว่าอาศัยพลังระดับนี้ เหลียนชิวย่อมไม่เห็นอยู่ในสายตา
ชิ้ง!
เสียงกระบี่ดังขึ้นเสียดฟ้า เป็นพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดเหลียนชิวปะทุออกมาฉับไว พริบตาก็หลอมผสานเข้ากับพลังแห่งกฏ ก่อเกิดกระบี่พลังเล่มเขื่องหนึ่งกลางหาว พุ่งจ้วงเข้าใส่ลำแสงเพลิง 2 สายทันที!
ปงงง!!
เสียงระเบิดของพลังดังขึ้น กระบี่พลังไม่เพียงทำลายลำลแสงพลังสังหาร 2 สายได้ง่ายดาย แต่ยังเข่นฆ่าเข้าใส่ผู้งมือสืบต่อ!
“จักรพรรดิอมตะ!!”
ตอนนี้เองชายวัยกลางคนทั้งคู่พลันตระหนักได้ว่าทั้ง 2 ที่อยู่ๆก็มาปรากฏกายที่แท้เป็นถึงจักรพรรดิอมตะ ซ้ำร้ายชายผู้ลงมือนั่น เกรงว่าพลังฝีมือปริ่มๆจะเป็นจักรพรรดิอมตะสมญานามเต็มทีแล้ว
จะอย่างไรก็ตาม สุดท้ายเหลียนชิวก็ไม่คิดจะลงมือเข่นฆ่าพวกมันจริงจัง เช่นนั้นพอกระบี่จี้ถึงหว่างคิ้วชายวัยกลางคนผู้เปิดฉากลงมือก็หยุดลง
“พวกท่านที่แท้เป็นใคร? ดูแล้วมิน่าใช่คนของนิกายลั่วสุ่เรา?”
ชายวัยกลางผู้ลงมืออดไม่ได้ที่จะกล่าวถามออกมาด้วยสีหน้าหวาดกลัว ด้วยไม่คิดไม่ฝันว่าในระนาบโลกียยะเล็กๆนี่จะมีตัวตนระดับจักรพรรดิอมตะดำรงอยู่ได้
“นิกายลั่วสุ่ย?”
ลูกตาเหลียนชิวหดเล็กลงอยู่บ้าง ก็จริงที่ระนาบเทวโลกมีขุมกำลังระดับสวรรค์รวมๆกันแล้วไม่น้อย คงยากที่ใครจะจำชื่อได้หมด
อย่างไรก็ตามมีขุมกำลังระดับสวรรค์บบางแห่ง ที่ผู้คนสามารถจดจำชื่อได้
นั่นรวมถึงนิกายลั่วสุ่ยด้วย
เนื่องเพราะนิกายลั่วสุ่ยเป็นขุมกำลังระดับสวรรค์ที่แกร่งที่สุดในลั่วสุ่ยเทียน แถมตัวประมุขนิกายก็เป็นคนๆเดียวกับจักรพรรดินีสวรรค์แห่งลั่วสุ่ยเทียนอีกด้วย
ขุมกำลังสวรรค์ระดับนี้อย่าว่าแต่หุบเขากระบี่ฟ้าที่มันเคยอยู่เลย ต่อให้เป็นวังเทียนฉือแห่งอู๋หยาเทียนก็ไม่อาจเปรียบเทียบ
“พวกเจ้าเป็นของนิกายลั่วสุ่ยงั้นรึ? แล้วที่แท้มาทำอะไรที่นี่?”
เหลียนชิวขมวดคิ้วเอ่ยถาม
“พวกเรารับคำสั่งท่านประมุข มาเข่นฆ่าทุกสรรพชีวิตบนระนาบเซียนแห่งนี้!”
ชายวัยกลางคนอีกคน มองจ้องเหลียนชิวด้วยสายตาราวอัสนีฟาด กล่าวออกเสียงหนัก!
“ประมุข!?”
หน้าเหลียนชิวเปลี่ยนสีไปทันที ด้วยไม่คิดว่าจุดประสงค์การมาของอีกฝ่ายก็คือเข่นฆ่าทุกสรรพชีวิตบบนระนาบเซียน แถมนี่ยังเป็นคำสั่งของประมุขนิกายลั่วสุ่ยอีก!?
“ประมุขที่เจ้าว่า…ใช่จักรพรรดินีสวรรค์ของลั่วสุ่ยเทียนหรือไม่?”
เหลียนชิวเอ่ยถาม
“มิผิด ใต้เท้าจักรพรรดินีสวรรค์เป็นประมุขนิกายลั่วสุ่ยเรา”
ชายวัยกลางคนเอ่ยออกเสียงเรียบ “อย่างไรเสียคำสั่งที่พวกเราได้รับนั้นถูกถ่ายทอดมาจากองค์ธิดาเทพของพวกเราอีกที…เป็องค์ธิดาเทพที่ได้รับคำสั่งจากท่านประมุขโดยตรง”
เหลียนชิวขมวดคิ้ว มันเองก็เคยได้ยินมาว่าธิดาเทพของนิกายยลั่วสุ่ย ก็คือลูกสาวของแท้ๆของประมุขนิกายลั่วสุ่ยที่พ่วงตำแหน่งจักรพรรดินีสวรรค์แห่งลั่วสุ่ยเทียน
“ไฉนจักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนของพวกเจ้าต้องมาฆ่าสิ่งมีชีวิตต่ำต้อยในระนาบโลกียะเล็กๆด้วยเล่า? อาศัยคนในระนาบโลกียะแห่งนี้ ไม่น่าจะมีปัญญาไปสร้างปัญหาอะไรให้พวกเจ้าได้เลยนี่?”
เหลียนชิวเอ่ยถามเสียงเข้ม ฆ่าล้างสรรพชีวิตในระนาบโลกียะระนาบหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นแค่ระนาบโลกียะเล็กๆ แต่การลงมืออำมหิตแบบนี้ก็มากพอจะขู่ขวัญผู้คนให้หวาดกลัวแล้ว
“นั่นมิใช่เรื่องที่พวกเราต้องรู้?”
ชายวัยกลางคนกล่าว
“ว่าแต่คนของนิกายลั่วสุ่ยที่มาลงมือ มีแค่พวกเจ้า 2 คนรึ?”
เหลียนชิวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงปกติ หากแต่ลึกลงไปในดวงตากลับฉายเจตนาฆ่าฟันเรืองขึ้นวาบหนึ่ง ก่อนจะดับวูบไปโดยที่ไม่มีใครสัมผัสได้
เพราะหากคนของนิกายลั่วสุ่ยมีแค่ 2 คนเบื้องหน้า มันก็คิดจะฆ่าอีกฝ่ายทิ้งทันที จากนั้นก็เร่งกลับไปรายงานเรื่องราวที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์…เพราะตัวมันรู้ดี ว่าที่นี่ไม่ใช่แค่บ้านเกิดของลูกเขยเท่านั้น แต่ยังเป็นมาตุภูมิของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนอีกด้วย!!
จักรพรรดินีสวรรค์แห่งลั่วสุ่ยเทียนออกคำสั่งงฆ่าล้างระนาบแบบนี้ ใช่คิดมุ่งเป้าไปยังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนรึเปล่า?
เหลียนชิวลองคิดดู เรื่องนี้มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลย!
จักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนนั่น ต่อให้เป็นตอนที่จักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนยังงงไม่ได้เข้าสู่นรกอสุรา พลังฝีมือก็สู้ไม่ได้แต่แรก…
มาตอนนี้จักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนไม่เพียงแต่จะรอดกลับออกมาจากนรกอสุรา แต่ยังคาดว่าพลังฝึกปรืออาจบรรลุถึงขอบเขตเทพไปแล้ว
ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว เว้นเสียแต่จักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนเป็นตัวโง่งมแห่งยุค หาไม่แล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเพ่งเป้ามาที่จักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน
“แน่นอนว่าไม่”
คนของนิกายลั่วสุ่ยทั้งสองย่อมไม่สังเกตเห็นจิตสังหารที่วาบขึ้นในแววตาเหลียนชิว ส่ายหัวไปมาพลางกล่าว “พวกเรามาที่นี่กันสิบกว่าคน และนำกลุ่มโดยจักรพรรดิอมตะสมญานาม 2 คน”
พอได้ฟังใจเหลียนชิวก็สั่นไปทันที หากแต่ยังคงปั้นหน้ายิ้มกล่าวไปว่า “เหอะๆ ข้าไม่คิดเลยว่าพวกเราคู่รักจะมีโชคดีขนาดนี้…ยากนักที่ออกมาเที่ยวพักผ่อนในระนาบโลกียะสักแห่ง แต่ดันมาเที่ยวในระนาบโลกียะที่จักรพรรดินีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนคิดฆ่าล้างพอดี…”
“เอาล่ะ สหายทั้งสองจากนิกายลั่วสุ่ย ในเมื่อพวกเจ้ามีเรื่องต้องกระทำ เช่นนั้นพวกเราก็ไม่คิดอยู่รบกวนแล้วล่ะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+