War sovereign Soaring The Heavens 3550

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3550 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3550 : หยั่งเชิง

 

ซูมม!

 

ครืนนน!!

 

แหลนน้ําแข็งมหึมายาวกว่า 10 หมีพุ่งตกฟ้ามาด้วยความเร็วสูงล้ํา หอบไอพลังเยียบเย็นเสียดกระดูกกวาดสะท้านออกไปทั่วทิศ! พลังสภาวะช่างน่ากลัวและครอบงําจิตใจผู้คนโดยรอบนัก!!

 

และนี่เป็นการลงมือเต็มกําลังของเหมิงซานแล้ว!

 

อย่างไรก็ตามแม้แหลนน้ําแข็งจะบรรจุไว้ด้วยพลังและความเข้าใจชั่วชีวิตของเหมิงซาน แต่เมื่อปะทะเข้ากับดัชนีกระบี่สีเทาของต้วนหลิงเทียน ก็จําต้องปนสลายเป็นละอองเย็นในพริบตา! ด้วยเพราะดัชนีกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนจี้ยิงออกมาไม่ได้มีแค่พลังเซียนอมตะต้นกําเนิดผสานพลังธาตุมิติเท่านั้น แต่ยังมีความลึกซึ้งของกภูมิติไม่เว้นมรรคากระบี่มิติ 1 ใน 4 วิถีสวรรค์และโลกอีกด้วย!!

 

ฟัฟฟ!!

 

ท่ามกลางสายตาของทุกคน หลังจากเห็นแหลนน้ําแข็งมหึมากว่า 10 หมู่ที่ร่วงฟ้ามาด้วยสภาวะพลังกล้าแกร่งปานดาวตกถูกดัชนีกระบี่ทําลายลงได้อย่างราบคาบ! ดัชนีกระบีดังกล่าวก็ยังไม่สิ้นสูญพลังสภาวะ จี้เข่นฆ่าเข้าใส่เหมิงซานสืบต่อ!

 

ชีวิตข้าจบสิ้นกันแล้ว!”

 

วินาทีนี้ดวงตาของเหมิงซานฉายแววสิ้นหวังจับใจ มันไม่เหลืออะไรจะไปต่อต้านรับมือดัชนีกระบี่ที่เข่นฆ่าเข้ามาถึงเบื้องหน้าอีกต่อไป และมันยังอดไม่ได้ที่จะเสียใจสุดแสน ด้วยเพราะมันไม่ได้ใช้อุปกรณ์อมตะแต่แรก!

 

จะมาใช้อุปกรณ์อมตะเอาตอนนี้ ก็สายไปแล้ว

 

ชั่วว!!

 

อย่างไรก็ตามในขณะที่เหมิงซานสิ้นหวัง และรอรับความตายโดยสดุดี ดัชนีกระบี่ที่ทะลวงมาถึงหว่างคิ้วมัน อยู่ดีๆก็ไหววูบดั่งเงาเลือนก่อนจะอันตรธานหายไปในฉับพลัน ประหนึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน

 

เหมิงซานที่รอดพ้นความตายมาได้ ก็อื้ออึงกับเรื่องราวอยู่พักหนึ่ง ค่อยประสานมือโค้งคารวะ ให้ต้วนหลิงเทียนด้วยท่าที่จริงจัง “ขอบคุณคุณชายชุดม่วงที่เมตตา”

 

วินาทีนี้เหมิงซานย่อมตระหนักได้ชัดเจน ว่าสิบในสิบไม่พ้นชายหนุ่มเบื้องหน้าก็คือ คุณชาย ชุดม่วง ที่พึ่งมีชื่อเสียงเลื่องลือในพื้นที่แถบนี้และได้รับความสนใจจากระดับสูงของกองกําลังพัน ธมิตรสวรรค์ตัวจริง!

 

คุณชายชุดม่วง สวมใส่ชุดสีม่วงตลอด เป็นชายหนุ่มแลดูอ่อนวัยเก่งกฏมิติ

 

ทั้งหมดตรงตามข้อมูล

 

สิ่งเดียวที่ไม่ถูกอยู่บ้างก็คือความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย!

 

ในอดีตข่าวที่กองกําลังพันธมิตรสวรรค์ของมันรวบรวมมา คุณชายชุดม่วงสมควรเป็นแค่เทพสงคราม 7 ดาราทั่วไปเท่านั้น!

 

แต่การได้ประมือกับคุณชายชุดม่วงเมื่อครู่ ทําให้เหมิงซานตระหนักได้ชัดถนัดใจ

 

คุณชายชุดม่วงไหนเลยจะเป็นแค่เทพสงคราม 7 ดาราทั่วไปได้? อีกฝ่ายเป็นถึงยอดฝีมือเทพสงคราม 7 ดารา! ยังสมควรร้ายกาจเป็นอันดับต้นๆของเหล่ายอดฝีมือเทพสงคราม 7 ดาราด้วยซ้ํา!!

 

พลังฝีมือของมัน เรียกว่าห่างชั้นกับอีกฝ่ายไกลลิบโลก!

 

คุณชายชุดม่วง!

 

ถึงแม้ผู้คนในปัจจุบันก็เริ่มคาดเดาได้แล้วว่าต้วนหลิงเทียนคือคุณชายชุดม่วง แต่พอเห็นเหมิงซานแพ้พ่ายในพริบตา พวกมันก็อดตกใจไม่ได้ ยังอุทานเรื่องต้วนหลิงเทียนเป็นคุณชายชุดม่วงออกมาด้วยความแตกตื่น “สวรรค์! มันคือคุณชายชุดม่วงตัวจริง!”

 

“มิผิดแน่! เพราะมีเพียงคุณชายชุดม่วงตัวจริงเท่านั้นที่จะมีพลังฝีมือกล้าแข็งถึงระดับนี้ได้กระทั่งผู้พิทักษ์ 7 เหมิงซาน ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ด้วยซ้ํา!”

 

“ว่าแต่พันธมิตรสวรรค์ก็ประกาศเชิญคุณชายชุดม่วงไปแล้วไม่ใช่หรือไร…ไฉนต้องมาเข้าร่วมการทดสอบคัดเลือกอะไรเช่นนี้อีกด้วยเล่า…ไม่ทําเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากไปหน่อยหรือ?”

 

“เหอะๆ ผู้ใดจะไปรู้เล่า….บางที่ผู้อื่นเขาอาจจะอยากสัมผัสประสบการณ์การทดสอบคัดเลือกของพันธมิตรสวรรค์ดูก็ได้? โลกของยอดฝีมือ มิใช่อะไรที่พวกเราจะเข้าใจได้หรอก”

 

ในขณะที่เหมิงซานยืนยันผ่านการประมือได้แล้วว่าต้วนหลิงเทียนเป็นคุณชายชุดม่วงตัวจริง ฉากเรื่องราวหน้าค่ายกองกําลังพันธมิตรสวรรค์ก็ครึกครื้นขึ้นมาทันที ด้านชายหนุ่มชุดคลุมน้ําเงินที่กล่าวถากถางดูหมิ่นต้วนหลิงเทียนเมื่อครู่ บัดนี้สีหน้าของมันก็ซีดลงปานขี้เถ้า!

 

มันได้แต่ลอบมองไปทางต้วนหลิงเทียนด้วยความหวาดกลัว จากนั้นก็เร่งประสานมือโค้งหัวขอขมาลาโทษทันที “คุณชายชุดม่วง…ข้าเป็นข้าไม่ทราบตัวตนที่แท้จริงของท่าน ถึงได้ล่วงเกินท่านไป หวังว่าท่านจะอภัยให้ข้าด้วย”

 

“หืม?”

 

ต้วนหลิงเทียนยังไม่ทันได้ว่าอะไร กลับเป็นเหมิงซานที่หน้าเปลี่ยนสี เร่งมองจ้องไปยังชายหนุ่มชุดคลุมน้ําเงินตาขวางทันที “เจ้าหนู เจ้ากล้าล่วงเกินคุณชายชุดม่วงได้อย่างไร? เจ้าไม่รู้หรือว่าถ้าคุณชายชุดม่วงเข้าร่วมกองกําลังพันธมิตรสวรรค์ อย่างน้อยๆก็ต้องเป็นชนชั้นผู้พิทักษ์ แต่เจ้ายังกล้าล่วงเกิน?!”

 

“ผู้พิทักษ์กฏเหมิงซาน ข้าข้ามิได้ตั้งใจ ทั้งหมดเป็นเพราะตอนแรกข้าไม่รู้ตัวตนของคุณชายชุดม่วง!”

 

ชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ําเงินหวาดกลัวจนหน้าซีดไม่มีสีเลือดแล้ว ขณะเดียวกันมันก็ลอบมองส่งสายตาไปยัง 1 ใน 2 ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านหลังเหมิงซานเพื่อขอความช่วยเหลือทันที

 

และชายวัยกลางคนดังกล่าว ก็เร่งออกหน้าให้อย่างไม่รอช้า มันหันไปมองกล่าวกับเหมิงซานด้วยรอยยิ้มขึ้นขมว่า “ผู้พิทักษ์เหมิงซาน นี่เป็นรุ่นเยาว์ในตระกูลของข้าเอง มันพึ่งจะมายังสมรภูมิ 9 ยมโลกได้ไม่นานจึงไม่ค่อยประสีประสา หวังว่าท่านจะเมตตามันสักครั้ง”

 

“หึ!”

 

เหมิงซานพ่นลมสบถออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา หากแต่ไม่ได้สืบสาวหาความอะไรชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ําเงินอีก เห็นได้ชัดว่ามันเห็นแก่หน้าชายวัยกลางคน

 

แน่นอนว่าสิ่งที่สําคัญที่สุดคือ มันลอบสังเกตเห็นว่าคุณชายชุดม่วงไม่ได้เห็นชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ําเงินอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย และท่าทางจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เลย เช่นนั้นมันก็เลยเลือกจะไว้หน้าชายวัยกลางคนด้านหลัง

แต่ถ้าหากคุณชายชุดม่วงคิดเอาความล่ะก็ มันก็มีแต่ต้องสละชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ําเงินเท่านั้น

 

“คุณชายชุดม่วง ท่านมาเยือนพันธมิตรสวรรค์ของพวกเราช่วงนี้ มิทราบท่านต้องการสิ่งใดหรือ?”

 

เหมิงชานแลดูกระตือรือร้นนัก

 

“ข้าคิดจะเข้าร่วมกับกองกําลังพันธมิตรสวรรค์”

 

ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวตอบอย่างตรงไปตรงมา

 

ถึงแม้เหมิงซานจะพอคาดเดาได้แล้ว แต่พอได้ยินต้วนหลิงเทียนตอบออกมากับปาก มันก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ แต่ยังเลือกจะเอ่ยถามด้วยยความสงสัยต่อว่า “คุณชายชุดม่วง เดิมทีพวกเราพันธมิตรสวรรค์ ก็ได้ออกประกาศเชื้อเชิญท่านให้มาเข้าร่วมกับพันธมิตรสวรรค์ของพวก เราแล้วเช่นนั้นก่อนหน้าท่านแค่มาแสดงตัวที่พันธมิตรสวรรค์เราก็ได้ ไฉนต้องมาเข้าร่วมการทดสอบให้เสียเวลาเช่นนี้ด้วยเล่า?”

 

“ด้วยพลังฝีมือของท่าน การเข้าร่วมการทดสอบของพันธมิตรสวรรค์เรา ก็ไม่ต่างอะไรจากมาทําบททดสอบของเด็กน้อย ยังไม่เกินจําเป็นไปหน่อยหรือ?”

 

เหมิงซานกล่าวจบก็รอฟังคําตอบด้วยความอยากรู้

 

“ข้าไม่รู้เรื่องที่พวกเจ้าประกาศเชิญข้า”

 

ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา ค่อยเอ่ยถามตรงๆ “แล้วตอนนี้ข้ายังเข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์ได้อยู่หรือไม่?”

 

“ย่อมได้แน่นอน!”

 

เหมิงซานเร่งพยักหน้าราวลูกเจี๊ยบจิกเม็ดข้าว ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญ “ขอเชิญคุณชายชุดม่วงมาพบผู้นําพันธมิตรสวรรค์ของพวกเราก่อนเถอะ…เป็นท่านผู้นําได้ออกคําสั่งให้พวกเรารอต้อนรับท่านแต่แรกแล้ว”

 

“อืม”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า จากนั้นก็ลอยยขึ้นไปบนฟ้า และมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่เหมิงซานผายมือ

 

ขณะเดียวกันเหมิงซานก็ไม่ลืมหันไปกําชับชายวัยกลางคนทั้ง 2 ด้านหลังเสียงเรียบว่า “พวกมัน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้า 2 คน คราวนี้ให้พวกเจ้าเป็นคนประเมินพวกมันเสีย”

 

“ทราบแล้ว ผู้พิทักษ์ 7”

 

สองชายวัยกลางคนเร่งตอบคําด้วยเคารพ จากนั้นก็มองส่งเหมิงซานที่เห็นร่างนําพาคุณชายชุดม่วงเข้าไปยังด้านในค่ายกองกําลังพันธมิตรสวรรค์ด้วยตัวเองจนหายลับตา

 

“ข้าคิดไม่ถึงจริงๆว่าพลังฝีมือของคุณชายชุดม่วงที่แท้จะร้ายกาจถึงขนาดนี้ แม้แต่ผู้พิทักษ์ 7 ยังห่างไกลเกินกว่าจะเทียบได้…”

 

ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งหันไปมองชายวัยกลางคนอีกคนพลางกล่าว น้ําเสียงฟังแล้วดูเหมือนมันยังตกใจไม่หาย

 

“ใช่ ร้ายกาจยิ่ง…พลังฝีมือของมัน ข้าเกรงว่าต่อให้เป็นผู้พิทักษ์ 2 ก็ไม่ใช่ว่าจะเหนือกว่า”

 

คนหลังก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง

 

ด้านกลุ่มคนด้านหน้าค่ายไม่เว้นชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ําเงินที่มารอทดสอบเข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์ จนเมื่อแผ่นหลังของต้วนหลิงเทียนหายลับสายตาไปแล้ว พวกมันถึงจะดึงสติให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวได้อีกครั้ง

 

อย่างไรเสียแต่ละคนก็ยังรู้สึกเสมือนฝันไปไม่หาย

 

พวกมันกลับได้พบเจอคุณชายชุดม่วงที่กําลังโด่งดังอย่างไม่คิดไม่ฝัน!

 

ที่สําคัญยังได้เห็นพลังฝีมืออันน่าทึ่งของคุณชายชุดม่วงอีกด้วย แถมร้ายกาจกว่าคําร่ําลือจมหู!

 

หากไม่เห็นกับตาใครจะไปเชื่อ ผู้พิทักษ์ 7 ของพันธมิตรสวรรค์ เหมิงซาน ที่พลังฝีมือเหนือกว่าเทพสงคราม 7 ดาราทั่วไป กลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณชายชุดม่วงเลย น่าตกตะลึงนัก!

 

ส่วนอีกด้าน

 

ภายใต้การนําทางของเหมิงซาน ต้วนหลิงเทียนก็ได้เข้าสู่ค่ายของกองกําลังพันธมิตรสวรรค์มาอย่างราบรื่น ไม่นานก็มาถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง ภายในหุบเขามีอาคารที่คล้ายสร้างขึ้นจากพลังของกฏแห่งดินมากมาย น่านฟ้าปรากฏร่างเหินผ่านไปมาเป็นครั้งคราว

 

“ผู้พิทักษ์ 7!”

 

“ผู้พิทักษ์ 7!”

 

หลายคนที่เห็นร่างผ่านต้วนหลิงเทียนกับเหมิงซาน พอเห็นเหมิงซานแต่ละคนก็ทักทายเหมิงซานด้วยท่าที่สุภาพ

 

ไม่ว่าใครก็มองมาทางต้วนหลิงเทียนด้วยความแปลกใจทั้งสิ้น

 

เพราะทุกคนสัมผัสได้ว่าเหมิงซานให้ความเกรงใจต่อต้วนหลิงเทียนไม่น้อย

 

“คุณชายชุดม่วง ท่านคงมิเคยเข้าร่วมขุมกําลังงใดๆในสมรภูมิ 9 ยมโลกกระมัง?”

 

เหมิงซานเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย และนี่ยังเป็นการเลียบๆเคียงๆกล่าวถามหยั่งเชิง เพื่อหาข้อมูลของคุณชายชุดม่วงด้วย ว่าที่แท้อีกฝ่ายใช่ถูกกองกําลังคู่อริของพวกมันส่งให้มาแฝงตัวหรือไม่ และการเข้าสู่พันธมิตรสวรรค์ของอีกฝ่ายที่แท้มีแรงจูงใจอะไรซ่อนเร้นรึเปล่า…

 

อยู่ดีๆในเขตพื้นที่ของกองกําลังพันธมิตรสวรรค์ ก็ปรากฏคนอย่างคุณชายชุดม่วงขึ้นมา ทําให้มันอดคิดไปทํานองดังกล่าวไม่ได้จริงๆ

 

“ข้าพึ่งจะเข้าสู่สมรภูมิ 9 ยมโลกได้ราวๆ ครึ่งปีเท่านั้น”

 

ต้วนหลิงเทียนก็เอ่ยตอบเหมิงซานไปตามตรง “ข้าก็ไม่รู้ว่าภายในสมรภูมิ 9 ยมโลกจะวุ่นวายถึงขนาดนี้ แทบจะหาสถานที่บ่มเพาะพลังเงียบๆไม่ได้เลย”

 

“เข้าใจแล้ว”

 

แม้เหมิงซานจะแลดูประหลาดใจกับคําตอบของต้วนหลิงเทียน แต่มันก็เลือกจะฟังหูไว้หูด้วย ไม่อาจทราบได้ว่าที่ต้วนหลิงเทียนพูดมามันเป็นความจริงหรือไม่

 

“คุณชายชุดม่วง มิทราบที่แท้ท่านเรียกว่าอะไรหรือ?”

 

เหมิงซานเอ่ยถามเรื่องที่สงสัยออกไปอีกอย่าง เพราะมันรู้แค่คนเบื้องหน้าก็คือคุณชายชุดม่วงเท่านั้น และเหมือนกันกับคนอื่นๆที่ไม่รู้ว่าคุณชายชุดม่วงเป็นใครมีความเป็นมาอย่างไรบ้าง เป็นอัจฉริยะจากขุมกําลังใดในระนาบเทวโลก หรือที่แท้เป็นแค่ผู้ฝึกตนอิสระ

 

“ข้าชื่อด้วนหลิงเทียน”

 

การเข้าสู่สมรภูมิ 9 ยมโลกครั้งนี้ ต้วนหลิงเทียนไม่เห็นความจําเป็นที่ต้องปิดบังชื่อของตัวเอง เช่นนั้นเมื่อโดนเหมิงซานถาม เขาก็เลือกจะกล่าวบอกออกไปตามตรง

 

“เป็นชื่อที่ดี”

 

เหมิงซานพยักหน้ากล่าวชม ค่อยเอ่ยถามสืบต่อ “มิทราบว่าน้องต้วนท่านมาจากระนาบเทวโลกใดหรือ?”

 

“จี้เมียเทียน”

 

“แล้วท่านเป็นคนของขุมกําลังใดในจี้เมียเทียนหรือ ร้ายกาจเช่นท่านคงมิน่าจะเป็นผู้ฝึกตนอิสระกระมัง?”

 

“ข้ามาจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมียเทียน”

 

เหมิงซานถาม ต้วนหลิงเทียนก็ตอบ

 

และพอได้ยินว่าต้วนหลิงเทียนมาจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมียเทียน เหมิงซานก็อดตกใจไม่ได้ “ พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมียเทียน!? ข้าได้ยินว่าผู้ที่แข็งแกร่งรองจากจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยาง ก็คือจักรพรรดิอมตะสวรรค์กร่าง เมิ่งหลัว พลังฝีมือของเมิ่งหลัวก็อยู่ในระดับเทพสงคราม 6 ดาราเท่านั้น ไฉนข้ามิเคยได้ยินว่ามียอดคนอย่างน้องต้วนท่านในพระราชวัง จักรพรรดิสวรรค์จี้เมียเทียนเลยเล่า?”

 

มาบัดนี้ ในใจเหมิงซานอดไม่ได้ที่จะมีความสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ

 

คุณชายชุดม่วงผู้นี้ คงมิใช่สายลับที่ขุมกําลังงคู่อริของพวกมันส่งมาแฝงตัวจริงๆหรอกนะ!?

 

แต่หากเป็นสายลับ จะปลอมฐานะความเป็นมา ไฉนไม่ทําให้แนบเนียนหน่อย?

 

เพราะไม่ว่าใครก็ทราบข้อมูลของขุมกําลังใหญ่ๆระดับพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ของระนาบเทวโลกต่างๆดี และเรื่องที่ในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ ผู้ที่แข็งแกร่งรองจากฟงชิงหยางก็คือเพิ่งหลัวที่เป็นดั่งมือขวาของฟงชิงหยาง ทว่าพลังฝีมือก็เพียงแค่เทพสงคราม 6 ดาราเท่านั้น ใครๆก็รู้กันดี

 

ทว่าคุณชายชุดม่วงเบื้องหน้า กลับกล่าวบอกว่ามาจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมียเทียน?

 

หรือว่าอีกฝ่ายยคือไพลับที่ซ่อนเอาไว้ของพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมียเทียน?

 

ถึงแม้จะมีความเป็นไปได้ดังกล่าวอยู่ แต่เกรงว่าจะน้อยมากๆ

 

“มาถึงแล้ว”

 

เหมิงซานที่สอบถามข้อมูลต้วนหลิงเทียนไปเรื่อย ไม่ทันรู้ตัวก็เห็นร่างมาถึงอาคารปลูกสร้าง หลังใหญ่แห่งหนึ่งภายในหุบเขา และอาคารหลังนี้ยังเป็นจุดหมายปลายทางของมันอีกด้วย ยังกล่าวแจ้งการมาทันที “เรียนท่านผู้นํา ข้าพาคุณชายชุดม่วงที่หมายเข้าร่วมกองกําลังพันธมิตรสวรรค์ของพวกเรามาถึงแล้ว”

 

อาคารปลูกสร้างหลังใหญ่นี้มีลักษณะไม่ต่างอะไรจากจวนขุนนาง พื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง การตกแต่งสวนด้านหน้าก็ค่อนข้างทําได้ดีไม่น้อย มันสงบร่มรื่นและเต็มไปด้วยไม้ใหญ่และบุปผานานาพรรณ เพียงต้วนหลิงเทียนเข้ามาก็รู้สึกผ่อนคลายสบายใจแล้ว “ผู้นํากองกําลังพันธมิตรสวรรค์ช่างเข้าใจอยู่จริงๆ”

 

แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนเพียงกล่าวในใจไม่ได้พูดออกมาตรงๆ

 

“คุณชายชุดม่วง?”

 

ทันใดนั้นเอง พลันมีเสียงประหลาดใจไม่น้อยดังขึ้นจากด้านในจวน

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

War sovereign Soaring The Heavens 3550

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3550 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3550 : หยั่งเชิง

 

ซูมม!

 

ครืนนน!!

 

แหลนน้ําแข็งมหึมายาวกว่า 10 หมีพุ่งตกฟ้ามาด้วยความเร็วสูงล้ํา หอบไอพลังเยียบเย็นเสียดกระดูกกวาดสะท้านออกไปทั่วทิศ! พลังสภาวะช่างน่ากลัวและครอบงําจิตใจผู้คนโดยรอบนัก!!

 

และนี่เป็นการลงมือเต็มกําลังของเหมิงซานแล้ว!

 

อย่างไรก็ตามแม้แหลนน้ําแข็งจะบรรจุไว้ด้วยพลังและความเข้าใจชั่วชีวิตของเหมิงซาน แต่เมื่อปะทะเข้ากับดัชนีกระบี่สีเทาของต้วนหลิงเทียน ก็จําต้องปนสลายเป็นละอองเย็นในพริบตา! ด้วยเพราะดัชนีกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนจี้ยิงออกมาไม่ได้มีแค่พลังเซียนอมตะต้นกําเนิดผสานพลังธาตุมิติเท่านั้น แต่ยังมีความลึกซึ้งของกภูมิติไม่เว้นมรรคากระบี่มิติ 1 ใน 4 วิถีสวรรค์และโลกอีกด้วย!!

 

ฟัฟฟ!!

 

ท่ามกลางสายตาของทุกคน หลังจากเห็นแหลนน้ําแข็งมหึมากว่า 10 หมู่ที่ร่วงฟ้ามาด้วยสภาวะพลังกล้าแกร่งปานดาวตกถูกดัชนีกระบี่ทําลายลงได้อย่างราบคาบ! ดัชนีกระบีดังกล่าวก็ยังไม่สิ้นสูญพลังสภาวะ จี้เข่นฆ่าเข้าใส่เหมิงซานสืบต่อ!

 

ชีวิตข้าจบสิ้นกันแล้ว!”

 

วินาทีนี้ดวงตาของเหมิงซานฉายแววสิ้นหวังจับใจ มันไม่เหลืออะไรจะไปต่อต้านรับมือดัชนีกระบี่ที่เข่นฆ่าเข้ามาถึงเบื้องหน้าอีกต่อไป และมันยังอดไม่ได้ที่จะเสียใจสุดแสน ด้วยเพราะมันไม่ได้ใช้อุปกรณ์อมตะแต่แรก!

 

จะมาใช้อุปกรณ์อมตะเอาตอนนี้ ก็สายไปแล้ว

 

ชั่วว!!

 

อย่างไรก็ตามในขณะที่เหมิงซานสิ้นหวัง และรอรับความตายโดยสดุดี ดัชนีกระบี่ที่ทะลวงมาถึงหว่างคิ้วมัน อยู่ดีๆก็ไหววูบดั่งเงาเลือนก่อนจะอันตรธานหายไปในฉับพลัน ประหนึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน

 

เหมิงซานที่รอดพ้นความตายมาได้ ก็อื้ออึงกับเรื่องราวอยู่พักหนึ่ง ค่อยประสานมือโค้งคารวะ ให้ต้วนหลิงเทียนด้วยท่าที่จริงจัง “ขอบคุณคุณชายชุดม่วงที่เมตตา”

 

วินาทีนี้เหมิงซานย่อมตระหนักได้ชัดเจน ว่าสิบในสิบไม่พ้นชายหนุ่มเบื้องหน้าก็คือ คุณชาย ชุดม่วง ที่พึ่งมีชื่อเสียงเลื่องลือในพื้นที่แถบนี้และได้รับความสนใจจากระดับสูงของกองกําลังพัน ธมิตรสวรรค์ตัวจริง!

 

คุณชายชุดม่วง สวมใส่ชุดสีม่วงตลอด เป็นชายหนุ่มแลดูอ่อนวัยเก่งกฏมิติ

 

ทั้งหมดตรงตามข้อมูล

 

สิ่งเดียวที่ไม่ถูกอยู่บ้างก็คือความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย!

 

ในอดีตข่าวที่กองกําลังพันธมิตรสวรรค์ของมันรวบรวมมา คุณชายชุดม่วงสมควรเป็นแค่เทพสงคราม 7 ดาราทั่วไปเท่านั้น!

 

แต่การได้ประมือกับคุณชายชุดม่วงเมื่อครู่ ทําให้เหมิงซานตระหนักได้ชัดถนัดใจ

 

คุณชายชุดม่วงไหนเลยจะเป็นแค่เทพสงคราม 7 ดาราทั่วไปได้? อีกฝ่ายเป็นถึงยอดฝีมือเทพสงคราม 7 ดารา! ยังสมควรร้ายกาจเป็นอันดับต้นๆของเหล่ายอดฝีมือเทพสงคราม 7 ดาราด้วยซ้ํา!!

 

พลังฝีมือของมัน เรียกว่าห่างชั้นกับอีกฝ่ายไกลลิบโลก!

 

คุณชายชุดม่วง!

 

ถึงแม้ผู้คนในปัจจุบันก็เริ่มคาดเดาได้แล้วว่าต้วนหลิงเทียนคือคุณชายชุดม่วง แต่พอเห็นเหมิงซานแพ้พ่ายในพริบตา พวกมันก็อดตกใจไม่ได้ ยังอุทานเรื่องต้วนหลิงเทียนเป็นคุณชายชุดม่วงออกมาด้วยความแตกตื่น “สวรรค์! มันคือคุณชายชุดม่วงตัวจริง!”

 

“มิผิดแน่! เพราะมีเพียงคุณชายชุดม่วงตัวจริงเท่านั้นที่จะมีพลังฝีมือกล้าแข็งถึงระดับนี้ได้กระทั่งผู้พิทักษ์ 7 เหมิงซาน ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ด้วยซ้ํา!”

 

“ว่าแต่พันธมิตรสวรรค์ก็ประกาศเชิญคุณชายชุดม่วงไปแล้วไม่ใช่หรือไร…ไฉนต้องมาเข้าร่วมการทดสอบคัดเลือกอะไรเช่นนี้อีกด้วยเล่า…ไม่ทําเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากไปหน่อยหรือ?”

 

“เหอะๆ ผู้ใดจะไปรู้เล่า….บางที่ผู้อื่นเขาอาจจะอยากสัมผัสประสบการณ์การทดสอบคัดเลือกของพันธมิตรสวรรค์ดูก็ได้? โลกของยอดฝีมือ มิใช่อะไรที่พวกเราจะเข้าใจได้หรอก”

 

ในขณะที่เหมิงซานยืนยันผ่านการประมือได้แล้วว่าต้วนหลิงเทียนเป็นคุณชายชุดม่วงตัวจริง ฉากเรื่องราวหน้าค่ายกองกําลังพันธมิตรสวรรค์ก็ครึกครื้นขึ้นมาทันที ด้านชายหนุ่มชุดคลุมน้ําเงินที่กล่าวถากถางดูหมิ่นต้วนหลิงเทียนเมื่อครู่ บัดนี้สีหน้าของมันก็ซีดลงปานขี้เถ้า!

 

มันได้แต่ลอบมองไปทางต้วนหลิงเทียนด้วยความหวาดกลัว จากนั้นก็เร่งประสานมือโค้งหัวขอขมาลาโทษทันที “คุณชายชุดม่วง…ข้าเป็นข้าไม่ทราบตัวตนที่แท้จริงของท่าน ถึงได้ล่วงเกินท่านไป หวังว่าท่านจะอภัยให้ข้าด้วย”

 

“หืม?”

 

ต้วนหลิงเทียนยังไม่ทันได้ว่าอะไร กลับเป็นเหมิงซานที่หน้าเปลี่ยนสี เร่งมองจ้องไปยังชายหนุ่มชุดคลุมน้ําเงินตาขวางทันที “เจ้าหนู เจ้ากล้าล่วงเกินคุณชายชุดม่วงได้อย่างไร? เจ้าไม่รู้หรือว่าถ้าคุณชายชุดม่วงเข้าร่วมกองกําลังพันธมิตรสวรรค์ อย่างน้อยๆก็ต้องเป็นชนชั้นผู้พิทักษ์ แต่เจ้ายังกล้าล่วงเกิน?!”

 

“ผู้พิทักษ์กฏเหมิงซาน ข้าข้ามิได้ตั้งใจ ทั้งหมดเป็นเพราะตอนแรกข้าไม่รู้ตัวตนของคุณชายชุดม่วง!”

 

ชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ําเงินหวาดกลัวจนหน้าซีดไม่มีสีเลือดแล้ว ขณะเดียวกันมันก็ลอบมองส่งสายตาไปยัง 1 ใน 2 ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านหลังเหมิงซานเพื่อขอความช่วยเหลือทันที

 

และชายวัยกลางคนดังกล่าว ก็เร่งออกหน้าให้อย่างไม่รอช้า มันหันไปมองกล่าวกับเหมิงซานด้วยรอยยิ้มขึ้นขมว่า “ผู้พิทักษ์เหมิงซาน นี่เป็นรุ่นเยาว์ในตระกูลของข้าเอง มันพึ่งจะมายังสมรภูมิ 9 ยมโลกได้ไม่นานจึงไม่ค่อยประสีประสา หวังว่าท่านจะเมตตามันสักครั้ง”

 

“หึ!”

 

เหมิงซานพ่นลมสบถออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา หากแต่ไม่ได้สืบสาวหาความอะไรชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ําเงินอีก เห็นได้ชัดว่ามันเห็นแก่หน้าชายวัยกลางคน

 

แน่นอนว่าสิ่งที่สําคัญที่สุดคือ มันลอบสังเกตเห็นว่าคุณชายชุดม่วงไม่ได้เห็นชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ําเงินอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย และท่าทางจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เลย เช่นนั้นมันก็เลยเลือกจะไว้หน้าชายวัยกลางคนด้านหลัง

แต่ถ้าหากคุณชายชุดม่วงคิดเอาความล่ะก็ มันก็มีแต่ต้องสละชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ําเงินเท่านั้น

 

“คุณชายชุดม่วง ท่านมาเยือนพันธมิตรสวรรค์ของพวกเราช่วงนี้ มิทราบท่านต้องการสิ่งใดหรือ?”

 

เหมิงชานแลดูกระตือรือร้นนัก

 

“ข้าคิดจะเข้าร่วมกับกองกําลังพันธมิตรสวรรค์”

 

ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวตอบอย่างตรงไปตรงมา

 

ถึงแม้เหมิงซานจะพอคาดเดาได้แล้ว แต่พอได้ยินต้วนหลิงเทียนตอบออกมากับปาก มันก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ แต่ยังเลือกจะเอ่ยถามด้วยยความสงสัยต่อว่า “คุณชายชุดม่วง เดิมทีพวกเราพันธมิตรสวรรค์ ก็ได้ออกประกาศเชื้อเชิญท่านให้มาเข้าร่วมกับพันธมิตรสวรรค์ของพวก เราแล้วเช่นนั้นก่อนหน้าท่านแค่มาแสดงตัวที่พันธมิตรสวรรค์เราก็ได้ ไฉนต้องมาเข้าร่วมการทดสอบให้เสียเวลาเช่นนี้ด้วยเล่า?”

 

“ด้วยพลังฝีมือของท่าน การเข้าร่วมการทดสอบของพันธมิตรสวรรค์เรา ก็ไม่ต่างอะไรจากมาทําบททดสอบของเด็กน้อย ยังไม่เกินจําเป็นไปหน่อยหรือ?”

 

เหมิงซานกล่าวจบก็รอฟังคําตอบด้วยความอยากรู้

 

“ข้าไม่รู้เรื่องที่พวกเจ้าประกาศเชิญข้า”

 

ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา ค่อยเอ่ยถามตรงๆ “แล้วตอนนี้ข้ายังเข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์ได้อยู่หรือไม่?”

 

“ย่อมได้แน่นอน!”

 

เหมิงซานเร่งพยักหน้าราวลูกเจี๊ยบจิกเม็ดข้าว ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญ “ขอเชิญคุณชายชุดม่วงมาพบผู้นําพันธมิตรสวรรค์ของพวกเราก่อนเถอะ…เป็นท่านผู้นําได้ออกคําสั่งให้พวกเรารอต้อนรับท่านแต่แรกแล้ว”

 

“อืม”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า จากนั้นก็ลอยยขึ้นไปบนฟ้า และมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่เหมิงซานผายมือ

 

ขณะเดียวกันเหมิงซานก็ไม่ลืมหันไปกําชับชายวัยกลางคนทั้ง 2 ด้านหลังเสียงเรียบว่า “พวกมัน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้า 2 คน คราวนี้ให้พวกเจ้าเป็นคนประเมินพวกมันเสีย”

 

“ทราบแล้ว ผู้พิทักษ์ 7”

 

สองชายวัยกลางคนเร่งตอบคําด้วยเคารพ จากนั้นก็มองส่งเหมิงซานที่เห็นร่างนําพาคุณชายชุดม่วงเข้าไปยังด้านในค่ายกองกําลังพันธมิตรสวรรค์ด้วยตัวเองจนหายลับตา

 

“ข้าคิดไม่ถึงจริงๆว่าพลังฝีมือของคุณชายชุดม่วงที่แท้จะร้ายกาจถึงขนาดนี้ แม้แต่ผู้พิทักษ์ 7 ยังห่างไกลเกินกว่าจะเทียบได้…”

 

ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งหันไปมองชายวัยกลางคนอีกคนพลางกล่าว น้ําเสียงฟังแล้วดูเหมือนมันยังตกใจไม่หาย

 

“ใช่ ร้ายกาจยิ่ง…พลังฝีมือของมัน ข้าเกรงว่าต่อให้เป็นผู้พิทักษ์ 2 ก็ไม่ใช่ว่าจะเหนือกว่า”

 

คนหลังก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง

 

ด้านกลุ่มคนด้านหน้าค่ายไม่เว้นชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ําเงินที่มารอทดสอบเข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์ จนเมื่อแผ่นหลังของต้วนหลิงเทียนหายลับสายตาไปแล้ว พวกมันถึงจะดึงสติให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวได้อีกครั้ง

 

อย่างไรเสียแต่ละคนก็ยังรู้สึกเสมือนฝันไปไม่หาย

 

พวกมันกลับได้พบเจอคุณชายชุดม่วงที่กําลังโด่งดังอย่างไม่คิดไม่ฝัน!

 

ที่สําคัญยังได้เห็นพลังฝีมืออันน่าทึ่งของคุณชายชุดม่วงอีกด้วย แถมร้ายกาจกว่าคําร่ําลือจมหู!

 

หากไม่เห็นกับตาใครจะไปเชื่อ ผู้พิทักษ์ 7 ของพันธมิตรสวรรค์ เหมิงซาน ที่พลังฝีมือเหนือกว่าเทพสงคราม 7 ดาราทั่วไป กลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณชายชุดม่วงเลย น่าตกตะลึงนัก!

 

ส่วนอีกด้าน

 

ภายใต้การนําทางของเหมิงซาน ต้วนหลิงเทียนก็ได้เข้าสู่ค่ายของกองกําลังพันธมิตรสวรรค์มาอย่างราบรื่น ไม่นานก็มาถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง ภายในหุบเขามีอาคารที่คล้ายสร้างขึ้นจากพลังของกฏแห่งดินมากมาย น่านฟ้าปรากฏร่างเหินผ่านไปมาเป็นครั้งคราว

 

“ผู้พิทักษ์ 7!”

 

“ผู้พิทักษ์ 7!”

 

หลายคนที่เห็นร่างผ่านต้วนหลิงเทียนกับเหมิงซาน พอเห็นเหมิงซานแต่ละคนก็ทักทายเหมิงซานด้วยท่าที่สุภาพ

 

ไม่ว่าใครก็มองมาทางต้วนหลิงเทียนด้วยความแปลกใจทั้งสิ้น

 

เพราะทุกคนสัมผัสได้ว่าเหมิงซานให้ความเกรงใจต่อต้วนหลิงเทียนไม่น้อย

 

“คุณชายชุดม่วง ท่านคงมิเคยเข้าร่วมขุมกําลังงใดๆในสมรภูมิ 9 ยมโลกกระมัง?”

 

เหมิงซานเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย และนี่ยังเป็นการเลียบๆเคียงๆกล่าวถามหยั่งเชิง เพื่อหาข้อมูลของคุณชายชุดม่วงด้วย ว่าที่แท้อีกฝ่ายใช่ถูกกองกําลังคู่อริของพวกมันส่งให้มาแฝงตัวหรือไม่ และการเข้าสู่พันธมิตรสวรรค์ของอีกฝ่ายที่แท้มีแรงจูงใจอะไรซ่อนเร้นรึเปล่า…

 

อยู่ดีๆในเขตพื้นที่ของกองกําลังพันธมิตรสวรรค์ ก็ปรากฏคนอย่างคุณชายชุดม่วงขึ้นมา ทําให้มันอดคิดไปทํานองดังกล่าวไม่ได้จริงๆ

 

“ข้าพึ่งจะเข้าสู่สมรภูมิ 9 ยมโลกได้ราวๆ ครึ่งปีเท่านั้น”

 

ต้วนหลิงเทียนก็เอ่ยตอบเหมิงซานไปตามตรง “ข้าก็ไม่รู้ว่าภายในสมรภูมิ 9 ยมโลกจะวุ่นวายถึงขนาดนี้ แทบจะหาสถานที่บ่มเพาะพลังเงียบๆไม่ได้เลย”

 

“เข้าใจแล้ว”

 

แม้เหมิงซานจะแลดูประหลาดใจกับคําตอบของต้วนหลิงเทียน แต่มันก็เลือกจะฟังหูไว้หูด้วย ไม่อาจทราบได้ว่าที่ต้วนหลิงเทียนพูดมามันเป็นความจริงหรือไม่

 

“คุณชายชุดม่วง มิทราบที่แท้ท่านเรียกว่าอะไรหรือ?”

 

เหมิงซานเอ่ยถามเรื่องที่สงสัยออกไปอีกอย่าง เพราะมันรู้แค่คนเบื้องหน้าก็คือคุณชายชุดม่วงเท่านั้น และเหมือนกันกับคนอื่นๆที่ไม่รู้ว่าคุณชายชุดม่วงเป็นใครมีความเป็นมาอย่างไรบ้าง เป็นอัจฉริยะจากขุมกําลังใดในระนาบเทวโลก หรือที่แท้เป็นแค่ผู้ฝึกตนอิสระ

 

“ข้าชื่อด้วนหลิงเทียน”

 

การเข้าสู่สมรภูมิ 9 ยมโลกครั้งนี้ ต้วนหลิงเทียนไม่เห็นความจําเป็นที่ต้องปิดบังชื่อของตัวเอง เช่นนั้นเมื่อโดนเหมิงซานถาม เขาก็เลือกจะกล่าวบอกออกไปตามตรง

 

“เป็นชื่อที่ดี”

 

เหมิงซานพยักหน้ากล่าวชม ค่อยเอ่ยถามสืบต่อ “มิทราบว่าน้องต้วนท่านมาจากระนาบเทวโลกใดหรือ?”

 

“จี้เมียเทียน”

 

“แล้วท่านเป็นคนของขุมกําลังใดในจี้เมียเทียนหรือ ร้ายกาจเช่นท่านคงมิน่าจะเป็นผู้ฝึกตนอิสระกระมัง?”

 

“ข้ามาจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมียเทียน”

 

เหมิงซานถาม ต้วนหลิงเทียนก็ตอบ

 

และพอได้ยินว่าต้วนหลิงเทียนมาจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมียเทียน เหมิงซานก็อดตกใจไม่ได้ “ พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมียเทียน!? ข้าได้ยินว่าผู้ที่แข็งแกร่งรองจากจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยาง ก็คือจักรพรรดิอมตะสวรรค์กร่าง เมิ่งหลัว พลังฝีมือของเมิ่งหลัวก็อยู่ในระดับเทพสงคราม 6 ดาราเท่านั้น ไฉนข้ามิเคยได้ยินว่ามียอดคนอย่างน้องต้วนท่านในพระราชวัง จักรพรรดิสวรรค์จี้เมียเทียนเลยเล่า?”

 

มาบัดนี้ ในใจเหมิงซานอดไม่ได้ที่จะมีความสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ

 

คุณชายชุดม่วงผู้นี้ คงมิใช่สายลับที่ขุมกําลังงคู่อริของพวกมันส่งมาแฝงตัวจริงๆหรอกนะ!?

 

แต่หากเป็นสายลับ จะปลอมฐานะความเป็นมา ไฉนไม่ทําให้แนบเนียนหน่อย?

 

เพราะไม่ว่าใครก็ทราบข้อมูลของขุมกําลังใหญ่ๆระดับพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ของระนาบเทวโลกต่างๆดี และเรื่องที่ในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ ผู้ที่แข็งแกร่งรองจากฟงชิงหยางก็คือเพิ่งหลัวที่เป็นดั่งมือขวาของฟงชิงหยาง ทว่าพลังฝีมือก็เพียงแค่เทพสงคราม 6 ดาราเท่านั้น ใครๆก็รู้กันดี

 

ทว่าคุณชายชุดม่วงเบื้องหน้า กลับกล่าวบอกว่ามาจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมียเทียน?

 

หรือว่าอีกฝ่ายยคือไพลับที่ซ่อนเอาไว้ของพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมียเทียน?

 

ถึงแม้จะมีความเป็นไปได้ดังกล่าวอยู่ แต่เกรงว่าจะน้อยมากๆ

 

“มาถึงแล้ว”

 

เหมิงซานที่สอบถามข้อมูลต้วนหลิงเทียนไปเรื่อย ไม่ทันรู้ตัวก็เห็นร่างมาถึงอาคารปลูกสร้าง หลังใหญ่แห่งหนึ่งภายในหุบเขา และอาคารหลังนี้ยังเป็นจุดหมายปลายทางของมันอีกด้วย ยังกล่าวแจ้งการมาทันที “เรียนท่านผู้นํา ข้าพาคุณชายชุดม่วงที่หมายเข้าร่วมกองกําลังพันธมิตรสวรรค์ของพวกเรามาถึงแล้ว”

 

อาคารปลูกสร้างหลังใหญ่นี้มีลักษณะไม่ต่างอะไรจากจวนขุนนาง พื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง การตกแต่งสวนด้านหน้าก็ค่อนข้างทําได้ดีไม่น้อย มันสงบร่มรื่นและเต็มไปด้วยไม้ใหญ่และบุปผานานาพรรณ เพียงต้วนหลิงเทียนเข้ามาก็รู้สึกผ่อนคลายสบายใจแล้ว “ผู้นํากองกําลังพันธมิตรสวรรค์ช่างเข้าใจอยู่จริงๆ”

 

แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนเพียงกล่าวในใจไม่ได้พูดออกมาตรงๆ

 

“คุณชายชุดม่วง?”

 

ทันใดนั้นเอง พลันมีเสียงประหลาดใจไม่น้อยดังขึ้นจากด้านในจวน

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+