War sovereign Soaring The Heavens 3577

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3577 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3577 : เทพสงคราม 9 ดารา “ดูเตาเค่อ”

 

ในพันธมิตรฟานเทียน แทบไม่มีใครคิดว่าต้วนหลิงเทียนมาหาที่ตาย

 

ล้อกันเล่นหรือไร!?

 

หากพลังฝีมือไม่สูงพอ ต้วนหลิงเทียนจะมาเยือนถึงหน้าประตูทําอะไร?

 

เหนือฟ้าหน้าประตูค่ายพันธมิตรฟานเทียน ต้วนหลิงเทียนที่ลอยร่างกอดอกกลางหาวนั้นสีหน้าท่าที่แลดูสงบ ไร้ซึ่งความยินดียินร้ายใดๆ

 

หลังผ่านไปสักพัก ก็ปรากฏคนกลุ่มหนึ่งของพันธมิตรฟานเทียนเหินร่างออกมาจากในค่ายก่อนจะหยุดลงน่านฟ้าเหนือประตูค่าย ขณะเดียวกันก็มีผู้คนเหินร่างมาจากทุกทั่วสารทิศและหยุดชมดูเรื่องราวอยู่ห่างๆ

 

“เจ้านั่นน่ะหรือต้วนหลิงเทียน?”

 

“ถึงแม้หน้าตาจะแลดูเยาว์วัยก็เถอะ…แต่มันอายุไม่ถึง 700 ปีจริงๆหรือ? ข้าไม่กล้าตรวจสอบมัน ”

 

“ข่าวนี้ได้รับการยืนยันจากหลายฝ่ายแล้ว เจ้าคิดว่ายังจะแปลกปลอมได้อีกไหมเล่า?”

 

สําหรับทุกคนที่มารวมตัวกัน ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่คนแปลกหน้าแต่อย่างใด

 

ศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของ ฟังชิงหยาง จักรพรรดิสวรรค์ในตํานานแห่งจี้เสี่ยเทียน!

 

ในศึกอัจฉริยะสวรรค์ครั้งล่าสุดที่พึ่งจบไปไม่นานนัก ต้วนหลิงเทียนก็ได้เผยพลังระดับเทพสงคราม 7 ดาราออกมา

 

และไม่นานมานี้ ต้วนหลิงเทียนก็มาปรากฏตัวในสมรภูมิ 9 ยมโลก แถมยังลงมือเข่นฆ่าผู้นําคนที่ 2 ของพันธมิตรฟานเทียน หอู่หลง ผู้ที่เคยได้ชื่อว่าอันดับ 1 ใต้เทพสงคราม 9 ดาราได้อีก!

 

จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นอันดับ 1 ใต้เทพสงคราม 9 ดาราในสมรภูมิ 9 ยมโลกแทนหรูหลง

 

ต่อมาพันธมิตรฟานเทียนก็ได้ออกตามล่าหาตัวต้วนหลิงเทียนกันจ้าละหวั่น แต่คนกลับหายเข้ากลีบเมฆไปเลย จนวันนี้ต้วนหลิงเทียนกลับเป็นฝ่ายบุกมาถึงหน้าประตูพันธมิตรฟานเทียนด้วย ตัวเอง!

 

“ดูเหมือนศิษย์เอกของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางแห่งจี้เสี่ยเทียนผู้นั้น จะบรรลุถึงระดับเทพสงคราม 9 ดาราแล้วจริงๆ”

 

เหล่าผู้คนจากทุกสารทิศที่มาจากละแวกใกล้เคียง เร่งรุดส่งข้อความถึงสหายและคนรู้จักเป็นการด่วน

 

ผู้ที่มาถึงก่อนไม่เพียงแต่จะอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น แต่ทั้งหมดเป็นคนที่มีสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรฟานเทียนทั้งสิ้น พวกมันที่ได้รับข่าวจากคนของพันธมิตรฟานเทียน พอยืนยันได้แล้วว่าเป็นเรื่องราวใด ก็เร่งรดส่งข้อความบอกต่อสหายและคนรู้จักที่ไม่ได้อยู่ในละแวกใกล้เคียงให้เร่งรุดมาชมดูเรื่องราวสนุกสนานทันที

 

“การมาของต้วนหลิงเทียนวันนี้ มันร้ายมากกว่าดีแน่นอน เพียงแต่ข้าไม่ทราบว่า พลังฝีมือของมันจะสูงพอทําอะไรพันธมิตรฟ่านเทียนได้หรือไม่…”

 

“ผู้คนทยอยกันมารอชมดูเรื่องราวกันใหญ่ไม่ทราบว่าเหล่าเทพสงคราม 9 ดาราในภาคกลางจะมาร่วมสนุกด้วยหรือไม่?”

 

“ข้าคิดว่าหากพวกมันว่าง ย่อมไม่พลาดชมดูอะไรดีๆเช่นนี้หรอก”

 

กลุ่มคนที่มาหยุดร่างกลางหาวชมมองต้วนหลิงเทียนจากไกลๆ ซุบซิบคุยกันอย่างคึกคัก

 

ยิ่งมาจํานวนผู้ที่มาถึงก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“นั่น ฉินเจิ้งอี้ ทูตซ้ายของพันธมิตรฟ้าเอกอุมิใช่รึ มันก็มาด้วย!”

 

เมื่อชายชราในชุดคลุมสีเทาผู้หนึ่งมาถึง ก็มีเสียงผู้คนฮือฮากันไม่น้อย

 

พันธมิตรฟ้าเอกอุ ก็เป็นกองกําลังชั้นนําในภาคกลาง และพลังรบของพันธมิตรฟ้าเอกอุก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพันธมิตรฟานเทียนเลย

 

หากจะบอกว่าในเขต 2 ของภาคกลาง พันธมิตรฟานเทียนเป็นอันดับ 1 แล้วล่ะก็…

 

เช่นนั้นในเขต 3 ของภาคกลาง พันธมิตรฟ้าเอกอุก็เป็นกองกําลังที่แข็งแกร่งที่สุด!

 

ผู้นําพันธมิตรฟ้าเอกอุเองก็เป็นตัวตนระดับเทพสงคราม 9 ดาราเช่นกัน!

 

ฉินเจิ้งอี้ ทูตซ้ายของพันธมิตรฟ้าเอกอุ เป็นเทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือคนหนึ่งและมันยังโลดแล่นอยู่ในภาคกลางของสมรภูมิ 9 ยมโลกมานานแล้ว จึงเป็นคนที่มีชื่อเสียงพอตัวเลยทีเดียว

 

“ทูตช้ายฉิน ท่านก็มาร่วมชมด้วยหรือ!”

 

“ทูตซ้ายฉัน วันนี้จะอย่างไรก็ต้องมีการปะทะกันแน่ แล้วท่านคิดว่าระหว่างจี้หยิ่งผู้นําพันธมิตรฟานเทียนกับต้วนหลิงเทียนผู้นั้น ผู้ใดจะอยู่ผู้ใดจะไปเล่า?”

 

หลายคนที่รู้จักมักคุ้นกับฉินเจิ้งอี้ก็เร่งเหินร่างเข้ามาทักทายอย่างเป็นมิตร พวกมันแต่ละคนแลดูคึกคักนัก อยากรู้ความเห็นของฉินเจิ้งอี้ สําหรับการต่อสู้ที่น่าจะปะทุขึ้นหลังจากนี้ไม่น้อย

 

“เรื่องนี้ข้าก็พูดยาก พี่น้องทั้งหลายรอดูชมดีกว่า”

 

ฉินเจิ้งอี้คลี่ยิ้มตอบ

 

หลังจากที่ฉินเจิ้งอี้มาถึง เหล่าผู้ที่มีชื่อเสียงพอสมควรในภาคกลางคนอื่นๆก็เริ่มปรา กฏตัวเช่นกันและเมื่อเหล่าเทพสงคราม 8 ดาราที่มีชื่อเสียงพอๆกับฉินเจิ้งอี้ทยอยกันมาถึงพวกมันก็ได้รับความสนใจจากผู้คนไม่ต่าง

 

แน่นอนว่าผู้ที่สามารถมาถึงได้ทันเวลา ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ได้รับทราบข่าวและอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ทั้งสิ้น และเป็นธรรมดาว่ายังมีอีกหลายคนที่กําลังเร่งรุดเดินทางมา เพราะอยู่ไกลจากที่นี่

 

สําหรับผู้ที่อยู่ห่างไกลมากเกินไป ก็เลือกที่จะยอมแพ้เรื่องมาชมดูด้วยตัวเอง เพียงรอฟังข่าวเรื่องราวจากสหายกันหมด

 

เรื่องวันนี้จะจบลงอย่างไร ก็มีหลายคนให้ความสนใจไม่น้อย

 

ด้านหนึ่งเป็นถึงศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของจักรพรรดิสวรรค์เบี่ยเทียน ต้วนหลิงเทียน

 

ส่วนอีกด้านก็คือ จี้หยิ่ง ศิษย์ที่แท้จริงลําดับ 1 ของจักรพรรดิสวรรค์ชี้ฟานเทียน

 

“ในเมื่อต้วนหลิงเทียนกล้าบุกมาถึงหน้าประตูพันธมิตรฟานเทียนหมายความว่าต้วนหลิงเทียนต้องมั่นใจมากแน่ๆ เช่นนั้นข้าว่าการต่อสู้วันนี้ จี้หยิ่ง มีโอกาสแพ้สูง!”

 

หลายคนเริ่มคิดไปทํานองดังกล่าว

 

“โอย นี่ก็นานแล้วยังไม่ออกมากันอีกหรือ?”

 

พอมีคนมารอดูชมเรื่องราวมากขึ้นเรื่อยๆ และเห็นว่าคนของพันธมิตรฟานเทียนเองก็ออกมาออกันเหนือฟ้าหน้าประตูค่ายหนาตา แต่จี้หยิ่งผู้นําพันธมิตรฟานเทียนกลับไม่ออกมาเสียทีหลายคนก็อดไม่ได้ที่จะบ่นกันด้วยความสงสัยอยู่บ้าง “อย่าได้บอกเชียว ว่าจี้หยิ่งมันกลัวต้วนหลิงเทียนก็เลยไม่กล้าออกมา?”

 

“หากมันไม่กล้าออกมาสู้หน้าต้วนหลิงเทียน ไม่เพียงแต่มันกับพันธมิตรฟานเทียนจะต้องอับอายขายหน้า กระทั่งจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟานเทียนเองก็ตองพลอยเสียชื่อไปด้วย!”

 

“ผู้ใดจะไปรู้เล่าเรื่องนี้มันก็ไม่แน่นักหรอก”

 

หลังเวลาผ่านไปเนิ่นนานแล้วแต่จี้หยิ่งยังไม่ปรากฏตัวเสียที เสียงบ่นด้วยความไม่พอใจของผู้คนก็เริ่มดังขึ้นระงม

 

“ดูเหมือนว่าข้าจะมาทันเวลา…”

 

ทันใดนั้นเอง พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากฟ้าไกล ดึงดูดความสนใจของทุกคนไม่เว้นต้วนหลิงเทียน

 

จากนั้นท่ามกลางสายตาสนใจของทุกคน ก็ปรากฏร่างชายชราในชุดคลุมสีฟ้าหลวมๆ ฟ้ามาเหนือเมฆ ใบหน้าแลดูหนักแน่น หว่างคิ้วปรากฏปานรูปเพชรสีเลือดเด่นหรา ในมือถือดาบพร้อมฝักเล่มหนึ่ง

 

ด้วยเส้นผมยาวสีดอกเลาของมันกําลังปลิวไสวหยอกเย้าสายลม จึงชวนให้แลดูสง่างามไม่มอซอ

 

“นั่น…หรือว่า…จอมดาบเดียวดาย ฉเตาเค่อ!”

 

เมื่อผู้มาใหม่ปรากฏตัวให้เห็นชัดๆ หลายคนก็หยีตายนคิ้วเป็นปม ด้วยพยายามนึกว่า อีกฝ่ายเป็นใครและไม่นานนักก็มีคนที่รู้จักชายชราผู้นี้โพล่งออกมาเสียงดังให้ทุกคนรับทราบตัวตนของมัน!

 

“ดูเตาเค่อ? จอมดาบเดียวดายผู้นั้นรึ?!” จากนั้นหลายๆคนก็เริ่มมองชายชราด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

 

ฉเตาเค่อ ไม่ได้เข้าร่วมกองกําลังพันธมิตรใดๆ

 

และไม่มีใครทราบว่าอีกฝ่ายมีความเป็นมาอย่างไรกันแน่ เพียงแต่รู้กันว่าในสมรภูมิ 9 ยมโลกแห่งนี้อีกฝ่ายเป็นดั่งหมาป่าเดียวดาย หนึ่งคนหนึ่งดาบท่องไปทั่วภาคกลางเพียงลําพัง

 

และที่ไฉนจูเตาเค่อถึงมีชื่อเสียงเลื่องลือในภาคกลางนัก ก็เพราะว่ามันเป็นถึงเทพสงคราม 9 ดาราคนหนึ่ง!

 

“ผู้น้อยขอคารวะอาวุโสจูเตาเค่อ!”

 

ในขณะที่หลายๆคนกําลังตกตะลึงทั้งสงสัยในตัวตนของชายชรา ฉินเจิ้งอี้ ทูตช้ายของพันธมิตรฟ้าเอกอุ ก็เร่งรุดเห็นร่างไปหยุดลงเบื้องหน้าชายชราฉับไว ยังประสานมือคารวะทักทายด้วยท่าที่เลื่อมใส

 

“คารวะอาวุโสQ!”

 

เมื่อมีฉินเจิ้งอี้เป็นผู้นํา เหล่าเทพสงคราม 8 ดาราที่มาถึงก่อน ก็เร่งไปคารวะทักทาย อีกฝ่ายเช่นกัน

 

ไม่ทันไร ตัวตนของชายชราก็ได้รับการยืนยันแน่ชัดแล้ว

 

เทพสงคราม 9 ดารา จอมดาบเดียวดาย ฉเตาเค่อ!

 

ในสมรภูมิ 9 ยมโลกมีแต่ตัวตนที่ทรงพลังเช่นนี้เท่านั้น ถึงจะทําให้คนอย่างฉินเจิ้งอี้ทูตซ้ายของพันธมิตรฟ้าเอกอุ รวมถึงเหล่าเทพสงคราม 8 ดาราให้การยอมรับนับถือ

 

“อ่า”

 

จูเตาเค่อพยักหน้ารับคําทักทายจากผู้คนรอบๆ ค่อยกล่าวออกเสียงเรียบ “พวกเจ้าไม่ต้องสนใจข้าหรอก ข้ามาที่นี่เพราะบังเอิญข้าอยู่แถวนี้พอดี พอได้ยินว่ามีเรื่องราวดีๆ จึงเร่งรุดมาดูชมด้วยคน”

 

ขณะกล่าวกับผู้คนรอบๆ จูเตาเค่อก็เริ่มหันไปมองสํารวจชายหนุ่มชุดม่วง ที่ลอยร่างกลางหาวไม่ไกลพลางกล่าวถามออกมาว่า “เจ้าหนุ่มนั่นหรือ ศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางต้วนหลิงเทียน?”

 

“มิผิดอาวุโสนู เป็นมัน”

 

ฉินเจิ้งอี้กล่าวตอบด้วยน้ําเสียงสุภาพ

 

“ช่างเป็นอัจฉริยะมากพรสวรรค์นัก”

 

เตาเค่อพยักหน้า “เพียงแต่ไม่ทราบที่มันมาที่นี่เพียงลําพัง ที่แทู้่วามหรือมีสามารถจริงๆ”

 

“ผู้นําจี้หยิ่งออกมาแล้ว!”

 

เหล่าผู้ที่ให้ความสนใจดูเตาเค่ออยู่ พอได้ยินเสียงอุทานของใครบางคน ก็พากันละสายตากลับมาจากลูเตาเค่อแล้วหันไปชมดูทางประตูค่ายพันธมิตรฟานเทียนทันที

 

จึงเห็นว่ามีร่าง 2 ร่างเหินนํามาโดยมีผู้คนนับสิบติดตามอยู่ด้านหลัง

 

“เป็นผู้นําจี้หยิ่งจริงๆ! ในที่สุดก็ออกมาเสียที!!”

 

หลายคนเริ่มหันไปให้ความสนใจผู้ที่พึ่งปรากฏตัว และสามารถยืนยันได้ในเวลาอันสั้นว่าหนึ่งในผู้มาเป็นจี้หยิ่งผู้นําพันธมิตรฟานเทียนจริงๆ

 

“ว่าแต่คนที่อยู่ข้างๆจี้หยิ่งเป็นผู้ใดกัน? หรือจะเป็นยอดฝีมือที่พึ่งเข้าร่วมพันธมิตรฟ้าน เทียน?”

 

หลังจากที่ทุกคนระบุตัวจี้หยิ่งได้แล้ว สายตาของพวกมันก็เริ่มหันไปจับจ้องมองคนที่เห็นว่างมาข้างกายจี้หยิ่งด้วยความสนใจ เพราะในเมื่อคนผู้นั้นสามารถเดินเคียงไหล่จี้หยิ่งมาได้ เห็นชัดว่าไม่ใช่ชนชั้นต่ําทรามแน่แท้

 

ในอดีตภายในพันธมิตรฟานเทียน เกรงว่าคงมีแต่ผู้นําคนที่ 2 อย่างหรู่หลงที่เป็นศิษย์น้องของจี้หยิ่งเท่านั้นที่สามารถเคียงไหล่กับจี้หยิ่งได้

 

และในขณะที่หลายๆคนกําลังสงสัยว่าข้างๆจี้หยิ่งเป็นใคร ก็มีชายคนหนึ่งโพล่งขึ้นมาเสียงดังด้วยความประหลาดใจ “ช้าก่อน! หากข้าจําไม่ผิด…คนที่อยู่ข้างๆจี้หยิ่งผู้นั้น มิใช่เจ้าวิหารเฟิงฮ่าวววสาขาว่านโซ่วเทียน เยว่เขาฉวิน หรือไร? แต่เจ้าวิหารเยวมิใช่ว่าหายไปจากสมรภูมิ 9 ยมโลกนานแล้วหรือไฉนถึงกลับเข้ามาอีกเล่า?”

 

“อะไร!? เจ้าจะบอกว่าผู้ที่อยู่ข้างๆจี้หยิ่งคนนั้น ก็คือเยว่เซาฉวิน จ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาว่านโซ่วเทียนผู้นั้นนะ?!”

 

“เยว่เซาฉวินนับเป็นเทพสงคราม 9 ดาราที่มีพลังฝีมือกล้าแข็งทีเดียว!”

 

“ไฉนมันมาอยู่กับจี้หยิ่งได้เล่า หรือจี้หยิ่งเรียกมันมาเพื่อให้ช่วยจัดการต้วนหลิงเทียน?”

 

“เหอะๆ ข้าเกรงว่าจี้หยิ่งคงไม่หน้าใหญ่ขนาดนั้นหรอก…ในสายตาข้าสมควรเป็นจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟานเทียนขอความช่วยเหลือจากวิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักมากกว่า เช่นนั้นทางวิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักจึงส่งจ้าววิหารเยวมา!”

 

“หากมันมาช่วยจี้หยิ่งจัดการกับต้วนหลิงเทียนจริงๆ เช่นนั้นวันนี้ไม่เพียงแต่ต้วนหลิงเทียนจะพลาดแล้วที่มากระทั่งเผลอๆยังจะไม่ได้กลับอีกด้วย!”

 

พอรับทราบว่าที่แท้คนที่เห็นร่างเคียงไหล่กับ จี้หยิ่ง เป็นถึงจ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาว่านโช่วเทียนเยว่เขาฉวิน เทพสงคราม 9 ดาราที่เคยโด่งดังในอดีต หลายคนก็อดหันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาสงสารไม่ได้

 

“จ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาว่านโซ่วเทียน?”

 

ต้วนหลิงเทียนที่รอคอยอยู่นาน พอได้ยินบทสนทนาโดยรอบ ก็หันไปเหลือบมองเยว่เขาฉวินรอบหนึ่งจากนั้นมุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมา “วิหารเฟิงฮ่าวมันส่งเทพสงคราม 9 ดารามาจริงๆ”

 

“แค่ไม่ทราบว่ามันกับหมี่ซวนใครจะแน่กว่ากัน

 

สองตาต้วนหลิงเทียนเริ่มเต็มไปด้วยจิตต่อสู้ทันที จากนั้นเพียงหนึ่งห้วงคิด ร่างก็อันตรธานหายไปจากกลางหาว ปรากฏอีกครั้งก็อยู่เบื้องหน้า จี้หยิ่ง กับ เยว่เชาฉวิน ที่อยู่หน้าประตูค่ายพันธมิตรฟานเทียนแล้ว เผชิญหน้ากับทั้งคู่อย่างไร้ครั่นคร้าม!

 

“เจ้ารี ต้วนหลิงเทียน?”

 

ถึงแม้จี้หยิ่งจะเคยเห็นรูปเหมือนต้วนหลิงเทียนหลายครั้ง แต่นับว่านี่เป็นครั้งแรกเลยจริงๆที่มันได้พบเจอต้วนหลิงเทียนตัวจริง

 

ขณะเดียวกันเมื่อมันเห็นสีหน้าท่าที่สงบไม่แยแสของต้วนหลิงเทียน ในใจมันก็เริ่มบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลขึ้น จากนั้นก็ลอบกัดฟัน หันไปส่งเสียงผ่านพลังไปถึงดูเตาเค่อทันที “อาวุโสนูข้าขอความร่วมมือจากท่าน ให้ช่วยพวกเราจัดการต้วนหลิงเทียนได้หรือไม่?”

 

“วันนี้หากพวกเราจัดการต้วนหลิงเทียนได้แล้ว ข้าจะขอให้ท่านพ่อบุญธรรมตอบแทนท่านอย่างงาม”

 

จี้หยิ่งนั้นไม่ใช่คนที่ลงมือทําอะไรหากไม่มั่นใจ ถึงแม้มันจะมีคิดว่าที่ต้วนหลิงเทียนยังสงบอยู่ได้ถึงตอนนี้ บางที่อาจเป็นเพราะอีกฝ่ายเสแสร้งทําเป็นลึกลับ วางมาดยอดฝีมือ แต่มันก็ยังเลือกจะขอความร่วมมือจากยอดฝีมือคนอื่นๆเพื่อรับประกันความสําเร็จ

 

ด้านเตาเค่อ พอได้ยินเสียงผ่านพลังขอความช่วยเหลือจากจี้หยิ่ง สองตามันก็ลุกวาวเป็นประกายสีหน้าฉายชัดถึงความโลภทันที!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

War sovereign Soaring The Heavens 3577

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3577 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3577 : เทพสงคราม 9 ดารา “ดูเตาเค่อ”

 

ในพันธมิตรฟานเทียน แทบไม่มีใครคิดว่าต้วนหลิงเทียนมาหาที่ตาย

 

ล้อกันเล่นหรือไร!?

 

หากพลังฝีมือไม่สูงพอ ต้วนหลิงเทียนจะมาเยือนถึงหน้าประตูทําอะไร?

 

เหนือฟ้าหน้าประตูค่ายพันธมิตรฟานเทียน ต้วนหลิงเทียนที่ลอยร่างกอดอกกลางหาวนั้นสีหน้าท่าที่แลดูสงบ ไร้ซึ่งความยินดียินร้ายใดๆ

 

หลังผ่านไปสักพัก ก็ปรากฏคนกลุ่มหนึ่งของพันธมิตรฟานเทียนเหินร่างออกมาจากในค่ายก่อนจะหยุดลงน่านฟ้าเหนือประตูค่าย ขณะเดียวกันก็มีผู้คนเหินร่างมาจากทุกทั่วสารทิศและหยุดชมดูเรื่องราวอยู่ห่างๆ

 

“เจ้านั่นน่ะหรือต้วนหลิงเทียน?”

 

“ถึงแม้หน้าตาจะแลดูเยาว์วัยก็เถอะ…แต่มันอายุไม่ถึง 700 ปีจริงๆหรือ? ข้าไม่กล้าตรวจสอบมัน ”

 

“ข่าวนี้ได้รับการยืนยันจากหลายฝ่ายแล้ว เจ้าคิดว่ายังจะแปลกปลอมได้อีกไหมเล่า?”

 

สําหรับทุกคนที่มารวมตัวกัน ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่คนแปลกหน้าแต่อย่างใด

 

ศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของ ฟังชิงหยาง จักรพรรดิสวรรค์ในตํานานแห่งจี้เสี่ยเทียน!

 

ในศึกอัจฉริยะสวรรค์ครั้งล่าสุดที่พึ่งจบไปไม่นานนัก ต้วนหลิงเทียนก็ได้เผยพลังระดับเทพสงคราม 7 ดาราออกมา

 

และไม่นานมานี้ ต้วนหลิงเทียนก็มาปรากฏตัวในสมรภูมิ 9 ยมโลก แถมยังลงมือเข่นฆ่าผู้นําคนที่ 2 ของพันธมิตรฟานเทียน หอู่หลง ผู้ที่เคยได้ชื่อว่าอันดับ 1 ใต้เทพสงคราม 9 ดาราได้อีก!

 

จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นอันดับ 1 ใต้เทพสงคราม 9 ดาราในสมรภูมิ 9 ยมโลกแทนหรูหลง

 

ต่อมาพันธมิตรฟานเทียนก็ได้ออกตามล่าหาตัวต้วนหลิงเทียนกันจ้าละหวั่น แต่คนกลับหายเข้ากลีบเมฆไปเลย จนวันนี้ต้วนหลิงเทียนกลับเป็นฝ่ายบุกมาถึงหน้าประตูพันธมิตรฟานเทียนด้วย ตัวเอง!

 

“ดูเหมือนศิษย์เอกของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางแห่งจี้เสี่ยเทียนผู้นั้น จะบรรลุถึงระดับเทพสงคราม 9 ดาราแล้วจริงๆ”

 

เหล่าผู้คนจากทุกสารทิศที่มาจากละแวกใกล้เคียง เร่งรุดส่งข้อความถึงสหายและคนรู้จักเป็นการด่วน

 

ผู้ที่มาถึงก่อนไม่เพียงแต่จะอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น แต่ทั้งหมดเป็นคนที่มีสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรฟานเทียนทั้งสิ้น พวกมันที่ได้รับข่าวจากคนของพันธมิตรฟานเทียน พอยืนยันได้แล้วว่าเป็นเรื่องราวใด ก็เร่งรดส่งข้อความบอกต่อสหายและคนรู้จักที่ไม่ได้อยู่ในละแวกใกล้เคียงให้เร่งรุดมาชมดูเรื่องราวสนุกสนานทันที

 

“การมาของต้วนหลิงเทียนวันนี้ มันร้ายมากกว่าดีแน่นอน เพียงแต่ข้าไม่ทราบว่า พลังฝีมือของมันจะสูงพอทําอะไรพันธมิตรฟ่านเทียนได้หรือไม่…”

 

“ผู้คนทยอยกันมารอชมดูเรื่องราวกันใหญ่ไม่ทราบว่าเหล่าเทพสงคราม 9 ดาราในภาคกลางจะมาร่วมสนุกด้วยหรือไม่?”

 

“ข้าคิดว่าหากพวกมันว่าง ย่อมไม่พลาดชมดูอะไรดีๆเช่นนี้หรอก”

 

กลุ่มคนที่มาหยุดร่างกลางหาวชมมองต้วนหลิงเทียนจากไกลๆ ซุบซิบคุยกันอย่างคึกคัก

 

ยิ่งมาจํานวนผู้ที่มาถึงก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“นั่น ฉินเจิ้งอี้ ทูตซ้ายของพันธมิตรฟ้าเอกอุมิใช่รึ มันก็มาด้วย!”

 

เมื่อชายชราในชุดคลุมสีเทาผู้หนึ่งมาถึง ก็มีเสียงผู้คนฮือฮากันไม่น้อย

 

พันธมิตรฟ้าเอกอุ ก็เป็นกองกําลังชั้นนําในภาคกลาง และพลังรบของพันธมิตรฟ้าเอกอุก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพันธมิตรฟานเทียนเลย

 

หากจะบอกว่าในเขต 2 ของภาคกลาง พันธมิตรฟานเทียนเป็นอันดับ 1 แล้วล่ะก็…

 

เช่นนั้นในเขต 3 ของภาคกลาง พันธมิตรฟ้าเอกอุก็เป็นกองกําลังที่แข็งแกร่งที่สุด!

 

ผู้นําพันธมิตรฟ้าเอกอุเองก็เป็นตัวตนระดับเทพสงคราม 9 ดาราเช่นกัน!

 

ฉินเจิ้งอี้ ทูตซ้ายของพันธมิตรฟ้าเอกอุ เป็นเทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือคนหนึ่งและมันยังโลดแล่นอยู่ในภาคกลางของสมรภูมิ 9 ยมโลกมานานแล้ว จึงเป็นคนที่มีชื่อเสียงพอตัวเลยทีเดียว

 

“ทูตช้ายฉิน ท่านก็มาร่วมชมด้วยหรือ!”

 

“ทูตซ้ายฉัน วันนี้จะอย่างไรก็ต้องมีการปะทะกันแน่ แล้วท่านคิดว่าระหว่างจี้หยิ่งผู้นําพันธมิตรฟานเทียนกับต้วนหลิงเทียนผู้นั้น ผู้ใดจะอยู่ผู้ใดจะไปเล่า?”

 

หลายคนที่รู้จักมักคุ้นกับฉินเจิ้งอี้ก็เร่งเหินร่างเข้ามาทักทายอย่างเป็นมิตร พวกมันแต่ละคนแลดูคึกคักนัก อยากรู้ความเห็นของฉินเจิ้งอี้ สําหรับการต่อสู้ที่น่าจะปะทุขึ้นหลังจากนี้ไม่น้อย

 

“เรื่องนี้ข้าก็พูดยาก พี่น้องทั้งหลายรอดูชมดีกว่า”

 

ฉินเจิ้งอี้คลี่ยิ้มตอบ

 

หลังจากที่ฉินเจิ้งอี้มาถึง เหล่าผู้ที่มีชื่อเสียงพอสมควรในภาคกลางคนอื่นๆก็เริ่มปรา กฏตัวเช่นกันและเมื่อเหล่าเทพสงคราม 8 ดาราที่มีชื่อเสียงพอๆกับฉินเจิ้งอี้ทยอยกันมาถึงพวกมันก็ได้รับความสนใจจากผู้คนไม่ต่าง

 

แน่นอนว่าผู้ที่สามารถมาถึงได้ทันเวลา ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ได้รับทราบข่าวและอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ทั้งสิ้น และเป็นธรรมดาว่ายังมีอีกหลายคนที่กําลังเร่งรุดเดินทางมา เพราะอยู่ไกลจากที่นี่

 

สําหรับผู้ที่อยู่ห่างไกลมากเกินไป ก็เลือกที่จะยอมแพ้เรื่องมาชมดูด้วยตัวเอง เพียงรอฟังข่าวเรื่องราวจากสหายกันหมด

 

เรื่องวันนี้จะจบลงอย่างไร ก็มีหลายคนให้ความสนใจไม่น้อย

 

ด้านหนึ่งเป็นถึงศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของจักรพรรดิสวรรค์เบี่ยเทียน ต้วนหลิงเทียน

 

ส่วนอีกด้านก็คือ จี้หยิ่ง ศิษย์ที่แท้จริงลําดับ 1 ของจักรพรรดิสวรรค์ชี้ฟานเทียน

 

“ในเมื่อต้วนหลิงเทียนกล้าบุกมาถึงหน้าประตูพันธมิตรฟานเทียนหมายความว่าต้วนหลิงเทียนต้องมั่นใจมากแน่ๆ เช่นนั้นข้าว่าการต่อสู้วันนี้ จี้หยิ่ง มีโอกาสแพ้สูง!”

 

หลายคนเริ่มคิดไปทํานองดังกล่าว

 

“โอย นี่ก็นานแล้วยังไม่ออกมากันอีกหรือ?”

 

พอมีคนมารอดูชมเรื่องราวมากขึ้นเรื่อยๆ และเห็นว่าคนของพันธมิตรฟานเทียนเองก็ออกมาออกันเหนือฟ้าหน้าประตูค่ายหนาตา แต่จี้หยิ่งผู้นําพันธมิตรฟานเทียนกลับไม่ออกมาเสียทีหลายคนก็อดไม่ได้ที่จะบ่นกันด้วยความสงสัยอยู่บ้าง “อย่าได้บอกเชียว ว่าจี้หยิ่งมันกลัวต้วนหลิงเทียนก็เลยไม่กล้าออกมา?”

 

“หากมันไม่กล้าออกมาสู้หน้าต้วนหลิงเทียน ไม่เพียงแต่มันกับพันธมิตรฟานเทียนจะต้องอับอายขายหน้า กระทั่งจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟานเทียนเองก็ตองพลอยเสียชื่อไปด้วย!”

 

“ผู้ใดจะไปรู้เล่าเรื่องนี้มันก็ไม่แน่นักหรอก”

 

หลังเวลาผ่านไปเนิ่นนานแล้วแต่จี้หยิ่งยังไม่ปรากฏตัวเสียที เสียงบ่นด้วยความไม่พอใจของผู้คนก็เริ่มดังขึ้นระงม

 

“ดูเหมือนว่าข้าจะมาทันเวลา…”

 

ทันใดนั้นเอง พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากฟ้าไกล ดึงดูดความสนใจของทุกคนไม่เว้นต้วนหลิงเทียน

 

จากนั้นท่ามกลางสายตาสนใจของทุกคน ก็ปรากฏร่างชายชราในชุดคลุมสีฟ้าหลวมๆ ฟ้ามาเหนือเมฆ ใบหน้าแลดูหนักแน่น หว่างคิ้วปรากฏปานรูปเพชรสีเลือดเด่นหรา ในมือถือดาบพร้อมฝักเล่มหนึ่ง

 

ด้วยเส้นผมยาวสีดอกเลาของมันกําลังปลิวไสวหยอกเย้าสายลม จึงชวนให้แลดูสง่างามไม่มอซอ

 

“นั่น…หรือว่า…จอมดาบเดียวดาย ฉเตาเค่อ!”

 

เมื่อผู้มาใหม่ปรากฏตัวให้เห็นชัดๆ หลายคนก็หยีตายนคิ้วเป็นปม ด้วยพยายามนึกว่า อีกฝ่ายเป็นใครและไม่นานนักก็มีคนที่รู้จักชายชราผู้นี้โพล่งออกมาเสียงดังให้ทุกคนรับทราบตัวตนของมัน!

 

“ดูเตาเค่อ? จอมดาบเดียวดายผู้นั้นรึ?!” จากนั้นหลายๆคนก็เริ่มมองชายชราด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

 

ฉเตาเค่อ ไม่ได้เข้าร่วมกองกําลังพันธมิตรใดๆ

 

และไม่มีใครทราบว่าอีกฝ่ายมีความเป็นมาอย่างไรกันแน่ เพียงแต่รู้กันว่าในสมรภูมิ 9 ยมโลกแห่งนี้อีกฝ่ายเป็นดั่งหมาป่าเดียวดาย หนึ่งคนหนึ่งดาบท่องไปทั่วภาคกลางเพียงลําพัง

 

และที่ไฉนจูเตาเค่อถึงมีชื่อเสียงเลื่องลือในภาคกลางนัก ก็เพราะว่ามันเป็นถึงเทพสงคราม 9 ดาราคนหนึ่ง!

 

“ผู้น้อยขอคารวะอาวุโสจูเตาเค่อ!”

 

ในขณะที่หลายๆคนกําลังตกตะลึงทั้งสงสัยในตัวตนของชายชรา ฉินเจิ้งอี้ ทูตช้ายของพันธมิตรฟ้าเอกอุ ก็เร่งรุดเห็นร่างไปหยุดลงเบื้องหน้าชายชราฉับไว ยังประสานมือคารวะทักทายด้วยท่าที่เลื่อมใส

 

“คารวะอาวุโสQ!”

 

เมื่อมีฉินเจิ้งอี้เป็นผู้นํา เหล่าเทพสงคราม 8 ดาราที่มาถึงก่อน ก็เร่งไปคารวะทักทาย อีกฝ่ายเช่นกัน

 

ไม่ทันไร ตัวตนของชายชราก็ได้รับการยืนยันแน่ชัดแล้ว

 

เทพสงคราม 9 ดารา จอมดาบเดียวดาย ฉเตาเค่อ!

 

ในสมรภูมิ 9 ยมโลกมีแต่ตัวตนที่ทรงพลังเช่นนี้เท่านั้น ถึงจะทําให้คนอย่างฉินเจิ้งอี้ทูตซ้ายของพันธมิตรฟ้าเอกอุ รวมถึงเหล่าเทพสงคราม 8 ดาราให้การยอมรับนับถือ

 

“อ่า”

 

จูเตาเค่อพยักหน้ารับคําทักทายจากผู้คนรอบๆ ค่อยกล่าวออกเสียงเรียบ “พวกเจ้าไม่ต้องสนใจข้าหรอก ข้ามาที่นี่เพราะบังเอิญข้าอยู่แถวนี้พอดี พอได้ยินว่ามีเรื่องราวดีๆ จึงเร่งรุดมาดูชมด้วยคน”

 

ขณะกล่าวกับผู้คนรอบๆ จูเตาเค่อก็เริ่มหันไปมองสํารวจชายหนุ่มชุดม่วง ที่ลอยร่างกลางหาวไม่ไกลพลางกล่าวถามออกมาว่า “เจ้าหนุ่มนั่นหรือ ศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางต้วนหลิงเทียน?”

 

“มิผิดอาวุโสนู เป็นมัน”

 

ฉินเจิ้งอี้กล่าวตอบด้วยน้ําเสียงสุภาพ

 

“ช่างเป็นอัจฉริยะมากพรสวรรค์นัก”

 

เตาเค่อพยักหน้า “เพียงแต่ไม่ทราบที่มันมาที่นี่เพียงลําพัง ที่แทู้่วามหรือมีสามารถจริงๆ”

 

“ผู้นําจี้หยิ่งออกมาแล้ว!”

 

เหล่าผู้ที่ให้ความสนใจดูเตาเค่ออยู่ พอได้ยินเสียงอุทานของใครบางคน ก็พากันละสายตากลับมาจากลูเตาเค่อแล้วหันไปชมดูทางประตูค่ายพันธมิตรฟานเทียนทันที

 

จึงเห็นว่ามีร่าง 2 ร่างเหินนํามาโดยมีผู้คนนับสิบติดตามอยู่ด้านหลัง

 

“เป็นผู้นําจี้หยิ่งจริงๆ! ในที่สุดก็ออกมาเสียที!!”

 

หลายคนเริ่มหันไปให้ความสนใจผู้ที่พึ่งปรากฏตัว และสามารถยืนยันได้ในเวลาอันสั้นว่าหนึ่งในผู้มาเป็นจี้หยิ่งผู้นําพันธมิตรฟานเทียนจริงๆ

 

“ว่าแต่คนที่อยู่ข้างๆจี้หยิ่งเป็นผู้ใดกัน? หรือจะเป็นยอดฝีมือที่พึ่งเข้าร่วมพันธมิตรฟ้าน เทียน?”

 

หลังจากที่ทุกคนระบุตัวจี้หยิ่งได้แล้ว สายตาของพวกมันก็เริ่มหันไปจับจ้องมองคนที่เห็นว่างมาข้างกายจี้หยิ่งด้วยความสนใจ เพราะในเมื่อคนผู้นั้นสามารถเดินเคียงไหล่จี้หยิ่งมาได้ เห็นชัดว่าไม่ใช่ชนชั้นต่ําทรามแน่แท้

 

ในอดีตภายในพันธมิตรฟานเทียน เกรงว่าคงมีแต่ผู้นําคนที่ 2 อย่างหรู่หลงที่เป็นศิษย์น้องของจี้หยิ่งเท่านั้นที่สามารถเคียงไหล่กับจี้หยิ่งได้

 

และในขณะที่หลายๆคนกําลังสงสัยว่าข้างๆจี้หยิ่งเป็นใคร ก็มีชายคนหนึ่งโพล่งขึ้นมาเสียงดังด้วยความประหลาดใจ “ช้าก่อน! หากข้าจําไม่ผิด…คนที่อยู่ข้างๆจี้หยิ่งผู้นั้น มิใช่เจ้าวิหารเฟิงฮ่าวววสาขาว่านโซ่วเทียน เยว่เขาฉวิน หรือไร? แต่เจ้าวิหารเยวมิใช่ว่าหายไปจากสมรภูมิ 9 ยมโลกนานแล้วหรือไฉนถึงกลับเข้ามาอีกเล่า?”

 

“อะไร!? เจ้าจะบอกว่าผู้ที่อยู่ข้างๆจี้หยิ่งคนนั้น ก็คือเยว่เซาฉวิน จ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาว่านโซ่วเทียนผู้นั้นนะ?!”

 

“เยว่เซาฉวินนับเป็นเทพสงคราม 9 ดาราที่มีพลังฝีมือกล้าแข็งทีเดียว!”

 

“ไฉนมันมาอยู่กับจี้หยิ่งได้เล่า หรือจี้หยิ่งเรียกมันมาเพื่อให้ช่วยจัดการต้วนหลิงเทียน?”

 

“เหอะๆ ข้าเกรงว่าจี้หยิ่งคงไม่หน้าใหญ่ขนาดนั้นหรอก…ในสายตาข้าสมควรเป็นจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟานเทียนขอความช่วยเหลือจากวิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักมากกว่า เช่นนั้นทางวิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักจึงส่งจ้าววิหารเยวมา!”

 

“หากมันมาช่วยจี้หยิ่งจัดการกับต้วนหลิงเทียนจริงๆ เช่นนั้นวันนี้ไม่เพียงแต่ต้วนหลิงเทียนจะพลาดแล้วที่มากระทั่งเผลอๆยังจะไม่ได้กลับอีกด้วย!”

 

พอรับทราบว่าที่แท้คนที่เห็นร่างเคียงไหล่กับ จี้หยิ่ง เป็นถึงจ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาว่านโช่วเทียนเยว่เขาฉวิน เทพสงคราม 9 ดาราที่เคยโด่งดังในอดีต หลายคนก็อดหันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาสงสารไม่ได้

 

“จ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาว่านโซ่วเทียน?”

 

ต้วนหลิงเทียนที่รอคอยอยู่นาน พอได้ยินบทสนทนาโดยรอบ ก็หันไปเหลือบมองเยว่เขาฉวินรอบหนึ่งจากนั้นมุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมา “วิหารเฟิงฮ่าวมันส่งเทพสงคราม 9 ดารามาจริงๆ”

 

“แค่ไม่ทราบว่ามันกับหมี่ซวนใครจะแน่กว่ากัน

 

สองตาต้วนหลิงเทียนเริ่มเต็มไปด้วยจิตต่อสู้ทันที จากนั้นเพียงหนึ่งห้วงคิด ร่างก็อันตรธานหายไปจากกลางหาว ปรากฏอีกครั้งก็อยู่เบื้องหน้า จี้หยิ่ง กับ เยว่เชาฉวิน ที่อยู่หน้าประตูค่ายพันธมิตรฟานเทียนแล้ว เผชิญหน้ากับทั้งคู่อย่างไร้ครั่นคร้าม!

 

“เจ้ารี ต้วนหลิงเทียน?”

 

ถึงแม้จี้หยิ่งจะเคยเห็นรูปเหมือนต้วนหลิงเทียนหลายครั้ง แต่นับว่านี่เป็นครั้งแรกเลยจริงๆที่มันได้พบเจอต้วนหลิงเทียนตัวจริง

 

ขณะเดียวกันเมื่อมันเห็นสีหน้าท่าที่สงบไม่แยแสของต้วนหลิงเทียน ในใจมันก็เริ่มบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลขึ้น จากนั้นก็ลอบกัดฟัน หันไปส่งเสียงผ่านพลังไปถึงดูเตาเค่อทันที “อาวุโสนูข้าขอความร่วมมือจากท่าน ให้ช่วยพวกเราจัดการต้วนหลิงเทียนได้หรือไม่?”

 

“วันนี้หากพวกเราจัดการต้วนหลิงเทียนได้แล้ว ข้าจะขอให้ท่านพ่อบุญธรรมตอบแทนท่านอย่างงาม”

 

จี้หยิ่งนั้นไม่ใช่คนที่ลงมือทําอะไรหากไม่มั่นใจ ถึงแม้มันจะมีคิดว่าที่ต้วนหลิงเทียนยังสงบอยู่ได้ถึงตอนนี้ บางที่อาจเป็นเพราะอีกฝ่ายเสแสร้งทําเป็นลึกลับ วางมาดยอดฝีมือ แต่มันก็ยังเลือกจะขอความร่วมมือจากยอดฝีมือคนอื่นๆเพื่อรับประกันความสําเร็จ

 

ด้านเตาเค่อ พอได้ยินเสียงผ่านพลังขอความช่วยเหลือจากจี้หยิ่ง สองตามันก็ลุกวาวเป็นประกายสีหน้าฉายชัดถึงความโลภทันที!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

War sovereign Soaring The Heavens 3577

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3577 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3577 : เทพสงคราม 9 ดารา “ดูเตาเค่อ”

 

ในพันธมิตรฟานเทียน แทบไม่มีใครคิดว่าต้วนหลิงเทียนมาหาที่ตาย

 

ล้อกันเล่นหรือไร!?

 

หากพลังฝีมือไม่สูงพอ ต้วนหลิงเทียนจะมาเยือนถึงหน้าประตูทําอะไร?

 

เหนือฟ้าหน้าประตูค่ายพันธมิตรฟานเทียน ต้วนหลิงเทียนที่ลอยร่างกอดอกกลางหาวนั้นสีหน้าท่าที่แลดูสงบ ไร้ซึ่งความยินดียินร้ายใดๆ

 

หลังผ่านไปสักพัก ก็ปรากฏคนกลุ่มหนึ่งของพันธมิตรฟานเทียนเหินร่างออกมาจากในค่ายก่อนจะหยุดลงน่านฟ้าเหนือประตูค่าย ขณะเดียวกันก็มีผู้คนเหินร่างมาจากทุกทั่วสารทิศและหยุดชมดูเรื่องราวอยู่ห่างๆ

 

“เจ้านั่นน่ะหรือต้วนหลิงเทียน?”

 

“ถึงแม้หน้าตาจะแลดูเยาว์วัยก็เถอะ…แต่มันอายุไม่ถึง 700 ปีจริงๆหรือ? ข้าไม่กล้าตรวจสอบมัน ”

 

“ข่าวนี้ได้รับการยืนยันจากหลายฝ่ายแล้ว เจ้าคิดว่ายังจะแปลกปลอมได้อีกไหมเล่า?”

 

สําหรับทุกคนที่มารวมตัวกัน ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่คนแปลกหน้าแต่อย่างใด

 

ศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของ ฟังชิงหยาง จักรพรรดิสวรรค์ในตํานานแห่งจี้เสี่ยเทียน!

 

ในศึกอัจฉริยะสวรรค์ครั้งล่าสุดที่พึ่งจบไปไม่นานนัก ต้วนหลิงเทียนก็ได้เผยพลังระดับเทพสงคราม 7 ดาราออกมา

 

และไม่นานมานี้ ต้วนหลิงเทียนก็มาปรากฏตัวในสมรภูมิ 9 ยมโลก แถมยังลงมือเข่นฆ่าผู้นําคนที่ 2 ของพันธมิตรฟานเทียน หอู่หลง ผู้ที่เคยได้ชื่อว่าอันดับ 1 ใต้เทพสงคราม 9 ดาราได้อีก!

 

จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นอันดับ 1 ใต้เทพสงคราม 9 ดาราในสมรภูมิ 9 ยมโลกแทนหรูหลง

 

ต่อมาพันธมิตรฟานเทียนก็ได้ออกตามล่าหาตัวต้วนหลิงเทียนกันจ้าละหวั่น แต่คนกลับหายเข้ากลีบเมฆไปเลย จนวันนี้ต้วนหลิงเทียนกลับเป็นฝ่ายบุกมาถึงหน้าประตูพันธมิตรฟานเทียนด้วย ตัวเอง!

 

“ดูเหมือนศิษย์เอกของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางแห่งจี้เสี่ยเทียนผู้นั้น จะบรรลุถึงระดับเทพสงคราม 9 ดาราแล้วจริงๆ”

 

เหล่าผู้คนจากทุกสารทิศที่มาจากละแวกใกล้เคียง เร่งรุดส่งข้อความถึงสหายและคนรู้จักเป็นการด่วน

 

ผู้ที่มาถึงก่อนไม่เพียงแต่จะอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น แต่ทั้งหมดเป็นคนที่มีสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรฟานเทียนทั้งสิ้น พวกมันที่ได้รับข่าวจากคนของพันธมิตรฟานเทียน พอยืนยันได้แล้วว่าเป็นเรื่องราวใด ก็เร่งรดส่งข้อความบอกต่อสหายและคนรู้จักที่ไม่ได้อยู่ในละแวกใกล้เคียงให้เร่งรุดมาชมดูเรื่องราวสนุกสนานทันที

 

“การมาของต้วนหลิงเทียนวันนี้ มันร้ายมากกว่าดีแน่นอน เพียงแต่ข้าไม่ทราบว่า พลังฝีมือของมันจะสูงพอทําอะไรพันธมิตรฟ่านเทียนได้หรือไม่…”

 

“ผู้คนทยอยกันมารอชมดูเรื่องราวกันใหญ่ไม่ทราบว่าเหล่าเทพสงคราม 9 ดาราในภาคกลางจะมาร่วมสนุกด้วยหรือไม่?”

 

“ข้าคิดว่าหากพวกมันว่าง ย่อมไม่พลาดชมดูอะไรดีๆเช่นนี้หรอก”

 

กลุ่มคนที่มาหยุดร่างกลางหาวชมมองต้วนหลิงเทียนจากไกลๆ ซุบซิบคุยกันอย่างคึกคัก

 

ยิ่งมาจํานวนผู้ที่มาถึงก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“นั่น ฉินเจิ้งอี้ ทูตซ้ายของพันธมิตรฟ้าเอกอุมิใช่รึ มันก็มาด้วย!”

 

เมื่อชายชราในชุดคลุมสีเทาผู้หนึ่งมาถึง ก็มีเสียงผู้คนฮือฮากันไม่น้อย

 

พันธมิตรฟ้าเอกอุ ก็เป็นกองกําลังชั้นนําในภาคกลาง และพลังรบของพันธมิตรฟ้าเอกอุก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพันธมิตรฟานเทียนเลย

 

หากจะบอกว่าในเขต 2 ของภาคกลาง พันธมิตรฟานเทียนเป็นอันดับ 1 แล้วล่ะก็…

 

เช่นนั้นในเขต 3 ของภาคกลาง พันธมิตรฟ้าเอกอุก็เป็นกองกําลังที่แข็งแกร่งที่สุด!

 

ผู้นําพันธมิตรฟ้าเอกอุเองก็เป็นตัวตนระดับเทพสงคราม 9 ดาราเช่นกัน!

 

ฉินเจิ้งอี้ ทูตซ้ายของพันธมิตรฟ้าเอกอุ เป็นเทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือคนหนึ่งและมันยังโลดแล่นอยู่ในภาคกลางของสมรภูมิ 9 ยมโลกมานานแล้ว จึงเป็นคนที่มีชื่อเสียงพอตัวเลยทีเดียว

 

“ทูตช้ายฉิน ท่านก็มาร่วมชมด้วยหรือ!”

 

“ทูตซ้ายฉัน วันนี้จะอย่างไรก็ต้องมีการปะทะกันแน่ แล้วท่านคิดว่าระหว่างจี้หยิ่งผู้นําพันธมิตรฟานเทียนกับต้วนหลิงเทียนผู้นั้น ผู้ใดจะอยู่ผู้ใดจะไปเล่า?”

 

หลายคนที่รู้จักมักคุ้นกับฉินเจิ้งอี้ก็เร่งเหินร่างเข้ามาทักทายอย่างเป็นมิตร พวกมันแต่ละคนแลดูคึกคักนัก อยากรู้ความเห็นของฉินเจิ้งอี้ สําหรับการต่อสู้ที่น่าจะปะทุขึ้นหลังจากนี้ไม่น้อย

 

“เรื่องนี้ข้าก็พูดยาก พี่น้องทั้งหลายรอดูชมดีกว่า”

 

ฉินเจิ้งอี้คลี่ยิ้มตอบ

 

หลังจากที่ฉินเจิ้งอี้มาถึง เหล่าผู้ที่มีชื่อเสียงพอสมควรในภาคกลางคนอื่นๆก็เริ่มปรา กฏตัวเช่นกันและเมื่อเหล่าเทพสงคราม 8 ดาราที่มีชื่อเสียงพอๆกับฉินเจิ้งอี้ทยอยกันมาถึงพวกมันก็ได้รับความสนใจจากผู้คนไม่ต่าง

 

แน่นอนว่าผู้ที่สามารถมาถึงได้ทันเวลา ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ได้รับทราบข่าวและอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ทั้งสิ้น และเป็นธรรมดาว่ายังมีอีกหลายคนที่กําลังเร่งรุดเดินทางมา เพราะอยู่ไกลจากที่นี่

 

สําหรับผู้ที่อยู่ห่างไกลมากเกินไป ก็เลือกที่จะยอมแพ้เรื่องมาชมดูด้วยตัวเอง เพียงรอฟังข่าวเรื่องราวจากสหายกันหมด

 

เรื่องวันนี้จะจบลงอย่างไร ก็มีหลายคนให้ความสนใจไม่น้อย

 

ด้านหนึ่งเป็นถึงศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของจักรพรรดิสวรรค์เบี่ยเทียน ต้วนหลิงเทียน

 

ส่วนอีกด้านก็คือ จี้หยิ่ง ศิษย์ที่แท้จริงลําดับ 1 ของจักรพรรดิสวรรค์ชี้ฟานเทียน

 

“ในเมื่อต้วนหลิงเทียนกล้าบุกมาถึงหน้าประตูพันธมิตรฟานเทียนหมายความว่าต้วนหลิงเทียนต้องมั่นใจมากแน่ๆ เช่นนั้นข้าว่าการต่อสู้วันนี้ จี้หยิ่ง มีโอกาสแพ้สูง!”

 

หลายคนเริ่มคิดไปทํานองดังกล่าว

 

“โอย นี่ก็นานแล้วยังไม่ออกมากันอีกหรือ?”

 

พอมีคนมารอดูชมเรื่องราวมากขึ้นเรื่อยๆ และเห็นว่าคนของพันธมิตรฟานเทียนเองก็ออกมาออกันเหนือฟ้าหน้าประตูค่ายหนาตา แต่จี้หยิ่งผู้นําพันธมิตรฟานเทียนกลับไม่ออกมาเสียทีหลายคนก็อดไม่ได้ที่จะบ่นกันด้วยความสงสัยอยู่บ้าง “อย่าได้บอกเชียว ว่าจี้หยิ่งมันกลัวต้วนหลิงเทียนก็เลยไม่กล้าออกมา?”

 

“หากมันไม่กล้าออกมาสู้หน้าต้วนหลิงเทียน ไม่เพียงแต่มันกับพันธมิตรฟานเทียนจะต้องอับอายขายหน้า กระทั่งจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟานเทียนเองก็ตองพลอยเสียชื่อไปด้วย!”

 

“ผู้ใดจะไปรู้เล่าเรื่องนี้มันก็ไม่แน่นักหรอก”

 

หลังเวลาผ่านไปเนิ่นนานแล้วแต่จี้หยิ่งยังไม่ปรากฏตัวเสียที เสียงบ่นด้วยความไม่พอใจของผู้คนก็เริ่มดังขึ้นระงม

 

“ดูเหมือนว่าข้าจะมาทันเวลา…”

 

ทันใดนั้นเอง พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากฟ้าไกล ดึงดูดความสนใจของทุกคนไม่เว้นต้วนหลิงเทียน

 

จากนั้นท่ามกลางสายตาสนใจของทุกคน ก็ปรากฏร่างชายชราในชุดคลุมสีฟ้าหลวมๆ ฟ้ามาเหนือเมฆ ใบหน้าแลดูหนักแน่น หว่างคิ้วปรากฏปานรูปเพชรสีเลือดเด่นหรา ในมือถือดาบพร้อมฝักเล่มหนึ่ง

 

ด้วยเส้นผมยาวสีดอกเลาของมันกําลังปลิวไสวหยอกเย้าสายลม จึงชวนให้แลดูสง่างามไม่มอซอ

 

“นั่น…หรือว่า…จอมดาบเดียวดาย ฉเตาเค่อ!”

 

เมื่อผู้มาใหม่ปรากฏตัวให้เห็นชัดๆ หลายคนก็หยีตายนคิ้วเป็นปม ด้วยพยายามนึกว่า อีกฝ่ายเป็นใครและไม่นานนักก็มีคนที่รู้จักชายชราผู้นี้โพล่งออกมาเสียงดังให้ทุกคนรับทราบตัวตนของมัน!

 

“ดูเตาเค่อ? จอมดาบเดียวดายผู้นั้นรึ?!” จากนั้นหลายๆคนก็เริ่มมองชายชราด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

 

ฉเตาเค่อ ไม่ได้เข้าร่วมกองกําลังพันธมิตรใดๆ

 

และไม่มีใครทราบว่าอีกฝ่ายมีความเป็นมาอย่างไรกันแน่ เพียงแต่รู้กันว่าในสมรภูมิ 9 ยมโลกแห่งนี้อีกฝ่ายเป็นดั่งหมาป่าเดียวดาย หนึ่งคนหนึ่งดาบท่องไปทั่วภาคกลางเพียงลําพัง

 

และที่ไฉนจูเตาเค่อถึงมีชื่อเสียงเลื่องลือในภาคกลางนัก ก็เพราะว่ามันเป็นถึงเทพสงคราม 9 ดาราคนหนึ่ง!

 

“ผู้น้อยขอคารวะอาวุโสจูเตาเค่อ!”

 

ในขณะที่หลายๆคนกําลังตกตะลึงทั้งสงสัยในตัวตนของชายชรา ฉินเจิ้งอี้ ทูตช้ายของพันธมิตรฟ้าเอกอุ ก็เร่งรุดเห็นร่างไปหยุดลงเบื้องหน้าชายชราฉับไว ยังประสานมือคารวะทักทายด้วยท่าที่เลื่อมใส

 

“คารวะอาวุโสQ!”

 

เมื่อมีฉินเจิ้งอี้เป็นผู้นํา เหล่าเทพสงคราม 8 ดาราที่มาถึงก่อน ก็เร่งไปคารวะทักทาย อีกฝ่ายเช่นกัน

 

ไม่ทันไร ตัวตนของชายชราก็ได้รับการยืนยันแน่ชัดแล้ว

 

เทพสงคราม 9 ดารา จอมดาบเดียวดาย ฉเตาเค่อ!

 

ในสมรภูมิ 9 ยมโลกมีแต่ตัวตนที่ทรงพลังเช่นนี้เท่านั้น ถึงจะทําให้คนอย่างฉินเจิ้งอี้ทูตซ้ายของพันธมิตรฟ้าเอกอุ รวมถึงเหล่าเทพสงคราม 8 ดาราให้การยอมรับนับถือ

 

“อ่า”

 

จูเตาเค่อพยักหน้ารับคําทักทายจากผู้คนรอบๆ ค่อยกล่าวออกเสียงเรียบ “พวกเจ้าไม่ต้องสนใจข้าหรอก ข้ามาที่นี่เพราะบังเอิญข้าอยู่แถวนี้พอดี พอได้ยินว่ามีเรื่องราวดีๆ จึงเร่งรุดมาดูชมด้วยคน”

 

ขณะกล่าวกับผู้คนรอบๆ จูเตาเค่อก็เริ่มหันไปมองสํารวจชายหนุ่มชุดม่วง ที่ลอยร่างกลางหาวไม่ไกลพลางกล่าวถามออกมาว่า “เจ้าหนุ่มนั่นหรือ ศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางต้วนหลิงเทียน?”

 

“มิผิดอาวุโสนู เป็นมัน”

 

ฉินเจิ้งอี้กล่าวตอบด้วยน้ําเสียงสุภาพ

 

“ช่างเป็นอัจฉริยะมากพรสวรรค์นัก”

 

เตาเค่อพยักหน้า “เพียงแต่ไม่ทราบที่มันมาที่นี่เพียงลําพัง ที่แทู้่วามหรือมีสามารถจริงๆ”

 

“ผู้นําจี้หยิ่งออกมาแล้ว!”

 

เหล่าผู้ที่ให้ความสนใจดูเตาเค่ออยู่ พอได้ยินเสียงอุทานของใครบางคน ก็พากันละสายตากลับมาจากลูเตาเค่อแล้วหันไปชมดูทางประตูค่ายพันธมิตรฟานเทียนทันที

 

จึงเห็นว่ามีร่าง 2 ร่างเหินนํามาโดยมีผู้คนนับสิบติดตามอยู่ด้านหลัง

 

“เป็นผู้นําจี้หยิ่งจริงๆ! ในที่สุดก็ออกมาเสียที!!”

 

หลายคนเริ่มหันไปให้ความสนใจผู้ที่พึ่งปรากฏตัว และสามารถยืนยันได้ในเวลาอันสั้นว่าหนึ่งในผู้มาเป็นจี้หยิ่งผู้นําพันธมิตรฟานเทียนจริงๆ

 

“ว่าแต่คนที่อยู่ข้างๆจี้หยิ่งเป็นผู้ใดกัน? หรือจะเป็นยอดฝีมือที่พึ่งเข้าร่วมพันธมิตรฟ้าน เทียน?”

 

หลังจากที่ทุกคนระบุตัวจี้หยิ่งได้แล้ว สายตาของพวกมันก็เริ่มหันไปจับจ้องมองคนที่เห็นว่างมาข้างกายจี้หยิ่งด้วยความสนใจ เพราะในเมื่อคนผู้นั้นสามารถเดินเคียงไหล่จี้หยิ่งมาได้ เห็นชัดว่าไม่ใช่ชนชั้นต่ําทรามแน่แท้

 

ในอดีตภายในพันธมิตรฟานเทียน เกรงว่าคงมีแต่ผู้นําคนที่ 2 อย่างหรู่หลงที่เป็นศิษย์น้องของจี้หยิ่งเท่านั้นที่สามารถเคียงไหล่กับจี้หยิ่งได้

 

และในขณะที่หลายๆคนกําลังสงสัยว่าข้างๆจี้หยิ่งเป็นใคร ก็มีชายคนหนึ่งโพล่งขึ้นมาเสียงดังด้วยความประหลาดใจ “ช้าก่อน! หากข้าจําไม่ผิด…คนที่อยู่ข้างๆจี้หยิ่งผู้นั้น มิใช่เจ้าวิหารเฟิงฮ่าวววสาขาว่านโซ่วเทียน เยว่เขาฉวิน หรือไร? แต่เจ้าวิหารเยวมิใช่ว่าหายไปจากสมรภูมิ 9 ยมโลกนานแล้วหรือไฉนถึงกลับเข้ามาอีกเล่า?”

 

“อะไร!? เจ้าจะบอกว่าผู้ที่อยู่ข้างๆจี้หยิ่งคนนั้น ก็คือเยว่เซาฉวิน จ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาว่านโซ่วเทียนผู้นั้นนะ?!”

 

“เยว่เซาฉวินนับเป็นเทพสงคราม 9 ดาราที่มีพลังฝีมือกล้าแข็งทีเดียว!”

 

“ไฉนมันมาอยู่กับจี้หยิ่งได้เล่า หรือจี้หยิ่งเรียกมันมาเพื่อให้ช่วยจัดการต้วนหลิงเทียน?”

 

“เหอะๆ ข้าเกรงว่าจี้หยิ่งคงไม่หน้าใหญ่ขนาดนั้นหรอก…ในสายตาข้าสมควรเป็นจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟานเทียนขอความช่วยเหลือจากวิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักมากกว่า เช่นนั้นทางวิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักจึงส่งจ้าววิหารเยวมา!”

 

“หากมันมาช่วยจี้หยิ่งจัดการกับต้วนหลิงเทียนจริงๆ เช่นนั้นวันนี้ไม่เพียงแต่ต้วนหลิงเทียนจะพลาดแล้วที่มากระทั่งเผลอๆยังจะไม่ได้กลับอีกด้วย!”

 

พอรับทราบว่าที่แท้คนที่เห็นร่างเคียงไหล่กับ จี้หยิ่ง เป็นถึงจ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาว่านโช่วเทียนเยว่เขาฉวิน เทพสงคราม 9 ดาราที่เคยโด่งดังในอดีต หลายคนก็อดหันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาสงสารไม่ได้

 

“จ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาว่านโซ่วเทียน?”

 

ต้วนหลิงเทียนที่รอคอยอยู่นาน พอได้ยินบทสนทนาโดยรอบ ก็หันไปเหลือบมองเยว่เขาฉวินรอบหนึ่งจากนั้นมุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมา “วิหารเฟิงฮ่าวมันส่งเทพสงคราม 9 ดารามาจริงๆ”

 

“แค่ไม่ทราบว่ามันกับหมี่ซวนใครจะแน่กว่ากัน

 

สองตาต้วนหลิงเทียนเริ่มเต็มไปด้วยจิตต่อสู้ทันที จากนั้นเพียงหนึ่งห้วงคิด ร่างก็อันตรธานหายไปจากกลางหาว ปรากฏอีกครั้งก็อยู่เบื้องหน้า จี้หยิ่ง กับ เยว่เชาฉวิน ที่อยู่หน้าประตูค่ายพันธมิตรฟานเทียนแล้ว เผชิญหน้ากับทั้งคู่อย่างไร้ครั่นคร้าม!

 

“เจ้ารี ต้วนหลิงเทียน?”

 

ถึงแม้จี้หยิ่งจะเคยเห็นรูปเหมือนต้วนหลิงเทียนหลายครั้ง แต่นับว่านี่เป็นครั้งแรกเลยจริงๆที่มันได้พบเจอต้วนหลิงเทียนตัวจริง

 

ขณะเดียวกันเมื่อมันเห็นสีหน้าท่าที่สงบไม่แยแสของต้วนหลิงเทียน ในใจมันก็เริ่มบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลขึ้น จากนั้นก็ลอบกัดฟัน หันไปส่งเสียงผ่านพลังไปถึงดูเตาเค่อทันที “อาวุโสนูข้าขอความร่วมมือจากท่าน ให้ช่วยพวกเราจัดการต้วนหลิงเทียนได้หรือไม่?”

 

“วันนี้หากพวกเราจัดการต้วนหลิงเทียนได้แล้ว ข้าจะขอให้ท่านพ่อบุญธรรมตอบแทนท่านอย่างงาม”

 

จี้หยิ่งนั้นไม่ใช่คนที่ลงมือทําอะไรหากไม่มั่นใจ ถึงแม้มันจะมีคิดว่าที่ต้วนหลิงเทียนยังสงบอยู่ได้ถึงตอนนี้ บางที่อาจเป็นเพราะอีกฝ่ายเสแสร้งทําเป็นลึกลับ วางมาดยอดฝีมือ แต่มันก็ยังเลือกจะขอความร่วมมือจากยอดฝีมือคนอื่นๆเพื่อรับประกันความสําเร็จ

 

ด้านเตาเค่อ พอได้ยินเสียงผ่านพลังขอความช่วยเหลือจากจี้หยิ่ง สองตามันก็ลุกวาวเป็นประกายสีหน้าฉายชัดถึงความโลภทันที!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

War sovereign Soaring The Heavens 3577

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3577 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในพันธมิตรฟ่านเทียน แทบไม่มีใครคิดว่าต้วนหลิงเทียนมาหาที่ตาย
ล้อกันเล่นหรือไร!?
หากพลังฝีมือไม่สูงพอ ต้วนหลิงเทียนจะมาเยือนถึงหน้าประตูทำอะไร?
เหนือฟ้าหน้าประตูค่ายพันธมิตรฟ่านเทียน ต้วนหลิงเทียนที่ลอยร่างกอดอกกลางหาวนั้น สีหน้าท่าทีแลดูสงบ ไร้ซึ่งความยินดียินร้ายใดๆ
หลังผ่านไปสักพัก ก็ปรากฏคนกลุ่มหนึ่งของพันธมิตรฟ่านเทียนเหินร่างออกมาจากในค่าย ก่อนจะหยุดลงน่านฟ้าเหนือประตูค่าย ขณะเดียวกันก็มีผู้คนเหินร่างมาจากทุกทั่วสารทิศและหยุดชมดูเรื่องราวอยู่ห่างๆ
“เจ้านั่นน่ะหรือต้วนหลิงเทียน?”
“ถึงแม้หน้าตาจะแลดูเยาว์วัยก็เถอะ…แต่มันอายุไม่ถึง 700 ปีจริงๆหรือ? ข้าไม่กล้าตรวจสอบมัน…”
“ข่าวนี้ได้รับการยืนยันจากหลายฝ่ายแล้ว เจ้าคิดว่ายังจะแปลกปลอมได้อีกไหมเล่า?”

สำหรับทุกคนที่มารวมตัวกัน ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่คนแปลกหน้าแต่อย่างใด
ศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของ ฟงชิงหยาง จักรพรรดิสวรรค์ในตำนานแห่งจี้เมี่ยเทียน!
ในศึกอัจฉริยะสวรรค์ครั้งล่าสุดที่พึ่งจบไปไม่นานนัก ต้วนหลิงเทียนก็ได้เผยพลังระดับเทพสงคราม 7 ดาราออกมา
และไม่นานมานี้ ต้วนหลิงเทียนก็มาปรากฏตัวในสมรภูมิ 9 ยมโลก แถมยังลงมือเข่นฆ่าผู้นำคนที่ 2 ของพันธมิตรฟ่านเทียน หวู่หลง ผู้ที่เคยได้ชื่อว่าอันดับ 1 ใต้เทพสงคราม 9 ดาราได้อีก!
จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นอันดับ 1 ใต้เทพสงคราม 9 ดาราในสมรภูมิ 9 ยมโลกแทนหวู่หลง
ต่อมาพันธมิตรฟ่านเทียนก็ได้ออกตามล่าหาตัวต้วนหลิงเทียนกันจ้าละหวั่น แต่คนกลับหายเข้ากลีบเมฆไปเลย จนวันนี้ต้วนหลิงเทียนกลับเป็นฝ่ายบุกมาถึงหน้าประตูพันธมิตรฟ่านเทียนด้วยตัวเอง!
“ดูเหมือนศิษย์เอกของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางแห่งจี้เมี่ยเทียนผู้นั้น จะบรรลุถึงระดับเทพสงคราม 9 ดาราแล้วจริงๆ”
เหล่าผู้คนจากทุกสารทิศที่มาจากละแวกใกล้เคียง เร่งรุดส่งข้อความถึงสหายและคนรู้จักเป็นการด่วน
ผู้ที่มาถึงก่อนไม่เพียงแต่จะอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น แต่ทั้งหมดเป็นคนที่มีสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรฟ่านเทียนทั้งสิ้น พวกมันที่ได้รับข่าวจากคนของพันธมิตรฟ่านเทียน พอยืนยันได้แล้วว่าเป็นเรื่องราวใด ก็เร่งุรดส่งข้อความบอกต่อสหายและคนรู้จักที่ไม่ได้อยู่ในละแวกใกล้เคียงให้เร่งรุดมาชมดูเรื่องราวสนุกสนานทันที
“การมาของต้วนหลิงเทียนวันนี้ มันร้ายมากกว่าดีแน่นอน…เพียงแต่ข้าไม่ทราบว่าพลังฝีมือของมันจะสูงพอทำอะไรพันธมิตรฟ่านเทียนได้หรือไม่…”
“ผู้คนทยอยกันมารอชมดูเรื่องราวกันใหญ่…ไม่ทราบว่าเหล่าเทพสงคราม 9 ดาราในภาคกลางจะมาร่วมสนุกด้วยหรือไม่?”
“ข้าคิดว่าหากพวกมันว่าง ย่อมไม่พลาดชมดูอะไรดีๆเช่นนี้หรอก”

กลุ่มคนที่มาหยุดร่างกลางหาวชมมองต้วนหลิงเทียนจากไกลๆ ซุบซิบคุยกันอย่างคึกคัก
ยิ่งมาจำนวนผู้ที่มาถึงก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
“นั่น ฉินเจิ้งอี้ ทูตซ้ายของพันธมิตรฟ้าเอกอุมิใช่รึ มันก็มาด้วย!”
เมื่อชายชราในชุดคลุมสีเทาผู้หนึ่งมาถึง ก็มีเสียงผู้คนฮือฮากันไม่น้อย
พันธมิตรฟ้าเอกอุ ก็เป็นกองกำลังชั้นนำในภาคกลาง และพลังรบของพันธมิตรฟ้าเอกอุก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพันธมิตรฟ่านเทียนเลย
หากจะบอกว่าในเขต 2 ของภาคกลาง พันธมิตรฟ่านเทียนเป็นอันดับ 1 แล้วล่ะก็…
เช่นนั้นในเขต 3 ของภาคกลาง พันธมิตรฟ้าเอกอุก็เป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุด!
ผู้นำพันธมิตรฟ้าเอกอุเองก็เป็นตัวตนระดับเทพสงคราม 9 ดาราเช่นกัน!
ฉินเจิ้งอี้ ทูตซ้ายของพันธมิตรฟ้าเอกอุ เป็นเทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือคนหนึ่ง และมันยังโลดแล่นอยู่ในภาคกลางของสมรภูมิ 9 ยมโลกมานานแล้ว จึงเป็นคนที่มีชื่อเสียงพอตัวเลยทีเดียว
“ทูตซ้ายฉิน ท่านก็มาร่วมชมด้วยหรือ!”
“ทูตซ้ายฉิน วันนี้จะอย่างไรก็ต้องมีการปะทะกันแน่ แล้วท่านคิดว่าระหว่างจี้หยิ่งผู้นำพันธมิตรฟ่านเทียนกับต้วนหลิงเทียนผู้นั้น ผู้ใดจะอยู่ผู้ใดจะไปเล่า?”
หลายคนที่รู้จักมักคุ้นกับฉินเจิ้งอี้ก็เร่งเหินร่างเข้ามาทักทายอย่างเป็นมิตร พวกมันแต่ละคนแลดูคึกคักนัก อยากรู้ความเห็นของฉินเจิ้งอี้ สำหรับการต่อสู้ที่น่าจะปะทุขึ้นหลังจากนี้ไม่น้อย
“เรื่องนี้ข้าก็พูดยาก พี่น้องทั้งหลายรอดูชมดีกว่า”
ฉินเจิ้งอี้คลี่ยิ้มตอบ
หลังจากที่ฉินเจิ้งอี้มาถึง เหล่าผู้ที่มีชื่อเสียงพอสมควรในภาคกลางคนอื่นๆก็เริ่มปรากฏตัวเช่นกัน และเมื่อเหล่าเทพสงคราม 8 ดาราที่มีชื่อเสียงพอๆกับฉินเจิ้งอี้ทยอยกันมาถึง พวกมันก็ได้รับความสนใจจากผู้คนไม่ต่าง
แน่นอนว่าผู้ที่สามารถมาถึงได้ทันเวลา ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ได้รับทราบข่าวและอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ทั้งสิ้น และเป็นธรรมดาว่ายังมีอีกหลายคนที่กำลังเร่งรุดเดินทางมา เพราะอยู่ไกลจากที่นี่
สำหรับผู้ที่อยู่ห่างไกลมากเกินไป ก็เลือกที่จะยอมแพ้เรื่องมาชมดูด้วยตัวเอง เพียงรอฟังข่าวเรื่องราวจากสหายกันหมด
เรื่องวันนี้จะจบลงอย่างไร ก็มีหลาย.ไอรีนโนเวล.คนให้ความสนใจไม่น้อย
ด้านหนึ่งเป็นถึงศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน ต้วนหลิงเทียน
ส่วนอีกด้านก็คือ จี้หยิ่ง ศิษย์ที่แท้จริงลำดับ 1 ของจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียน
“ในเมื่อต้วนหลิงเทียนกล้าบุกมาถึงหน้าประตูพันธมิตรฟ่านเทียน…หมายความว่าต้วนหลิงเทียนต้องมั่นใจมากแน่ๆ เช่นนั้นข้าว่าการต่อสู้วันนี้ จี้หยิ่ง มีโอกาสแพ้สูง!”
หลายคนเริ่มคิดไปทำนองดังกล่าว
“โอย นี่ก็นานแล้ว…ยังไม่ออกมากันอีกหรือ?”
พอมีคนมารอดูชมเรื่องราวมากขึ้นเรื่อยๆ และเห็นว่าคนของพันธมิตรฟ่านเทียนเองก็ออกมาออกันเหนือฟ้าหน้าประตูค่ายหนาตา แต่จี้หยิ่งผู้นำพันธมิตรฟ่านเทียนกลับไม่ออกมาเสียที หลายคนก็อดไม่ได้ที่จะบ่นกันด้วยความสงสัยอยู่บ้าง “อย่าได้บอกเชียว ว่าจี้หยิ่งมันกลัวต้วนหลิงเทียนก็เลยไม่กล้าออกมา?”
“หากมันไม่กล้าออกมาสู้หน้าต้วนหลิงเทียน ไม่เพียงแต่มันกับพันธมิตรฟ่านเทียนจะต้องอับอายขายหน้า กระทั่งจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียนเองก็ตองพลอยเสียชื่อไปด้วย!”
“ผู้ใดจะไปรู้เล่า เรื่องนี้มันก็ไม่แน่นักหรอก”

หลังเวลาผ่านไปเนิ่นนานแล้วแต่จี้หยิ่งยังไม่ปรากฏตัวเสียที เสียงบ่นด้วยความไม่พอใจของผู้คนก็เริ่มดังขึ้นระงม
“ดูเหมือนว่าข้าจะมาทันเวลา…”
ทันใดนั้นเอง พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากฟ้าไกล ดึงดูดความสนใจของทุกคนไม่เว้นต้วนหลิงเทียน
จากนั้นท่ามกลางสายตาสนใจของทุกคน ก็ปรากฏร่างชายชราในชุดคลุมสีฟ้าหลวมๆ ย่ำฟ้ามาเหนือเมฆ ใบหน้าแลดูหนักแน่น หว่างคิ้วปรากฏปานรูปเพชรสีเลือดเด่นหรา ในมือถือดาบพร้อมฝักเล่มหนึ่ง
ด้วยเส้นผมยาวสีดอกเลาของมันกำลังปลิวไสวหยอกเย้าสายลม จึงชวนให้แลดูสง่างามไม่มอซอ
“นั่น…หรือว่า…จอมดาบเดียวดาย ฉูเตาเค่อ!”
เมื่อผู้มาใหม่ปรากฏตัวให้เห็นชัดๆ หลายคนก็หยีตาย่นคิ้วเป็นปม ด้วยพยายามนึกว่าอีกฝ่ายเป็นใคร และไม่นานนักก็มีคนที่รู้จักชายชราผู้นี้โพล่งออกมาเสียงดังให้ทุกคนรับทราบตัวตนของมัน!
“ฉูเตาเค่อ? จอมดาบเดียวดายผู้นั้นรึ?!”
จากนั้นหลายๆคนก็เริ่มมองชายชราด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
ฉูเตาเค่อ ไม่ได้เข้าร่วมกองกำลังพันธมิตรใดๆ
และไม่มีใครทราบว่าอีกฝ่ายมีความเป็นมาอย่างไรกันแน่ เพียงแต่รู้กันว่าในสมรภูมิ 9 ยมโลกแห่งนี้ อีกฝ่ายเป็นดั่งหมาป่าเดียวดาย หนึ่งคนหนึ่งดาบท่องไปทั่วภาคกลางเพียงลำพัง
และที่ไฉนฉูเตาเค่อถึงมีชื่อเสียงเลื่องลือในภาคกลางนัก ก็เพราะว่ามันเป็นถึงเทพสงคราม 9 ดาราคนหนึ่ง!
“ผู้น้อยขอคารวะอาวุโสฉูเตาเค่อ!”
ในขณะที่หลายๆคนกำลังตกตะลึงทั้งสงสัยในตัวตนของชายชรา ฉินเจิ้งอี้ ทูตซ้ายของพันธมิตรฟ้าเอกอุ ก็เร่งรุดเหินร่างไปหยุดลงเบื้องหน้าชายชราฉับไว ยังประสานมือคารวะทักทายด้วยท่าทีเลื่อมไส
“คารวะอาวุโสฉู!”
เมื่อมีฉินเจิ้งอี้เป็นผู้นำ เหล่าเทพสงคราม 8 ดาราที่มาถึงก่อน ก็เร่งไปคารวะทักทายอีกฝ่ายเช่นกัน
ไม่ทันไร ตัวตนของชายชราก็ได้รับการยืนยันแน่ชัดแล้ว
เทพสงคราม 9 ดารา จอมดาบเดียวดาย ฉูเตาเค่อ!
ในสมรภูมิ 9 ยมโลกมีแต่ตัวตนที่ทรงพลังเช่นนี้เท่านั้น ถึงจะทำให้คนอย่างฉินเจิ้งอี้ทูตซ้ายของพันธมิตรฟ้าเอกอุ รวมถึงเหล่าเทพสงคราม 8 ดาราให้การยอมรับนับถือ
“อ่า”
ฉูเตาเค่อพยักหน้ารับคำทักทายจากผู้คนรอบๆ ค่อยกล่าวออกเสียงเรียบ “พวกเจ้าไม่ต้องสนใจข้าหรอก ข้ามาที่นี่เพราะบังเอิญข้าอยู่แถวนี้พอดี พอได้ยินว่ามีเรื่องราวดีๆ จึงเร่งรุดมาดูชมด้วยคน”
ขณะกล่าวกับผู้คนรอบๆ ฉูเตาเค่อก็เริ่มหันไปมองสำรวจชายหนุ่มชุดม่วง ที่ลอยร่างกลางหาวไม่ไกล พลางกล่าวถามออกมาว่า “เจ้าหนุ่มนั่นหรือ ศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยาง ต้วนหลิงเทียน?”
“มิผิดอาวุโสฉู เป็นมัน”
ฉินเจิ้งอี้กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ช่างเป็นอัจฉริยะมากพรสวรรค์นัก”
ฉูเตาเค่อพยักหน้า “เพียงแต่ไม่ทราบที่มันมาที่นี่เพียงลำพัง ที่แท้วู่วามหรือมีสามารถจริงๆ”
“ผู้นำจี้หยิ่งออกมาแล้ว!”
เหล่าผู้ที่ให้ความสนใจฉูเตาเค่ออยู่ พอได้ยินเสียงอุทานของใครบางคน ก็พากันละสายตากลับมาจากฉูเตาเค่อ แล้วหันไปชมดูทางประตูค่ายพันธมิตรฟ่านเทียนทันที
จึงเห็นว่ามีร่าง 2 ร่างเหินนำมาโดยมีผู้คนนับสิบติดตามอยู่ด้านหลัง
“เป็นผู้นำจี้หยิ่งจริงๆ! ในที่สุดก็ออกมาเสียที!!”
หลายคนเริ่มหันไปให้ความสนใจผู้ที่พึ่งปรากฏตัว และสามารถยืนยันได้ในเวลาอันสั้นว่าหนึ่งในผู้มาเป็น จี้หยิ่ง ผู้นำพันธมิตรฟ่านเทียนจริงๆ
“ว่าแต่คนที่อยู่ข้างๆจี้หยิ่งเป็นผู้ใดกัน? หรือจะเป็นยอดฝีมือที่พึ่งเข้าร่วมพันธมิตรฟ่านเทียน?”
หลังจากที่ทุกคนระบุตัวจี้หยิ่งได้แล้ว สายตาของพวกมันก็เริ่มหันไปจับจ้องมองคนที่เหินร่างมาข้างกายจี้หยิ่งด้วยความสนใจ เพราะในเมื่อคนผู้นั้นสามารถเหินเคียงไหล่จี้หยิ่งมาได้ เห็นชัดว่าไม่ใช่ชนชั้นต่ำทรามแน่แท้!
ในอดีตภายในพันธมิตรฟ่านเทียน เกรงว่าคงมีแต่ผู้นำคนที่ 2 อย่างหวู่หลงที่เป็นศิษย์น้องของจี้หยิ่งเท่านั้นที่สามารถเคียงไหล่กับจี้หยิ่งได้
และในขณะที่หลายๆคนกำลังสงสัยว่าข้างๆจี้หยิ่งเป็นใคร ก็มีชายคนหนึ่งโพล่งขึ้นมาเสียงดังด้วยความประหลาดใจ “ช้าก่อน! หากข้าจำไม่ผิด…คนที่อยู่ข้างๆจี้หยิ่งผู้นั้น มิใช่เจ้าวิหารเฟิงฮ่าวววสาขาว่านโช่วเทียน เยว่เชาฉวิน หรือไร? แต่เจ้าวิหารเยว่มิใช่ว่าหายไปจากสมรภูมิ 9 ยมโลกนานแล้วหรือ ไฉนถึงกลับเข้ามาอีกเล่า?”
“อะไร!? เจ้าจะบอกว่าผู้ที่อยู่ข้างๆจี้หยิ่งคนนั้น ก็คือเยว่เชาฉวิน จ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาว่านโช่วเทียนผู้นั้นน่ะรึ?!”
“เยว่เชาฉวินนับเป็นเทพสงคราม 9 ดาราที่มีพลังฝีมือกล้าแข็งทีเดียว!”
“ไฉนมันมาอยู่กับจี้หยิ่งได้เล่า หรือจี้หยิ่งเรียกมันมาเพื่อให้ช่วยจัดการต้วนหลิงเทียน?”
“เหอะๆ ข้าเกรงว่าจี้หยิ่งคงไม่หน้าใหญ่ขนาดนั้นหรอก…ในสายตาข้าสมควรเป็นจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟ่านเทียนขอความช่วยเหลือจากวิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักมากกว่า เช่นนั้นทางวิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักจึงส่งจ้าววิหารเยว่มา!”
“หากมันมาช่วยจี้หยิ่งจัดการกับต้วนหลิงเทียนจริงๆ เช่นนั้นวันนี้ไม่เพียงแต่ต้วนหลิงเทียนจะพลาดแล้วที่มา กระทั่งเผลอๆยังจะไม่ได้กลับอีกด้วย!”

พอรับทราบว่าที่แท้คนที่เหินร่างเคียงไหล่กับ จี้หยิ่ง เป็นถึงจ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาว่านโช่วเทียน เยว่เชาฉวิน เทพสงคราม 9 ดาราที่เคยโด่งดังในอดีต หลายคนก็อดหันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาสงสารไม่ได้
‘จ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาว่านโช่วเทียน?’
ต้วนหลิงเทียนที่รอคอยอยู่นาน พอได้ยินบทสนทนาโดยรอบ ก็หันไปเหลือบมองเยว่เชาฉวินรอบหนึ่ง จากนั้นมุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมา ‘วิหารเฟิงฮ่าวมันส่งเทพสงคราม 9 ดารามาจริงๆ’
‘แค่ไม่ทราบว่ามันกับหมี่ซวนใครจะแน่กว่ากัน…’
สองตาต้วนหลิงเทียนเริ่มเต็มไปด้วยจิตต่อสู้ทันที จากนั้นเพียงหนึ่งห้วงคิด ร่างก็อันตรธานหายไปจากกลางหาว ปรากฏอีกครั้งก็อยู่เบื้องหน้า จี้หยิ่ง กับ เยว่เชาฉวิน ที่อยู่หน้าประตูค่ายพันธมิตรฟ่านเทียนแล้ว เผชิญหน้ากับทั้งคู่อย่างไร้ครั่นคร้าม!
“เจ้ารึ ต้วนหลิงเทียน?”
ถึงแม้จี้หยิ่งจะเคยเห็นรูปเหมือนต้วนหลิงเทียนหลายครั้ง แต่นับว่านี่เป็นครั้งแรกเลยจริงๆที่มันได้พบเจอต้วนหลิงเทียนตัวจริง
ขณะเดียวกันเมื่อมันเห็นสีหน้าท่าทีสงบไม่แยแสของต้วนหลิงเทียน ในใจมันก็เริ่มบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลขึ้น จากนั้นก็ลอบกัดฟัน หันไปส่งเสียงผ่านพลังไปถึงฉูเตาเค่อทันที “อาวุโสฉู ข้าขอความร่วมมือจากท่าน ให้ช่วยพวกเราจัดการต้วนหลิงเทียนได้หรือไม่?”
“วันนี้หากพวกเราจัดการต้วนหลิงเทียนได้แล้ว ข้าจะขอให้ท่านพ่อบุญธรรมตอบแทนท่านอย่างงาม”
จี้หยิ่งนั้นไม่ใช่คนที่ลงมือทำอะไรหากไม่มั่นใจ ถึงแม้มันจะมีคิดว่าที่ต้วนหลิงเทียนยังสงบอยู่ได้ถึงตอนนี้ บางทีอาจเป็นเพราะอีกฝ่ายเสแสร้งทำเป็นลึกลับ วางมาดยอดฝีมือ แต่มันก็ยังเลือกจะขอความร่วมมือจากยอดฝีมือคนอื่นๆเพื่อรับประกันความสำเร็จ
ด้านฉูเตาเค่อ พอได้ยินเสียงผ่านพลังขอความช่วยเหลือจากจี้หยิ่ง สองตามันก็ลุกวาวเป็นประกาย สีหน้าฉายชัดถึงความโลภทันที!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+