War sovereign Soaring The Heavens 3583

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3583 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3583 : ความคาดหวังอันแรงกล้าของเซี่ยเจีย

 

ณ ดินแดนการล่มสลายแห่งทวยเทพ หนึ่งใน 18 ระนาบเทพ

  

ตระกูลเซี่ยนั้นเป็นหนึ่งในตระกูลชั้นนำของดินแดนการล่มสลายแห่งทวยเทพ ถือว่ามีชื่อเสียงโด่งดังไม่น้อยเลยทีเดียว

  

ในเมื่อเป็นถึงตระกูลใหญ่ที่โด่งดัง กฏระเบียบในตระกูลก็ย่อมเข้มงวดเป็นธรรมดา ทำให้ผู้คนในตระกูลไม่ค่อยมีใครขัดคำสั่งของตระกูล

  

ทว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในตระกูลเซี่ยก็ต้องประสบกับความเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากกฏระเบียบครั้งใหญ่ และไม่ใช่ใดอื่น เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลเซี่ยที่เลือกขัดคำสั่งบิดา ที่เป็นผู้นำตระกูลโดยการฆ่าตัวตายหนีการแต่งงาน กลับชาติไปเกิดใหม่ สุดท้ายก็มีสามีและลูกสาวกลับมา…

  

เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างข้อพิพาทมากมายในตระกูลเซี่ย

  

“พวกเจ้าว่า…คุณหนูใหญ่ จะรอดกลับออกจากระนาบสมรภูมิได้หรือไม่?”

  

มุมหนึ่งของตระกูลเซี่ย ปรากฏรุ่นเยาว์ของตระกูลเซี่ยหลายคนล้อมวงสนทนากันหลังฝึกเสร็จ และฟังจากคำพูดของพวกมัน เห็นได้ชัดว่ากำลังถกกันถึงเรื่องของ คุณหนูใหญ่ตระกูลเซี่ย ซึ่งเป็นอดีตความภาคภูมิใจสูงสุดของตระกูลเซี่ย

  

“เรื่องนี้ใครจะกล้ารับประกัน…สุดท้ายระนาบสมรภูมิก็เป็นสนามรบที่ผู้แข็งแกร่งที่สุดสร้างขึ้น นับประสาอะไรกับคุณหนูใหญ่ ต่อให้เป็นยอดฝีมือระดับสูงๆก็เป็นตายเท่ากัน”

  

“ข้าล่ะคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคุณหนูใหญ่ของพวกเราจะใจเด็ดถึงขั้นเข้าสู่ระนาบสมรภูมิแบบนี้…เห็นว่าสาเหตุที่คุณหนูใหญ่เลือกเข้าสู่ระนาบสมรภูมิรอบนี้ ก็ไม่มีอะไรมากกว่าเลือกจะไปเสี่ยงตายดีกว่าแต่งกับผู้แซ่อวิ๋นนั่น”

  

“เรื่องนี้ข้าก็เคยยได้ยินมาเหมือนกัน…และเห็นว่าที่คราวนี้คุณหนูใหญ่ไม่ใช้วิธีสุดโต่งเหมือนชีวิตก่อน เป็นเพราะลูกสาวกับครอบครัวในชีวิตนี้ของนาง”

  

  

ฟังจากบทสนทนาของรุ่นเยาว์ในตระกูลเซี่ยแล้ว เห็นชัดว่าพวกมันเองก็รู้อะไรมาพอสมควร

  

“นาท่าน 3 เองตอนนี้ก็โดนกักบริเวณอยู่ในบ้าน…เห็นว่าพยายามหนีหลายรอบแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ”

  

ทันใดนั้น สมาชิกตระกูลเซี่ยคนหนึ่งก็เปิดประเด็นดังกล่าว

  

“รอบนี้ นายท่าน 3 นับว่าทำให้ผู้นำโมโหแล้วจริงๆ”

  

“จะให้ทำอย่างไรได้ การปล่อยคนจากระนาบโลกียะพวกนั้นไป ก็เท่ากับปลดโซ่ตรวรพันธนาการคุณหนูใหญ่…หากว่าคุณหนูใหญ่รู้เรื่องนี้ล่ะก็ยังจะไม่หนีไปอยู่กับครอบครัวใหม่นั่นหรอกเหรอ ท่านผู้นำไม่โกรธก็แปลก”

  

“ดูเหมือนว่าจะอย่างไรอีก 300 ปีหลังจากนี้ งานแต่งระหว่างตระกูลเซี่ยเรากับตระกูลอวิ๋น มีแนวโน้มจะถูกจัดขึ้นอีกครั้งเหมือนในอดีต”

  

“เฮ่อ ข้าก็ไม่ทราบวว่าท่านผู้นำคิดอะไรอยู่กันแน่…ในเมื่อชีวิตนี้คุณหนูใหญญ่ก็ถึงกับมีลูกสาวแล้วทั้งคน ไฉนยังต้องไปบีบคั้นให้แต่งกับผู้แซ่อวิ๋นนั่นอีก นี่ไม่ใช่เท่ากับผลักคุณหนูใหญ่เข้ากองไฟหรือไร?”

  

“ว่ากันว่านายน้อยยตระกูลอวิ๋นนั่นมันยึดติดกับคุณหนูใหญ่มาก หากมิได้ตบแต่งกับคุณหนูใหญ่เรา ใจมันก็ไม่อาจปล่อยวาง และคงยากที่ชั่วชีวิตนี้จะทะลวงถึงขอบเขตจักรพรรดิเทพได้!”

  

  

หลังจากที่ปล่อยพวกลี่เฟย ต้วนหรูเฟิง ลี่หลัว และคนอื่นๆไป นายท่าน 3 แห่งตระกูลเซี่ย เซี่ยเจี๋ย ก็ได้ถูกผู้นำตระกูลเซี่ย เซี่ยอวี่ กักบริเวณเอาไว้ เพื่อกันไม่ให้อีกฝ่ายนำเรื่องนี้ไปบอกลูกสาวของตัวอย่างเซี่ยหนิงเสวี่ย…

  

เซี่ยอวี่ย่อมรู้นิสัยของลูกสาวของมันดี หากอีกฝ่ายล่วงรู้เรื่องที่ทุกคนถูกปล่อยตัวไปแล้ว เกรงว่าคงไม่คิดกลับมายังตระกูลเซี่ยอีก

  

มันย่อมไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น

  

“น้อง 3 คราวนี้เจ้าทำเกินไปแล้ว”

  

ทุกครั้งที่เซี่ยอวี่มาหาเซี่ยเจี๋ย และเห็นอีกฝ่ายแต่งตัวมอซอแลดูเหมือนคนไร้บ้าน คิ้วมันก็ขดย่นเป็นปมทุกครั้ง

  

ขณะที่มองเซี่ยเจี๋ย เซี่ยอวี่ก็เอาแต่ส่ายหน้าไม่หยุด

  

“ข้าทำเกินไป? พี่ใหญ่…เรื่องทำเกินไปข้าคงไม่เท่าท่านกระมัง?”

  

เซี่ยเจี๋ยเหลือบมองพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย

  

“น้อง 3 อย่าได้ฟื้นฝอยหาตะเข็บ”

  

เซี่ยอวี่ย่นคิ้วกล่าว “จะอย่างไรเรื่องที่เจ้าทำไป พวกเราก็ต้องมีคำอธิบายให้อวิ๋นชิงเหยียน เจ้าก็รู้ดีว่าเพราะอวิ๋นชิงเหยียนไว้ใจพวกเรามันเลยฝากคนไว้ที่ตระกูลเซี่ยเรา แต่ในเมื่อตอนนี้ทุกคนถูกเจ้าปล่อยไปหมดสิ้น จะให้ข้าไปพูดกับมันอย่างไร…”

  

“คนก็ปล่อยไปแล้ว…ท่านจะให้ข้าทำอย่างไรได้อีกเล่า?”

  

เซี่ยเจี๋ยหันมองมองเซี่ยอวี่ ค่อยกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์

  

“น้อง 3…เจ้าเป็นคนฉลาดยังต้องให้ข้าพูดอีกหรือไร?”

  

สีหน้าเซี่ยอวี่เริ่มเปลี่ยนเป็นจริงจัง จากนั้นก็มองกล่าวกับเซี่ยเจี๋ยเสีงหนัก “ข้ารู้ว่าเจ้ายังเก็บโลหะประหลาดที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นทองเทพสุดลี้ลับขั้นแรกเอาไว้…พอดีด้านตระกูลอวิ๋นก็พึ่งได้ทองเทพสุดลี้ลับขั้นแรกมา”

  

“เช่นนั้นเจ้าก็มอบโลหะนั่นให้ข้าเถอะ หากมันเป็นทองเทพสุดลี้ลับขั้นแรกจริงๆ หากมอบให้ตระกูลอวิ๋นไป มันก็สามารถรวมกับอีกชิ้นที่ตระกูลอวิ๋นมี แล้วพัฒนาไปเป็นทองเทพสุดลี้ลับขั้นที่ 2 ได้ …”

  

“น้อง 3 ครั้งนี้เจ้าต้องฟังข้า”

  

กล่าวถึงประโยคท้าย น้ำเสียงของเซี่ยอวี่ก็แฝงการเตือนเอาไว้

  

อย่างไรก็ตาม พอได้ยินคำพูดของเซี่ยอวี่ เซี่ยเจี๋ยก็ผงะไปเล็กน้อย ค่อยระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ หัวเราะจนทำให้เซี่ยอวี่ต้องขมวดคิ้วกล่าวถาม “เจ้าหัวเราะอะไร? จนถึงตอนนี้แล้วเจ้ายังมีหน้ามาหัวเราะอีกรึ?”

  

“พี่ใหญ่ โลหะประหลาดที่อาจจะเป็นทองเทพสุดลี้ลับนั่น ตั้งแต่เมื่อ 700 ปีก่อน มันก็ไม่ได้อยู่กับข้าแล้ว”

  

เซี่ยเจี๋ยส่ายหัวพลางกล่าว

  

“นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร?”

  

เซี่ยอวี่ชักสีหน้าไม่เชื่อ “โลหะประหลาดนั่น กระทั่งข้าจะยืมมันไปตรวจสอบดูหน่อย เจ้าก็ยึกยักตลอด…มิใช่เจ้าหวงมันมากหรือไร ไฉนตอนนี้มันจะไม่อยู่กับเจ้าได้?”

  

“ถูกของท่านพี่ใหญ่ ข้าหวงมันมากจริงๆ…”

  

เซี่ยเจี๋ยพยักหน้า “เพราะข้าเชื่อมาตลอด…ว่ามันคือทองเทพสุดลี้ลับขั้นแรก! หากมันได้ผสานกับทองเทพสุดลี้ลับขั้นแรกชิ้นอื่น ไม่พ้นต้องเริ่มต้นหนทางแห่งการวิวัฒน์แน่…”

  

“และหากมันสามารถวิวัฒน์พัฒนาไปได้จนสุดทาง…อย่าว่าแต่เทพเลย ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดก็ยังอยากช่วงชิงไปให้คนของตัว…”

  

กล่าวถึงจุดนี้ เซี่ยเจี๋ยก็หยุดลงเล็กน้อย จากนั้นแววตาก็เริ่มฉายความอ่อนโยนออกมา “เพียงแต่เมื่อ 700 ปีก่อน ข้าได้มอบมันให้กับคนๆหนึ่งไปแล้ว…”

  

“ผู้ใด?”

  

เซี่ยอวี่มองจ้องเซี่ยเจี๋ยด้วยสายตาราวฟ้าผ่า เอ่ยถามเสียงต่ำ มันย่อมอยากรู้ไม่น้อยว่าเซี่ยเจี๋ยมอบโลหะที่น่าจะเป็นทองเทพสุดลี้ลับขั้นแรกให้ใครไปกันแน่

  

“มิใช่คนของระนาบเทพ และยังมิใช่แม้แต่คนของระนาบเทวโลก…”

  

เซี่ยเจี๋ยส่ายหัวไปมาพลางยิ้ม “คนฉลาดเช่นพี่ใหญ่ คงพอจะเดาได้แล้วกระมังว่าข้ามอบไปให้ผู้ใด…”

  

“ไม่ใช่คนของระนาบเทพ รวมถึงระนาบเทวโลก?”

  

ได้ยินคำตอบของเซี่ยเจี๋ย เซี่ยอวี่ก็ย่นคิ้วนึกอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป น้ำเสียงยังแข็งขึ้นที “เจ้ามิใช่ว่า…มอบโลหะที่น่าจะเป็นทองเทพสุดลี้ลับนั่นให้กับต้วนหลิงเทียนผู้นั้นหรอกนะ?”

  

ถึงแม้เซี่ยอวี่จะไม่เคยพบเจอชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของลูกสาวของตัวเองในชีวิตนี้ แต่มันย่อมรู้ดีว่าอีกฝ่ายชื่ออะไร

  

กระทั่งมันยังรู้อีกด้วยว่าน้อง 3 ของตัวเอง ถึงกับลงไปยังระนาบโลกียะด้วยตัวเอง ด้วยกลัวว่าอวิ๋นชิงเหยียนจะส่งคนไปฆ่าอีกฝ่าย

  

พอมันได้ยินน้องชายพูดมาแบบนี้ มันก็เดาได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

  

เพราะมีแค่คนๆนั้นคนเดียว ที่น้อง 3 ของมันจะมอบโลหะที่คาดว่าจะเป็นทองเทพสุดลี้ลับให้ได้…

  

“โอ้! พี่ใหญ่ของข้าฉลาดเฉลียวยิ่ง ข้าไม่แปลกใจเลยว่าไฉนท่านพ่อ ถึงได้กำหนดให้ท่านเป็นผู้นำตระกูลเซี่ยคนต่อไปในตอนนั้น”

  

เซี่ยเจี๋ยยกนิ้วโป้งให้เซี่ยอวี่

  

“ไม่ต้องทำมาเป็นยกยอข้า!”

  

เซี่ยอวี่โพล่งคำออกมาอย่างหัวเสีย “เจ้าถึงกับมอบโลหะที่อาจจะเป็นทองเทพสุดลี้ลับขั้นแรกให้กับต้วนหลิงเทียนนั่น คงมิได้หวังปูทางให้มันเติบโตก้าวหน้ากระมัง?”

  

“ก็แค่…เด็กน้อยจากระนาบโลกียะต้อยต่ำเทียบไม่ได้แม้แต่คนของระนาบเทวโลก คิดว่ามอบทองเทพสุดลี้ลับให้มันไป แล้วจะช่วยอะไรมันได้เช่นนั้นรึ?”

  

“ข้าว่า ต่อให้โลหะนั่นจักเป็นทองเทพสุดลี้ลับจริง และมีโอกาสพัฒนาก่อเกิดสำนึกสติ ก็เกรงว่าจะทิ้งมันแล้วไปหาร่างต้นคนใหม่!”

  

“น้อง 3 ครั้งนี้เจ้าเลอะเลือนใหญ่แล้ว…มอบโลหะชิ้นนั้นให้มัน ยังต่างอะไรกับทิ้งหยกลงทะเล ให้คลื่นซัดให้ตายก็มิวันมาเกยฝั่ง!”

  

กล่าวถึงประโยคท้าย เซี่ยอวี่ก็ได้แต่ส่ายหัวไปมาไม่หยุด ด้วยคิดว่าน้อง 3 ของมันได้ทำเรื่องเหลวไหลไปแล้วจริงๆ

  

เป็นธรรมดาว่า น้อง 3 มันคิดอ่านอะไรอยู่ มันย่อมเดาได้ไม่ยาก

  

ไม่มีอะไรมากไปกว่าหวังให้ต้วนหลิงเทียนอะไรนั่นประสบความสำเร็จ และเติบโตก้าวหน้าขึ้นมาจนคู่ควรกับลูกสาวมัน…อย่างไรก็ตาม อาศัยเด็กน้อยจากระนาบโลกียะอันต้อยต่ำ ถึงจะมีทองเทพสุดลี้ลับช่วยเหลือ แต่ยังจะมีปัญญาขึ้นมาถึงระนาบเทพได้หรือ?

  

เกรงว่าไม่ทันได้ก้าวหน้าไปไหนไกล ก็ถูกผู้ครอบครองทองเทพสุดลี้ลับคนอื่นฆ่าทิ้งเอากลางทาง…

  

“พี่ใหญ่ มีบางเรื่อง ที่ไม่อาจด่วนสรุป…ลูกเขยท่านคนนี้ ข้าเคยพบเห็นมันแล้ว ต่อให้จะเป็นคนของระนาบโลกียะ แต่เจ้าหนุ่มนั่นก็ไม่ธรรมดาเลย”

  

เซี่ยเจี๋ยกล่าว

  

เดิมทีตอนที่มันมอบโลหะที่เชื่อว่าน่าจะเป็นทองเทพสุดลี้ลับให้ต้วนหลิงเทียนไป มันก็มีความคิดอย่างที่พี่ใหญ่พูดไว้จริงๆ…หวังว่าจะสามารถเปลี่ยนชะตาของชายหนุ่มผู้นั้นได้!

  

เพราะหากอีกฝ่ายได้รับความช่วยเหลือจากทองเทพสุดลี้ลับ เส้นทางการฝึกฝนบ่มเพาะในระนาบเทวโลกย่อมง่ายขึ้น และมีโอกาสเติบโตก้าวหน้าจนมาถึงระนาบเทพได้ในที่สุด

  

แน่นอนว่ากระบวนการดังกล่าว ก็เต็มไปด้วยภยันตรายมากมาย และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกระทำได้

  

สุดท้ายแล้วหากเรื่องทองเทพสุดลี้ลับถูกเปิดเผย ก็ไม่ต่างอะไรจากหายนะถึงตาย

  

“น้อง 3 ข้ารู้ว่าเจ้าหวังดีต่อเสวี่ยเอ๋อ…แต่ถึงกระนั้น ก็มิจำเป็นต้องตั้งความหวังลมๆแล้งๆเช่นนี้”

  

เซี่ยอวี่ส่ายหัวพลางกล่าว “เจ้าหนูจากระนาบโลกียะนั่น ชั่วชีวิตนี้มันยังจะประสบความสำเร็จอันใดได้”

  

“มันถูกลิขิตให้ไม่มีวันโงหัวขึ้นมาเทียบชั้นอันใดงกับชิงเหยียนได้ชั่วกาล…”

  

“ชีวิตของบางคน ก็ถูกลิขิตไว้ตั้งแต่เกิด”

  

“จริงอยู่ที่มิใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนฝืนชะตาฟ้าลิขิต…แต่ตัวตนเช่นนั้นเห็นทีจะมีแค่หนึ่งในพันหมื่นเท่านั้น”

  

ฟังจากคำพูดเซี่ยอวี่แล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เห็นดีเห็นงามอะไรกับ ต้วนหลิงเทียน ที่เป็นชายคนรักของลูกสาวตัวในชีวิตนี้เลย

  

“ท่านจะคิดเช่นไรก็เรื่องของท่าน แต่ข้าเชื่อเจ้าหนูนั่น”

  

เซี่ยเจี๋ยเอ่ยออกเสียงหนัก

  

พูดจบ ในใจเซี่ยเจี๋ยก็ปรากฏร่างชายหนุ่มชุดม่วงขึ้นมาอีกครั้ง และมันยังเต็มไปด้วยความคาดหวังอันแรงกล้า…เพราะชายหนุ่มผู้นั้น ทำให้มันรู้สึกถึงความไม่ธรรมดาจริงๆ

  

หาไม่แล้วมันคงไม่เลือกจะส่งมอบโลหะที่มันเชื่อมาตลอดว่าเป็นทองเทพสุดลี้ลับขั้นแรกออกไปให้อีกฝ่ายแน่นอน

  

ที่มันทำไป เพราะหวังเพิ่มโอกาสให้อีกฝ่ายพลิกชะตาฟ้า

  

กระทั่งวันนั้นเพื่อให้อีกฝ่ายยอมรับของไปง่ายๆ มันยังเลือกจะบอกว่าโลหะที่มันเชื่อมาตลอดว่าเป็นทองเทพสุดลี้ลับเป็นเพียงโลหะประหลาดๆที่มันไม่รู้จัก และมันเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร…

  

จนถึงวันนี้ ต้วนหลิงเทียนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง ก็ยังไม่รู้เลยว่าโดนหลอก

  

เพราะเขาเอง พอย้อนนึกถึงตอนที่ได้ทองเทพสุดลี้ลับในรูปลักษณ์แผ่นโลหะประหลาดมาเมื่อ 700 ปีก่อน เขาก็เข้าใจว่าเซี่ยเจี๋ยไม่รู้จริงๆว่ามันคือทองเทพสุดลี้ลับขั้นที่ 1 อันเป็นหนึ่งในเทพเบญจธาตุทั้ง 5

  

  

“ต้วนหลิงเทียน!”

  

ต้วนหลิงเทียนที่กำลังฝึกฝนบ่มเพาะอยู่ในค่ายพันธมิตรฟ่านเทียน อยู่ๆก็ถูกปลุกด้วยเสียงเรียกหาหนึ่งที่ดังก้องไปทั่วฟ้า

  

แถมเสียงผู้มา ฟังดูก็รู้ว่าไม่ได้มาดี

  

“หืม?”

  

ต้วนหลิงเทียนที่ลืมตาขึ้นมา มุมปากก็เผยรอยยิ้มเย็น “ข้าเผยพลังออกไปแล้ว…แต่ยังมีคนมาหาถึงที่แบบนี้”

  

“ดูเหมือนมันจะมั่นใจในตัวเองมาก…”

  

สองตาต้วนหลิงเทียนทอประกายลี้ลับเรืองขึ้นวาบหนึ่ง จากนั่นร่างเขาก็อันตรธานหายไปจากจุดเดิมทันที

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

War sovereign Soaring The Heavens 3583

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3583 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3583 : ความคาดหวังอันแรงกล้าของเซี่ยเจีย

 

ณ ดินแดนการล่มสลายแห่งทวยเทพ หนึ่งใน 18 ระนาบเทพ

  

ตระกูลเซี่ยนั้นเป็นหนึ่งในตระกูลชั้นนำของดินแดนการล่มสลายแห่งทวยเทพ ถือว่ามีชื่อเสียงโด่งดังไม่น้อยเลยทีเดียว

  

ในเมื่อเป็นถึงตระกูลใหญ่ที่โด่งดัง กฏระเบียบในตระกูลก็ย่อมเข้มงวดเป็นธรรมดา ทำให้ผู้คนในตระกูลไม่ค่อยมีใครขัดคำสั่งของตระกูล

  

ทว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในตระกูลเซี่ยก็ต้องประสบกับความเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากกฏระเบียบครั้งใหญ่ และไม่ใช่ใดอื่น เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลเซี่ยที่เลือกขัดคำสั่งบิดา ที่เป็นผู้นำตระกูลโดยการฆ่าตัวตายหนีการแต่งงาน กลับชาติไปเกิดใหม่ สุดท้ายก็มีสามีและลูกสาวกลับมา…

  

เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างข้อพิพาทมากมายในตระกูลเซี่ย

  

“พวกเจ้าว่า…คุณหนูใหญ่ จะรอดกลับออกจากระนาบสมรภูมิได้หรือไม่?”

  

มุมหนึ่งของตระกูลเซี่ย ปรากฏรุ่นเยาว์ของตระกูลเซี่ยหลายคนล้อมวงสนทนากันหลังฝึกเสร็จ และฟังจากคำพูดของพวกมัน เห็นได้ชัดว่ากำลังถกกันถึงเรื่องของ คุณหนูใหญ่ตระกูลเซี่ย ซึ่งเป็นอดีตความภาคภูมิใจสูงสุดของตระกูลเซี่ย

  

“เรื่องนี้ใครจะกล้ารับประกัน…สุดท้ายระนาบสมรภูมิก็เป็นสนามรบที่ผู้แข็งแกร่งที่สุดสร้างขึ้น นับประสาอะไรกับคุณหนูใหญ่ ต่อให้เป็นยอดฝีมือระดับสูงๆก็เป็นตายเท่ากัน”

  

“ข้าล่ะคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคุณหนูใหญ่ของพวกเราจะใจเด็ดถึงขั้นเข้าสู่ระนาบสมรภูมิแบบนี้…เห็นว่าสาเหตุที่คุณหนูใหญ่เลือกเข้าสู่ระนาบสมรภูมิรอบนี้ ก็ไม่มีอะไรมากกว่าเลือกจะไปเสี่ยงตายดีกว่าแต่งกับผู้แซ่อวิ๋นนั่น”

  

“เรื่องนี้ข้าก็เคยยได้ยินมาเหมือนกัน…และเห็นว่าที่คราวนี้คุณหนูใหญ่ไม่ใช้วิธีสุดโต่งเหมือนชีวิตก่อน เป็นเพราะลูกสาวกับครอบครัวในชีวิตนี้ของนาง”

  

  

ฟังจากบทสนทนาของรุ่นเยาว์ในตระกูลเซี่ยแล้ว เห็นชัดว่าพวกมันเองก็รู้อะไรมาพอสมควร

  

“นาท่าน 3 เองตอนนี้ก็โดนกักบริเวณอยู่ในบ้าน…เห็นว่าพยายามหนีหลายรอบแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ”

  

ทันใดนั้น สมาชิกตระกูลเซี่ยคนหนึ่งก็เปิดประเด็นดังกล่าว

  

“รอบนี้ นายท่าน 3 นับว่าทำให้ผู้นำโมโหแล้วจริงๆ”

  

“จะให้ทำอย่างไรได้ การปล่อยคนจากระนาบโลกียะพวกนั้นไป ก็เท่ากับปลดโซ่ตรวรพันธนาการคุณหนูใหญ่…หากว่าคุณหนูใหญ่รู้เรื่องนี้ล่ะก็ยังจะไม่หนีไปอยู่กับครอบครัวใหม่นั่นหรอกเหรอ ท่านผู้นำไม่โกรธก็แปลก”

  

“ดูเหมือนว่าจะอย่างไรอีก 300 ปีหลังจากนี้ งานแต่งระหว่างตระกูลเซี่ยเรากับตระกูลอวิ๋น มีแนวโน้มจะถูกจัดขึ้นอีกครั้งเหมือนในอดีต”

  

“เฮ่อ ข้าก็ไม่ทราบวว่าท่านผู้นำคิดอะไรอยู่กันแน่…ในเมื่อชีวิตนี้คุณหนูใหญญ่ก็ถึงกับมีลูกสาวแล้วทั้งคน ไฉนยังต้องไปบีบคั้นให้แต่งกับผู้แซ่อวิ๋นนั่นอีก นี่ไม่ใช่เท่ากับผลักคุณหนูใหญ่เข้ากองไฟหรือไร?”

  

“ว่ากันว่านายน้อยยตระกูลอวิ๋นนั่นมันยึดติดกับคุณหนูใหญ่มาก หากมิได้ตบแต่งกับคุณหนูใหญ่เรา ใจมันก็ไม่อาจปล่อยวาง และคงยากที่ชั่วชีวิตนี้จะทะลวงถึงขอบเขตจักรพรรดิเทพได้!”

  

  

หลังจากที่ปล่อยพวกลี่เฟย ต้วนหรูเฟิง ลี่หลัว และคนอื่นๆไป นายท่าน 3 แห่งตระกูลเซี่ย เซี่ยเจี๋ย ก็ได้ถูกผู้นำตระกูลเซี่ย เซี่ยอวี่ กักบริเวณเอาไว้ เพื่อกันไม่ให้อีกฝ่ายนำเรื่องนี้ไปบอกลูกสาวของตัวอย่างเซี่ยหนิงเสวี่ย…

  

เซี่ยอวี่ย่อมรู้นิสัยของลูกสาวของมันดี หากอีกฝ่ายล่วงรู้เรื่องที่ทุกคนถูกปล่อยตัวไปแล้ว เกรงว่าคงไม่คิดกลับมายังตระกูลเซี่ยอีก

  

มันย่อมไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น

  

“น้อง 3 คราวนี้เจ้าทำเกินไปแล้ว”

  

ทุกครั้งที่เซี่ยอวี่มาหาเซี่ยเจี๋ย และเห็นอีกฝ่ายแต่งตัวมอซอแลดูเหมือนคนไร้บ้าน คิ้วมันก็ขดย่นเป็นปมทุกครั้ง

  

ขณะที่มองเซี่ยเจี๋ย เซี่ยอวี่ก็เอาแต่ส่ายหน้าไม่หยุด

  

“ข้าทำเกินไป? พี่ใหญ่…เรื่องทำเกินไปข้าคงไม่เท่าท่านกระมัง?”

  

เซี่ยเจี๋ยเหลือบมองพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย

  

“น้อง 3 อย่าได้ฟื้นฝอยหาตะเข็บ”

  

เซี่ยอวี่ย่นคิ้วกล่าว “จะอย่างไรเรื่องที่เจ้าทำไป พวกเราก็ต้องมีคำอธิบายให้อวิ๋นชิงเหยียน เจ้าก็รู้ดีว่าเพราะอวิ๋นชิงเหยียนไว้ใจพวกเรามันเลยฝากคนไว้ที่ตระกูลเซี่ยเรา แต่ในเมื่อตอนนี้ทุกคนถูกเจ้าปล่อยไปหมดสิ้น จะให้ข้าไปพูดกับมันอย่างไร…”

  

“คนก็ปล่อยไปแล้ว…ท่านจะให้ข้าทำอย่างไรได้อีกเล่า?”

  

เซี่ยเจี๋ยหันมองมองเซี่ยอวี่ ค่อยกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์

  

“น้อง 3…เจ้าเป็นคนฉลาดยังต้องให้ข้าพูดอีกหรือไร?”

  

สีหน้าเซี่ยอวี่เริ่มเปลี่ยนเป็นจริงจัง จากนั้นก็มองกล่าวกับเซี่ยเจี๋ยเสีงหนัก “ข้ารู้ว่าเจ้ายังเก็บโลหะประหลาดที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นทองเทพสุดลี้ลับขั้นแรกเอาไว้…พอดีด้านตระกูลอวิ๋นก็พึ่งได้ทองเทพสุดลี้ลับขั้นแรกมา”

  

“เช่นนั้นเจ้าก็มอบโลหะนั่นให้ข้าเถอะ หากมันเป็นทองเทพสุดลี้ลับขั้นแรกจริงๆ หากมอบให้ตระกูลอวิ๋นไป มันก็สามารถรวมกับอีกชิ้นที่ตระกูลอวิ๋นมี แล้วพัฒนาไปเป็นทองเทพสุดลี้ลับขั้นที่ 2 ได้ …”

  

“น้อง 3 ครั้งนี้เจ้าต้องฟังข้า”

  

กล่าวถึงประโยคท้าย น้ำเสียงของเซี่ยอวี่ก็แฝงการเตือนเอาไว้

  

อย่างไรก็ตาม พอได้ยินคำพูดของเซี่ยอวี่ เซี่ยเจี๋ยก็ผงะไปเล็กน้อย ค่อยระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ หัวเราะจนทำให้เซี่ยอวี่ต้องขมวดคิ้วกล่าวถาม “เจ้าหัวเราะอะไร? จนถึงตอนนี้แล้วเจ้ายังมีหน้ามาหัวเราะอีกรึ?”

  

“พี่ใหญ่ โลหะประหลาดที่อาจจะเป็นทองเทพสุดลี้ลับนั่น ตั้งแต่เมื่อ 700 ปีก่อน มันก็ไม่ได้อยู่กับข้าแล้ว”

  

เซี่ยเจี๋ยส่ายหัวพลางกล่าว

  

“นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร?”

  

เซี่ยอวี่ชักสีหน้าไม่เชื่อ “โลหะประหลาดนั่น กระทั่งข้าจะยืมมันไปตรวจสอบดูหน่อย เจ้าก็ยึกยักตลอด…มิใช่เจ้าหวงมันมากหรือไร ไฉนตอนนี้มันจะไม่อยู่กับเจ้าได้?”

  

“ถูกของท่านพี่ใหญ่ ข้าหวงมันมากจริงๆ…”

  

เซี่ยเจี๋ยพยักหน้า “เพราะข้าเชื่อมาตลอด…ว่ามันคือทองเทพสุดลี้ลับขั้นแรก! หากมันได้ผสานกับทองเทพสุดลี้ลับขั้นแรกชิ้นอื่น ไม่พ้นต้องเริ่มต้นหนทางแห่งการวิวัฒน์แน่…”

  

“และหากมันสามารถวิวัฒน์พัฒนาไปได้จนสุดทาง…อย่าว่าแต่เทพเลย ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดก็ยังอยากช่วงชิงไปให้คนของตัว…”

  

กล่าวถึงจุดนี้ เซี่ยเจี๋ยก็หยุดลงเล็กน้อย จากนั้นแววตาก็เริ่มฉายความอ่อนโยนออกมา “เพียงแต่เมื่อ 700 ปีก่อน ข้าได้มอบมันให้กับคนๆหนึ่งไปแล้ว…”

  

“ผู้ใด?”

  

เซี่ยอวี่มองจ้องเซี่ยเจี๋ยด้วยสายตาราวฟ้าผ่า เอ่ยถามเสียงต่ำ มันย่อมอยากรู้ไม่น้อยว่าเซี่ยเจี๋ยมอบโลหะที่น่าจะเป็นทองเทพสุดลี้ลับขั้นแรกให้ใครไปกันแน่

  

“มิใช่คนของระนาบเทพ และยังมิใช่แม้แต่คนของระนาบเทวโลก…”

  

เซี่ยเจี๋ยส่ายหัวไปมาพลางยิ้ม “คนฉลาดเช่นพี่ใหญ่ คงพอจะเดาได้แล้วกระมังว่าข้ามอบไปให้ผู้ใด…”

  

“ไม่ใช่คนของระนาบเทพ รวมถึงระนาบเทวโลก?”

  

ได้ยินคำตอบของเซี่ยเจี๋ย เซี่ยอวี่ก็ย่นคิ้วนึกอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป น้ำเสียงยังแข็งขึ้นที “เจ้ามิใช่ว่า…มอบโลหะที่น่าจะเป็นทองเทพสุดลี้ลับนั่นให้กับต้วนหลิงเทียนผู้นั้นหรอกนะ?”

  

ถึงแม้เซี่ยอวี่จะไม่เคยพบเจอชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของลูกสาวของตัวเองในชีวิตนี้ แต่มันย่อมรู้ดีว่าอีกฝ่ายชื่ออะไร

  

กระทั่งมันยังรู้อีกด้วยว่าน้อง 3 ของตัวเอง ถึงกับลงไปยังระนาบโลกียะด้วยตัวเอง ด้วยกลัวว่าอวิ๋นชิงเหยียนจะส่งคนไปฆ่าอีกฝ่าย

  

พอมันได้ยินน้องชายพูดมาแบบนี้ มันก็เดาได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

  

เพราะมีแค่คนๆนั้นคนเดียว ที่น้อง 3 ของมันจะมอบโลหะที่คาดว่าจะเป็นทองเทพสุดลี้ลับให้ได้…

  

“โอ้! พี่ใหญ่ของข้าฉลาดเฉลียวยิ่ง ข้าไม่แปลกใจเลยว่าไฉนท่านพ่อ ถึงได้กำหนดให้ท่านเป็นผู้นำตระกูลเซี่ยคนต่อไปในตอนนั้น”

  

เซี่ยเจี๋ยยกนิ้วโป้งให้เซี่ยอวี่

  

“ไม่ต้องทำมาเป็นยกยอข้า!”

  

เซี่ยอวี่โพล่งคำออกมาอย่างหัวเสีย “เจ้าถึงกับมอบโลหะที่อาจจะเป็นทองเทพสุดลี้ลับขั้นแรกให้กับต้วนหลิงเทียนนั่น คงมิได้หวังปูทางให้มันเติบโตก้าวหน้ากระมัง?”

  

“ก็แค่…เด็กน้อยจากระนาบโลกียะต้อยต่ำเทียบไม่ได้แม้แต่คนของระนาบเทวโลก คิดว่ามอบทองเทพสุดลี้ลับให้มันไป แล้วจะช่วยอะไรมันได้เช่นนั้นรึ?”

  

“ข้าว่า ต่อให้โลหะนั่นจักเป็นทองเทพสุดลี้ลับจริง และมีโอกาสพัฒนาก่อเกิดสำนึกสติ ก็เกรงว่าจะทิ้งมันแล้วไปหาร่างต้นคนใหม่!”

  

“น้อง 3 ครั้งนี้เจ้าเลอะเลือนใหญ่แล้ว…มอบโลหะชิ้นนั้นให้มัน ยังต่างอะไรกับทิ้งหยกลงทะเล ให้คลื่นซัดให้ตายก็มิวันมาเกยฝั่ง!”

  

กล่าวถึงประโยคท้าย เซี่ยอวี่ก็ได้แต่ส่ายหัวไปมาไม่หยุด ด้วยคิดว่าน้อง 3 ของมันได้ทำเรื่องเหลวไหลไปแล้วจริงๆ

  

เป็นธรรมดาว่า น้อง 3 มันคิดอ่านอะไรอยู่ มันย่อมเดาได้ไม่ยาก

  

ไม่มีอะไรมากไปกว่าหวังให้ต้วนหลิงเทียนอะไรนั่นประสบความสำเร็จ และเติบโตก้าวหน้าขึ้นมาจนคู่ควรกับลูกสาวมัน…อย่างไรก็ตาม อาศัยเด็กน้อยจากระนาบโลกียะอันต้อยต่ำ ถึงจะมีทองเทพสุดลี้ลับช่วยเหลือ แต่ยังจะมีปัญญาขึ้นมาถึงระนาบเทพได้หรือ?

  

เกรงว่าไม่ทันได้ก้าวหน้าไปไหนไกล ก็ถูกผู้ครอบครองทองเทพสุดลี้ลับคนอื่นฆ่าทิ้งเอากลางทาง…

  

“พี่ใหญ่ มีบางเรื่อง ที่ไม่อาจด่วนสรุป…ลูกเขยท่านคนนี้ ข้าเคยพบเห็นมันแล้ว ต่อให้จะเป็นคนของระนาบโลกียะ แต่เจ้าหนุ่มนั่นก็ไม่ธรรมดาเลย”

  

เซี่ยเจี๋ยกล่าว

  

เดิมทีตอนที่มันมอบโลหะที่เชื่อว่าน่าจะเป็นทองเทพสุดลี้ลับให้ต้วนหลิงเทียนไป มันก็มีความคิดอย่างที่พี่ใหญ่พูดไว้จริงๆ…หวังว่าจะสามารถเปลี่ยนชะตาของชายหนุ่มผู้นั้นได้!

  

เพราะหากอีกฝ่ายได้รับความช่วยเหลือจากทองเทพสุดลี้ลับ เส้นทางการฝึกฝนบ่มเพาะในระนาบเทวโลกย่อมง่ายขึ้น และมีโอกาสเติบโตก้าวหน้าจนมาถึงระนาบเทพได้ในที่สุด

  

แน่นอนว่ากระบวนการดังกล่าว ก็เต็มไปด้วยภยันตรายมากมาย และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกระทำได้

  

สุดท้ายแล้วหากเรื่องทองเทพสุดลี้ลับถูกเปิดเผย ก็ไม่ต่างอะไรจากหายนะถึงตาย

  

“น้อง 3 ข้ารู้ว่าเจ้าหวังดีต่อเสวี่ยเอ๋อ…แต่ถึงกระนั้น ก็มิจำเป็นต้องตั้งความหวังลมๆแล้งๆเช่นนี้”

  

เซี่ยอวี่ส่ายหัวพลางกล่าว “เจ้าหนูจากระนาบโลกียะนั่น ชั่วชีวิตนี้มันยังจะประสบความสำเร็จอันใดได้”

  

“มันถูกลิขิตให้ไม่มีวันโงหัวขึ้นมาเทียบชั้นอันใดงกับชิงเหยียนได้ชั่วกาล…”

  

“ชีวิตของบางคน ก็ถูกลิขิตไว้ตั้งแต่เกิด”

  

“จริงอยู่ที่มิใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนฝืนชะตาฟ้าลิขิต…แต่ตัวตนเช่นนั้นเห็นทีจะมีแค่หนึ่งในพันหมื่นเท่านั้น”

  

ฟังจากคำพูดเซี่ยอวี่แล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เห็นดีเห็นงามอะไรกับ ต้วนหลิงเทียน ที่เป็นชายคนรักของลูกสาวตัวในชีวิตนี้เลย

  

“ท่านจะคิดเช่นไรก็เรื่องของท่าน แต่ข้าเชื่อเจ้าหนูนั่น”

  

เซี่ยเจี๋ยเอ่ยออกเสียงหนัก

  

พูดจบ ในใจเซี่ยเจี๋ยก็ปรากฏร่างชายหนุ่มชุดม่วงขึ้นมาอีกครั้ง และมันยังเต็มไปด้วยความคาดหวังอันแรงกล้า…เพราะชายหนุ่มผู้นั้น ทำให้มันรู้สึกถึงความไม่ธรรมดาจริงๆ

  

หาไม่แล้วมันคงไม่เลือกจะส่งมอบโลหะที่มันเชื่อมาตลอดว่าเป็นทองเทพสุดลี้ลับขั้นแรกออกไปให้อีกฝ่ายแน่นอน

  

ที่มันทำไป เพราะหวังเพิ่มโอกาสให้อีกฝ่ายพลิกชะตาฟ้า

  

กระทั่งวันนั้นเพื่อให้อีกฝ่ายยอมรับของไปง่ายๆ มันยังเลือกจะบอกว่าโลหะที่มันเชื่อมาตลอดว่าเป็นทองเทพสุดลี้ลับเป็นเพียงโลหะประหลาดๆที่มันไม่รู้จัก และมันเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร…

  

จนถึงวันนี้ ต้วนหลิงเทียนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง ก็ยังไม่รู้เลยว่าโดนหลอก

  

เพราะเขาเอง พอย้อนนึกถึงตอนที่ได้ทองเทพสุดลี้ลับในรูปลักษณ์แผ่นโลหะประหลาดมาเมื่อ 700 ปีก่อน เขาก็เข้าใจว่าเซี่ยเจี๋ยไม่รู้จริงๆว่ามันคือทองเทพสุดลี้ลับขั้นที่ 1 อันเป็นหนึ่งในเทพเบญจธาตุทั้ง 5

  

  

“ต้วนหลิงเทียน!”

  

ต้วนหลิงเทียนที่กำลังฝึกฝนบ่มเพาะอยู่ในค่ายพันธมิตรฟ่านเทียน อยู่ๆก็ถูกปลุกด้วยเสียงเรียกหาหนึ่งที่ดังก้องไปทั่วฟ้า

  

แถมเสียงผู้มา ฟังดูก็รู้ว่าไม่ได้มาดี

  

“หืม?”

  

ต้วนหลิงเทียนที่ลืมตาขึ้นมา มุมปากก็เผยรอยยิ้มเย็น “ข้าเผยพลังออกไปแล้ว…แต่ยังมีคนมาหาถึงที่แบบนี้”

  

“ดูเหมือนมันจะมั่นใจในตัวเองมาก…”

  

สองตาต้วนหลิงเทียนทอประกายลี้ลับเรืองขึ้นวาบหนึ่ง จากนั่นร่างเขาก็อันตรธานหายไปจากจุดเดิมทันที

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

War sovereign Soaring The Heavens 3583

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3583 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+