War sovereign Soaring The Heavens 3621

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3621 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

WSSTH ตอนที่ 3621 : นาย 4 ตระกูลจัง   หานลี่กัง อาวุโสลําดับ 2 ของนิกายหมื่นปีศาจไม่กล้าแย้งคําปรามาสดังกล่าว ผู้คนในโรงประมูลก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะสุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันจริงๆ   เพราะถึงแม้หานลี่กังจะเป็นราชาเทพขั้นสูงคนหนึ่ง ทั้งยังแข็งแกร่งกว่าราชาเทพขั้นสูงทั่วไป ทว่าต่อหน้ายอดฝีมือมากประสบการณ์อย่างมู่หรงสุยเฟิง ที่อาจจะบรรลุถึงขอบเขตจอมราชั้นเทพแล้ว มันก็ไม่อาจเปรียบเทียบได้   แต่กระนั้น การปรากฏตัวของคนจากนิกายหมื่นปีศาจ ก็ทําให้หลายๆคนในโรงประมูลประหลาดใจ “นิกายหมื่นปีศาจมักขัดแย้งกับนิกายหมอกเร้นลับอยู่เสมอ แต่คราวนี้คนของพวกมันกล้ามาเหยียบเมืองวายุสวรรค์ของพวกเราเชียวหรือ?”   “นั่นส์ เมืองวายุสวรรค์ของพวกเรา ก็ถือเป็นเมืองของนิกายหมอกเร้นลับกลายๆ…คนของนิกายหมื่นปีศาจกล้าเข้ามาเช่นนี้มันไม่กลัวถูกล้อมสังหารหรือไร?”   “ก็ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก…ถึงแม้นิกายหมอกเร้นลับจักมีความขัดแย้งกับนิกายหมื่นปีศาจ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นกลุ่มรุมสังหารคนของนิกายหมื่นปีศาจต่อหน้าผู้คนอย่างโจ่งแจ้งหรอก…”   “จะอย่างไรก็ช่าง ลองคนของนิกายหมื่นปีศาจมาด้วยแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกมันเองก็สนใจเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับจอมราชันเทพอย่าง เคล็ดเทพ 6 เงา ไม่น้อย…   ความขัดแย้งระหว่างอาวุโสล่าดับ 2 ของนิกายหมื่นปีศาจ หานลี่กังกับคณบดีสถานศึกษาหมอกเร้นลับ มู่หรงสุยเฟิง นับเป็นฉากเล็กๆในงานประมูลตระกูลโจวเท่านั้น   หลังจากที่ของประมูลชิ้นแรกถูกนําขึ้นเวที ความสนใจของผู้คนในโรงประมูลก็ถูกดึงดูดไปทันที   “แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน นี่เป็นรายการประมูลชิ้นแรกในงานประมูลที่ตระกูลโจวเราจัดขึ้นวันนี้…”   เมื่อโจวอวนที่นอู่บนเวทีประมูลกล่าวออกมา ทุกสายตาก็จับจ้องมองไปที่นางทันที   หลังจากนั้น ท่ามกลางสายตาชมมองของผู้คน โจวอวัน ก็สะบัดมือเรียกขวดโอสถเทพออกมาจากแหวน พื้นที่ของนางยิ้มกล่าวออกมาเสียงดังว่า “ในขวดโอสถขวดนี้ มีเม็ดยาเทพอยู่ด้วยกัน 3 เม็ดยา ได้แก่ เม็ดยา เทพเจีย เม็ดยาเทพและเม็ดยาเทพนิ่ง!”   “อย่างที่พวกท่านทราบกันดี ว่าเม็ดยาเทพทั้ง 3 นั้นหากแยกกันก็มิได้มีผลเลิศล้ําอันใดมากมายนัก และช่วยส่งเสริมการบ่มเพาะให้ราชาเทพได้ไม่แตกต่างอะไรจากโอสถเทพขนานอื่น…อย่างไรก็ตามหากรับประทานพวกมันด้วยกัน ก็สามารถก่อให้เกิดผลลัพธ์อัศจรรย์ยิ่ง!”   “ร่ําลือกันว่า ยิ่งผู้ที่ใช้มันมีเคล็ดวิชาบ่มเพาะสูงส่งเท่าใด ประสิทธิผลจากโอสถเทพชุดนี้ก็จักยิ่งให้ผลเลิศล้ํามากขึ้นเท่านั้น…อย่างเช่นอัจฉริยะของขุมกําลังระดับจักรพรรดิเทพคนหนึ่ง หากบ่มเพาะพลังด้วยเคล็ดวิชาระดับจักรพรรดิเทพล่ะก็ แม้จักพึ่งบรรลุถึงขอบเขตเทพขั้นต่ําได้ไม่นาน แต่เมื่อใช้โอสถเทพ 3 เม็ดยาชุดหนึ่ง ก็จักทะลวงถึงเทพขั้นกลางในคราวเดียว!”   “และหากบ่มเพาะพังด้วยเคล็ดวิชาระดับอริยะเทพในตํานาน…เห็นว่าต่อให้เป็นเทพขั้นต่ํา ไม่แน่ก็สามารถทะลวงถึงขอบเขตเทพขั้นสูงได้ในคราวเดียว!”   “แต่ถึงแม้จักมิได้บ่มเพาะพังด้วยเคล็ดวิชาระดับจักรพรรดิเทพหรืออริยะเทพ…ตัวตนในขอบเขตเทพยามใช้ มันก็จะช่วยส่งเสริมพลังฝึกปรือได้ไม่น้อยอยู่ดี”   “โอสถเทพ เจี้ยง นี้ท่านแขกผู้มีเกียรติจักใช้เองก็ดี จักประมูลไปให้รุ่นเยาว์ในขุมกําลังก็ดี…สิ่งนี้ มีแตกต่างจากของขวัญจากฟ้า!”   โจวอชิ้นกล่าวแนะนําของที่นําขึ้นประมูลเป็นรายการแรกอย่างฉะฉาน และวาจาไม่กี่คําของนาง ก็ทําให้บรรยากาศในโถงประมูลเริ่มคึกคักขึ้นมาทันที โดยเฉพาะเหล่าผู้ที่ยังรั้งอู่ในขอบเขตเทพทั้งหลายล้วนตาลุกวาวกันทั้งนั้น   “โอสถเทพเจียอง ทั้ง 3 เม็ดยามว่าจักเป็นโอสถเทพชนิดใดโอกาสหลอมปรุงสําเร็จก็มิได้สูงนัก…มิใช เรื่องราวอันง่ายดายเยที่จักรวบรวมพวกมันได้ครบชุด 3 เม็ดในเวลาเดียวกัน เกรงว่านอกจากขุมกําลังระดับจอมราชันเทพแล้ว ให้เป็นขุมกําลังระดับราชาเทพที่แข็งแกร่งแค่ไหน ก็ยังยากจะรวบรวมพวกมันได้ครบทั้ง 3 เม็ดใน วลาเดียวกัน   “บัดนี้โอกาสประเสริฐอยู่เบื้องหน้าทุกท่านแล้ว…โอสถเทพ เจียอี้ปิ้ง ทั้ง 3 เม็ดในขวดนี้ มีราคาเปิดประมูล เพียงแค่หินเทพ 3,000 ตําลึงเท่านั้น!”   “ทุกครั้งที่เพิ่มราคาประมูล…ต้องเพิ่มหินเทพมิน้อยกว่า 1,000 ตําลึง!”   ในขณะที่ผู้คนมากมายกําลังตาลุกวาวและคิดจะเคลื่อนไหว โจวอน พิธีกรบนเวทีประมูลก็เริ่มประกาศราคาเริ่มต้นของโอสถเทพเลี้ยงออกมา ท่ามกลางความคาดหวังของผู้คนที่มาเข้าร่วมงานประมูลตระกูลโจว   “หินเทพ 3,000 ตําลึง!”   และแทบจะพร้อมๆกันกับที่โจวอชิ้นกล่าวจบคํา ก็มีผู้คนในโถงรวมโพล่งราคาออกมาเสียงดังฟังชัด ผลักดันบรรยากาศในโรงประมูลให้พุ่งสูงขึ้นทันใด   “หินเทพ 4,000 ตําลึง!”   ไม่ทันที่โจวอนจะขานราคาซ้ํา ก็มีอีกเสียงที่โพล่งดังขึ้น   และคาวนี้หลังเงียบไปหนึ่งลมหายใจ ก็มีเสียงเพิ่มราคาดังขึ้นจากมุมหนึ่งของโถงรวม “หินเทพ 5,000 ตําลึง เด็กน้อยหลบไปเสีย!!”   หินเทพ 5,000 ตําลึง!   ราคาดังกล่าว อันที่จริงแล้วก็แทบจะเป็นราคากลางของโอสถเทพเจ๋ยองทั้ง 3 เม็ดรวมกันในสถานการณ์ปกติ   ท้ายที่สุดแล้วหากคนทั่วไปรับประทานโอสถเทพชุดนี้ แม้จะเป็นเพียงเทพขั้นต่ํา แต่ด่านพลังก็ไม่แน่ว่าจะทะลวงขั้น เพียงแค่มีความก้าวหน้าขึ้นเท่านั้น…เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับจักรพรรดิเทพหรืออริยะเทพให้ฝึกปรือ   “แขกท่านนี้เสนอราคาหินเทพ 5,000 ตําลึง ไม่ทราบมีผู้ใดคิดเพิ่มราคาหรือไม่?”   โจวอชิ้นที่ยืนบนเวทีประมูลเอ่ยถามเสียงดัง   “ไม่มีแขกท่านใดเสนอราคาแล้วหรือ?”   “เช่นนั้น หินเทพ 5,000 ตําลึงครั้งที่ 1!”   โจวอนเริ่มทําการนับถอยหลังทันที และหากนับถึง 3 แล้วถ้าไม่มีผู้ใดเสนอราคาประมูลเพิ่มอีก เช่นนั้น โอสถเทพเจียอี้ปิงก็จะถูกขายให้แก่ผู้ที่เสนอราคาหินเทพ 5,000 ตําลึงทันที   “ผู้คนในห้องส่วนตัว ไม่มีใครสนใจหรือ?”   หลายคนในโถงรวมเริ่มหันไปแหงนมองหน้าต่างห้องส่วนตัวทั้งหลาย   “หินเทพ 6,000 ตําลึง”   ท่ามกลางสายตาคาดหวังของผู้คนที่หันไปแหงนมอง พลันมีเสียงหนึ่งดังจากห้องส่วนตัว น้ําเสียงยังแหลมเล็กน้อย   ได้ยินเสียงดังกล่าว หลายคนในโถงประมูลรวมก็จดจ่าเจ้าของเสียงได้ทันที “เสียงนี้มัน…มิใช่นายท่าน 4 แห่งตระกูลจังหรือไร?”   “เป็นเสียงนายท่าน 4 แห่งตระกูลจังจริงๆ!   ตระกูลจัง ก็เป็นตระกูลระดับราชาเทพตระกูลหนึ่งในเมืองวายุสวรรค์ และชื่อเสียงก็พอๆกับตระกูลโจว   และที่ไฉนมีผู้คนมากมายจดจําได้ว่าเป็นเสียงของนายท่าน 4 ตระกูลจังนั้น เพราะอีกฝ่ายรับหน้าที่ดูแลเหลาอาหารแห่งเด้วของตระกูลจัง ทําให้ผู้ที่เคยแวะเวียนผ่านไปลิ้มลองอาหารเลิศรสของเหลาอาหารตระกูลจัง มักคุ้นเคยกับเสียงของมันดี   “ดูเหมือนสหายหลาท่านจักจดจําเสียงของข้านายท่าน 4 ตระกูลจังผู้นี้ได้…ข้ารู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก และคงประเสริฐยิ่งหากทุกท่านไว้หน้าข้า วางมือจากโอสถเทพเจียอียิ่ง เพื่อให้ข้านําไปเป็นของขวัญให้ลูกชายคนเล็กของข้า!”   เมื่อมีหลายๆคนจดจําเสียงของนาย 4 ตระกูลจังได้ เจ้าตัวก็ส่งเสียงออกมาจากห้องส่วนตัวอีกครั้ง   อย่างไรก็ตาม ด้วยคําพูดดักคอผู้อื่นดังกล่าวของมัน ทําให้โจวอวิ่นที่อยู่บนเวทีประมูลขมวดคิ้วทันที “นาย 4 สกุลจัง เจ้าคิดท้าทายอํานาจตระกูลโจวเราหรือไร เจ้ากล่าวเช่นนั้นมิใช่คิดกดดันผู้อื่นไม่ให้เสนอราคาประมูลโต้งๆ นี้ขัดต่อกฎการประมูลของโรงประมูลตระกูลโจวเรา!”   “หรือ…เจ้าอยากให้ทุกครั้งที่โรงประมูลตระกูลจังเจ้าจัดงาน ให้พวกเราไปกล่าวเช่นนี้บ้างหรือไม่?”   เป็นธรรมดาที่โจวอนไม่พอใจกับค่าพูดดังกล่าวของนาย 4 ตระกูลจัง เพราะเมื่อมันพูดแบบนี้ออกมา คนที่กล้าเสนอราคาต่อก็ถือว่าไม่ไว้หน้ามัน เช่นนั้นก็อาจเป็นการล่วงเกินตระกูลจังได้   ต้องทราบว่าแขกที่เข้าร่วมการประมูล ก็ใช่ว่าจะมีฐานะและอํานาจมากพอจะงัดกับตระกูลจังได้ทุกคน   ทว่าถึงจะเป็นคนทั่วไป ก็ไม่ขาดผู้ที่มีกําลังซื้อโอสถเทพเจียอี้ป่ง   แต่ผู้ที่มีกาลังซื้อเหล่านั้น เป็นธรรมดาวว่าไม่กล้าล่วงเกินตระกูลจัง!   อยู่ๆมาโพล่งให้ผู้อื่นไว้หน้ากลางงานประมูล ยังจะมีใครอยากแข่งประมูลอีก น่าอึดอัดไหมเล่า?   และไม่ต้องพูดถึงตระกูลจังทั้งตระกูล เอาแต่ตัวนาย 4 ตระกูลจังเองก็เป็นเทพขั้นสูง ที่เขียนบรรลุถึงราชาเทพเต็มที่ คนทั่วไปที่คิดประมูลโอสถเทพเจียอี้ปิง ก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สู้มันได้   “ฮ่าๆๆๆ…!”   นาย 4 ตระกูลจังหัวเราะ “อาวุโสโจวอนอย่าได้มีโทสะ ข้ามิได้ตั้งใจจะฝ่าฝืนกฏการประมูลของตระกูลโจว ท่าน…พอดีมีสหายไม่น้อยจดจําข้า นาย 4 ตระกูลจังได้ ข้าก็เลยแปลกใจจึงกล่าวคําออกไปโดยไม่รู้ตัว”   พอกล่าวชี้แจงจบ นา 4 ตระกูลจังก็โพล่งออกมาเสียงดังสืบต่อ “สหายทุกท่าน ข้านาย 4 ตระกูลจังเพียงกล่าวไปโดยไม่ตั้งใจ…หากสหายท่านใดยังต้องการโอสถเทพทั้ง 3 เม็ด ก็สามารถเพิ่มราคาประมูลได้ ข้านาย 4 ตระกูลจังยินดีแข่งขันอย่างเป็นธรรม”   อย่างไรก็ตามเสียงโพล่งของนาย 4 ตระกูลจังนั้นกลับเยียบเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด มีอํานาจขู่ขวัญผู้คนอยู่บ้าง   ขอเพียงผู้ฟังไม่ได้มีปัญหากับการได้ยิน ย่อมได้ยินถึงการคุกคามชัดเจน   พอนาย 4 ตระกูลจังกล่าวจบ มันก็ถามโจวอนด้วยน้ําเสียงยิ้มแย้ม “เช่นนี้อาวุโสโจวอชิ้นพอใจแล้วหรือไม่?”   “เจ้า…”   ในขณะที่สีหน้าโจวอชิ้นเปลี่ยนไป และดวงตาของนายเริ่มฉายแววเยียบเย็น พลันมีเสียงอ่อเยาว์ หากแต่เต็มไปด้วยพลังหนึ่งดังขึ้นจากห้องส่วนตัวห้องอื่น “หินเทพ 7,000 ตําลึง”   พอเสียงดังกล่าวดังขึ้นมา ชายวัยกลางคนในห้องส่วนตัวหมายเลข 6 ที่กําลังกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ รอยยิ้มบนใบหน้ามันก็ชะงักค้างไปทันใด…ยังทุบโต๊ะเบื้องหน้าดัง ปัง กล่าวสบถอย่างหัวเสียว่า “มารดามันเถอะ…ตัวบัดซบที่ไหน จึงไม่ไว้หน้าข้า!?”   เป็นธรรมดาว่าเสียงสบถของนาย 4 ตระกูลจังไม่ได้ดังอะไรมากมาย เพียงได้ยินกันแต่ในห้องส่วนตัวของมัน   เท่านั้น   แต่อย่างไรก็ตาม เสียงทุบโต๊ะดัง ปัง ของมันนั้น กลับดังสนั่นเข้าหูทุกคนในโถงประมูลชัดเจน   “นายท่าน 4 เสียงเมื่อครู่ดังออกมาจากห้องส่วนตัวหมายเลข 9″   ด้านหลังนาย 4 ตระกูลจัง ชายชราคนหนึ่งพลันก้าวออกมา 2 ก้าว กล่าวค่าขณะมองไปยังห้องส่วนตัวด้านนอก   “ห้องส่วนตัวหมายเลข 9?”   สองตานาย 4 ตระกูลจังฉายแววเย็นชาเรืองวูบ “ห้องหมายเลข 9 นั้น…มิใช่คนของขุมกําลังระดับจอมราชันเทพกระมัง?”   “มิใช่ ขุมกําลังระดับจอมราชั้นเทพอยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 1-5”   ชายชรากล่าวออกอีกครั้ง   “ประเสริฐ! ประเสริฐนัก…กล้าดีอย่างไรถึงได้คิดแข่งกับข้า!”   ยิ่งมาประกายในดวงตาของนาย 4 ตระกูลจังก็ยิ่งเยียบเย็น สุดท้ายหลังนิ่งไปครู่หนึ่ง มันก็โพล่งออกมาอีก ครั้ง “หินเทพ 8,000 ตําลึง”   คราวนี้ถึงแม้นาย 4 ตระกูลจังจะไม่ได้กล่าวอะไรมากความ แต่น้ําเสียงเพิ่มราคาประมูลของมันก็เย็นชาปานจะแช่แข็งผู้คน พาลให้ผู้คนในโถงรวมที่ได้ยยินรู้สึกเสมือนร่วงตกลงไปในหลุ่มน้ําแข็ง   “ดูเหมือนนายท่าน 4 จะมีโมโหแล้วจริงๆ”   “ไม่ทราบผู้ที่อยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 เป็นผู้ใดกันแน่…แม้วันนี้นายท่าน 4 แซ่จังจะได้โอสถเทพเจียอียิ่งไป แต่ทว่าต้องจ่ายหินเทพ 8,000 ตําลึงเช่นนี้ ข้าเกรงว่าคงไม่คิดปล่อยมันไปง่ายๆแน่!”   “ไม่รู้จริงๆว่ามันคิดอะไรอยู่ รู้ทั้งรู้ว่านั่นเป็นนาย 4 ตระกูลจัง แต่มันยังกล้าเพิ่มราคาอีก”   ผู้คนในโถงรวมเริ่มซุบซิบคุยกันอย่างออกรส   ในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าผู้ที่อยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 สมควรรู้แล้วว่าอะไรควรไม่ควรและเล็กเพิ่มราคา อย่างไรก็ตามผลที่ตามมาจากการเพิ่มราคาเมื่อครู่ก็ทําให้นาย 4 ตระกูลจังหัวเสียไม่น้อย และมีแนวโน้มว่าหากยังกล้เพิ่มราคาอีกครั้ง นาย 4 ตระกูลจังก็ไม่บ้าจี้เพิ่มราคาตามแล้ว   หินเทพ 8,000 ตําลึง!   สําหรับโอสถเทพทั้ง 3 เม็ด นับว่าแพงหูฉี!   ไม่แพงธรรมดา แต่แพงโคตร!   และในขณะที่ทุกคนหันไปมองห้องส่วนตัวหมายเลข 9 ก็บังเกิดเสียงดังออกมาจากห้องส่วนตัวหมายเลข 9 อีกครั้ง “หินเทพ 10,000 ตําลึง”   ต้วนหลิงเทียนที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 มองผ่านหน้าต่างไปยังขวดโอสถในมือโจวอนบนเวทีประมูลด้วยความสนใจ กล่าวเสนอราคาออกมาด้วยน้ําเสียงเฉยเมย ไม่ได้แยแสภัยคุกคามในน้ําเสียงของนาย 4 ตระกูลจังเลย  

WSSTH ตอนที่ 3621 : นาย 4 ตระกูลจัง

 

หานลี่กัง อาวุโสลําดับ 2 ของนิกายหมื่นปีศาจไม่กล้าแย้งคําปรามาสดังกล่าว ผู้คนในโรงประมูลก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะสุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันจริงๆ

 

เพราะถึงแม้หานลี่กังจะเป็นราชาเทพขั้นสูงคนหนึ่ง ทั้งยังแข็งแกร่งกว่าราชาเทพขั้นสูงทั่วไป ทว่าต่อหน้ายอดฝีมือมากประสบการณ์อย่างมู่หรงสุยเฟิง ที่อาจจะบรรลุถึงขอบเขตจอมราชั้นเทพแล้ว มันก็ไม่อาจเปรียบเทียบได้

 

แต่กระนั้น การปรากฏตัวของคนจากนิกายหมื่นปีศาจ ก็ทําให้หลายๆคนในโรงประมูลประหลาดใจ “นิกายหมื่นปีศาจมักขัดแย้งกับนิกายหมอกเร้นลับอยู่เสมอ แต่คราวนี้คนของพวกมันกล้ามาเหยียบเมืองวายุสวรรค์ของพวกเราเชียวหรือ?”

 

“นั่นส์ เมืองวายุสวรรค์ของพวกเรา ก็ถือเป็นเมืองของนิกายหมอกเร้นลับกลายๆ…คนของนิกายหมื่นปีศาจกล้าเข้ามาเช่นนี้มันไม่กลัวถูกล้อมสังหารหรือไร?”

 

“ก็ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก…ถึงแม้นิกายหมอกเร้นลับจักมีความขัดแย้งกับนิกายหมื่นปีศาจ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นกลุ่มรุมสังหารคนของนิกายหมื่นปีศาจต่อหน้าผู้คนอย่างโจ่งแจ้งหรอก…”

 

“จะอย่างไรก็ช่าง ลองคนของนิกายหมื่นปีศาจมาด้วยแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกมันเองก็สนใจเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับจอมราชันเทพอย่าง เคล็ดเทพ 6 เงา ไม่น้อย…

 

ความขัดแย้งระหว่างอาวุโสล่าดับ 2 ของนิกายหมื่นปีศาจ หานลี่กังกับคณบดีสถานศึกษาหมอกเร้นลับ มู่หรงสุยเฟิง นับเป็นฉากเล็กๆในงานประมูลตระกูลโจวเท่านั้น

 

หลังจากที่ของประมูลชิ้นแรกถูกนําขึ้นเวที ความสนใจของผู้คนในโรงประมูลก็ถูกดึงดูดไปทันที

 

“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน นี่เป็นรายการประมูลชิ้นแรกในงานประมูลที่ตระกูลโจวเราจัดขึ้นวันนี้…”

 

เมื่อโจวอวนที่นอู่บนเวทีประมูลกล่าวออกมา ทุกสายตาก็จับจ้องมองไปที่นางทันที

 

หลังจากนั้น ท่ามกลางสายตาชมมองของผู้คน โจวอวัน ก็สะบัดมือเรียกขวดโอสถเทพออกมาจากแหวน พื้นที่ของนางยิ้มกล่าวออกมาเสียงดังว่า “ในขวดโอสถขวดนี้ มีเม็ดยาเทพอยู่ด้วยกัน 3 เม็ดยา ได้แก่ เม็ดยา เทพเจีย เม็ดยาเทพและเม็ดยาเทพนิ่ง!”

 

“อย่างที่พวกท่านทราบกันดี ว่าเม็ดยาเทพทั้ง 3 นั้นหากแยกกันก็มิได้มีผลเลิศล้ําอันใดมากมายนัก และช่วยส่งเสริมการบ่มเพาะให้ราชาเทพได้ไม่แตกต่างอะไรจากโอสถเทพขนานอื่น…อย่างไรก็ตามหากรับประทานพวกมันด้วยกัน ก็สามารถก่อให้เกิดผลลัพธ์อัศจรรย์ยิ่ง!”

 

“ร่ําลือกันว่า ยิ่งผู้ที่ใช้มันมีเคล็ดวิชาบ่มเพาะสูงส่งเท่าใด ประสิทธิผลจากโอสถเทพชุดนี้ก็จักยิ่งให้ผลเลิศล้ํามากขึ้นเท่านั้น…อย่างเช่นอัจฉริยะของขุมกําลังระดับจักรพรรดิเทพคนหนึ่ง หากบ่มเพาะพลังด้วยเคล็ดวิชาระดับจักรพรรดิเทพล่ะก็ แม้จักพึ่งบรรลุถึงขอบเขตเทพขั้นต่ําได้ไม่นาน แต่เมื่อใช้โอสถเทพ 3 เม็ดยาชุดหนึ่ง ก็จักทะลวงถึงเทพขั้นกลางในคราวเดียว!”

 

“และหากบ่มเพาะพังด้วยเคล็ดวิชาระดับอริยะเทพในตํานาน…เห็นว่าต่อให้เป็นเทพขั้นต่ํา ไม่แน่ก็สามารถทะลวงถึงขอบเขตเทพขั้นสูงได้ในคราวเดียว!”

 

“แต่ถึงแม้จักมิได้บ่มเพาะพังด้วยเคล็ดวิชาระดับจักรพรรดิเทพหรืออริยะเทพ…ตัวตนในขอบเขตเทพยามใช้ มันก็จะช่วยส่งเสริมพลังฝึกปรือได้ไม่น้อยอยู่ดี”

 

“โอสถเทพ เจี้ยง นี้ท่านแขกผู้มีเกียรติจักใช้เองก็ดี จักประมูลไปให้รุ่นเยาว์ในขุมกําลังก็ดี…สิ่งนี้ มีแตกต่างจากของขวัญจากฟ้า!”

 

โจวอชิ้นกล่าวแนะนําของที่นําขึ้นประมูลเป็นรายการแรกอย่างฉะฉาน และวาจาไม่กี่คําของนาง ก็ทําให้บรรยากาศในโถงประมูลเริ่มคึกคักขึ้นมาทันที โดยเฉพาะเหล่าผู้ที่ยังรั้งอู่ในขอบเขตเทพทั้งหลายล้วนตาลุกวาวกันทั้งนั้น

 

“โอสถเทพเจียอง ทั้ง 3 เม็ดยามว่าจักเป็นโอสถเทพชนิดใดโอกาสหลอมปรุงสําเร็จก็มิได้สูงนัก…มิใช เรื่องราวอันง่ายดายเยที่จักรวบรวมพวกมันได้ครบชุด 3 เม็ดในเวลาเดียวกัน เกรงว่านอกจากขุมกําลังระดับจอมราชันเทพแล้ว ให้เป็นขุมกําลังระดับราชาเทพที่แข็งแกร่งแค่ไหน ก็ยังยากจะรวบรวมพวกมันได้ครบทั้ง 3 เม็ดใน วลาเดียวกัน

 

“บัดนี้โอกาสประเสริฐอยู่เบื้องหน้าทุกท่านแล้ว…โอสถเทพ เจียอี้ปิ้ง ทั้ง 3 เม็ดในขวดนี้ มีราคาเปิดประมูล เพียงแค่หินเทพ 3,000 ตําลึงเท่านั้น!”

 

“ทุกครั้งที่เพิ่มราคาประมูล…ต้องเพิ่มหินเทพมิน้อยกว่า 1,000 ตําลึง!”

 

ในขณะที่ผู้คนมากมายกําลังตาลุกวาวและคิดจะเคลื่อนไหว โจวอน พิธีกรบนเวทีประมูลก็เริ่มประกาศราคาเริ่มต้นของโอสถเทพเลี้ยงออกมา ท่ามกลางความคาดหวังของผู้คนที่มาเข้าร่วมงานประมูลตระกูลโจว

 

“หินเทพ 3,000 ตําลึง!”

 

และแทบจะพร้อมๆกันกับที่โจวอชิ้นกล่าวจบคํา ก็มีผู้คนในโถงรวมโพล่งราคาออกมาเสียงดังฟังชัด ผลักดันบรรยากาศในโรงประมูลให้พุ่งสูงขึ้นทันใด

 

“หินเทพ 4,000 ตําลึง!”

 

ไม่ทันที่โจวอนจะขานราคาซ้ํา ก็มีอีกเสียงที่โพล่งดังขึ้น

 

และคาวนี้หลังเงียบไปหนึ่งลมหายใจ ก็มีเสียงเพิ่มราคาดังขึ้นจากมุมหนึ่งของโถงรวม “หินเทพ 5,000 ตําลึง เด็กน้อยหลบไปเสีย!!”

 

หินเทพ 5,000 ตําลึง!

 

ราคาดังกล่าว อันที่จริงแล้วก็แทบจะเป็นราคากลางของโอสถเทพเจ๋ยองทั้ง 3 เม็ดรวมกันในสถานการณ์ปกติ

 

ท้ายที่สุดแล้วหากคนทั่วไปรับประทานโอสถเทพชุดนี้ แม้จะเป็นเพียงเทพขั้นต่ํา แต่ด่านพลังก็ไม่แน่ว่าจะทะลวงขั้น เพียงแค่มีความก้าวหน้าขึ้นเท่านั้น…เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับจักรพรรดิเทพหรืออริยะเทพให้ฝึกปรือ

 

“แขกท่านนี้เสนอราคาหินเทพ 5,000 ตําลึง ไม่ทราบมีผู้ใดคิดเพิ่มราคาหรือไม่?”

 

โจวอชิ้นที่ยืนบนเวทีประมูลเอ่ยถามเสียงดัง

 

“ไม่มีแขกท่านใดเสนอราคาแล้วหรือ?”

 

“เช่นนั้น หินเทพ 5,000 ตําลึงครั้งที่ 1!”

 

โจวอนเริ่มทําการนับถอยหลังทันที และหากนับถึง 3 แล้วถ้าไม่มีผู้ใดเสนอราคาประมูลเพิ่มอีก เช่นนั้น โอสถเทพเจียอี้ปิงก็จะถูกขายให้แก่ผู้ที่เสนอราคาหินเทพ 5,000 ตําลึงทันที

 

“ผู้คนในห้องส่วนตัว ไม่มีใครสนใจหรือ?”

 

หลายคนในโถงรวมเริ่มหันไปแหงนมองหน้าต่างห้องส่วนตัวทั้งหลาย

 

“หินเทพ 6,000 ตําลึง”

 

ท่ามกลางสายตาคาดหวังของผู้คนที่หันไปแหงนมอง พลันมีเสียงหนึ่งดังจากห้องส่วนตัว น้ําเสียงยังแหลมเล็กน้อย

 

ได้ยินเสียงดังกล่าว หลายคนในโถงประมูลรวมก็จดจ่าเจ้าของเสียงได้ทันที “เสียงนี้มัน…มิใช่นายท่าน 4 แห่งตระกูลจังหรือไร?”

 

“เป็นเสียงนายท่าน 4 แห่งตระกูลจังจริงๆ!

 

ตระกูลจัง ก็เป็นตระกูลระดับราชาเทพตระกูลหนึ่งในเมืองวายุสวรรค์ และชื่อเสียงก็พอๆกับตระกูลโจว

 

และที่ไฉนมีผู้คนมากมายจดจําได้ว่าเป็นเสียงของนายท่าน 4 ตระกูลจังนั้น เพราะอีกฝ่ายรับหน้าที่ดูแลเหลาอาหารแห่งเด้วของตระกูลจัง ทําให้ผู้ที่เคยแวะเวียนผ่านไปลิ้มลองอาหารเลิศรสของเหลาอาหารตระกูลจัง มักคุ้นเคยกับเสียงของมันดี

 

“ดูเหมือนสหายหลาท่านจักจดจําเสียงของข้านายท่าน 4 ตระกูลจังผู้นี้ได้…ข้ารู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก และคงประเสริฐยิ่งหากทุกท่านไว้หน้าข้า วางมือจากโอสถเทพเจียอียิ่ง เพื่อให้ข้านําไปเป็นของขวัญให้ลูกชายคนเล็กของข้า!”

 

เมื่อมีหลายๆคนจดจําเสียงของนาย 4 ตระกูลจังได้ เจ้าตัวก็ส่งเสียงออกมาจากห้องส่วนตัวอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยคําพูดดักคอผู้อื่นดังกล่าวของมัน ทําให้โจวอวิ่นที่อยู่บนเวทีประมูลขมวดคิ้วทันที “นาย 4 สกุลจัง เจ้าคิดท้าทายอํานาจตระกูลโจวเราหรือไร เจ้ากล่าวเช่นนั้นมิใช่คิดกดดันผู้อื่นไม่ให้เสนอราคาประมูลโต้งๆ นี้ขัดต่อกฎการประมูลของโรงประมูลตระกูลโจวเรา!”

 

“หรือ…เจ้าอยากให้ทุกครั้งที่โรงประมูลตระกูลจังเจ้าจัดงาน ให้พวกเราไปกล่าวเช่นนี้บ้างหรือไม่?”

 

เป็นธรรมดาที่โจวอนไม่พอใจกับค่าพูดดังกล่าวของนาย 4 ตระกูลจัง เพราะเมื่อมันพูดแบบนี้ออกมา คนที่กล้าเสนอราคาต่อก็ถือว่าไม่ไว้หน้ามัน เช่นนั้นก็อาจเป็นการล่วงเกินตระกูลจังได้

 

ต้องทราบว่าแขกที่เข้าร่วมการประมูล ก็ใช่ว่าจะมีฐานะและอํานาจมากพอจะงัดกับตระกูลจังได้ทุกคน

 

ทว่าถึงจะเป็นคนทั่วไป ก็ไม่ขาดผู้ที่มีกําลังซื้อโอสถเทพเจียอี้ป่ง

 

แต่ผู้ที่มีกาลังซื้อเหล่านั้น เป็นธรรมดาวว่าไม่กล้าล่วงเกินตระกูลจัง!

 

อยู่ๆมาโพล่งให้ผู้อื่นไว้หน้ากลางงานประมูล ยังจะมีใครอยากแข่งประมูลอีก น่าอึดอัดไหมเล่า?

 

และไม่ต้องพูดถึงตระกูลจังทั้งตระกูล เอาแต่ตัวนาย 4 ตระกูลจังเองก็เป็นเทพขั้นสูง ที่เขียนบรรลุถึงราชาเทพเต็มที่ คนทั่วไปที่คิดประมูลโอสถเทพเจียอี้ปิง ก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สู้มันได้

 

“ฮ่าๆๆๆ…!”

 

นาย 4 ตระกูลจังหัวเราะ “อาวุโสโจวอนอย่าได้มีโทสะ ข้ามิได้ตั้งใจจะฝ่าฝืนกฏการประมูลของตระกูลโจว ท่าน…พอดีมีสหายไม่น้อยจดจําข้า นาย 4 ตระกูลจังได้ ข้าก็เลยแปลกใจจึงกล่าวคําออกไปโดยไม่รู้ตัว”

 

พอกล่าวชี้แจงจบ นา 4 ตระกูลจังก็โพล่งออกมาเสียงดังสืบต่อ “สหายทุกท่าน ข้านาย 4 ตระกูลจังเพียงกล่าวไปโดยไม่ตั้งใจ…หากสหายท่านใดยังต้องการโอสถเทพทั้ง 3 เม็ด ก็สามารถเพิ่มราคาประมูลได้ ข้านาย 4 ตระกูลจังยินดีแข่งขันอย่างเป็นธรรม”

 

อย่างไรก็ตามเสียงโพล่งของนาย 4 ตระกูลจังนั้นกลับเยียบเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด มีอํานาจขู่ขวัญผู้คนอยู่บ้าง

 

ขอเพียงผู้ฟังไม่ได้มีปัญหากับการได้ยิน ย่อมได้ยินถึงการคุกคามชัดเจน

 

พอนาย 4 ตระกูลจังกล่าวจบ มันก็ถามโจวอนด้วยน้ําเสียงยิ้มแย้ม “เช่นนี้อาวุโสโจวอชิ้นพอใจแล้วหรือไม่?”

 

“เจ้า…”

 

ในขณะที่สีหน้าโจวอชิ้นเปลี่ยนไป และดวงตาของนายเริ่มฉายแววเยียบเย็น พลันมีเสียงอ่อเยาว์ หากแต่เต็มไปด้วยพลังหนึ่งดังขึ้นจากห้องส่วนตัวห้องอื่น “หินเทพ 7,000 ตําลึง”

 

พอเสียงดังกล่าวดังขึ้นมา ชายวัยกลางคนในห้องส่วนตัวหมายเลข 6 ที่กําลังกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ รอยยิ้มบนใบหน้ามันก็ชะงักค้างไปทันใด…ยังทุบโต๊ะเบื้องหน้าดัง ปัง กล่าวสบถอย่างหัวเสียว่า “มารดามันเถอะ…ตัวบัดซบที่ไหน จึงไม่ไว้หน้าข้า!?”

 

เป็นธรรมดาว่าเสียงสบถของนาย 4 ตระกูลจังไม่ได้ดังอะไรมากมาย เพียงได้ยินกันแต่ในห้องส่วนตัวของมัน

 

เท่านั้น

 

แต่อย่างไรก็ตาม เสียงทุบโต๊ะดัง ปัง ของมันนั้น กลับดังสนั่นเข้าหูทุกคนในโถงประมูลชัดเจน

 

“นายท่าน 4 เสียงเมื่อครู่ดังออกมาจากห้องส่วนตัวหมายเลข 9″

 

ด้านหลังนาย 4 ตระกูลจัง ชายชราคนหนึ่งพลันก้าวออกมา 2 ก้าว กล่าวค่าขณะมองไปยังห้องส่วนตัวด้านนอก

 

“ห้องส่วนตัวหมายเลข 9?”

 

สองตานาย 4 ตระกูลจังฉายแววเย็นชาเรืองวูบ “ห้องหมายเลข 9 นั้น…มิใช่คนของขุมกําลังระดับจอมราชันเทพกระมัง?”

 

“มิใช่ ขุมกําลังระดับจอมราชั้นเทพอยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 1-5”

 

ชายชรากล่าวออกอีกครั้ง

 

“ประเสริฐ! ประเสริฐนัก…กล้าดีอย่างไรถึงได้คิดแข่งกับข้า!”

 

ยิ่งมาประกายในดวงตาของนาย 4 ตระกูลจังก็ยิ่งเยียบเย็น สุดท้ายหลังนิ่งไปครู่หนึ่ง มันก็โพล่งออกมาอีก ครั้ง “หินเทพ 8,000 ตําลึง”

 

คราวนี้ถึงแม้นาย 4 ตระกูลจังจะไม่ได้กล่าวอะไรมากความ แต่น้ําเสียงเพิ่มราคาประมูลของมันก็เย็นชาปานจะแช่แข็งผู้คน พาลให้ผู้คนในโถงรวมที่ได้ยยินรู้สึกเสมือนร่วงตกลงไปในหลุ่มน้ําแข็ง

 

“ดูเหมือนนายท่าน 4 จะมีโมโหแล้วจริงๆ”

 

“ไม่ทราบผู้ที่อยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 เป็นผู้ใดกันแน่…แม้วันนี้นายท่าน 4 แซ่จังจะได้โอสถเทพเจียอียิ่งไป แต่ทว่าต้องจ่ายหินเทพ 8,000 ตําลึงเช่นนี้ ข้าเกรงว่าคงไม่คิดปล่อยมันไปง่ายๆแน่!”

 

“ไม่รู้จริงๆว่ามันคิดอะไรอยู่ รู้ทั้งรู้ว่านั่นเป็นนาย 4 ตระกูลจัง แต่มันยังกล้าเพิ่มราคาอีก”

 

ผู้คนในโถงรวมเริ่มซุบซิบคุยกันอย่างออกรส

 

ในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าผู้ที่อยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 สมควรรู้แล้วว่าอะไรควรไม่ควรและเล็กเพิ่มราคา อย่างไรก็ตามผลที่ตามมาจากการเพิ่มราคาเมื่อครู่ก็ทําให้นาย 4 ตระกูลจังหัวเสียไม่น้อย และมีแนวโน้มว่าหากยังกล้เพิ่มราคาอีกครั้ง นาย 4 ตระกูลจังก็ไม่บ้าจี้เพิ่มราคาตามแล้ว

 

หินเทพ 8,000 ตําลึง!

 

สําหรับโอสถเทพทั้ง 3 เม็ด นับว่าแพงหูฉี!

 

ไม่แพงธรรมดา แต่แพงโคตร!

 

และในขณะที่ทุกคนหันไปมองห้องส่วนตัวหมายเลข 9 ก็บังเกิดเสียงดังออกมาจากห้องส่วนตัวหมายเลข 9 อีกครั้ง “หินเทพ 10,000 ตําลึง”

 

ต้วนหลิงเทียนที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 มองผ่านหน้าต่างไปยังขวดโอสถในมือโจวอนบนเวทีประมูลด้วยความสนใจ กล่าวเสนอราคาออกมาด้วยน้ําเสียงเฉยเมย ไม่ได้แยแสภัยคุกคามในน้ําเสียงของนาย 4 ตระกูลจังเลย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

War sovereign Soaring The Heavens 3621

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3621 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

WSSTH ตอนที่ 3621 : นาย 4 ตระกูลจัง   หานลี่กัง อาวุโสลําดับ 2 ของนิกายหมื่นปีศาจไม่กล้าแย้งคําปรามาสดังกล่าว ผู้คนในโรงประมูลก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะสุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันจริงๆ   เพราะถึงแม้หานลี่กังจะเป็นราชาเทพขั้นสูงคนหนึ่ง ทั้งยังแข็งแกร่งกว่าราชาเทพขั้นสูงทั่วไป ทว่าต่อหน้ายอดฝีมือมากประสบการณ์อย่างมู่หรงสุยเฟิง ที่อาจจะบรรลุถึงขอบเขตจอมราชั้นเทพแล้ว มันก็ไม่อาจเปรียบเทียบได้   แต่กระนั้น การปรากฏตัวของคนจากนิกายหมื่นปีศาจ ก็ทําให้หลายๆคนในโรงประมูลประหลาดใจ “นิกายหมื่นปีศาจมักขัดแย้งกับนิกายหมอกเร้นลับอยู่เสมอ แต่คราวนี้คนของพวกมันกล้ามาเหยียบเมืองวายุสวรรค์ของพวกเราเชียวหรือ?”   “นั่นส์ เมืองวายุสวรรค์ของพวกเรา ก็ถือเป็นเมืองของนิกายหมอกเร้นลับกลายๆ…คนของนิกายหมื่นปีศาจกล้าเข้ามาเช่นนี้มันไม่กลัวถูกล้อมสังหารหรือไร?”   “ก็ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก…ถึงแม้นิกายหมอกเร้นลับจักมีความขัดแย้งกับนิกายหมื่นปีศาจ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นกลุ่มรุมสังหารคนของนิกายหมื่นปีศาจต่อหน้าผู้คนอย่างโจ่งแจ้งหรอก…”   “จะอย่างไรก็ช่าง ลองคนของนิกายหมื่นปีศาจมาด้วยแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกมันเองก็สนใจเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับจอมราชันเทพอย่าง เคล็ดเทพ 6 เงา ไม่น้อย…   ความขัดแย้งระหว่างอาวุโสล่าดับ 2 ของนิกายหมื่นปีศาจ หานลี่กังกับคณบดีสถานศึกษาหมอกเร้นลับ มู่หรงสุยเฟิง นับเป็นฉากเล็กๆในงานประมูลตระกูลโจวเท่านั้น   หลังจากที่ของประมูลชิ้นแรกถูกนําขึ้นเวที ความสนใจของผู้คนในโรงประมูลก็ถูกดึงดูดไปทันที   “แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน นี่เป็นรายการประมูลชิ้นแรกในงานประมูลที่ตระกูลโจวเราจัดขึ้นวันนี้…”   เมื่อโจวอวนที่นอู่บนเวทีประมูลกล่าวออกมา ทุกสายตาก็จับจ้องมองไปที่นางทันที   หลังจากนั้น ท่ามกลางสายตาชมมองของผู้คน โจวอวัน ก็สะบัดมือเรียกขวดโอสถเทพออกมาจากแหวน พื้นที่ของนางยิ้มกล่าวออกมาเสียงดังว่า “ในขวดโอสถขวดนี้ มีเม็ดยาเทพอยู่ด้วยกัน 3 เม็ดยา ได้แก่ เม็ดยา เทพเจีย เม็ดยาเทพและเม็ดยาเทพนิ่ง!”   “อย่างที่พวกท่านทราบกันดี ว่าเม็ดยาเทพทั้ง 3 นั้นหากแยกกันก็มิได้มีผลเลิศล้ําอันใดมากมายนัก และช่วยส่งเสริมการบ่มเพาะให้ราชาเทพได้ไม่แตกต่างอะไรจากโอสถเทพขนานอื่น…อย่างไรก็ตามหากรับประทานพวกมันด้วยกัน ก็สามารถก่อให้เกิดผลลัพธ์อัศจรรย์ยิ่ง!”   “ร่ําลือกันว่า ยิ่งผู้ที่ใช้มันมีเคล็ดวิชาบ่มเพาะสูงส่งเท่าใด ประสิทธิผลจากโอสถเทพชุดนี้ก็จักยิ่งให้ผลเลิศล้ํามากขึ้นเท่านั้น…อย่างเช่นอัจฉริยะของขุมกําลังระดับจักรพรรดิเทพคนหนึ่ง หากบ่มเพาะพลังด้วยเคล็ดวิชาระดับจักรพรรดิเทพล่ะก็ แม้จักพึ่งบรรลุถึงขอบเขตเทพขั้นต่ําได้ไม่นาน แต่เมื่อใช้โอสถเทพ 3 เม็ดยาชุดหนึ่ง ก็จักทะลวงถึงเทพขั้นกลางในคราวเดียว!”   “และหากบ่มเพาะพังด้วยเคล็ดวิชาระดับอริยะเทพในตํานาน…เห็นว่าต่อให้เป็นเทพขั้นต่ํา ไม่แน่ก็สามารถทะลวงถึงขอบเขตเทพขั้นสูงได้ในคราวเดียว!”   “แต่ถึงแม้จักมิได้บ่มเพาะพังด้วยเคล็ดวิชาระดับจักรพรรดิเทพหรืออริยะเทพ…ตัวตนในขอบเขตเทพยามใช้ มันก็จะช่วยส่งเสริมพลังฝึกปรือได้ไม่น้อยอยู่ดี”   “โอสถเทพ เจี้ยง นี้ท่านแขกผู้มีเกียรติจักใช้เองก็ดี จักประมูลไปให้รุ่นเยาว์ในขุมกําลังก็ดี…สิ่งนี้ มีแตกต่างจากของขวัญจากฟ้า!”   โจวอชิ้นกล่าวแนะนําของที่นําขึ้นประมูลเป็นรายการแรกอย่างฉะฉาน และวาจาไม่กี่คําของนาง ก็ทําให้บรรยากาศในโถงประมูลเริ่มคึกคักขึ้นมาทันที โดยเฉพาะเหล่าผู้ที่ยังรั้งอู่ในขอบเขตเทพทั้งหลายล้วนตาลุกวาวกันทั้งนั้น   “โอสถเทพเจียอง ทั้ง 3 เม็ดยามว่าจักเป็นโอสถเทพชนิดใดโอกาสหลอมปรุงสําเร็จก็มิได้สูงนัก…มิใช เรื่องราวอันง่ายดายเยที่จักรวบรวมพวกมันได้ครบชุด 3 เม็ดในเวลาเดียวกัน เกรงว่านอกจากขุมกําลังระดับจอมราชันเทพแล้ว ให้เป็นขุมกําลังระดับราชาเทพที่แข็งแกร่งแค่ไหน ก็ยังยากจะรวบรวมพวกมันได้ครบทั้ง 3 เม็ดใน วลาเดียวกัน   “บัดนี้โอกาสประเสริฐอยู่เบื้องหน้าทุกท่านแล้ว…โอสถเทพ เจียอี้ปิ้ง ทั้ง 3 เม็ดในขวดนี้ มีราคาเปิดประมูล เพียงแค่หินเทพ 3,000 ตําลึงเท่านั้น!”   “ทุกครั้งที่เพิ่มราคาประมูล…ต้องเพิ่มหินเทพมิน้อยกว่า 1,000 ตําลึง!”   ในขณะที่ผู้คนมากมายกําลังตาลุกวาวและคิดจะเคลื่อนไหว โจวอน พิธีกรบนเวทีประมูลก็เริ่มประกาศราคาเริ่มต้นของโอสถเทพเลี้ยงออกมา ท่ามกลางความคาดหวังของผู้คนที่มาเข้าร่วมงานประมูลตระกูลโจว   “หินเทพ 3,000 ตําลึง!”   และแทบจะพร้อมๆกันกับที่โจวอชิ้นกล่าวจบคํา ก็มีผู้คนในโถงรวมโพล่งราคาออกมาเสียงดังฟังชัด ผลักดันบรรยากาศในโรงประมูลให้พุ่งสูงขึ้นทันใด   “หินเทพ 4,000 ตําลึง!”   ไม่ทันที่โจวอนจะขานราคาซ้ํา ก็มีอีกเสียงที่โพล่งดังขึ้น   และคาวนี้หลังเงียบไปหนึ่งลมหายใจ ก็มีเสียงเพิ่มราคาดังขึ้นจากมุมหนึ่งของโถงรวม “หินเทพ 5,000 ตําลึง เด็กน้อยหลบไปเสีย!!”   หินเทพ 5,000 ตําลึง!   ราคาดังกล่าว อันที่จริงแล้วก็แทบจะเป็นราคากลางของโอสถเทพเจ๋ยองทั้ง 3 เม็ดรวมกันในสถานการณ์ปกติ   ท้ายที่สุดแล้วหากคนทั่วไปรับประทานโอสถเทพชุดนี้ แม้จะเป็นเพียงเทพขั้นต่ํา แต่ด่านพลังก็ไม่แน่ว่าจะทะลวงขั้น เพียงแค่มีความก้าวหน้าขึ้นเท่านั้น…เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับจักรพรรดิเทพหรืออริยะเทพให้ฝึกปรือ   “แขกท่านนี้เสนอราคาหินเทพ 5,000 ตําลึง ไม่ทราบมีผู้ใดคิดเพิ่มราคาหรือไม่?”   โจวอชิ้นที่ยืนบนเวทีประมูลเอ่ยถามเสียงดัง   “ไม่มีแขกท่านใดเสนอราคาแล้วหรือ?”   “เช่นนั้น หินเทพ 5,000 ตําลึงครั้งที่ 1!”   โจวอนเริ่มทําการนับถอยหลังทันที และหากนับถึง 3 แล้วถ้าไม่มีผู้ใดเสนอราคาประมูลเพิ่มอีก เช่นนั้น โอสถเทพเจียอี้ปิงก็จะถูกขายให้แก่ผู้ที่เสนอราคาหินเทพ 5,000 ตําลึงทันที   “ผู้คนในห้องส่วนตัว ไม่มีใครสนใจหรือ?”   หลายคนในโถงรวมเริ่มหันไปแหงนมองหน้าต่างห้องส่วนตัวทั้งหลาย   “หินเทพ 6,000 ตําลึง”   ท่ามกลางสายตาคาดหวังของผู้คนที่หันไปแหงนมอง พลันมีเสียงหนึ่งดังจากห้องส่วนตัว น้ําเสียงยังแหลมเล็กน้อย   ได้ยินเสียงดังกล่าว หลายคนในโถงประมูลรวมก็จดจ่าเจ้าของเสียงได้ทันที “เสียงนี้มัน…มิใช่นายท่าน 4 แห่งตระกูลจังหรือไร?”   “เป็นเสียงนายท่าน 4 แห่งตระกูลจังจริงๆ!   ตระกูลจัง ก็เป็นตระกูลระดับราชาเทพตระกูลหนึ่งในเมืองวายุสวรรค์ และชื่อเสียงก็พอๆกับตระกูลโจว   และที่ไฉนมีผู้คนมากมายจดจําได้ว่าเป็นเสียงของนายท่าน 4 ตระกูลจังนั้น เพราะอีกฝ่ายรับหน้าที่ดูแลเหลาอาหารแห่งเด้วของตระกูลจัง ทําให้ผู้ที่เคยแวะเวียนผ่านไปลิ้มลองอาหารเลิศรสของเหลาอาหารตระกูลจัง มักคุ้นเคยกับเสียงของมันดี   “ดูเหมือนสหายหลาท่านจักจดจําเสียงของข้านายท่าน 4 ตระกูลจังผู้นี้ได้…ข้ารู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก และคงประเสริฐยิ่งหากทุกท่านไว้หน้าข้า วางมือจากโอสถเทพเจียอียิ่ง เพื่อให้ข้านําไปเป็นของขวัญให้ลูกชายคนเล็กของข้า!”   เมื่อมีหลายๆคนจดจําเสียงของนาย 4 ตระกูลจังได้ เจ้าตัวก็ส่งเสียงออกมาจากห้องส่วนตัวอีกครั้ง   อย่างไรก็ตาม ด้วยคําพูดดักคอผู้อื่นดังกล่าวของมัน ทําให้โจวอวิ่นที่อยู่บนเวทีประมูลขมวดคิ้วทันที “นาย 4 สกุลจัง เจ้าคิดท้าทายอํานาจตระกูลโจวเราหรือไร เจ้ากล่าวเช่นนั้นมิใช่คิดกดดันผู้อื่นไม่ให้เสนอราคาประมูลโต้งๆ นี้ขัดต่อกฎการประมูลของโรงประมูลตระกูลโจวเรา!”   “หรือ…เจ้าอยากให้ทุกครั้งที่โรงประมูลตระกูลจังเจ้าจัดงาน ให้พวกเราไปกล่าวเช่นนี้บ้างหรือไม่?”   เป็นธรรมดาที่โจวอนไม่พอใจกับค่าพูดดังกล่าวของนาย 4 ตระกูลจัง เพราะเมื่อมันพูดแบบนี้ออกมา คนที่กล้าเสนอราคาต่อก็ถือว่าไม่ไว้หน้ามัน เช่นนั้นก็อาจเป็นการล่วงเกินตระกูลจังได้   ต้องทราบว่าแขกที่เข้าร่วมการประมูล ก็ใช่ว่าจะมีฐานะและอํานาจมากพอจะงัดกับตระกูลจังได้ทุกคน   ทว่าถึงจะเป็นคนทั่วไป ก็ไม่ขาดผู้ที่มีกําลังซื้อโอสถเทพเจียอี้ป่ง   แต่ผู้ที่มีกาลังซื้อเหล่านั้น เป็นธรรมดาวว่าไม่กล้าล่วงเกินตระกูลจัง!   อยู่ๆมาโพล่งให้ผู้อื่นไว้หน้ากลางงานประมูล ยังจะมีใครอยากแข่งประมูลอีก น่าอึดอัดไหมเล่า?   และไม่ต้องพูดถึงตระกูลจังทั้งตระกูล เอาแต่ตัวนาย 4 ตระกูลจังเองก็เป็นเทพขั้นสูง ที่เขียนบรรลุถึงราชาเทพเต็มที่ คนทั่วไปที่คิดประมูลโอสถเทพเจียอี้ปิง ก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สู้มันได้   “ฮ่าๆๆๆ…!”   นาย 4 ตระกูลจังหัวเราะ “อาวุโสโจวอนอย่าได้มีโทสะ ข้ามิได้ตั้งใจจะฝ่าฝืนกฏการประมูลของตระกูลโจว ท่าน…พอดีมีสหายไม่น้อยจดจําข้า นาย 4 ตระกูลจังได้ ข้าก็เลยแปลกใจจึงกล่าวคําออกไปโดยไม่รู้ตัว”   พอกล่าวชี้แจงจบ นา 4 ตระกูลจังก็โพล่งออกมาเสียงดังสืบต่อ “สหายทุกท่าน ข้านาย 4 ตระกูลจังเพียงกล่าวไปโดยไม่ตั้งใจ…หากสหายท่านใดยังต้องการโอสถเทพทั้ง 3 เม็ด ก็สามารถเพิ่มราคาประมูลได้ ข้านาย 4 ตระกูลจังยินดีแข่งขันอย่างเป็นธรรม”   อย่างไรก็ตามเสียงโพล่งของนาย 4 ตระกูลจังนั้นกลับเยียบเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด มีอํานาจขู่ขวัญผู้คนอยู่บ้าง   ขอเพียงผู้ฟังไม่ได้มีปัญหากับการได้ยิน ย่อมได้ยินถึงการคุกคามชัดเจน   พอนาย 4 ตระกูลจังกล่าวจบ มันก็ถามโจวอนด้วยน้ําเสียงยิ้มแย้ม “เช่นนี้อาวุโสโจวอชิ้นพอใจแล้วหรือไม่?”   “เจ้า…”   ในขณะที่สีหน้าโจวอชิ้นเปลี่ยนไป และดวงตาของนายเริ่มฉายแววเยียบเย็น พลันมีเสียงอ่อเยาว์ หากแต่เต็มไปด้วยพลังหนึ่งดังขึ้นจากห้องส่วนตัวห้องอื่น “หินเทพ 7,000 ตําลึง”   พอเสียงดังกล่าวดังขึ้นมา ชายวัยกลางคนในห้องส่วนตัวหมายเลข 6 ที่กําลังกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ รอยยิ้มบนใบหน้ามันก็ชะงักค้างไปทันใด…ยังทุบโต๊ะเบื้องหน้าดัง ปัง กล่าวสบถอย่างหัวเสียว่า “มารดามันเถอะ…ตัวบัดซบที่ไหน จึงไม่ไว้หน้าข้า!?”   เป็นธรรมดาว่าเสียงสบถของนาย 4 ตระกูลจังไม่ได้ดังอะไรมากมาย เพียงได้ยินกันแต่ในห้องส่วนตัวของมัน   เท่านั้น   แต่อย่างไรก็ตาม เสียงทุบโต๊ะดัง ปัง ของมันนั้น กลับดังสนั่นเข้าหูทุกคนในโถงประมูลชัดเจน   “นายท่าน 4 เสียงเมื่อครู่ดังออกมาจากห้องส่วนตัวหมายเลข 9″   ด้านหลังนาย 4 ตระกูลจัง ชายชราคนหนึ่งพลันก้าวออกมา 2 ก้าว กล่าวค่าขณะมองไปยังห้องส่วนตัวด้านนอก   “ห้องส่วนตัวหมายเลข 9?”   สองตานาย 4 ตระกูลจังฉายแววเย็นชาเรืองวูบ “ห้องหมายเลข 9 นั้น…มิใช่คนของขุมกําลังระดับจอมราชันเทพกระมัง?”   “มิใช่ ขุมกําลังระดับจอมราชั้นเทพอยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 1-5”   ชายชรากล่าวออกอีกครั้ง   “ประเสริฐ! ประเสริฐนัก…กล้าดีอย่างไรถึงได้คิดแข่งกับข้า!”   ยิ่งมาประกายในดวงตาของนาย 4 ตระกูลจังก็ยิ่งเยียบเย็น สุดท้ายหลังนิ่งไปครู่หนึ่ง มันก็โพล่งออกมาอีก ครั้ง “หินเทพ 8,000 ตําลึง”   คราวนี้ถึงแม้นาย 4 ตระกูลจังจะไม่ได้กล่าวอะไรมากความ แต่น้ําเสียงเพิ่มราคาประมูลของมันก็เย็นชาปานจะแช่แข็งผู้คน พาลให้ผู้คนในโถงรวมที่ได้ยยินรู้สึกเสมือนร่วงตกลงไปในหลุ่มน้ําแข็ง   “ดูเหมือนนายท่าน 4 จะมีโมโหแล้วจริงๆ”   “ไม่ทราบผู้ที่อยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 เป็นผู้ใดกันแน่…แม้วันนี้นายท่าน 4 แซ่จังจะได้โอสถเทพเจียอียิ่งไป แต่ทว่าต้องจ่ายหินเทพ 8,000 ตําลึงเช่นนี้ ข้าเกรงว่าคงไม่คิดปล่อยมันไปง่ายๆแน่!”   “ไม่รู้จริงๆว่ามันคิดอะไรอยู่ รู้ทั้งรู้ว่านั่นเป็นนาย 4 ตระกูลจัง แต่มันยังกล้าเพิ่มราคาอีก”   ผู้คนในโถงรวมเริ่มซุบซิบคุยกันอย่างออกรส   ในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าผู้ที่อยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 สมควรรู้แล้วว่าอะไรควรไม่ควรและเล็กเพิ่มราคา อย่างไรก็ตามผลที่ตามมาจากการเพิ่มราคาเมื่อครู่ก็ทําให้นาย 4 ตระกูลจังหัวเสียไม่น้อย และมีแนวโน้มว่าหากยังกล้เพิ่มราคาอีกครั้ง นาย 4 ตระกูลจังก็ไม่บ้าจี้เพิ่มราคาตามแล้ว   หินเทพ 8,000 ตําลึง!   สําหรับโอสถเทพทั้ง 3 เม็ด นับว่าแพงหูฉี!   ไม่แพงธรรมดา แต่แพงโคตร!   และในขณะที่ทุกคนหันไปมองห้องส่วนตัวหมายเลข 9 ก็บังเกิดเสียงดังออกมาจากห้องส่วนตัวหมายเลข 9 อีกครั้ง “หินเทพ 10,000 ตําลึง”   ต้วนหลิงเทียนที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 มองผ่านหน้าต่างไปยังขวดโอสถในมือโจวอนบนเวทีประมูลด้วยความสนใจ กล่าวเสนอราคาออกมาด้วยน้ําเสียงเฉยเมย ไม่ได้แยแสภัยคุกคามในน้ําเสียงของนาย 4 ตระกูลจังเลย  

WSSTH ตอนที่ 3621 : นาย 4 ตระกูลจัง

 

หานลี่กัง อาวุโสลําดับ 2 ของนิกายหมื่นปีศาจไม่กล้าแย้งคําปรามาสดังกล่าว ผู้คนในโรงประมูลก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะสุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันจริงๆ

 

เพราะถึงแม้หานลี่กังจะเป็นราชาเทพขั้นสูงคนหนึ่ง ทั้งยังแข็งแกร่งกว่าราชาเทพขั้นสูงทั่วไป ทว่าต่อหน้ายอดฝีมือมากประสบการณ์อย่างมู่หรงสุยเฟิง ที่อาจจะบรรลุถึงขอบเขตจอมราชั้นเทพแล้ว มันก็ไม่อาจเปรียบเทียบได้

 

แต่กระนั้น การปรากฏตัวของคนจากนิกายหมื่นปีศาจ ก็ทําให้หลายๆคนในโรงประมูลประหลาดใจ “นิกายหมื่นปีศาจมักขัดแย้งกับนิกายหมอกเร้นลับอยู่เสมอ แต่คราวนี้คนของพวกมันกล้ามาเหยียบเมืองวายุสวรรค์ของพวกเราเชียวหรือ?”

 

“นั่นส์ เมืองวายุสวรรค์ของพวกเรา ก็ถือเป็นเมืองของนิกายหมอกเร้นลับกลายๆ…คนของนิกายหมื่นปีศาจกล้าเข้ามาเช่นนี้มันไม่กลัวถูกล้อมสังหารหรือไร?”

 

“ก็ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก…ถึงแม้นิกายหมอกเร้นลับจักมีความขัดแย้งกับนิกายหมื่นปีศาจ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นกลุ่มรุมสังหารคนของนิกายหมื่นปีศาจต่อหน้าผู้คนอย่างโจ่งแจ้งหรอก…”

 

“จะอย่างไรก็ช่าง ลองคนของนิกายหมื่นปีศาจมาด้วยแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกมันเองก็สนใจเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับจอมราชันเทพอย่าง เคล็ดเทพ 6 เงา ไม่น้อย…

 

ความขัดแย้งระหว่างอาวุโสล่าดับ 2 ของนิกายหมื่นปีศาจ หานลี่กังกับคณบดีสถานศึกษาหมอกเร้นลับ มู่หรงสุยเฟิง นับเป็นฉากเล็กๆในงานประมูลตระกูลโจวเท่านั้น

 

หลังจากที่ของประมูลชิ้นแรกถูกนําขึ้นเวที ความสนใจของผู้คนในโรงประมูลก็ถูกดึงดูดไปทันที

 

“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน นี่เป็นรายการประมูลชิ้นแรกในงานประมูลที่ตระกูลโจวเราจัดขึ้นวันนี้…”

 

เมื่อโจวอวนที่นอู่บนเวทีประมูลกล่าวออกมา ทุกสายตาก็จับจ้องมองไปที่นางทันที

 

หลังจากนั้น ท่ามกลางสายตาชมมองของผู้คน โจวอวัน ก็สะบัดมือเรียกขวดโอสถเทพออกมาจากแหวน พื้นที่ของนางยิ้มกล่าวออกมาเสียงดังว่า “ในขวดโอสถขวดนี้ มีเม็ดยาเทพอยู่ด้วยกัน 3 เม็ดยา ได้แก่ เม็ดยา เทพเจีย เม็ดยาเทพและเม็ดยาเทพนิ่ง!”

 

“อย่างที่พวกท่านทราบกันดี ว่าเม็ดยาเทพทั้ง 3 นั้นหากแยกกันก็มิได้มีผลเลิศล้ําอันใดมากมายนัก และช่วยส่งเสริมการบ่มเพาะให้ราชาเทพได้ไม่แตกต่างอะไรจากโอสถเทพขนานอื่น…อย่างไรก็ตามหากรับประทานพวกมันด้วยกัน ก็สามารถก่อให้เกิดผลลัพธ์อัศจรรย์ยิ่ง!”

 

“ร่ําลือกันว่า ยิ่งผู้ที่ใช้มันมีเคล็ดวิชาบ่มเพาะสูงส่งเท่าใด ประสิทธิผลจากโอสถเทพชุดนี้ก็จักยิ่งให้ผลเลิศล้ํามากขึ้นเท่านั้น…อย่างเช่นอัจฉริยะของขุมกําลังระดับจักรพรรดิเทพคนหนึ่ง หากบ่มเพาะพลังด้วยเคล็ดวิชาระดับจักรพรรดิเทพล่ะก็ แม้จักพึ่งบรรลุถึงขอบเขตเทพขั้นต่ําได้ไม่นาน แต่เมื่อใช้โอสถเทพ 3 เม็ดยาชุดหนึ่ง ก็จักทะลวงถึงเทพขั้นกลางในคราวเดียว!”

 

“และหากบ่มเพาะพังด้วยเคล็ดวิชาระดับอริยะเทพในตํานาน…เห็นว่าต่อให้เป็นเทพขั้นต่ํา ไม่แน่ก็สามารถทะลวงถึงขอบเขตเทพขั้นสูงได้ในคราวเดียว!”

 

“แต่ถึงแม้จักมิได้บ่มเพาะพังด้วยเคล็ดวิชาระดับจักรพรรดิเทพหรืออริยะเทพ…ตัวตนในขอบเขตเทพยามใช้ มันก็จะช่วยส่งเสริมพลังฝึกปรือได้ไม่น้อยอยู่ดี”

 

“โอสถเทพ เจี้ยง นี้ท่านแขกผู้มีเกียรติจักใช้เองก็ดี จักประมูลไปให้รุ่นเยาว์ในขุมกําลังก็ดี…สิ่งนี้ มีแตกต่างจากของขวัญจากฟ้า!”

 

โจวอชิ้นกล่าวแนะนําของที่นําขึ้นประมูลเป็นรายการแรกอย่างฉะฉาน และวาจาไม่กี่คําของนาง ก็ทําให้บรรยากาศในโถงประมูลเริ่มคึกคักขึ้นมาทันที โดยเฉพาะเหล่าผู้ที่ยังรั้งอู่ในขอบเขตเทพทั้งหลายล้วนตาลุกวาวกันทั้งนั้น

 

“โอสถเทพเจียอง ทั้ง 3 เม็ดยามว่าจักเป็นโอสถเทพชนิดใดโอกาสหลอมปรุงสําเร็จก็มิได้สูงนัก…มิใช เรื่องราวอันง่ายดายเยที่จักรวบรวมพวกมันได้ครบชุด 3 เม็ดในเวลาเดียวกัน เกรงว่านอกจากขุมกําลังระดับจอมราชันเทพแล้ว ให้เป็นขุมกําลังระดับราชาเทพที่แข็งแกร่งแค่ไหน ก็ยังยากจะรวบรวมพวกมันได้ครบทั้ง 3 เม็ดใน วลาเดียวกัน

 

“บัดนี้โอกาสประเสริฐอยู่เบื้องหน้าทุกท่านแล้ว…โอสถเทพ เจียอี้ปิ้ง ทั้ง 3 เม็ดในขวดนี้ มีราคาเปิดประมูล เพียงแค่หินเทพ 3,000 ตําลึงเท่านั้น!”

 

“ทุกครั้งที่เพิ่มราคาประมูล…ต้องเพิ่มหินเทพมิน้อยกว่า 1,000 ตําลึง!”

 

ในขณะที่ผู้คนมากมายกําลังตาลุกวาวและคิดจะเคลื่อนไหว โจวอน พิธีกรบนเวทีประมูลก็เริ่มประกาศราคาเริ่มต้นของโอสถเทพเลี้ยงออกมา ท่ามกลางความคาดหวังของผู้คนที่มาเข้าร่วมงานประมูลตระกูลโจว

 

“หินเทพ 3,000 ตําลึง!”

 

และแทบจะพร้อมๆกันกับที่โจวอชิ้นกล่าวจบคํา ก็มีผู้คนในโถงรวมโพล่งราคาออกมาเสียงดังฟังชัด ผลักดันบรรยากาศในโรงประมูลให้พุ่งสูงขึ้นทันใด

 

“หินเทพ 4,000 ตําลึง!”

 

ไม่ทันที่โจวอนจะขานราคาซ้ํา ก็มีอีกเสียงที่โพล่งดังขึ้น

 

และคาวนี้หลังเงียบไปหนึ่งลมหายใจ ก็มีเสียงเพิ่มราคาดังขึ้นจากมุมหนึ่งของโถงรวม “หินเทพ 5,000 ตําลึง เด็กน้อยหลบไปเสีย!!”

 

หินเทพ 5,000 ตําลึง!

 

ราคาดังกล่าว อันที่จริงแล้วก็แทบจะเป็นราคากลางของโอสถเทพเจ๋ยองทั้ง 3 เม็ดรวมกันในสถานการณ์ปกติ

 

ท้ายที่สุดแล้วหากคนทั่วไปรับประทานโอสถเทพชุดนี้ แม้จะเป็นเพียงเทพขั้นต่ํา แต่ด่านพลังก็ไม่แน่ว่าจะทะลวงขั้น เพียงแค่มีความก้าวหน้าขึ้นเท่านั้น…เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับจักรพรรดิเทพหรืออริยะเทพให้ฝึกปรือ

 

“แขกท่านนี้เสนอราคาหินเทพ 5,000 ตําลึง ไม่ทราบมีผู้ใดคิดเพิ่มราคาหรือไม่?”

 

โจวอชิ้นที่ยืนบนเวทีประมูลเอ่ยถามเสียงดัง

 

“ไม่มีแขกท่านใดเสนอราคาแล้วหรือ?”

 

“เช่นนั้น หินเทพ 5,000 ตําลึงครั้งที่ 1!”

 

โจวอนเริ่มทําการนับถอยหลังทันที และหากนับถึง 3 แล้วถ้าไม่มีผู้ใดเสนอราคาประมูลเพิ่มอีก เช่นนั้น โอสถเทพเจียอี้ปิงก็จะถูกขายให้แก่ผู้ที่เสนอราคาหินเทพ 5,000 ตําลึงทันที

 

“ผู้คนในห้องส่วนตัว ไม่มีใครสนใจหรือ?”

 

หลายคนในโถงรวมเริ่มหันไปแหงนมองหน้าต่างห้องส่วนตัวทั้งหลาย

 

“หินเทพ 6,000 ตําลึง”

 

ท่ามกลางสายตาคาดหวังของผู้คนที่หันไปแหงนมอง พลันมีเสียงหนึ่งดังจากห้องส่วนตัว น้ําเสียงยังแหลมเล็กน้อย

 

ได้ยินเสียงดังกล่าว หลายคนในโถงประมูลรวมก็จดจ่าเจ้าของเสียงได้ทันที “เสียงนี้มัน…มิใช่นายท่าน 4 แห่งตระกูลจังหรือไร?”

 

“เป็นเสียงนายท่าน 4 แห่งตระกูลจังจริงๆ!

 

ตระกูลจัง ก็เป็นตระกูลระดับราชาเทพตระกูลหนึ่งในเมืองวายุสวรรค์ และชื่อเสียงก็พอๆกับตระกูลโจว

 

และที่ไฉนมีผู้คนมากมายจดจําได้ว่าเป็นเสียงของนายท่าน 4 ตระกูลจังนั้น เพราะอีกฝ่ายรับหน้าที่ดูแลเหลาอาหารแห่งเด้วของตระกูลจัง ทําให้ผู้ที่เคยแวะเวียนผ่านไปลิ้มลองอาหารเลิศรสของเหลาอาหารตระกูลจัง มักคุ้นเคยกับเสียงของมันดี

 

“ดูเหมือนสหายหลาท่านจักจดจําเสียงของข้านายท่าน 4 ตระกูลจังผู้นี้ได้…ข้ารู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก และคงประเสริฐยิ่งหากทุกท่านไว้หน้าข้า วางมือจากโอสถเทพเจียอียิ่ง เพื่อให้ข้านําไปเป็นของขวัญให้ลูกชายคนเล็กของข้า!”

 

เมื่อมีหลายๆคนจดจําเสียงของนาย 4 ตระกูลจังได้ เจ้าตัวก็ส่งเสียงออกมาจากห้องส่วนตัวอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยคําพูดดักคอผู้อื่นดังกล่าวของมัน ทําให้โจวอวิ่นที่อยู่บนเวทีประมูลขมวดคิ้วทันที “นาย 4 สกุลจัง เจ้าคิดท้าทายอํานาจตระกูลโจวเราหรือไร เจ้ากล่าวเช่นนั้นมิใช่คิดกดดันผู้อื่นไม่ให้เสนอราคาประมูลโต้งๆ นี้ขัดต่อกฎการประมูลของโรงประมูลตระกูลโจวเรา!”

 

“หรือ…เจ้าอยากให้ทุกครั้งที่โรงประมูลตระกูลจังเจ้าจัดงาน ให้พวกเราไปกล่าวเช่นนี้บ้างหรือไม่?”

 

เป็นธรรมดาที่โจวอนไม่พอใจกับค่าพูดดังกล่าวของนาย 4 ตระกูลจัง เพราะเมื่อมันพูดแบบนี้ออกมา คนที่กล้าเสนอราคาต่อก็ถือว่าไม่ไว้หน้ามัน เช่นนั้นก็อาจเป็นการล่วงเกินตระกูลจังได้

 

ต้องทราบว่าแขกที่เข้าร่วมการประมูล ก็ใช่ว่าจะมีฐานะและอํานาจมากพอจะงัดกับตระกูลจังได้ทุกคน

 

ทว่าถึงจะเป็นคนทั่วไป ก็ไม่ขาดผู้ที่มีกําลังซื้อโอสถเทพเจียอี้ป่ง

 

แต่ผู้ที่มีกาลังซื้อเหล่านั้น เป็นธรรมดาวว่าไม่กล้าล่วงเกินตระกูลจัง!

 

อยู่ๆมาโพล่งให้ผู้อื่นไว้หน้ากลางงานประมูล ยังจะมีใครอยากแข่งประมูลอีก น่าอึดอัดไหมเล่า?

 

และไม่ต้องพูดถึงตระกูลจังทั้งตระกูล เอาแต่ตัวนาย 4 ตระกูลจังเองก็เป็นเทพขั้นสูง ที่เขียนบรรลุถึงราชาเทพเต็มที่ คนทั่วไปที่คิดประมูลโอสถเทพเจียอี้ปิง ก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สู้มันได้

 

“ฮ่าๆๆๆ…!”

 

นาย 4 ตระกูลจังหัวเราะ “อาวุโสโจวอนอย่าได้มีโทสะ ข้ามิได้ตั้งใจจะฝ่าฝืนกฏการประมูลของตระกูลโจว ท่าน…พอดีมีสหายไม่น้อยจดจําข้า นาย 4 ตระกูลจังได้ ข้าก็เลยแปลกใจจึงกล่าวคําออกไปโดยไม่รู้ตัว”

 

พอกล่าวชี้แจงจบ นา 4 ตระกูลจังก็โพล่งออกมาเสียงดังสืบต่อ “สหายทุกท่าน ข้านาย 4 ตระกูลจังเพียงกล่าวไปโดยไม่ตั้งใจ…หากสหายท่านใดยังต้องการโอสถเทพทั้ง 3 เม็ด ก็สามารถเพิ่มราคาประมูลได้ ข้านาย 4 ตระกูลจังยินดีแข่งขันอย่างเป็นธรรม”

 

อย่างไรก็ตามเสียงโพล่งของนาย 4 ตระกูลจังนั้นกลับเยียบเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด มีอํานาจขู่ขวัญผู้คนอยู่บ้าง

 

ขอเพียงผู้ฟังไม่ได้มีปัญหากับการได้ยิน ย่อมได้ยินถึงการคุกคามชัดเจน

 

พอนาย 4 ตระกูลจังกล่าวจบ มันก็ถามโจวอนด้วยน้ําเสียงยิ้มแย้ม “เช่นนี้อาวุโสโจวอชิ้นพอใจแล้วหรือไม่?”

 

“เจ้า…”

 

ในขณะที่สีหน้าโจวอชิ้นเปลี่ยนไป และดวงตาของนายเริ่มฉายแววเยียบเย็น พลันมีเสียงอ่อเยาว์ หากแต่เต็มไปด้วยพลังหนึ่งดังขึ้นจากห้องส่วนตัวห้องอื่น “หินเทพ 7,000 ตําลึง”

 

พอเสียงดังกล่าวดังขึ้นมา ชายวัยกลางคนในห้องส่วนตัวหมายเลข 6 ที่กําลังกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ รอยยิ้มบนใบหน้ามันก็ชะงักค้างไปทันใด…ยังทุบโต๊ะเบื้องหน้าดัง ปัง กล่าวสบถอย่างหัวเสียว่า “มารดามันเถอะ…ตัวบัดซบที่ไหน จึงไม่ไว้หน้าข้า!?”

 

เป็นธรรมดาว่าเสียงสบถของนาย 4 ตระกูลจังไม่ได้ดังอะไรมากมาย เพียงได้ยินกันแต่ในห้องส่วนตัวของมัน

 

เท่านั้น

 

แต่อย่างไรก็ตาม เสียงทุบโต๊ะดัง ปัง ของมันนั้น กลับดังสนั่นเข้าหูทุกคนในโถงประมูลชัดเจน

 

“นายท่าน 4 เสียงเมื่อครู่ดังออกมาจากห้องส่วนตัวหมายเลข 9″

 

ด้านหลังนาย 4 ตระกูลจัง ชายชราคนหนึ่งพลันก้าวออกมา 2 ก้าว กล่าวค่าขณะมองไปยังห้องส่วนตัวด้านนอก

 

“ห้องส่วนตัวหมายเลข 9?”

 

สองตานาย 4 ตระกูลจังฉายแววเย็นชาเรืองวูบ “ห้องหมายเลข 9 นั้น…มิใช่คนของขุมกําลังระดับจอมราชันเทพกระมัง?”

 

“มิใช่ ขุมกําลังระดับจอมราชั้นเทพอยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 1-5”

 

ชายชรากล่าวออกอีกครั้ง

 

“ประเสริฐ! ประเสริฐนัก…กล้าดีอย่างไรถึงได้คิดแข่งกับข้า!”

 

ยิ่งมาประกายในดวงตาของนาย 4 ตระกูลจังก็ยิ่งเยียบเย็น สุดท้ายหลังนิ่งไปครู่หนึ่ง มันก็โพล่งออกมาอีก ครั้ง “หินเทพ 8,000 ตําลึง”

 

คราวนี้ถึงแม้นาย 4 ตระกูลจังจะไม่ได้กล่าวอะไรมากความ แต่น้ําเสียงเพิ่มราคาประมูลของมันก็เย็นชาปานจะแช่แข็งผู้คน พาลให้ผู้คนในโถงรวมที่ได้ยยินรู้สึกเสมือนร่วงตกลงไปในหลุ่มน้ําแข็ง

 

“ดูเหมือนนายท่าน 4 จะมีโมโหแล้วจริงๆ”

 

“ไม่ทราบผู้ที่อยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 เป็นผู้ใดกันแน่…แม้วันนี้นายท่าน 4 แซ่จังจะได้โอสถเทพเจียอียิ่งไป แต่ทว่าต้องจ่ายหินเทพ 8,000 ตําลึงเช่นนี้ ข้าเกรงว่าคงไม่คิดปล่อยมันไปง่ายๆแน่!”

 

“ไม่รู้จริงๆว่ามันคิดอะไรอยู่ รู้ทั้งรู้ว่านั่นเป็นนาย 4 ตระกูลจัง แต่มันยังกล้าเพิ่มราคาอีก”

 

ผู้คนในโถงรวมเริ่มซุบซิบคุยกันอย่างออกรส

 

ในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าผู้ที่อยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 สมควรรู้แล้วว่าอะไรควรไม่ควรและเล็กเพิ่มราคา อย่างไรก็ตามผลที่ตามมาจากการเพิ่มราคาเมื่อครู่ก็ทําให้นาย 4 ตระกูลจังหัวเสียไม่น้อย และมีแนวโน้มว่าหากยังกล้เพิ่มราคาอีกครั้ง นาย 4 ตระกูลจังก็ไม่บ้าจี้เพิ่มราคาตามแล้ว

 

หินเทพ 8,000 ตําลึง!

 

สําหรับโอสถเทพทั้ง 3 เม็ด นับว่าแพงหูฉี!

 

ไม่แพงธรรมดา แต่แพงโคตร!

 

และในขณะที่ทุกคนหันไปมองห้องส่วนตัวหมายเลข 9 ก็บังเกิดเสียงดังออกมาจากห้องส่วนตัวหมายเลข 9 อีกครั้ง “หินเทพ 10,000 ตําลึง”

 

ต้วนหลิงเทียนที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 มองผ่านหน้าต่างไปยังขวดโอสถในมือโจวอนบนเวทีประมูลด้วยความสนใจ กล่าวเสนอราคาออกมาด้วยน้ําเสียงเฉยเมย ไม่ได้แยแสภัยคุกคามในน้ําเสียงของนาย 4 ตระกูลจังเลย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+