ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 112 อารมณ์เสีย

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 112 อารมณ์เสีย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 112
อารมณ์เสีย

“งั้นก็ไปกันเถอะ” ท่าทางของมู่หรงเสวี่ยที่เขาเห็นในสายตาทำให้เขาปวดหัวใจ

เขาไม่ได้พูดปลอบอะไร ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็ปลอบหัวใจที่เจ็บปวดของเธอไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ให้เวลา สิ่งที่เขาไม่รู้คือมู่หรงเสวี่ยใช้เวลาเป็นทศวรรษกว่าที่จะทำใจให้สงบลงได้และการที่เขามาปรากฏตัวเกือบจะทำให้เธอต้องล้มลงมาอีกครั้ง

อารมณ์ที่เคยดีก่อนหน้านี้หายไปหมดแล้วแต่ตอนนี้สิ่งที่เขาเป็นห่วงที่สุดคือการที่เธอต้องกลับไปอยู่คนเดียว อันที่จริงเขารู้อยู่แล้วว่าเธอไม่ได้สนใจที่อยากจะดูหนังเลย อย่างไรก็ตามเธอไม่รู้ตัวเลยว่ามือที่จับเขาอยู่นั้นแรงแค่ไหนหรือว่าหน้าเธอซีดเผือดแค่ไหน เขาอยากที่จะกอดเธอไว้ในอ้อมแขนและไม่ปล่อยให้โลกภายนอกทำร้ายเธอได้อีก
แต่เขาก็รู้ว่าตัวเองทำไม่ได้และเขาเองก็ไม่อยากที่จะใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ด้วย เขาเพียงแค่อยากที่จะยืนอยู่ข้างหลังคอยปกป้องเธอ ตราบใดที่เธอยังต้องการเขา เขาก็พร้อมที่จะทำทุกอย่าง

พวกเขาเข้าไปในโรงหนังด้วยความเงียบและเดินไปที่ช่องขายตั๋ว “เสี่ยวเสวี่ย เธออยากจะดูเรื่องอะไร?”

“อะไรก็ได้ค่ะ” มู่หรงเสวี่ยตอบกลับมาเสียงแผ่ว

“งั้นฉันเลือกเองนะ” ชูอี้เสิ่นเลือกหนังตลก หวังว่ามันจะช่วยให้มู่หรงเสวี่ยอารมณ์ดีขึ้นมาได้บ้าง

“ไปกันเถอะ เข้าไปข้างในกัน”

“ค่ะ!”
ไม่นานหลังจากที่พวกเขาเข้าไป ชางกวนโม่และ ไป๋เสวี่ยหลี่ก็เดินเข้าไปด้วยเช่นกัน เขาพูดกับโต๊ะด้านหน้า “ตั๋วสองใบเหมือนกับสองคนเมื่อกี้” ชางกวนโม่พูดอย่างเย็นชา แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากที่จะตามพวกเขาเข้าไปด้วย ตอนที่เขาเห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกันหัวใจเขาแตกสลายแต่เขาก็ทนไม่ได้ที่จะได้เห็นเธอมากกว่านี้

เดิมทีไป๋เสวี่ยหลี่คืดว่าพี่โม่อยากที่จะมาดูหนังกับเธอ ใครจะรู้ว่าจะแอบตามมู่หรงเสวี่ยเข้าไป นี่พี่โม่ไม่รู้เลยหรือไงว่าหัวใจเธอเจ็บปวดมากแค่ไหน? ตอนแรกเธอคิดว่าตราบใดที่สองคนนี้แยกกัน พี่โม่ก็จะหันมามองเธอบ้างแต่เธอไม่คิดว่ามันจะกลับกลายเป็นแย่กว่าแต่ก่อนซะอีก เขาถึงขนาดเริ่มที่จะหลบหน้าเธอ ทันทีที่เขาเห็นมู่หรงเสวี่ย เขาก็แทบจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ไม่ได้ แล้วเมื่อไรเขาถึงจะหันกลับมามองเธอจริงๆบ้าง?

ไม่นานหลังจากที่ชูอี้เสิ่นและมู่หรงเสวี่ยนั่งลง พวกเขาก็เห็นชางกวนโม่และไป๋เสวี่ยหลี่เข้ามา สีหน้าของมู่หรงเสวี่ยเปลี่ยนไปมากแล้วจึงสงบลงและหันไปมองพวกเขาเพียงสั้นๆ ชางกวนโม่มีเวลาที่จะพาไป๋เสวี่ยหลี่มาดูหนังด้วยจริงๆ ก่อนหน้านี้ที่พวกเขาคบกัน พวกเขาไม่เคยมีเวลาที่จะออกไปเที่ยวข้างนอกด้วยกันเลย ความทรงจำเดียวที่ยังเหลืออยู่คือการที่พวกเขาทะเลาะกันและช่วงเวลาไม่นานที่ใช้ด้วยกันที่วิลล่า ส่วนช่วงเวลาที่เขาได้ผ่อนคลายไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอ
ทำไมตอนนี้เธอยังมีอารมณ์ที่จะมานั่งคิดถึงเรื่องพวกนี้อีกล่ะเนี่ย? เธอมีแผนการสำหรับตัวเองแล้วและตั้งแต่นี้ไปก็จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคนพวกนี้อีก

หลังจากนั้นสักพักชางกวนโม่ก็นั่งลงที่นั่งข้างๆเธอ ร่างกายของมู่หรงเสวี่ยแข็งนิ่งและไม่ได้ขยับอะไร ทำไมเขาต้องมาซื้อที่นั่งข้างๆเธอด้วย ที่นั่งที่บริเวณนี้เป็นที่นั่งแบบคู่รัก เก้าอี้หนึ่งตัวจะนั่งได้สองคน

หลังจากที่นั่งลง ชางกวนโม่ก็หันไปมองมู่หรงเสวี่ย เขาจ้องมองใบหน้าสวยด้วยความกระหาย ดูเหมือนว่าต่อให้ไม่มีเขาเธอก็ยังมีชีวิตที่ดีได้ ผิวละเอียดของเธอไม่มีความแห้งเหี่ยวเลย ในตอนนี้เธอนั่งเงียบๆอยู่ข้างๆเขาและมองตรงไปที่หน้าจอที่อยู่ตรงหน้าและไม่สนใจที่จะหันมามองเขาด้วย

ทันใดนั้นเขาก็อยากที่จะทำลายความสงบของเธอ ทำไมถึงเป็นเขาคนเดียวที่ไม่ได้รับการอภัย

อยู่ๆชูอี้เสิ่นก็ดึงแขนของมู่หรงเสวี่ย พยุงเอวเธอและเปลี่ยนที่นั่ง
“เสี่ยวเสวี่ย ฉันชินกันการนั่งฝั่งนี้มากกว่า ฉันอยากจะเปลี่ยนที่นั่งหน่อย” ชูอี้เสิ่นพูดข้างๆหูมู่หรงเสวี่ย

มู่หรงเสวี่ยยิ้มให้พี่ชุอย่างขอบคุณ เมื่อกี้เธอแทบที่จะนั่งไม่ติด สายตาเข้มของเขาแทบจะเผามาที่ผิวของเธอซึ่งทำให้เธอตัวสั่นขึ้นมา การกระทำของพี่ชูช่วยให้เธอได้มีที่หายใจบ้าง หัวใจเธอไม่ใช่ก้อนหินที่จะทนให้เขาแกล้งได้เรื่อยๆ

ชางกวนโม่พูดออกมาอย่างไม่พอใจ “ชูอี้เสิ่น นายจะทำอะไร?”

“ทำไม ถ้าฉันจะเปลี่ยนที่นั่งฉันต้องขออนุญาตนายก่อนหรือไง?” ชูอี้เสิ่นพูดประชด

“นาย…”
“พี่โม่ ดูหนังกันเถอะค่ะ…” ไป๋เสวี่ยหลี่ดึงแขนชางกวนโม่ ทำไมเขาถึงไม่มองเธอบ้าง? มู่หรงเสวี่ยมีดีอะไร? หลังจากเวลาผ่านไปนานเธอก็ลืมพี่โม่แล้วไปคบกับผู้ชายคนอื่นแล้ว เธอไม่มีค่าอะไรกับพี่โม่แล้ว
ชางกวนโม่ดึงสายตากลับมาอย่างเย็นชา นี่เป็นหนังตลกซึ่งในบางตอนก็จะสร้างเสียงหัวเราะได้จากคนดูมากมาย มีเพียงสีหน้าของคนทั้งสี่ที่นิ่งเงียบซึ่งไม่เข้ากับบรรยากาศเอาซะเลย หนังเรื่องนี้มันเกี่ยวกับอะไรเหรอ? คนทั้งสี่ไม่รู้อะไรเลย พวกเขาต่างก็กำลังกังวลกับเรื่องของตัวเอง ความรักครั้งนี้ทำร้ายตัวพวกเขาเองและทำร้ายคนอื่นด้วย บาดแผลถูกทิ้งไว้ในหัวใจของทุกคน

จนกระทั่งทุกคนออกไปหมดแล้วแต่คนทั้งสี่ก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม สุดท้ายชูอี้เสิ่นก็ลุกขึ้นและยื่นมือไปให้มู่หรงเสวี่ย “เสี่ยวเสวี่ย ไปกันเถอะ!”

มู่หรงเสวี่ยยื่นมือออกไป ในตอนนี้เธอต้องการความเข้มแข็ง เธอค่อยๆตอบออกไปว่า “ค่ะ”

ชูอี้เสิ่นดึงเธอขึ้นมาตรงหน้าชางกวนโม่ราวกับว่าเธอกำลังจะออกไปแล้ว ชางกวนโม่จับมู่หรงเสวี่ยไว้

“เสี่ยวเสวี่ย…”
มู่หรงเสวี่ยตัวแข็งและเริ่มที่จะสั่น “กรุณาปล่อยด้วยค่ะคุณชางกวน…”

ไป๋เสวี่ยหลี่อยากที่จะแยกพวกเขาทั้งคู่แต่เธอก็ไม่กล้า เธอกลัวว่าพี่โม่จะเกลียดเธอ เธอไม่แคร์คนอื่นแต่เธอไม่อยากให้พี่โม่เกลียดเธอ จึงทำได้เพียงเก็บกดความเจ็บปวดไว้ในหัวใจ เธอทำได้เพียงแสดงท่าทางน่าสงสาร ถึงแม้เธอจะไม่ได้ความรักจากพี่โม่ อย่างน้อยเธอก็เป็นน้องสาวที่เขารักที่สุด

“เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ?” ชางกวนโม่จับเธอแรงขึ้นไปอีกราวกับว่าจะหักแขนเธอ เธอเรียกเขาว่าคุณชางกวน พวกเขาเป็นคนแปลกหน้ากันตั้งแต่เมื่อไร? ท่าทางเย็นชาของเธอทำให้เขารู้สึกเศร้าเสมอ ถ้าเขาโกรธขึ้นมาสักหน่อย เธอคงจะเจ็บตัวไปแล้วแต่เธอเป็นแค่ผู้หญิง

อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่ทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเอง หัวใจของเขากลายเป็นของเธอไปแล้ว ไม่มีใครเคยบอกเขาเวลาที่หัวใจของเขาหายไป
“คุณชางกวน ฉันไม่ได้เรียกคุณผิด ปล่อยเถอะค่ะ คุณมีความรับผิดชอบของตัวเองและฉันก็มีความนับถือในตัวเอง!” สุดท้ายมู่หรงเสวี่ยก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลออกมา

หยดน้ำตาที่ร่วงลงมือของเขาราวกับน้ำร้อนที่ลวก ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจ เธอจะทิ้งเขาไปอย่างไร้ความปรานีได้ยังไง เธอจะปล่อยเขาไปได้ยังไงหรือเธอจะบังคับเขาได้ยังไง เธอจึงไม่มีวันที่จะมอบหัวใจให้เขา

แสงจากมุมดวงตาของเขาทำให้เห็นร่องรอยจาง ๆ บนข้อมือของเธอ ทันใดนั้นดูเหมือนราวกับว่าเขาได้เห็นปีศาจ เขาปล่อยมือเธอ “เสี่ยวเสวี่ย เธอเกลียดฉันงั้นเหรอ?” ในน้ำเสียงของเขามีความหวาดกลัวอยู่ด้วย

ในตอนนี้มู่หรงเสวี่ยสะอื้น ป้อมปราการที่แข็งแกร่งไม่สามารถที่จะปกป้องหัวใจที่เจ็บปวดของเธอได้ เธอเกลียดเขางั้นเหรอ?! นอกจากความเจ็บปวดแล้ว ลักษณะที่ไม่คาดคิดและความไม่พอใจ เธอส่ายหัวเบาๆ เป็นเธอเองที่เข้าไปยุ่งกับชีวิตแต่งงานของพวกเขาในชีวิตที่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความไม่พอใจแต่ก่นด่ากับพระเจ้าว่าทำไมถึงทำกับเธอแบบนี้
เธอไม่ได้เกลียดเขา…ดวงตาของชางกวนโม่เข้มขึ้นอีกครั้ง คนอื่นมักจะบอกว่ามีเพียงคนที่รักกันเท่านั้นถึงจะเกลียดกันได้ แต่เธอไม่ได้เกลียดเขาด้วยซ้ำเพราะเธอไม่เคยรักเขาเลย

ชูอี้เสิ่นทนไม่ได้แล้วจริงๆ เดิมทีมันคงจะไม่ดีที่เขาจะเข้าไปยุ่งระหว่างความรักของพวกเขา แม้ชางกวนโม่จะไม่ดีแต่ มู่หรงเสวี่ยก็ควรเป็นคนที่จัดการเอง ไม่งั้นก็รังแต่จะทำให้เธอเจ็บปวด เขาอยากที่จะปกป้องเธออย่างมากแต่เขารู้ว่านี่ไม่ใช่วิธีที่จะช่วยเธอมีแต่จะทำร้ายเธอ ถ้าเธอเอาแต่วิ่งหนี เสี่ยวเสวี่ยก็จะไม่มีวันสบายใจ

“ชางกวนโม่ นายควรที่จะจัดการเรื่องผู้หญิงที่อยู่ข้างๆนายซะก่อนแล้วค่อยกลับมาคุยกับเสี่ยวเสวี่ย ไม่งั้นตอนนี้นายจะคุยเรื่องอะไรได้?” ชูอี้เสิ่นพูดจบแล้วจึงเดินเข้ามาช่วยมู่หรงเสวี่ยที่กำลังร้องไห้

เธอร้องไห้อย่างหนักก็เพราะเขาหรือเพราะเขาสร้างปัญหาให้เธอ…ในที่สุดเขาก็ทำลายสีหน้าที่สงบนิ่งของเธอจนได้ แต่หัวใจเขากลับยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิมราวกับว่าหัวใจเขาถูกมีดกำลังทิ่มแทง
“พี่โม่ เสี่ยวเสวี่ยเจอความสุขของเธอแล้ว เราควรจะอวยพรให้เธอ…พี่โม่ เดี๋ยวในอนาคตเราเองก็จะต้องมีความสุขนะคะ…”

ความสุขงั้นเหรอ?! ความสุขของเขาคือมู่หรงเสวี่ย ถ้าไม่มีเธอ เขาก็ไม่มีความสุข เมื่อคิดถึงคำพูดของชูอี้เสิ่น ทันใดนั้นเขาก็หันมามองไป๋เสวี่ยหลี่ ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาคือน้องสาว ดวงตาเธอเต็มไปน้ำตา เธออ่อนโยนและใจดีและถึงขนาดช่วยชีวิตเขาไว้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเธอจะดีแค่ไหน ในหัวใจเขา เธอก็เป็นได้แค่น้องสาวของเขา เขาไม่สนใจเธอเลย เขาเห็นแก่ตัวขนาดนี้ได้ยังไง ตอนนี้เขาเพียงแค่อยากให้เธอทิ้งเขาไปซะ เขาถึงขนาดบ่นขึ้นมาว่าทำไมคืนนั้นเธอถึงไม่ผลักเขาออกไป

ความเห็นแก่ตัวอย่างเย็นชาของเขาทำให้เขาอยากที่จะตบหน้าตัวเองแต่…เขาจะเสียเสี่ยวเสวี่ยไปไม่ได้จริงๆ…เขาเปิดปากและพูดออกมาด้วยเสียงแหบ “เสวี่ยหลี่…พี่ขอโทษ…”
เธอดูเหมือนจะเข้าใจความหมายของชางกวนโม่และน้ำตาของเธอก็ร่วงลงมาจนต้องฝังหน้าลงไปที่แขนของชางกวนโม่ “พี่โม่…ทำไมพี่ต้องขอโทษ…ฉันไม่ต้องการคำขอโทษ…”

ชางกวนโม่ปล่อยให้เธอร้องไห้และไม่กอดเธออยู่สักพักแต่กลับพูดออกมาด้วยเสียงแหบต่ำ “เสวี่ยหลี่ พี่ขอโทษ…พี่เสียเสี่ยวเสวี่ยไปไม่ได้…”

“แล้วฉันล่ะ? พี่โม่ ฉันจะทำยังไง…”

“พี่ขอโทษ…”
“ไม่ ฉันไม่ต้องการ…พี่โม่ ฉันจะเป็นอย่างที่พี่ต้องการ…พี่โม่ ฉันขอร้องล่ะ…พี่โม่…ฉันทำได้ พี่ไม่ต้องขอโทษ…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 112 อารมณ์เสีย

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 112 อารมณ์เสีย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 112
อารมณ์เสีย

“งั้นก็ไปกันเถอะ” ท่าทางของมู่หรงเสวี่ยที่เขาเห็นในสายตาทำให้เขาปวดหัวใจ

เขาไม่ได้พูดปลอบอะไร ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็ปลอบหัวใจที่เจ็บปวดของเธอไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ให้เวลา สิ่งที่เขาไม่รู้คือมู่หรงเสวี่ยใช้เวลาเป็นทศวรรษกว่าที่จะทำใจให้สงบลงได้และการที่เขามาปรากฏตัวเกือบจะทำให้เธอต้องล้มลงมาอีกครั้ง

อารมณ์ที่เคยดีก่อนหน้านี้หายไปหมดแล้วแต่ตอนนี้สิ่งที่เขาเป็นห่วงที่สุดคือการที่เธอต้องกลับไปอยู่คนเดียว อันที่จริงเขารู้อยู่แล้วว่าเธอไม่ได้สนใจที่อยากจะดูหนังเลย อย่างไรก็ตามเธอไม่รู้ตัวเลยว่ามือที่จับเขาอยู่นั้นแรงแค่ไหนหรือว่าหน้าเธอซีดเผือดแค่ไหน เขาอยากที่จะกอดเธอไว้ในอ้อมแขนและไม่ปล่อยให้โลกภายนอกทำร้ายเธอได้อีก
แต่เขาก็รู้ว่าตัวเองทำไม่ได้และเขาเองก็ไม่อยากที่จะใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ด้วย เขาเพียงแค่อยากที่จะยืนอยู่ข้างหลังคอยปกป้องเธอ ตราบใดที่เธอยังต้องการเขา เขาก็พร้อมที่จะทำทุกอย่าง

พวกเขาเข้าไปในโรงหนังด้วยความเงียบและเดินไปที่ช่องขายตั๋ว “เสี่ยวเสวี่ย เธออยากจะดูเรื่องอะไร?”

“อะไรก็ได้ค่ะ” มู่หรงเสวี่ยตอบกลับมาเสียงแผ่ว

“งั้นฉันเลือกเองนะ” ชูอี้เสิ่นเลือกหนังตลก หวังว่ามันจะช่วยให้มู่หรงเสวี่ยอารมณ์ดีขึ้นมาได้บ้าง

“ไปกันเถอะ เข้าไปข้างในกัน”

“ค่ะ!”
ไม่นานหลังจากที่พวกเขาเข้าไป ชางกวนโม่และ ไป๋เสวี่ยหลี่ก็เดินเข้าไปด้วยเช่นกัน เขาพูดกับโต๊ะด้านหน้า “ตั๋วสองใบเหมือนกับสองคนเมื่อกี้” ชางกวนโม่พูดอย่างเย็นชา แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากที่จะตามพวกเขาเข้าไปด้วย ตอนที่เขาเห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกันหัวใจเขาแตกสลายแต่เขาก็ทนไม่ได้ที่จะได้เห็นเธอมากกว่านี้

เดิมทีไป๋เสวี่ยหลี่คืดว่าพี่โม่อยากที่จะมาดูหนังกับเธอ ใครจะรู้ว่าจะแอบตามมู่หรงเสวี่ยเข้าไป นี่พี่โม่ไม่รู้เลยหรือไงว่าหัวใจเธอเจ็บปวดมากแค่ไหน? ตอนแรกเธอคิดว่าตราบใดที่สองคนนี้แยกกัน พี่โม่ก็จะหันมามองเธอบ้างแต่เธอไม่คิดว่ามันจะกลับกลายเป็นแย่กว่าแต่ก่อนซะอีก เขาถึงขนาดเริ่มที่จะหลบหน้าเธอ ทันทีที่เขาเห็นมู่หรงเสวี่ย เขาก็แทบจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ไม่ได้ แล้วเมื่อไรเขาถึงจะหันกลับมามองเธอจริงๆบ้าง?

ไม่นานหลังจากที่ชูอี้เสิ่นและมู่หรงเสวี่ยนั่งลง พวกเขาก็เห็นชางกวนโม่และไป๋เสวี่ยหลี่เข้ามา สีหน้าของมู่หรงเสวี่ยเปลี่ยนไปมากแล้วจึงสงบลงและหันไปมองพวกเขาเพียงสั้นๆ ชางกวนโม่มีเวลาที่จะพาไป๋เสวี่ยหลี่มาดูหนังด้วยจริงๆ ก่อนหน้านี้ที่พวกเขาคบกัน พวกเขาไม่เคยมีเวลาที่จะออกไปเที่ยวข้างนอกด้วยกันเลย ความทรงจำเดียวที่ยังเหลืออยู่คือการที่พวกเขาทะเลาะกันและช่วงเวลาไม่นานที่ใช้ด้วยกันที่วิลล่า ส่วนช่วงเวลาที่เขาได้ผ่อนคลายไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอ
ทำไมตอนนี้เธอยังมีอารมณ์ที่จะมานั่งคิดถึงเรื่องพวกนี้อีกล่ะเนี่ย? เธอมีแผนการสำหรับตัวเองแล้วและตั้งแต่นี้ไปก็จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคนพวกนี้อีก

หลังจากนั้นสักพักชางกวนโม่ก็นั่งลงที่นั่งข้างๆเธอ ร่างกายของมู่หรงเสวี่ยแข็งนิ่งและไม่ได้ขยับอะไร ทำไมเขาต้องมาซื้อที่นั่งข้างๆเธอด้วย ที่นั่งที่บริเวณนี้เป็นที่นั่งแบบคู่รัก เก้าอี้หนึ่งตัวจะนั่งได้สองคน

หลังจากที่นั่งลง ชางกวนโม่ก็หันไปมองมู่หรงเสวี่ย เขาจ้องมองใบหน้าสวยด้วยความกระหาย ดูเหมือนว่าต่อให้ไม่มีเขาเธอก็ยังมีชีวิตที่ดีได้ ผิวละเอียดของเธอไม่มีความแห้งเหี่ยวเลย ในตอนนี้เธอนั่งเงียบๆอยู่ข้างๆเขาและมองตรงไปที่หน้าจอที่อยู่ตรงหน้าและไม่สนใจที่จะหันมามองเขาด้วย

ทันใดนั้นเขาก็อยากที่จะทำลายความสงบของเธอ ทำไมถึงเป็นเขาคนเดียวที่ไม่ได้รับการอภัย

อยู่ๆชูอี้เสิ่นก็ดึงแขนของมู่หรงเสวี่ย พยุงเอวเธอและเปลี่ยนที่นั่ง
“เสี่ยวเสวี่ย ฉันชินกันการนั่งฝั่งนี้มากกว่า ฉันอยากจะเปลี่ยนที่นั่งหน่อย” ชูอี้เสิ่นพูดข้างๆหูมู่หรงเสวี่ย

มู่หรงเสวี่ยยิ้มให้พี่ชุอย่างขอบคุณ เมื่อกี้เธอแทบที่จะนั่งไม่ติด สายตาเข้มของเขาแทบจะเผามาที่ผิวของเธอซึ่งทำให้เธอตัวสั่นขึ้นมา การกระทำของพี่ชูช่วยให้เธอได้มีที่หายใจบ้าง หัวใจเธอไม่ใช่ก้อนหินที่จะทนให้เขาแกล้งได้เรื่อยๆ

ชางกวนโม่พูดออกมาอย่างไม่พอใจ “ชูอี้เสิ่น นายจะทำอะไร?”

“ทำไม ถ้าฉันจะเปลี่ยนที่นั่งฉันต้องขออนุญาตนายก่อนหรือไง?” ชูอี้เสิ่นพูดประชด

“นาย…”
“พี่โม่ ดูหนังกันเถอะค่ะ…” ไป๋เสวี่ยหลี่ดึงแขนชางกวนโม่ ทำไมเขาถึงไม่มองเธอบ้าง? มู่หรงเสวี่ยมีดีอะไร? หลังจากเวลาผ่านไปนานเธอก็ลืมพี่โม่แล้วไปคบกับผู้ชายคนอื่นแล้ว เธอไม่มีค่าอะไรกับพี่โม่แล้ว
ชางกวนโม่ดึงสายตากลับมาอย่างเย็นชา นี่เป็นหนังตลกซึ่งในบางตอนก็จะสร้างเสียงหัวเราะได้จากคนดูมากมาย มีเพียงสีหน้าของคนทั้งสี่ที่นิ่งเงียบซึ่งไม่เข้ากับบรรยากาศเอาซะเลย หนังเรื่องนี้มันเกี่ยวกับอะไรเหรอ? คนทั้งสี่ไม่รู้อะไรเลย พวกเขาต่างก็กำลังกังวลกับเรื่องของตัวเอง ความรักครั้งนี้ทำร้ายตัวพวกเขาเองและทำร้ายคนอื่นด้วย บาดแผลถูกทิ้งไว้ในหัวใจของทุกคน

จนกระทั่งทุกคนออกไปหมดแล้วแต่คนทั้งสี่ก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม สุดท้ายชูอี้เสิ่นก็ลุกขึ้นและยื่นมือไปให้มู่หรงเสวี่ย “เสี่ยวเสวี่ย ไปกันเถอะ!”

มู่หรงเสวี่ยยื่นมือออกไป ในตอนนี้เธอต้องการความเข้มแข็ง เธอค่อยๆตอบออกไปว่า “ค่ะ”

ชูอี้เสิ่นดึงเธอขึ้นมาตรงหน้าชางกวนโม่ราวกับว่าเธอกำลังจะออกไปแล้ว ชางกวนโม่จับมู่หรงเสวี่ยไว้

“เสี่ยวเสวี่ย…”
มู่หรงเสวี่ยตัวแข็งและเริ่มที่จะสั่น “กรุณาปล่อยด้วยค่ะคุณชางกวน…”

ไป๋เสวี่ยหลี่อยากที่จะแยกพวกเขาทั้งคู่แต่เธอก็ไม่กล้า เธอกลัวว่าพี่โม่จะเกลียดเธอ เธอไม่แคร์คนอื่นแต่เธอไม่อยากให้พี่โม่เกลียดเธอ จึงทำได้เพียงเก็บกดความเจ็บปวดไว้ในหัวใจ เธอทำได้เพียงแสดงท่าทางน่าสงสาร ถึงแม้เธอจะไม่ได้ความรักจากพี่โม่ อย่างน้อยเธอก็เป็นน้องสาวที่เขารักที่สุด

“เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ?” ชางกวนโม่จับเธอแรงขึ้นไปอีกราวกับว่าจะหักแขนเธอ เธอเรียกเขาว่าคุณชางกวน พวกเขาเป็นคนแปลกหน้ากันตั้งแต่เมื่อไร? ท่าทางเย็นชาของเธอทำให้เขารู้สึกเศร้าเสมอ ถ้าเขาโกรธขึ้นมาสักหน่อย เธอคงจะเจ็บตัวไปแล้วแต่เธอเป็นแค่ผู้หญิง

อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่ทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเอง หัวใจของเขากลายเป็นของเธอไปแล้ว ไม่มีใครเคยบอกเขาเวลาที่หัวใจของเขาหายไป
“คุณชางกวน ฉันไม่ได้เรียกคุณผิด ปล่อยเถอะค่ะ คุณมีความรับผิดชอบของตัวเองและฉันก็มีความนับถือในตัวเอง!” สุดท้ายมู่หรงเสวี่ยก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลออกมา

หยดน้ำตาที่ร่วงลงมือของเขาราวกับน้ำร้อนที่ลวก ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจ เธอจะทิ้งเขาไปอย่างไร้ความปรานีได้ยังไง เธอจะปล่อยเขาไปได้ยังไงหรือเธอจะบังคับเขาได้ยังไง เธอจึงไม่มีวันที่จะมอบหัวใจให้เขา

แสงจากมุมดวงตาของเขาทำให้เห็นร่องรอยจาง ๆ บนข้อมือของเธอ ทันใดนั้นดูเหมือนราวกับว่าเขาได้เห็นปีศาจ เขาปล่อยมือเธอ “เสี่ยวเสวี่ย เธอเกลียดฉันงั้นเหรอ?” ในน้ำเสียงของเขามีความหวาดกลัวอยู่ด้วย

ในตอนนี้มู่หรงเสวี่ยสะอื้น ป้อมปราการที่แข็งแกร่งไม่สามารถที่จะปกป้องหัวใจที่เจ็บปวดของเธอได้ เธอเกลียดเขางั้นเหรอ?! นอกจากความเจ็บปวดแล้ว ลักษณะที่ไม่คาดคิดและความไม่พอใจ เธอส่ายหัวเบาๆ เป็นเธอเองที่เข้าไปยุ่งกับชีวิตแต่งงานของพวกเขาในชีวิตที่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความไม่พอใจแต่ก่นด่ากับพระเจ้าว่าทำไมถึงทำกับเธอแบบนี้
เธอไม่ได้เกลียดเขา…ดวงตาของชางกวนโม่เข้มขึ้นอีกครั้ง คนอื่นมักจะบอกว่ามีเพียงคนที่รักกันเท่านั้นถึงจะเกลียดกันได้ แต่เธอไม่ได้เกลียดเขาด้วยซ้ำเพราะเธอไม่เคยรักเขาเลย

ชูอี้เสิ่นทนไม่ได้แล้วจริงๆ เดิมทีมันคงจะไม่ดีที่เขาจะเข้าไปยุ่งระหว่างความรักของพวกเขา แม้ชางกวนโม่จะไม่ดีแต่ มู่หรงเสวี่ยก็ควรเป็นคนที่จัดการเอง ไม่งั้นก็รังแต่จะทำให้เธอเจ็บปวด เขาอยากที่จะปกป้องเธออย่างมากแต่เขารู้ว่านี่ไม่ใช่วิธีที่จะช่วยเธอมีแต่จะทำร้ายเธอ ถ้าเธอเอาแต่วิ่งหนี เสี่ยวเสวี่ยก็จะไม่มีวันสบายใจ

“ชางกวนโม่ นายควรที่จะจัดการเรื่องผู้หญิงที่อยู่ข้างๆนายซะก่อนแล้วค่อยกลับมาคุยกับเสี่ยวเสวี่ย ไม่งั้นตอนนี้นายจะคุยเรื่องอะไรได้?” ชูอี้เสิ่นพูดจบแล้วจึงเดินเข้ามาช่วยมู่หรงเสวี่ยที่กำลังร้องไห้

เธอร้องไห้อย่างหนักก็เพราะเขาหรือเพราะเขาสร้างปัญหาให้เธอ…ในที่สุดเขาก็ทำลายสีหน้าที่สงบนิ่งของเธอจนได้ แต่หัวใจเขากลับยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิมราวกับว่าหัวใจเขาถูกมีดกำลังทิ่มแทง
“พี่โม่ เสี่ยวเสวี่ยเจอความสุขของเธอแล้ว เราควรจะอวยพรให้เธอ…พี่โม่ เดี๋ยวในอนาคตเราเองก็จะต้องมีความสุขนะคะ…”

ความสุขงั้นเหรอ?! ความสุขของเขาคือมู่หรงเสวี่ย ถ้าไม่มีเธอ เขาก็ไม่มีความสุข เมื่อคิดถึงคำพูดของชูอี้เสิ่น ทันใดนั้นเขาก็หันมามองไป๋เสวี่ยหลี่ ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาคือน้องสาว ดวงตาเธอเต็มไปน้ำตา เธออ่อนโยนและใจดีและถึงขนาดช่วยชีวิตเขาไว้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเธอจะดีแค่ไหน ในหัวใจเขา เธอก็เป็นได้แค่น้องสาวของเขา เขาไม่สนใจเธอเลย เขาเห็นแก่ตัวขนาดนี้ได้ยังไง ตอนนี้เขาเพียงแค่อยากให้เธอทิ้งเขาไปซะ เขาถึงขนาดบ่นขึ้นมาว่าทำไมคืนนั้นเธอถึงไม่ผลักเขาออกไป

ความเห็นแก่ตัวอย่างเย็นชาของเขาทำให้เขาอยากที่จะตบหน้าตัวเองแต่…เขาจะเสียเสี่ยวเสวี่ยไปไม่ได้จริงๆ…เขาเปิดปากและพูดออกมาด้วยเสียงแหบ “เสวี่ยหลี่…พี่ขอโทษ…”
เธอดูเหมือนจะเข้าใจความหมายของชางกวนโม่และน้ำตาของเธอก็ร่วงลงมาจนต้องฝังหน้าลงไปที่แขนของชางกวนโม่ “พี่โม่…ทำไมพี่ต้องขอโทษ…ฉันไม่ต้องการคำขอโทษ…”

ชางกวนโม่ปล่อยให้เธอร้องไห้และไม่กอดเธออยู่สักพักแต่กลับพูดออกมาด้วยเสียงแหบต่ำ “เสวี่ยหลี่ พี่ขอโทษ…พี่เสียเสี่ยวเสวี่ยไปไม่ได้…”

“แล้วฉันล่ะ? พี่โม่ ฉันจะทำยังไง…”

“พี่ขอโทษ…”
“ไม่ ฉันไม่ต้องการ…พี่โม่ ฉันจะเป็นอย่างที่พี่ต้องการ…พี่โม่ ฉันขอร้องล่ะ…พี่โม่…ฉันทำได้ พี่ไม่ต้องขอโทษ…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+