ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 63 เหรียญแห่งชัยชนะ

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 63 เหรียญแห่งชัยชนะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 63
เหรียญแห่งชัยชนะ

ฉินเมิ่งหยายืนอย่างไร้สติอยู่ที่อีกฝั่ง เป็นไปได้ยังไง? นี่เธอเพิ่งเจอหยกที่ดีมากอย่างสามเซียนแล้วนะ แต่ก็ยังแพ้

เธอไม่ได้ยินเสียงดังที่อยู่รอบๆเลย ตอนนี้เธอคิดแต่เพียงว่าเธอแพ้ให้กับผู้หญิงชั้นต่ำคนนี้ แล้วเธอจะประนีประนอมได้ยังไงบ้าง?!!! เรื่องนี้จะต้องกระจายไปทั่วแน่ๆ! สายตาแห่งความชื่นชมของทุกคนจะต้องเป็นของเธอสิ เป็นไปได้ยังไงกัน?! ทำไมถึงไม่เป็นเธอ?!

เมื่อมู่หรงเสวี่ยเห็นสีหน้าที่ซีดเผือดของฉินเมิ่งหยา เธอไม่รู้สึกสงสารเลยสักนิด ความรู้สึกสงสารของเธอหายไปตั้งแต่ชีวิตที่แล้วแล้ว

หลังจากที่กรรมการประกาศผู้ชนะ มู่หรงเสวี่ยก็เดินช้าๆไปที่ฉินเมิ่งหยา “คุณฉินเมิ่งหยา ได้เวลาที่คุณจะต้องทำตามสิ่งที่พนันไว้แล้วนะคะ”

สีหน้าของฉินเมิ่งหยาเปลี่ยนจากซีดเป็นดำ สลับไปสลับมาและริมฝีปากของเธอก็สั่นรัว “…” แต่กลับไม่มีเสียงอะไรดังออกมา

มู่หรงเสวี่ยไม่กลัวว่าเธอจะเบี้ยว ห้องรับรองทนายความไม่ใช่แค่ที่ตัดสินผู้ชนะหรือผู้แพ้เท่านั้น ถ้ามีใครปฏิเสธที่จะรับรู้ความพ่ายแพ้ ทางสำนักทนายความจะประกาศผลของการแข่งขันนี้ให้ทั้งโลกได้รู้พรุ่งนี้ แล้วจะประกาศรายละเอียดทั้งหมดทั้งทางสื่อและอินเทอร์เน็ตด้วย

สำนักทนายความไม่ได้อยู่ใต้อำนาจของตระกูลไหน และไม่ไว้หน้าใครแค่เพราะฉินเมิ่งหยาเป็นลูกสาวของตระกูลเก่าแก่ด้วย จึงเป็นเรื่องที่ยากที่จะเบี้ยว

“ทำไมคะ คุณอยากที่จะเบี้ยวงั้นเหรอ?” มู่หรงเสวี่ยไม่ใจดี ถ้าเป็นเธอที่แพ้ ฉินเมิ่งหยาคงจะรุนแรงกับเธอกว่านี้แน่
ผู้บริหารระดับสูงของห้องรับรองเอกสารได้ยินเรื่องนี้จึงเดินเข้ามาร่วมด้วย “คุณฉินเมิ่งหยา กรุณาทำตามข้อตกลงการพนันด้วย ไม่งั้นคุณจะได้รู้ความน่ากลัวของพวกเรา”

“ฉัน…แน่นอน ฉันไม่เบี้ยวหรอกน่า…ฉันมีเวลาเตรียมตัวอีก 10 วันไม่ใช่เหรอ?! จะเร่งอะไรกันเล่า?” ยังปากเก่งอยู่นิดหน่อยแต่ก็ขาดความมั่นใจไปมาก

มู่หรงเสวี่ยพอใจกับหน้าซีดๆของเธออยู่นานก่อนที่จะพูดว่า “เอาเป็นว่าถ้าคุณไม่มีเงินมาจ่ายหนึ่งพันล้าน คุณจะเอาหยกมาจ่ายค่าพนันก็ได้นะ ฉันยอมรับได้เหมือนกัน”

หยกสามเซียนมีขนาดประมาณ 10 จินและถ้าเอาไปเจียระไนดีๆให้เป็นสร้อยข้อมือน่าจะมีค่าหลายสิบล้านเลย นอกจากนี้จากที่มองด้วยสายตา หยกนี่น่าจะเอาไปทำสร้อยข้อมือได้อย่างน้อยก็ 20 เส้นเลย นี่ยังไม่รวมส่วนที่เหลืออีกนะที่สามารถเอาไปทำเป็นจานหยกกับจี้ได้อีกหลายชิ้น ราคา 1 พันล้านก็ไม่น่าจะมากหรือน้อยเกินไป

“เธอไปแล้ว นี่เธอยังอยากได้สมบัติของฉันอีกเหรอ หยกของฉันมีค่ามากกว่า 1 พันล้านนะ!” ฉินเมิ่งหยาเบิกตากว้างและจ้องอย่างไม่พอใจไปที่มู่หรงเสวี่ย ถ้าเธอกลับบ้านไปพร้อมหยกสามเซียนนี้ บางทีที่บ้านอาจจะไม่ด่าเธอเรื่องที่เธอพนันด้วยเงินพันล้านหยวนก็ได้ แต่ถ้าเธอไม่เอากลับไปด้วย เธอต้องโดนด่าแน่ๆ

“ในเมื่อคุณไม่ต้องการแบบนั้น ฉันก็ไม่ชอบบังคับใครด้วย แต่ดูเหมือนคุณจะลืมไปเรื่องหนึ่งนะคะ”

หน้าของฉินเมิ่งหยาซีดลงกว่าเดิมอีก
มู่หรงเสวี่ยแสยะและพยายามที่จะนิ่งไว้ เป็นไปได้ยังไง “อย่าลืมที่จะเห่าสามครั้งต่อหน้าผู้คนด้วยนะคะ…คุณฉิน…”

“แก…แก…”
“ทำไมคะ คุณจะไม่ทำงั้นเหรอ?! งั้นฉันคงต้องปล่อยให้เป็นปัญหาของทางห้องรับรองแล้ว…”

ตัวของฉินเมิ่งหยาสั่นไปหมดและมองไปที่ผู้คนที่อยู่ด้านล่างเวที หลายคนมาจากตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ถ้าวันนี้เธอเห่าที่นี่ เธอคงไม่มีหน้าที่จะเข้าไปในตระกูลไหนแน่ๆ นี่ไม่ต้องพูดถึงการเข้างานสังคมเลยด้วย

“เธอ…เธอ…เธอจะให้ฉันทำแบบนั้นได้ยังไง…” ในเวลานี้ ฉินเมิ่งหยายังโมโหและอวดดีเหมือนกับตอนแรกไม่มีผิด น้ำตาเอ่อล้นในตาและน้ำตาที่ไม่สามารถจะปล่อยให้ไหลออกมาได้ยิ่งเจ็บปวดมากกว่า ในตอนนี้ราชสีห์กลับกลายเป็นหนูน้อยในทันที
ที่เวทีผู้คนเริ่มที่จะซุบซิบกันแล้ว

“จะให้เห่าเหมือนหมาได้ยังไง? ใครเป็นคนตั้งกฎนี้เนี่ย?”
“ไม่รู้สิ เดาว่าพวกเธอสองคนคงเกลียดกันมาก ฉันไม่ชอบเลยเวลาที่พวกคนชั้นสูงต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้”

“แต่คุณหนูตระกูลฉินคงจะอับอายน่าดูเลย”
“ในความคิดฉันนะ มันเกินไปหรือเปล่าที่จะให้เห่าเหมือนหมาน่ะ…”
“เอ๊ะ ฉันคิดว่าชื่อมู่หรงเสวี่ยก็ฟังดูคุ้นๆเหมือนกันนะ…”
“ไม่นะ ฉันไม่เคยได้ยินเลย…”
“ฉันก็เหมือนกัน ไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลย…”
“…”
จริงๆแล้วมู่หรงเสวี่ยไม่ได้มีเจตนาที่จะให้เธอเห่าจริงๆหรอก เธอไม่ได้อยากที่จะเข้าไปยุ่งกับตระกูลฉินแห่งเมืองหลวง ทางสำนักทนายความไม่ได้กลัวเรื่องการแก้แค้น ถ้าเป็นเธอคนเดียว เธอก็คงไม่กลัว เหตุผลเดียวที่เธอกลัวก็คือตระกูลฉินจะเอาความโกรธไปลงกับมู่หรงกรุ๊ป แบบนั้นคงจะแย่แน่ๆ หลังจากที่คิดเรื่องนี้ เธอจึงพูดออกไปว่า “งั้น ถ้าคุณยอมที่จะใช้หยกสามเซียนมาจ่ายแทนเงินหนึ่งพันล้านหยวน ฉันก็จะไม่สนใจเรื่องการเห่า”

“เธอ…เธอ…” ฉินเมิ่งหยากัดฟันกรอด อันที่จริงเธอไม่มีเงินพันล้านหยวนแต่เธออยากที่จะใช้หยกสามเซียนนี้มาเป็นหน้าเป็นตาของเธอ

ตอนนี้เธอไม่มีเงินพันล้านและก็ไม่กล้าที่จะพูดเรื่องนี้กับครอบครัวด้วย ดูเหมือนว่าทางเลือกที่ดีที่สุดคือการใช้หยกสามเซียนนี้เพื่อจ่ายหนี้

มู่หรงเสวี่ยไม่ได้เร่งรีบ แต่ค่อยๆเพลิดเพลินอยู่กับความกังวลของฉินเมิ่งหยา
หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฉินเมิ่งหยาก็ตัดสินใจและพูดออกไปด้วยความเกลียด “งั้นหยกแห่งความมั่งคั่งและอายุยืนก็เป็นของเธอแล้ว” แล้วเธอก็รีบวิ่งหนีออกไป วันนี้ช่างเป็นวันที่เสียศักดิ์ศรีจริงๆ

“คุณมู่หรง จะขายหินหยกทั้งสองชิ้นนี้ไหมครับ?”
“ใช่ ราคาต่อรองกันได้นะ”
“ฉันขอซื้อชิ้นมั่งคั่งกับอายุยืนในราคา 1.5 พันล้าน”
“1.6 พันล้าน…”
“…”
มีเสียงการเสนอราคาของผู้คนดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องแล้วมู่หรงเสวี่ยก็พูดขัดขึ้นมา “ขอโทษนะคะทุกคน ฉันไม่ได้คิดว่าจะขายหยกทั้งสองชิ้นนี้ค่ะ!” หลังจากนั้นเธอก็คิดว่าจะบอกให้พนักงานขนหยกกลับไปที่ห้องเธอ
“น่าเสียดายนะที่ไม่ขาย”
“มันไม่ใช่ของที่จะขายกันทั่วไป ใครกันอยากจะขายหยกที่ดีมากขนาดนั้น…”
“ก็จริงอ่ะนะ”
“อ่า? ฉันจำได้แล้วว่าเธอเป็นใคร”
“ใครเหรอ? ใครกัน”
“เธอคือเจ้าแห่งการพนันของเมือง A ไง เธอเคยเจอหยกจักรพรรดิตั้งสองครั้งแน่ะ”
“จริงเหรอ?! หยกจักรพรรดิเลยเหรอ?! คิดว่าเป็นผักกาดขาวหรือไง…”
“เรื่องจริงนะ ชิ้นหนึ่งถูกคุณชายของตระกูลชางกวนซื้อไปด้วย…”
“พระเจ้า เจ้าแห่งการพนัน”
“เห็นไหม ครั้งนี้เธอแกะได้พรทั้งห้าเลยนะ มันหายากกว่าตายอีกนะ ทำไมฉันไม่โชคดีแบบนี้บ้างนะ?”

“อย่าพูดแบบนั้นสิ คุณมู่หรงคนนี้เหมาะกับคุณชายหลิน คุณชายเล็กมากเลยนะ”
“…”
ในตอนนี้ มู่หรงเสวี่ยที่กลับมาที่ห้องแล้วซึ่งไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองสร้างเรื่องอะไรไว้ ในไม่ช้าในวงสังคมของเมืองหลวง มู่หรงเสวี่ยชื่อของเจ้าแห่งการพนันหินก็ดังไปทั่วแล้ว

มู่หรงเสวี่ยกำลังมีความสุขอยู่กับมรกตหลากสีที่อยู่บนโต๊ะในห้องนั่งเล่น
ชางกวนโม่เดินกลับเข้ามา แตะที่หัวของมู่หรงเสวี่ยและถามด้วยรอยยิ้ม “นี่คือหยกสองชิ้นที่ทำให้เธอดังวันนี้น่ะเหรอ?”

อะ?! “กลับมาแล้วเหรอ? ดูสิ สวยไหมคะ?” มู่หรงเสวี่ยมีท่าทางตื่นเต้นกับชัยชนะของตัวเองมาก

“ฮ่าฮ่า สวยสิ! แต่ทำไมไม่บอกฉันล่ะว่าวันนี้เธอจะไปพนัน” เขาไม่พอใจเล็กน้อยเพราะถ้าเขารู้ก็จะได้ไปกับเธอด้วย ฉินเมิ่งหยาเป็นพวกชอบเอาชนะ เขากลัวว่ามู่หรงเสวี่ยจะโดนรังแก

มู่หรงเสวี่ยนวดที่ฝ่ามือของเขาซึ่งทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก “คุณยุ่งไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ฉันจัดการได้…”

ชางกวนโม่อุ้มมู่หรงเสวี่ยขึ้นมานั่งบนขาเขา เอามือกอดรอบเอวเธอ “ฉันอยากรู้ทุกเรื่องของเธอไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่นะเสี่ยวเสวี่ย!”

“อ่า! ตกใจหมดเลย…งั้นต่อไปฉันจะเล่าให้คุณฟังทุกเรื่อง ฉันเบื่อจะตาย…” มู่หรงเสวี่ยกลอกตา

น่ารักอะไรขนาดนี้! ท่าทางการกลอกตาของเธอก็น่ารักมากเหมือนกัน ชางกวนโม่ที่กำลังอยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะก็อดไม่ได้ที่จะจูบลงที่ริมฝีปากแดงของเธอ

หลังจากเวลาผ่านไปนานกว่าที่ชางกวนโม่จะปล่อยเธอ แล้วก็มองไปที่หยกสองชิ้นที่อยู่บนโต๊ะและพูดออกมาช้าๆ “ขายสองชิ้นนี้ให้ฉันได้ไหม?”

“มีอะไรเหรอ? ครั้งที่แล้วคุณก็ซื้อหยกจักรพรรดิจากฉันไปสองชิ้นแล้วนะ คุณจะเอาหยกดีๆไปทำอะไรเยอะแยะ?” มู่หรงเสวี่ยไม่เชื่อว่าเขาโลภจนอยากจะได้หยกดีๆของเธอ เวลาที่เธอพูดถึงเรื่องหยก ชางกวนโม่มักจะมีสีหน้าเศร้าเสมอ

ชางกวนโม่เงียบไปนาน แล้วก็ค่อยเปิดปากพูด “เอามันไปช่วยคน…”
ช่วยคนงั้นเหรอ?! เธอไม่รู้ได้ยังไงว่าหยกดีๆสามารถช่วยคนได้… “พี่โม่ นี่ล้อฉันเล่นหรือเปล่า? หยกจะช่วยคนได้ยังไงคะ?”

ชางกวนโม่ถอนหายใจแล้วพูดต่อว่า “ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันมีหุ้นส่วนที่เป็นเหมือนน้องสาว ในตอนนั้นฉันสนิทกับเธอมาก เธอเคยโคม่า เคยไปหาหมอดังๆมาทั่วแล้วแต่ต่างก็บอกว่าช่วยอะไรไม่ได้ แล้วก็มีหมอจีนโบราณบอกว่าสามารถรักษาสัญญาณหัวใจเธอไว้ได้ด้วยหยกดีๆรอจนกว่าจะเจอวิธีรักษา ฉันไม่เชื่อเรื่องนี้ หลังจากที่ฉันซื้อหยกจักรพรรดิที่เธอขายให้ในตอนนั้นมาแล้วก็เอาไปวางข้างๆเตียงเธอ สีหน้าของเธอก็ดีขึ้นมาก…”

ช่างเป็นโรคที่แปลกจริงๆ “พี่โม่ พาฉันไปหาเธอได้ไหม ฉันพอจะมีทักษะเรื่องการรักษาอยู่บ้าง”

ชางกวนโม่รู้ว่าเธอมีความสามารถมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถรักษาผู้เฒ่าโม่ได้ แต่เขากลัวว่าเธอจะเข้าใจเขาผิด ว่าที่เขาเข้าหาเธอเพราะสนใจเรื่องทักษะการรักษาของเธอ อันที่จริงในตอนแรกเขาไม่ได้สนใจอะไรเธอเลย แต่ยิ่งเขาอยู่กับเธอมากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งสนใจเธอมากขึ้นเท่านั้น

จนตอนนี้เป้าหมายหลักในตอนแรกไม่สำคัญอีกแล้ว เขาเพียงแค่อยากให้เธออยู่ข้างๆเขาทั้งตัวและหัวใจ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

“ขอบคุณนะเสี่ยวเสวี่ย…และฉันรักเธอนะ…”
“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก ด้วยความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้ ฉันยินดีจะช่วยคุณ” มู่หรงเสวี่ยเองที่ยิ้มอย่างมีความสุขอยู่ที่อกของชางกวนโม่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 63 เหรียญแห่งชัยชนะ

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 63 เหรียญแห่งชัยชนะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 63
เหรียญแห่งชัยชนะ

ฉินเมิ่งหยายืนอย่างไร้สติอยู่ที่อีกฝั่ง เป็นไปได้ยังไง? นี่เธอเพิ่งเจอหยกที่ดีมากอย่างสามเซียนแล้วนะ แต่ก็ยังแพ้

เธอไม่ได้ยินเสียงดังที่อยู่รอบๆเลย ตอนนี้เธอคิดแต่เพียงว่าเธอแพ้ให้กับผู้หญิงชั้นต่ำคนนี้ แล้วเธอจะประนีประนอมได้ยังไงบ้าง?!!! เรื่องนี้จะต้องกระจายไปทั่วแน่ๆ! สายตาแห่งความชื่นชมของทุกคนจะต้องเป็นของเธอสิ เป็นไปได้ยังไงกัน?! ทำไมถึงไม่เป็นเธอ?!

เมื่อมู่หรงเสวี่ยเห็นสีหน้าที่ซีดเผือดของฉินเมิ่งหยา เธอไม่รู้สึกสงสารเลยสักนิด ความรู้สึกสงสารของเธอหายไปตั้งแต่ชีวิตที่แล้วแล้ว

หลังจากที่กรรมการประกาศผู้ชนะ มู่หรงเสวี่ยก็เดินช้าๆไปที่ฉินเมิ่งหยา “คุณฉินเมิ่งหยา ได้เวลาที่คุณจะต้องทำตามสิ่งที่พนันไว้แล้วนะคะ”

สีหน้าของฉินเมิ่งหยาเปลี่ยนจากซีดเป็นดำ สลับไปสลับมาและริมฝีปากของเธอก็สั่นรัว “…” แต่กลับไม่มีเสียงอะไรดังออกมา

มู่หรงเสวี่ยไม่กลัวว่าเธอจะเบี้ยว ห้องรับรองทนายความไม่ใช่แค่ที่ตัดสินผู้ชนะหรือผู้แพ้เท่านั้น ถ้ามีใครปฏิเสธที่จะรับรู้ความพ่ายแพ้ ทางสำนักทนายความจะประกาศผลของการแข่งขันนี้ให้ทั้งโลกได้รู้พรุ่งนี้ แล้วจะประกาศรายละเอียดทั้งหมดทั้งทางสื่อและอินเทอร์เน็ตด้วย

สำนักทนายความไม่ได้อยู่ใต้อำนาจของตระกูลไหน และไม่ไว้หน้าใครแค่เพราะฉินเมิ่งหยาเป็นลูกสาวของตระกูลเก่าแก่ด้วย จึงเป็นเรื่องที่ยากที่จะเบี้ยว

“ทำไมคะ คุณอยากที่จะเบี้ยวงั้นเหรอ?” มู่หรงเสวี่ยไม่ใจดี ถ้าเป็นเธอที่แพ้ ฉินเมิ่งหยาคงจะรุนแรงกับเธอกว่านี้แน่
ผู้บริหารระดับสูงของห้องรับรองเอกสารได้ยินเรื่องนี้จึงเดินเข้ามาร่วมด้วย “คุณฉินเมิ่งหยา กรุณาทำตามข้อตกลงการพนันด้วย ไม่งั้นคุณจะได้รู้ความน่ากลัวของพวกเรา”

“ฉัน…แน่นอน ฉันไม่เบี้ยวหรอกน่า…ฉันมีเวลาเตรียมตัวอีก 10 วันไม่ใช่เหรอ?! จะเร่งอะไรกันเล่า?” ยังปากเก่งอยู่นิดหน่อยแต่ก็ขาดความมั่นใจไปมาก

มู่หรงเสวี่ยพอใจกับหน้าซีดๆของเธออยู่นานก่อนที่จะพูดว่า “เอาเป็นว่าถ้าคุณไม่มีเงินมาจ่ายหนึ่งพันล้าน คุณจะเอาหยกมาจ่ายค่าพนันก็ได้นะ ฉันยอมรับได้เหมือนกัน”

หยกสามเซียนมีขนาดประมาณ 10 จินและถ้าเอาไปเจียระไนดีๆให้เป็นสร้อยข้อมือน่าจะมีค่าหลายสิบล้านเลย นอกจากนี้จากที่มองด้วยสายตา หยกนี่น่าจะเอาไปทำสร้อยข้อมือได้อย่างน้อยก็ 20 เส้นเลย นี่ยังไม่รวมส่วนที่เหลืออีกนะที่สามารถเอาไปทำเป็นจานหยกกับจี้ได้อีกหลายชิ้น ราคา 1 พันล้านก็ไม่น่าจะมากหรือน้อยเกินไป

“เธอไปแล้ว นี่เธอยังอยากได้สมบัติของฉันอีกเหรอ หยกของฉันมีค่ามากกว่า 1 พันล้านนะ!” ฉินเมิ่งหยาเบิกตากว้างและจ้องอย่างไม่พอใจไปที่มู่หรงเสวี่ย ถ้าเธอกลับบ้านไปพร้อมหยกสามเซียนนี้ บางทีที่บ้านอาจจะไม่ด่าเธอเรื่องที่เธอพนันด้วยเงินพันล้านหยวนก็ได้ แต่ถ้าเธอไม่เอากลับไปด้วย เธอต้องโดนด่าแน่ๆ

“ในเมื่อคุณไม่ต้องการแบบนั้น ฉันก็ไม่ชอบบังคับใครด้วย แต่ดูเหมือนคุณจะลืมไปเรื่องหนึ่งนะคะ”

หน้าของฉินเมิ่งหยาซีดลงกว่าเดิมอีก
มู่หรงเสวี่ยแสยะและพยายามที่จะนิ่งไว้ เป็นไปได้ยังไง “อย่าลืมที่จะเห่าสามครั้งต่อหน้าผู้คนด้วยนะคะ…คุณฉิน…”

“แก…แก…”
“ทำไมคะ คุณจะไม่ทำงั้นเหรอ?! งั้นฉันคงต้องปล่อยให้เป็นปัญหาของทางห้องรับรองแล้ว…”

ตัวของฉินเมิ่งหยาสั่นไปหมดและมองไปที่ผู้คนที่อยู่ด้านล่างเวที หลายคนมาจากตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ถ้าวันนี้เธอเห่าที่นี่ เธอคงไม่มีหน้าที่จะเข้าไปในตระกูลไหนแน่ๆ นี่ไม่ต้องพูดถึงการเข้างานสังคมเลยด้วย

“เธอ…เธอ…เธอจะให้ฉันทำแบบนั้นได้ยังไง…” ในเวลานี้ ฉินเมิ่งหยายังโมโหและอวดดีเหมือนกับตอนแรกไม่มีผิด น้ำตาเอ่อล้นในตาและน้ำตาที่ไม่สามารถจะปล่อยให้ไหลออกมาได้ยิ่งเจ็บปวดมากกว่า ในตอนนี้ราชสีห์กลับกลายเป็นหนูน้อยในทันที
ที่เวทีผู้คนเริ่มที่จะซุบซิบกันแล้ว

“จะให้เห่าเหมือนหมาได้ยังไง? ใครเป็นคนตั้งกฎนี้เนี่ย?”
“ไม่รู้สิ เดาว่าพวกเธอสองคนคงเกลียดกันมาก ฉันไม่ชอบเลยเวลาที่พวกคนชั้นสูงต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้”

“แต่คุณหนูตระกูลฉินคงจะอับอายน่าดูเลย”
“ในความคิดฉันนะ มันเกินไปหรือเปล่าที่จะให้เห่าเหมือนหมาน่ะ…”
“เอ๊ะ ฉันคิดว่าชื่อมู่หรงเสวี่ยก็ฟังดูคุ้นๆเหมือนกันนะ…”
“ไม่นะ ฉันไม่เคยได้ยินเลย…”
“ฉันก็เหมือนกัน ไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลย…”
“…”
จริงๆแล้วมู่หรงเสวี่ยไม่ได้มีเจตนาที่จะให้เธอเห่าจริงๆหรอก เธอไม่ได้อยากที่จะเข้าไปยุ่งกับตระกูลฉินแห่งเมืองหลวง ทางสำนักทนายความไม่ได้กลัวเรื่องการแก้แค้น ถ้าเป็นเธอคนเดียว เธอก็คงไม่กลัว เหตุผลเดียวที่เธอกลัวก็คือตระกูลฉินจะเอาความโกรธไปลงกับมู่หรงกรุ๊ป แบบนั้นคงจะแย่แน่ๆ หลังจากที่คิดเรื่องนี้ เธอจึงพูดออกไปว่า “งั้น ถ้าคุณยอมที่จะใช้หยกสามเซียนมาจ่ายแทนเงินหนึ่งพันล้านหยวน ฉันก็จะไม่สนใจเรื่องการเห่า”

“เธอ…เธอ…” ฉินเมิ่งหยากัดฟันกรอด อันที่จริงเธอไม่มีเงินพันล้านหยวนแต่เธออยากที่จะใช้หยกสามเซียนนี้มาเป็นหน้าเป็นตาของเธอ

ตอนนี้เธอไม่มีเงินพันล้านและก็ไม่กล้าที่จะพูดเรื่องนี้กับครอบครัวด้วย ดูเหมือนว่าทางเลือกที่ดีที่สุดคือการใช้หยกสามเซียนนี้เพื่อจ่ายหนี้

มู่หรงเสวี่ยไม่ได้เร่งรีบ แต่ค่อยๆเพลิดเพลินอยู่กับความกังวลของฉินเมิ่งหยา
หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฉินเมิ่งหยาก็ตัดสินใจและพูดออกไปด้วยความเกลียด “งั้นหยกแห่งความมั่งคั่งและอายุยืนก็เป็นของเธอแล้ว” แล้วเธอก็รีบวิ่งหนีออกไป วันนี้ช่างเป็นวันที่เสียศักดิ์ศรีจริงๆ

“คุณมู่หรง จะขายหินหยกทั้งสองชิ้นนี้ไหมครับ?”
“ใช่ ราคาต่อรองกันได้นะ”
“ฉันขอซื้อชิ้นมั่งคั่งกับอายุยืนในราคา 1.5 พันล้าน”
“1.6 พันล้าน…”
“…”
มีเสียงการเสนอราคาของผู้คนดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องแล้วมู่หรงเสวี่ยก็พูดขัดขึ้นมา “ขอโทษนะคะทุกคน ฉันไม่ได้คิดว่าจะขายหยกทั้งสองชิ้นนี้ค่ะ!” หลังจากนั้นเธอก็คิดว่าจะบอกให้พนักงานขนหยกกลับไปที่ห้องเธอ
“น่าเสียดายนะที่ไม่ขาย”
“มันไม่ใช่ของที่จะขายกันทั่วไป ใครกันอยากจะขายหยกที่ดีมากขนาดนั้น…”
“ก็จริงอ่ะนะ”
“อ่า? ฉันจำได้แล้วว่าเธอเป็นใคร”
“ใครเหรอ? ใครกัน”
“เธอคือเจ้าแห่งการพนันของเมือง A ไง เธอเคยเจอหยกจักรพรรดิตั้งสองครั้งแน่ะ”
“จริงเหรอ?! หยกจักรพรรดิเลยเหรอ?! คิดว่าเป็นผักกาดขาวหรือไง…”
“เรื่องจริงนะ ชิ้นหนึ่งถูกคุณชายของตระกูลชางกวนซื้อไปด้วย…”
“พระเจ้า เจ้าแห่งการพนัน”
“เห็นไหม ครั้งนี้เธอแกะได้พรทั้งห้าเลยนะ มันหายากกว่าตายอีกนะ ทำไมฉันไม่โชคดีแบบนี้บ้างนะ?”

“อย่าพูดแบบนั้นสิ คุณมู่หรงคนนี้เหมาะกับคุณชายหลิน คุณชายเล็กมากเลยนะ”
“…”
ในตอนนี้ มู่หรงเสวี่ยที่กลับมาที่ห้องแล้วซึ่งไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองสร้างเรื่องอะไรไว้ ในไม่ช้าในวงสังคมของเมืองหลวง มู่หรงเสวี่ยชื่อของเจ้าแห่งการพนันหินก็ดังไปทั่วแล้ว

มู่หรงเสวี่ยกำลังมีความสุขอยู่กับมรกตหลากสีที่อยู่บนโต๊ะในห้องนั่งเล่น
ชางกวนโม่เดินกลับเข้ามา แตะที่หัวของมู่หรงเสวี่ยและถามด้วยรอยยิ้ม “นี่คือหยกสองชิ้นที่ทำให้เธอดังวันนี้น่ะเหรอ?”

อะ?! “กลับมาแล้วเหรอ? ดูสิ สวยไหมคะ?” มู่หรงเสวี่ยมีท่าทางตื่นเต้นกับชัยชนะของตัวเองมาก

“ฮ่าฮ่า สวยสิ! แต่ทำไมไม่บอกฉันล่ะว่าวันนี้เธอจะไปพนัน” เขาไม่พอใจเล็กน้อยเพราะถ้าเขารู้ก็จะได้ไปกับเธอด้วย ฉินเมิ่งหยาเป็นพวกชอบเอาชนะ เขากลัวว่ามู่หรงเสวี่ยจะโดนรังแก

มู่หรงเสวี่ยนวดที่ฝ่ามือของเขาซึ่งทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก “คุณยุ่งไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ฉันจัดการได้…”

ชางกวนโม่อุ้มมู่หรงเสวี่ยขึ้นมานั่งบนขาเขา เอามือกอดรอบเอวเธอ “ฉันอยากรู้ทุกเรื่องของเธอไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่นะเสี่ยวเสวี่ย!”

“อ่า! ตกใจหมดเลย…งั้นต่อไปฉันจะเล่าให้คุณฟังทุกเรื่อง ฉันเบื่อจะตาย…” มู่หรงเสวี่ยกลอกตา

น่ารักอะไรขนาดนี้! ท่าทางการกลอกตาของเธอก็น่ารักมากเหมือนกัน ชางกวนโม่ที่กำลังอยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะก็อดไม่ได้ที่จะจูบลงที่ริมฝีปากแดงของเธอ

หลังจากเวลาผ่านไปนานกว่าที่ชางกวนโม่จะปล่อยเธอ แล้วก็มองไปที่หยกสองชิ้นที่อยู่บนโต๊ะและพูดออกมาช้าๆ “ขายสองชิ้นนี้ให้ฉันได้ไหม?”

“มีอะไรเหรอ? ครั้งที่แล้วคุณก็ซื้อหยกจักรพรรดิจากฉันไปสองชิ้นแล้วนะ คุณจะเอาหยกดีๆไปทำอะไรเยอะแยะ?” มู่หรงเสวี่ยไม่เชื่อว่าเขาโลภจนอยากจะได้หยกดีๆของเธอ เวลาที่เธอพูดถึงเรื่องหยก ชางกวนโม่มักจะมีสีหน้าเศร้าเสมอ

ชางกวนโม่เงียบไปนาน แล้วก็ค่อยเปิดปากพูด “เอามันไปช่วยคน…”
ช่วยคนงั้นเหรอ?! เธอไม่รู้ได้ยังไงว่าหยกดีๆสามารถช่วยคนได้… “พี่โม่ นี่ล้อฉันเล่นหรือเปล่า? หยกจะช่วยคนได้ยังไงคะ?”

ชางกวนโม่ถอนหายใจแล้วพูดต่อว่า “ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันมีหุ้นส่วนที่เป็นเหมือนน้องสาว ในตอนนั้นฉันสนิทกับเธอมาก เธอเคยโคม่า เคยไปหาหมอดังๆมาทั่วแล้วแต่ต่างก็บอกว่าช่วยอะไรไม่ได้ แล้วก็มีหมอจีนโบราณบอกว่าสามารถรักษาสัญญาณหัวใจเธอไว้ได้ด้วยหยกดีๆรอจนกว่าจะเจอวิธีรักษา ฉันไม่เชื่อเรื่องนี้ หลังจากที่ฉันซื้อหยกจักรพรรดิที่เธอขายให้ในตอนนั้นมาแล้วก็เอาไปวางข้างๆเตียงเธอ สีหน้าของเธอก็ดีขึ้นมาก…”

ช่างเป็นโรคที่แปลกจริงๆ “พี่โม่ พาฉันไปหาเธอได้ไหม ฉันพอจะมีทักษะเรื่องการรักษาอยู่บ้าง”

ชางกวนโม่รู้ว่าเธอมีความสามารถมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถรักษาผู้เฒ่าโม่ได้ แต่เขากลัวว่าเธอจะเข้าใจเขาผิด ว่าที่เขาเข้าหาเธอเพราะสนใจเรื่องทักษะการรักษาของเธอ อันที่จริงในตอนแรกเขาไม่ได้สนใจอะไรเธอเลย แต่ยิ่งเขาอยู่กับเธอมากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งสนใจเธอมากขึ้นเท่านั้น

จนตอนนี้เป้าหมายหลักในตอนแรกไม่สำคัญอีกแล้ว เขาเพียงแค่อยากให้เธออยู่ข้างๆเขาทั้งตัวและหัวใจ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

“ขอบคุณนะเสี่ยวเสวี่ย…และฉันรักเธอนะ…”
“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก ด้วยความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้ ฉันยินดีจะช่วยคุณ” มู่หรงเสวี่ยเองที่ยิ้มอย่างมีความสุขอยู่ที่อกของชางกวนโม่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+