ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 191 คำถามมากมาย

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 191 คำถามมากมาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 191
คำถามมากมาย

เมื่อกริ่งดัง ฮวงเสี่ยวเฟ่ยที่ยังนอนอยู่ที่พื้นก็มองไปที่เพื่อนนักศึกษาของเธอด้วยสายตาแปลกๆทั้งๆที่หมดคาบเรียนแล้ว เธอรีบวิ่งไปที่ห้องเรียนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อันที่จริงเธอไม่ได้สนใจกระโปรงที่เปื้อนฝุ่นจากที่ที่ล้มไปที่พื้นหรือหน้าที่เลอะเทอะไปหมดจากการร้องไห้เลย

นักศึกษาในชั้นเรียนเริ่มที่จะเดินออกมาบ้างแล้ว ฮวงเสี่ยวเฟ่ยที่วิ่งไปตลอดทางดึงดูดสายตาของคนได้มากมายเพราะการที่ชเธอคบกับหลิวฮัวลี่ในช่วงที่ผ่านมาทำให้หลายคนรู้จักเธอ

มู่หรงเสวี่ยที่กำลังเตรียมที่จะไปกินข้าวกับพี่ใหญ่ นี่ก็ผ่านมาสี่วันแล้วตั้งแต่ที่หนังสือเรียนที่โต๊ะถูกเก็บไปจนหมด แถมยังไม่มีข่าวของสี่คนที่เหลือเลยด้วย พวกเธอจึงรู้สึกกังวลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“มู่หรงเสวี่ย” ฮวงเสี่ยวเฟ่ยรีบวิ่งเข้ามาหามู่หรงเสวี่ยและใช้มือทั้งสองข้างดึงเข้าที่เสื้อผ้าด้านหน้าของมู่หรงเสวี่ย

หนังสือล่วงลงกับพื้น มู่หรงเสวี่ยขมวดคิ้วและจับไปที่มือของฮวงเสี่ยวเฟ่ยด้วยมือทั้งสองข้าง เธอรู้สึกว่าฮวงเสี่ยวเฟ่ยแข็งแรงอย่างมากจนแทบจะดึงมือไม่ออก “ปล่อยมือก่อน มีอะไรจะพูดกับฉันงั้นเหรอ?” เธอมองไปที่ฮวงเสี่ยวเฟ่ย เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติ ที่ขาของเธอยังมีเลือดออกอยู่เลย ตาเธอก็แดงและบวมจากการร้องไห้ ผมเพ้าก็ยุ่งเหยิง เธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีว่าเสี่ยวเฟ่ยอาจจะถูกรังแกมา

แต่ฮวงเสี่ยวเฟ่ยมองมาที่เธอด้วยสายตาเกลียดชังอย่างบ้าคลั่งซึ่งมากกว่าความเกลียดก่อนหน้านี้อีก หลายวันที่ผ่านมานี้เธอไม่ได้สนใจกับเรื่องของฮวงเสี่ยวเฟ่ยเลยเพราะปัญหาเรื่องของดราก้อนพาวิลเลี่ยน

“ฝีมือเธอใช่ไหม?! เธอบอกรุ่นพี่เรื่องนั้นใช่ไหม?” สายตาของฮวงเสี่ยวเฟ่ยโกรธเกรี้ยวราวกับงูพิษ เธออยากที่จะกรีด มู่หรงเสวี่ยให้เป็นชิ้นๆ
“ปล่อยน้องหก” พี่ใหญ่แยกฮวงเสี่ยวเฟ่ยออกด้วยมือทั้งสองข้าง ฮวงเสี่ยวเฟ่ยถึงดันให้ต้องถอยหลังไป

มู่หรงเสวี่ยมองไปที่ฮวงเสี่ยวเฟ่ยด้วยความงุนงงและพูดออกไปว่า “เสี่ยวเฟ่ย เธอกำลังพูดเรื่องอะไร?! ฉันบอกอะไรรุ่นพี่?”

“อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่อง เธอก็รู้ดีอยู่ ถ้าไม่ใช่เธอแล้วใครจะบอก?” ฮวงเสี่ยวเฟ่ยร้องออกมา

“นี่เธอกำลังพูดเรื่องอะไรกันแน่?” มีคนรู้เรื่องของ เสี่ยวเฟ่ยแล้วงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้ ถ้ามีคนรู้เรื่องนี้มันก็ต้องกระจายไปทั่วมหาลัยแล้วสิ

ฮวงเสี่ยวเฟ่ยร้องไห้และวิ่งเข้าใส่มู่หรงเสวี่ย เล็บคมของเธอพุ่งตรงไปที่หน้าของมู่หรงเสวี่ยทันที “พอใจหรือยังล่ะที่รุ่นพี่เลิกกับฉันแล้วนะ! ฉันเกลียดเธอ ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอ”

โชคดีที่พี่ใหญ่ยืนอยู่ตรงกลางและจับเข้าที่มือของ ฮวงเสี่ยวเฟ่ยไว้ได้ ผู้หญิงกับผู้ชายมีแรงที่แตกต่างกันมากจึงทำให้ฮวงเสี่ยวเฟ่ยดิ้นไม่หลุดอยู่สักพัก

มู่หรงเสวี่ยมองไปที่ฮวงเสี่ยวเฟ่ยที่ตอนนี้บ้าคลั่งไปแล้ว พร้อมทั้งขมวดคิ้วและพูดออกไปว่า “ฉันไม่ได้บอกเรื่องนั้นนะ! ถ้าฉันอยากจะบอก ฉันคงไม่ไปขู่เธอแบบนั้นหรอก…”

“งั้นทำไมเขาถึงรู้ล่ะ?! ทำไมเขาถึงรู้เรื่องนั้น…หื้อ…” ฮวงเสี่ยวเฟ่ยอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา

มู่หรงเสวี่ยหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาและช่วยเธอเช็ดน้ำตาที่หน้าโดยตรง อย่าร้องนะ…” เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นแล้ว

ฮวงเสี่ยวเฟ่ยทรุดลงกับพื้นและร้องไห้
มู่หรงเสวี่ยหันไปหาพี่ใหญ่และพูดออกมาว่า “พี่ใหญ่กลับไปก่อนนะ…”

หลังจากที่พี่ใหญ่มองไปที่ฮวงเสี่ยวเฟ่ยแล้วเขาก็พูดออกมาเสียงเบา “มีอะไรให้ฉันช่วยไหม…”
มู่หรงเสวี่ยมองไปที่ขาทั้งสองข้างของฮวงเสี่ยวเฟ่ย ที่เข่ายังมีเลือดไหลอยู่เลย เธอถอนหายใจเล็กน้อยแล้วแกล้งทำเป็นล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าและหยิบยาใส่แผลออกมาจากมิติลับ เธอค่อยช่วยฮวงเสี่ยวเฟ่ยทำแผลอย่างระวัง

ไม่นานเวลาก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วและฮวงเสี่ยวเฟ่ยก็ยังร้องไห้ไม่หยุด ราวกับว่าเธอจะร้องไห้จนกว่าทะเลจะแห้งและก้อนหินพุพังไปข้าง

“เสี่ยวเฟ่ย อย่าร้องเลยนะ กลับกันก่อนเถอะ…” มู่หรงเสวี่ยกระซิบ ถ้าเดี๋ยวพวกนักศึกษากลับเข้ามา เธอไม่รู้ว่าข่าวลือเรื่องอะไรที่จะแพร่กระจายออกไป

ฮวงเสี่ยวเฟ่ยลุกขึ้นและสะบัดมือมู่หรงเสวี่ย “ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้งหรอก”

แล้วเธอก็รีบวิ่งออกไป ต้องเป็นมู่หรงเสวี่ยแน่ๆ ไม่งั้นรุ่นพี่จะรู้เรื่องนี้ได้ยังไง ตั้งแต่ที่มู่หรงเสวี่ยขู่เธอ เธอก็ไม่ได้กลับไปทำงานนั้นแล้ว

คืนนั้นเธอไปเจอลูกค้าและบอกว่าเธอจะไม่ทำงานแบบนี้อีกแล้ว ลูกค้ารับมือได้ยากมากๆ เดิมทีมันก็แค่ความสัมพันธ์ทางการเท่านั้น สุดท้ายเขาก็บอกว่ามันเป็นการกล่าวลาครั้งสุดท้ายและเธอก็ทำตามทุกอย่าง เธอไม่สนใจการจูบพวกนั้นหรอก

โชคดีที่ลูกค้าบอกว่าจบแล้วและบอกว่าเธอจะไม่ต้องเจอปัญหาอะไร

หลังจากที่จบความสัมพันธ์พวกนั้น เธอเองก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกผิดในหัวใจเองก็ดูเหมือนจะเป็นอิสระไปได้หน่อย

อย่างไรก็ตามอยู่ดีๆรุ่นพี่ก็หายไปเฉยๆจนกระทั่งที่เลิกกันในวันนี้

มู่หรงเสวี่ยไม่ได้ตามฮวงเสี่ยวเฟ่ยไป ตอนนี้ตามเธอไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ฮวงเสี่ยวเฟ่ยไม่อยากจะฟังเรื่องที่เธอพูด ดูเหมือนว่าเสี่ยวเฟ่ยจะเชื่อไปแล้วว่าเธอคือคนที่บอกรุ่นพี่เรื่องนั้น

เธอคิดถึงเรื่องนี้แต่เธอก็ยังโทรหาหลิวฮัวลี่
พวกเธอเจอกันที่คาเฟ่ข้างๆมหาลัย เมื่อมู่หรงเสวี่ยไปถึงเธอก็เห็นหลิวฮัวลี่นั่งอยู่ที่มุมของร้าน จ้องออกไปนอกหน้าต่างที่มีผู้คนมากมาย เธอไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่ดูเหมือนว่ารุ่นพี่จะอาการไม่ค่อยดีเท่าไรและดูเหมือนจะผอมลงด้วย ปกติเขามักจะให้ความสนใจกับเรื่องการแต่งกายที่เนียบเรียบร้อย แต่ตอนนี้เธอเห็นว่าชุดนักศึกษาของเขามีรอยยับอยู่เล็กน้อย ซึ่งก็ดูเหมือนว่าไม่ใช่ว่ารุ่นพี่จะไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้เลย มุ่หรงเสวี่ยเริ่มจะเข้าใจสถานการณ์ของพวกเขาแล้ว

“รุ่นพี่” มู่หรงเสวี่ยเดินเข้าไป ค่อยๆเลื่อนเก้าอี้ออกแล้วกล่าวทักทาย

หลิวฮัวลี่หันหัวมากและเผยรอยยิ้มจางๆอย่างไม่ตั้งใจเท่าไร “เสี่ยวเสวี่ยไม่เจอกันนานเลยนะ!”

มู่หรงเสวี่ยสั่งกาแฟทั่วๆไป มองมาที่หลิวฮัวลี่แล้วถามออกมา “รุ่นพี่ พี่กับเสี่ยวเฟ่ยมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า?”

ท่าของหลิวฮัวลี่ที่กำลังดื่มกาแฟนิ่งไปนาน หลังจากที่วางแก้วกาแฟลงเขาก็พูดออกมาเสียงต่ำ “เราเลิกกันแล้ว…”

“ทำไมล่ะ?! พี่เกลียดเสี่ยวเฟ่ยแล้วงั้นเหรอ?”
หลัวฮัวลี่ก้มหัว “มันเป็นเรื่องน่ารังเกียจ อย่าถามเลย คนที่เธอชอบไม่ใช่เด็กหนุ่มแบบฉันหรอก…” เขายังไม่ลืมภาพเหตุการณ์ที่เขาเห็นในคืนนั้น

ทั้งสองที่กำลังนั่งคุยกันไม่เห็นฮวงเสี่ยวเฟ่ยที่อยู่ไม่ห่างจากหน้าต่าง เธอร้องไห้โฮแล้วหันหลังกลับไป

ในวันนั้นเขาอยากที่จะไปที่ถนนเพื่อหาของขวัญให้เธอเพราะเขาเห็นว่ามันใกล้วันเกิดเธอแล้วแต่ไม่คิดว่าเขาจะได้เห็นเสี่ยวเห่ยกำลังจูบกับชายวัยกลางคน เธอดูไม่ลังเลเลยสักนิด แม้แต่วินาทีสุดท้ายที่เธอกำลังจะแยกจากชายคนนั้น ที่ปากของเธอก็ยังมีรอยยิ้มอยู่

ในตอนนั้น เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองรู้สึกยังไง เขารีบหลบเข้าไปที่ด้านหนึ่งของถนนเพื่อไม่ให้เธอเห็น จนกระทั่งเขากลับมาบ้าน ในใจของเขาก็ยังนึกถึงภาพที่พวกเขาจูบกันอยู่เลย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กสาวที่ช่างไร้เดียงสาในเวลากลางวันจะกลายเป็นอีกคนในเวลากลางคืนได้ยังไง

“เมื่อกี้เสี่ยวเฟ่ยได้รับอุบัติเหตุและเสียเลือดไปมาก…” มู่หรงเสวี่ยไม่ได้ถามซ้ำ แต่กลับพูดถึงเรื่องการบาดเจ็บของ ฮวงเสี่ยวเฟ่ยแทน

“ทำไมเธอถึง…ได้รับบาดเจ็บล่ะ?! ร้ายแรงหรือเปล่า? เธอได้ทำแผลให้หรือยัง…” ยังไงซะหลิวฮัวลี่ก็ทนแกล้งทำเป็นสงบเหมือนกับในตอนแรกไม่ได้ เขากำแก้วกาแฟแน่นและถามออกไปอย่างกังวล

มู่หรงเสวี่ยยกกาแฟขึ้นมาจิบแล้วจึงพูดออกมาว่า “ฉันไม่รู้ ดูเหมือนว่าเธอจะล้มไปหลายครั้งและร้องไห้หนักมาก…”

“ทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องนั้นล่ะ?! เธอไม่ใช่เพื่อนของเธอหรือไง?” หลัวฮัวลี่รีบถามออกมาทันทีด้วยเสียงอันดัง แล้วเขาก็ดูเหมือนจะได้สติ เขาก้มหัวลงเล็กน้อยแล้วพูดขอโทษ “ฉันขอโทษนะ ฉันวู่วามไปหน่อย…”

“พี่ยังชอบเธออยู่ใช่ไหม? ถ้าใช่งั้นจะเลิกทำไม…”
สีหน้าของหลิวฮัวลี่เปลี่ยนเป็นซีดขาวแล้วเขาก็เริ่มพูดออกมา “ฉันเห็นว่าเธอมีผู้ชายคนอื่น…” หลังจากนั้นเขาก็แทบจะหายใจไม่ออกเพราะความปวดหัว เขาไม่อยากที่จะเชื่อว่า เสี่ยวเฟ่ยจะเป็นคนแบบนั้นได้

ชัดเจนแล้ว เขาเห็นเอง! เพราะแบบนี้เขาถึงอยากที่จะตัดสัมพันธ์กับเสี่ยวเฟ่ย เธอจะทำยังไงดี?

“นั่นไม่ใช่แฟนเธอ…” มู่หรงเสวี่ยเงียบไปชั่วขณะ แล้วเริ่มที่จะพูดต่อ “ถ้าพี่ไม่อยากที่จะเสียใจไปตลอดชีวิต พี่ควรที่จะไปหาเสี่ยวเฟ่ยและคุยกันให้เข้าใจสองคน…ฉันจะไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว ฉันพูดได้แค่ว่าเสี่ยวเฟ่ยมีปัญหาที่ยากลำบากของตัวเอง…”

“เธอหมายความว่าไง มันยากจนต้องคบกับผู้ชายคนอื่นด้วยงั้นเหรอ?! ฉันไม่เข้าใจเลย…” ในเมื่อเขาชอบเธอ งั้นทำไมยังต้องไปคบกับผู้ชายคนอื่นอีกล่ะ? ถ้าเธอไม่ได้ชอบเขา งั้นทุกอย่างที่ผ่านมามันเป็นเพียงการแสดงงั้นเหรอ?!!

“ฉันไม่รู้ มีบางเรื่องที่ฉันจะไม่บอกพี่ มันเหมาะสมกว่าถ้าจะให้เสี่ยวเฟ่ยเป็นคนมาพูดเรื่องนี้กับพี่เอง…” มู่หรงเสวี่ยยกกาแฟขึ้นมาจิบอีกครั้งแล้วจึงพูดออกมา “ฉันคิดว่าตอนนี้เธอคงไปหาที่นั่งร้องไห้ เธอดูเหมือนจะไม่สนใจเลือดที่ขาที่ไหลออกมาเยอะเลยด้วย…”

ก่อนที่มู่หรงเสวี่ยจะพูดจบ เธอก็เห็นหลิวฮัวลี่รีบวิ่งออกไปและไม่แม้แต่จะกล่าวลา

เธอวางแก้วกาแฟลงและยิ้มอ่อนๆ ดีแล้ว เธอหวังว่าพวกเขาจะไม่ต้องมานั่งเสียใจไปตลอดชีวิตเหมือนกับเธอ

ถึงแม้เธอบอกว่าเธอจะตามหาเขา แต่ความเสียใจนี้อาจจะกลายเป็นความเสียใจถาวรก็ได้ เธอรู้สึกเศร้านิดหน่อย เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะรอเธอ บางทีครั้งหน้าที่เจอกันพวกเธออาจจะกลายเป็นอะไรที่แย่กว่าคนแปลกหน้ากันก็ได้

มู่หรงเสวี่ยนั่งอยู่เงียบๆคนเดียว เธอไม่เคยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องดีเลยที่ได้อยู่คนเดียวบ้างเป็นบางครั้ง แต่อย่างน้อยเธอก็ได้เห็นหลายสิ่งที่เธอไม่เคยสนใจมาก่อน อย่างเช่นเรื่องหัวใจของตัวเอง

คืนที่ไร้ความฝัน
วันต่อมาก็ยังเป็นวันที่สดใส
“เสี่ยวเสวี่ย ฉันขอโทษนะที่ก่อนหน้านี้ฉันทำตัวไม่ดี!” ทันทีที่ฮวงเสี่ยวเฟ่ยมาถึงชั้นเรียน เธอก็รีบตรงเข้ามาหา มู่หรงเสวี่ย

มู่หรงเสวี่ยไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร เธอคิดอยู่แล้วว่าเมื่อวานรุ่นพี่จะต้องหาฮวงเสี่ยวเฟ่ยเจอ ทั้งสองคืนดีกันแล้วดังนั้นท่าทางของเสี่ยวเฟ่ยวันนี้จึงดีอย่างน่าประหลาด “ไม่เป็นไร ฉันไม่สนใจเรื่องนั้นหรอก!”

“จริงเหรอ? เยี่ยมเลย ฉันคิดว่าเธอจะโกรธฉันซะอีก…”
มู่หรงเสวี่ยยิ้ม “ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ จึงไม่ได้โกรธอะไร…” มันเป็นเรื่องจริง เธอไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรเลยจริงๆ ยังไงซะเธอก็เคยอยู่มาแล้วสองชีวิต แล้วเธอจะโกรธเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ได้ยังไง
“คืนนี้ไปเที่ยวด้วยกันโอเคไหม?” ฮวงเสี่ยวเฟ่ยดึงแขน มู่หรงอย่างมีความสุขและพูดออกมา

“ได้! แล้วรุ่นพี่จะไปด้วยหรือเปล่า?” มู่หรงเสวี่ยไม่อยากที่จะถามมากเพราะรุ่นพี่เป็นแฟนของเสี่ยวเฟ่ย ดังนั้นเธอจึงคิดว่าเสี่ยวเฟ่ยคงจะโอเคที่จะให้เขาไปกับเอด้วย

รอยยิ้มบนใบหน้าของฮวงเสี่ยวเฟ่ยเกรงมากจนแทบจะยิ้มให้มู่หรงไม่ออก หลังจากนั้นสักพักเธอก็ตอบออกมา “คืนนี้เป็นคืนของสาวๆ แล้วจะให้ผู้ชายไปกับเราด้วยได้ยังไงล่ะ? มีแค่เราสองคน!” เธอนึกถึงภาพที่มู่หรงเสวี่ยและรุ่นพี่ของเธอนั่งดื่มกาแฟด้วยกันเมื่อคืน ก่อนหน้านี้เธอยังปลอบใจเธออยู่เลย เธอเป็นเพื่อนที่ดีจนเธอเกือบที่จะเชื่อแล้ว แต่ไม่คิดว่ามู่หรงเสวี่ยจะไปอยู่กับรุ่นพี่ที่เธอรัก เรื่องที่เธอไม่รู้คือสองคนนี้ไปอยู่ด้วยกันมาอีกครั้งแล้ว? ในสายตาของเธอมีประกายมุ่งร้ายแต่มู่หรงเสวี่ยไม่ทันสังเกต

“งั้นก็โอเค” มู่หรงเสวี่ยพยักหน้า
ไม่นานกริ่งเลิกเรียนก็ดังขึ้น วันนี้พี่ใหญ่ไม่ได้มาเรียนกับเธอด้วย ดูเหมือนว่าเขาต้องไปดูภารกิจของคนที่เหลือ เดิมทีเธอก็อยากที่จะไปกับเขาด้วยแต่พี่ใหญ่บอกว่าถ้ายอมให้หมอมังกรออกไปทำภารกิจแบบนั้นกับเขาด้วย ทีมของเขาก็คงจะต้องถูกลงโทษดังนั้นมู่หรงเสวี่ยจึงเลือกที่จะอยู่ที่นี่แทน

หลังจากที่เลิกเรียนในตอนบ่าย ฮวงเสี่ยวเฟ่ยก็นัดกับเธอตอนสามทุ่ม แต่สิ่งที่ทำให้มู่หรงเสวี่ยสงสัยมากขึ้นไปอีกคือ ฮวงเสี่ยวเฟ่ยบอกให้เธอแต่งตัวเซ็กซี่ๆหน่อย อย่าแต่งตัวธรรมดาเกินไป เธอถามไปว่าฮวงเสี่ยวเฟ่ยจะพาเธอไปที่ไหนแต่ ฮวงเสี่ยวเฟ่ยก็เพียงแค่ยิ้มอย่างมีเลศนัยและบอกว่าเป็นความลับ เธอจะได้รู้เองเมื่อไปถึง มู่หรงเสวี่ยไม่ได้สนใจมากนัก เธอเพียงกลับบ้านมาอาบน้ำ แล้วก็เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาๆแล้วนั่งอ่านหนังสือสักพัก หลังจากที่ถึงเวลาเธอก็ขับรถมาที่มหาลัย เพราะเธอไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนกัน จึงคิดว่าขับรถมาเองน่าจะสะดวกกว่า
ถึงแม้มันจะดึกแล้วแต่ที่มหาลัยก็ยังมีนักศึกษาอยู่อีกหลายคน ท่าทางที่สวยงามของมู่หรงเสวี่ยและรถสปอร์ตสีแดงคันเด่นก็ดึงดูดสายตาของพวกนักศึกษาได้ในทันที มู่หรงเสวี่ยก้มหัวลงเพื่อที่จะส่งข้อความหาฮวงเสี่ยวเฟ่ยบอกว่าเธอรออยู่ที่ประตู ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์ที่จะสนใจสายตาของคนอื่น มีหลายคนเคยชินกับการเห็นคุณค่าของตัวเอง
เมื่อฮวงเสี่ยวเฟ่ยเดินออกมา เธอก็เห็นภาพที่สาวสวยกำลังยืนพิงรถหรู ผู้คนรอบๆเธอต่างก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม มู่หรงเสวี่ยที่อยู่ที่รถ เธอรู้สึกอิจฉาอย่างบ้าคลั่งไปเลย

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 191 คำถามมากมาย

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 191 คำถามมากมาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 191
คำถามมากมาย

เมื่อกริ่งดัง ฮวงเสี่ยวเฟ่ยที่ยังนอนอยู่ที่พื้นก็มองไปที่เพื่อนนักศึกษาของเธอด้วยสายตาแปลกๆทั้งๆที่หมดคาบเรียนแล้ว เธอรีบวิ่งไปที่ห้องเรียนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อันที่จริงเธอไม่ได้สนใจกระโปรงที่เปื้อนฝุ่นจากที่ที่ล้มไปที่พื้นหรือหน้าที่เลอะเทอะไปหมดจากการร้องไห้เลย

นักศึกษาในชั้นเรียนเริ่มที่จะเดินออกมาบ้างแล้ว ฮวงเสี่ยวเฟ่ยที่วิ่งไปตลอดทางดึงดูดสายตาของคนได้มากมายเพราะการที่ชเธอคบกับหลิวฮัวลี่ในช่วงที่ผ่านมาทำให้หลายคนรู้จักเธอ

มู่หรงเสวี่ยที่กำลังเตรียมที่จะไปกินข้าวกับพี่ใหญ่ นี่ก็ผ่านมาสี่วันแล้วตั้งแต่ที่หนังสือเรียนที่โต๊ะถูกเก็บไปจนหมด แถมยังไม่มีข่าวของสี่คนที่เหลือเลยด้วย พวกเธอจึงรู้สึกกังวลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“มู่หรงเสวี่ย” ฮวงเสี่ยวเฟ่ยรีบวิ่งเข้ามาหามู่หรงเสวี่ยและใช้มือทั้งสองข้างดึงเข้าที่เสื้อผ้าด้านหน้าของมู่หรงเสวี่ย

หนังสือล่วงลงกับพื้น มู่หรงเสวี่ยขมวดคิ้วและจับไปที่มือของฮวงเสี่ยวเฟ่ยด้วยมือทั้งสองข้าง เธอรู้สึกว่าฮวงเสี่ยวเฟ่ยแข็งแรงอย่างมากจนแทบจะดึงมือไม่ออก “ปล่อยมือก่อน มีอะไรจะพูดกับฉันงั้นเหรอ?” เธอมองไปที่ฮวงเสี่ยวเฟ่ย เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติ ที่ขาของเธอยังมีเลือดออกอยู่เลย ตาเธอก็แดงและบวมจากการร้องไห้ ผมเพ้าก็ยุ่งเหยิง เธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีว่าเสี่ยวเฟ่ยอาจจะถูกรังแกมา

แต่ฮวงเสี่ยวเฟ่ยมองมาที่เธอด้วยสายตาเกลียดชังอย่างบ้าคลั่งซึ่งมากกว่าความเกลียดก่อนหน้านี้อีก หลายวันที่ผ่านมานี้เธอไม่ได้สนใจกับเรื่องของฮวงเสี่ยวเฟ่ยเลยเพราะปัญหาเรื่องของดราก้อนพาวิลเลี่ยน

“ฝีมือเธอใช่ไหม?! เธอบอกรุ่นพี่เรื่องนั้นใช่ไหม?” สายตาของฮวงเสี่ยวเฟ่ยโกรธเกรี้ยวราวกับงูพิษ เธออยากที่จะกรีด มู่หรงเสวี่ยให้เป็นชิ้นๆ
“ปล่อยน้องหก” พี่ใหญ่แยกฮวงเสี่ยวเฟ่ยออกด้วยมือทั้งสองข้าง ฮวงเสี่ยวเฟ่ยถึงดันให้ต้องถอยหลังไป

มู่หรงเสวี่ยมองไปที่ฮวงเสี่ยวเฟ่ยด้วยความงุนงงและพูดออกไปว่า “เสี่ยวเฟ่ย เธอกำลังพูดเรื่องอะไร?! ฉันบอกอะไรรุ่นพี่?”

“อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่อง เธอก็รู้ดีอยู่ ถ้าไม่ใช่เธอแล้วใครจะบอก?” ฮวงเสี่ยวเฟ่ยร้องออกมา

“นี่เธอกำลังพูดเรื่องอะไรกันแน่?” มีคนรู้เรื่องของ เสี่ยวเฟ่ยแล้วงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้ ถ้ามีคนรู้เรื่องนี้มันก็ต้องกระจายไปทั่วมหาลัยแล้วสิ

ฮวงเสี่ยวเฟ่ยร้องไห้และวิ่งเข้าใส่มู่หรงเสวี่ย เล็บคมของเธอพุ่งตรงไปที่หน้าของมู่หรงเสวี่ยทันที “พอใจหรือยังล่ะที่รุ่นพี่เลิกกับฉันแล้วนะ! ฉันเกลียดเธอ ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอ”

โชคดีที่พี่ใหญ่ยืนอยู่ตรงกลางและจับเข้าที่มือของ ฮวงเสี่ยวเฟ่ยไว้ได้ ผู้หญิงกับผู้ชายมีแรงที่แตกต่างกันมากจึงทำให้ฮวงเสี่ยวเฟ่ยดิ้นไม่หลุดอยู่สักพัก

มู่หรงเสวี่ยมองไปที่ฮวงเสี่ยวเฟ่ยที่ตอนนี้บ้าคลั่งไปแล้ว พร้อมทั้งขมวดคิ้วและพูดออกไปว่า “ฉันไม่ได้บอกเรื่องนั้นนะ! ถ้าฉันอยากจะบอก ฉันคงไม่ไปขู่เธอแบบนั้นหรอก…”

“งั้นทำไมเขาถึงรู้ล่ะ?! ทำไมเขาถึงรู้เรื่องนั้น…หื้อ…” ฮวงเสี่ยวเฟ่ยอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา

มู่หรงเสวี่ยหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาและช่วยเธอเช็ดน้ำตาที่หน้าโดยตรง อย่าร้องนะ…” เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นแล้ว

ฮวงเสี่ยวเฟ่ยทรุดลงกับพื้นและร้องไห้
มู่หรงเสวี่ยหันไปหาพี่ใหญ่และพูดออกมาว่า “พี่ใหญ่กลับไปก่อนนะ…”

หลังจากที่พี่ใหญ่มองไปที่ฮวงเสี่ยวเฟ่ยแล้วเขาก็พูดออกมาเสียงเบา “มีอะไรให้ฉันช่วยไหม…”
มู่หรงเสวี่ยมองไปที่ขาทั้งสองข้างของฮวงเสี่ยวเฟ่ย ที่เข่ายังมีเลือดไหลอยู่เลย เธอถอนหายใจเล็กน้อยแล้วแกล้งทำเป็นล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าและหยิบยาใส่แผลออกมาจากมิติลับ เธอค่อยช่วยฮวงเสี่ยวเฟ่ยทำแผลอย่างระวัง

ไม่นานเวลาก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วและฮวงเสี่ยวเฟ่ยก็ยังร้องไห้ไม่หยุด ราวกับว่าเธอจะร้องไห้จนกว่าทะเลจะแห้งและก้อนหินพุพังไปข้าง

“เสี่ยวเฟ่ย อย่าร้องเลยนะ กลับกันก่อนเถอะ…” มู่หรงเสวี่ยกระซิบ ถ้าเดี๋ยวพวกนักศึกษากลับเข้ามา เธอไม่รู้ว่าข่าวลือเรื่องอะไรที่จะแพร่กระจายออกไป

ฮวงเสี่ยวเฟ่ยลุกขึ้นและสะบัดมือมู่หรงเสวี่ย “ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้งหรอก”

แล้วเธอก็รีบวิ่งออกไป ต้องเป็นมู่หรงเสวี่ยแน่ๆ ไม่งั้นรุ่นพี่จะรู้เรื่องนี้ได้ยังไง ตั้งแต่ที่มู่หรงเสวี่ยขู่เธอ เธอก็ไม่ได้กลับไปทำงานนั้นแล้ว

คืนนั้นเธอไปเจอลูกค้าและบอกว่าเธอจะไม่ทำงานแบบนี้อีกแล้ว ลูกค้ารับมือได้ยากมากๆ เดิมทีมันก็แค่ความสัมพันธ์ทางการเท่านั้น สุดท้ายเขาก็บอกว่ามันเป็นการกล่าวลาครั้งสุดท้ายและเธอก็ทำตามทุกอย่าง เธอไม่สนใจการจูบพวกนั้นหรอก

โชคดีที่ลูกค้าบอกว่าจบแล้วและบอกว่าเธอจะไม่ต้องเจอปัญหาอะไร

หลังจากที่จบความสัมพันธ์พวกนั้น เธอเองก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกผิดในหัวใจเองก็ดูเหมือนจะเป็นอิสระไปได้หน่อย

อย่างไรก็ตามอยู่ดีๆรุ่นพี่ก็หายไปเฉยๆจนกระทั่งที่เลิกกันในวันนี้

มู่หรงเสวี่ยไม่ได้ตามฮวงเสี่ยวเฟ่ยไป ตอนนี้ตามเธอไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ฮวงเสี่ยวเฟ่ยไม่อยากจะฟังเรื่องที่เธอพูด ดูเหมือนว่าเสี่ยวเฟ่ยจะเชื่อไปแล้วว่าเธอคือคนที่บอกรุ่นพี่เรื่องนั้น

เธอคิดถึงเรื่องนี้แต่เธอก็ยังโทรหาหลิวฮัวลี่
พวกเธอเจอกันที่คาเฟ่ข้างๆมหาลัย เมื่อมู่หรงเสวี่ยไปถึงเธอก็เห็นหลิวฮัวลี่นั่งอยู่ที่มุมของร้าน จ้องออกไปนอกหน้าต่างที่มีผู้คนมากมาย เธอไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่ดูเหมือนว่ารุ่นพี่จะอาการไม่ค่อยดีเท่าไรและดูเหมือนจะผอมลงด้วย ปกติเขามักจะให้ความสนใจกับเรื่องการแต่งกายที่เนียบเรียบร้อย แต่ตอนนี้เธอเห็นว่าชุดนักศึกษาของเขามีรอยยับอยู่เล็กน้อย ซึ่งก็ดูเหมือนว่าไม่ใช่ว่ารุ่นพี่จะไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้เลย มุ่หรงเสวี่ยเริ่มจะเข้าใจสถานการณ์ของพวกเขาแล้ว

“รุ่นพี่” มู่หรงเสวี่ยเดินเข้าไป ค่อยๆเลื่อนเก้าอี้ออกแล้วกล่าวทักทาย

หลิวฮัวลี่หันหัวมากและเผยรอยยิ้มจางๆอย่างไม่ตั้งใจเท่าไร “เสี่ยวเสวี่ยไม่เจอกันนานเลยนะ!”

มู่หรงเสวี่ยสั่งกาแฟทั่วๆไป มองมาที่หลิวฮัวลี่แล้วถามออกมา “รุ่นพี่ พี่กับเสี่ยวเฟ่ยมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า?”

ท่าของหลิวฮัวลี่ที่กำลังดื่มกาแฟนิ่งไปนาน หลังจากที่วางแก้วกาแฟลงเขาก็พูดออกมาเสียงต่ำ “เราเลิกกันแล้ว…”

“ทำไมล่ะ?! พี่เกลียดเสี่ยวเฟ่ยแล้วงั้นเหรอ?”
หลัวฮัวลี่ก้มหัว “มันเป็นเรื่องน่ารังเกียจ อย่าถามเลย คนที่เธอชอบไม่ใช่เด็กหนุ่มแบบฉันหรอก…” เขายังไม่ลืมภาพเหตุการณ์ที่เขาเห็นในคืนนั้น

ทั้งสองที่กำลังนั่งคุยกันไม่เห็นฮวงเสี่ยวเฟ่ยที่อยู่ไม่ห่างจากหน้าต่าง เธอร้องไห้โฮแล้วหันหลังกลับไป

ในวันนั้นเขาอยากที่จะไปที่ถนนเพื่อหาของขวัญให้เธอเพราะเขาเห็นว่ามันใกล้วันเกิดเธอแล้วแต่ไม่คิดว่าเขาจะได้เห็นเสี่ยวเห่ยกำลังจูบกับชายวัยกลางคน เธอดูไม่ลังเลเลยสักนิด แม้แต่วินาทีสุดท้ายที่เธอกำลังจะแยกจากชายคนนั้น ที่ปากของเธอก็ยังมีรอยยิ้มอยู่

ในตอนนั้น เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองรู้สึกยังไง เขารีบหลบเข้าไปที่ด้านหนึ่งของถนนเพื่อไม่ให้เธอเห็น จนกระทั่งเขากลับมาบ้าน ในใจของเขาก็ยังนึกถึงภาพที่พวกเขาจูบกันอยู่เลย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กสาวที่ช่างไร้เดียงสาในเวลากลางวันจะกลายเป็นอีกคนในเวลากลางคืนได้ยังไง

“เมื่อกี้เสี่ยวเฟ่ยได้รับอุบัติเหตุและเสียเลือดไปมาก…” มู่หรงเสวี่ยไม่ได้ถามซ้ำ แต่กลับพูดถึงเรื่องการบาดเจ็บของ ฮวงเสี่ยวเฟ่ยแทน

“ทำไมเธอถึง…ได้รับบาดเจ็บล่ะ?! ร้ายแรงหรือเปล่า? เธอได้ทำแผลให้หรือยัง…” ยังไงซะหลิวฮัวลี่ก็ทนแกล้งทำเป็นสงบเหมือนกับในตอนแรกไม่ได้ เขากำแก้วกาแฟแน่นและถามออกไปอย่างกังวล

มู่หรงเสวี่ยยกกาแฟขึ้นมาจิบแล้วจึงพูดออกมาว่า “ฉันไม่รู้ ดูเหมือนว่าเธอจะล้มไปหลายครั้งและร้องไห้หนักมาก…”

“ทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องนั้นล่ะ?! เธอไม่ใช่เพื่อนของเธอหรือไง?” หลัวฮัวลี่รีบถามออกมาทันทีด้วยเสียงอันดัง แล้วเขาก็ดูเหมือนจะได้สติ เขาก้มหัวลงเล็กน้อยแล้วพูดขอโทษ “ฉันขอโทษนะ ฉันวู่วามไปหน่อย…”

“พี่ยังชอบเธออยู่ใช่ไหม? ถ้าใช่งั้นจะเลิกทำไม…”
สีหน้าของหลิวฮัวลี่เปลี่ยนเป็นซีดขาวแล้วเขาก็เริ่มพูดออกมา “ฉันเห็นว่าเธอมีผู้ชายคนอื่น…” หลังจากนั้นเขาก็แทบจะหายใจไม่ออกเพราะความปวดหัว เขาไม่อยากที่จะเชื่อว่า เสี่ยวเฟ่ยจะเป็นคนแบบนั้นได้

ชัดเจนแล้ว เขาเห็นเอง! เพราะแบบนี้เขาถึงอยากที่จะตัดสัมพันธ์กับเสี่ยวเฟ่ย เธอจะทำยังไงดี?

“นั่นไม่ใช่แฟนเธอ…” มู่หรงเสวี่ยเงียบไปชั่วขณะ แล้วเริ่มที่จะพูดต่อ “ถ้าพี่ไม่อยากที่จะเสียใจไปตลอดชีวิต พี่ควรที่จะไปหาเสี่ยวเฟ่ยและคุยกันให้เข้าใจสองคน…ฉันจะไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว ฉันพูดได้แค่ว่าเสี่ยวเฟ่ยมีปัญหาที่ยากลำบากของตัวเอง…”

“เธอหมายความว่าไง มันยากจนต้องคบกับผู้ชายคนอื่นด้วยงั้นเหรอ?! ฉันไม่เข้าใจเลย…” ในเมื่อเขาชอบเธอ งั้นทำไมยังต้องไปคบกับผู้ชายคนอื่นอีกล่ะ? ถ้าเธอไม่ได้ชอบเขา งั้นทุกอย่างที่ผ่านมามันเป็นเพียงการแสดงงั้นเหรอ?!!

“ฉันไม่รู้ มีบางเรื่องที่ฉันจะไม่บอกพี่ มันเหมาะสมกว่าถ้าจะให้เสี่ยวเฟ่ยเป็นคนมาพูดเรื่องนี้กับพี่เอง…” มู่หรงเสวี่ยยกกาแฟขึ้นมาจิบอีกครั้งแล้วจึงพูดออกมา “ฉันคิดว่าตอนนี้เธอคงไปหาที่นั่งร้องไห้ เธอดูเหมือนจะไม่สนใจเลือดที่ขาที่ไหลออกมาเยอะเลยด้วย…”

ก่อนที่มู่หรงเสวี่ยจะพูดจบ เธอก็เห็นหลิวฮัวลี่รีบวิ่งออกไปและไม่แม้แต่จะกล่าวลา

เธอวางแก้วกาแฟลงและยิ้มอ่อนๆ ดีแล้ว เธอหวังว่าพวกเขาจะไม่ต้องมานั่งเสียใจไปตลอดชีวิตเหมือนกับเธอ

ถึงแม้เธอบอกว่าเธอจะตามหาเขา แต่ความเสียใจนี้อาจจะกลายเป็นความเสียใจถาวรก็ได้ เธอรู้สึกเศร้านิดหน่อย เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะรอเธอ บางทีครั้งหน้าที่เจอกันพวกเธออาจจะกลายเป็นอะไรที่แย่กว่าคนแปลกหน้ากันก็ได้

มู่หรงเสวี่ยนั่งอยู่เงียบๆคนเดียว เธอไม่เคยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องดีเลยที่ได้อยู่คนเดียวบ้างเป็นบางครั้ง แต่อย่างน้อยเธอก็ได้เห็นหลายสิ่งที่เธอไม่เคยสนใจมาก่อน อย่างเช่นเรื่องหัวใจของตัวเอง

คืนที่ไร้ความฝัน
วันต่อมาก็ยังเป็นวันที่สดใส
“เสี่ยวเสวี่ย ฉันขอโทษนะที่ก่อนหน้านี้ฉันทำตัวไม่ดี!” ทันทีที่ฮวงเสี่ยวเฟ่ยมาถึงชั้นเรียน เธอก็รีบตรงเข้ามาหา มู่หรงเสวี่ย

มู่หรงเสวี่ยไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร เธอคิดอยู่แล้วว่าเมื่อวานรุ่นพี่จะต้องหาฮวงเสี่ยวเฟ่ยเจอ ทั้งสองคืนดีกันแล้วดังนั้นท่าทางของเสี่ยวเฟ่ยวันนี้จึงดีอย่างน่าประหลาด “ไม่เป็นไร ฉันไม่สนใจเรื่องนั้นหรอก!”

“จริงเหรอ? เยี่ยมเลย ฉันคิดว่าเธอจะโกรธฉันซะอีก…”
มู่หรงเสวี่ยยิ้ม “ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ จึงไม่ได้โกรธอะไร…” มันเป็นเรื่องจริง เธอไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรเลยจริงๆ ยังไงซะเธอก็เคยอยู่มาแล้วสองชีวิต แล้วเธอจะโกรธเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ได้ยังไง
“คืนนี้ไปเที่ยวด้วยกันโอเคไหม?” ฮวงเสี่ยวเฟ่ยดึงแขน มู่หรงอย่างมีความสุขและพูดออกมา

“ได้! แล้วรุ่นพี่จะไปด้วยหรือเปล่า?” มู่หรงเสวี่ยไม่อยากที่จะถามมากเพราะรุ่นพี่เป็นแฟนของเสี่ยวเฟ่ย ดังนั้นเธอจึงคิดว่าเสี่ยวเฟ่ยคงจะโอเคที่จะให้เขาไปกับเอด้วย

รอยยิ้มบนใบหน้าของฮวงเสี่ยวเฟ่ยเกรงมากจนแทบจะยิ้มให้มู่หรงไม่ออก หลังจากนั้นสักพักเธอก็ตอบออกมา “คืนนี้เป็นคืนของสาวๆ แล้วจะให้ผู้ชายไปกับเราด้วยได้ยังไงล่ะ? มีแค่เราสองคน!” เธอนึกถึงภาพที่มู่หรงเสวี่ยและรุ่นพี่ของเธอนั่งดื่มกาแฟด้วยกันเมื่อคืน ก่อนหน้านี้เธอยังปลอบใจเธออยู่เลย เธอเป็นเพื่อนที่ดีจนเธอเกือบที่จะเชื่อแล้ว แต่ไม่คิดว่ามู่หรงเสวี่ยจะไปอยู่กับรุ่นพี่ที่เธอรัก เรื่องที่เธอไม่รู้คือสองคนนี้ไปอยู่ด้วยกันมาอีกครั้งแล้ว? ในสายตาของเธอมีประกายมุ่งร้ายแต่มู่หรงเสวี่ยไม่ทันสังเกต

“งั้นก็โอเค” มู่หรงเสวี่ยพยักหน้า
ไม่นานกริ่งเลิกเรียนก็ดังขึ้น วันนี้พี่ใหญ่ไม่ได้มาเรียนกับเธอด้วย ดูเหมือนว่าเขาต้องไปดูภารกิจของคนที่เหลือ เดิมทีเธอก็อยากที่จะไปกับเขาด้วยแต่พี่ใหญ่บอกว่าถ้ายอมให้หมอมังกรออกไปทำภารกิจแบบนั้นกับเขาด้วย ทีมของเขาก็คงจะต้องถูกลงโทษดังนั้นมู่หรงเสวี่ยจึงเลือกที่จะอยู่ที่นี่แทน

หลังจากที่เลิกเรียนในตอนบ่าย ฮวงเสี่ยวเฟ่ยก็นัดกับเธอตอนสามทุ่ม แต่สิ่งที่ทำให้มู่หรงเสวี่ยสงสัยมากขึ้นไปอีกคือ ฮวงเสี่ยวเฟ่ยบอกให้เธอแต่งตัวเซ็กซี่ๆหน่อย อย่าแต่งตัวธรรมดาเกินไป เธอถามไปว่าฮวงเสี่ยวเฟ่ยจะพาเธอไปที่ไหนแต่ ฮวงเสี่ยวเฟ่ยก็เพียงแค่ยิ้มอย่างมีเลศนัยและบอกว่าเป็นความลับ เธอจะได้รู้เองเมื่อไปถึง มู่หรงเสวี่ยไม่ได้สนใจมากนัก เธอเพียงกลับบ้านมาอาบน้ำ แล้วก็เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาๆแล้วนั่งอ่านหนังสือสักพัก หลังจากที่ถึงเวลาเธอก็ขับรถมาที่มหาลัย เพราะเธอไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนกัน จึงคิดว่าขับรถมาเองน่าจะสะดวกกว่า
ถึงแม้มันจะดึกแล้วแต่ที่มหาลัยก็ยังมีนักศึกษาอยู่อีกหลายคน ท่าทางที่สวยงามของมู่หรงเสวี่ยและรถสปอร์ตสีแดงคันเด่นก็ดึงดูดสายตาของพวกนักศึกษาได้ในทันที มู่หรงเสวี่ยก้มหัวลงเพื่อที่จะส่งข้อความหาฮวงเสี่ยวเฟ่ยบอกว่าเธอรออยู่ที่ประตู ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์ที่จะสนใจสายตาของคนอื่น มีหลายคนเคยชินกับการเห็นคุณค่าของตัวเอง
เมื่อฮวงเสี่ยวเฟ่ยเดินออกมา เธอก็เห็นภาพที่สาวสวยกำลังยืนพิงรถหรู ผู้คนรอบๆเธอต่างก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม มู่หรงเสวี่ยที่อยู่ที่รถ เธอรู้สึกอิจฉาอย่างบ้าคลั่งไปเลย

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+