Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2206 สะสมบันทึกวิชาโอสถ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2206 สะสมบันทึกวิชาโอสถ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จนถึงทุกวันนี้ตัวเฉินหยานก็ยังรู้สึกราวกับว่าฝันไป

หมู่บ้านตระกูลเฉินของเขานั้นกลับกลายเป็นหมู่บ้านอาณาจักรพระเจ้าไป!

แม้แต่เหล่าเด็กน้อยที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมทั้งหลายก็ยังก้าวขึ้นมาสู่อาณาจักรพระเจ้าได้หลังได้รับโอสถจากเย่หยวน

มือคู่นี้ของเย่หยวนมันเหมือนเป็นมือของเทพเจ้าที่สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาได้อย่างไร้ความยากลำบากใด

อาณาจักรพระเจ้าทั้งหลายนั้นเดิมทีมันอยู่สูงเหนือหัวล้ำ แต่เย่หยวนนั้นกลับสร้างมันขึ้นมาได้อย่างไร้ปัญหาใด

และในเวลานี้แม้แต่เจ้าเมืองเมฆานทีก็ยังต้องมายืนรออยู่หน้าหมู่บ้านอย่างเคารพ ไม่กล้าที่จะวางท่าเข้ามาในหมู่บ้านแต่อย่างใด

นี่มันคือเจ้าเมืองเมฆานที ยอดฝีมือระดับอาณาจักรบรรพชนพระเจ้า!

อาณาจักรบรรพชนพระเจ้านั้นเดิมทีมันเป็นตัวตนที่สูงล้ำอย่างที่คนหมู่บ้านตระกูลเฉินไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึง

แต่เวลานี้คนเช่นนั้นกลับมายืนรออยู่นอกหมู่บ้านอย่างนอบน้อม

เฉินหยานก็ยกมือขึ้นผลักประตูเข้ามาพร้อมหายใจสูดเข้าลึก เวลาในภายในห้องนั้นเย่หยวนกำลังนั่งอ่านหนังสือตำราวิชาการโอสถทั้งหลายด้วยสีหน้าตื่นเต้น

“อาหนิง!” เฉินหยานร้องทักทายขึ้น

เย่หยวนที่ได้ยินก็รีบวางหนังสือที่ถืออยู่ลงก่อนจะยิ้มทักกลับไป “ปู่หยาน”

เฉินหยานยิ้มพร้อมยกมือขึ้นมาโบกปัดบอกห้ามเย่หยวนไว้ว่าไม่ต้องลุก “อ่า อาหนิง หนังสือตำราที่เฒ่าคนนี้เก็บไว้มันคงไม่มีประโยชน์ใดๆ กับเจ้ามากมายใช่หรือไม่?”

เย่หยวนส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “แม้ว่าหนังสือของปู่นั้นจะมีจุดที่ผิดพลาดไปมากแต่ข้าก็ยังได้เรียนรู้จากมันมากมาย อืม… หนังสือพวกนี้ข้าได้เขียนแก้จุดที่ผิดไว้แล้ว”

เรื่องของหนังสือตำราวิชาโอสถทั้งหลายนี้เย่หยวนย่อมจะแค่อ่านผ่านตาก็เข้าใจมันได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ไม่มีอาการมึนงงใดๆ ทั้งสิ้น

ดูเหมือนว่าเย่หยวนนั้นจะนึกย้อนกลับไปถึงอดีตตัวเองได้จากการอ่านพวกมัน

เฉินหยานนั้นรับหนังสือที่เย่หยวนบอกมาและต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย

เพราะเวลานี้เขาได้เห็นตัวหนังสือเขียนแก้ไขมากมายบนตำราที่ตัวเองได้เก็บไว้

คำสั้นๆ ที่เย่หยวนเขียนไว้นี้มันกลับได้ทำให้ความมึนงงที่เขามีมาตลอดหลายปีกระจ่างในพริบตา

เมื่อได้ลองอ่านๆ ดูอีกหลายบรรทัดเขาก็รู้สึกราวกับว่าเรื่องราวบนโลกมันปรากฏชัดขึ้นมาถนัดตา

คำแก้แค่ไม่กี่ประโยคของเย่หยวนนี้มันแจ่มชัดทรงความรู้มากกว่าเนื้อหาของหนังสือนี้ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า

เฉินหยานนั้นมั่นใจได้ว่าเย่หยวนนั้นต้องมีความรู้มากกว่าคนที่เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอย่างน้อยๆ ก็พันเท่าหรืออาจจะถึงหมื่นเท่า!

“เข้าใจ! กระจ่าง! อาหนิง ในอดีตนั้นเจ้าคงต้องเป็นยอดเทพโอสถผู้เก่งกาจเป็นแน่!” เฉินหยานร้องบอกอย่างประทับใจ

เย่หยวนจึงได้แต่ต้องยิ้มรับคำชม “ข้าเองก็รู้สึกเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือการหลอมโอสถใดข้าก็รู้สึกคุ้นเคยกับมันจนไม่อยากเชื่อตัวเอง ราวกับว่าชีวิตข้าเกิดขึ้นมาเพื่อทำมัน อ่า จริงด้วยสิปู่หยาน ท่านมาหาข้าคงมีธุระใดแล้ว?”

เป็นตอนนั้นเองที่เฉินหยานสะดุ้งตัวขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้มเขินๆ “เกือบลืมเรื่องสำคัญไปแล้วเชียว! เวลานี้เจ้าเมืองเมฆานทีได้รับรู้เรื่องราว ท่านจึงได้นำพาผู้นำตระกูลทั้งห้ามายังหมู่บ้านเราเพื่อที่จะขอพบกับเจ้า เวลานี้พวกเขากำลังรออยู่ที่หน้าหมู่บ้านอย่างนอบน้อม”

เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องผงะไป “มาหาข้าหรือ?”

เฉินหยานจึงได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “หมู่บ้านตระกูลเฉินเรานั้นได้กลายเป็นหมู่บ้านอาณาจักรพระเจ้าไปแล้ว เวลานี้เรื่องราวมันกระจายไปทั่วดินแดน ไม่แปลกหรอกที่ท่านเจ้าเมืองจะรู้ถึงเรื่องราวด้วย ตำแหน่งสถานะของจอมเทพโอสถนั้นมันยิ่งใหญ่ ดูท่าเขาคงมาเพื่อขอให้เจ้าช่วยหลอมโอสถให้แล้ว”

เย่หยวนหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับ “ถ้าเช่นนั้นข้าจะออกไปพบเขา”

เมื่อหวงเหว่ยและผู้นำตระกูลทั้งหลายได้เห็นเย่หยวนพวกเขาก็ต้องยืนนิ่ง

เพราะคนที่สร้างหมู่บ้านอาณาจักรพระเจ้าขึ้นมาในชั่วข้ามคืนนี้มันกลับเป็นคนที่ไม่มีแม้แต่ปราณเทวะหรือ?

เขานั้นได้แต่ต้องหันไปหาเฉินหยานด้วยสีหน้าสงสัย คิดในใจว่าเจ้าหมอนี่มันหลอกลวงผู้คนหรือไม่

เฉินหยานนั้นย่อมจะเข้าใจสายตานั้นได้และรีบพูดอธิบายออกมาทันที “ท่านเจ้าเมือง อาหนิงนั้นใช้ค่ายกลดึงพลังงานฟ้าดินมาหลอมโอสถได้โดยตรงไม่ต้องใช้หม้อหลอมหรือปราณเทวะใดๆ ทั้งสิ้น”

หวงเหว่ยสั่นสะท้านไปทั้งกายเมื่อได้ยิน “ซี๊ด… ใช้ค่ายกลหลอมโอสถ!”

คนทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องหันไปมองหน้ากันก่อนจะหันมาก้มหัวคารวะเย่หยวนลงพร้อมๆ กัน “เจ้าเมืองเมฆานทีนามหวงเหว่ยขอคาระท่านอาจารย์หนิง!”

เย่หยวนเองก็ก้มหัวลงรับ “นายท่านถ่อมตัวไปแล้ว”

หวงเหว่ยจึงกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “ข้าผู้นี้คิดมาด้วยเหตุใดข้าว่าท่านอาจารย์หนิงคงเข้าใจดี แต่… จะอย่างไรข้าก็อยากจะเห็นโอสถของท่านอาจารย์เสียหน่อย”

เย่หยวนจึงพยักหน้ารับ “ปู่หยาน”

เฉินหยานเข้าใจทันทีและรีบส่งมอบขวดหยกไปให้แก่หวงเหว่ย

หวงเหว่ยที่ได้รับโอสถนั้นมาต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย “นี่มัน… โอสถกำเนิดล้ำ! ช่างเป็นโอสถกำเนิดล้ำที่คุณภาพสูงส่งนัก! อาจารย์ชูปิงท่านลองดูเอาเถิด!”

พูดไปเขาก็ส่งมอบขวดโอสถไปให้ชายแก่อีกคนที่ด้านข้าง

ดูท่าแล้วชายแก่คนนี้เองก็คงเป็นจอมเทพโอสถ เป็นถึงจอมเทพโอสถสองดาวผู้หนึ่ง!

ชูปิงที่รับมันไปนั้นแทบจะทรุดตัวลงกับพื้นเมื่อได้เห็นเจ้าโอสถที่อยู่ภายในขวด

เวลานี้มือสองข้างที่ถือขวดโอสถกำเนิดล้ำไว้นั้นมันสั่นสะท้านก่อนที่เขาจะค่อยๆ จ้องมองมันดูใกล้ๆ

เมื่อทุกผู้คนได้เห็นสีหน้าเช่นนั้นของชูปิงพวกเขาต่างก็ย่อมจะรู้สึกมึนงง

พวกเขานั้นรู้ดีว่าโอสถนี้คงมีคุณภาพสูงส่งแต่เรื่องที่ว่ามันสูงล้ำปานใดพวกเขาย่อมไม่อาจเข้าใจ

ชูปิงนั้นจ้องมองขวดนั้นอย่างไม่ละสายตาก่อนที่ดวงตาทั้งสองของเขาจะค่อยๆ มีน้ำตาเอ่อออกมา “ไม่นึกเลย! ไม่นึกเลยจริงๆ! ได้เห็นโอสถนี้เฒ่าคนนี้คงตายตาหลับแล้ว!”

สีหน้าของเขานั้นมันทำให้ความสงสัยของผู้คนพุ่งสูง

แต่เรื่องที่ออกมาจากปากของเฒ่าคนนี้มันกลับมิใช่คำตอบที่ทุกผู้คนเฝ้ารอ

หวงเหว่ยที่ไม่อาจห้ามใจได้จึงถามขึ้น “อาจารย์ชูปิง มัน… มันเป็นโอสถที่ดีล้ำปานนั้นเลยหรือ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นชูปิงจึงรีบเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นไปทั้งใจ “มันคือโอสถขั้นเทวะวิญญาณไพศาล! โอสถเม็ดนี้คือโอสถขั้นเทวะวิญญาณไพศาล! ชีวิตนี้ได้เห็นโอสถขั้นเทวะวิญญาณไพศาลนั้น เฒ่าคนนี้คงตายตาหลับแล้ว!”

คนทั้งหลายที่ได้ยินต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายพร้อมหันไปมองเย่หยวนอย่างสั่นกลัว

โอสถขั้นเทวะวิญญาณไพศาลมันคือโอสถในตำนานอย่างไม่ต้องสงสัย!

ต่อให้จะเป็นจอมเทพโอสถห้าดาวเองก็คงไม่อาจจะหลอมโอสถนี้ให้ได้ถึงขั้นเทวะวิญญาณไพศาล!

แต่เวลานี้คนที่หลอมมันได้กลับปรากฏขึ้นในหมู่บ้านเล็กๆ กลางเขาเช่นนี้

เจ้าหนุ่มคนนี้คงมีเบื้องหลังไม่ธรรมดาแล้ว!

ทางเฉินหยานเมื่อได้ยินเข้าเขาก็ต้องยืนนิ่ง เพราะตัวเขานั้นไม่เข้าใจว่าโอสถขั้นเทวะวิญญาณไพศาลมันคือสิ่งใด

แต่หากแค่มองดูจากสีหน้าของจอมเทพโอสถสองดาวตรงหน้านี้แล้วเขาก็ย่อมเข้าใจว่ามันมิใช่ของที่จะพบเจอได้ทั่วไป

ดูท่าเขาจะยังประเมินอาหนิงต่ำไป!

หวงเหว่ยรีบก้มหัวลงต่อเย่หยวนทันทีที่รู้ตัว “อาจารย์หนิงนั้นมีพรสวรรค์ล้ำไม่ควรมาหยุดอยู่แค่กับหมู่บ้านน้อยๆ เช่นนี้ ท่านช่วยย้ายไปอยู่ที่จวนเจ้าเมืองเราได้หรือไม่? ตราบเท่าที่อาจารย์หนิงคิดไปที่จวนเจ้าเมืองเรา หวงผู้นี้จะรับใช้ท่านอย่างสุดตัวเลย!”

เฉินหยานหน้าแดงก่ำขึ้นทันทีที่ได้ยิน เจ้าหมอนี่มันกลับคิดแย่งชิงผู้คน!

“ไม่ได้!” เสียงของเฉินหยานร้องตวาดออกมา

หวงเหว่ยนั้นได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่น เดิมทีแล้วคนอย่างเฉินหยานนี้แค่ลมหายใจของเขาก็คงฆ่าสังหารอีกฝ่ายได้

แต่หากทำเช่นนั้นมันคงเป็นการเสียมารยาทต่ออาจารย์หนิงอย่างมาก

เย่หยวนจึงได้แต่ยิ้มตอบกลับไป “ข้าไม่ต้องไปถึงจวนเจ้าเมืองใดๆ หรอก หากพวกท่านอยากได้โอสถท่านก็จงบอกมาข้าย่อมหลอมให้ได้ แต่… มันมีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง”

ได้ยินคำพูดแรกทางหวงเหว่ยก็อดไม่ได้ที่จะทำสีหน้าผิดหวัง

แต่เมื่อได้ยินคำพูดครึ่งหลังเขาก็เริ่มตั้งใจฟังอย่างจริงจัง “เงื่อนไขใดหรือ? อาจารย์หนิงท่านลองว่ามาเถอะ!”

เย่หยวนจึงตอบกลับไป “ช่วยข้าหาบันทึกตำราวิชาโอสถ ไม่ว่ามันจะเป็นวิชาแบบใด ไม่ว่ามันจะมีมากมายปานไหน ยิ่งมีเยอะมันยิ่งดี!”

หวงเหว่ยที่ได้ยินจึงถามขึ้นอย่างสงสัย “อาจารย์หนิง ด้วยวิชาการโอสถของท่านในเวลานี้แล้วยังจะต้องไปศึกษาจากตำราโอสถใดๆ อีกหรือ?”

เย่หยวนจึงยิ้มตอบไป “การเรียนรู้ไม่มีคำว่าสิ้นสุด อ่านหนังสือมากขึ้นอีกเล่มมันย่อมจะไม่เคยสร้างผลเสีย”

หวงเหว่ยที่ได้ยินต้องแสดงสีหน้าชื่นชมออกมาอย่างสุดใจ “อาจารย์หนิงวางใจเถอะ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้หวงผู้นี้ย่อมจัดการได้!”

แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเองทางชูปิงก็ได้เปิดปากกล่าวขึ้นตาม “อาจารย์หนิง ชูผู้นี้เองก็รู้จักผู้คนที่ทำงานสายอาชีพเดียวกันอยู่มาก แค่หาหนังสือตำราเกี่ยวกับโอสถมันย่อมจะมิใช่ปัญหาใด ชูผู้นี้ไม่คิดอยากได้โอสถใดๆ ทั้งสิ้น ข้าเพียงแค่อยากจะขอติดตามดูการหลอมโอสถของอาจารย์หนิงได้หรือไม่?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ย่อมไม่มีปัญหา”

……………………..

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2206 สะสมบันทึกวิชาโอสถ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2206 สะสมบันทึกวิชาโอสถ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จนถึงทุกวันนี้ตัวเฉินหยานก็ยังรู้สึกราวกับว่าฝันไป

หมู่บ้านตระกูลเฉินของเขานั้นกลับกลายเป็นหมู่บ้านอาณาจักรพระเจ้าไป!

แม้แต่เหล่าเด็กน้อยที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมทั้งหลายก็ยังก้าวขึ้นมาสู่อาณาจักรพระเจ้าได้หลังได้รับโอสถจากเย่หยวน

มือคู่นี้ของเย่หยวนมันเหมือนเป็นมือของเทพเจ้าที่สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาได้อย่างไร้ความยากลำบากใด

อาณาจักรพระเจ้าทั้งหลายนั้นเดิมทีมันอยู่สูงเหนือหัวล้ำ แต่เย่หยวนนั้นกลับสร้างมันขึ้นมาได้อย่างไร้ปัญหาใด

และในเวลานี้แม้แต่เจ้าเมืองเมฆานทีก็ยังต้องมายืนรออยู่หน้าหมู่บ้านอย่างเคารพ ไม่กล้าที่จะวางท่าเข้ามาในหมู่บ้านแต่อย่างใด

นี่มันคือเจ้าเมืองเมฆานที ยอดฝีมือระดับอาณาจักรบรรพชนพระเจ้า!

อาณาจักรบรรพชนพระเจ้านั้นเดิมทีมันเป็นตัวตนที่สูงล้ำอย่างที่คนหมู่บ้านตระกูลเฉินไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึง

แต่เวลานี้คนเช่นนั้นกลับมายืนรออยู่นอกหมู่บ้านอย่างนอบน้อม

เฉินหยานก็ยกมือขึ้นผลักประตูเข้ามาพร้อมหายใจสูดเข้าลึก เวลาในภายในห้องนั้นเย่หยวนกำลังนั่งอ่านหนังสือตำราวิชาการโอสถทั้งหลายด้วยสีหน้าตื่นเต้น

“อาหนิง!” เฉินหยานร้องทักทายขึ้น

เย่หยวนที่ได้ยินก็รีบวางหนังสือที่ถืออยู่ลงก่อนจะยิ้มทักกลับไป “ปู่หยาน”

เฉินหยานยิ้มพร้อมยกมือขึ้นมาโบกปัดบอกห้ามเย่หยวนไว้ว่าไม่ต้องลุก “อ่า อาหนิง หนังสือตำราที่เฒ่าคนนี้เก็บไว้มันคงไม่มีประโยชน์ใดๆ กับเจ้ามากมายใช่หรือไม่?”

เย่หยวนส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “แม้ว่าหนังสือของปู่นั้นจะมีจุดที่ผิดพลาดไปมากแต่ข้าก็ยังได้เรียนรู้จากมันมากมาย อืม… หนังสือพวกนี้ข้าได้เขียนแก้จุดที่ผิดไว้แล้ว”

เรื่องของหนังสือตำราวิชาโอสถทั้งหลายนี้เย่หยวนย่อมจะแค่อ่านผ่านตาก็เข้าใจมันได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ไม่มีอาการมึนงงใดๆ ทั้งสิ้น

ดูเหมือนว่าเย่หยวนนั้นจะนึกย้อนกลับไปถึงอดีตตัวเองได้จากการอ่านพวกมัน

เฉินหยานนั้นรับหนังสือที่เย่หยวนบอกมาและต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย

เพราะเวลานี้เขาได้เห็นตัวหนังสือเขียนแก้ไขมากมายบนตำราที่ตัวเองได้เก็บไว้

คำสั้นๆ ที่เย่หยวนเขียนไว้นี้มันกลับได้ทำให้ความมึนงงที่เขามีมาตลอดหลายปีกระจ่างในพริบตา

เมื่อได้ลองอ่านๆ ดูอีกหลายบรรทัดเขาก็รู้สึกราวกับว่าเรื่องราวบนโลกมันปรากฏชัดขึ้นมาถนัดตา

คำแก้แค่ไม่กี่ประโยคของเย่หยวนนี้มันแจ่มชัดทรงความรู้มากกว่าเนื้อหาของหนังสือนี้ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า

เฉินหยานนั้นมั่นใจได้ว่าเย่หยวนนั้นต้องมีความรู้มากกว่าคนที่เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอย่างน้อยๆ ก็พันเท่าหรืออาจจะถึงหมื่นเท่า!

“เข้าใจ! กระจ่าง! อาหนิง ในอดีตนั้นเจ้าคงต้องเป็นยอดเทพโอสถผู้เก่งกาจเป็นแน่!” เฉินหยานร้องบอกอย่างประทับใจ

เย่หยวนจึงได้แต่ต้องยิ้มรับคำชม “ข้าเองก็รู้สึกเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือการหลอมโอสถใดข้าก็รู้สึกคุ้นเคยกับมันจนไม่อยากเชื่อตัวเอง ราวกับว่าชีวิตข้าเกิดขึ้นมาเพื่อทำมัน อ่า จริงด้วยสิปู่หยาน ท่านมาหาข้าคงมีธุระใดแล้ว?”

เป็นตอนนั้นเองที่เฉินหยานสะดุ้งตัวขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้มเขินๆ “เกือบลืมเรื่องสำคัญไปแล้วเชียว! เวลานี้เจ้าเมืองเมฆานทีได้รับรู้เรื่องราว ท่านจึงได้นำพาผู้นำตระกูลทั้งห้ามายังหมู่บ้านเราเพื่อที่จะขอพบกับเจ้า เวลานี้พวกเขากำลังรออยู่ที่หน้าหมู่บ้านอย่างนอบน้อม”

เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องผงะไป “มาหาข้าหรือ?”

เฉินหยานจึงได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “หมู่บ้านตระกูลเฉินเรานั้นได้กลายเป็นหมู่บ้านอาณาจักรพระเจ้าไปแล้ว เวลานี้เรื่องราวมันกระจายไปทั่วดินแดน ไม่แปลกหรอกที่ท่านเจ้าเมืองจะรู้ถึงเรื่องราวด้วย ตำแหน่งสถานะของจอมเทพโอสถนั้นมันยิ่งใหญ่ ดูท่าเขาคงมาเพื่อขอให้เจ้าช่วยหลอมโอสถให้แล้ว”

เย่หยวนหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับ “ถ้าเช่นนั้นข้าจะออกไปพบเขา”

เมื่อหวงเหว่ยและผู้นำตระกูลทั้งหลายได้เห็นเย่หยวนพวกเขาก็ต้องยืนนิ่ง

เพราะคนที่สร้างหมู่บ้านอาณาจักรพระเจ้าขึ้นมาในชั่วข้ามคืนนี้มันกลับเป็นคนที่ไม่มีแม้แต่ปราณเทวะหรือ?

เขานั้นได้แต่ต้องหันไปหาเฉินหยานด้วยสีหน้าสงสัย คิดในใจว่าเจ้าหมอนี่มันหลอกลวงผู้คนหรือไม่

เฉินหยานนั้นย่อมจะเข้าใจสายตานั้นได้และรีบพูดอธิบายออกมาทันที “ท่านเจ้าเมือง อาหนิงนั้นใช้ค่ายกลดึงพลังงานฟ้าดินมาหลอมโอสถได้โดยตรงไม่ต้องใช้หม้อหลอมหรือปราณเทวะใดๆ ทั้งสิ้น”

หวงเหว่ยสั่นสะท้านไปทั้งกายเมื่อได้ยิน “ซี๊ด… ใช้ค่ายกลหลอมโอสถ!”

คนทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องหันไปมองหน้ากันก่อนจะหันมาก้มหัวคารวะเย่หยวนลงพร้อมๆ กัน “เจ้าเมืองเมฆานทีนามหวงเหว่ยขอคาระท่านอาจารย์หนิง!”

เย่หยวนเองก็ก้มหัวลงรับ “นายท่านถ่อมตัวไปแล้ว”

หวงเหว่ยจึงกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “ข้าผู้นี้คิดมาด้วยเหตุใดข้าว่าท่านอาจารย์หนิงคงเข้าใจดี แต่… จะอย่างไรข้าก็อยากจะเห็นโอสถของท่านอาจารย์เสียหน่อย”

เย่หยวนจึงพยักหน้ารับ “ปู่หยาน”

เฉินหยานเข้าใจทันทีและรีบส่งมอบขวดหยกไปให้แก่หวงเหว่ย

หวงเหว่ยที่ได้รับโอสถนั้นมาต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย “นี่มัน… โอสถกำเนิดล้ำ! ช่างเป็นโอสถกำเนิดล้ำที่คุณภาพสูงส่งนัก! อาจารย์ชูปิงท่านลองดูเอาเถิด!”

พูดไปเขาก็ส่งมอบขวดโอสถไปให้ชายแก่อีกคนที่ด้านข้าง

ดูท่าแล้วชายแก่คนนี้เองก็คงเป็นจอมเทพโอสถ เป็นถึงจอมเทพโอสถสองดาวผู้หนึ่ง!

ชูปิงที่รับมันไปนั้นแทบจะทรุดตัวลงกับพื้นเมื่อได้เห็นเจ้าโอสถที่อยู่ภายในขวด

เวลานี้มือสองข้างที่ถือขวดโอสถกำเนิดล้ำไว้นั้นมันสั่นสะท้านก่อนที่เขาจะค่อยๆ จ้องมองมันดูใกล้ๆ

เมื่อทุกผู้คนได้เห็นสีหน้าเช่นนั้นของชูปิงพวกเขาต่างก็ย่อมจะรู้สึกมึนงง

พวกเขานั้นรู้ดีว่าโอสถนี้คงมีคุณภาพสูงส่งแต่เรื่องที่ว่ามันสูงล้ำปานใดพวกเขาย่อมไม่อาจเข้าใจ

ชูปิงนั้นจ้องมองขวดนั้นอย่างไม่ละสายตาก่อนที่ดวงตาทั้งสองของเขาจะค่อยๆ มีน้ำตาเอ่อออกมา “ไม่นึกเลย! ไม่นึกเลยจริงๆ! ได้เห็นโอสถนี้เฒ่าคนนี้คงตายตาหลับแล้ว!”

สีหน้าของเขานั้นมันทำให้ความสงสัยของผู้คนพุ่งสูง

แต่เรื่องที่ออกมาจากปากของเฒ่าคนนี้มันกลับมิใช่คำตอบที่ทุกผู้คนเฝ้ารอ

หวงเหว่ยที่ไม่อาจห้ามใจได้จึงถามขึ้น “อาจารย์ชูปิง มัน… มันเป็นโอสถที่ดีล้ำปานนั้นเลยหรือ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นชูปิงจึงรีบเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นไปทั้งใจ “มันคือโอสถขั้นเทวะวิญญาณไพศาล! โอสถเม็ดนี้คือโอสถขั้นเทวะวิญญาณไพศาล! ชีวิตนี้ได้เห็นโอสถขั้นเทวะวิญญาณไพศาลนั้น เฒ่าคนนี้คงตายตาหลับแล้ว!”

คนทั้งหลายที่ได้ยินต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายพร้อมหันไปมองเย่หยวนอย่างสั่นกลัว

โอสถขั้นเทวะวิญญาณไพศาลมันคือโอสถในตำนานอย่างไม่ต้องสงสัย!

ต่อให้จะเป็นจอมเทพโอสถห้าดาวเองก็คงไม่อาจจะหลอมโอสถนี้ให้ได้ถึงขั้นเทวะวิญญาณไพศาล!

แต่เวลานี้คนที่หลอมมันได้กลับปรากฏขึ้นในหมู่บ้านเล็กๆ กลางเขาเช่นนี้

เจ้าหนุ่มคนนี้คงมีเบื้องหลังไม่ธรรมดาแล้ว!

ทางเฉินหยานเมื่อได้ยินเข้าเขาก็ต้องยืนนิ่ง เพราะตัวเขานั้นไม่เข้าใจว่าโอสถขั้นเทวะวิญญาณไพศาลมันคือสิ่งใด

แต่หากแค่มองดูจากสีหน้าของจอมเทพโอสถสองดาวตรงหน้านี้แล้วเขาก็ย่อมเข้าใจว่ามันมิใช่ของที่จะพบเจอได้ทั่วไป

ดูท่าเขาจะยังประเมินอาหนิงต่ำไป!

หวงเหว่ยรีบก้มหัวลงต่อเย่หยวนทันทีที่รู้ตัว “อาจารย์หนิงนั้นมีพรสวรรค์ล้ำไม่ควรมาหยุดอยู่แค่กับหมู่บ้านน้อยๆ เช่นนี้ ท่านช่วยย้ายไปอยู่ที่จวนเจ้าเมืองเราได้หรือไม่? ตราบเท่าที่อาจารย์หนิงคิดไปที่จวนเจ้าเมืองเรา หวงผู้นี้จะรับใช้ท่านอย่างสุดตัวเลย!”

เฉินหยานหน้าแดงก่ำขึ้นทันทีที่ได้ยิน เจ้าหมอนี่มันกลับคิดแย่งชิงผู้คน!

“ไม่ได้!” เสียงของเฉินหยานร้องตวาดออกมา

หวงเหว่ยนั้นได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่น เดิมทีแล้วคนอย่างเฉินหยานนี้แค่ลมหายใจของเขาก็คงฆ่าสังหารอีกฝ่ายได้

แต่หากทำเช่นนั้นมันคงเป็นการเสียมารยาทต่ออาจารย์หนิงอย่างมาก

เย่หยวนจึงได้แต่ยิ้มตอบกลับไป “ข้าไม่ต้องไปถึงจวนเจ้าเมืองใดๆ หรอก หากพวกท่านอยากได้โอสถท่านก็จงบอกมาข้าย่อมหลอมให้ได้ แต่… มันมีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง”

ได้ยินคำพูดแรกทางหวงเหว่ยก็อดไม่ได้ที่จะทำสีหน้าผิดหวัง

แต่เมื่อได้ยินคำพูดครึ่งหลังเขาก็เริ่มตั้งใจฟังอย่างจริงจัง “เงื่อนไขใดหรือ? อาจารย์หนิงท่านลองว่ามาเถอะ!”

เย่หยวนจึงตอบกลับไป “ช่วยข้าหาบันทึกตำราวิชาโอสถ ไม่ว่ามันจะเป็นวิชาแบบใด ไม่ว่ามันจะมีมากมายปานไหน ยิ่งมีเยอะมันยิ่งดี!”

หวงเหว่ยที่ได้ยินจึงถามขึ้นอย่างสงสัย “อาจารย์หนิง ด้วยวิชาการโอสถของท่านในเวลานี้แล้วยังจะต้องไปศึกษาจากตำราโอสถใดๆ อีกหรือ?”

เย่หยวนจึงยิ้มตอบไป “การเรียนรู้ไม่มีคำว่าสิ้นสุด อ่านหนังสือมากขึ้นอีกเล่มมันย่อมจะไม่เคยสร้างผลเสีย”

หวงเหว่ยที่ได้ยินต้องแสดงสีหน้าชื่นชมออกมาอย่างสุดใจ “อาจารย์หนิงวางใจเถอะ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้หวงผู้นี้ย่อมจัดการได้!”

แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเองทางชูปิงก็ได้เปิดปากกล่าวขึ้นตาม “อาจารย์หนิง ชูผู้นี้เองก็รู้จักผู้คนที่ทำงานสายอาชีพเดียวกันอยู่มาก แค่หาหนังสือตำราเกี่ยวกับโอสถมันย่อมจะมิใช่ปัญหาใด ชูผู้นี้ไม่คิดอยากได้โอสถใดๆ ทั้งสิ้น ข้าเพียงแค่อยากจะขอติดตามดูการหลอมโอสถของอาจารย์หนิงได้หรือไม่?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ย่อมไม่มีปัญหา”

……………………..

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+