War sovereign Soaring The Heavens 3198

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3198 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

WSSTH ตอนที่ 3,198 : จางจินอี้

 

 

ณ เผ่าจิ้งจอกมายาสาขาแดนสวรรค์ใต้

 

“ข้าน้อย จางตงหนาน หัวหน้าเผ่าจิ้งจอกมายาสาขาแดนสวรรค์ใต้ ยินดีต้อนรับท่านทูต!”

 

จางตงหนานพร้อมด้วยเหล่าผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าจิ้งจอกมายา ออกมาต้อนรับทูตจากตระกูลจางในเผ่าหลักที่เดินทางมาจาก แดนฟ้าสิ้นสุด 1 ใน 7 ภูมิภาคเบื้องบนด้วยท่าทีนอบน้อม

 

“อืม”

 

ถึงแม้จางจินอี้จะเป็นแค่ราชาอมตะ 10 ทิศ แต่มันคือทายาทสายตรงของตระกูล จาง แห่งเผ่าจิ้งจอกมายา เช่นนั้นไม่ทราบว่าสายเลือดของมันบริสุทธิ์มากกว่าจางตงหนานและคนอื่นๆเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่! เช่นนั้นแม้จะอยู่ต่อหน้าจอมราชันอมตะอย่างจางตงหนาน มันก็เพียงกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเฉยเมย ไม่แม้แต่จะเหลือบมอง ท่าทางช่างแลดูหยิ่งผยองไม่เห็นหัวใครจริงๆ!!

 

“เชิญท่านทูต ด้านนี้…”

 

หลังจากนั้น จางตงหนานก็นำทางจางจินอี้ไปยังห้องโถงหลักของเผ่าจิ้งจอกมายาด้วยตัวเอง

 

แลมีแค่จางเจิ้งไห่เท่านั้น ที่ติดตามจางตงหนานมา

 

ส่วนผู้อาวุโสคนอื่นๆของเผ่าจิ้งจอกมายาไม่ได้ติดตามไปด้วย

 

“เจ้าทูตของตระกูลหลักผู้นั้น มันจะหยิ่งผยองไปหน่อยไหม? เป็นแค่ราชาอมตะ 10 ทิศแท้ๆ แต่กลับกล้าวางท่าต่อหัวหน้าเผ่าเรา!”

 

ผู้อาวุโสคนหนึ่งของเผ่าจิ้งจอกมายากล่าวด้วยน้ำเสียงสีหน้าไม่พอใจ

 

แม้มันเองก็ล่วงรู้ถึงการคงอยู่ของเผ่าหลัก แต่คนที่มันนับถือมากที่สุดก็คือหัวหน้าเผ่าของมัน!

 

เพราะหัวหน้าเผ่าเคยช่วยชีวิตมันเอาไว้!

 

ตอนนี้พอเห็นคนที่เผ่าหลักส่งมาตรวจสอบข้อเท็จจริง วางท่าโอหังใส่หัวหน้าเผ่าที่มันเคารพรัก เช่นนั้นแม้เมื่อครู่มันจะไม่เผยทีท่าอะไรต่อหน้าทูต แต่ลับหลังยังอดไม่ได้ที่จะโมโหแทนหัวหน้าเผ่าของมัน

 

“ชู่ว! เจ้าเงียบเสีย! อย่างไรนั่นก็เป็นทูตจากเผ่าหลัก ต่อให้มันจะฆ่าเจ้าทิ้ง ท่านหัวหน้าเผ่าก็หาความให้เจ้าไม่ได้!”

 

อาวุโสเผ่าจิ้งจอกมายาอีกคนที่อยู่ใกล้ๆ รีบห้ามปรามสหายร่วมเผ่าทันที สีหน้ายังแลดูหวาดกลัววว่าทั้ง 3 ที่จากไปเมื่อครู่จะได้ยินวาจาของสหายมัน

 

“ข้าไม่ทราบว่าพลังฝีมือของมันที่แท้จักร้ายกาจสักเพียงใด มันจะสยบสตรีที่พวกเราสงสัยว่าเป็นจิ้งจอกน้ำแข็งพันมายานั่นได้จริงๆหรือ?”

 

“ในเมื่อเผ่าหลักเลือกจะส่งมันมา เช่นนั้นมันก็ต้องมีดีสักท่า 2 ท่าล่ะ…”

 

“แต่หากมันแพ้ผู้อื่นเขาขึ้นมา ก็นับว่าสร้างความขบขันให้ผู้คนจริงๆ ถึงตอนนั้นไม่ทราบทางเผ่าหลักจะทำอย่างไรต่อไป”

 

“เรื่องแบบนั้นคงไม่เกิดขึ้นหรอก…”

 

 

ในขณะที่อาวุโสเผ่าจิ้งจอกมายากำลัสนทนาเรื่องนี้กันลับหลัง ด้านจางจินอี้ที่มาจากตระกูลจางของเผ่าหลัก ก็ถูกจางตงหนานพามาถึงห้องโถงหลักเรียบร้อย และมันก็ก้าวอาดๆขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้สูงสุดทันที

 

“ไม่ทราบท่านทูตมีนามว่าอะไร?”

 

ภายในห้องโถงหลัก จางตงหนานเอ่ยถามออกมาด้วยรอยยิ้ม

 

“เจ้ายังไม่คู่ควรรู้ชื่อข้า”

 

จางจินอี้เอ่ยออกเสียงเบา วางท่าหัวสูงเป็นที่สุด

 

“บังอาจ!!”

 

ได้ยินคำพูดโอหังของจางจินอี้ หน้าจางตงหนานพลันชะงักค้างรอยยิ้มเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อ ทว่าด้านจางเจิ้งไห่ที่อยู่ด้านหลัง กลับโพล่งออกมาอย่างอดไม่ไหว!

 

“บังอาจ?”

 

จางจินอี้เหลือบไปมองจางเจิ้งไห่ด้วยสายตาเฉยเมย จากนั้นลูกตามันก็ฉายประกายเยียบเย็นวาบขึ้น “เจ้าเป็นแค่ชนชั้นลิ่วล้อคนหนึ่งของเผ่าสาขา แต่หาญกล้าตะโกนใส่ข้าผู้เป็นทายาทสายตรงของตระกูลหลักงั้นรึ?”

 

“ทายาทสายตรงของตระกูลหลัก?”

 

ลูกตาจางตงหนานหดเล็กลงทันใด มองไปยังจางจินอี้อีกครั้ง ในแววตายังฉายชัดถึงความแตกตื่น!

 

ถึงแม้มันจะรู้ว่าทางตระกูลจางในเผ่าหลักสมควรส่งราชาอมตะ 10 ทิศมากฝีมือมา แตมันไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าจะถึงกับส่งทายาทสายตรงของตระกูลจางมาแบบนี้!

 

“หึ!”

 

จางตงหนานที่กำลังเหม่อลอย พอได้ยินเสียงพ่นลมสบทเยียบเย็นก็ฟื้นคืนสติเร็วไว จากนั้นก็พุ่งร่างไปบังขวางไว้เบื้องหน้าจางเจิ้งไห่ เพราะจางจินอี้กำลังเร่งเร้าพลังขึ้นมาพร้อมลงมือ!

 

“ขอท่านทูตโปรดเมตตาด้วย!”

 

หลังมาหยุดขวางจางจินอี้ จางตงหนานก็ยกมือขึ้นประสานโค้งคารวะ ร้องขอความเมตตาต่อจางจินอี้ทันที แผ่นหลังของมันบัดนี้เรียกว่าชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อเย็นแล้ว!!

 

“ทายาทสายตรงของตระกูลหลัก?”

 

กระทั่งตัวจางเจิ้งไห่ที่อยู่ด้านหลังจางตงหนานเอง ก็หน้าเปลี่ยนสีไปใหญ่หลวง หลังได้ยินจางจินอี้เปิดเผยฐานะออกมา และเป็นถึงทายาทสายตรงของตระกูลจางสาขาหลัก!

 

มันย่อมรู้ดีว่าทายาทสายตรงของตระกูลหลักมีความหมายว่าอย่างไร!

 

นั่นบ่งบอกว่า ในแง่ความบริสุทธิ์ของสายเลือดแล้ว อีกฝ่ายเป็นรองแค่จิ้งจอกน้ำแข็งพันมายาในตำนานเท่านั้น! เป็นตัวตนที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุดในเผ่าจิ้งจอกมายา!!

 

“อะไร? เจ้าคิดห้ามข้ารึ?”

 

จางจินอี้เหลือบมองจางตงหนานด้วยสายตาเย็นชา กล่าวออกด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม “เจ้ารู้หรือไม่ คิดจะหยุดข้าเจ้าต้องจ่ายราคาอันใด?”

 

“ท่านทูต ผู้เฒ่าเจิ้งไห่เลี้ยงดูข้ามาตั้งแต่แบเบาะ ให้ข้านิ่งดูดายผู้เฒ่าตกตาไปต่อหน้า ข้าทำไม่ได้…”

 

จางตงหนานเอ่ยออกด้วยน้ำเสียงหนักแน่นไม่ยอมถอย “ขอท่านทูตโปรดเมตตาละเว้นด้วย…”

 

“เห็นแก่ที่มันเองก็เป็นราชาอมตะ 10 ทิศคนหนึ่ง ข้าจักให้โอกาสมัน…ตราบใดที่มันสามารถทนรับมือข้าได้ 2 ลมหายใจ ข้าจะไม่เอาชีวิตมันอีก…”

 

หลังจากที่จางจินอี้พบว่าจางเจิ้งไห่ก็เป็นราชาอมตะ 10 ทิศเหมือนกัน ลูกตามันก็หดเล็กลงเร็วไว เผยประกายเย็นชาวูบวาบ มุมปากยกยิ้มแสยะเย้ยหยันขึ้นมา

 

“2 ลมหายใจ?”

 

จางตงหนานอึ้ง ด้วยไม่คิดว่าจางจินอี้จะกล่าววาจาถือดีออกมาแบบนี้

 

ด้วยพลังฝีมือของผู้เฒ่าเจิ้งไห่ กระทั่งอัจฉริยะท้าทายสวรรค์ไร้ผู้ต้านของนิกายฟ้าหมื่นศึก ที่ถูกขนานนามว่าไร้เทียมทานในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง ยังไม่กล้าพูดกระมังว่าจะสามารถฆ่าจางเจิ้งไห่ได้ในเวลาแค่ 2 ลมหายใจ?

 

แล้วไฉนทูตจากเผ่าหลักถึงได้โอหังลำพองขนาดนี้?

 

‘หรือว่า…ทูตยะโสผู้นี้ ก็แค่กล่าวไปเพื่อหาทางลง ไม่ให้เสียหน้าที่ฟังคำข้า?’

 

ครู่ต่อมา จางตงหนานอดไม่ได้ที่จะคิดไปในทำนองดังกล่าว

 

เพราะเวลาเพียงแค่ 2 ลมหายใจมันสั้นเกินไป ต่อให้พลังฝีมือของทูตจากเผ่าหลักคนนี้จะร้ายกาจเหนืออัจฉริยะท้าทายสวรรค์ของนิกายฟ้าหมื่นศึกแค่ไหน แต่มันก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีปัญญาฆ่าจางเจิ้งไห่ได้ในเวลาแค่ 2 ลมหายใจ

 

“2 ลมหายใจ?”

 

จางเจิ้งไห่ก็เริ่มยิ้มออก ดุจเดียวกับจางตงหนาน มันคิดว่าทูตจากเผ่าหลักสมควรกล่าวเสนอวิธีนี้เพื่อหาทางลงให้ตัวเองดูดีเท่านั้น

 

“เชิญท่านทูตป้อนกระบวนท่า”

 

จางเจิ้งไห่ไม่คิดรอช้า ร่างเหินขึ้นไปบนน่านฟ้าพลางกล่าวกับจางจินอี้ หมายให้อีกฝ่ายลงมือได้เลย

 

จางตงหนานก็เหินร่างตามไปทันที

 

ครู่ต่อมาคนของเผ่าจิ้งจอกมายา โดยเฉพาะเหล่าอาวุโสทั้งหลายก็แลเห็นความเคลื่อนไหวดังกล่าว จึงอดไม่ได้ที่จะงุนงง “นั่นมิใช่ท่านหัวหน้าเผ่าหรือไร?”

 

“ใช่ นั่นก็ผู้เฒ่าเจิ้งไห่…”

 

“ว่าแต่คนที่พึ่งลอยร่างขึ้นมาเผชิญหน้ากับผู้เฒ่าเจิ้งไห่นั่น…มิใช่ทูตจากเผ่าหลักที่พวกเราไปต้อนรับมาเมื่อครู่หรือไร?”

 

“ผู้เฒ่าเจิ้งไห่กำลังจะประมือกับทูตจากเผ่าหลักรึ?”

 

 

เหล่าอาวุโสที่เห็นเรื่องราวความเคลื่อนไหวดังกล่าว ก็อดไม่ได้ที่จะสนทนาถามไถ่กันด้วยความสงสัย

 

“ข้าจะให้เวลาเจ้าเตรียมตัว 1 เค่อ…หลังผ่านไป 1 เค่อแล้ว ตอนข้าจะลงมือข้าจะเตือนเจ้าอีกครั้ง”

 

จางจินอี้เหลือบมองจางเจิ้งไห่ด้วยสายตาเฉยเมย กล่าวด้วยน้ำเสียงไร้แยแส “ถึงตอนนั้น หากเจ้าสามารถรับมือข้าได้ถึง 2 ลมหายใจ เช่นนั้นวันนี้เจ้าก็รอดตัวไป”

 

“กลับกัน หากเจ้าทนได้ไม่ถึง 2 ลมหายใจ ไม่ว่าใครก็ช่วยเจ้าให้พ้นความตายไม่ได้!”

 

สองตาจางจินอี้นั้นฉายชัดถึงความดูแคลนเป็นที่สุด

 

และพอจางจินอี้กล่าววาจาทั้งหมดออกมา บรรยากาศโดยรอบก็คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นดินปืนทันที ใบหน้าของคนเผ่าจิ้งจอกมายายังอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอึ้งค้างกันไปตามๆกัน

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!?”

 

“ฟังจากวาจาของทูตผู้นั้น…ดูเหมือนจะคิดฆ่าผู้เฒ่าเจิ้งไห่เช่นนั้นหรือ?”

 

“หากผู้เฒ่าเจิ้งไห่ทนได้ 2 ลมหายใจ? มิใช่ว่าทูตผู้นั้นก็เป็นราชาอมตะ 10 ทิศเหมือนกันหรือไร ต่อให้เป็นอัจฉริยะท้าทายสวรรค์ไร้ผู้ต้านคนนั้นของนิกาฟ้าหมื่นศึก ก็ไม่กล้ากล่าววาจาโอหังเช่นนี้มิใช่หรือ?”

 

“ข้าจำได้ว่าตอนผู้เฒ่าเจิ้งไห่ประมือกับอัจฉริยะของนิกายฟ้าหมื่นศึกผู้นั้น ผู้เฒ่าเจิ้งไห่ยังต้านทานได้ 6-7 ลมหายใจ จึงค่อยยอมรับความพ่ายแพ้…”

 

“มิใช่ว่าทูตที่ทางเผ่าหลักส่งมาคราวนี้ก็เป็นราชาอมตะ 10 ทิศหรือไร ไฉนมันพูดราวกับมั่นใจนักเล่า?”

 

 

เหล่าอาวุโสของเผ่าจิ้งจอกมายาถามไถ่กันด้วยความงุนงง จากนั้นก็เริ่มดึงดูดความสนใจของคนเผ่าจิ้งจอกมายาในละแวกใกล้เคียง

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

“เรื่องราวเป็นเช่นไร?”

 

 

จากนั้นเหล่าอาวุโสที่มาทีหลังก็งุนงงไม่ต่าง ด้วยไม่เข้าใจว่าแค่ในเวลาสั้นๆ ด้านบนไปทะเลาะเบาะแว้งกันอีท่าไหน ไฉนทูตจากเผ่าหลักถึงต้องคิดเข่นฆ่าผู้เฒ่าเจิ้งไห่ด้วย

 

สุดท้ายก็เป็นจางตงหนานที่เห็นว่าเหล่าอาวุโสร่วมมารวมตัวกันหนาตา จึงส่งเสียงผ่านพลังอธิบายลงไปเพื่อคุมสถานการณ์ ทุกคนจึงตระหนักเรื่องราวได้ทันที

 

ที่แท้เป็นผู้เฒ่าเจิ้งไห่ไปกล่าววาจาล่วงเกินทูตจากเผ่าหลักก่อน

 

และที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ…

 

ทูตจากเผ่าหลักคนนี้…กลับเป็นถึงทายาทสายตรงของตระกูลหลัก!

 

นั่นคือจิ้งจอกมายาของตระกูลจางสาขาหลักของพวกมัน ที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุดในเผ่ามายา!

 

“2 ลมหายใจงั้นหรือ…พวกเจ้าว่าใช่ทูตจากเผ่าหลักคนนี้คิดหาทางลงให้ตัวเองหรือไม่?”

 

“สมควรเป็นเช่นนั้น เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะฆ่าผู้เฒ่าเจิ้งไห่ได้ในเวลาไม่ถึง 2 ลมหายใจ”

 

“จริง เว้นเสียแต่มันจะเป็นจอมราชันอมตะ หาไม่แล้วมันไม่มีทางทำได้แน่!”

 

 

ไม่นานนักอาวุโสของเผ่าจิ้งจอกมายาก็เริ่มเห็นพ้องต้องกัน

 

จางจินอี้ไม่มีทางฆ่าจางเจิ้งไห่ภายในเวลา 2 ลมหายใจได้แน่นอน!

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากเวลาผ่านไปครบ 1 เค่อ จางจินอี้พอกล่าวเตือนจางเจิ้งไห่จบคำ มันก็ระเบิดพลังสังหารจางเจิ้งไห่ได้ในชั่วพริบตา ทำให้ทุกคนที่ชมดูเรื่องราวพลันตระหนักได้ว่า…ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกมันไม่ต่างอะไรจากกบน้อยที่แหงนมองท้องฟ้าจากก้นบ่อเลย!

 

และสูงขึ้นไปบบนฟ้า จางจินอี้ก็ยังคงลอยร่างอยู่ตรงนั้น ท่วงท่ายังคงค้างอยู่ในกระบวนท่าสังหารไม่เปลี่ยน

 

เมื่อครู่ พอจางจินอี้กล่าวเตือนจบ ร่างจางจินอี้ก็เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูล้ำสุดที่จางเจิ้งไห่จะตอบสนองใดๆได้ทัน จากนั้นก็ถูกหนึ่งฝ่ามือตบฟาด จนร่างระเบิดเป็นละอองโลหิต…

 

“ยังเป็นข้าประเมินเจ้าสูงไป…ฆ่าเจ้ายังใช้ไม่ถึงครึ่งลมหายใจด้วยซ้ำ”

 

จางจินอี้เหลือบมองละอองโลหิตของจางเจิ้งไห่ด้วยสายตาเฉยเมยย เอ่ยออกด้วยน้ำเสียงหยันหยาม

 

จังหวะนี้ ผู้ชมทั้งหมดล้วนเงียบสงบไร้กระทั่งเสียงลมหายใจ

 

ด้านจางตงหนานหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกมายา ตอนนี้มันรู้สึกเสมือนมีอะไรจุกค้างอยู่ในลำคอ พูดอะไรไม่ออกอยู่นาน

 

‘นี่น่ะหรือ…ความแข็งแกร่งของราชาอมตะ 10 ทิศ ของทายาทสายตรงตระกูลหลัก?’

 

ใจจางตงหนานสะท้านเต้นไปไม่เป็นจังหวะ ตัวมันที่เป็นจอมราชันอมตะ ย่อมมองเห็นว่าเมื่อครู่จางจินอี้ลงมืออย่างไร

 

ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายยังใช้ทักษะเฉพาะ ที่มีแต่จิ้งจอกมายาสายเลือดบริสุทธิ์เท่านั้นที่สามารถใช้ได้ออกมา

 

‘ให้ตายเถอะ ต่อให้เป็นอัจฉริยะท้าทายสวรรค์ไร้ผู้ต้านคนนั้นของนิกายฟ้าหมื่นศึก เกรงว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าจางจินอี้ผู้นี้ น่ากลัวจะทนได้ไม่ถึง 10 ลมหายใจกระมัง?’

 

ผ่านไปสักพัก จางตงหนานที่ฟื้นคืนสติคนแรก ก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ

 

จางตงหนานแน่นอนว่าย่อมเศร้าโศกกับการตายของจางเจิ้งไห่ และอยากล้างแค้นให้จางเจิ้งไห่เป็นธรรมดา…อนิจจามันรู้ตัวดีว่ามันไม่อาจล้างแค้นให้จางเจิ้งไห่ได้

 

เว้นเสียแต่มันจะอยากตาย…

 

ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด!

 

 

ขณะเดียวกัน ด้านผู้อาวุโสขอเผ่าจิ้งจอกมายาหทั้งหลาย ก็เริ่มหวนกลับมาครองสติอีกครั้ง พากันสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ!

 

และพอทุกคนมองไปยยยยังจางจินอี้อีกรอบ สายตายังทำราวกับเห็นผีกลางวันแสกๆ!!

 

“ท่านทูต…”

 

สุดท้ายจางตงหนานก็เป็นคนปริปากกล่าวคำออกมาคนแรก เพื่อสลายบรรยากาศอันน่าอึดอัด “ด้วยพลังฝีมือของท่าน สมควรไร้เทียมทานใต้ขอบเขตจอมราชันอมตะในเผ่าหลักแล้วใช่หรือไม่?”

 

“ไร้เทียมทานใต้จอมราชันอมตะในเผ่าหลัก?”

 

จางจินอี้เหลือบมองจางตงหนานด้วยสายตาค่อนแคะ กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยเยาะ “กบก้นบ่อ! พลังฝีมือของข้านับประสาอะไรกับในเผ่าหลัก เอาแค่ในบรรดาราชาอมตะ 10 ทิศของตระกูลจาง ข้ายังเป็นแค่อันดับ 3 เท่านั้น!”

 

พอจางจินอี้กล่าวประโยคนี้ออกมา ผู้คนก็จมจ่อมอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

 

ลูกตาจางตงหนานยังหดเล็กลงเร็วไว ใบหน้าฉายชัดถึงความตื่นตกใจที่ไม่อาจบรรยายให้เห็น

 

ราชาอมตะ 10 ทิศที่ร้ายกาจเยี่ยยจางจินอี้ ยังไม่ใช่ราชาอมตะ 10 ทิศที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลจางด้วยซ้ำงั้นหรือ?

 

เอาแค่ในตระกูลจาง ยังมีอีก 2 คนที่พลังฝีมือสูงกว่านี้?

 

นี่…

 

เป็นครั้งแรกเลย ที่จางตงหนานรู้สึกเสมือนตัวเองเป็นกบก้นบ่อจริงๆ…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด