War sovereign Soaring The Heavens 3384

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3384 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3384 : ศิษย์หลานต้วน

 

“เฟิงอวี้เอย นี่คือผู้เฒ่าหั่ว คนของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนถึงแม้ผู้เฒ่าทั่วจักไม่ได้มีฐานะอันใดในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน แต่ถือว่ามีอํานาจไม่น้อย เรียกว่าไม่ต่างใดกับจักรพรรดิอมตะกร่างสวรรค์ เมิ่งหลัวเลย”

 

ได้ยินเสียงผ่านพลังของโหยวเฟิงอวี้ เชวียหงอวี้ ก็เร่งกล่าวแนะนําผู้เฒ่าหั่วออกมาตรงๆ

 

ในอดีตมันเคยเร่งรุดไปแสดงความยินดีฟงชิงหยาง ที่สามารถทวงตําแหน่งจักรพรรดิสวรรค์ของจี้เมี่ยเทียนคืนได้สําเร็จ แน่นอนว่าวันนั้นก็มีจักรพรรดิสวรรค์ไปเยือนพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนเหมือนมันไม่น้อย

 

และบังเอิญมันก็ได้เจอกับจักรพรรดิสวรรค์ 2-3 ที่มีความสัมพันธ์ไม่ค่อยจะสู้ดีกับมันสักเท่าไหร่ และอีกฝ่ายก็รวมหัวกันรังแกมัน คิดให้มันเสียหน้า กลายเป็นตัวตลกในบรรดาจักรพรรดิสวรรค์ที่มา

 

วันนั้นเป็นผู้เฒ่าหั่วที่เห็นเหตุการณ์ และออกหน้าปรามทุกคนเพื่อรักษาหน้าให้มันเอาไว้

 

ถึงแม้ผู้เฒ่าหั่วจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่ามัน และไม่อาจเทียบกับจักรพรรดิสวรรค์ที่อ่อนแอที่สุดได้ แต่อย่างไรก็เป็นคนของฟงชิงหยาง พอผู้เฒ่าหั่วออกหน้าปรามแล้ว จักรพรรดิสวรรค์ที่คิดทําให้มันต้องอับอายขายหน้าเหล่านั้นก็ไม่กล้าก่อการข่มเหงใดๆมันอีก

 

เชวียหงอวี้ ย่อมจดจําบุญคุณในวันนั้นได้เสมอ

 

เมื่ออยู่มาจนมีด่านพลังฝึกปรือระดับนี้แล้ว มันไม่ได้สนใจเรื่องราวอะไรมากมายอีก…แต่ใบหน้ากับศักดิ์ศรีของมัน เป็นสิ่งเดียวที่มันไม่อาจสูญเสียไปได้

 

“อะไร!?”

 

“คนสนิทของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน ใต้เท้า ฟงชิงหยาง ผู้นั้น!?”

 

ไม่เพียงแต่โหยวเฟิงอวี้เท่านั้น จักรพรรดิอมตะสมญานามของวังเทียนฉือรอบๆตัวโหยวเฟิงอวี้ ? พอได้ยินวาจากล่าวบอกตัวตนผู้เฒ่าหั่วของเชวียหงอวี้ แต่ละคนก็อื้ออึงกันหมด ร่างยังแข็งทื่อไปราวกลายเป็นหิน!

 

จักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เสี่ยเทียน ฟงชิงหยาง!

 

เพราะเชวียหงอวี้ จักรพรรดิสวรรค์ของอู๋หยาเทียน พวกมันจึงรับทราบถึงความน่าสะพรึงกลัวของ ฟงชิงหยาง จักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เสี่ยเทียนดี! ถึงแม้ฟังชิงหยางจะมีอายุน้อยที่สุดในบรรดาจักรพรรดิสวรรค์ทั้งมวลของระนาบเทวโลก แต่พลังฝีมือกลับร้ายกาจมากพอจะติดอยู่ใน 10 อันดับแรก แม้กระทั่ง 5 อันดับแรกของรายนามจักรพรรดิสวรรค์!

 

ที่สําคัญบางคนยังคาดเดากันไปว่า ฟงชิงหยางได้บรรลุถึงขอบเขตเทพไปแล้ว

 

หากสามารถยืนยันเรื่องที่ฟงชิงหยางบรรลุถึงขอบเขตเทพได้แล้วล่ะก็ น่ากลัวพลังฝีมือจะถีบตัวขึ้นไปสูงติด 3 อันดับแรกของ รายนามจักรพรรดิสวรรค์! รายชื่ออันดับพลังฝีมือของเหล่าจักรพรรดิสวรรค์ทั้งเก้าเก้า 81 ระนาบ!

 

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่ยังเป็นแค่จักรพรรดิอมตะ 10 ทิศ อาศัยกฏที่เข้าใจ ก็ทําให้ร้ายกาจมากอยู่แล้ว

 

“จักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน?”

 

ด้านฉือหล่าง และคนอื่นๆก็ตกใจกับวาจาของเชวียหงอวี้ ไม่น้อย เพราะไม่คิดไม่ฝันเลยว่าชายชราที่คล้ายเป็นเพียงผู้ติดตามตัวเล็กๆของต้วนหลิงเทียน ที่แท้กลับเป็นคนของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนไปได้!

 

จักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน ฟังชิงหยาง เป็นตัวตนที่มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วระนาบเทวโลกทั้งมวล กระทั่งชื่อเสียงยังสูงเสียดฟ้า โด่งดังประหนึ่งฟ้าร้องในหูพวกมันด้วยซ้ำ

 

“ศิษย์น้องเล็ก…ไฉนไปเกี่ยวข้องกับตัวตนที่อยู่ข้างกายจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนได้เล่า?”

 

หงเฟยรู้สึกอื้ออึงอยู่บ้าง

 

“ข้าจะไปรู้ได้ไงล่ะ”

 

หูเหม่ยเองก็อื้ออึงไปแล้วเช่นกัน

 

“ผู้เฒ่าหั่ว แล้วต้วนหลิงเทียนผู้นี้…”

 

ท่ามกลางสายตาชมมองของทุกคน เชวียหงอวี้ ที่เร่งรุดมาวังเทียนฉือเพราะข้อความที่โหยวเฟิงอวี้จ้าววังเทียนฉือแจ้งไป ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวถามผู้เฒ่าทั่วถึงตัวตนของต้วนหลิงเทียน

 

เพราะเป้าหมายในการมาวันนี้ของมันก็คือต้วนหลิงเทียน

 

อย่างไรก็ตาม มันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าสารเลวน้อยที่ก่อเรื่องจนมันต้องเร่งรุดมาวังเทียนฉือ 2 ครั้ง 2 ครา กลับมีผู้เฒ่าหั่วที่เป็นคนของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนอยู่ข้างกายซะได้!

 

เรื่องที่มันติดค้างผู้เฒ่าหั่วนั้นก็ใช่

 

อย่างไรก็ตาม หากคิดจะอาศัยเรื่องนั้นให้ละเว้นต้วนหลิงเทียน เห็นทีคงจะไม่ได้

 

อย่างไรก็ตาม พอนึกถึงข้อความที่โหยวเฟงอวแจ้งมา จนทราบว่าผู้เฒ่าหั่วติดตามต้วนหลิงเทียนราวกับผู้ติดตามคนหนึ่ง เชวียหงอวี้ ก็รู้สึกว่าเรื่องราวมีอะไรบางอย่างผิดปกติทันที

 

ยังจะมีใครทําให้ผู้เฒ่าทั่วกลายไปเป็นคนติดตามได้อีก?

 

ต่อให้จะเป็นพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เสี่ยเทียน ก็เกรงว่าคงมีแต่จักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนคนเดียวไม่ใช่หรือไรที่จะได้รับการปฏิบัติจากผู้เฒ่าหั่วแบบนี้?

 

เพราะต่อให้เป็นจักรพรรดิอมตะกร่างสวรรค์ เมิ่งหลัว ของจี้เมี่ยเทียน ถึงแม้จะมีพลังฝีมือสูงกว่าผู้เฒ่าหั่ว แต่ก็ไม่มีทางได้รับการปฏิบัติระดับนี้จากผู้เฒ่าหั่ว

 

ในขณะที่จักรพรรดิสวรรค์แห่งอู๋หยาเทียน เชวียหงอวี้ กําลังมองผู้เฒ่าหั่วเพื่อรอฟังคําตอบคนอื่นๆไม่ว่าจะเป็นโหยวเฟิงอวี้ ก็ดี ฉือหล่างก็ดี ล้วนมองจ้องผู้เฒ่าหั่วด้วยกันทั้งนั้น

 

เผชิญหน้ากับทุกสายตาที่จับจ้องมา ผู้เฒ่าหั่วก็กล่าวออกด้วยน้ำเสียงเฉยเมยว่า “เขาคือศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน”

 

พอผู้เฒ่าหั่วกล่าวจบคํา ทุกคนก็พร้อมใจกันเงียบสนิท เหลือเพียงเสียงลมหายใจอันรุนแรง

 

ต้วนหลิงเทียน ศิษย์ของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน?

 

ทั้งยังเป็นศิษย์ที่แท้จริง?

 

ศิษย์แต่ในนาม ศิษย์ทั่วไป ศิษย์ส่วนตัวนั้นล้วนสามารถมีได้หลายคน…อย่างไรก็ตามคําว่าศิษย์ที่แท้จริงนี้ ในระนาบเทวโลกแล้วเสมือนศิษย์ที่จะรับสืบทอดทุกสิ่งทุกอย่าง ปกติแล้วก็มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น มีความหมายคล้ายๆศิษย์สายตรงของสํานักหรือนิกาย

 

ต้วนหลิงเทียนผู้นี้กลับเป็นศิษย์ที่แท้จริงของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน?

 

“ผะ..ผู้เฒ่าหั่ว ที่ท่านกล่าวเรื่องจริงหรือ?”

 

โหยวเฟิงอวี้ จ้าววังเทียนฉือเป็นคนแรกที่ฟื้นสติ มันหันไปมองถามผู้เฒ่าหั่วด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “ท่านคงมิได้พูดเช่นนี้ เพราะจงใจปกป้องต้วนหลิงเทียนหรอกนะ?”

 

“จงใจ?”

 

ผู้เฒ่าหั่วหัวเราะเยาะพลางกล่าว “เช่นนั้นเจ้าลองถามท่านตาของเจ้าดู ว่าข้าจงใจพูดแบบนี้หรือไม่?”

 

“จักรพรรดิสวรรค์มิอาจล้อเล่นด้วยได้ ทั้งจักรพรรดิสวรรค์ยังมิอาจให้ผู้ใดหมิ่นหยามได้…ไม่มีผู้ใดสามารถลบหลู่เกียรติของจักรพรรดิสวรรค์ได้ง่ายๆ!”

 

เชวียหงอวี้กล่าวออกเสียงหนัก

 

หากเป็นคนอื่นพูด มันอาจจะคลางแคลงสงสงสัยอยู่บ้าง แต่กับผู้เฒ่าหั่วแล้วมันเชื่อที่อีกฝ่ายพูดทั้งหมด เพราะผู้เฒ่าหั่วไม่มีวันเอาเรื่องแบบนี้มาพูดเล่นแน่!

 

พอเชวียหงอวี้ กล่าวออกมาแบบนี้ โหยวเฟิงอวี้ก็ได้แต่เงียบไปไม่พูดจา หากแต่สายตาที่ใช้มองต้วนหลิงเทียนนั้น ได้ฉายชัดถึงความไม่เต็มใจถึงที่สุด!

 

เพราะมันรู้แก่ใจดี

 

ว่าการที่ผู้เฒ่าหั่วประกาศออกมาว่าต้วนหลิงเทียนคือศิษย์ที่แท้จริงของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนแบบนี้ วังเทียนฉือของพวกมันก็เสมือนได้ถูกลิขิตไว้แล้วว่าไม่อาจล่วงเกินตอแยอะไรต้วนหลิงเทียนได้อีก กระทั่งยังต้องภาวนาให้ต้วนหลิงเทียนไม่คิดบัญชีเก่าก่อนอีกด้วย!

 

ยังไม่เพียงแต่วังเทียนฉือของพวกมันเท่านั้น แม้แต่ตาของมัน จักรพรรดิสวรรค์แห่งอู๋หยาเทียนก็ไม่กล้าแม้แต่จะคิดไม่ซื่อกับต้วนหลิงเทียนอีกต่อไป

 

หากเป็นจักรพรรดิสวรรค์ธรรมดาก็คงไม่เป็นอะไร

 

ทว่านี่คือจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน ตัวตนที่กระทั่งตาของมันก็ยังต้องหวาดกลัวจับใจ!

 

ครั้งก่อนตอนที่มีข่าวว่าอีกฝ่ายกลับออกมาจากนรกอสุราและลงมือฆ่าจักรพรรดิสวรรค์ของจี้เมี่ยเทียนในตอนนั้นได้ในพริบตา ท่านตาของมันยังต้องเร่งรุดนําของขวัญไปกล่าวแสดงความยินดีถึงวังเทียนฉือเพื่อประจบประแจงด้วยซ้ำ!

 

“ไม่จริงหน้าเป็นไปไม่ได้! เรื่องแบบนี้มันจะเป็นไปได้ยังไง!?”

 

สีหน้าของจักรพรรดิอมตะมังกรกู้ฉางเจียงเปลี่ยนไปใหญ่หลวงนัก สองตาฉายชัดถึงความไม่อยากจะเชื่อล้นปรี่

 

ตอนนี้ไม่ใช่แค่มันเท่านั้นที่ไม่อยากจะเชื่อ กระทั่งจักรพรรดิอมตะคลื่นหมอกเองก็ไม่อาจเชื่อได้ลงคอ สําหรับจักรพรรดิอมตะวิเวกเย็นเยือกกับจักรพรรดิอมตะเมฆดุริยะ ตอนนี้ตกใจจนตาลอยไปแล้ว แถมแต่ละคนยังปรากฏเหงื่อเย็นไหลโชกแผ่นหลัง

 

“ศะศิษย์น้องเล็ก เป็นศิษย์ที่แท้จริงของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เสี่ยเทียน ใต้เท้าฟงชิงหยางผู้นั้น? จริงหรือหลอก!?”

 

ลมหายใจของหงเฟยกลายเป็นหอบถี่ ไขมันทั่วร่างกระเพื่อมบึงๆไม่หยุด

 

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าไฉนศิษย์น้องเล็กถึงได้ดูมั่นใจนัก…เจ้าเด็กนี่จะพูดให้ชัดๆแต่แรกก็ได้ไม่นะ อมพะนําให้ข้ากังวลเพื่อ!?”

 

หูเหม่ยกล่าวบ่นพึมพําออกมาเบาๆ สองตามองจ้องต้วนหลิงเทียนที่ลอยร่างไกลๆเขม็ง

 

ด้านฉือหล่างก็ได้แต่ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกเฮือกใหญ่ ในแววตายังเต็มไปด้วยความตกใจ ด้วยไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะกลายไปเป็นศิษย์ที่แท้จริงของจักรพรรดิสวรรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนซะได้!

 

มันย่อมยินดีมีสุขกับต้วนหลิงเทียนจากใจ

 

สําหรับศิษย์พี่คนอื่นๆของต้วนหลิงเทียนเอง ก็พอได้ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ความรู้สึกเสมือนขุนเขาที่กดทับกลางใจหายไปในฉับพลัน

 

ศิษย์พี่หญิงใหญ่ฉือหย่าชีเองยังมองต้วนหลิงเทียนตาเป็นประกาย “ที่แท้นี่ก็คือสิ่งที่ศิษย์น้องเล็กพึ่งพิง…ไม่คิดเลยจริงๆว่าที่แท้ศิษย์น้องเล็กจะกลายไปเป็นศิษย์ส่วนตัวของใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางผู้นั้น”

 

“ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางกระทั่งท่านอาจารย์ยังกล่าวชื่นชมไม่หยุดปาก”

 

ฉือหย่าชีกล่าวพึมพํากับตัวเบาๆ

 

“ผู้เฒ่าหั่ว ข้าว่าเรื่องในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันทั้งนั้น

 

เชวียหงอวี้ หันไปกล่าวคํากับผู้เฒ่าหั่วด้วยรอยยิ้ม

 

ถึงแม้วันนี้มันจะมาเพื่อฆ่าต้วนหลิงเทียน

 

อย่างไรก็ตาม พอมันได้รู้ฐานะของต้วนหลิงเทียนแล้วแบบนี้ ต่อให้มีความกล้าเพิ่มขึ้นร้อยเท่า มันก็ไม่กล้าฆ่าต้วนหลิงเทียน เว้นเสียแต่มันพร้อมจะละทิ้งตําแหน่งจักรพรรดิสวรรค์แห่งอู๋หยาเทียน แล้วปลีกวิเวกไปอยู่ในที่เปลี่ยวร้างตลอดชั่วชีวิต!

 

หาไม่แล้วเมื่อต้วนหลิงเทียนตกตายไป จักรพรรดิสวรรค์แห่งเมี่ยเทียนไม่มีทางเลิกรากับมันแน่!

 

จักรพรรดิสวรรค์แห่งเมี่ยเทียนฟงชิงหยางผู้นั้น หลายคนคาดเดากันว่าบรรลุถึงขอบเขตแล้ว และถ้าอีกฝ่ายบรรลุถึงขอบเขตเทพขึ้นมาจริงๆ การฆ่ามันให้ตายยังง่ายดายไม่ต่างอะไรกับเหยียบมดสักตัวด้วยซ้ำ!

 

กระทั่งในตอนที่อีกฝ่ายยังไม่บรรลุถึงขอบเขตเทพ ตัวมันก็ไม่มีปัญญาจะต่อกรด้วยแล้ว

 

“เข้าใจผิด?”

 

ผู้เฒ่าหั่วมองลึกไปยังเชวียหงอวี้ ก่อนจะกวาดตามองไปทางโหยวเฟิงอวี้กับคนอื่นๆ “เมื่อครู่ คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่คิดอยากจะฆ่านายน้อยของข้าให้ตาย..ตอนนี้ใต้เท้าเชวียหงอวี้ ท่านมาบอกว่าเข้าใจผิด เกรงว่าจะเหมาะกระมัง?”

 

ได้ยินคําพูดของผู้เฒ่าหั่ว สีหน้าเชวียหงอวี้ ก็เปลี่ยนไปทันที

 

“น้อยน้อย เรื่องนี้ท่านว่าอย่างไรเล่า?”

 

ผู้เฒ่าหั่วกล่าวถามต้วนหลิงเทียนด้วยน้ำเสียงสุภาพ

 

จังหวะนี้เชวียหงอวี้เองก็หันไปมองต้วนหลิงเทียนเช่นกัน ใบหน้ายังคลี่กางรอยยิ้มสดใสออกมา “ศิษย์หลานต้วน ปุบปับได้พบ ลุงมิทันได้เตรียมของขวัญอันใดให้เจ้าเลย…วันหน้าข้าจักไปเยี่ยมศิษย์หลานต้วนที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนทั้งชดเชยให้เป็นอย่างไร?”

 

เชวียหงอวี้ ที่มาอย่างน่าเกรงขามท่าทางดุร้ายเมื่อครู่ ตอนนี้กลับยิ้มร่ากล่าวคํากับต้วนหลิงเทียนอย่างมากอัธยาศัย ราวกับลืมเลือนเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนสร้างความไม่พอใจให้มันไปหมดสิ้น

 

“ของขวัญอะไรล้วนไม่จําเป็น”

 

ต้วนหลิงเทียนส่ายหน้าไปมา จากนั้นก็ชี้ไปยังจักรพรรดิอมตะสมญานาม 2 คนข้างกายโหยวเฟิงอวี้ “2 คนนั่นมันคิดจะฆ่าข้าให้ตายไม่เลิก ก่อนหน้ายังทําราวกับทนรอฆ่าข้าไม่ไหวแล้วด้วยซ้ำ”

 

“แน่นอนว่าหลานชายของจักรพรรดิสวรรค์เชวียเองก็แทบจะทนรอฆ่าข้าให้ตายไม่ไหวแล้วอีกคน…แต่เห็นแก่หน้าท่าน เช่นนั้นข้าไม่ถือสาหาความหลานท่านสักครั้งก็ได้”

 

“แต่เจ้า 2 คนนั่น ดูเหมือนจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่านทางสายเลือดอะไรกระมัง?”

 

กล่าวถึงท้ายประโยคต้วนหลิงเทียนก็มองจ้องเชวียหงอวี้ตาเขม็ง

 

ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนมีความรู้สึกราวกับจะสั่งให้เอาขนไก่ไปทําลูกศร รู้สึกดีไม่ใช่น้อย!

 

(เอาขนไก่ไปทําลูกศร = ผู้มีอํานาจหาข้ออ้างเพื่อแสดงอํานาจ)

 

และ 2 คนที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวถึงก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นจักรพรรดิอมตะมังกร กับจักรพรรดิอมตะคลื่นหมอก ซึ่งทั้ง 2 ก็ได้มีความขัดแย้งกับต้วนหลิงเทียนมาเนิ่นนานแล้ว

 

เรียกว่าตอนร้องจะฆ่าต้วนหลิงเทียน เสียงพวกมันยังดังกว่าใครเขา

 

ตรงกันข้ากับสตรีที่เป็นจักรพรรดิอมตะสมญานามทั้ง 2 ของวังเทียนฉืออย่างจักรพรรดิอมตะวิเวกเย็นเยือกกับจักรพรรดิอมตะเมฆดุริยะ แม้ทั้งคู่จะกล่าววาจาเหี้ยมโหด แต่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นการปฏิตามคําสั่งของโหยวเฟิงอวี้ จ้าววังเทียนฉือทั้งนั้น

 

“เจ้า!!”

 

สีหน้าของจักรพรรดิอมตะมังกรกับจักรพรรดิอมตะคลื่นหมอกเปลี่ยนไปใหญ่หลวง จากนั้นพวกมันก็เหลือบไปมองเชวียหงอวี้ด้วยสายตาหวาดกลัว เนื่อเพราะกลัวเชวียหงอวี้ จะลงมือฆ่าพวกมันขึ้นมาจริงๆ

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าแต่ต้นจนจบเชวียหงอวี้ ยังคงมองต้วนหลิงเทียนอยย่างสงบ ไม่ได้เหลือบแลมาทางพวกมันเลย พวกมันก็พอได้ระบายลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอกอยู่บ้าง

 

“ต้วนหลิงเทียน อย่าให้มันมากเกินไปนัก!!”

 

โหยวเฟิงอวี้ ที่สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่สู้ดีมองต้วนหลิงเทียนตาขวาง กล่าวคําออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจถึงที่สุด

 

“จักรพรรดิสวรรค์เชวีย”

 

ต้วนหลิงเทียนมองเชวียหงอวี้พลางผายมือยัยกไหล่ออกมาด้วยท่าทางทําช่วยไม่ได้ “ท่านเห็นที่ท่าหลานชายท่านยังเล่า? โทษตายละเว้นได้แต่โทษเป็นยังอยู่ งั้นท่านตบหน้ามันทั้ง 2 ข้าง ถือเสียว่าเป็นการสะสางความแค้นระหว่างข้ากับมันเป็นไง?”

 

“ตบมารด…”

 

ในขณะที่โหยวเฟิงอวี้กําลังจะโพล่งคําบางอย่างออกมาด้วยโทสะ มันก็ถูกขัดด้วยเสียงดัง เพี้ยะ! ซะก่อน

 

เป็นจักรพรรดิสวรรค์แห่งอู๋หยาเทียน เชวียหงอวี้ ที่ยกมือขึ้นมาตบหน้ามือที่หลังมือทีฟาดแก้มทั้ง 2 ข้างของโหยวเฟิงอวด้วยความฉับไวติดต่อกัน 2 ครั้งติด พาลให้แก้มมันบวมแดงขึ้นมาทันตาเห็น

 

“ทะ…ท่านตา!?”

 

โหยวเฟิงอวี้ ชักหน้าเหวอไปด้วยความตะลึงแล้วจริงๆ

 

และในขณะที่โหยวเฟิงอวี้ ชักหน้าเหวอด้วยความตกตะลึงนั้น ด้านจักรพรรดิอมตะมังกรกับจักรพรรดิอมตะคลื่นหมอกที่เห็นเรื่องราวทั้งหมดก็เร่งคุกเข่าลงกลางหาว ตัวยังสั่นระริกไปราวลูกกตกน้ำ “ขอใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์เมตตาไว้ชีวิตด้วย!”

 

“ขอใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์เมตตาไว้ชีวิตด้วย!!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

War sovereign Soaring The Heavens 3384

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3384 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3384 : ศิษย์หลานต้วน

 

“เฟิงอวี้เอย นี่คือผู้เฒ่าหั่ว คนของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนถึงแม้ผู้เฒ่าทั่วจักไม่ได้มีฐานะอันใดในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน แต่ถือว่ามีอํานาจไม่น้อย เรียกว่าไม่ต่างใดกับจักรพรรดิอมตะกร่างสวรรค์ เมิ่งหลัวเลย”

 

ได้ยินเสียงผ่านพลังของโหยวเฟิงอวี้ เชวียหงอวี้ ก็เร่งกล่าวแนะนําผู้เฒ่าหั่วออกมาตรงๆ

 

ในอดีตมันเคยเร่งรุดไปแสดงความยินดีฟงชิงหยาง ที่สามารถทวงตําแหน่งจักรพรรดิสวรรค์ของจี้เมี่ยเทียนคืนได้สําเร็จ แน่นอนว่าวันนั้นก็มีจักรพรรดิสวรรค์ไปเยือนพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนเหมือนมันไม่น้อย

 

และบังเอิญมันก็ได้เจอกับจักรพรรดิสวรรค์ 2-3 ที่มีความสัมพันธ์ไม่ค่อยจะสู้ดีกับมันสักเท่าไหร่ และอีกฝ่ายก็รวมหัวกันรังแกมัน คิดให้มันเสียหน้า กลายเป็นตัวตลกในบรรดาจักรพรรดิสวรรค์ที่มา

 

วันนั้นเป็นผู้เฒ่าหั่วที่เห็นเหตุการณ์ และออกหน้าปรามทุกคนเพื่อรักษาหน้าให้มันเอาไว้

 

ถึงแม้ผู้เฒ่าหั่วจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่ามัน และไม่อาจเทียบกับจักรพรรดิสวรรค์ที่อ่อนแอที่สุดได้ แต่อย่างไรก็เป็นคนของฟงชิงหยาง พอผู้เฒ่าหั่วออกหน้าปรามแล้ว จักรพรรดิสวรรค์ที่คิดทําให้มันต้องอับอายขายหน้าเหล่านั้นก็ไม่กล้าก่อการข่มเหงใดๆมันอีก

 

เชวียหงอวี้ ย่อมจดจําบุญคุณในวันนั้นได้เสมอ

 

เมื่ออยู่มาจนมีด่านพลังฝึกปรือระดับนี้แล้ว มันไม่ได้สนใจเรื่องราวอะไรมากมายอีก…แต่ใบหน้ากับศักดิ์ศรีของมัน เป็นสิ่งเดียวที่มันไม่อาจสูญเสียไปได้

 

“อะไร!?”

 

“คนสนิทของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน ใต้เท้า ฟงชิงหยาง ผู้นั้น!?”

 

ไม่เพียงแต่โหยวเฟิงอวี้เท่านั้น จักรพรรดิอมตะสมญานามของวังเทียนฉือรอบๆตัวโหยวเฟิงอวี้ ? พอได้ยินวาจากล่าวบอกตัวตนผู้เฒ่าหั่วของเชวียหงอวี้ แต่ละคนก็อื้ออึงกันหมด ร่างยังแข็งทื่อไปราวกลายเป็นหิน!

 

จักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เสี่ยเทียน ฟงชิงหยาง!

 

เพราะเชวียหงอวี้ จักรพรรดิสวรรค์ของอู๋หยาเทียน พวกมันจึงรับทราบถึงความน่าสะพรึงกลัวของ ฟงชิงหยาง จักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เสี่ยเทียนดี! ถึงแม้ฟังชิงหยางจะมีอายุน้อยที่สุดในบรรดาจักรพรรดิสวรรค์ทั้งมวลของระนาบเทวโลก แต่พลังฝีมือกลับร้ายกาจมากพอจะติดอยู่ใน 10 อันดับแรก แม้กระทั่ง 5 อันดับแรกของรายนามจักรพรรดิสวรรค์!

 

ที่สําคัญบางคนยังคาดเดากันไปว่า ฟงชิงหยางได้บรรลุถึงขอบเขตเทพไปแล้ว

 

หากสามารถยืนยันเรื่องที่ฟงชิงหยางบรรลุถึงขอบเขตเทพได้แล้วล่ะก็ น่ากลัวพลังฝีมือจะถีบตัวขึ้นไปสูงติด 3 อันดับแรกของ รายนามจักรพรรดิสวรรค์! รายชื่ออันดับพลังฝีมือของเหล่าจักรพรรดิสวรรค์ทั้งเก้าเก้า 81 ระนาบ!

 

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่ยังเป็นแค่จักรพรรดิอมตะ 10 ทิศ อาศัยกฏที่เข้าใจ ก็ทําให้ร้ายกาจมากอยู่แล้ว

 

“จักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน?”

 

ด้านฉือหล่าง และคนอื่นๆก็ตกใจกับวาจาของเชวียหงอวี้ ไม่น้อย เพราะไม่คิดไม่ฝันเลยว่าชายชราที่คล้ายเป็นเพียงผู้ติดตามตัวเล็กๆของต้วนหลิงเทียน ที่แท้กลับเป็นคนของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนไปได้!

 

จักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน ฟังชิงหยาง เป็นตัวตนที่มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วระนาบเทวโลกทั้งมวล กระทั่งชื่อเสียงยังสูงเสียดฟ้า โด่งดังประหนึ่งฟ้าร้องในหูพวกมันด้วยซ้ำ

 

“ศิษย์น้องเล็ก…ไฉนไปเกี่ยวข้องกับตัวตนที่อยู่ข้างกายจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนได้เล่า?”

 

หงเฟยรู้สึกอื้ออึงอยู่บ้าง

 

“ข้าจะไปรู้ได้ไงล่ะ”

 

หูเหม่ยเองก็อื้ออึงไปแล้วเช่นกัน

 

“ผู้เฒ่าหั่ว แล้วต้วนหลิงเทียนผู้นี้…”

 

ท่ามกลางสายตาชมมองของทุกคน เชวียหงอวี้ ที่เร่งรุดมาวังเทียนฉือเพราะข้อความที่โหยวเฟิงอวี้จ้าววังเทียนฉือแจ้งไป ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวถามผู้เฒ่าทั่วถึงตัวตนของต้วนหลิงเทียน

 

เพราะเป้าหมายในการมาวันนี้ของมันก็คือต้วนหลิงเทียน

 

อย่างไรก็ตาม มันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าสารเลวน้อยที่ก่อเรื่องจนมันต้องเร่งรุดมาวังเทียนฉือ 2 ครั้ง 2 ครา กลับมีผู้เฒ่าหั่วที่เป็นคนของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนอยู่ข้างกายซะได้!

 

เรื่องที่มันติดค้างผู้เฒ่าหั่วนั้นก็ใช่

 

อย่างไรก็ตาม หากคิดจะอาศัยเรื่องนั้นให้ละเว้นต้วนหลิงเทียน เห็นทีคงจะไม่ได้

 

อย่างไรก็ตาม พอนึกถึงข้อความที่โหยวเฟงอวแจ้งมา จนทราบว่าผู้เฒ่าหั่วติดตามต้วนหลิงเทียนราวกับผู้ติดตามคนหนึ่ง เชวียหงอวี้ ก็รู้สึกว่าเรื่องราวมีอะไรบางอย่างผิดปกติทันที

 

ยังจะมีใครทําให้ผู้เฒ่าทั่วกลายไปเป็นคนติดตามได้อีก?

 

ต่อให้จะเป็นพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เสี่ยเทียน ก็เกรงว่าคงมีแต่จักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนคนเดียวไม่ใช่หรือไรที่จะได้รับการปฏิบัติจากผู้เฒ่าหั่วแบบนี้?

 

เพราะต่อให้เป็นจักรพรรดิอมตะกร่างสวรรค์ เมิ่งหลัว ของจี้เมี่ยเทียน ถึงแม้จะมีพลังฝีมือสูงกว่าผู้เฒ่าหั่ว แต่ก็ไม่มีทางได้รับการปฏิบัติระดับนี้จากผู้เฒ่าหั่ว

 

ในขณะที่จักรพรรดิสวรรค์แห่งอู๋หยาเทียน เชวียหงอวี้ กําลังมองผู้เฒ่าหั่วเพื่อรอฟังคําตอบคนอื่นๆไม่ว่าจะเป็นโหยวเฟิงอวี้ ก็ดี ฉือหล่างก็ดี ล้วนมองจ้องผู้เฒ่าหั่วด้วยกันทั้งนั้น

 

เผชิญหน้ากับทุกสายตาที่จับจ้องมา ผู้เฒ่าหั่วก็กล่าวออกด้วยน้ำเสียงเฉยเมยว่า “เขาคือศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน”

 

พอผู้เฒ่าหั่วกล่าวจบคํา ทุกคนก็พร้อมใจกันเงียบสนิท เหลือเพียงเสียงลมหายใจอันรุนแรง

 

ต้วนหลิงเทียน ศิษย์ของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน?

 

ทั้งยังเป็นศิษย์ที่แท้จริง?

 

ศิษย์แต่ในนาม ศิษย์ทั่วไป ศิษย์ส่วนตัวนั้นล้วนสามารถมีได้หลายคน…อย่างไรก็ตามคําว่าศิษย์ที่แท้จริงนี้ ในระนาบเทวโลกแล้วเสมือนศิษย์ที่จะรับสืบทอดทุกสิ่งทุกอย่าง ปกติแล้วก็มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น มีความหมายคล้ายๆศิษย์สายตรงของสํานักหรือนิกาย

 

ต้วนหลิงเทียนผู้นี้กลับเป็นศิษย์ที่แท้จริงของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน?

 

“ผะ..ผู้เฒ่าหั่ว ที่ท่านกล่าวเรื่องจริงหรือ?”

 

โหยวเฟิงอวี้ จ้าววังเทียนฉือเป็นคนแรกที่ฟื้นสติ มันหันไปมองถามผู้เฒ่าหั่วด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “ท่านคงมิได้พูดเช่นนี้ เพราะจงใจปกป้องต้วนหลิงเทียนหรอกนะ?”

 

“จงใจ?”

 

ผู้เฒ่าหั่วหัวเราะเยาะพลางกล่าว “เช่นนั้นเจ้าลองถามท่านตาของเจ้าดู ว่าข้าจงใจพูดแบบนี้หรือไม่?”

 

“จักรพรรดิสวรรค์มิอาจล้อเล่นด้วยได้ ทั้งจักรพรรดิสวรรค์ยังมิอาจให้ผู้ใดหมิ่นหยามได้…ไม่มีผู้ใดสามารถลบหลู่เกียรติของจักรพรรดิสวรรค์ได้ง่ายๆ!”

 

เชวียหงอวี้กล่าวออกเสียงหนัก

 

หากเป็นคนอื่นพูด มันอาจจะคลางแคลงสงสงสัยอยู่บ้าง แต่กับผู้เฒ่าหั่วแล้วมันเชื่อที่อีกฝ่ายพูดทั้งหมด เพราะผู้เฒ่าหั่วไม่มีวันเอาเรื่องแบบนี้มาพูดเล่นแน่!

 

พอเชวียหงอวี้ กล่าวออกมาแบบนี้ โหยวเฟิงอวี้ก็ได้แต่เงียบไปไม่พูดจา หากแต่สายตาที่ใช้มองต้วนหลิงเทียนนั้น ได้ฉายชัดถึงความไม่เต็มใจถึงที่สุด!

 

เพราะมันรู้แก่ใจดี

 

ว่าการที่ผู้เฒ่าหั่วประกาศออกมาว่าต้วนหลิงเทียนคือศิษย์ที่แท้จริงของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนแบบนี้ วังเทียนฉือของพวกมันก็เสมือนได้ถูกลิขิตไว้แล้วว่าไม่อาจล่วงเกินตอแยอะไรต้วนหลิงเทียนได้อีก กระทั่งยังต้องภาวนาให้ต้วนหลิงเทียนไม่คิดบัญชีเก่าก่อนอีกด้วย!

 

ยังไม่เพียงแต่วังเทียนฉือของพวกมันเท่านั้น แม้แต่ตาของมัน จักรพรรดิสวรรค์แห่งอู๋หยาเทียนก็ไม่กล้าแม้แต่จะคิดไม่ซื่อกับต้วนหลิงเทียนอีกต่อไป

 

หากเป็นจักรพรรดิสวรรค์ธรรมดาก็คงไม่เป็นอะไร

 

ทว่านี่คือจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน ตัวตนที่กระทั่งตาของมันก็ยังต้องหวาดกลัวจับใจ!

 

ครั้งก่อนตอนที่มีข่าวว่าอีกฝ่ายกลับออกมาจากนรกอสุราและลงมือฆ่าจักรพรรดิสวรรค์ของจี้เมี่ยเทียนในตอนนั้นได้ในพริบตา ท่านตาของมันยังต้องเร่งรุดนําของขวัญไปกล่าวแสดงความยินดีถึงวังเทียนฉือเพื่อประจบประแจงด้วยซ้ำ!

 

“ไม่จริงหน้าเป็นไปไม่ได้! เรื่องแบบนี้มันจะเป็นไปได้ยังไง!?”

 

สีหน้าของจักรพรรดิอมตะมังกรกู้ฉางเจียงเปลี่ยนไปใหญ่หลวงนัก สองตาฉายชัดถึงความไม่อยากจะเชื่อล้นปรี่

 

ตอนนี้ไม่ใช่แค่มันเท่านั้นที่ไม่อยากจะเชื่อ กระทั่งจักรพรรดิอมตะคลื่นหมอกเองก็ไม่อาจเชื่อได้ลงคอ สําหรับจักรพรรดิอมตะวิเวกเย็นเยือกกับจักรพรรดิอมตะเมฆดุริยะ ตอนนี้ตกใจจนตาลอยไปแล้ว แถมแต่ละคนยังปรากฏเหงื่อเย็นไหลโชกแผ่นหลัง

 

“ศะศิษย์น้องเล็ก เป็นศิษย์ที่แท้จริงของจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เสี่ยเทียน ใต้เท้าฟงชิงหยางผู้นั้น? จริงหรือหลอก!?”

 

ลมหายใจของหงเฟยกลายเป็นหอบถี่ ไขมันทั่วร่างกระเพื่อมบึงๆไม่หยุด

 

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าไฉนศิษย์น้องเล็กถึงได้ดูมั่นใจนัก…เจ้าเด็กนี่จะพูดให้ชัดๆแต่แรกก็ได้ไม่นะ อมพะนําให้ข้ากังวลเพื่อ!?”

 

หูเหม่ยกล่าวบ่นพึมพําออกมาเบาๆ สองตามองจ้องต้วนหลิงเทียนที่ลอยร่างไกลๆเขม็ง

 

ด้านฉือหล่างก็ได้แต่ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกเฮือกใหญ่ ในแววตายังเต็มไปด้วยความตกใจ ด้วยไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะกลายไปเป็นศิษย์ที่แท้จริงของจักรพรรดิสวรรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนซะได้!

 

มันย่อมยินดีมีสุขกับต้วนหลิงเทียนจากใจ

 

สําหรับศิษย์พี่คนอื่นๆของต้วนหลิงเทียนเอง ก็พอได้ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ความรู้สึกเสมือนขุนเขาที่กดทับกลางใจหายไปในฉับพลัน

 

ศิษย์พี่หญิงใหญ่ฉือหย่าชีเองยังมองต้วนหลิงเทียนตาเป็นประกาย “ที่แท้นี่ก็คือสิ่งที่ศิษย์น้องเล็กพึ่งพิง…ไม่คิดเลยจริงๆว่าที่แท้ศิษย์น้องเล็กจะกลายไปเป็นศิษย์ส่วนตัวของใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางผู้นั้น”

 

“ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางกระทั่งท่านอาจารย์ยังกล่าวชื่นชมไม่หยุดปาก”

 

ฉือหย่าชีกล่าวพึมพํากับตัวเบาๆ

 

“ผู้เฒ่าหั่ว ข้าว่าเรื่องในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันทั้งนั้น

 

เชวียหงอวี้ หันไปกล่าวคํากับผู้เฒ่าหั่วด้วยรอยยิ้ม

 

ถึงแม้วันนี้มันจะมาเพื่อฆ่าต้วนหลิงเทียน

 

อย่างไรก็ตาม พอมันได้รู้ฐานะของต้วนหลิงเทียนแล้วแบบนี้ ต่อให้มีความกล้าเพิ่มขึ้นร้อยเท่า มันก็ไม่กล้าฆ่าต้วนหลิงเทียน เว้นเสียแต่มันพร้อมจะละทิ้งตําแหน่งจักรพรรดิสวรรค์แห่งอู๋หยาเทียน แล้วปลีกวิเวกไปอยู่ในที่เปลี่ยวร้างตลอดชั่วชีวิต!

 

หาไม่แล้วเมื่อต้วนหลิงเทียนตกตายไป จักรพรรดิสวรรค์แห่งเมี่ยเทียนไม่มีทางเลิกรากับมันแน่!

 

จักรพรรดิสวรรค์แห่งเมี่ยเทียนฟงชิงหยางผู้นั้น หลายคนคาดเดากันว่าบรรลุถึงขอบเขตแล้ว และถ้าอีกฝ่ายบรรลุถึงขอบเขตเทพขึ้นมาจริงๆ การฆ่ามันให้ตายยังง่ายดายไม่ต่างอะไรกับเหยียบมดสักตัวด้วยซ้ำ!

 

กระทั่งในตอนที่อีกฝ่ายยังไม่บรรลุถึงขอบเขตเทพ ตัวมันก็ไม่มีปัญญาจะต่อกรด้วยแล้ว

 

“เข้าใจผิด?”

 

ผู้เฒ่าหั่วมองลึกไปยังเชวียหงอวี้ ก่อนจะกวาดตามองไปทางโหยวเฟิงอวี้กับคนอื่นๆ “เมื่อครู่ คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่คิดอยากจะฆ่านายน้อยของข้าให้ตาย..ตอนนี้ใต้เท้าเชวียหงอวี้ ท่านมาบอกว่าเข้าใจผิด เกรงว่าจะเหมาะกระมัง?”

 

ได้ยินคําพูดของผู้เฒ่าหั่ว สีหน้าเชวียหงอวี้ ก็เปลี่ยนไปทันที

 

“น้อยน้อย เรื่องนี้ท่านว่าอย่างไรเล่า?”

 

ผู้เฒ่าหั่วกล่าวถามต้วนหลิงเทียนด้วยน้ำเสียงสุภาพ

 

จังหวะนี้เชวียหงอวี้เองก็หันไปมองต้วนหลิงเทียนเช่นกัน ใบหน้ายังคลี่กางรอยยิ้มสดใสออกมา “ศิษย์หลานต้วน ปุบปับได้พบ ลุงมิทันได้เตรียมของขวัญอันใดให้เจ้าเลย…วันหน้าข้าจักไปเยี่ยมศิษย์หลานต้วนที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนทั้งชดเชยให้เป็นอย่างไร?”

 

เชวียหงอวี้ ที่มาอย่างน่าเกรงขามท่าทางดุร้ายเมื่อครู่ ตอนนี้กลับยิ้มร่ากล่าวคํากับต้วนหลิงเทียนอย่างมากอัธยาศัย ราวกับลืมเลือนเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนสร้างความไม่พอใจให้มันไปหมดสิ้น

 

“ของขวัญอะไรล้วนไม่จําเป็น”

 

ต้วนหลิงเทียนส่ายหน้าไปมา จากนั้นก็ชี้ไปยังจักรพรรดิอมตะสมญานาม 2 คนข้างกายโหยวเฟิงอวี้ “2 คนนั่นมันคิดจะฆ่าข้าให้ตายไม่เลิก ก่อนหน้ายังทําราวกับทนรอฆ่าข้าไม่ไหวแล้วด้วยซ้ำ”

 

“แน่นอนว่าหลานชายของจักรพรรดิสวรรค์เชวียเองก็แทบจะทนรอฆ่าข้าให้ตายไม่ไหวแล้วอีกคน…แต่เห็นแก่หน้าท่าน เช่นนั้นข้าไม่ถือสาหาความหลานท่านสักครั้งก็ได้”

 

“แต่เจ้า 2 คนนั่น ดูเหมือนจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่านทางสายเลือดอะไรกระมัง?”

 

กล่าวถึงท้ายประโยคต้วนหลิงเทียนก็มองจ้องเชวียหงอวี้ตาเขม็ง

 

ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนมีความรู้สึกราวกับจะสั่งให้เอาขนไก่ไปทําลูกศร รู้สึกดีไม่ใช่น้อย!

 

(เอาขนไก่ไปทําลูกศร = ผู้มีอํานาจหาข้ออ้างเพื่อแสดงอํานาจ)

 

และ 2 คนที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวถึงก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นจักรพรรดิอมตะมังกร กับจักรพรรดิอมตะคลื่นหมอก ซึ่งทั้ง 2 ก็ได้มีความขัดแย้งกับต้วนหลิงเทียนมาเนิ่นนานแล้ว

 

เรียกว่าตอนร้องจะฆ่าต้วนหลิงเทียน เสียงพวกมันยังดังกว่าใครเขา

 

ตรงกันข้ากับสตรีที่เป็นจักรพรรดิอมตะสมญานามทั้ง 2 ของวังเทียนฉืออย่างจักรพรรดิอมตะวิเวกเย็นเยือกกับจักรพรรดิอมตะเมฆดุริยะ แม้ทั้งคู่จะกล่าววาจาเหี้ยมโหด แต่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นการปฏิตามคําสั่งของโหยวเฟิงอวี้ จ้าววังเทียนฉือทั้งนั้น

 

“เจ้า!!”

 

สีหน้าของจักรพรรดิอมตะมังกรกับจักรพรรดิอมตะคลื่นหมอกเปลี่ยนไปใหญ่หลวง จากนั้นพวกมันก็เหลือบไปมองเชวียหงอวี้ด้วยสายตาหวาดกลัว เนื่อเพราะกลัวเชวียหงอวี้ จะลงมือฆ่าพวกมันขึ้นมาจริงๆ

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าแต่ต้นจนจบเชวียหงอวี้ ยังคงมองต้วนหลิงเทียนอยย่างสงบ ไม่ได้เหลือบแลมาทางพวกมันเลย พวกมันก็พอได้ระบายลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอกอยู่บ้าง

 

“ต้วนหลิงเทียน อย่าให้มันมากเกินไปนัก!!”

 

โหยวเฟิงอวี้ ที่สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่สู้ดีมองต้วนหลิงเทียนตาขวาง กล่าวคําออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจถึงที่สุด

 

“จักรพรรดิสวรรค์เชวีย”

 

ต้วนหลิงเทียนมองเชวียหงอวี้พลางผายมือยัยกไหล่ออกมาด้วยท่าทางทําช่วยไม่ได้ “ท่านเห็นที่ท่าหลานชายท่านยังเล่า? โทษตายละเว้นได้แต่โทษเป็นยังอยู่ งั้นท่านตบหน้ามันทั้ง 2 ข้าง ถือเสียว่าเป็นการสะสางความแค้นระหว่างข้ากับมันเป็นไง?”

 

“ตบมารด…”

 

ในขณะที่โหยวเฟิงอวี้กําลังจะโพล่งคําบางอย่างออกมาด้วยโทสะ มันก็ถูกขัดด้วยเสียงดัง เพี้ยะ! ซะก่อน

 

เป็นจักรพรรดิสวรรค์แห่งอู๋หยาเทียน เชวียหงอวี้ ที่ยกมือขึ้นมาตบหน้ามือที่หลังมือทีฟาดแก้มทั้ง 2 ข้างของโหยวเฟิงอวด้วยความฉับไวติดต่อกัน 2 ครั้งติด พาลให้แก้มมันบวมแดงขึ้นมาทันตาเห็น

 

“ทะ…ท่านตา!?”

 

โหยวเฟิงอวี้ ชักหน้าเหวอไปด้วยความตะลึงแล้วจริงๆ

 

และในขณะที่โหยวเฟิงอวี้ ชักหน้าเหวอด้วยความตกตะลึงนั้น ด้านจักรพรรดิอมตะมังกรกับจักรพรรดิอมตะคลื่นหมอกที่เห็นเรื่องราวทั้งหมดก็เร่งคุกเข่าลงกลางหาว ตัวยังสั่นระริกไปราวลูกกตกน้ำ “ขอใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์เมตตาไว้ชีวิตด้วย!”

 

“ขอใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์เมตตาไว้ชีวิตด้วย!!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+