War sovereign Soaring The Heavens 3568

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3568 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3568 : ผู้คุมกฏอาวุโส

 

“หุบปาก!!”

 

หลัวอี้หมิงพลันตวาดออกมาเสียงดังสนั่น สีหน้ายังดุร้ายเป็นที่สุด ทำให้สมาชิกของพันธมิตรอุดรลี้ลับที่ซุบซิบก่นด่าถึงกับหวาดกลัวจนเงียบปากทันที

 

จากนั้นหลัวอี้หมิงก็กวาดตามองไปยังสมาชิกของพันธมิตรอุดรลี้ลับที่ซุบซิบเมื่อครูด้วยสายตาเย็นชา พอกล่าวอีกครั้งน้ำเสียงก็เย็นปานจะแช่แข็งผู้คน “ผู้คุมกฏอาวุโสไร้ประโยชน์? ไม่ควรเข้าร่วมพันธมิตรอุดรลี้ลับ? พวกเจ้าอย่าได้กล่าวเหลวไหลเช่นนี้อีก!”

 

“หากพวกเจ้าไม่พอใจอะไร ก็ใสหัวไปได้ทุกเมื่อ!”

 

“พันธมิตรอุดรอี้ลับ ไม่ต้องการพวกปากสวะเยี่ยงพวกเจ้า!”

 

พอหลัวอี้หมิงกล่าวตำหนิออกมาแบบนี้ เหล่าผู้คนที่กระซิบกระซาบเมื่อครู่ก็พากันก้มหน้าหลบตาเป็นแถว

 

หากในตอนปกติพวกมันโดนหลัวอี้หมิงตำหนิแบบนี้ล่ะก็ พวกมันก็คงเลือกตีจากพันธมิตรอุดรลี้ลับไปอย่างไม่ใยดี แต่วินาทีนี้เห็นได้ชัดว่าคนของอีก 2 พันธมิตรคิดเข่นฆ่าผู้คนของพันธมิตรอุดรลี้ลับให้สิ้น ไม่ว่าจะอยู่ในพันธมิตรอุดรธับต่อหรือไม่ก็ตาม

 

และก่อนหน้ายังมีหลายคนที่ร่ำร้องออกมาว่าตราบใดที่ไม่ฆ่า พวกมันจะออกจากพันธมิตรอุดรลี้ลับและเข้าร่วมกับพันธมิตรเมฆยามสารทหรือพันธมิตรขุนเขาทันที

 

อย่างไรก็ตาม ไร้ซึ่งข้อยกเว้นใด ผู้ที่ร่ำร้องขอชีวิตล้วนถูกฆ่าตายหมดสิ้น

 

ทำให้พวกมันตระหนักได้ชัดเจน ว่าพวกมันจะอยู่รอดจนเห็นวันพรุ่งหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับพลังสามารถของหลัวอี้หมิงและเหล่ายอดฝีมือของพันธมิตรอุดรลี่ลับเบื้องหน้า หากผู้นำละทิ้งพวกมันเกรงว่าไม่ทันได้ก้าวพ้นเขตค่ายพันธมิตรอุดรลี้ลับ ก็ต้องถูก 2 พันธมิตรฆ่าแน่นอน!

 

“บิ๊กๆๆๆ…ช่างดุดันเสียจริง”

 

ผู้นำพันธมิตรขุนเขา หยวน อดไม่ได้ที่จะมองหลัวอี้หมิงพลางกล่าวหยอกล้อ “หลัวอี้หมิงอันที่จริงที่พวกมันพูดมาก็ถูก ภัยพิบัติของพันธมิตรอุดรอี้ลับของพวกเจ้าวันนี้ ล้วนมีบ่อเกิดมาจากผู้คุมกฏอาวุโสลึกลับคนนั้นของพวกเจ้าทั้งสิ้น

 

“แต่ในเวลาแบบนี้ เจ้ายังคิดจะปกป้องผู้คุมกฏอาวุโสของพันธมิตรอุดรลี้ลับนั่นอีกรึ?”

 

กล่าวถึงประโยคท้าย สีหน้าหยวนก็ฉายชัดถึงความล้อเลียนสนุกสนาน

 

“แต่จะว่าไปไหนผู้คุมกฏอาวุโสคนเก่งของพวกเจ้าเล่า? ปานนี้แล้วยังไม่โผล่หัวออกมาอีกหรือ? คงมิได้หวาดกลัวจนนี่รดที่นอนแล้วกระมัง?”

 

ยิ่งมารอยยิ้มแดกดันของหยวนผู้ยิ่งฉีกกว้าง

 

ด้านคนของพันธมิตรขุนเขา รวมถึงคนของพันธมิตรเมฆยามสารทด้านหลัง ก็อดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะกันออกมาอย่างตลกขบขันหลังได้ยินคำพูดของหยวน “ฮ่าๆๆ คงมิใช่เขินจนไม่กล้าออกมาแสดงตัวกระมัง?”

 

“หรือที่แท้หวาดกลัวจนไม่กล้าออกมากันแน่เล่า?”

 

“ฮ่าๆๆ…ข้าว่าคงเขินมากกว่า คนเยอะแยะถึงขนาดนี้!”

 

ไม่ว่าจะคนของพันธมิตรเมฆยามสารทหรือพันธมิตรขุนเขา ต่างหัวเราะหน้าระรื่นแลดูได้ใจกันใหญ่

 

“หยวน เจ้าอยากเห็นผู้คุมกฏอาวุโสของพันธมิตรอุดรลี้ลับเรามากนักหรือ?”

 

หลัวอี้หมิงหยีตากล่าวถามหยวน ขณะเดียวกันในดวงตาก็เผยประกายลับหนึ่งเรืองขึ้น

 

“ไหนเลยจะไม่อยากเห็นได้เล่า”

 

หยวนผู้พยักหน้าเบาๆ “พันธมิตรอุดรลี้ลับเจ้า ขับเคี่ยวกับพันธมิตรขุนเขาข้ากับพันธมิตรเมฆยามสารทของผู้นำซีเหมินมานานปีแล้ว ในเมื่อวันนี้ถึงจุดจบของพันธมิตรอุดรลี้ลับเจ้าทั้งทีไฉนข้ายังจะไม่อยากเห็นบ่อเกิดเภทภัยของเจ้าได้เล่า?”

 

“ผู้นำซีเหมิน ท่านเล่า คิดเห็นเช่นไร?”

 

ขณะกล่าวถึงประโยคท้าย หยวนก็หันไปมองซีเหมินเจียงเฉินด้วยรอยยิ้ม

 

“ข้าเองก็อยากเห็น”

 

มุมปากซีเหมินเจียงเฉินยกยิ้มแสยะเยียบเย็น ในแววตายังแผ่พุ่งจิตฆ่าฟันออกมาอย่างไม่คิดจะกักเก็บ

 

เป็นเพราะ ผู้คุมกฏอาวุโสดังกล่าวที่ทำให้มันรู้สึกถึงวิกฤตการณ์ สุดท้ายมันถึงได้ลดตัวไปขอความร่วมมือกับพันธมิตรขุนเขาที่เป็นศัตรู…และนี่นับเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่มันรู้สึกกล้ำกลืนถึงเพียงนี้

 

และความกล้ำกลืนดังกล่าวยิ่งมาก็ยิ่งแปรเปลี่ยนเป็นความอับอาย กระทั่งเริ่มกลายเป็นความเกลียดชังฝังลึกเข้ากระดูกดำ มันเกลียดผู้อาวุโสคุมกฏลึกลับของพันธมิตรอุดรลี้ลับนั่น!

 

“ผู้นำซีเหมิน ข้าจะมอบผู้คุมกฏอาวุโสอะไรนั่นให้ท่านฆ่ากับมืออย่างที่เราได้ตกลงกันไว้”

 

หยวนผู้กล่าวด้วยยรอยยิ้มสดใส

 

“ขอบคุณ”

 

ซีเหมินเจียงเฉินเอ่ยขอบคุณเสียงเรียบ

 

“ท่านพี่”

 

ตอนนี้เอง หลัวเฟิงที่อยู่ด้านหลังหลัวอี้หมิงเริ่มรู้สึกร้อนใจไม่น้อย เร่งส่งเสียงผ่านพลังไปถามลูกพี่ลูกน้องว่า “ตอนนี้สิ่งที่ข้ากลัวได้เกิดขึ้นแล้ว แต่ไฉนท่านยังแลดูไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่ได้? ที่แท้ท่านมีวิธีรับมือสถานการณ์ในตอนนี้อย่างไรกันแน่?”

 

ตอนนี้หลัวเฟิงกังวลใจขนาดไหน มีเพียงแต่ตัวมันเองเท่านั้นที่รู้

 

ก่อนที่พันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาจะบุกเข่นฆ่ามาถึงหน้าประตู มันที่คาดไว้แล้วว่าอาจเกิดเรื่องราวทำนองนี้ขึ้นก็ได้ไปปรึกษากับลูกพี่ลูกน้องมัน แต่ลูกพี่ลูกน้องมันกลับไม่วิตกกังวลอะไร ยังกล่าวทำนองให้อีกฝ่ายรีบมาเสียอีก ราวกับไม่กลัวตายอย่างไรอย่างนั้น

 

และไม่ทันที่มันจะได้ความกระจ่าง ลูกพี่ลูกน้องมันก็บอกว่าถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้เอง แล้วก็ไม่คิดจะบอกอะไรเพิ่มเติม

 

หลังจากผ่านไปสักพัก เดิมที่มันก็ไม่คิดถึงเรื่องนี้อีก แต่สุดท้ายเรื่องที่มันกลับเกิดขึ้นจริงๆมันก็ไร้ทางเลือกนอกจากจะถามไถ่ลูกพี่ลูกน้องให้รู้เรื่องชัดๆ

 

“ใครที่คิดฆ่าข้า?”

 

ก่อนที่หลัวอี้หมิงจะทันได้ตอบหลัวเฟิง พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากอากาศว่างเปล่าเบื้องหน้าหลัวอี้หมิง

 

ทันใดนั้น ท่ามกลางสายตาของทุกคน ก็ปรากฏร่างหนึ่งขึ้นปานภูตผี

 

เป็นชายในชุดคลุมลมดำหลวมๆ สวมหมวกฟาง เพราะก้มหน้าลงเล็กน้อยใบหน้าครึ่งบนจึงถูกปกปิดเอาไว้อย่างมิดชิด

 

เรียกว่าแต่งกายมิดชิดจนยากจะบอกรูปร่างที่แน่ชัด ยังไม่อาจแลเห็นใบหน้าได้ถนัดตา ยังผลให้คนกลายเป็นดูลึกลับไม่น้อย

 

“นั่นน่ะหรือ ผู้คุมกฏอาวุโส?”

 

สมาชิกหลายคนในพันธมิตรอุดรลี้ลับที่ได้รับทราบลักษณะของผู้คุมกฏอาวุโสคร่าวๆแล้วพอเห็นร่างชายลึกลับในชุดคลุมลมดำสวมหมวกฟางที่ปรากฏขึ้นในฉับพลัน พวกมันจึงตระหนักได้ทันทีว่านี้สมควรเป็น ผู้คุมกฎอาวุโส ที่แสนจะลึกลับของพวกมัน

 

“คารวะท่านผู้คุมกฏอาวุโส”

 

ในขณะที่หลายๆคนคาดเดาตัวตนของผู้มาได้ หลัวอี้หมิงผู้นำพันธมิตรอุดรลี้ลับก็ประสานมือโค้งคารวะต้วนหลิงเทียนท่ามกลางสายตาของทุกคน “เรื่องในวันนี้ข้าไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ จำต้องรบกวนผู้คุมกฏอาวุโสเช่นนี้ ขอท่านอภัยให้ข้าด้วย”

 

ท่าทีของหลัวอี้หมิงนอบน้อมนัก…ยังนอบน้อมอย่างผิดปกติ!

 

และสิ่งนี้ทำให้คนของพันธมิตรอุดรลี้ลับถึงกับอื้ออึงไปหมด

 

กระทั่งหัวเฟิง รองผู้นำพันธมิตรอุดรลี้ลับก็ยังอ้าปากค้าง ไร้คำใดจะกล่าว

 

ทันใดนั้นเอง ความคิดอุกอาจประการหนึ่งพลันผุดขึ้นในใจของมัน…บ่อเกิดความมั่นใจของลูกพี่ลูกน้อง หรือจะมาจากผู้คุมกฏอาวุโส?

 

แต่ไม่ใช่ว่าถึงแม้ผู้คุมกฏอาวุโสจะมีพลังฝีมือร้ายกาจ ถึงขั้นอาจจะร้ายกาจเหนือกว่าลูกพี่ลูกน้องมัน แต่เรื่องจะร่วมมือกับลูกพี่ลูกน้องมันรวมถึงตัวมันเข่นฆ่าเทพสงคราม 8 ดาราทั้ง 4 ของ อีก 2 กองกำลังมันไม่เรื่องเกินจริงไปหน่อยหรือไร?

 

ถึงแม้ผู้คุมกฏอาวุโสจะเป็นเทพสงคราม 8 ดาราที่ร้ายกาจ และอาจเป็นตัวตนระดับเดียวกับลูกพี่ลูกน้องมัน ที่เหนือกว่าค่าเฉลี่ยของเทพสงคราม 8 ดาราจนเจียนจะเป็นยอดฝีมือเทพสงคราม 8 ดาราอยู่รอมร่อ แต่ให้ต้องประมือกับเทพสงคราม 8 ดาราถึง 4 คนที่ไม่มีใครด้อยกว่ามันเลยจะไหวหรือ?

 

3 ต่อ 4 แบบนี้ ดูแล้วไม่เห็นทางชนะเลยจริงๆ!

 

“บางที ที่ท่านพี่มั่นใจนัก อาจเป็นเพราะอุปกรณ์เทพของผู้คุมกฏอาวุโส..อย่างไรก็ตามอุปกรณ์เทพของผู้คุมกฏอาวุโสก็เป็นประเภทอาภรณ์สวมใส่ พลังอานุภาพของมันเมื่อเทียบกับอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิที่มีจิตวิญญาณสถิตย์ ถึงจะเหนือกว่าแต่ก็คงไม่มากมายกระมัง?”

 

หลัวเฟิงอดวิตกกังวลไม่ได้

 

“ไฉนท่านผู้นำถึงแลดูเคารพทั้งนอบน้อมต่อผู้คุมกฏอาวุโสนักเล่า?”

 

ฉากเรื่องราวเบื้องหน้าอย่าว่าแต่คนอื่น กระทั่งคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับเองยังงุนงง

 

ทันใดนั้นเอง ด้านหยวนผู้นำพันธมิตรขุนเขาก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “หลัวอี้หมิง เจ้าคิดว่าเจ้าเสแสร้งทำแบบนี้แล้ว พวกเราจะพาลคิดไปว่ามันร้ายกาจกว่าเจ้า จนบังเกิดความกลัวและล่าถอยไปงั้นหรือ?”

 

“วันนี้ข้าจะบอกให้เจ้ารู้ไว้เว้นเสียแต่มันจะเป็นยอดฝีมือเทพสงคราม 9 ดารา หรือร้ายกาจเท่าหรู่หลงผู้นำคนที่ 2 ของพันธมิตรฟานเทียน หรือไม่ก็เป็นยอดฝีมืออันน่ากลัวเช่นต้วนหลิงเทียนรองผู้นำพันธมิตรสวรรค์ มิฉะนั้นวันนี้พันธมิตรอุดรลี้ลับของเจ้าต้องถึงกาลอวสาน! ต่อให้ไก่สุนัขสักตัวข้าก็จะฆ่าไม่ให้เหลือ!”

 

ทันทีที่หยวนผู้เอ่ยจบคำ มันก็มองไปยังชายในชุดคลุมลมดำสวมหมวกฟางทั้งคนของพันธมิตรอุดรลิ้บด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม

 

“เหอะ! คิดจะเสแสร้งให้พวกเราหวาดกลัว? ฝันละเมอของตัวโง่งม!!”

 

“ผู้นำพันธมิตรขุนเขาของพวกเรา มองปราดเดียวก็เห็นแจ้งลูกไม้ตื้นๆของพวกเจ้าแล้ว!!”

 

“อย่างไรก็ตาม ถึงขั้นที่หลัวอี้หมิงต้องงัดลูกไม้ไร้เดียงสาเช่นนี้ออกมาใช้ ก็เห็นชัดว่ามันกลัวพวกเราแทบตายแล้ว!”

 

สายตาหวั่นไหวของคนพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาที่พึ่งปรากฏได้ไม่ทันไรพลันหายไปทันที จากนั้นก็พากันมองคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับด้วยสายตาดุร้ายยิ่งกว่าที่เคย ทำท่าราวกับหากไม่ได้ฆ่าให้สิ้นไม่เลิกรา!

 

“เจ้าหรือที่อยากฆ่าข้า?”

 

เสียงแผ่วเบาเหมือนเมื่อครู่ดังขึ้นอีกครั้ง และคราวนี้ทุกคนได้ยินชัดเจน จึงบอกได้ว่าผู้พูดก็คือชายชุดคลุมลมดำสวมหมวกฟางนั่นเอง

 

และใบหน้าที่ไม่อาจแลเห็นได้ชัดนอกจากเรียวคางนั่น ชัดเจนว่ากำลังหันไปมองทิศทางที่ ซีเหมินเจียงเฉิน ผู้นำพันธมิตรเมฆยามสารทลอยอยู่

 

“เป็นข้าแล้วอย่างไร?”

 

สีหน้าซีเหมินเจียงเฉินเย็นชานัก ในลูกตายังเต็มไปด้วยจิตสังหารอันท่วมท้น “วันนี้ต่อให้เจ้าก้มหัวหดหางอย่างไร ข้าก็จะฆ่าเจ้าให้ตาย!”

 

“อ้อ?”

 

ตัวนหลิงเทียนในชุดคลุมลมดำสวมหมวกฟาง เอ่ยออกด้วยน้ำเสียงไม่แยแส

 

และแทบจะพร้อมๆกับที่เส่งคำดังขึ้น ร่างคนก็อันตรธานหายไปจากจุดเดิมในฉับพลัน

 

“ระวัง!!”

 

หยวนเร่งกล่าวเตือนทันที

 

ด้านซีเหมินเจียงเฉินพอเห็นร่างด้วนหลิงเทียนหายไป มุมปากมันก็ยกยิ้มแสยะขึ้น “ตั้งแต่ตอนที่เจ้าปรากฏตัวออกมา ข้าก็รู้แล้วว่าเจ้าใช้กฏมิติ!”

 

“เคลื่อนย้ายมิติ? ข้ารออยู่นานแล้ว!!”

 

แทบจะพร้อมๆกันกับที่ร่างต้วนหลิงเทียนปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าซีเหมินเจียงเฉินในฉับพลันพลังที่ซีเหมินเจียงเฉินลอบโคจรรวมรั้งเอาไว้ก็ปะทุออกมาดั่งทำนบกันน้ำทลาย เสียงพลังพุ่งออกมาช่างรุนแรงประหนึ่งจะบดขยี้ได้ทุกสิ่ง!

 

หากเป็นเทพสงคราม 8 ดาราคนอื่น กระทั่งให้เป็นเทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือ การเคลื่อนไหวมาปรากฏตัวต่อหน้าซีเหมินเจียงเฉินและต้องพบเจอกับการลงมือจู่โจมในฉับพลันของซีเหมินเจียงเฉินพอดี อย่าว่าแต่จะได้ชิงลงมือก่อนเลย เกรงว่าจะต้องต้านรับไม่ทันจนมือไม้พันกันแน่นอน!

 

อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนไม่ใช้ยอดฝีมือเทพสงคราม 8 ดาราธรรมดาๆ

 

ถึงแม้ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้จะยังไม่ถึงระดับเทพสงคราม 9 ดารา แต่ก็เจียนจะบรรลุถึงระดับเทพสงคราม 9 ดาราอย่างหาที่สุดไม่ได้!

 

ที่สำคัญคือเขายังเข้าใจวิถีควบคุม และมรรคากระบี่มิติ 1 ใน 4 วิถีแห่งสวรรค์และโลก ไม่ได้มีแค่พลังอำนาจแห่งกฏเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น

 

“วิถีควบคุม!”

 

แทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่พลังของซีเหมินเจียงเฉินปะทุออกมา พื้นที่เบื้องหน้าต้วนหลิงเทียนก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจของวิถีควบคุมเขาแล้ว ทำให้พลังอันสุดไพศาลที่พรั่งพรูออกมาของซีเหมินเจียงเฉินถูกทำลายลงในฉับพลัน!

 

พร้อมกันนั้นเองชายผ้าคลุมด้านหลังของต้วนหลิงเทียนก็ส่งเสียงหวีดหวิวออกมาฉับไว ราวกับจะตวัดกรีดห้วงอากาศปริฉีก เจตจำนงกระบอันน่ากลัวกำจายสะท้านไปในบรรยากาศเห็นเป็นแสงกระบี่ไร้สภาพพุ่งตัดฟ้าออกไปฉับไว ก่อเกิดเส้นทางสีแดงหนึ่งขึ้น

 

พอมองดีๆก็พบว่าเป็นเลือด

 

“ท่านผู้นำ!!”

 

เกี่ยหมิง รองผู้นำพันธมิตรยามสารทหวีดร้องออกมาเสียงหลงด้วยความหวาดกลัว!

 

ท่ามกลางสาตาหวาดผวาทั้งไม่อยากจะเชื่อของทุกคนในที่นี้ ซีเหมินเจียงเฉิน 1 ใน 3 ผู้นำกองกำลังใหญ่ในเขต 2 ภาคเหนือแห่งสมรภูมิ 9 ยมโลก ศีรษะก็ได้ปลิดปลิวหลุดจากบ่าหมุนคว้าง ไปในอากาศ จากนั้นไม่ทันไรก็ถูกพลังมิติบดทำลายจนสลายเป็นละอองโลหิต

 

ซีเหมินเจียงเฉินที่ก่อนหน้าลั่นวาจาว่าจะฆ่าผู้คุมกฎอาวุโสของพันธมิตรอุดรลี้ลับ ก็ตกตายไปแต่เพียงเท่านี้

 

บรรยากาศบนฟ้าเหนือค่ายพันธมิตรอุดรลี้ลับ กลายเป็นเงียบสงัดลงทันใด

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

War sovereign Soaring The Heavens 3568

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3568 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3568 : ผู้คุมกฏอาวุโส

 

“หุบปาก!!”

 

หลัวอี้หมิงพลันตวาดออกมาเสียงดังสนั่น สีหน้ายังดุร้ายเป็นที่สุด ทำให้สมาชิกของพันธมิตรอุดรลี้ลับที่ซุบซิบก่นด่าถึงกับหวาดกลัวจนเงียบปากทันที

 

จากนั้นหลัวอี้หมิงก็กวาดตามองไปยังสมาชิกของพันธมิตรอุดรลี้ลับที่ซุบซิบเมื่อครูด้วยสายตาเย็นชา พอกล่าวอีกครั้งน้ำเสียงก็เย็นปานจะแช่แข็งผู้คน “ผู้คุมกฏอาวุโสไร้ประโยชน์? ไม่ควรเข้าร่วมพันธมิตรอุดรลี้ลับ? พวกเจ้าอย่าได้กล่าวเหลวไหลเช่นนี้อีก!”

 

“หากพวกเจ้าไม่พอใจอะไร ก็ใสหัวไปได้ทุกเมื่อ!”

 

“พันธมิตรอุดรอี้ลับ ไม่ต้องการพวกปากสวะเยี่ยงพวกเจ้า!”

 

พอหลัวอี้หมิงกล่าวตำหนิออกมาแบบนี้ เหล่าผู้คนที่กระซิบกระซาบเมื่อครู่ก็พากันก้มหน้าหลบตาเป็นแถว

 

หากในตอนปกติพวกมันโดนหลัวอี้หมิงตำหนิแบบนี้ล่ะก็ พวกมันก็คงเลือกตีจากพันธมิตรอุดรลี้ลับไปอย่างไม่ใยดี แต่วินาทีนี้เห็นได้ชัดว่าคนของอีก 2 พันธมิตรคิดเข่นฆ่าผู้คนของพันธมิตรอุดรลี้ลับให้สิ้น ไม่ว่าจะอยู่ในพันธมิตรอุดรธับต่อหรือไม่ก็ตาม

 

และก่อนหน้ายังมีหลายคนที่ร่ำร้องออกมาว่าตราบใดที่ไม่ฆ่า พวกมันจะออกจากพันธมิตรอุดรลี้ลับและเข้าร่วมกับพันธมิตรเมฆยามสารทหรือพันธมิตรขุนเขาทันที

 

อย่างไรก็ตาม ไร้ซึ่งข้อยกเว้นใด ผู้ที่ร่ำร้องขอชีวิตล้วนถูกฆ่าตายหมดสิ้น

 

ทำให้พวกมันตระหนักได้ชัดเจน ว่าพวกมันจะอยู่รอดจนเห็นวันพรุ่งหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับพลังสามารถของหลัวอี้หมิงและเหล่ายอดฝีมือของพันธมิตรอุดรลี่ลับเบื้องหน้า หากผู้นำละทิ้งพวกมันเกรงว่าไม่ทันได้ก้าวพ้นเขตค่ายพันธมิตรอุดรลี้ลับ ก็ต้องถูก 2 พันธมิตรฆ่าแน่นอน!

 

“บิ๊กๆๆๆ…ช่างดุดันเสียจริง”

 

ผู้นำพันธมิตรขุนเขา หยวน อดไม่ได้ที่จะมองหลัวอี้หมิงพลางกล่าวหยอกล้อ “หลัวอี้หมิงอันที่จริงที่พวกมันพูดมาก็ถูก ภัยพิบัติของพันธมิตรอุดรอี้ลับของพวกเจ้าวันนี้ ล้วนมีบ่อเกิดมาจากผู้คุมกฏอาวุโสลึกลับคนนั้นของพวกเจ้าทั้งสิ้น

 

“แต่ในเวลาแบบนี้ เจ้ายังคิดจะปกป้องผู้คุมกฏอาวุโสของพันธมิตรอุดรลี้ลับนั่นอีกรึ?”

 

กล่าวถึงประโยคท้าย สีหน้าหยวนก็ฉายชัดถึงความล้อเลียนสนุกสนาน

 

“แต่จะว่าไปไหนผู้คุมกฏอาวุโสคนเก่งของพวกเจ้าเล่า? ปานนี้แล้วยังไม่โผล่หัวออกมาอีกหรือ? คงมิได้หวาดกลัวจนนี่รดที่นอนแล้วกระมัง?”

 

ยิ่งมารอยยิ้มแดกดันของหยวนผู้ยิ่งฉีกกว้าง

 

ด้านคนของพันธมิตรขุนเขา รวมถึงคนของพันธมิตรเมฆยามสารทด้านหลัง ก็อดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะกันออกมาอย่างตลกขบขันหลังได้ยินคำพูดของหยวน “ฮ่าๆๆ คงมิใช่เขินจนไม่กล้าออกมาแสดงตัวกระมัง?”

 

“หรือที่แท้หวาดกลัวจนไม่กล้าออกมากันแน่เล่า?”

 

“ฮ่าๆๆ…ข้าว่าคงเขินมากกว่า คนเยอะแยะถึงขนาดนี้!”

 

ไม่ว่าจะคนของพันธมิตรเมฆยามสารทหรือพันธมิตรขุนเขา ต่างหัวเราะหน้าระรื่นแลดูได้ใจกันใหญ่

 

“หยวน เจ้าอยากเห็นผู้คุมกฏอาวุโสของพันธมิตรอุดรลี้ลับเรามากนักหรือ?”

 

หลัวอี้หมิงหยีตากล่าวถามหยวน ขณะเดียวกันในดวงตาก็เผยประกายลับหนึ่งเรืองขึ้น

 

“ไหนเลยจะไม่อยากเห็นได้เล่า”

 

หยวนผู้พยักหน้าเบาๆ “พันธมิตรอุดรลี้ลับเจ้า ขับเคี่ยวกับพันธมิตรขุนเขาข้ากับพันธมิตรเมฆยามสารทของผู้นำซีเหมินมานานปีแล้ว ในเมื่อวันนี้ถึงจุดจบของพันธมิตรอุดรลี้ลับเจ้าทั้งทีไฉนข้ายังจะไม่อยากเห็นบ่อเกิดเภทภัยของเจ้าได้เล่า?”

 

“ผู้นำซีเหมิน ท่านเล่า คิดเห็นเช่นไร?”

 

ขณะกล่าวถึงประโยคท้าย หยวนก็หันไปมองซีเหมินเจียงเฉินด้วยรอยยิ้ม

 

“ข้าเองก็อยากเห็น”

 

มุมปากซีเหมินเจียงเฉินยกยิ้มแสยะเยียบเย็น ในแววตายังแผ่พุ่งจิตฆ่าฟันออกมาอย่างไม่คิดจะกักเก็บ

 

เป็นเพราะ ผู้คุมกฏอาวุโสดังกล่าวที่ทำให้มันรู้สึกถึงวิกฤตการณ์ สุดท้ายมันถึงได้ลดตัวไปขอความร่วมมือกับพันธมิตรขุนเขาที่เป็นศัตรู…และนี่นับเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่มันรู้สึกกล้ำกลืนถึงเพียงนี้

 

และความกล้ำกลืนดังกล่าวยิ่งมาก็ยิ่งแปรเปลี่ยนเป็นความอับอาย กระทั่งเริ่มกลายเป็นความเกลียดชังฝังลึกเข้ากระดูกดำ มันเกลียดผู้อาวุโสคุมกฏลึกลับของพันธมิตรอุดรลี้ลับนั่น!

 

“ผู้นำซีเหมิน ข้าจะมอบผู้คุมกฏอาวุโสอะไรนั่นให้ท่านฆ่ากับมืออย่างที่เราได้ตกลงกันไว้”

 

หยวนผู้กล่าวด้วยยรอยยิ้มสดใส

 

“ขอบคุณ”

 

ซีเหมินเจียงเฉินเอ่ยขอบคุณเสียงเรียบ

 

“ท่านพี่”

 

ตอนนี้เอง หลัวเฟิงที่อยู่ด้านหลังหลัวอี้หมิงเริ่มรู้สึกร้อนใจไม่น้อย เร่งส่งเสียงผ่านพลังไปถามลูกพี่ลูกน้องว่า “ตอนนี้สิ่งที่ข้ากลัวได้เกิดขึ้นแล้ว แต่ไฉนท่านยังแลดูไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่ได้? ที่แท้ท่านมีวิธีรับมือสถานการณ์ในตอนนี้อย่างไรกันแน่?”

 

ตอนนี้หลัวเฟิงกังวลใจขนาดไหน มีเพียงแต่ตัวมันเองเท่านั้นที่รู้

 

ก่อนที่พันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาจะบุกเข่นฆ่ามาถึงหน้าประตู มันที่คาดไว้แล้วว่าอาจเกิดเรื่องราวทำนองนี้ขึ้นก็ได้ไปปรึกษากับลูกพี่ลูกน้องมัน แต่ลูกพี่ลูกน้องมันกลับไม่วิตกกังวลอะไร ยังกล่าวทำนองให้อีกฝ่ายรีบมาเสียอีก ราวกับไม่กลัวตายอย่างไรอย่างนั้น

 

และไม่ทันที่มันจะได้ความกระจ่าง ลูกพี่ลูกน้องมันก็บอกว่าถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้เอง แล้วก็ไม่คิดจะบอกอะไรเพิ่มเติม

 

หลังจากผ่านไปสักพัก เดิมที่มันก็ไม่คิดถึงเรื่องนี้อีก แต่สุดท้ายเรื่องที่มันกลับเกิดขึ้นจริงๆมันก็ไร้ทางเลือกนอกจากจะถามไถ่ลูกพี่ลูกน้องให้รู้เรื่องชัดๆ

 

“ใครที่คิดฆ่าข้า?”

 

ก่อนที่หลัวอี้หมิงจะทันได้ตอบหลัวเฟิง พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากอากาศว่างเปล่าเบื้องหน้าหลัวอี้หมิง

 

ทันใดนั้น ท่ามกลางสายตาของทุกคน ก็ปรากฏร่างหนึ่งขึ้นปานภูตผี

 

เป็นชายในชุดคลุมลมดำหลวมๆ สวมหมวกฟาง เพราะก้มหน้าลงเล็กน้อยใบหน้าครึ่งบนจึงถูกปกปิดเอาไว้อย่างมิดชิด

 

เรียกว่าแต่งกายมิดชิดจนยากจะบอกรูปร่างที่แน่ชัด ยังไม่อาจแลเห็นใบหน้าได้ถนัดตา ยังผลให้คนกลายเป็นดูลึกลับไม่น้อย

 

“นั่นน่ะหรือ ผู้คุมกฏอาวุโส?”

 

สมาชิกหลายคนในพันธมิตรอุดรลี้ลับที่ได้รับทราบลักษณะของผู้คุมกฏอาวุโสคร่าวๆแล้วพอเห็นร่างชายลึกลับในชุดคลุมลมดำสวมหมวกฟางที่ปรากฏขึ้นในฉับพลัน พวกมันจึงตระหนักได้ทันทีว่านี้สมควรเป็น ผู้คุมกฎอาวุโส ที่แสนจะลึกลับของพวกมัน

 

“คารวะท่านผู้คุมกฏอาวุโส”

 

ในขณะที่หลายๆคนคาดเดาตัวตนของผู้มาได้ หลัวอี้หมิงผู้นำพันธมิตรอุดรลี้ลับก็ประสานมือโค้งคารวะต้วนหลิงเทียนท่ามกลางสายตาของทุกคน “เรื่องในวันนี้ข้าไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ จำต้องรบกวนผู้คุมกฏอาวุโสเช่นนี้ ขอท่านอภัยให้ข้าด้วย”

 

ท่าทีของหลัวอี้หมิงนอบน้อมนัก…ยังนอบน้อมอย่างผิดปกติ!

 

และสิ่งนี้ทำให้คนของพันธมิตรอุดรลี้ลับถึงกับอื้ออึงไปหมด

 

กระทั่งหัวเฟิง รองผู้นำพันธมิตรอุดรลี้ลับก็ยังอ้าปากค้าง ไร้คำใดจะกล่าว

 

ทันใดนั้นเอง ความคิดอุกอาจประการหนึ่งพลันผุดขึ้นในใจของมัน…บ่อเกิดความมั่นใจของลูกพี่ลูกน้อง หรือจะมาจากผู้คุมกฏอาวุโส?

 

แต่ไม่ใช่ว่าถึงแม้ผู้คุมกฏอาวุโสจะมีพลังฝีมือร้ายกาจ ถึงขั้นอาจจะร้ายกาจเหนือกว่าลูกพี่ลูกน้องมัน แต่เรื่องจะร่วมมือกับลูกพี่ลูกน้องมันรวมถึงตัวมันเข่นฆ่าเทพสงคราม 8 ดาราทั้ง 4 ของ อีก 2 กองกำลังมันไม่เรื่องเกินจริงไปหน่อยหรือไร?

 

ถึงแม้ผู้คุมกฏอาวุโสจะเป็นเทพสงคราม 8 ดาราที่ร้ายกาจ และอาจเป็นตัวตนระดับเดียวกับลูกพี่ลูกน้องมัน ที่เหนือกว่าค่าเฉลี่ยของเทพสงคราม 8 ดาราจนเจียนจะเป็นยอดฝีมือเทพสงคราม 8 ดาราอยู่รอมร่อ แต่ให้ต้องประมือกับเทพสงคราม 8 ดาราถึง 4 คนที่ไม่มีใครด้อยกว่ามันเลยจะไหวหรือ?

 

3 ต่อ 4 แบบนี้ ดูแล้วไม่เห็นทางชนะเลยจริงๆ!

 

“บางที ที่ท่านพี่มั่นใจนัก อาจเป็นเพราะอุปกรณ์เทพของผู้คุมกฏอาวุโส..อย่างไรก็ตามอุปกรณ์เทพของผู้คุมกฏอาวุโสก็เป็นประเภทอาภรณ์สวมใส่ พลังอานุภาพของมันเมื่อเทียบกับอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิที่มีจิตวิญญาณสถิตย์ ถึงจะเหนือกว่าแต่ก็คงไม่มากมายกระมัง?”

 

หลัวเฟิงอดวิตกกังวลไม่ได้

 

“ไฉนท่านผู้นำถึงแลดูเคารพทั้งนอบน้อมต่อผู้คุมกฏอาวุโสนักเล่า?”

 

ฉากเรื่องราวเบื้องหน้าอย่าว่าแต่คนอื่น กระทั่งคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับเองยังงุนงง

 

ทันใดนั้นเอง ด้านหยวนผู้นำพันธมิตรขุนเขาก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “หลัวอี้หมิง เจ้าคิดว่าเจ้าเสแสร้งทำแบบนี้แล้ว พวกเราจะพาลคิดไปว่ามันร้ายกาจกว่าเจ้า จนบังเกิดความกลัวและล่าถอยไปงั้นหรือ?”

 

“วันนี้ข้าจะบอกให้เจ้ารู้ไว้เว้นเสียแต่มันจะเป็นยอดฝีมือเทพสงคราม 9 ดารา หรือร้ายกาจเท่าหรู่หลงผู้นำคนที่ 2 ของพันธมิตรฟานเทียน หรือไม่ก็เป็นยอดฝีมืออันน่ากลัวเช่นต้วนหลิงเทียนรองผู้นำพันธมิตรสวรรค์ มิฉะนั้นวันนี้พันธมิตรอุดรลี้ลับของเจ้าต้องถึงกาลอวสาน! ต่อให้ไก่สุนัขสักตัวข้าก็จะฆ่าไม่ให้เหลือ!”

 

ทันทีที่หยวนผู้เอ่ยจบคำ มันก็มองไปยังชายในชุดคลุมลมดำสวมหมวกฟางทั้งคนของพันธมิตรอุดรลิ้บด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม

 

“เหอะ! คิดจะเสแสร้งให้พวกเราหวาดกลัว? ฝันละเมอของตัวโง่งม!!”

 

“ผู้นำพันธมิตรขุนเขาของพวกเรา มองปราดเดียวก็เห็นแจ้งลูกไม้ตื้นๆของพวกเจ้าแล้ว!!”

 

“อย่างไรก็ตาม ถึงขั้นที่หลัวอี้หมิงต้องงัดลูกไม้ไร้เดียงสาเช่นนี้ออกมาใช้ ก็เห็นชัดว่ามันกลัวพวกเราแทบตายแล้ว!”

 

สายตาหวั่นไหวของคนพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาที่พึ่งปรากฏได้ไม่ทันไรพลันหายไปทันที จากนั้นก็พากันมองคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับด้วยสายตาดุร้ายยิ่งกว่าที่เคย ทำท่าราวกับหากไม่ได้ฆ่าให้สิ้นไม่เลิกรา!

 

“เจ้าหรือที่อยากฆ่าข้า?”

 

เสียงแผ่วเบาเหมือนเมื่อครู่ดังขึ้นอีกครั้ง และคราวนี้ทุกคนได้ยินชัดเจน จึงบอกได้ว่าผู้พูดก็คือชายชุดคลุมลมดำสวมหมวกฟางนั่นเอง

 

และใบหน้าที่ไม่อาจแลเห็นได้ชัดนอกจากเรียวคางนั่น ชัดเจนว่ากำลังหันไปมองทิศทางที่ ซีเหมินเจียงเฉิน ผู้นำพันธมิตรเมฆยามสารทลอยอยู่

 

“เป็นข้าแล้วอย่างไร?”

 

สีหน้าซีเหมินเจียงเฉินเย็นชานัก ในลูกตายังเต็มไปด้วยจิตสังหารอันท่วมท้น “วันนี้ต่อให้เจ้าก้มหัวหดหางอย่างไร ข้าก็จะฆ่าเจ้าให้ตาย!”

 

“อ้อ?”

 

ตัวนหลิงเทียนในชุดคลุมลมดำสวมหมวกฟาง เอ่ยออกด้วยน้ำเสียงไม่แยแส

 

และแทบจะพร้อมๆกับที่เส่งคำดังขึ้น ร่างคนก็อันตรธานหายไปจากจุดเดิมในฉับพลัน

 

“ระวัง!!”

 

หยวนเร่งกล่าวเตือนทันที

 

ด้านซีเหมินเจียงเฉินพอเห็นร่างด้วนหลิงเทียนหายไป มุมปากมันก็ยกยิ้มแสยะขึ้น “ตั้งแต่ตอนที่เจ้าปรากฏตัวออกมา ข้าก็รู้แล้วว่าเจ้าใช้กฏมิติ!”

 

“เคลื่อนย้ายมิติ? ข้ารออยู่นานแล้ว!!”

 

แทบจะพร้อมๆกันกับที่ร่างต้วนหลิงเทียนปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าซีเหมินเจียงเฉินในฉับพลันพลังที่ซีเหมินเจียงเฉินลอบโคจรรวมรั้งเอาไว้ก็ปะทุออกมาดั่งทำนบกันน้ำทลาย เสียงพลังพุ่งออกมาช่างรุนแรงประหนึ่งจะบดขยี้ได้ทุกสิ่ง!

 

หากเป็นเทพสงคราม 8 ดาราคนอื่น กระทั่งให้เป็นเทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือ การเคลื่อนไหวมาปรากฏตัวต่อหน้าซีเหมินเจียงเฉินและต้องพบเจอกับการลงมือจู่โจมในฉับพลันของซีเหมินเจียงเฉินพอดี อย่าว่าแต่จะได้ชิงลงมือก่อนเลย เกรงว่าจะต้องต้านรับไม่ทันจนมือไม้พันกันแน่นอน!

 

อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนไม่ใช้ยอดฝีมือเทพสงคราม 8 ดาราธรรมดาๆ

 

ถึงแม้ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้จะยังไม่ถึงระดับเทพสงคราม 9 ดารา แต่ก็เจียนจะบรรลุถึงระดับเทพสงคราม 9 ดาราอย่างหาที่สุดไม่ได้!

 

ที่สำคัญคือเขายังเข้าใจวิถีควบคุม และมรรคากระบี่มิติ 1 ใน 4 วิถีแห่งสวรรค์และโลก ไม่ได้มีแค่พลังอำนาจแห่งกฏเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น

 

“วิถีควบคุม!”

 

แทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่พลังของซีเหมินเจียงเฉินปะทุออกมา พื้นที่เบื้องหน้าต้วนหลิงเทียนก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจของวิถีควบคุมเขาแล้ว ทำให้พลังอันสุดไพศาลที่พรั่งพรูออกมาของซีเหมินเจียงเฉินถูกทำลายลงในฉับพลัน!

 

พร้อมกันนั้นเองชายผ้าคลุมด้านหลังของต้วนหลิงเทียนก็ส่งเสียงหวีดหวิวออกมาฉับไว ราวกับจะตวัดกรีดห้วงอากาศปริฉีก เจตจำนงกระบอันน่ากลัวกำจายสะท้านไปในบรรยากาศเห็นเป็นแสงกระบี่ไร้สภาพพุ่งตัดฟ้าออกไปฉับไว ก่อเกิดเส้นทางสีแดงหนึ่งขึ้น

 

พอมองดีๆก็พบว่าเป็นเลือด

 

“ท่านผู้นำ!!”

 

เกี่ยหมิง รองผู้นำพันธมิตรยามสารทหวีดร้องออกมาเสียงหลงด้วยความหวาดกลัว!

 

ท่ามกลางสาตาหวาดผวาทั้งไม่อยากจะเชื่อของทุกคนในที่นี้ ซีเหมินเจียงเฉิน 1 ใน 3 ผู้นำกองกำลังใหญ่ในเขต 2 ภาคเหนือแห่งสมรภูมิ 9 ยมโลก ศีรษะก็ได้ปลิดปลิวหลุดจากบ่าหมุนคว้าง ไปในอากาศ จากนั้นไม่ทันไรก็ถูกพลังมิติบดทำลายจนสลายเป็นละอองโลหิต

 

ซีเหมินเจียงเฉินที่ก่อนหน้าลั่นวาจาว่าจะฆ่าผู้คุมกฎอาวุโสของพันธมิตรอุดรลี้ลับ ก็ตกตายไปแต่เพียงเท่านี้

 

บรรยากาศบนฟ้าเหนือค่ายพันธมิตรอุดรลี้ลับ กลายเป็นเงียบสงัดลงทันใด

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+