War sovereign Soaring The Heavens 3569

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3569 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 ตอนที่ 3569 : หนึ่งคนชี้ขาดทุกสิ่ง

 

แปะ…

 

เมื่อหยดเย็นคาวคลุ้งกระเซ็นถูกใบหน้าผู้คนของพันธมิตรขุนเขาและพันธมิตรเมฆยามสารท ก็ปลุกสติพวกมันให้ตื่นขึ้นจากอาการตกตะลึงทันที พอแต่ละคนเอามือลูบโดยไม่รู้ตัว ก็พบว่าเป็นละอองโลหิตที่พร่างพรมไปทั่วฟ้า แต่ถึงแม้ใบหน้าพวกมันจะรู้สึกเย็น ก็ยังเย็นไม่เท่าใจอันหนาวเหน็บ…

 

ซีเหมินเจียงเฉิน ผู้นําพันธมิตรเมฆยามสารท ตัวตนที่พลังฝีมือใกล้แตะถึงระดับเทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือตกตายลงในลักษณะนี้?

 

กระบวนการดังกล่าว พวกมันยังไม่แม้แต่จะตอบสนองอันใด

 

เรียกว่าซีเหมินเจียงเฉินถูกผู้อื่นฆ่าในเสี้ยวพริบตา!

 

“นี่มัน…”

 

ด้านคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับ นอกจากตัวผู้นําอย่างหลัวอี้หมิงที่ฉีกยิ้มจนแก้มแทบปริ และท่าทางแลดูราวกับไม่ได้แปลกใจอะไรกับเรื่องนี้ คนอื่นๆล้วนทําตาปริบๆกันทั้งนั้น กระทั่งหลัวเฟิงรองผู้นําเองยังอ้าปากค้าง

 

ผู้คุมกฏอาวุโสของพันธมิตรอุดรกับพวกมัน ที่แท้ร้ายกาจขนาดนี้เชียว!?

 

สมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับหลายๆคนที่ก่อนหน้ากังขาและไม่พอใจในตัวผู้คุมกฏอาวุโส ในปัจจุบันพวกมันรู้สึกเสมือนมีฝ่ามือหนึ่งฟาดตบใบหน้าดังฉาด พาลให้แก้มร้อนฉ่านัก

 

ส่วนด้านคนของพันธมิตรเมฆยามสารทนั้น แต่ละคนได้แต่หันหน้ามองกันเลิกลัก ยังแลเห็นถึงความสิ้นหวังในแววตากันและกันสวรรค์!!

 

ผู้คุมกฏอาวุโสของพันธมิตรอุดรลับเป็นเทพดาองค์ใดกัน!? แม้แต่ชีเหมินเจียงเฉินผู้นําพันธมิตรเมฆยามสารทของพวกมันก็ฆ่าทิ้งได้ง่ายๆราวตัดหญ้าฆ่าไก่ แล้วเทพสงคราม 8 ดาราอีก 3 คนที่เหลือของพันธมิตรร่วมพวกมันยังจะมีใครรับมือได้อีก?

 

จังหวะนี้พวกมันแทบจะสิ้นหวังแล้ว

 

อันที่จริงไม่ใช่แค่พวกมันเท่านั้นที่สิ้นหวัง

 

ไม่ว่าจะเป็นผู้นําพันธมิตรขุนเขาหยวนกับรองผู้นําฉีคุน กระทั่งรองผู้นําพันธมิตรเมฆยามสารทของพวกมันเองอย่างเกี่ยหมิง ก็ล้วนบังเกิดความสิ้นหวังจับใจ

 

ดังคํากล่าวที่ว่า คนนอกชมดูเอาสนุกสนาน แต่คนวงในแลเห็นลู่ทาง… เมื่อครู่ตอนที่ผู้คุมกฎอาวุโสของพันธมิตรอุดรลี้ลับได้ลงมือจู่โจมใส่ซีเหมินเจียงเฉินนั่น ถึงแม้พวกมันจะเห็นเพียงแต่ชายเสื้อคลุมโบกสะบัดตัดฟ้าไปฉับไว จากนั้นเกิดอะไรขึ้นพวกมันก็ไม่อาจเห็นได้

 

อย่างไรก็ตามพวกมันรู้ดีว่าชายเสื้อคลุมนั่นสมควรซัดการโจมตีบางอย่างออกไป และสิ่งนั้นก็ว่องไวเสียจนพวกมันมองตามไม่ทัน กระทั่งซีเหมินเจียงเฉินเองเผลอๆหัวหลุดจากบ่าไปแล้วยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ํา! เป็นธรรมดาว่าการลงมือดังกล่าวจะทําให้พวกมันสิ้นหวังถอดใจ เพราะถ้าพวกมันตกเป็นเป้าบ้าง ก็มีแต่หนทางตายสถานเดียว

 

“ท่านผู้นํา พวกเราจะทําอย่างไรกันดี!?”

 

ฉีกุนเร่งส่งเสียงผ่านพลังถามหยวนฝอยางร้อนใจ ตอนนี้มันได้แต่ลอบโอดครวญในใจว่าวันนี้มันไม่น่าบุกมาพันธมิตรอุดรลี้ลับด้วยเลย!

 

ราวกับมันลืมเลือนไปหมดสิ้น

 

การบุกมาเข่นฆ่าล้างบางพันธมิตรอุดรลี้ลับ เป็นมันระริกระรี้เห็นดีด้วยกว่าใคร

 

“ตะใต้เท้าลี่เฟิง”

 

ท่ามกลางทุกสายตาชมมอง หยวน ผู้นําพันธมิตรขุนเขา ได้ประสานมือโค้งคารวะกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยความนอบน้อม “เรื่องราววันนี้พวกเราเพียงมุ่งเป้าไปยังพันธมิตรอุดรลี้ลับเท่านั้น พวกเราไม่คิดตอแยท่าน”

 

“หากใต้เท้าลี่เฟิงเพิกเฉยไม่ยุ่งเรื่องราวใดในวันนี้ รอให้พันธมิตรขุนเขาเรากับพันธมิตรยามสารทจัดการพันธมิตรอุดรลับแล้วเสร็จ ไม่ว่าทรัพย์สมบัติของพันธมิตรอุดรลี้ลับจะมีกี่มากน้อย พวกเราพันธมิตรร่วมยินดีมอบให้ใต้เท้าลี่เฟิงเป็นของกํานัลทั้งหมด”

 

พอหยวนฝูปริปากออกมาอีกครั้ง ไม่เพียงแต่มันจะถ่อมตัวนอบน้อม แต่ยังใช้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของพันธมิตรอุดรลี้ลับมาล่อลวงต้วนหลิงเทียน

 

ตัวหยวนฝผู้นําพันธมิตรขุนเขาเอง ตอนนี้ก็บังเกิดความเสียใจนัก

 

หากฟ้าเมตตาให้โอกาสมันอีกสักครั้ง ต่อให้คนของพันธมิตรเมฆยามสารทจะเอามีดมาจ่อคอหอย มันก็ไม่มีวันร่วมมือกับอีกฝ่ายอย่างแน่นอน!

 

ล้อกันเล่นหรือไร!?

 

ไม่ต้องให้เทพสงคราม 8 ดาราอีก 2 คนของพันธมิตรอุดรลี้ลับช่วยด้วยซ้ํา! อาศัยชายเบื้องหน้าคนเดียวก็มากพอจะทําลายพันธมิตรขุนเขากับพันธมิตรเมฆยามสารทให้ราบเป็นหน้ากลองแล้ว!!

 

พอได้ยินคําพูดของหยวนฟูผู้นําพันธมิตรขุนเขา สีหน้าสมาชิกส่วนใหญ่ของพันธมิตรอุดรลี้ลับก็เปลี่ยนไปทันที พวกมันได้แต่ลอบมองไปทางต้วนหลิงเทียนด้วยความกังวล ด้วยกลัวว่าผู้คุมกฏอาวุโสคนนี้จะหวั่นไหว

 

มีแต่หลัวอี้หมิงกับหลัวเฟิงที่พบเจอต้วนหลิงเทียนมาก่อน และใช้เวลาอยู่กับต้วนหลิงเทียนมากกว่าใครในที่นี้เท่านั้น ที่รู้ดีว่าต้วนหลิงเทียนไม่ใช่คนอย่างนั้น

 

ยิ่งไปกว่านั้น ตัวตนระดับต้วนหลิงเทียนจะสนใจสมบัติของพวกมันหรือ?

 

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการแสดงท่าที หลัวอี้หมิงจึงตัดสินใจก้าวออกมาหมายให้คํามั่นกับผู้คุมกฏอาวุโสพันธมิตรอุดรลี้ลับของมัน ว่าหลังจากทําลายพันธมิตรขุนเขากับพันธมิตรเมฆยามสารทแล้ว พวกมันยินดีจะยกสิ่งที่ได้ให้

 

“ท่านผ.”

 

ทว่าหลัวอี้หมิงพึ่งจะกล่าวออกมาได้พยางค์เดียว มันก็จําต้องปิดปากลงอีกครั้ง

 

เนื่องเพราะผู้คุมกฏอาวุโสของพันธมิตรอุดรลี้ลับของพวกมันได้ลงมือแล้ว

 

พับบ!!

 

เป็นชายเสื้อคลุมสีดําที่สะบัดกวาดออกมาดั่งเคียวมรณะ ด้านหยวนผู้ที่ไม่คิดไม่ฝันว่าต้วนหลิงเทียนจะลงมือ ก็ถูกตัดหัวทิ้งในพริบตา

 

จากนั้นด้วยพลังมิติไล่หลัง กลางฟ้าก็อุบัติหมอกโลหิตฟังขึ้นอีกกลุ่ม พอดีกับคลื่นลมจากการลงมือ ก็ได้พัดพาหมอกโลหิตดังกล่าวไปสาดกระทบกลุ่มคนพันธมิตรเมฆามสารทและพันธมิตรขุนเขาอีกรอบ…

 

“ผู้นํา!!”

 

สีหน้าฉีคนเปลี่ยนไปใหญ่หลวง ฉายชัดถึงความสิ้นหวังจับใจนัก

 

หากเป็นเมื่อก่อน ความตายของผู้นําพันธมิตรขุนเขาคงทําให้มันดีใจปานลิงโลด เพราะนั่นหมายความว่าต่อไปมันจะกลายเป็นผู้นําคนใหม่ของพันธมิตรขุนเขานั้นเอง…แต่ตอนนี้มันจะมีก็แต่ความสิ้นหวัง หาความสุขไม่เจอ!

 

เพราะการตายของหยวน ก็ไม่ต่างอะไรกับเบื้องหน้าของมันคือความตายดุจเดียวกัน

 

“หนี!”

 

ฉีกุนรองผู้นําพันธมิตรขุนเขา กับเกี่ยหมิงรองผู้นําพันธมิตรเมฆยามสารท เร่งกลอกตาเหลือบมองกัน จากนั้นต่างคนก็ส่งเสียงผ่านพลังออกมาอยย่างพร้อมเพรียง กระทั่งปะทุพลังชั่วชีวิตแยกย้ายกันออกไปคนละทางอย่างรู้ใจ

 

“รองผู้นํา!?”

 

สําหรับคนที่เหลือของพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขา พอเห็นที่พึ่งสุดท้ายอย่างรองผู้นําเป็ดตูดหนี้ไปก่อนใครแบบนี้ ก็ได้แต่ร้องออกมาเสียงหลง สีหน้ายังเปลี่ยนไปใหญ่หลวง ด้วยไม่คิดเลยว่าพวกมันจะโดนทิ้งเอาดื้อๆ ร่างพวกมันยังเริ่มสั่นไหวขึ้นมาเพราะเร่งเร้าพลัง เห็นชัดว่าหมายหลบหนีไปตายเอาดาบหน้าเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม

 

พร้อมกับเสียงเบาๆเสนาะหูดัง “พับ” 2 ครั้ง พวกมันก็เห็นว่ารองผู้นําที่แยกย้ายกันหลบหนีไปนั้น ศีรษะของทั้งคู่ได้ถูกตัดขาดเหมือนปลิดแตงโดยชายเสื้อคลุมดําที่ไม่ต่างอะไรจากเคียวมรณะ ไปปรภพตามรอยผู้นําไปติดๆ

 

ไม่ทันรู้ตัว เทพสงคราม 8 ดาราทั้ง 4 คนจากพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาก็ตกตายหมดสิ้น

 

แต่ต้นจนจบ ยังพึ่งผ่านไป 10 ลมหายใจเท่านั้น

 

ตั้งแต่ที่ต้วนหลิงเทียนปรากฏตัวจนถึงบัดนี้ นับเวลาได้ 10 ลมหายใจเท่านั้น แต่ก็ฆ่าเทพสงคราม 8 ดาราไปแล้ว 4 คน.

 

บัดนี้ พอทุกคนที่อยู่ในค่ายยพันธมิตรอุดรลี้ลับมองร่างในชุดคลุมลมดําสวมหมวกฟางกลางหาวอีกครั้ง แววตาก็ฉายชัดถึงความหวาดกลัว.กระทั่งผู้นําพันธมิตรอุดรลี้ลับอย่างหลัวอี้หมิงเองก็ไม่เว้น

 

“ที่เหลือเจ้าสมควรจัดการเองได้กระมัง?”

 

ต้วนหลิงเทียนที่บัดนี้ชายเสื้อคลุมดําได้พลิ้วแผ่วเบาๆแม้ไร้ลม ค่อยๆหันกลับมามองถามไปทางหลัวอี้หมิงผู้นําพันธมิตรอุดรลี้ลับเสียงเบา

 

“อาศัยปลาซิวปลาสร้อยที่เหลือ ไหนเลยต้องถึงมือผู้คุมกฏอาวุโส ข้าน้อยย่อมจัดการเองได้”

 

หลัวอี้หมิงพยักหน้าตอบคําเร็วไว “ครั้งนี้ ข้าในนามพันธมิตรอุดรลี้ลับ ต้องขอขอบคุณผู้อาวุโสคุมกฏยิ่งที่ออกหน้าช่วยเหลือพันธมิตรอุดรลี้ลับของพวกเรา”

 

“อ่า”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า จากนั้นร่างก็อันตรธานหายไปในความว่างเปล่าต่อหน้าต่อตาทุกคน

 

มาเร็วไปไวดีแท้

 

ด้านคนของพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาที่เหลือ เมื่อครู่พอเห็นรองผู้นําถูกเข่นฆ่าในพริบตา พวกมันก็ขาตายไม่กล้าขยับ…ตอนนี้พอเห็นว่าชายในชุดคลุมดําหมวกฟางที่ไม่ต่างอะไรจากเทพแห่งความตายหายตัวไปแล้ว ค่อยรวบรวมความกล้าปะทุพลังแยกย้ายกันหลบหนีอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม ปราศจากเทพสงคราม 8 ดาราที่นําพวกมันมา พวกมันที่ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มโจรแตกพ่าย คิดจะไปก็ไปกันได้ง่ายๆหรือ?

 

นอกจากนั้น เหล่าคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับที่สึกเหิมกันมาสักพักแล้ว ด้วยได้รับขวัญกําลังใจอันสูงสุดจากผู้คุมกฏอาวุโส ก็ประหนึ่งเจ้าบ่าวเห็นเจ้าสาวในผ้าน้อยชิ้นนอนทอดกายเย้ายวนบนเตียง ยังจะระงับความพุ่งพล่านได้อย่างไรไหว! แต่ละคนแข่งกันพุ่งกระโจนเข่นฆ่าเข้าใส่คนของ 2 พันธมิตรที่แยกย้ายกันหลบหนีด้วยสภาวะเหี้ยมหาญปานพยัคฆ์ลงภู!

 

“สินสงครามที่พวกเราได้มาทั้งหมดวันนี้ ข้าตั้งใจจะมอบให้ผู้คุมกฏอาวุโสผู้ใดมีความเห็นเป็นอื่นบ้าง?”

 

หลังผ่านไปสักพักเมื่อเข่นฆ่าจบวิกฤตครั้งนี้ได้แล้ว หลัวอี้หมิงผู้นําพันธมิตรอุดรลี้ลับที่ลอยร่างกลางหาว ก็หันไปกวาดตามองรอบๆพลางถามเสียงขรึม

 

ถึงแม้มันจะรู้สึกว่าผู้คุมกฏอาวุโสไม่น่าจะต้องการของพวกนี้

 

อย่างไรก็ตาม มีบางเรื่องที่ถึงท่านจะรู้ว่าอีกฝ่ายดูแคลนไม่สนใจ ท่านก็ไม่อาจไม่กระทํา

 

ยังคงต้องนําไปมอบส่งให้ผู้อื่นเขาก่อน แม้รู้ว่าจะถูกปฏิเสธก็ตาม!

 

เพราะถ้าไม่เอาไปส่งมอบให้ มันก็ถือเป็นอีกเรื่องทันที

 

ยังเป็น 2 เรื่องที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง!

 

“ข้าไม่คัดค้าน”

 

หลัวเฟิงเป็นผู้นําในการส่ายหัวตอบ

 

“ พวกเราก็ไม่!”

 

“ท่านผู้นํา วันนี้หากไม่มีผู้คุมกฏอาวุโส ชะตากรรมของพวกเราในวันนี้ก็มีแต่นอนตัวเย็นใต้ธารน้ําแข็งอันมืดมิดสินสงครามที่พวกเราได้มา สมควรนําไปมอบให้ท่านผู้คุมกฏอาวุโสดีแล้ว”

 

คําพูดของหลัวอี้หมิง ไม่มีใครในพันธมิตรอุดรลับมีความเห็นเป็นอื่น และทั้งหมดยังรู้สึกว่ามันสมควรเป็นแบบนี้อยู่แล้ว

 

และในเวลาเดียวกันคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับก็ยังเปี่ยมล้นไปด้วยความฮึกเหิมคึกคักนัก เพราะเหล่าคนของพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาที่บุกมาวันนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นกระดูกสันหลังของกองกําลังทั้งสอง!

 

– สําหรับสมาชิกที่เหลือของพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขา ต่อให้พวกมันไม่บุกไปเข่นฆ่า น่ากลัวว่าทันทีที่ได้รับทราบข่าวจากที่นี่ ก็คงต้องเร่งรุดหลบหนีกันดั่งผึ้งแตกรัง!

 

เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า…จากนี้ต่อไปในเขต 2 ของภาคเหนือ พันธมิตรอุดรลี้ลับของพวกมันจะเป็นจ้าวผู้ครอบครองเพียงหนึ่งเดียว!

 

“ข้าไม่คิดเลยว่าในพันธมิตรอุดรลี้ลับเราจะมีตัวตนเยี่ยงผู้คุมกฏอาวุโสอยู่…พินิจจากพลังฝีมือของผู้คุมกฏอาวุโสแล้ว เผยให้รู้ว่าท่านสมควรเป็นเทพสงคราม 8 ชนชั้นยอดฝีมือแน่นอน!”

 

สมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับบางคนได้แต่กล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ

 

“เทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือ? ข้าว่ามิน่าจะใช่แค่เทพสงคราม 8 ชนชั้นยอดฝีมือธรรมดาๆหรอก…เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็คงยากจะพลิกสถานการณ์ดั่งใช้หนึ่งมือบังฟ้าเช่นนี้ได้ สุดท้ายแล้วจะผู้นําพันธมิตรเมฆยามสารทหรือพันธมิตรขุนเขา ก็ใกล้เคียงกับพวกเทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือ!”

 

“มิผิด ข้าว่าต่อให้เป็นในบรรดายอดฝีมือเทพสงคราม 8 ดารา ผู้คุมกฏอาวุโสเราก็ร้ายกาจเป็นอันดับต้นๆแน่นอน…เผลอๆอาจจะเทียบได้กับหมู่หลงผู้นําคนที่ 2 ของพันธมิตรฟานเทียนที่ตกตายไป หรือไม่ก็รองผู้นําพันธมิตรสวรรค์อย่างต้วนหลิงเทียน อัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่กําลังโด่งดังผู้นั้น”

 

“ข้าก็รู้สึกเช่นนั้น”

 

ต้วนหลิงเทียนไม่ทราบเลยว่าการลงมืออันน่าเกรงขามของเขาวันนี้ จะทําให้ท่าทีของพันธมิตรอุดรลี้ลับที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ

 

วันนี้เขาได้ถูกปลุกขึ้นมาจากภวังค์บ่มเพาะ

 

เป็นหลัวอี้หมิงผู้นําพันธมิตรอุดรลี้ลับที่ส่งข้อความมาขอความช่วยเหลือจากเขา หมายให้เขาออกไปลงมือคลี่คลายวิกฤตหายนะ

 

ท้ายที่สุดแล้ว หากเขาไม่ออกหน้าลงมือ พันธมิตรอุดรลี้ลับไม่พ้นโดนทําลายสิ้น จากนั้นเขาก็จะถูกทิ้งให้เหลืออยู่เพียงลําพัง…ต้องลําบากลําบนไปหากองกําลังอื่นเพื่อเข้าร่วมอีก

 

นี่เป็นอะไรที่เขาไม่อยากเจอ

 

แน่นอนว่าต่อให้เขาไม่ได้คํานึงถึงเรื่องดังกล่าว แต่เขาก็เคยรับปากหลัวอี้หมิงเอาไว้แล้วในกาลก่อน เช่นนั้นเขาก็ไม่อาจไม่ออกหน้า

 

เขาก็เลยออกหน้าลงมือ

 

หลังลงมือเสร็จก็กลับมาบ่มเพาะพลังต่อ

 

และในปัจจุบัน ด้วยความที่พลังเซียนอมตะต้นกําเนิดของเขา ได้แตะธรณีประตูของการเปลี่ยนเป็นพลังเทพแล้ว ทําให้เขารู้สึกว่าอีกไม่นานพลังเซียนอมตะต้นกําเนิดของเขาต้องเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นพลังเทพได้แน่!

 

ถึงตอนนั้นเขาก็จะกลายเป็นเทพสงคราม 9 ดาราทันที สามารถท่องไปทั่วสมรภูมิ 9 ยมโลกได้ตามอําเภอใจ

 

ตราบใดที่จี้หยิ่ง ผู้นําของพันธมิตรฟานเทียนกับมือดีของวิหารเฟิงฮ่าวมา เขาก็ไม่ต้องกลัว!

 

“ปกติพลังวิญญาณฟ้าดินจากซากปรักหักพังของระนาบเทพ ก็เป็นอะไรที่เหล่าเทพใช้ฝึกฝนบ่มเพาะด้วยการดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินที่มีคุณภาพสูงล้ําแบบนี้แต่แรก ความเร็วในการเปลี่ยนเป็นพลังเทพก็นับว่าสูงนัก ไม่ทันไรพลังเซียนอมตะต้นกําเนิดของข้าก็เริ่มสอสัญญาณว่าจะเปลี่ยนแปลงแล้ว

 

“ช่างน่าทึ่งจริงๆ

เมื่อเห็นอรุณรุ่งแห่งการเปลี่ยนแปลงของพลังเซียนอมตะต้นกําเนิด ต้วนหลิงเทียนก็ตัดสินใจตีเหล็กตอนร้อน เร่งโคจรดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดิน และควบรวมขัดเกลาพลังเซียนอมตะต้นกําเนิดในร่างให้เริ่มกลายเป็นพลังเทพทันที

 

และนี่เป็นขั้นตอนสําคัญอย่างยิ่งก่อนบรรลุถึงขอบเขตเทพ

 

เมื่อขั้นตอนนี้แล้วเสร็จ เขาก็จะกลายเป็นตัวตน ครึ่งก้าวเทพ!

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

War sovereign Soaring The Heavens 3569

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3569 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 ตอนที่ 3569 : หนึ่งคนชี้ขาดทุกสิ่ง

 

แปะ…

 

เมื่อหยดเย็นคาวคลุ้งกระเซ็นถูกใบหน้าผู้คนของพันธมิตรขุนเขาและพันธมิตรเมฆยามสารท ก็ปลุกสติพวกมันให้ตื่นขึ้นจากอาการตกตะลึงทันที พอแต่ละคนเอามือลูบโดยไม่รู้ตัว ก็พบว่าเป็นละอองโลหิตที่พร่างพรมไปทั่วฟ้า แต่ถึงแม้ใบหน้าพวกมันจะรู้สึกเย็น ก็ยังเย็นไม่เท่าใจอันหนาวเหน็บ…

 

ซีเหมินเจียงเฉิน ผู้นําพันธมิตรเมฆยามสารท ตัวตนที่พลังฝีมือใกล้แตะถึงระดับเทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือตกตายลงในลักษณะนี้?

 

กระบวนการดังกล่าว พวกมันยังไม่แม้แต่จะตอบสนองอันใด

 

เรียกว่าซีเหมินเจียงเฉินถูกผู้อื่นฆ่าในเสี้ยวพริบตา!

 

“นี่มัน…”

 

ด้านคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับ นอกจากตัวผู้นําอย่างหลัวอี้หมิงที่ฉีกยิ้มจนแก้มแทบปริ และท่าทางแลดูราวกับไม่ได้แปลกใจอะไรกับเรื่องนี้ คนอื่นๆล้วนทําตาปริบๆกันทั้งนั้น กระทั่งหลัวเฟิงรองผู้นําเองยังอ้าปากค้าง

 

ผู้คุมกฏอาวุโสของพันธมิตรอุดรกับพวกมัน ที่แท้ร้ายกาจขนาดนี้เชียว!?

 

สมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับหลายๆคนที่ก่อนหน้ากังขาและไม่พอใจในตัวผู้คุมกฏอาวุโส ในปัจจุบันพวกมันรู้สึกเสมือนมีฝ่ามือหนึ่งฟาดตบใบหน้าดังฉาด พาลให้แก้มร้อนฉ่านัก

 

ส่วนด้านคนของพันธมิตรเมฆยามสารทนั้น แต่ละคนได้แต่หันหน้ามองกันเลิกลัก ยังแลเห็นถึงความสิ้นหวังในแววตากันและกันสวรรค์!!

 

ผู้คุมกฏอาวุโสของพันธมิตรอุดรลับเป็นเทพดาองค์ใดกัน!? แม้แต่ชีเหมินเจียงเฉินผู้นําพันธมิตรเมฆยามสารทของพวกมันก็ฆ่าทิ้งได้ง่ายๆราวตัดหญ้าฆ่าไก่ แล้วเทพสงคราม 8 ดาราอีก 3 คนที่เหลือของพันธมิตรร่วมพวกมันยังจะมีใครรับมือได้อีก?

 

จังหวะนี้พวกมันแทบจะสิ้นหวังแล้ว

 

อันที่จริงไม่ใช่แค่พวกมันเท่านั้นที่สิ้นหวัง

 

ไม่ว่าจะเป็นผู้นําพันธมิตรขุนเขาหยวนกับรองผู้นําฉีคุน กระทั่งรองผู้นําพันธมิตรเมฆยามสารทของพวกมันเองอย่างเกี่ยหมิง ก็ล้วนบังเกิดความสิ้นหวังจับใจ

 

ดังคํากล่าวที่ว่า คนนอกชมดูเอาสนุกสนาน แต่คนวงในแลเห็นลู่ทาง… เมื่อครู่ตอนที่ผู้คุมกฎอาวุโสของพันธมิตรอุดรลี้ลับได้ลงมือจู่โจมใส่ซีเหมินเจียงเฉินนั่น ถึงแม้พวกมันจะเห็นเพียงแต่ชายเสื้อคลุมโบกสะบัดตัดฟ้าไปฉับไว จากนั้นเกิดอะไรขึ้นพวกมันก็ไม่อาจเห็นได้

 

อย่างไรก็ตามพวกมันรู้ดีว่าชายเสื้อคลุมนั่นสมควรซัดการโจมตีบางอย่างออกไป และสิ่งนั้นก็ว่องไวเสียจนพวกมันมองตามไม่ทัน กระทั่งซีเหมินเจียงเฉินเองเผลอๆหัวหลุดจากบ่าไปแล้วยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ํา! เป็นธรรมดาว่าการลงมือดังกล่าวจะทําให้พวกมันสิ้นหวังถอดใจ เพราะถ้าพวกมันตกเป็นเป้าบ้าง ก็มีแต่หนทางตายสถานเดียว

 

“ท่านผู้นํา พวกเราจะทําอย่างไรกันดี!?”

 

ฉีกุนเร่งส่งเสียงผ่านพลังถามหยวนฝอยางร้อนใจ ตอนนี้มันได้แต่ลอบโอดครวญในใจว่าวันนี้มันไม่น่าบุกมาพันธมิตรอุดรลี้ลับด้วยเลย!

 

ราวกับมันลืมเลือนไปหมดสิ้น

 

การบุกมาเข่นฆ่าล้างบางพันธมิตรอุดรลี้ลับ เป็นมันระริกระรี้เห็นดีด้วยกว่าใคร

 

“ตะใต้เท้าลี่เฟิง”

 

ท่ามกลางทุกสายตาชมมอง หยวน ผู้นําพันธมิตรขุนเขา ได้ประสานมือโค้งคารวะกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยความนอบน้อม “เรื่องราววันนี้พวกเราเพียงมุ่งเป้าไปยังพันธมิตรอุดรลี้ลับเท่านั้น พวกเราไม่คิดตอแยท่าน”

 

“หากใต้เท้าลี่เฟิงเพิกเฉยไม่ยุ่งเรื่องราวใดในวันนี้ รอให้พันธมิตรขุนเขาเรากับพันธมิตรยามสารทจัดการพันธมิตรอุดรลับแล้วเสร็จ ไม่ว่าทรัพย์สมบัติของพันธมิตรอุดรลี้ลับจะมีกี่มากน้อย พวกเราพันธมิตรร่วมยินดีมอบให้ใต้เท้าลี่เฟิงเป็นของกํานัลทั้งหมด”

 

พอหยวนฝูปริปากออกมาอีกครั้ง ไม่เพียงแต่มันจะถ่อมตัวนอบน้อม แต่ยังใช้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของพันธมิตรอุดรลี้ลับมาล่อลวงต้วนหลิงเทียน

 

ตัวหยวนฝผู้นําพันธมิตรขุนเขาเอง ตอนนี้ก็บังเกิดความเสียใจนัก

 

หากฟ้าเมตตาให้โอกาสมันอีกสักครั้ง ต่อให้คนของพันธมิตรเมฆยามสารทจะเอามีดมาจ่อคอหอย มันก็ไม่มีวันร่วมมือกับอีกฝ่ายอย่างแน่นอน!

 

ล้อกันเล่นหรือไร!?

 

ไม่ต้องให้เทพสงคราม 8 ดาราอีก 2 คนของพันธมิตรอุดรลี้ลับช่วยด้วยซ้ํา! อาศัยชายเบื้องหน้าคนเดียวก็มากพอจะทําลายพันธมิตรขุนเขากับพันธมิตรเมฆยามสารทให้ราบเป็นหน้ากลองแล้ว!!

 

พอได้ยินคําพูดของหยวนฟูผู้นําพันธมิตรขุนเขา สีหน้าสมาชิกส่วนใหญ่ของพันธมิตรอุดรลี้ลับก็เปลี่ยนไปทันที พวกมันได้แต่ลอบมองไปทางต้วนหลิงเทียนด้วยความกังวล ด้วยกลัวว่าผู้คุมกฏอาวุโสคนนี้จะหวั่นไหว

 

มีแต่หลัวอี้หมิงกับหลัวเฟิงที่พบเจอต้วนหลิงเทียนมาก่อน และใช้เวลาอยู่กับต้วนหลิงเทียนมากกว่าใครในที่นี้เท่านั้น ที่รู้ดีว่าต้วนหลิงเทียนไม่ใช่คนอย่างนั้น

 

ยิ่งไปกว่านั้น ตัวตนระดับต้วนหลิงเทียนจะสนใจสมบัติของพวกมันหรือ?

 

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการแสดงท่าที หลัวอี้หมิงจึงตัดสินใจก้าวออกมาหมายให้คํามั่นกับผู้คุมกฏอาวุโสพันธมิตรอุดรลี้ลับของมัน ว่าหลังจากทําลายพันธมิตรขุนเขากับพันธมิตรเมฆยามสารทแล้ว พวกมันยินดีจะยกสิ่งที่ได้ให้

 

“ท่านผ.”

 

ทว่าหลัวอี้หมิงพึ่งจะกล่าวออกมาได้พยางค์เดียว มันก็จําต้องปิดปากลงอีกครั้ง

 

เนื่องเพราะผู้คุมกฏอาวุโสของพันธมิตรอุดรลี้ลับของพวกมันได้ลงมือแล้ว

 

พับบ!!

 

เป็นชายเสื้อคลุมสีดําที่สะบัดกวาดออกมาดั่งเคียวมรณะ ด้านหยวนผู้ที่ไม่คิดไม่ฝันว่าต้วนหลิงเทียนจะลงมือ ก็ถูกตัดหัวทิ้งในพริบตา

 

จากนั้นด้วยพลังมิติไล่หลัง กลางฟ้าก็อุบัติหมอกโลหิตฟังขึ้นอีกกลุ่ม พอดีกับคลื่นลมจากการลงมือ ก็ได้พัดพาหมอกโลหิตดังกล่าวไปสาดกระทบกลุ่มคนพันธมิตรเมฆามสารทและพันธมิตรขุนเขาอีกรอบ…

 

“ผู้นํา!!”

 

สีหน้าฉีคนเปลี่ยนไปใหญ่หลวง ฉายชัดถึงความสิ้นหวังจับใจนัก

 

หากเป็นเมื่อก่อน ความตายของผู้นําพันธมิตรขุนเขาคงทําให้มันดีใจปานลิงโลด เพราะนั่นหมายความว่าต่อไปมันจะกลายเป็นผู้นําคนใหม่ของพันธมิตรขุนเขานั้นเอง…แต่ตอนนี้มันจะมีก็แต่ความสิ้นหวัง หาความสุขไม่เจอ!

 

เพราะการตายของหยวน ก็ไม่ต่างอะไรกับเบื้องหน้าของมันคือความตายดุจเดียวกัน

 

“หนี!”

 

ฉีกุนรองผู้นําพันธมิตรขุนเขา กับเกี่ยหมิงรองผู้นําพันธมิตรเมฆยามสารท เร่งกลอกตาเหลือบมองกัน จากนั้นต่างคนก็ส่งเสียงผ่านพลังออกมาอยย่างพร้อมเพรียง กระทั่งปะทุพลังชั่วชีวิตแยกย้ายกันออกไปคนละทางอย่างรู้ใจ

 

“รองผู้นํา!?”

 

สําหรับคนที่เหลือของพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขา พอเห็นที่พึ่งสุดท้ายอย่างรองผู้นําเป็ดตูดหนี้ไปก่อนใครแบบนี้ ก็ได้แต่ร้องออกมาเสียงหลง สีหน้ายังเปลี่ยนไปใหญ่หลวง ด้วยไม่คิดเลยว่าพวกมันจะโดนทิ้งเอาดื้อๆ ร่างพวกมันยังเริ่มสั่นไหวขึ้นมาเพราะเร่งเร้าพลัง เห็นชัดว่าหมายหลบหนีไปตายเอาดาบหน้าเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม

 

พร้อมกับเสียงเบาๆเสนาะหูดัง “พับ” 2 ครั้ง พวกมันก็เห็นว่ารองผู้นําที่แยกย้ายกันหลบหนีไปนั้น ศีรษะของทั้งคู่ได้ถูกตัดขาดเหมือนปลิดแตงโดยชายเสื้อคลุมดําที่ไม่ต่างอะไรจากเคียวมรณะ ไปปรภพตามรอยผู้นําไปติดๆ

 

ไม่ทันรู้ตัว เทพสงคราม 8 ดาราทั้ง 4 คนจากพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาก็ตกตายหมดสิ้น

 

แต่ต้นจนจบ ยังพึ่งผ่านไป 10 ลมหายใจเท่านั้น

 

ตั้งแต่ที่ต้วนหลิงเทียนปรากฏตัวจนถึงบัดนี้ นับเวลาได้ 10 ลมหายใจเท่านั้น แต่ก็ฆ่าเทพสงคราม 8 ดาราไปแล้ว 4 คน.

 

บัดนี้ พอทุกคนที่อยู่ในค่ายยพันธมิตรอุดรลี้ลับมองร่างในชุดคลุมลมดําสวมหมวกฟางกลางหาวอีกครั้ง แววตาก็ฉายชัดถึงความหวาดกลัว.กระทั่งผู้นําพันธมิตรอุดรลี้ลับอย่างหลัวอี้หมิงเองก็ไม่เว้น

 

“ที่เหลือเจ้าสมควรจัดการเองได้กระมัง?”

 

ต้วนหลิงเทียนที่บัดนี้ชายเสื้อคลุมดําได้พลิ้วแผ่วเบาๆแม้ไร้ลม ค่อยๆหันกลับมามองถามไปทางหลัวอี้หมิงผู้นําพันธมิตรอุดรลี้ลับเสียงเบา

 

“อาศัยปลาซิวปลาสร้อยที่เหลือ ไหนเลยต้องถึงมือผู้คุมกฏอาวุโส ข้าน้อยย่อมจัดการเองได้”

 

หลัวอี้หมิงพยักหน้าตอบคําเร็วไว “ครั้งนี้ ข้าในนามพันธมิตรอุดรลี้ลับ ต้องขอขอบคุณผู้อาวุโสคุมกฏยิ่งที่ออกหน้าช่วยเหลือพันธมิตรอุดรลี้ลับของพวกเรา”

 

“อ่า”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า จากนั้นร่างก็อันตรธานหายไปในความว่างเปล่าต่อหน้าต่อตาทุกคน

 

มาเร็วไปไวดีแท้

 

ด้านคนของพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาที่เหลือ เมื่อครู่พอเห็นรองผู้นําถูกเข่นฆ่าในพริบตา พวกมันก็ขาตายไม่กล้าขยับ…ตอนนี้พอเห็นว่าชายในชุดคลุมดําหมวกฟางที่ไม่ต่างอะไรจากเทพแห่งความตายหายตัวไปแล้ว ค่อยรวบรวมความกล้าปะทุพลังแยกย้ายกันหลบหนีอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม ปราศจากเทพสงคราม 8 ดาราที่นําพวกมันมา พวกมันที่ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มโจรแตกพ่าย คิดจะไปก็ไปกันได้ง่ายๆหรือ?

 

นอกจากนั้น เหล่าคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับที่สึกเหิมกันมาสักพักแล้ว ด้วยได้รับขวัญกําลังใจอันสูงสุดจากผู้คุมกฏอาวุโส ก็ประหนึ่งเจ้าบ่าวเห็นเจ้าสาวในผ้าน้อยชิ้นนอนทอดกายเย้ายวนบนเตียง ยังจะระงับความพุ่งพล่านได้อย่างไรไหว! แต่ละคนแข่งกันพุ่งกระโจนเข่นฆ่าเข้าใส่คนของ 2 พันธมิตรที่แยกย้ายกันหลบหนีด้วยสภาวะเหี้ยมหาญปานพยัคฆ์ลงภู!

 

“สินสงครามที่พวกเราได้มาทั้งหมดวันนี้ ข้าตั้งใจจะมอบให้ผู้คุมกฏอาวุโสผู้ใดมีความเห็นเป็นอื่นบ้าง?”

 

หลังผ่านไปสักพักเมื่อเข่นฆ่าจบวิกฤตครั้งนี้ได้แล้ว หลัวอี้หมิงผู้นําพันธมิตรอุดรลี้ลับที่ลอยร่างกลางหาว ก็หันไปกวาดตามองรอบๆพลางถามเสียงขรึม

 

ถึงแม้มันจะรู้สึกว่าผู้คุมกฏอาวุโสไม่น่าจะต้องการของพวกนี้

 

อย่างไรก็ตาม มีบางเรื่องที่ถึงท่านจะรู้ว่าอีกฝ่ายดูแคลนไม่สนใจ ท่านก็ไม่อาจไม่กระทํา

 

ยังคงต้องนําไปมอบส่งให้ผู้อื่นเขาก่อน แม้รู้ว่าจะถูกปฏิเสธก็ตาม!

 

เพราะถ้าไม่เอาไปส่งมอบให้ มันก็ถือเป็นอีกเรื่องทันที

 

ยังเป็น 2 เรื่องที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง!

 

“ข้าไม่คัดค้าน”

 

หลัวเฟิงเป็นผู้นําในการส่ายหัวตอบ

 

“ พวกเราก็ไม่!”

 

“ท่านผู้นํา วันนี้หากไม่มีผู้คุมกฏอาวุโส ชะตากรรมของพวกเราในวันนี้ก็มีแต่นอนตัวเย็นใต้ธารน้ําแข็งอันมืดมิดสินสงครามที่พวกเราได้มา สมควรนําไปมอบให้ท่านผู้คุมกฏอาวุโสดีแล้ว”

 

คําพูดของหลัวอี้หมิง ไม่มีใครในพันธมิตรอุดรลับมีความเห็นเป็นอื่น และทั้งหมดยังรู้สึกว่ามันสมควรเป็นแบบนี้อยู่แล้ว

 

และในเวลาเดียวกันคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับก็ยังเปี่ยมล้นไปด้วยความฮึกเหิมคึกคักนัก เพราะเหล่าคนของพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาที่บุกมาวันนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นกระดูกสันหลังของกองกําลังทั้งสอง!

 

– สําหรับสมาชิกที่เหลือของพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขา ต่อให้พวกมันไม่บุกไปเข่นฆ่า น่ากลัวว่าทันทีที่ได้รับทราบข่าวจากที่นี่ ก็คงต้องเร่งรุดหลบหนีกันดั่งผึ้งแตกรัง!

 

เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า…จากนี้ต่อไปในเขต 2 ของภาคเหนือ พันธมิตรอุดรลี้ลับของพวกมันจะเป็นจ้าวผู้ครอบครองเพียงหนึ่งเดียว!

 

“ข้าไม่คิดเลยว่าในพันธมิตรอุดรลี้ลับเราจะมีตัวตนเยี่ยงผู้คุมกฏอาวุโสอยู่…พินิจจากพลังฝีมือของผู้คุมกฏอาวุโสแล้ว เผยให้รู้ว่าท่านสมควรเป็นเทพสงคราม 8 ชนชั้นยอดฝีมือแน่นอน!”

 

สมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับบางคนได้แต่กล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ

 

“เทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือ? ข้าว่ามิน่าจะใช่แค่เทพสงคราม 8 ชนชั้นยอดฝีมือธรรมดาๆหรอก…เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็คงยากจะพลิกสถานการณ์ดั่งใช้หนึ่งมือบังฟ้าเช่นนี้ได้ สุดท้ายแล้วจะผู้นําพันธมิตรเมฆยามสารทหรือพันธมิตรขุนเขา ก็ใกล้เคียงกับพวกเทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือ!”

 

“มิผิด ข้าว่าต่อให้เป็นในบรรดายอดฝีมือเทพสงคราม 8 ดารา ผู้คุมกฏอาวุโสเราก็ร้ายกาจเป็นอันดับต้นๆแน่นอน…เผลอๆอาจจะเทียบได้กับหมู่หลงผู้นําคนที่ 2 ของพันธมิตรฟานเทียนที่ตกตายไป หรือไม่ก็รองผู้นําพันธมิตรสวรรค์อย่างต้วนหลิงเทียน อัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่กําลังโด่งดังผู้นั้น”

 

“ข้าก็รู้สึกเช่นนั้น”

 

ต้วนหลิงเทียนไม่ทราบเลยว่าการลงมืออันน่าเกรงขามของเขาวันนี้ จะทําให้ท่าทีของพันธมิตรอุดรลี้ลับที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ

 

วันนี้เขาได้ถูกปลุกขึ้นมาจากภวังค์บ่มเพาะ

 

เป็นหลัวอี้หมิงผู้นําพันธมิตรอุดรลี้ลับที่ส่งข้อความมาขอความช่วยเหลือจากเขา หมายให้เขาออกไปลงมือคลี่คลายวิกฤตหายนะ

 

ท้ายที่สุดแล้ว หากเขาไม่ออกหน้าลงมือ พันธมิตรอุดรลี้ลับไม่พ้นโดนทําลายสิ้น จากนั้นเขาก็จะถูกทิ้งให้เหลืออยู่เพียงลําพัง…ต้องลําบากลําบนไปหากองกําลังอื่นเพื่อเข้าร่วมอีก

 

นี่เป็นอะไรที่เขาไม่อยากเจอ

 

แน่นอนว่าต่อให้เขาไม่ได้คํานึงถึงเรื่องดังกล่าว แต่เขาก็เคยรับปากหลัวอี้หมิงเอาไว้แล้วในกาลก่อน เช่นนั้นเขาก็ไม่อาจไม่ออกหน้า

 

เขาก็เลยออกหน้าลงมือ

 

หลังลงมือเสร็จก็กลับมาบ่มเพาะพลังต่อ

 

และในปัจจุบัน ด้วยความที่พลังเซียนอมตะต้นกําเนิดของเขา ได้แตะธรณีประตูของการเปลี่ยนเป็นพลังเทพแล้ว ทําให้เขารู้สึกว่าอีกไม่นานพลังเซียนอมตะต้นกําเนิดของเขาต้องเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นพลังเทพได้แน่!

 

ถึงตอนนั้นเขาก็จะกลายเป็นเทพสงคราม 9 ดาราทันที สามารถท่องไปทั่วสมรภูมิ 9 ยมโลกได้ตามอําเภอใจ

 

ตราบใดที่จี้หยิ่ง ผู้นําของพันธมิตรฟานเทียนกับมือดีของวิหารเฟิงฮ่าวมา เขาก็ไม่ต้องกลัว!

 

“ปกติพลังวิญญาณฟ้าดินจากซากปรักหักพังของระนาบเทพ ก็เป็นอะไรที่เหล่าเทพใช้ฝึกฝนบ่มเพาะด้วยการดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินที่มีคุณภาพสูงล้ําแบบนี้แต่แรก ความเร็วในการเปลี่ยนเป็นพลังเทพก็นับว่าสูงนัก ไม่ทันไรพลังเซียนอมตะต้นกําเนิดของข้าก็เริ่มสอสัญญาณว่าจะเปลี่ยนแปลงแล้ว

 

“ช่างน่าทึ่งจริงๆ

เมื่อเห็นอรุณรุ่งแห่งการเปลี่ยนแปลงของพลังเซียนอมตะต้นกําเนิด ต้วนหลิงเทียนก็ตัดสินใจตีเหล็กตอนร้อน เร่งโคจรดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดิน และควบรวมขัดเกลาพลังเซียนอมตะต้นกําเนิดในร่างให้เริ่มกลายเป็นพลังเทพทันที

 

และนี่เป็นขั้นตอนสําคัญอย่างยิ่งก่อนบรรลุถึงขอบเขตเทพ

 

เมื่อขั้นตอนนี้แล้วเสร็จ เขาก็จะกลายเป็นตัวตน ครึ่งก้าวเทพ!

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

War sovereign Soaring The Heavens 3569

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 3569 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 ตอนที่ 3569 : หนึ่งคนชี้ขาดทุกสิ่ง

 

แปะ…

 

เมื่อหยดเย็นคาวคลุ้งกระเซ็นถูกใบหน้าผู้คนของพันธมิตรขุนเขาและพันธมิตรเมฆยามสารท ก็ปลุกสติพวกมันให้ตื่นขึ้นจากอาการตกตะลึงทันที พอแต่ละคนเอามือลูบโดยไม่รู้ตัว ก็พบว่าเป็นละอองโลหิตที่พร่างพรมไปทั่วฟ้า แต่ถึงแม้ใบหน้าพวกมันจะรู้สึกเย็น ก็ยังเย็นไม่เท่าใจอันหนาวเหน็บ…

 

ซีเหมินเจียงเฉิน ผู้นําพันธมิตรเมฆยามสารท ตัวตนที่พลังฝีมือใกล้แตะถึงระดับเทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือตกตายลงในลักษณะนี้?

 

กระบวนการดังกล่าว พวกมันยังไม่แม้แต่จะตอบสนองอันใด

 

เรียกว่าซีเหมินเจียงเฉินถูกผู้อื่นฆ่าในเสี้ยวพริบตา!

 

“นี่มัน…”

 

ด้านคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับ นอกจากตัวผู้นําอย่างหลัวอี้หมิงที่ฉีกยิ้มจนแก้มแทบปริ และท่าทางแลดูราวกับไม่ได้แปลกใจอะไรกับเรื่องนี้ คนอื่นๆล้วนทําตาปริบๆกันทั้งนั้น กระทั่งหลัวเฟิงรองผู้นําเองยังอ้าปากค้าง

 

ผู้คุมกฏอาวุโสของพันธมิตรอุดรกับพวกมัน ที่แท้ร้ายกาจขนาดนี้เชียว!?

 

สมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับหลายๆคนที่ก่อนหน้ากังขาและไม่พอใจในตัวผู้คุมกฏอาวุโส ในปัจจุบันพวกมันรู้สึกเสมือนมีฝ่ามือหนึ่งฟาดตบใบหน้าดังฉาด พาลให้แก้มร้อนฉ่านัก

 

ส่วนด้านคนของพันธมิตรเมฆยามสารทนั้น แต่ละคนได้แต่หันหน้ามองกันเลิกลัก ยังแลเห็นถึงความสิ้นหวังในแววตากันและกันสวรรค์!!

 

ผู้คุมกฏอาวุโสของพันธมิตรอุดรลับเป็นเทพดาองค์ใดกัน!? แม้แต่ชีเหมินเจียงเฉินผู้นําพันธมิตรเมฆยามสารทของพวกมันก็ฆ่าทิ้งได้ง่ายๆราวตัดหญ้าฆ่าไก่ แล้วเทพสงคราม 8 ดาราอีก 3 คนที่เหลือของพันธมิตรร่วมพวกมันยังจะมีใครรับมือได้อีก?

 

จังหวะนี้พวกมันแทบจะสิ้นหวังแล้ว

 

อันที่จริงไม่ใช่แค่พวกมันเท่านั้นที่สิ้นหวัง

 

ไม่ว่าจะเป็นผู้นําพันธมิตรขุนเขาหยวนกับรองผู้นําฉีคุน กระทั่งรองผู้นําพันธมิตรเมฆยามสารทของพวกมันเองอย่างเกี่ยหมิง ก็ล้วนบังเกิดความสิ้นหวังจับใจ

 

ดังคํากล่าวที่ว่า คนนอกชมดูเอาสนุกสนาน แต่คนวงในแลเห็นลู่ทาง… เมื่อครู่ตอนที่ผู้คุมกฎอาวุโสของพันธมิตรอุดรลี้ลับได้ลงมือจู่โจมใส่ซีเหมินเจียงเฉินนั่น ถึงแม้พวกมันจะเห็นเพียงแต่ชายเสื้อคลุมโบกสะบัดตัดฟ้าไปฉับไว จากนั้นเกิดอะไรขึ้นพวกมันก็ไม่อาจเห็นได้

 

อย่างไรก็ตามพวกมันรู้ดีว่าชายเสื้อคลุมนั่นสมควรซัดการโจมตีบางอย่างออกไป และสิ่งนั้นก็ว่องไวเสียจนพวกมันมองตามไม่ทัน กระทั่งซีเหมินเจียงเฉินเองเผลอๆหัวหลุดจากบ่าไปแล้วยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ํา! เป็นธรรมดาว่าการลงมือดังกล่าวจะทําให้พวกมันสิ้นหวังถอดใจ เพราะถ้าพวกมันตกเป็นเป้าบ้าง ก็มีแต่หนทางตายสถานเดียว

 

“ท่านผู้นํา พวกเราจะทําอย่างไรกันดี!?”

 

ฉีกุนเร่งส่งเสียงผ่านพลังถามหยวนฝอยางร้อนใจ ตอนนี้มันได้แต่ลอบโอดครวญในใจว่าวันนี้มันไม่น่าบุกมาพันธมิตรอุดรลี้ลับด้วยเลย!

 

ราวกับมันลืมเลือนไปหมดสิ้น

 

การบุกมาเข่นฆ่าล้างบางพันธมิตรอุดรลี้ลับ เป็นมันระริกระรี้เห็นดีด้วยกว่าใคร

 

“ตะใต้เท้าลี่เฟิง”

 

ท่ามกลางทุกสายตาชมมอง หยวน ผู้นําพันธมิตรขุนเขา ได้ประสานมือโค้งคารวะกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยความนอบน้อม “เรื่องราววันนี้พวกเราเพียงมุ่งเป้าไปยังพันธมิตรอุดรลี้ลับเท่านั้น พวกเราไม่คิดตอแยท่าน”

 

“หากใต้เท้าลี่เฟิงเพิกเฉยไม่ยุ่งเรื่องราวใดในวันนี้ รอให้พันธมิตรขุนเขาเรากับพันธมิตรยามสารทจัดการพันธมิตรอุดรลับแล้วเสร็จ ไม่ว่าทรัพย์สมบัติของพันธมิตรอุดรลี้ลับจะมีกี่มากน้อย พวกเราพันธมิตรร่วมยินดีมอบให้ใต้เท้าลี่เฟิงเป็นของกํานัลทั้งหมด”

 

พอหยวนฝูปริปากออกมาอีกครั้ง ไม่เพียงแต่มันจะถ่อมตัวนอบน้อม แต่ยังใช้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของพันธมิตรอุดรลี้ลับมาล่อลวงต้วนหลิงเทียน

 

ตัวหยวนฝผู้นําพันธมิตรขุนเขาเอง ตอนนี้ก็บังเกิดความเสียใจนัก

 

หากฟ้าเมตตาให้โอกาสมันอีกสักครั้ง ต่อให้คนของพันธมิตรเมฆยามสารทจะเอามีดมาจ่อคอหอย มันก็ไม่มีวันร่วมมือกับอีกฝ่ายอย่างแน่นอน!

 

ล้อกันเล่นหรือไร!?

 

ไม่ต้องให้เทพสงคราม 8 ดาราอีก 2 คนของพันธมิตรอุดรลี้ลับช่วยด้วยซ้ํา! อาศัยชายเบื้องหน้าคนเดียวก็มากพอจะทําลายพันธมิตรขุนเขากับพันธมิตรเมฆยามสารทให้ราบเป็นหน้ากลองแล้ว!!

 

พอได้ยินคําพูดของหยวนฟูผู้นําพันธมิตรขุนเขา สีหน้าสมาชิกส่วนใหญ่ของพันธมิตรอุดรลี้ลับก็เปลี่ยนไปทันที พวกมันได้แต่ลอบมองไปทางต้วนหลิงเทียนด้วยความกังวล ด้วยกลัวว่าผู้คุมกฏอาวุโสคนนี้จะหวั่นไหว

 

มีแต่หลัวอี้หมิงกับหลัวเฟิงที่พบเจอต้วนหลิงเทียนมาก่อน และใช้เวลาอยู่กับต้วนหลิงเทียนมากกว่าใครในที่นี้เท่านั้น ที่รู้ดีว่าต้วนหลิงเทียนไม่ใช่คนอย่างนั้น

 

ยิ่งไปกว่านั้น ตัวตนระดับต้วนหลิงเทียนจะสนใจสมบัติของพวกมันหรือ?

 

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการแสดงท่าที หลัวอี้หมิงจึงตัดสินใจก้าวออกมาหมายให้คํามั่นกับผู้คุมกฏอาวุโสพันธมิตรอุดรลี้ลับของมัน ว่าหลังจากทําลายพันธมิตรขุนเขากับพันธมิตรเมฆยามสารทแล้ว พวกมันยินดีจะยกสิ่งที่ได้ให้

 

“ท่านผ.”

 

ทว่าหลัวอี้หมิงพึ่งจะกล่าวออกมาได้พยางค์เดียว มันก็จําต้องปิดปากลงอีกครั้ง

 

เนื่องเพราะผู้คุมกฏอาวุโสของพันธมิตรอุดรลี้ลับของพวกมันได้ลงมือแล้ว

 

พับบ!!

 

เป็นชายเสื้อคลุมสีดําที่สะบัดกวาดออกมาดั่งเคียวมรณะ ด้านหยวนผู้ที่ไม่คิดไม่ฝันว่าต้วนหลิงเทียนจะลงมือ ก็ถูกตัดหัวทิ้งในพริบตา

 

จากนั้นด้วยพลังมิติไล่หลัง กลางฟ้าก็อุบัติหมอกโลหิตฟังขึ้นอีกกลุ่ม พอดีกับคลื่นลมจากการลงมือ ก็ได้พัดพาหมอกโลหิตดังกล่าวไปสาดกระทบกลุ่มคนพันธมิตรเมฆามสารทและพันธมิตรขุนเขาอีกรอบ…

 

“ผู้นํา!!”

 

สีหน้าฉีคนเปลี่ยนไปใหญ่หลวง ฉายชัดถึงความสิ้นหวังจับใจนัก

 

หากเป็นเมื่อก่อน ความตายของผู้นําพันธมิตรขุนเขาคงทําให้มันดีใจปานลิงโลด เพราะนั่นหมายความว่าต่อไปมันจะกลายเป็นผู้นําคนใหม่ของพันธมิตรขุนเขานั้นเอง…แต่ตอนนี้มันจะมีก็แต่ความสิ้นหวัง หาความสุขไม่เจอ!

 

เพราะการตายของหยวน ก็ไม่ต่างอะไรกับเบื้องหน้าของมันคือความตายดุจเดียวกัน

 

“หนี!”

 

ฉีกุนรองผู้นําพันธมิตรขุนเขา กับเกี่ยหมิงรองผู้นําพันธมิตรเมฆยามสารท เร่งกลอกตาเหลือบมองกัน จากนั้นต่างคนก็ส่งเสียงผ่านพลังออกมาอยย่างพร้อมเพรียง กระทั่งปะทุพลังชั่วชีวิตแยกย้ายกันออกไปคนละทางอย่างรู้ใจ

 

“รองผู้นํา!?”

 

สําหรับคนที่เหลือของพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขา พอเห็นที่พึ่งสุดท้ายอย่างรองผู้นําเป็ดตูดหนี้ไปก่อนใครแบบนี้ ก็ได้แต่ร้องออกมาเสียงหลง สีหน้ายังเปลี่ยนไปใหญ่หลวง ด้วยไม่คิดเลยว่าพวกมันจะโดนทิ้งเอาดื้อๆ ร่างพวกมันยังเริ่มสั่นไหวขึ้นมาเพราะเร่งเร้าพลัง เห็นชัดว่าหมายหลบหนีไปตายเอาดาบหน้าเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม

 

พร้อมกับเสียงเบาๆเสนาะหูดัง “พับ” 2 ครั้ง พวกมันก็เห็นว่ารองผู้นําที่แยกย้ายกันหลบหนีไปนั้น ศีรษะของทั้งคู่ได้ถูกตัดขาดเหมือนปลิดแตงโดยชายเสื้อคลุมดําที่ไม่ต่างอะไรจากเคียวมรณะ ไปปรภพตามรอยผู้นําไปติดๆ

 

ไม่ทันรู้ตัว เทพสงคราม 8 ดาราทั้ง 4 คนจากพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาก็ตกตายหมดสิ้น

 

แต่ต้นจนจบ ยังพึ่งผ่านไป 10 ลมหายใจเท่านั้น

 

ตั้งแต่ที่ต้วนหลิงเทียนปรากฏตัวจนถึงบัดนี้ นับเวลาได้ 10 ลมหายใจเท่านั้น แต่ก็ฆ่าเทพสงคราม 8 ดาราไปแล้ว 4 คน.

 

บัดนี้ พอทุกคนที่อยู่ในค่ายยพันธมิตรอุดรลี้ลับมองร่างในชุดคลุมลมดําสวมหมวกฟางกลางหาวอีกครั้ง แววตาก็ฉายชัดถึงความหวาดกลัว.กระทั่งผู้นําพันธมิตรอุดรลี้ลับอย่างหลัวอี้หมิงเองก็ไม่เว้น

 

“ที่เหลือเจ้าสมควรจัดการเองได้กระมัง?”

 

ต้วนหลิงเทียนที่บัดนี้ชายเสื้อคลุมดําได้พลิ้วแผ่วเบาๆแม้ไร้ลม ค่อยๆหันกลับมามองถามไปทางหลัวอี้หมิงผู้นําพันธมิตรอุดรลี้ลับเสียงเบา

 

“อาศัยปลาซิวปลาสร้อยที่เหลือ ไหนเลยต้องถึงมือผู้คุมกฏอาวุโส ข้าน้อยย่อมจัดการเองได้”

 

หลัวอี้หมิงพยักหน้าตอบคําเร็วไว “ครั้งนี้ ข้าในนามพันธมิตรอุดรลี้ลับ ต้องขอขอบคุณผู้อาวุโสคุมกฏยิ่งที่ออกหน้าช่วยเหลือพันธมิตรอุดรลี้ลับของพวกเรา”

 

“อ่า”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า จากนั้นร่างก็อันตรธานหายไปในความว่างเปล่าต่อหน้าต่อตาทุกคน

 

มาเร็วไปไวดีแท้

 

ด้านคนของพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาที่เหลือ เมื่อครู่พอเห็นรองผู้นําถูกเข่นฆ่าในพริบตา พวกมันก็ขาตายไม่กล้าขยับ…ตอนนี้พอเห็นว่าชายในชุดคลุมดําหมวกฟางที่ไม่ต่างอะไรจากเทพแห่งความตายหายตัวไปแล้ว ค่อยรวบรวมความกล้าปะทุพลังแยกย้ายกันหลบหนีอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม ปราศจากเทพสงคราม 8 ดาราที่นําพวกมันมา พวกมันที่ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มโจรแตกพ่าย คิดจะไปก็ไปกันได้ง่ายๆหรือ?

 

นอกจากนั้น เหล่าคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับที่สึกเหิมกันมาสักพักแล้ว ด้วยได้รับขวัญกําลังใจอันสูงสุดจากผู้คุมกฏอาวุโส ก็ประหนึ่งเจ้าบ่าวเห็นเจ้าสาวในผ้าน้อยชิ้นนอนทอดกายเย้ายวนบนเตียง ยังจะระงับความพุ่งพล่านได้อย่างไรไหว! แต่ละคนแข่งกันพุ่งกระโจนเข่นฆ่าเข้าใส่คนของ 2 พันธมิตรที่แยกย้ายกันหลบหนีด้วยสภาวะเหี้ยมหาญปานพยัคฆ์ลงภู!

 

“สินสงครามที่พวกเราได้มาทั้งหมดวันนี้ ข้าตั้งใจจะมอบให้ผู้คุมกฏอาวุโสผู้ใดมีความเห็นเป็นอื่นบ้าง?”

 

หลังผ่านไปสักพักเมื่อเข่นฆ่าจบวิกฤตครั้งนี้ได้แล้ว หลัวอี้หมิงผู้นําพันธมิตรอุดรลี้ลับที่ลอยร่างกลางหาว ก็หันไปกวาดตามองรอบๆพลางถามเสียงขรึม

 

ถึงแม้มันจะรู้สึกว่าผู้คุมกฏอาวุโสไม่น่าจะต้องการของพวกนี้

 

อย่างไรก็ตาม มีบางเรื่องที่ถึงท่านจะรู้ว่าอีกฝ่ายดูแคลนไม่สนใจ ท่านก็ไม่อาจไม่กระทํา

 

ยังคงต้องนําไปมอบส่งให้ผู้อื่นเขาก่อน แม้รู้ว่าจะถูกปฏิเสธก็ตาม!

 

เพราะถ้าไม่เอาไปส่งมอบให้ มันก็ถือเป็นอีกเรื่องทันที

 

ยังเป็น 2 เรื่องที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง!

 

“ข้าไม่คัดค้าน”

 

หลัวเฟิงเป็นผู้นําในการส่ายหัวตอบ

 

“ พวกเราก็ไม่!”

 

“ท่านผู้นํา วันนี้หากไม่มีผู้คุมกฏอาวุโส ชะตากรรมของพวกเราในวันนี้ก็มีแต่นอนตัวเย็นใต้ธารน้ําแข็งอันมืดมิดสินสงครามที่พวกเราได้มา สมควรนําไปมอบให้ท่านผู้คุมกฏอาวุโสดีแล้ว”

 

คําพูดของหลัวอี้หมิง ไม่มีใครในพันธมิตรอุดรลับมีความเห็นเป็นอื่น และทั้งหมดยังรู้สึกว่ามันสมควรเป็นแบบนี้อยู่แล้ว

 

และในเวลาเดียวกันคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับก็ยังเปี่ยมล้นไปด้วยความฮึกเหิมคึกคักนัก เพราะเหล่าคนของพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาที่บุกมาวันนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นกระดูกสันหลังของกองกําลังทั้งสอง!

 

– สําหรับสมาชิกที่เหลือของพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขา ต่อให้พวกมันไม่บุกไปเข่นฆ่า น่ากลัวว่าทันทีที่ได้รับทราบข่าวจากที่นี่ ก็คงต้องเร่งรุดหลบหนีกันดั่งผึ้งแตกรัง!

 

เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า…จากนี้ต่อไปในเขต 2 ของภาคเหนือ พันธมิตรอุดรลี้ลับของพวกมันจะเป็นจ้าวผู้ครอบครองเพียงหนึ่งเดียว!

 

“ข้าไม่คิดเลยว่าในพันธมิตรอุดรลี้ลับเราจะมีตัวตนเยี่ยงผู้คุมกฏอาวุโสอยู่…พินิจจากพลังฝีมือของผู้คุมกฏอาวุโสแล้ว เผยให้รู้ว่าท่านสมควรเป็นเทพสงคราม 8 ชนชั้นยอดฝีมือแน่นอน!”

 

สมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับบางคนได้แต่กล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ

 

“เทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือ? ข้าว่ามิน่าจะใช่แค่เทพสงคราม 8 ชนชั้นยอดฝีมือธรรมดาๆหรอก…เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็คงยากจะพลิกสถานการณ์ดั่งใช้หนึ่งมือบังฟ้าเช่นนี้ได้ สุดท้ายแล้วจะผู้นําพันธมิตรเมฆยามสารทหรือพันธมิตรขุนเขา ก็ใกล้เคียงกับพวกเทพสงคราม 8 ดาราชนชั้นยอดฝีมือ!”

 

“มิผิด ข้าว่าต่อให้เป็นในบรรดายอดฝีมือเทพสงคราม 8 ดารา ผู้คุมกฏอาวุโสเราก็ร้ายกาจเป็นอันดับต้นๆแน่นอน…เผลอๆอาจจะเทียบได้กับหมู่หลงผู้นําคนที่ 2 ของพันธมิตรฟานเทียนที่ตกตายไป หรือไม่ก็รองผู้นําพันธมิตรสวรรค์อย่างต้วนหลิงเทียน อัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่กําลังโด่งดังผู้นั้น”

 

“ข้าก็รู้สึกเช่นนั้น”

 

ต้วนหลิงเทียนไม่ทราบเลยว่าการลงมืออันน่าเกรงขามของเขาวันนี้ จะทําให้ท่าทีของพันธมิตรอุดรลี้ลับที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ

 

วันนี้เขาได้ถูกปลุกขึ้นมาจากภวังค์บ่มเพาะ

 

เป็นหลัวอี้หมิงผู้นําพันธมิตรอุดรลี้ลับที่ส่งข้อความมาขอความช่วยเหลือจากเขา หมายให้เขาออกไปลงมือคลี่คลายวิกฤตหายนะ

 

ท้ายที่สุดแล้ว หากเขาไม่ออกหน้าลงมือ พันธมิตรอุดรลี้ลับไม่พ้นโดนทําลายสิ้น จากนั้นเขาก็จะถูกทิ้งให้เหลืออยู่เพียงลําพัง…ต้องลําบากลําบนไปหากองกําลังอื่นเพื่อเข้าร่วมอีก

 

นี่เป็นอะไรที่เขาไม่อยากเจอ

 

แน่นอนว่าต่อให้เขาไม่ได้คํานึงถึงเรื่องดังกล่าว แต่เขาก็เคยรับปากหลัวอี้หมิงเอาไว้แล้วในกาลก่อน เช่นนั้นเขาก็ไม่อาจไม่ออกหน้า

 

เขาก็เลยออกหน้าลงมือ

 

หลังลงมือเสร็จก็กลับมาบ่มเพาะพลังต่อ

 

และในปัจจุบัน ด้วยความที่พลังเซียนอมตะต้นกําเนิดของเขา ได้แตะธรณีประตูของการเปลี่ยนเป็นพลังเทพแล้ว ทําให้เขารู้สึกว่าอีกไม่นานพลังเซียนอมตะต้นกําเนิดของเขาต้องเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นพลังเทพได้แน่!

 

ถึงตอนนั้นเขาก็จะกลายเป็นเทพสงคราม 9 ดาราทันที สามารถท่องไปทั่วสมรภูมิ 9 ยมโลกได้ตามอําเภอใจ

 

ตราบใดที่จี้หยิ่ง ผู้นําของพันธมิตรฟานเทียนกับมือดีของวิหารเฟิงฮ่าวมา เขาก็ไม่ต้องกลัว!

 

“ปกติพลังวิญญาณฟ้าดินจากซากปรักหักพังของระนาบเทพ ก็เป็นอะไรที่เหล่าเทพใช้ฝึกฝนบ่มเพาะด้วยการดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินที่มีคุณภาพสูงล้ําแบบนี้แต่แรก ความเร็วในการเปลี่ยนเป็นพลังเทพก็นับว่าสูงนัก ไม่ทันไรพลังเซียนอมตะต้นกําเนิดของข้าก็เริ่มสอสัญญาณว่าจะเปลี่ยนแปลงแล้ว

 

“ช่างน่าทึ่งจริงๆ

เมื่อเห็นอรุณรุ่งแห่งการเปลี่ยนแปลงของพลังเซียนอมตะต้นกําเนิด ต้วนหลิงเทียนก็ตัดสินใจตีเหล็กตอนร้อน เร่งโคจรดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดิน และควบรวมขัดเกลาพลังเซียนอมตะต้นกําเนิดในร่างให้เริ่มกลายเป็นพลังเทพทันที

 

และนี่เป็นขั้นตอนสําคัญอย่างยิ่งก่อนบรรลุถึงขอบเขตเทพ

 

เมื่อขั้นตอนนี้แล้วเสร็จ เขาก็จะกลายเป็นตัวตน ครึ่งก้าวเทพ!

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+