ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 150.2

Now you are reading ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 Chapter 150.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
อยากตายรึ ข้าจะสงเคราะห์ให้เอง

 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวมองดูทิศทางคร่าวๆ ก้าวเท้ามุ่งหน้าเดินไปบ้านจางจู้อย่างสบายอารมณ์

 

 

สะใภ้จางจู้และสะใภ้จางเกินเดิมคิดจะพาเด็กๆ ไปรับเหมาพื้นที่สักแปลงด้วยกัน แม่จางจู้ไม่เห็นด้วย บอกให้รอเมิ่งเชี่ยนโยวมาแล้วค่อยถามว่ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่ก่อน ถ้าไม่มี พวกนางค่อยไปลงทะเบียนก็ยังไม่สาย

 

 

สะใภ้จางจู้และสะใภ้จางเกินพยักหน้าตกลง อยู่เตรียมอาหารเที่ยงพร้อมกับแม่สามีของตัวเอง จางเฉาและจางวั่งบุตรชายสองคนของจางจู้และลูกๆ ของสะใภ้จางเกินล้อมรถม้าอย่างดีใจ วิงวอนขอเมิ่งเสียนให้ตัวเองขึ้นไปบังคับบ้าง

 

 

เมิ่งเสียนพยักหน้า สาธิตวิธีการบังคับรถม้าให้เขาหนึ่งรอบ ก็มอบบังเ**ยนกับมือจางเชา

 

 

จางเชาโตจนป่านนี้ แม้แต่รถเทียมเกวียนยังไม่เคยบังคับ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรถม้า ทั้งตื่นเต้นและดีใจ มือคว้าบังเ**ยนไว้แน่น ม้าไม่สบายตัว ส่งเสียงฟึดฟัด เด็กๆ ตกใจสะดุ้งโหยง

 

 

เมิ่งเสียนให้เขาคลายบังเ**ยนในมือ บอกเคล็ดลับการบังคับรถม้า จางเชาบังคับรถม้าเดินไปข้างหน้าสองสามก้าวอย่างระวัง เห็นม้าไม่ขัดขืน ก็ให้ดีใจ ร้องบอกกับทุกคน “พวกเจ้าดูเร็ว ข้าบังคับรถม้าได้แล้ว”

 

 

เมิ่งเสียนหลุดขำ พูดว่า “พี่ใหญ่ ท่านต้องนั่งบนคานรถ ให้ม้าวิ่งถึงจะถูกต้อง”

 

 

บุตรชายคนโตของจางจู้ขยี้หัว พูดว่า “ข้าไม่กล้า”

 

 

“มีอะไรต้องไม่กล้ากัน ข้าสอนให้” พูดจบส่งสัญญาณให้เขาขึ้นไปนั่งบนคานรถ จับบังเ**ยนให้ดี ตนเองไปนั่งบนคานรถอีกด้าน บอกเขาว่าต้องบังคับรถม้าอย่างไร

 

 

จางเชาลองสะบัดบังเ**ยนเบาๆ ม้าค่อยๆ เดินไปข้างหน้า จางเชาตื่นเต้นยินดี สะบัดบังเ**ยนอีกครั้ง ม้าควบเหยาะๆ จางเชายิ่งตื่นเต้น หันไปพูดกับคนที่อยู่ด้านหลัง “พวกเจ้าดูเร็ว ข้าบังคับรถม้าเป็นแล้วจริงๆ” โดยทำให้บังเ**ยนในมือตึงเกินไป ม้าเจ็บ ร้องครวญเสียงลั่น วิ่งควบทะยานออกไป

 

 

จางเชาตกใจ ยิ่งดึงบังเ**ยนในมือแน่นขึ้น หมายจะให้ม้าหยุดวิ่ง ไม่คิดว่าม้าจะวิ่งเร็วกว่าเดิม ตกใจร้องลั่น “เมิ่งเสียน รถม้าตกใจแล้ว”

 

 

เมิ่งเสียนรีบพูด “ท่านพี่ รีบคลายบังเ**ยนในมือท่าน”

 

 

จางเชาได้ยิน ปล่อยบังเ**ยนออกทั้งหมด

 

 

เมิ่งเสียนมือไวตาไวคว้าบังเ**ยนที่เกือบจะไหลลงพื้นไปหมด กระตุกเบาๆ ม้าค่อยๆ ลดความเร็วลง

 

 

เมิ่งเสียนกำลังจะถอนใจโล่งอก ด้านข้างกลับมีคนเดินพุ่งออกมา ขวางหน้ารถม้า

 

 

เมิ่งเสียนตกใจ รีบดึงบังเ**ยน หมายจะให้ม้าหยุดวิ่ง แต่เหมือนม้าก็ตกใจเช่นกัน ร้องฟึดฟัดวิ่งเร็วกว่าเดิม เมิ่งเสียนรีบยืนบนคานรถ ดึงบังเ**ยนสุดแรง ม้าเลี้ยวหลบไปอีกด้าน วิ่งผ่านคนผู้นั้นไปอย่างเฉียดฉิว

 

 

คนผู้นั้นตกใจร้องโอดโอย ล้มนั่งไปกับพื้น

 

 

หญิงสาวคนหนึ่งวิ่งออกมาจากบ้าน เห็นบุตรสาวตกใจล้มนั่งไปกับพื้น ตะเบ็งเสียงร้องลั่น “ช่วยด้วย รถม้าชนคนแล้ว”

 

 

เที่ยงแล้ว หญิงสาวที่ไปทำงานบนเขาต่างทยอยกันกลับมากินข้าวเที่ยง ได้ยินเสียงร้องแหลมของนาง ต่างทยอยกันมาดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

 

 

เมิ่งเสียนและจางเชาก็ได้ยินเสียงร้องตะโกน จางเชาหน้าเสียซีดขาวฉับพลัน เมิ่งเสียนก็ใจหายวาบ ค่อยๆ บังคับม้าให้หยุด ทั้งสองสบตากัน จางเชาถามด้วยเสียงสั่นเครือ “พวกเราคงไม่ได้ชนใครตายดอกนะ?”

 

 

เมิ่งเสียนส่ายหน้า “เปล่า ข้าเห็นรถม้าเบี่ยงข้ามตัวนางไป น่าจะแค่สัมผัสถูกนิดหน่อย”

 

 

จางเชาถามด้วยเสียงปนสะอื้น “เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?”

 

 

เมิ่งเสียนหยุดรถม้าพูด “เจ้าดูรถม้าให้ดี ข้าจะเข้าไปดู”

 

 

จางเชาตกใจลนลานโบกมือ “ข้าไม่กล้า”

 

 

เมิ่งเสียนเห็นเขาร้อนรนจนเกือบจะร้องไห้ออกมา ไม่มีทางเลือก จำต้องจูงรถม้าค่อยๆ เดินกลับมา

 

 

บริเวณที่มีคนล้มเริ่มมีคนมุงไม่น้อยแล้ว ชี้มือชี้ไม้พูดซุบซิบนินทาคนที่ล้มนอนไปกับพื้น เห็นเมิ่งเสียนจูงรถม้ากลับมา ก็หลีกทางให้

 

 

เมิ่งเสียนเดินมาใกล้ ถึงเห็นว่าคนที่ล้มไปกับพื้นก็คือเฉาเอ๋อร์บุตรสาวของชิงเอ๋อร์

 

 

ชิงเอ๋อร์พอเห็นว่าคนที่จูงรถม้าคือเมิ่งเสียน นัยน์ตากลิ้งกลอก ล้มฟุบไปกับร่างเฉาเอ๋อร์ ร้องคร่ำครวญ “เฉาเอ๋อร์เอ๊ย ลูกสาวที่อาภัพของแม่ หากเจ้าเป็นอะไรไป แม่จะมีชีวิตอยู่อย่างไร”

 

 

เฉาเอ๋อร์เพียงแค่ตกใจ ถึงล้มไปกับพื้น ได้ยินชิงเอ๋อร์ร้องไห้คร่ำครวญ เอ่ยปากพูด “ท่านแม่ ข้าไม่”

 

 

ชิงเอ๋อร์ใช้มือแอบหยิกตัวนาง ใช้เสียงร้องโหยไห้ของตนเองกลบเสียงนาง “ลูกแม่ แม่รู้ว่าเจ้าจะพูดอะไร เจ้าวางใจ แม่จะต้องทวงคืนความยุติธรรมให้เจ้า”

 

 

เฉาเอ๋อร์ถูกหยิก เจ็บจนอยากจะอ้าปากร้อง กลับเห็นชิงเอ๋อร์ร้องไปส่งสายตาให้นางไม่หยุดไป ถึงได้เข้าใจ แสร้งพูดเสียงเล็กเสียงน้อยอย่างอ่อนแรง “ท่านแม่ ข้าเจ็บไปหมดทั้งตัว ข้าจะตายแล้วใช่หรือไม่?”

 

 

ชิงเอ๋อร์ยิ่งแผดเสียงร้องดังกว่าเดิม

 

 

หญิงสาวที่มามุงดูมองสองแม่ลูกอย่างเห็นใจ

 

 

สามีชิงเอ๋อร์ได้ยินเสียงร้องไห้ด้านนอก ออกมาจากในบ้าน เห็นบุตรสาวตนเองนอนอยู่บนพื้น สะดุ้งตกใจ รีบวิ่งเข้ามาถามไถ่ “เฉาเอ๋อร์เป็นอะไรไป?”

 

 

ชิงเอ๋อร์แผดเสียงร่ำไห้พูด “พ่อเอ๊ย เฉาเอ๋อร์ที่แสนอาภัพของเราถูกรถม้าชน”

 

 

สามีชิงเอ๋อร์ด้านหนึ่งถาม “ชนตรงไหน ร้ายแรงหรือไม่?” ด้านหนึ่งคิดจะประคองเฉาเอ๋อร์ ตรวจดูบาดแผลบนตัวนาง

 

 

ชิงเอ๋อร์ก็ร้องไห้แอบหยิบเขาทีหนึ่ง

 

 

มือที่ประคองเฉาเอ๋อร์ของชายหนุ่มหยุดชะงัก เงยหน้ามองดู ถึงเห็นเมิ่งเสียนจูงรถม้ายืนอยู่เบื้องหน้า นัยน์ตากลิ้งกลอก เปล่งเสียงดังพูดใส่เขา “ยืนบื้ออะไรอยู่? ยังไม่รีบประคองเฉาเอ๋อร์ขึ้นรถม้า ไปให้หมอดูอาการ”

 

 

เมิ่งเสียนไม่ขยับ

 

 

จางเชาร้อนรนคิดจะเข้าไปประคองเฉาเอ๋อร์ ชิงเอ๋อร์ขวางเขา “ไม่ใช่เจ้าที่ชนเฉาเอ๋อร์ มีสิทธิ์อะไรมาประคองนาง ใครชนคนนั้นก็มาประคอง”

 

 

จางเชาหันกลับไปมองเมิ่งเสียน

 

 

เมิ่งเสียนเม้มริมฝีปาก ยังคงไม่ขยับ

 

 

ชิงเอ๋อร์แผดเสียงร้องโหยหวนหนักขึ้น “ทุกคนมาดูเถิด ยังมีคุณธรรมบ้างไหม ชนเฉาเอ๋อร์ของพวกเราแล้ว แม้แต่จะช่วยประคองนางขึ้นมาก็ยังไม่ยินดี”

 

 

จางเชาเห็นคนมุงดูมากขึ้นเรื่อยๆ ร้อนรนพูด “น้องชาย เจ้ารีบเข้ามาประคองนางเถอะ พวกเราพาเขาไปหาหมอ ถ้าชักช้า เกิดเรื่องขึ้นจะเดือนร้อน”

 

 

เมิ่งเสียนเม้มริมฝีปาก ลังเลว่าจะเข้าไปดีหรือไม่ ครู่หนึ่งถึงพูดขึ้น “พวกเจ้าประคองนางไปที่รถม้าของข้าเถอะ”

 

 

ชิงเอ๋อร์และสามีไม่ยินยอม เปล่งเสียงร้องพูด “เจ้าเป็นคนชนก็ควรเป็นเจ้ามาประคอง ทำไมต้องให้พวกเราประคองเอง?”

 

 

เมิ่งเสียนเห็นพวกเขาเอาแต่บอกปัด หลุบหรี่ดวงตา พูดขึ้นอีกครั้ง “รถม้าข้าตกใจง่าย หากข้าเข้าไปประคองนาง รถม้าข้าไปชนคนอื่นอีกจะไม่ดี พวกท่านประคองนางขึ้นมาก่อนเถอะ”

 

 

คนโดยรอบได้ยินเขาพูดเช่นนี้ เกลี้ยกล่อมชิงเอ๋อร์ด้วยเจตนาดี “ชิงเอ๋อร์ เจ้ารีบประคองเฉาเอ๋อร์ไปหาหมอก่อนเถอะ เวลาล่วงมานานแล้ว หากพวกเจ้ายังไม่ไป ถ้าเฉาเอ๋อร์เป็นอะไรขึ้นมา พวกเจ้าเสียใจก็ไม่ทันการแล้ว”

 

 

ชิงเอ๋อร์รู้ว่าเฉาเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร ที่ยืนหยัดจะให้เมิ่งเสียนมาประคองให้ได้ เพราะอยากใช้การสัมผัสเนื้อต้องตัวของเมิ่งเสียนและเฉาเอ๋อร์มาเป็นข้ออ้างติดพันเขา ไม่คิดว่าเมิ่งเสียนจะไม่ติดกับ ส่วนชาวบ้านก็เอาแต่พูดเตือนด้วยความหวังดีไม่หยุด ชิงเอ๋อร์กลัวว่านานเข้า เฉาเอ๋อร์จะทำแผนแตก รีบหันไปพูดข่มขู่เมิ่งเสียน “เจ้าไม่เข้ามาประคองนาง พวกเราจะให้นางตายอยู่ตรงนี้ ให้ชีวิตนี้เจ้าไม่มีวันได้อยู่สุข”

 

 

จางวั่งบุตรชายคนเล็กของจางจู้เห็นรถม้าวิ่งเตลิด รีบร้องตะโกนจากนอกลานบ้าน “ท่านแม่ ท่านรีบออกมาดู รถม้าของพี่ใหญ่วิ่งเตลิดไปแล้ว”

 

 

สะใภ้จางจู้และสะใภ้จางเกินได้ยินเสียงร้องตะโกนของเขารีบวิ่งออกมา ถามเขาว่าเกิดเรื่องอะไร จางวั่งรีบบอกเรื่องที่พวกเขาอยากเรียนบังคับรถม้า สุดท้ายจางเชากลับทำให้รถม้าตกใจวิ่งเตลิดไป

 

 

สะใภ้จางจู้และสะใภ้จางเกินได้ยินว่ารถม้าวิ่งเตลิด ก็ตกใจมาก ยกเท้าวิ่งไปทางที่รถม้าวิ่งไป

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวกำลังเดินเอ้อระเหยเข้ามา เห็นทั้งสองคนวิ่งกระหืดกระหอบ ร้องถามอย่างประหลาดใจ “ป้าใหญ่ ป้ารอง พวกท่านจะรีบร้อนวิ่งไปไหน?”

 

 

ทั้งสองเห็นว่าเป็นนาง ลุกลนตอบกลับ “เชาเอ๋อร์และเสียนเอ๋อร์บังคับรถม้าวิ่งเตลิด ไม่รู้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือไม่ พวกเราจะรีบไปดู”

 

 

พอได้ยินว่ารถม้าเตลิด เมิ่งเชี่ยนโยวก็สะดุ้งตกใจ รีบตามพวกเขาไป

 

 

เห็นฝูงคนมุงข้างถนนลิบๆ เมิ่งเสียนจูงรถม้ายืนด้านข้าง สะใภ้จางจู้พูดขึ้น “แย่แล้ว ชนคนเข้าแล้วจริงๆ”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวรีบเดินไม่กี่ก้าวมาถึงด้านนอกของกลุ่มคนที่รุมล้อม ยังไม่ทันได้เข้าไป ก็ได้ยินเสียงข่มขู่ของชิงเอ๋อร์ หยุดชะงักฝีเท้า มุ่นหัวคิ้ว

 

 

สะใภ้จางจู้และสะใภ้จางเกินก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา กำลังจะซักถามอย่างร้อนใจ เมิ่งเชี่ยนโยวโบกมือให้พวกเขา ทั้งสองมองนางอย่างข้องใจ ไม่พูดอะไร

 

 

ชิงเอ๋อร์พูดข่มขู่จบ เมิ่งเสียนก็ยังไม่เคลื่อนไหว

 

 

จางเชาร้อนใจจนเกือบจะร้องไห้ออกมา ใช้น้ำเสียงเจือสะอื้นพูดกับเมิ่งเสียน “น้องชาย เจ้ารีบเข้ามาประคองนางเถอะ”

 

 

เมิ่งเสียนพูด “ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิด ข้าไม่มีทางประคองนาง”

 

 

ชิงเอ๋อร์เห็นเขาไม่ติดกับ ดวงตากลิ้งกลอก พูดข่มขู่อีกครั้ง “หากวันนี้เจ้าไม่ประคองบุตรสาวพวกเราไปหาหมอ เจ้าก็อย่าหวังจะได้ไป”

 

 

เมิ่งเสียนยังคงไม่พูดอะไร เสียงของเมิ่งเชี่ยนโยวก็ดังขึ้นจากด้านนอกกลุ่มคน “งั้นหรือ?”

 

 

คนทั้งหมดหันกลับหลัง เห็นเมิ่งเชี่ยนโยวสะใภ้จางจู้และสะใภ้จางเกินยืนอยู่ด้านนอกกลุ่มคน รีบแยกตัวออก ให้พวกนางเข้ามา

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเดินเข้ามาอย่างไม่รีบไม่ร้อน

 

 

ชิงเอ๋อร์เห็นเมิ่งเชี่ยนโยวเข้ามา ตัวหดห่ออย่างไม่รู้ตัว

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเดินมาตรงหน้านาง มองนางเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม

 

 

ชิงเอ๋อร์หลบสายตาอย่างร้อนตัว

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพินิจมองเฉาเอ๋อร์ครู่หนึ่ง เฉาเอ๋อร์ก็หวาดกลัว กระเถิบเข้าหาชิงเอ๋อร์

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวหรี่หลุบดวงตา ถามเสียงอ่อนโยน “ไม่ทราบว่ารถม้าของพวกเราชนตรงไหนของเจ้าเข้า หากว่าร้ายแรงพวกเราจะพาเจ้าไปหาหมอ”

 

 

เฉาเอ๋อร์อึกๆ อักๆ พูดไม่ออก

 

 

ชิงเอ๋อร์พูดอย่างไม่กลัวตาย “ตอนนี้เฉาเอ๋อร์ขยับตัวไม่ได้แล้ว จักต้องชนไม่เบา”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวถามอย่างมีความหมายแฝง “งั้นหรือ?”

 

 

ชิงเอ๋อร์ตอบอย่างหนักแน่น “แน่นอน”

 

 

สิ้นเสียงนาง เมิ่งเชี่ยนโยวก็ยกเท้า เตะเฉาเอ๋อร์เต็มแรง เฉาเอ๋อร์ร้องครวญคราง เจ็บจนกลิ้งไปมาหลายครั้ง

 

 

กลุ่มคนที่มุงดูร้องอุทาน

 

 

ชิงเอ๋อร์ไม่คิดว่านางจะเตะเฉาเอ๋อร์เต็มแรงต่อหน้าคนมุงดูมากมายเช่นนี้ ตะลึงงันแล้วคลานไปร้องครวญข้างเฉาเอ๋อร์ “เฉาเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นอะไรนะ?”

 

 

ครั้งนี้เฉาเอ๋อร์เจ็บจนพูดไม่ออกจริงๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด