ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 106 สารภาพรักอย่างกะทันหัน

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 106 สารภาพรักอย่างกะทันหัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

"ใคร" เสียงตะโกนอย่างดุดันดังขึ้น มันเสียงของจิ้งอ๋องนี่เอง

"ข้าเองเจ้าค่ะ" หยุนชางตอบอย่างรวดเร็ว กลัวว่าจิ้งอ๋องจะคิดว่าตนเป็นคนของแย้หลาง

จิ้งอ๋องตกตะลึงแล้วหันหน้ามา ในค่ำคืนที่มืดมิดนี้เขามองเห็นเงาร่างที่เลือนราง แต่ด้วยดวงตาที่เป็นประกายอย่างน่าอัศจรรย์นั้น จิ้งอ๋องก็จำนางได้ เขาก้าวเข้าไปและกล่าวว่า " เจ้ามาได้อย่างไร?"

หยุนชางเห็นว่าจิ้งอ๋องยืนอยู่ตรงหน้าตนอย่างปลอดภัยก็โล่งอกทันที และกล่าวอย่างรวดเร็วว่า "คนของเจ้าเหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว เจ้าพาพวกเขาถอยหลังไปก่อน เผื่อโดนลูกหลง"

หลังจากได้ยินเช่นนี้ จิ้งอ๋องมองไปที่ผู้คนที่ยืนอยู่หลังหยุนชาง พยักหน้าและผิวปาก ให้ทุกคนถอยกลับมา หยุนชางโบกมือแล้วนำคนของตนพุ่งเข้าไปยังเงาร่างมืดๆที่อยู่ข้างหน้า

แม้ว่าคนของหยุนชางจะไม่ใช่แม่ทัพหรือทหารที่ยอดเยี่ยม แต่พวกนางเป็นมือสังหารที่เยี่ยมยอดอย่างแน่นอน พวกเขารู้วิธีการต่อสู้ที่เป็นอันตรายถึงตายเป็นอย่างดี คนของแย้หลางมีห้าหกสิบคน พวกเขาถูกหญิงสาวที่ใต้บัญชาของหยุนชางฆ่าจนหมดสิ้นภายในเวลาอันสั้น ท้องฟ้าก็ค่อยๆสว่างขึ้น

"นายหญิง ตอนนี้มีทั้งหมด57คนเจ้าค่ะ จัดการหมดสิ้นแล้วเจ้าค่ะ" เสียงของหนิงเชียนดูเด่นเล็กน้อยเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดนี้

"ผู้หญิงหรือ? ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นผู้หญิง?" เสียงของแม่ทัพนายหนึ่งของจิ้งอ๋องดังมาจากด้านหลัง เสียงนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

หยุนชางมิได้สนใจ นางหันไปพูดกับจิ้งอ๋องว่า " ไปกันเถอะ ข้างหลังนี้เราจัดการเรียบร้อยหมดแล้ว"

คืนนี้ทุกคนคงจะเหนื่อยมาก ไม่ค่อยมีใครพูดอะไรเลย หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ท้องฟ้าก็ค่อยๆ สว่างขึ้น หยุนชางจึงพบว่าแขนของจิ้งอ๋องนั้นมีแผลจากการโดนฟันที่ยาวมาก จนเห็นเนื้อด้านใน และเลือดก็ยังไหลเล็กน้อยอยู่

หยุนชางหยุดเดิน "เจ้าบาดเจ็บหรือ?"

จิ้งอ๋องเหลือบมองที่บาดแผลที่แขนของตน ยิ้มเล็กน้อย " ไม่เป็นไรหรอก แค่บาดเจ็บเล็กน้อย แล้วเจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?" เป็นคำถามที่เขาถามหยุนชางทันทีตอนที่เจอหยุนชาง

หยุนชางขมวดคิ้วและตรวจดูบริเวณรอบๆ แต่ก็ไม่พบยาสมุนไพรที่สามารถหยุดเลือดได้ นางจึงยื่นมือไปฉีกแขนเสื้อของดขาลงมาก แล้วมัดที่ส่วนบนของแผลเพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลไม่หยุด

"บัดซบ นี่ข้าได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มหญิงสาวหรือ" อาจจะเพราะว่าหยุนชางและจิ้งอ๋องเริ่มพูดคุยกันแล้ว บรรยากาศก็เริ่มกระฉับกระเฉงขึ้นเล็กน้อย ชายหนวดเคราที่มองซ้ายมองขวาระแวงไม่หยุด และติดตามจิ้งอ๋องมาตลอดก็พูดขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

เพื่อให้เคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น หนิงเชียนและคนอื่นๆ จึงสวมชุดเดินทางกลางคืนไว้ และปกปิดใบหน้า แต่ก็ดูออกว่าพวกนางเป็นหญิงสาว

หยุนชางยิ้มและกล่าวว่า "รองแม่ทัพคงมิทราบขอรับ ว่าวันนี้มีคนเผากระโจมของท่าน"

ชายหนวดเคราตกใจ "อะไรนะ ไอ้สารเลวที่ไหนเป็นคนทำ?"

หยุนชางไม่ตอบ แต่หันหน้าไปทางจิ้งอ๋อง "ข้าเผลอหลงกลล่อเสือออกจากถ้ำของพวกมัน ขณะที่ข้าไปเช็กดูที่กระโจมรองแม่ทัพ ก็มีคนเข้าไปในกระโจมแม่ทัพ อาจจะเพราะไม่เจอพวกท่าน เขาจึงคิดว่าพวกท่านแอบมาโจมตีค่ายของทหารแย้หลาง ตอนที่ข้าออกมา ข้าเห็นมีคนยิงสัญญาณไฟขึ้นฟ้า ข้าจึงคิดว่านี่อาจจะเป็นการส่งสัญญาณบอกทหารแย้หลาง ข้ากลัวว่าพวกท่านจะตกอยู่ในอันตราย แต่ถ้าหากนำทหารมาช่วยเหลือก็กลัวว่ามีคนพบเห็น แล้วศัตรูของเราจะรับมือไว้ทัน ข้าจึงไปที่เมืองซีอี และพาลูกน้องทั้งหมดของข้ามาช่วยเหลือ โชคดีที่เรามาทันเวลา"

ทันทีที่พูดจบ พวกนางก็ได้ยินเสียงคนกรีดร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ มี "มีศพอยู่ที่นี่"

ผิวน้ำของแม่น้ำข้างหน้าเป็นสีแดงเพราะเลือด มีหัวและร่างกายคนกระจัดกระจายไปทั่ว มีทหารคนหนึ่งนายสั่นสะท้าน "ใครลงมือกัน ถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?"

หยุนชางยังไม่ทันได้พูด ก็ได้ยินหนิงเชียนยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวว่า " แน่นอนว่าเป็นฝีมือพวกข้าน่ะสิ หากว่าเราไม่ฆ่าพวกเขา ตอนที่พวกเจ้ามาถึงที่นี่คงจะถูกพวกเขาโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว"

"แต่ว่า……"

หยุนชางรู้ดีว่าเขาต้องการจะพูดอะไรต่อ นางเอาแต่ยิ้มมุมปาก มิได้ตอบรับอะไร ทุกคนก็เงียบลงอีกครั้ง และเดินตรงไปที่ค่ายแคว้นหนิง หลังจากผ่านไปสามชั่วโมง ก็เห็นค่ายที่อยู่ไกลๆ หยุนชางหันไปหาหนิงเชียนและพูดว่า " พวกเจ้ากลับไปเถิด หาที่จัดการตัวเองให้เรียบร้อย ตอนนี้ฟ้าสว่างแล้ว พวกเจ้าแต่งตัวเช่นนี้เป็นที่สะดุดตาเกินไป"

หนิงเชียนพยักหน้า "ข้าน้อยรับทราบเจ้าค่ะ" ขณะที่พูดนางก็โบกมือให้คนข้างหลัง และพวกเขาก็หายตัวไปต่อหน้าทุกคนอย่างรวดเร็ว

"เซียว…เซียว…คุณชายเซียวขอรับ…..ศิลปะการต่อสู้ของพวกนางช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน…" ผู้คนที่อยู่ข้างหลังจิ้งอ๋องมองไปที่ทิศทางที่เหล่าหนิงเชียนหายตัวไป และนานกว่าจะได้สติกลับคืนมา

ทันทีที่ทุกคนกลับมาถึงค่าย พวกเขาก็ไปที่กระโจมแม่ทัพเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ หลังจากผ่านคืนที่อึกทึกเช่นนี้มา หยุนชางรู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย จึงเดินอ้อมไปด้านหลังฉากกั้นและนอนลงบนเตียงนอน เตรียมที่จะนอนพักผ่อน ทุกคนที่อยู่ข้างนอกสนทนากันอยู่ครู่หนึ่ง จิ้งอ๋องก็สั่งให้ทุกคนแยกย้าย ผู้ติดตามออกจากกระโจมไปจนหมด เขาจึงเงยหน้าขึ้นและมองไปทางฉากกั้น แล้วพึมพำครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้ามา แต่เขาก็หยุดชะงักอย่างกะทันหัน คนที่ตนคิดว่าคงนอนหลับไปแล้ว ตอนนี้กลับนอนอยู่บนเตียงและลืมตาจ้องมองมาที่ตน

"ทำไมยังไม่นอน" จิ้งอ๋องอมยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดเสียงเบาลง

หยุนชางลุกขึ้นนั่ง ขมวดคิ้วและมองไปที่จิ้งอ๋อง "เจ้ายังบาดเจ็บอยู่ เจ้าไม่ตามหมอทหารมารักษาให้เจ้า และยังไม่ยอมไปพักผ่อนอีกหรือ?"

จิ้งอ๋องยิ้มออกมา และรู้สึกอบอุ่นหัวใจ " นี่เจ้าเป็นห่วงข้าหรือ?"

หยุนชางไม่คิดว่าเขาจะถามเช่นนี้ นางตะลึงและขมวดคิ้ว นางไม่ได้ตอบ เพียงแต่เหลือบมองจิ้งอ๋อง แล้วล้มตัวลงนอน หันหลังให้จิ้งอ๋อง "เสด็จลุงออกไปดีกว่าเจ้าค่ะ ข้าต้องการพักผ่อนเจ้าค่ะ"

เสียงหัวเราะเบา ๆ ของจิ้งอ๋องดังมาจากด้านหลัง หยุนชางรู้สึกตะลึงในใจ เหมือนว่าน้อยครั้งที่จะได้ยินเขาหัวเราะนะ ทุกครั้งที่เจอเขา สีหน้าเขาดูเย็นชา แม้ว่าเขาจะยิ้ม แต่อย่างมากที่สุดก็แค่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ด้วยท่าทีที่เหมือนฝืนยิ้ม ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้สีหน้าของเขาเป็นอย่างไรบ้าง สงสัยคงสดใสราวกับดอกไม้ที่เบิกบานกระมั้ง

"ข้าสั่งให้ลั่วติงไปตามหมอทหารมาแล้ว อีกสักพักก็จะทำแผล" หยุนชางได้ยินเสียงที่แหบแห้งของจิ้งอ๋องดังขึ้น จากนั้นเตียงก็ยุบลง หยุนชางผงะและรู้สึกตื่นเต้น ดูเหมือนว่าจิ้งอ๋องกำลังนั่งอยู่ข้างเตียง…………….

หยุนชางแอบคิดในใจ แต่ทันใดนั้นก็ไม่มีเสียงใด ๆ หยุนชางกัดริมฝีปากและกำมือไว้แน่น ขณะที่นางกำลังจะหันกลับไปเพราะอดใจไม่ไหว ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงที่แผ่วเบาของเขาดังขึ้น " วันนี้ ข้าไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าจะมา ทันทีที่ข้าเห็นเจ้าปรากฏตัว มันช่างเหลือเชื่ออย่างมาก ข้าคลุกคลีอยู่ในสนามรบมาตั้งแต่ยังหนุ่ม มีหลายครั้งที่ข้าเอาชีวิตรอดจากมือของยมบาลมาได้ แต่ข้าไม่เคยรู้สึกโชคดีเท่านี้มาก่อน ข้ารู้สึกโชคดีที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ โชคดีที่ฟ้าลิขิตให้ข้าได้พบกับเจ้า ได้พบกับคนที่เป็นห่วงความปลอดภัยของข้า คนจะสู้เคียงข้างข้าเสมอ"

หยุนชางรู้สึกเพียงว่าหัวใจของตนถูกมือหนึ่งข้างยึดไว้อย่างแน่น และนางแทบจะหายใจไม่ออก แต่นางไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไรดี ชาตินี้ของนางมาพร้อมกับความโกรธแค้น นางจึงมีชีวิตอยู่เพื่อแก้แค้นเท่านั้น แม้ว่าตนจะมาถึงที่ค่ายชายแดนนี้ ก็เพียงแค่ต้องการแก้แค้น เพื่อฆ่าหัวจิ้ง และเพื่อแก้แค้นฮองเฮา

นางไม่เคยคิด และไม่กล้าคิดมาก่อนว่าจะรับรักจากใครบางคนอีกครั้ง อาจเป็นเพราะการทรยศของสามีในชาติก่อน นางจึงคิดอยากจะอยู่ห่างจากความรัก แม้ว่านางจะรู้ดีว่าในใจของนางนั้นมีความรู้สึกที่แปลกๆอยู่บ้าง แต่นางก็ทราบดีว่าตนไม่ได้รักจิ้งอ๋องเช่นนั้น อย่างน้อยก็ไม่ได้รักถึงขั้นที่ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อไปอยู่กับเขา

หยุนชางอ้าปากค้างอยู่นาน แล้วจึงขยับมุมปาก บังคับหัวใจของตนเองให้สงบลง "จิ้งอ๋องเป็นเทพแห่งสงครามของแคว้นหนิง จิ้งอ๋องต้องคอยปกป้องประชาชนและอาณาเขตของแคว้นหนิง แม้ว่าหยุนชางจะเป็นเพียงสตรีที่อ่อนแอ แต่ก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องท่านอ๋อง เมื่อท่านอ๋องปลอดภัย ก็ถือเป็นพรของชาวแคว้นหนิงเจ้าค่ะ" แม้ว่าจะพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีควบคุมตัวเองก็ตาม แต่เสียงของหยุนชางยังคงสั่นอยู่เล็กน้อย

ดูเหมือนคนที่อยู่หลังนางจะหยุดชะงักชั่วคราว และผ่านไปนานจึงได้ยินเขาถอนหายใจเบาๆ " ข้าเหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว เจ้าพักผ่อนเถิด" ทันทีที่พูดจบเตียงนอนก็ขยับ หยุนชางรู้ว่าจิ้งอ๋องลุกขึ้นแล้ว

ผ่านไปครู่หนึ่งหยุนชางได้ยินเสียงฝีเท้าของจิ้งอ๋องดังขึ้น เหมือนว่าจะเดินออกไปด้านนอกแล้ว หยุนชางชะงักและขมวดคิ้วเล็กน้อย ทำไมเขาถึงออกไปเช่นนี้ล่ะ ท่านบอกว่าได้เรียกหมอทหารมาแล้วมิใช่หรือ? เขายังไม่ได้ทำแผลเลยมิใช่หรือ แล้วเขาจะเดินไปไหน

นางรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาอาจจะเจ็บช้ำเพราะตน รู้สึกว่าตนนั้นเย็นชาเกินไปก็ได้ หยุนชางก้มหน้าลง กัดฟัน และยับยั้งความรู้สึกอยากร้องไห้ไว้ นางยังไม่ได้แก้แค้นเลย หัวจิ้งอยู่ห่างจากตนไม่ถึงร้อยเมตร และยังมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข หยุนชางหลับตาลง ใบหน้าที่ขาวซีดของลูกตนเองก็วาบผ่านตาไป รอยยิ้มอันเย็นชาของโม่จิ้งหรานวาบผ่านตา เสียงที่เย้ายวนของหัวจิ้งดังขึ้น นางกัดฟันไว้ แล้วจึงค่อยๆสงบหัวใจที่สั่นเทาของตนเองลงได้ และนอนหลับไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด