ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 48 ฉิงเมิ่งวางแผน

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 48 ฉิงเมิ่งวางแผน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

"เจ้าหมายถึง เสด็จแม่จะคิดร้ายกับข้า?" หยุนชางจิบชา มองไปที่ฉิงเมิ่งซึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยสีหน้านิ่งสงบ

ฉิงเมิ่งพยักหน้าและกล่าวว่า "ตอนที่หม่อมฉันอยู่ตำหนักชิงซินนั้น ก็ทำผิดต่อองค์หญิงไม่น้อย ฮองเฮาต้องการ ขอเพียงแค่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับองค์หญิง ก็ต้องรายงาน ตอนที่องค์หญิงยังทรงพระเยาว์อยู่นั้น ฮ่องเต้ทรงรักและทะนุถนอมอย่างมาก ดังนั้นฮองเฮาจึงไม่มีโอกาสที่จะลงมือ ฮองเฮาต้องสอนองค์หญิงให้ทำสิ่งที่ต่อต้านทำให้ฮ่องเต้ห่างเหินองค์หญิงมากขึ้นเรื่อยๆ ฮองเฮาจึงส่งหม่อมฉันมาอยู่ข้างกายองค์หญิง เมื่อหลายปีก่อน ที่องค์หญิงถูกพิษก็เป็นพิษที่หม่อมฉันวางเอง"

หยุนชางครุ่นคิดครู่หนึ่ง "ถ้าเป็นเช่นนั้น ตอนนี้เจ้าได้ไปอยู่ในตำหนักของเสด็จแม่ ถ้าเจ้าไม่พูดข้าก็คงไม่มีวันรู้เรื่องเหล่านี้ไปตลอดกาล แล้วทำไมเจ้าถึงมาเล่าเรื่องนี้ให้ข้าล่ะ?"

ก่อนที่ฉิงเมิ่งจะมา นางรู้ว่าหยุนชางจะต้องถามคำถามนี้ ดังนั้นนางรีบพูดว่า "หลังจากองค์หญิงกลับมา หม่อมฉันทำงานล้มเหลวหลายครั้ง อีกทั้งครั้งนี้ได้ทำขาดหักที่จวนจิ้งอ๋อง แม้ว่าตอนนี้จะทนฝืนเดินได้ แต่ก็กะพร่องกะแพร่ง ทุกครั้งที่ฟ้าครื้มฝนตกก็จะรู้สึกเจ็บปวด ดังนั้นฮองเฮาจึงมองหม่อมฉันว่าเป็นเด็กที่ถูกทอดทิ้งแล้ว และส่งคนใหม่มาให้องค์หญิง รอคนใหม่จะได้ความไว้วางใจจากองค์หญิง หลังจากที่องค์หญิงค่อยๆลืมหม่อมฉันแล้ว หม่อมฉันจะหายไปจากวังตลอดไป"

ฉิงเมิ่งพูดถึงจุดนี้ อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ "แต่หม่อมฉันยังไม่อยากตาย ที่บ้านของหม่อมฉันยังมีพ่อแม่ เมื่อหลายปีก่อนฮองเฮาได้ข่มขู่พ่อแม่ของหม่อมฉันเพียงต้องการให้หม่อมฉันเชื่อฟังนาง หม่อมฉันยังคิดว่าเมื่ออายุ 25ปีได้ออกจากวังแล้วกลับไปดูแลพวกท่านให้ดีที่สุด ขอให้องค์หญิงช่วยหม่อมฉันด้วยเพคะ"

หยุนชางจ้องไปที่ฉินเมิ่งพักใหญ่ ก่อนจะพูดออกมาว่า "ทำไมข้าถึงต้องช่วยเจ้าด้วย เจ้าเคยทำเรื่องไว้ตั้งมากมาย"

ฉิงเมิ่งคำนับซ้ำๆ "หม่อมฉันยินดีเชื่อฟังองค์หญิงตลอดไป หม่อมฉันรู้จักคนของฮองเฮาในตำหนักชิงซินเกือบทุกคน หม่อมฉันสามารถช่วยองค์หญิงกำจัดทีละคน หม่อมฉันจะทำทุกอย่างตามที่องค์หญิงต้องการ จะไม่มีวันละเมิด"

หยุนชางจิบชาและมองความมืดนอกหน้าต่าง "แต่ว่า ข้าจะช่วยเจ้าได้อย่างไร?"

ฉิงเมิ่งว่าหยุนชางดูเหมือนจะยินยอมรับปาก นางมีความสุขมาก พูดอย่างรวดเร็วว่า "ขอเพียงแค่องค์หญิงไปขอหม่อมฉันกลับมาจากฮองเฮาก็พอเพคะ หม่อมฉันจะรับใช้องค์หญิงอย่างดี"

"ขอกลับมา?" หยุนชางส่ายหัว "ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าพูด ฮองเฮาจะไม่มีวันปล่อยเจ้ากลับมาที่ตำหนักชิงซิน เพราะเจ้ารู้มากเกินไป"

ฉิงเมิ่งได้ยิน ก็ตื่นตระหนก "ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันควรทำอย่างไรดีเพคะ องค์หญิง ได้โปรดช่วยหม่อมฉันด้วย"

หยุนชางเม้มมุมปาก "ข้าได้ยินมาว่าเสด็จแม่ต้องการเลือกนางกำนัลที่ดูดีไปรับใช้ฮ่องเต้?"

ฉิงเมิ่งนึกถึงสิ่งที่ได้ยินเมื่อสองสามวันก่อน "หม่อมฉันก็ได้ยินคนในตำหนักชีอู๋พูดถึงเรื่องนี้ ตั้งแต่พิธีปักปิ่นองค์หญิง ฮ่องเต้ไม่ได้ไปที่ตำหนักชีอู๋อีกเลย ฮองเฮาเป็นกังวล ดังนั้นนางจึงคิดที่จะเลือกนางกำนัลที่มีความโดดเด่นมีน้ำใจ เพื่อช่วยนางรักษาฮ่องเต้ไว้ "

หยุนชางยิ้มเล็กน้อย "หากเสด็จพ่อทรงเบื่อหน่ายนาง การกระทำของนางจะยิ่งขัดแย้งได้มากขึ้น ข้าคิดว่า คืนนี้ เสด็จพ่อจะไม่พักที่พระราชวังชีอู๋อย่างแน่นอน ถ้าเจ้าต้องการให้ฮองเฮาไม่สามารถแตะต้องเจ้า ข้าพอมีวิธี"

ฉิงเมิ่งรู้สึกดีใจมากและกล่าวอย่างเร่งรีบ "องค์หญิงได้โปรดชี้แนะด้วยเพคะ"

หยุนชางยิ้ม ลดเสียงลง โน้มตัวลงและกล่าวว่า "อีกสักครู่ เสด็จจะออกมาจากพระราชวังชีอู๋อย่างโกรธเกรี้ยว ไปที่ตำหนักฉินเจิ้ง เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าเพียงแค่รออยู่ข้างทางเท่านั้น…"

ฉิงเมิ่งตั้งใจฟังคำพูดของหยุนชาง คิ้วของนางย่น "องค์หญิง หม่อมฉันไม่อยาก…"

หยุนชางนั่งตัวตรง หยิบถ้วยชาที่วางไว้ข้างๆ และยิ้ม "เจ้าอยากหรือไม่อยากก็เป็นเรื่องของเจ้า เพียงแต่ว่า ถ้าเจ้าพลาดโอกาสนี้ไป เกรงว่า จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว เมื่อกี้เจ้าเพิ่งบอกว่า ในตำหนักชิงซินของข้า ทุกที่มีคนที่ฮองเฮาส่งมาคอยสอดแนมอยู่ หากพวกเขาเอาเรื่องที่เจ้ามาตำหนักชิงซิน แพร่กระจายไปยังตำหนักซีอู๋ เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะไม่สามารถช่วยเจ้าได้จริงๆ ฉิงยีเฝ้าประตูเพื่อกันไม่ให้คนออกไปได้นานแค่ไหน ทำหรือไม่ทำ ขึ้นอยู่กับเจ้า ข้าจะไม่บังคับ"

ฉิงเมิ่งกัดฟัน หลับตาคิดเป็นเวลานาน จากนั้นค่อยๆ คำนับหยุนชางอีกครั้ง "หม่อมฉันขอบพระทัยองค์หญิงสำหรับคำชี้แนะ บุญคุณขององค์หญิง หม่อมฉันจะไม่มีวันลืมเลือน"

หลังจากคำนับหลายครั้ง นางก็ลุกขึ้นยืน และออกจากตำหนักใน ด้านนอกตำหนัก มีร่างที่ยืนอยู่ เป็นเฉี่ยงอิน เมื่อเฉี่ยงอินเห็นฉิงเมิ่งออกมา ก็เดินเข้าไปและพูดว่า "เจ้าชื่อฉิงเมิ่งสินะ ไม่ใช่ควรอยู่ในวังของฮองเฮาหรอกหรือ ทำไมถึงไดมาที่นี่ตำหนักชิงซิน?"

ฉิงเมิ่งกัดฟันและพยายามยิ้มออกมา "หม่อมฉันมาที่นี่เพื่อพบองค์หญิงตามคำสั่งของฮองเฮา"

เฉี่ยงอินได้ยินคำนั้น จ้องไปที่ฉิงเมิ่งด้วยรอยยิ้มจางๆพักใหญ่ จากนั้นนางก็พูดว่า "จริงเหรอ ลำบากฉิงเมิ่งกูกูแล้ว" จากนั้นนางก็เปิดม่านของตำหนักด้านใน และเดินเข้าไป ฉิงเมิ่งมองไปที่ด้านหลังของเฉี่ยงอิน ฉิงเมิ่งก็คิดในใจ และยืนอยู่พักหนึ่ง และจากไปอย่างรีบร้อน

ทันทีที่ฉิงเมิ่งออกไป เฉี่ยงอินก็เข้ามาในตำหนัก "องค์หญิง ความคาดเดาของท่านน่าทึ่งมากเพคะ คนจากสำนักเครื่องหอมกล่าวว่า วันก่อน คนจากวังซีอู๋ของฮองเฮาไปที่สำนักเครื่องหอมแอบทำธูปเหอฮวง ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำธูปเหอฮวงเป็นกลิ่นซูเหอเซียงที่ฮองเฮาทรงโปรดปรานเป็นพิเศษ หรือว่าฮองเฮาจะต้องการ… ใช้ธูปเหอฮวงนี้กับฮ่องเต้"

หยุนชางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะหลังจากได้ยินคำพูดนั้น "ในวังนี้มีเพียงเสด็จพ่อที่เป็นผู้ชาย นอกจากใช้กับเสด็จพ่อแล้วยังสามารถใช้ได้กับใครอีกบ้าง?"

"นั่นเป็นเรื่องจริง ครั้งนี้ฮองเฮาทรงทุ่มทุนมาก ไม่รู้ว่านางกำนัลคนใดที่ถูกฮองเฮาเลือก จริงด้วย องค์หญิง เรื่องที่ท่านให้หม่อมฉันไปทำ เรียบร้อยแล้วเพคะ…"

หยุนชางกล่าว "อืม" "ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับฉิงเมิ่ง"

หยุนชางดื่มชา แล้วยืนขึ้น "หาเสื้อคลุมสีดำให้ข้าที ข้าจะออกไป"

เฉี่ยงอินรีบไปหาเสื้อคลุมมา สวมให้หยุนชางหยุนชางเดินออกมาจากห้องโถงด้านในและกระซิบ "เจ้าไปกันคนในวังทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องติดตามข้า เดี๋ยวข้ากลับมา"

เฉี่ยงอินไม่ได้ถามอะไรมาก ทำตามคำสั่งของหยุนชาง

มีเสียงของเฉี่ยงอินจากด้านนอก เรียกให้คนในวังมารวมตัวกันที่ลานกว้าง หยุนชางเห็นทุกคนเดินไปที่ลานกว้าง จากนั้นออกจากตำหนักชิงซิน และหายไปคืนที่มืดมิด

"ก๊อก ก๊อก ก๊อก…" เสียงเคาะประตูในตอนกลางคืนดังขึ้นทันที หลังจากที่หยุนชางเคาะสองสามครั้ง นางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอันแผ่วเบาดังมาจากด้านหลังประตู ประตูถูกเปิดออก หยุนชางเงยหน้าขึ้นยิ้มและกล่าวว่า "เจิ้งมามา ข้ามาเยี่ยมเสด็จแม่"

"เป็นองค์หญิง… " เจิ้งมามายิ้ม ดึงหยุนชางเข้ามา ปิดประตู หยุนชางเห็นคนๆ หนึ่งยืนอยู่หน้าห้องจ้องมองไปที่หยุนชางด้วยรอยยิ้ม หยุนชางก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า "เสด็จแม่"

สนมจิ่นยิ้มเล็กน้อย จับมือของหยุนชาง "ทำไมดึกขนาดนี้แล้วเจ้ายังมาหาเสด็จแม่?"

หยุนชางยิ้มและกล่าว "ตั้งแต่ข้ากลับไปที่ตำหนัก ข้าถูกจับตาดูอย่างแน่นหนาไม่มีโอกาสมาเยี่ยมเสด็จแม่เลย เสด็จแม่สบายดีไหมเพคะ?"

มือของหยุนชางวางอยู่บนข้อมือของสนมจิ่น เมื่อนึกถึงสนมจิ่นที่ป่วยตายอย่างมีเงื่อนงำในภพที่แล้ว ความวิตกกังวลฉายวาบในใจนาง จึงฉวยโอกาสวัดชีพจรในตอนที่สนมจิ่นไม่ทันสนใจ

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการกระทำโดยกระทันหัน แต่มันทำให้หยุนชางต้องประหลาดใจ "เสด็จแม่ ท่านทรงพระครรภ์?"

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด