ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 23 กลับไปที่พระราชวังอีกครั้ง

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 23 กลับไปที่พระราชวังอีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

"เชิญองค์หญิงฮุ่ยกั๋วเข้าเฝ้า… " มีเสียงเรียนแหลมๆ จากขันทีฝ่ายในดังมาจากตำหนักจินหลวน หยุนชางจัดเสื้อผ้าของตนให้ดูเรียบร้อย และเดินเข้าไปในตำหนักจินหลวนโดยมีฉินยีคอยพยุงเธอ

"หม่อมฉันคารวะเสด็จพ่อเพคะ … " หยุนชางคุกเข่าลงด้วยความยากลำบาก เธอกราบคำนับฮ่องเต้ไปสามครั้ง จึงจะยืดตัวขึ้นและไอออกมาเบา ๆ

จักรพรรดิหนิงมองไปที่ลูกสาวของเขาที่ไม่ได้เจอกันมากว่าเจ็ดปี เขามีความรู้สึกมากมายเกิดขึ้นในใจ สุดท้ายเขาก็เพียงแค่ถอนหายใจ และกล่าวอย่างเสียงดังว่า " องค์หญิงฮุ่ยกั๋วทรงอธิษฐานเพื่อประชาชนมาเจ็ดปี ในช่วงนี้แคว้นหนิงนั้นราบรื่นทุกประการ ต้องขอบคุณผลบุญขององค์หญิงนะ จึงมอบจินหลินเป็นรางวัลพิเศษให้กับเจ้า "

จินหลินงั้นหรือ หยุนชางยิ้มมุมปากขึ้นมา จากนั้นก็โค้งคำนับอีกครั้ง มีเหงื่อออกที่หน้าผากของเธอเล็กน้อย " หม่อมฉันขอขอบพระทัยที่เสด็จพ่อทรงมอบรางวัลให้เพคะ"

"ยืนขึ้นเถิด"

หยุนชางค่อยๆ ยืนขึ้นอย่างช้าๆ เงยหน้าขึ้นและยิ้มให้กับจักรพรรดิหนิง แต่สีหน้าของเธอกลับซีดลงเรื่อยๆ ทุกคนยังไม่ทันรู้ตัว หยุนชางก็เอียงตัวแล้วล้มลงกับพื้น

"องค์หญิงเป็นลมไปแล้ว … " ฉินยีรีบลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปเพื่อหยุงหยุนชางขึ้นมา

"เร็วเข้า เชิญหมอหลวงมาประเดี๋ยวนี้! " เสียงของจักรพรรดิหนิงมีความเจ็บปวดซ่อยอยู่ เขารีบตะโกนออกมา จากนั้นก็เดินลงมาจากพระที่นั่งแล้วอุ้มหยุนชางเข้าไปด้านในตำหนัก

ในพระราชวังชีอู๋ หยวนเจินฮองเฮาและหัวจิ้งกำลังนั่งพูดคุยกันบนที่นั่ง "ปีนี้อากาศดีเนอะ รสชาติของขนมดอกกุ้ยฮวานี้ก็หอมกว่าปีที่แล้วเยอะเลย เจ้าน่ะใส่ใจกับข้าเชียวนะ"

หัวจิ้งอมยิ้มเล็กน้อย คิ้วและดวงตาของเธอดูอ่อนโยน "เสด็จแม่ชอบลูกก็ดีใจค่ะ สักครู่ลูกจะส่งขนมนี้ไปให้เสด็จพ่อบ้าง มีอีกเรื่องหนึ่งเพคะ ลูกได้ยินมาว่าวันนี้น้องหยุนชางได้กลับวังแล้ว และตอนนี้เธอน่าจะกำลังเข้าเฝ้าอยู่ที่ตำหนักจินหลวนนะเพคะ เดี๋ยวลูกเอาไปให้น้องสาวด้วย ไม่ได้เจอน้องสาวมานานหลายปี ไม่ทราบเช่นกันว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง"

หยวนเจินฮองเฮายิ้มออกมาแปลก ๆ "ภายในวิหารแคว้นหนิงนั้นมีคนของแม่อยู่ไม่น้อย แม่ได้ยินมาว่าร่างกายของเธอแย่ลงเรื่อย ๆ อีกไม่นานเธอก็จะบรรลุนิติภาวะแล้ว พอบรรลุนิติภาวะแล้วก็ควรแต่งงานแล้ว แม้ว่าเจ้าและเธอจะไม่ใช่พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน แต่ถึงยังไงเจ้าก็ยังเป็นพี่สาวของเธออยู่ดี ดังนั้นช่วยสอดส่องดูว่า ชายที่มีอายุไล่เลี่ยกันในราชวงศ์นี้มีคนที่เหมาะสมหรือไม่ จะได้เลือกพระสวามีให้น้องสาวเธอด้วย"

เมื่อหัวจิ้งได้ยินเช่นนี้ เธอก็พยักหน้าและตอบว่า "ลูกทราบแล้วเพคะ ลูกจะคอยสอดส่องแทนน้องสาวอย่างดีเพคะ"

"เหนียนเหนียง เหนียงเหนียง … " จู่ๆ นางกำนัลก็เปิดม่านและเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ พร้อมกับรอยยิ้มที่ดูได้ใจ "เหนียงเหนียง องค์หญิงฮุ่ยกั๋วนั้นร่างกายอ่อนแอและขี้โรคเหมือนที่เขาลือกันจริงๆ เพคะ! เมื่อสักครู่ตอนที่อยู่ในตำหนักจินหลวน ฮ่องเต้ให้จินหลินเป็นรางวัลในฐานะศักดินาส่วนพระองค์ องค์หญิงฮุ่ยกั๋วก็แค่คำนับขอบพระทัย เมื่อเธอยืนขึ้นเธอก็เป็นลมไปเลยเจ้าค่ะ ข้าน้อยได้ยินขันทีที่">ปรนนิบัติอยู่ในตำหนักกล่าวมา สีหน้าขององค์หญิงฮุ่ยกั๋วนั้นขาวซีดมาก เพียงแค่เธอทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ เธอก็เหงื่อแตกเต็มตัวแล้ว ช่างเป็นเจ้าที่แค่ลมพัดก็ล้มลงได้จริงๆ"

"จริงหรือ? " หยวนเจินฮองเฮาขมวดคิ้ว "จินหลินงั้นหรือ ฮ่องเต้ใจกว้างจริงๆ แต่ว่าก็ต้องรอดูว่าเธอนั้นจะมีโอกาสได้ไปเพลิดเพลินกับมันรึเปล่า เจ้าลงไปรับรางวัลได้….."

นางกำนัลนั้นก็รีบขอบพระทัยจากนั้นก็ออกไป ทันทีที่นางกำนัลนั้นออกไป หัวจิ้งก็เริ่มบ่นขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ " เสด็จแม่คะ ลูกแต่งงานแล้ว ศักดินาที่เสด็จพ่อมอบให้นั้นก็มีเพียงแค่เมืองซีผิง ซีผิงนั้นทั้งไกล ที่ดินก็แห้งแล้ง แต่เสด็จพ่อกลับมอบจินหลินให้กับเธอ……"

หยวนเจินฮองเฮาเหลือบมองเธออย่างเย็นชา "หากตอนนี้เจ้าสามารถทนได้ ต่อไปทุกอย่างของเธอก็จะเป็นของเจ้า หากว่าตอนนี้เจ้าทนไม่ได้ ต่อไปของเจ้าก็จะกลายเป็นของเธอทั้งหมด ตอนนี้เจ้าเป็นองค์หญิงซีผิงที่มีชื่อเสียงที่สุดในพระราชวังนี้ ส่วนเธอเป็นเพียงกบใต้กะลาที่ปฏิบัติธรรมอยู่ในวิหารมาเจ็ดปีก็เท่านั้นเอง เจ้ายังกลัวที่จะแข่งกับเธออีกหรือ? ไม่ว่าจะอยู่ในที่ที่ดีเพียงไหน แต่เราต้องมีชีวิตอยู่ ถึงจะได้เพลิดเพลินกับมัน"

หัวจิ้งจึงรีบตอบอย่างรวดเร็ว "ลูกทราบแล้วค่ะ ลูกหลงระเริงไปเจ้าค่ะ"

ฮองเฮาพยักหน้าและยืนขึ้น "ในเมื่อหยุนชางกลับมาที่วังแล้ว และเธอก็เป็นลมทันทีตั้งแต่เข้าวังมา ไม่ว่ายังไงข้าก็คงต้องไปเยี่ยมดูเธอหน่อย"

"ลูกไปปด้วยเพคะ นานแล้วที่ไม่ได้เจอน้องสาว ลูกคิดถึงเธอเหลือเกิน จะได้เอาขนมดอกกุ้ยฮวาที่เพิ่งทำไปให้น้องสาวด้วย" หลังจากได้ยินเช่นนี้ หัวจิ้งก็เรียกนางกำนัลมาเอากล่องอาหารไปด้วย จากนั้นเธอก็ออกจากตำหนักฝ่ายในไปพร้อมฮองเฮาหยวนเจิน

"ตอนนี้องค์หญิงฮุ่ยกั๋ยวอยู่ที่ไหน?"

เมื่อสักครู่นางกำนัลผู้นั้นกล่าวว่า "องค์หญิงหมดสติไป ฮ่องเต้จึงอุ้มเธอเข้าไปพักผ่อนที่พระตำหนักในของตำหนักจินหลวน ตอนนี้ได้เชิญหมอหลวงแล้วเพคะ ตอนนี้ก็คงยังอยู่ที่นั่น"

หยวนเจินฮองเฮาพยักหน้า และเดินตรงไปที่ตำหนักในของตำหนักจินหลวน

เมื่อหยวนเจินฮองเฮามาถึงที่ตำหนักในของตำหนักจินหลวน หยุนชางก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว เธอกำลังเอนกายลงบนเตียงและยื่นมือให้หมอหลวจวินิจฉัย ใบหน้าของเธอขาวซีด คิ้วขมวดเล็กน้อย ราวกับว่าเธอทรมานมาก

" นี่ชางเอ๋อร์เป็นอะไรไป? เหตุใดจึงดูอ่อนแอเช่นนี้? เจ้าอาวาสอู๋น่าบอกว่าให้เธอพักฟื้นตัวที่วิหารแคว้นหนิงสักพักก็คงหายดีมิใช่หรือ?" หยวนเจินฮองเฮารีบเดินเข้าไป

ถามด้วยเสียงเบา ๆ

หยุนชางเงยหน้าขึ้นและส่งยิ้มให้ฮองเฮา พลางเอ่ยว่า "เสด็จแม่เพคะ … "

ฉินยีที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็รีบอธิบายว่า "องค์หญิงร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเจ้าค่ะ ไม่สามารถพูดอะไรได้มากนัก นั่นเพราะว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อนมีเด็กหลงทางในวิหารแคว้นหนิง องค์หญิงไปช่วยตามหา แต่เจอฝนตกหนักเธอบังเอิญตกลงหน้าผาไป หลังจากนั้นมาร่างกายขององค์หญิงก็แย่มาเรื่อยๆ เจ้าค่ะ โชคดีที่เจ้าอาวาสอู๋น่าช่วยดูแลอย่างดี ตอนนี้อาการจึงดีขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะ … "

"ขออภัยที่ทำให้เสด็จแม่เป็นห่วงนะคะ … " หยุนชางพูดเบา ๆ แล้วเธอก็ก้มลงไอออกมา

หมอหลวงดึงมือกลับไป จักรพรรดิหนิงก็รีบถามไถ่ว่า "เป็นอย่างไรบ้าง?"

หมอหลวงส่ายหน้าและกล่าวว่า "อวัยวะขององค์หญิงได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ทำได้แค่พักฟื้นให้ดีก็เท่านั้น ไม่ควรเหนื่อยเกินไป และไม่ควรมีความผันผวนทางอารมณ์มากเกินไป มิฉะนั้น ชีวิตขององค์หญิงจะอยู่ในอันตราย"

จักรพรรดิหนิงถอนหายใจออก และนั่งลงข้างเตียง " หลายปีที่ผ่านมานี้ ลำบากชางเอ๋อร์ไปหน่อยนะ"

หยุนชางยิ้ม "เสด็จพ่อคะ ลูกไม่เหนื่อยค่ะ"

หยวนเจินฮองเฮาขมวดคิ้วและกล่าวว่า " ชางเอ๋อร์ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็จะต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ ฟ้าช่างไม่ยุติธรรมจริงๆ เลยเพคะ หมอหลวงยาบำรุงร่างกายที่สำหรับองค์หญิงฮุ่ยกั๋วนั้นใช้เต็มที่ได้เลย ต้องรักษาสุขภาพขององค์หญิงให้ดีอย่างเด็ดขาด"

ขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ขันทีก็เข้ามาหาจักรพรรดิหนิง จักรพรรดิหนิงจึงกล่าวว่า " ทางนี้ให้ฮองเฮาดูแลแล้วกัน เจิ้นยังมีงานราชการบางส่วนที่ยังจัดการไม่เสร็จ ขอตัวก่อนนะ"

คนในตำหนักก็เร่งคำนับ

เมื่อรอให้จักรพรรดิหนิงออกไป หยุนชางจึงยิ้มและกล่าวว่า " ไม่ทราบว่าตำหนักชิงซินนั้นทำความสะอาดหรือยัง ชางเอ๋อร์กลับไปที่ตำหนักชิงซินดีกว่านะคะ"

ฮองเฮายิ้มและกล่าวว่า "มีการทำความสะอาดทุกวันเลย ข้าสั่งให้นางกำนัลนั้นแจ้งคนของตำหนักชิงซินให้มาที่นี่แล้ว แถวนั้นสงบกว่าและเหมาะสำหรับการพักฟื้นร่างกาย คนที่คอยรับใช้ยังคงเป็นคนกลุ่มเดิมอยู่ เจ้าเองก็คงรู้สึกคุ้นเคยกว่า"

หยุนชางพยักหน้า เธอกำลังจะตอบกลับ ก็เห็นมีนางกำนัลและขันทีเดินเข้ามา " ข้าน้อยขอคารวะฮองเฮา องค์หญิงซีหนิง และองค์หญิงฮุ่ยกั๋วเพคะ (ขอรับ) "

หยวนเจินฮองเฮายิ้มและกล่าวว่า " ข้ากำลังพูดถึงเลย ก็มาถึงเสียแล้ว ชางเอ๋อร์ดูสิ เจ้าจำนางกำนัลนี้ได้หรือไม่? เงยหน้าขึ้นให้องค์หญิงดูหน่อยสิ………"

หยุนชางหันไปมอง และเห็นนางกำนัลคนหน้าสุดเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอแดงเล็กน้อย เธออ้าปาก และนานกว่าจะเอ่ยออกมาว่า "องค์หญิง"

หยุนชางเห็นใบหน้าของนางกำนัลแล้ว มุมปากของเธอโค้งงอขึ้น เธอยิ้มและพูดว่า " ฉินเมิ่งนี่เอง ไม่เจอกันมาตั้งเจ็ดปี ฉินเมิ่งโตเป็นสาวแล้วนะ"

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด