ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 87 ความลับของฮองเฮา (หนึ่ง)

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 87 ความลับของฮองเฮา (หนึ่ง) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เนื่องด้วยราชินีกำลังตั้งครรภ์ กิจวัตรคารวะในตอนเช้าก็ถูกละเว้นไป และงานต่างๆ ในวังหลังนั้นก็ถูกมอบให้สนมซู่รับผิดชอบ ทันใดนั้นวังซีอู๋เงียบเหงาอย่างมาก อากาศเริ่มเย็นแล้ว และราชินีแทบไม่เดินออกจากวังซีอู๋ไปไหนเลย

"ฮองเฮาไม่ได้ออกจากวังซีอู๋มาเกือบครึ่งเดือนแล้วใช่หรือไม่?" หยุนชางนอนบนเบาะนุ่ม ๆ พร้อมถือหนังสืออยู่ในมือ แล้วอ่านหนังสือพร้อมอย่างจรรโลงใจ

"สิบเจ็ดวันแล้วเจ้าค่ะ" เฉี่ยนอินรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว "เมื่อสักครู่หม่อมฉันยังคิดอยู่เจ้าค่ะ หรือว่าต้องรอเจอท่านที่พิธีเทศกาลตั้งโจ่ยที่จะจัดในอีกห้าวันข้างหน้า?"

หยุนชางยิ้มเล็กน้อยและเปิดหน้าหนังสือ "นางอดทนได้มากกว่าที่ข้าคิด เดิมทีสนมซู่ยึดอำนาจไป คนในวังหลังที่รอดูฮองเฮาต่อสู้กลับไปไม่ใช่แค่สองสามคน แต่ไม่คาดคิดว่านางจะมอบตราประทับพระราชินีไปง่ายๆ และยังซ่อนตัวอยู่ในวังซีอู๋อย่างเชื่อฟัง โดยไม่ออกไปไหนเลย ช่างเหลือเชื่อจริงๆ"

ฉินยีกำลังพับเสื้อผ้าอยู่ นางตอบด้วยรอยยิ้มว่า "ไม่รู้ว่าเส้นสายของฮองเฮาในวังนี้อยู่เท่าไหร่ แม้ว่าท่านจะไม่ได้ออกไปไหน แต่ว่าวังหลังนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง ท่านก็คงรู้ดีอย่างมาก"

หยุนชางขมวดคิ้ว รู้สึกได้รางๆ ว่าตนมองข้ามอะไรบางอย่างไป ดูเหมือนว่าจะสำคัญมากเสียด้วย ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคิดอะไรไม่ออก หยุนชางถอนหายใจ " รอไปก่อนเถิด ความอดทนของข้าคงไม่น้อยไปกว่าของนางหรอก"

ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอก ทั้งสามคนก็หยุดสนทนากัน "องค์หญิงเจ้าคะ ขันทีจากสำนักซักล้างมาส่งเสื้อผ้าที่ซักเรียบร้อยแล้วองค์หญิงเจ้าค่ะ"

ฉินยีหันกลับไป เปิดม่านและเดินออกไป หยุนชางได้ยินเสียงของนางดังมาจากข้างนอก "เอาเข้ามาเถิด"

หยุนชางเลิกคิ้ว นำเข้ามา? ก่อนหน้านี้ฉินยีไม่เคยปล่อยให้คนจากสำนักซักล้างเข้ามาในตำหนักใน

หยุนชางเงยหน้าขึ้น มองไปที่ประตูและเห็นว่าม่านลูกปัดถูกเปิดออก มีขันทีที่ผอมแห้งเดินเข้ามา " องค์หญิงขอรับ เสื้อผ้าซักล้างเรียบร้อยและตากแห้งแล้วขอรับ ให้กระหม่อมวางไว้ที่ไหนขอรับ"

ม่านลูกปัดปิดลง และฉินยีก็เดินเข้ามา

"เสี่ยวหลินจื่อ?" หยุนชางยืดตัวขึ้นเล็กน้อยและถามอย่างนุ่มนวล "เหตุใดวันนี้เจ้าจึงมาที่นี่?"

เสี่ยวหลินจื่อมองดูนางกำนัลทั้งสองที่อยู่ในตำหนัก และเห็นว่าหยุนชางไม่ได้สั่งให้พวกนางออกไป จึงรู้ว่านางกำนัลทั้งสองนี้คงเป็นคนสนิทของหยุนชาง เขาคารวะและกล่าวว่า "องค์หญิงขอรับ กระหม่อมมีเรื่องจะรายงานขอรับ"

หยุนชางลุกขึ้นนั่ง "ว่ามาเถิด ที่นี่ไม่มีคนนอก"

เสี่ยวหลินจื่อพยักหน้าและกล่าวว่า " กระหม่อมได้ยินว่าฮองเฮาเหนียงเหนียงตั้งครรภ์ แต่ว่าบนเสื้อผ้าที่นางกำนัลของวังซีอู๋ส่งมาเมื่อวานนี้ มีกางเกงชั้นในตัวหนึ่งที่ปะปนอยู่ในบรรดาเสื้อผ้าของนางกำนัลมีคราบเลือดอยู่ขอรับ"

"ในบรรดาเสื้อผ้าของนางกำนัล อย่างนั้นก็คงเป็นนางกำนัลคนใดคนหนึ่งที่มารอบเดือนมิใช่หรือ?" เฉี่ยนอินกล่าวอย่างแผ่วเบา มองไปที่เสี่ยวหลินจื่อ

เสี่ยวหลินจื่อส่ายหน้า " แต่ว่ากางเกงชั้นในตัวนั้นแตกต่างจากของนางกำนัลผู้อื่นขอรับ ผ้าของกางเกงตัวนั้นทำจากผ้าฝ้ายซูชั้นดีขอรับ ในวังนี้คนที่มีนั้นมีเพียงไม่กี่ท่าน นับประสาอะไรกับนางกำนัลในวังขอรับ"

ดวงตาของหยุนชางเป็นประกายเล็กน้อย "ข้าเข้าใจความหมายของเสี่ยวหลินจื่อแล้ว ในพระราชวังแห่งนี้ หากต้องการให้คนหายตัวไปนั้นง่าย แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต้องการให้กางเกงชั้นในที่เปื้อนเลือดนั้นหายไป ดังนั้นนางจึงเอามันไปปะปนกับเสื้อผ้าของนางกำนัล…"

"แต่ว่า เจ้าแน่ใจได้ยังไงว่าเป็นผ้าฝ้ายซู?" หยุนชางพูดอีกครั้ง

เสี่ยวหลินจื่อยิ้มอย่างมั่นใจ "เรื่องอื่นๆ กระหม่อมมิกล้าพูดขอรับ แต่หากพูดถึงความสามารถในการแยกแยะเนื้อผ้า กระหม่อมไม่มีทางดูผิดแน่นอนขอรับ เมื่อก่อนตระกูลของกระหม่อมทำการค้าด้านผ้าขอรับ แต่ว่าภายหลังถูกใส่ร้าย จึงตกอับมาถึงทุกวันนี้ขอรับ นางกำนัลผู้หนึ่งในสำนักซักล้างมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกระหม่อมขอรับ วันนั้นเราพูดคุยกัน นางจึงบอกว่านางกำนัลในวังราชินีคงมีอาหารการกินและเสื้อผ้าที่ดีที่สุดในวังหลังนี้แล้ว นางกล่าวว่า วันนี้ตอนที่พวกนางกำลังซักผ้าอยู่ ก็พบว่าเนื้อผ้ากางเกงชั้นในของนางกำนัลในวังราชินีนั้นดูใส่สบายมาก กระหม่อมจึงแสร้งทำเป็นอยากรู้อยากเห็น และตามนางไปดู เมื่อกระหม่อมลงมือจับก็ทราบแล้วว่านั่นเป็นผ้าฝ้ายซูขอรับ"

หยุนชางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่ามีบางอย่างแวบเข้ามาในหัว และห้องก็เงียบไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นไม่นาน หยุนชางก็ลุกขึ้นยืน " ข้ารู้แล้ว ข้ารู้แล้วว่าอะไรผิดปกติไป"

ทุกคนมองไปที่หยุนชาง หยุนชางยิ้มมุมปาก และดวงตาของนางดูแข็งกร้าวแน่วแน่ "ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ข้ารู้สึกว่ามีรายละเอียดที่สำคัญบางอย่างที่ข้าลืมไป วันนี้เสี่ยวหลินจื่อมาพูดเรื่องนี้ ข้าจึงนึกขึ้นมาได้ว่าในวันงานเลี้ยงเล็ก ๆ สนมซู่ตั้งใจคิดแผนวางยาไว้ ข้าเห็นฮองเฮาสัมผัสทุกตัวกับตา หากไม่มีอะไรผิดพลาด ท้องของฮองเฮาต้องเกิดเรื่องภายในครึ่งเดือนอย่างแน่นอน แต่ว่า นี่ก็ผ่านไป 17 วันแล้ว แต่ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ วังซีอู๋นั้นเงียบจนผิดปกติ หมอหลวงได้เข้าเฝ้าอยู่หลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่ก็วินิจฉัยชีพจรของเสด็จแม่เสียมากกว่า และคนที่วัดชีพจรให้กับฮองเฮานั้น เป็นคนๆ เดียวกันตลอด"

"องค์หญิง ท่านหมายความว่า..…" ดวงตาของฉินยีก็เป็นประกายเช่นกัน นางจ้องมองไปที่หยุนชางด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยพลังงาน

"บวกกับเรื่องที่เสี่ยวหลินจื่อมาพูดในวันนี้ ข้าคิดว่าฮองเฮามีโอกาสอย่างมากที่ไม่ได้ตั้งครรภ์" หยุนชางยิ้มอย่างเย็นชา "แผนนี้ของฮองเฮาดีเยี่ยมมาก วันนั้นที่ฮองเฮาถูกพบว่าตั้งครรภ์นั้นกะทันหันเกินไปจริงๆ และข้าไม่ได้สงสัยด้านนี้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวหลินจื่อ ข้าเกรงว่าแม้ว่าจะสงสัยเล็กน้อย แต่ก็คงไม่มีวันพบความจริงอย่างแน่นอน"

"แต่องค์หญิงเจ้าคะ ฮองเฮาทำเช่นนี้ไปจะมีประโยชน์อะไรเจ้าคะ ท่านไม่ได้ตั้งครรภ์ ถึงยังไงก็คงไม่สามารถให้กำเนิดบุตร ที่ยิ่งไปกว่านั้น ท่านต้องมอบตราประทับพระราชินีออกไปเพราะตั้งครรภ์ แบบนี้มันเสียมากกว่าได้มิใช่หรือเจ้าคะ?" ฉินยีถามด้วยความสับสน

หยุนชางสงบลง แต่ก็ยังมีความรู้สึกตื่นเต้น "ข้าเดา จุดประสงค์ที่นางทำเช่นนี้เพื่อหาโอกาสที่จะสร้างภาพลวงตาที่แท้งลูก แล้วใส่ร้ายความผิดนี้ให้คนคนหนึ่ง คนที่นางอยากใส่ร้ายก็คงเป็นเสด็จแม่ เพราะในสถานการณ์ปัจจุบันของวังหลัง มีเพียงเสด็จแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่นั้นเป็นหนามยอกอกของนาง แต่เสด็จแม่อาศัยอยู่ในวังซีอู่ และนางไม่สามารถหาโอกาสลงมือกับท่านได้ จึงได้คิดแผนนี้ขึ้นมา"

"กลอุบายนี้ของราชินีนั้นร้ายกาจมากจริงๆ โชคดีที่องค์หญิงรู้เรื่องนี้ก่อน ไม่เช่นนั้น นายหญิงอาจตกอยู่ในอันตราย" ฉินยีถอนหายใจด้วยความโล่งอก "แต่ ต้องบอกเรื่องนี้กับนายหญิงหรือไม่เจ้าคะให้ท่านระวังให้ดี ?"

เสี่ยวหลินจื่อได้ยินคำที่ฉินยีเรียกท่าน จึงเงยหน้าขึ้นมองไปที่ฉินยีและก้มหน้าลง

"บอกนั้นต้องบอก แต่ว่าข้าต้องไปที่วังซีอู๋ก่อน เสี่ยวหลินจื่อกล่าวว่าพบกางเกงชั้นในเปื้อนเลือดเมื่อวานนี้ ดังนั้นระยะเวลาที่มารอบเดือนของฮองเฮาคงเป็นช่วงสองวันนี้ ข้าจำได้ว่าเมื่อฮองเฮาอยู่ในรอบเดือน ท่านจะปวดท้องอยู่บ่อยๆ ข้าไปดูหน่อยก็จะทราบแล้วว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร เรื่องนี้ต้องเร่งรีบ รอช้ามิได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้" หยุนชางยืนขึ้นและพูดว่า "เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ข้า"

เมื่อเสี่ยวหลินจื่อเห็นเช่นนี้ จึงคารวะ "กระหม่อมขอลาขอรับ"

หยุนชางยิ้ม หันไปพูดกับเขาว่า "วันนี้ต้องขอบคุณเจ้าอย่างมาก เจ้ากลับไปที่สำนักซักล้างก่อน เผื่อมีใครสงสัยขึ้นมา อีกสองสามวัน ข้าจะสั่งให้คนต้มบัวลอยสุราให้เรียบร้อยแล้วนำไปให้เจ้า"

เสี่ยวหลินจื่อตอบกลับว่า " ขอรับ ขอรับ กระหม่อมขอขอบพระคุณองค์หญิงขอรับ" เขาพูดแล้วก้าวถอยหลังออกไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด