ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 8 ยิ้มอย่างเฉยเมย

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 8 ยิ้มอย่างเฉยเมย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

"สัตว์พวกนี้มาจากไหน ยังไม่รีบไล่พวกมันไปอีก! อ๊า… " เพียงได้ยินเสียงกรีดร้องตกใจของหัวจิ้ง จากนั้นก็ถูกกลบไปด้วยเสียงสุนัขเห่า หยุนชางชะโงกหน้าออกไปดูก็เห็นว่าทุกคนในสวนวิ่งไปมาด้วยความตื่นตระหนก สุนัขหลายตัววิ่งไปมาอย่างบ้าคลั่งอยู่ในสวน เมื่อเห็นคนก็กระโจนเข้าไปกัด

นักพรตต๋าถูกกระโจนใส่จนล้มลงกับพื้น บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยข่วน เสื้อผ้าของหัวจิ้งถูกดึงจนขาด บนแขนก็มีรอยข่วนมากมาย บางส่วนมีเลือดไหลออกมา มงกุฎหงส์บนศีรษะของฮองเฮาก็เบี้ยวเช่นกัน ในขณะนี้นางกำลังบันดาลโทสะเรียกสาวใช้ในวังและขันทีให้ไล่เหล่าสัตว์ร้ายพวกนี้ออกไป

รอยยิ้มปรากฏอยู่บนมุมปากของหยุนชาง นางซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้และมองดูอยู่เป็นเวลานาน เมื่อนางเห็นว่าขันทีและสาวใช้ในวังไล่สุนัขออกไปจนเกือบจะเสร้๗แล้วจึงออกมา แสร้งตะโกนสองครั้งด้วยท่าทางตื่นตระหนก "เสด็จแม่ พี่หญิง เป็นอย่างไรบ้าง? หมาบ้าพวกนี้มาจากไหนกัน? ทำไมถึงได้กัดคนมั่วไปหมด? ยังไม่รีบไล่มันไปอีก?"

เหล่านางกำนัลและขันทีต่างก็เร่งรีบจัดการ ตีจนสลบได้ก็ตีจนสลบ จับไว้ได้ก็จับไว้ ในที่สุดความวุ่นวายในสวนก็สงบลง เพียงแต่มีเลือดอยู่ทุกที่บนพื้นทั้งของสุนัขและของคน

ในที่สุดองค์หญิงหัวจิ้งก็ยืนมั่นคงด้วยการพยุงของนางกำนัล นางรู้สึกเพียงว่าร่างกายของนางเจ็บปวด โดยเฉพาะ… บั้นท้าย… เมื่อครู่มีสุนัขตัวหนึ่งกัดลงที่บั้นท้ายของนางอย่างแรงแล้วยังกัดตรงส่วนลับของนางด้วย หัวจิ้งไม่กล้าตะโกนออกมา จึงทำได้เพียงขมวดคิ้วกลั้นความเจ็บปวด ในใจรู้สึกอึดอัดสุดจะทน "เสด็จแม่ สัตว์ร้ายเหล่านี้มาจากไหนกัน จู่ๆพวกมันก็ออกมา… "

ฮองเฮาอับอายมาก เสื้อผ้าของนางก็ขาดรุ่ย แต่กลับทำได้เพียงแค่กลั้นไว้และพูดอย่างเข้มงวดว่า "จับสัตว์ร้ายพวกนี้ไปให้หมด อีกเดี๋ยวหมิงกงกงไปตรวจสอบว่าสัตว์ร้ายพวกนี้มาจากไหน… " ขณะพูดนางก็เหลือบมองหยุนชางที่ไม่เป็นอะไรเลยอย่างโหดเหี้ยมจากนั้นก็หมุนตัวนำสาวใช้ออกไป

หยุนชางเบะปาก เดินไปที่ด้านข้างขององค์หญิงหัวจิ้งและกล่าวว่า "พี่หญิง พี่บาดเจ็บที่ไหนให้ชางเอ๋อร์ดูหน่อย… " มือข้างหนึ่งสัมผัสโดนบั้นท้ายที่โดนกัดขององค์หญิงหัวจิ้ง

"โอ๊ย… " หัวจิ้งกรีดร้องและผลักหยุนชางออกไป แต่เมื่อไม่มีนางกำนัลคอยพยุงนางจึงล้มลงกับพื้นเสีย เมื่อหยุนชางเห็นดังนั้น ก็ทับลงไปที่ท้องของนางอย่างจัง ทำให้หัวจิ้งร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

"ขอโทษเจ้าค่ะพี่หญิง ชางเอ๋อร์ไม่ได้ตั้งใจ ข้าเพียงแค่อยากดูแผล… " หยุนชางไม่ได้ลุกขึ้น แต่เพียงพึมพำขอโทษเท่านั้น

"เจ้า… โอ๊ย… ออกไป… " เสียงของหัวจิ้งฟังดูแผ่วเบา

หยุนชางกระตุกยิ้มที่มุมปากของเธอและรีบเรียก "ฉิงยี ฉิงยี รีบช่วยพยุงข้าขึ้นหน่อย"

ฉิงยีรีบก้าวเข้ามาพยุงหยุนชางขึ้น นางกำนัลคนอื่นที่เหลือก็รีบช่วยประคองหัวจิ้งขึ้นมา หลังจากที่เธอลุกขึ้นแล้วก็ไม่สนใจที่จะจัดการหยุนชางและรีบให้นางกำนัลประคองนางออกไป

"องค์หญิงแล้วนักพรตเต๋าคนนี้ล่ะ จะทำยังไงเจ้าคะ?" ฉิงยีขมวดคิ้วถามพลางมองไปที่นักพรตเต๋าที่ถูกสุนัขกัดไปทั่วร่าง

"ให้คนลากเขาออกไป ส่งไปที่สำนักตรวจการ อีกเดี๋ยวข้าจะไปพบเสด็จพ่อเพื่อบอกเสียหน่อย… " หยุนชางยิ้มบางๆและเก็บสายตาโหดเหี้ยมที่มองตามหลังของหัวจิ้งไป

สายตา หมุนตัวกลับเข้าไปในตำหนัก "ที่นี่เปรอะไปด้วยเลือดสุนัข เกรงว่าไม่จำเป็นต้องขับไล่สิ่งชั่วร้ายแล้วล่ะ… " หยุนชางเข้าไปในตำหนักชั้นในจึงกล่าวกับฉิงยี "คราวนี้เสี่ยวหลินจื่อช่วยได้มาก ไม่อย่างนั้นสิ่งต่างๆคงจะไม่ราบรื่นขนาดนี้ เพียงแต่ข้าไม่อาจเชื่อใจเสี่ยวหลินจื่อได้ทั้งหมด ยามปกติเจ้าก็ยังคงไม่สามารถประมาทได้ จริงสิ ฮองเฮาต้องการให้เจ้าเอากำไลของข้าไปให้นาง เจ้าเอาไปหรือยัง?"

ฉิงยีพยักหน้าและพูดว่า "เอาไปแล้วเจ้าค่ะ เอาคู่นั้นที่ฮองเฮาอยากได้ เรื่องที่องค์หญิงสั่งข้าไว้ข้าก็จัดการเรียบร้อยแล้ว… แต่ว่า ข้าดูๆแล้ว อีกเจ็ดวันก็จะถึงวันพิธีบรรลุนิติภาวะขององค์หญิงหัวจิ้งแล้ว วันนี้องค์หญิงหัวจิ้งบาดเจ็บไม่เบาเลย ไม่รู้ว่าจะดีขึ้นทันเวลาหรือไม่ ถ้าวันพิธีทำขายหน้าต้องแย่แน่… "

เมื่อได้ยินดังนั้น หยุนชางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ "ดูเจ้าสิ ภายนอกดูอ่อนโยนนุ่มนวล แต่แผนชั่วร้ายกลับไม่น้อยเลย"

เมื่อนึกถึงพิธีบรรลุนิติภาวะของหัวจิ้ง หยุนชางก็นึกขึ้นได้ว่าในชาติก่อนนั้น ก็เป็นพิธีบรรลุนิติภาวะของตนเองที่ได้พบชายคนนั้น ตอนนั้นนางคิดว่าเขาหล่อเหลาอ่อนโยนและสง่างามและเป็นที่ชื่นชอบ เป็นเพราะถูกหัวจิ้งเป่าหูมากมายจึงทำให้นางยึดติดกับเขาและถึงกับขู่ว่าจะไม่แต่งงานหากไม่ใช่เขา ในตอนนั้นก็กลายเป็นเรื่องตลกของเหล่าผู้หญิงในวังไปทั่วอยู่นาน

ตอนนี้เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เหตุผลที่นางได้พบกับชายคนนั้น… หยุนชางยิ้มเล็กน้อย มีบางเรื่อง หลังจากผ่านไปครั้งหนึ่งแล้ว เรื่องบิดเบี้ยวที่อยู่ข้างใน ในที่สุดนางก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน

ในชาติที่ผ่านมา นางรู้สึกเสมอว่าตัวเองมีสถานะที่สูงส่ง รูปลักษณ์ก็ไม่เลว ดังนั้นนางจึงไม่เคยสนใจในเรื่องใดๆเลย ตอนนี้เมื่อคิดดูแล้ว ที่แท้ทุกย่างก้าวที่นางเดินเป็นแผนที่แม่ลูกคู่นั้นได้วางแผนเอาไว้แล้ว

เพียงแต่ในชาตินี้ หากแม่ลูกคู่นั้นต้องการได้อย่างใจคิด เกรงว่าคงจะยากยิ่งว่าขึ้นไปบนฟ้าเสียอีก

"จริงสิ ข้าได้ยินมาว่ามียาชนิดหนึ่งที่ทำให้แผลหายช้าลงและยังทำให้แผลคันมาก ไม่รู้ว่าเจ้ารู้หรือไม่ว่ามันคือยาอะไร?"

ฉิงยีได้ยินดังนั้นก็อึ้งไป "องค์หญิงช่างรอบรู้ มียาเช่นนี้จริงๆ ข้ารู้จักกับคนปรุงยาในสำนักหมอหลวง พรุ่งนี้ข้าจะไปเอามาเล็กน้อย…"

หยุนชางพยักหน้าเล็กน้อย รอยยิ้มที่มุมปากของนางกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ พี่สาวที่รักของข้า ข้าทำให้เจ้าคิดถึงน้องสาวคนนี้มากเสมอ ข้าช่างรู้สึกหนักใจ คราวนี้ข้าขอส่งของขวัญบรรลุนิติภาวะให้ก็แล้วกัน

"ฉิงยี เดาซิว่าเสด็จแม่และพี่สาวที่แสนดีของข้าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่?" หยุนชางเอียงศีรษะมองอย่างสงสัย

ใบหน้าของฉิงยีเต็มไปด้วยรอยยิ้ม นางแสร้งทำเป็นครุ่นคิดสักพักก่อนที่จะพูดว่า "ข้าเดาว่าต้องกำลังบันดาลโทสะอยู่แน่… "

ฉิงยีเดาไม่ผิด ในวังชีอู๋ ทุกคนต่างไม่กล้าที่จะเอ่ยปากพูด เวลาเข้าออกทุกคนต่างก็ระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เกรงว่าจะไปยั่วยุนายสองคนที่กำลังเดือดดาลด้วยความโกรธ

"เสด็จแม่ ต้องเป็นแผนของนางตัวดีแน่ๆ เห็นได้ชัดว่าเราให้คนใส่ยาในอาหารของนาง ทำไมนางจึงไม่เป็นอะไรเลย? หรือว่าเจ้าขันทีนั่นไม่ได้วางยา?" หัวจิ้งนอนอยู่บนเตียงมีนางกำนัลกำลังใส่ยาให้นาง เมื่อนึกถึงอาการบาดเจ็บของนางแล้ว อารมณ์ของนางก็ขุ่นมัวยิ่งขึ้น "เบาๆหน่อย… ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว… "

ฮองเฮาอาบน้ำชำระร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว จึงไม่รู้สึกอับอายเท่าเมื่อครู่ "เกิดอะไรขึ้นข้าต้องให้คนไปตรวจสอบอยู่แล้ว แต่เจ้าเถอะ ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าต่อหน้าคนอื่นให้ทำตัวเป็นเจ้าหญิงผู้สูงส่งและบริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าจะปล่อยให้ความโกรธครอบงำจิตใจของเจ้าไม่ได้ เจ้าต้องจำสิ่งนี้ให้ขึ้นใจและทำตัวให้ดี อย่างนี้เท่านั้นเจ้าจึงจะได้สิ่งที่เจ้าต้องการ"

ในขณะที่หัวจิ้งอ้าปากกำลังจะพูดอะไรบางอย่างก็ได้ยินเสียงทำความเคารพดังแว่วมา "ฮ่องเต้เสด็จ องค์หญิงหยุนชางเสด็จ…"

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด