ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 18 แผนการของสนมจิ่น

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 18 แผนการของสนมจิ่น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อเห็นหยุนชางจ้องมองมาที่นาง จิ่นเฟยก็แย้มยิ้มและกล่าวว่า "ไม่เป็นไร ข้าได้ยินคนพูดว่าชางเอ๋อร์ไม่สบายและยังไม่ฟื้น ข้าไม่วางใจจึงมาดูเสียหน่อย" นางพูดพลางหันไปพูดกล่าวกับคนข้างหลังว่า "เจิ้งมามา เจ้ามาดูหน่อยว่าตอนนี้ชางเอ๋อเป็นอย่างไรบ้าง?"

คนที่เข้ามาพร้อมกับสนมจิ่นก็ถอดเสื้อคลุมออกและเดินมาข้างเตียง นางก็คือเจิ้งมามาที่เปิดประตูตำหนักเย็นให้นางในวันนั้นนั่นเอง

เมื่อเห็นดวงตาอยากรู้อยากเห็นของหยุนชาง สนมจิ่นก็กล่าวว่า "ชางเอ๋อร์อย่าได้ดูถูกเจิ้งมามาเชียว ทักษะทางการแพทย์ของเจิ้งมามาไม่แพ้ไปกว่าหมอหลวงคนใดเลย ตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่ร่างกายข้าไม่เป็นไรล้วนต้องพึ่งเจิ่งมามา ชางเอ๋อร์ยื่นมือออกมาสิ ให้นางช่วยแมะให้เจ้า"

หยุนชางพยักหน้าเล็กน้อย นางคิดว่าหากในวังแห่งนี้มีใครที่นางสามารถเชื่อใจได้ก็คงจะเป็นผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านาง เมื่อได้ยินว่านางป่วย ก็มาเยี่ยมนางโดยไม่หวั่นอันตรายใดๆ น่าเสียดายที่นางทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำร้ายมารดาของนางในชาติที่แล้ว ยามนางป่วยมารดาก็มาเยี่ยมทันที ในชาติที่แล้วที่นางแล้งน้ำใจเช่นนั้นมารดาของนางก็คงรู้เช่นกัน ในตอนนี้เมื่อคิดดูแล้ว นางช่างเลวร้ายเสียจริง

เจิ้งมามาวางมือบนแขนของหยุนชาง สักพักใบหน้าของนางก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย "เหนียงเหนียง องค์หญิงถูกวางยา"

"อะไรนะ วางยาหรือ?" ที่เหลืออีกสามคนตกใจ

สีหน้าของสนมจิ่นเปลี่ยนไป นางรีบมองเจิ้งมามาและพูดว่า "จะถูกวางยาได้อย่างไร ไม่ได้เป็นหวัดจึงตัวร้อนหรอกหรือ มามารู้ไหมว่าเป็นพิษอะไร? มีวิธีแก้หรือไม่?"

เจิ้งมามาขมวดคิ้ว "องค์หญิงน่าจะถูกพิษของดอกยี่โถ พิษยังเบาอยู่แก้ไม่ยาก เอาโสมและแบะตงอย่างละสองเฉียน โหงวบี่จี้หนึ่งเฉียน ต้มหนึ่งครั้ง แบ่งดื่มสองครั้งก็หาย เพียงแต่พิษนี้ยามออกฤทธิ์จะดูคล้ายเป็นหวัด แต่คนที่มีทักษะดีเล็กน้อยก็สามารถแยกแยะโดยการจับชีพจร ไม่น่าพลาดวินิจฉัยและรักษาเป็นโรคหวัด ข้าคิดว่าคนในสำนักหมอหลวงคงถูกซื้อตัวไปแล้ว หากองค์หญิงไปขอเบิกยาเหล่านี้ต้องทำให้ถูกสงสัยเป็นแน่… "

ฉิงยีจึงได้สติขึ้น นางกล่าวอย่างตกใจ "แต่องค์หญิงโดนวางยาได้อย่างไร? อาหารและเครื่องดื่มทุกอย่างขององค์หญิงข้าระมัดระวังมาก ทำไมถึงยังถูกคนพบช่องโหว่?"

เจิ้งมามาได้ยินดังนั้นก็ตรวจร่างกายของหยุนชางอย่างละเอียด "ข้าเดาว่าน้ำที่องค์หญิงใช้อาบน้ำน่าจะมีปัญหา ข้าตรวจดูอย่างถี่ถ้วนแล้ว แม้ว่าร่างกายขององค์หญิงจะถูกเช็ดด้วยเหล้าจำนวนมากซึ่งกลบกลิ่นของดอกยี่โถไปหมดแล้ว แต่ข้าก็พบว่ามีกลิ่นของน้ำดอกยี่โถในเส้นผม ต้นคอและหลังหูขององค์หญิง"

"น้ำอาบ?" ฉิงยีคิดทบทวนในหัวอย่างรวดเร็วและพูดด้วยความตกใจ "เป็นฉินเมิ่ง!"

ฉิงยีพูดกับหยุนชาง "น้ำอาบขององค์หญิงเมื่อวานนี้ถูกจัดเตรียมโดยฉินเมิ่ง เมื่อวานนี้หลังจากองค์หญิงบอกข้าเรื่องที่ท่านสงสัยฉินเมิ่งแล้ว ข้าก็ใส่ใจนางเป็นพิเศษ เช้าวันนี้ฉินเมิ่งเป็นคนเตือนข้าว่าองค์หญิงได้รับการแต่งตั้ง จะต้องมีเหล่านางสนมมาแสดงความยินดีและขอให้ข้าไปปลุกองค์หญิง หมอหลวงคนนั้นก็เป็นฉินเมิ่งเชิญมา เขาให้ข้าเอาเหล้าเช็ดตัวให้องค์หญิงเพื่อลดไข้ ทั้งหมดนี้ต้องเป็นแผนวางไว้ เอายี่โถใส่ในน้ำอาบน้ำ จากนั้นก็เชิญหมอหลวง ให้ข้าใช้เหล้าเช็ดตัวเพื่อปกปิดหลักฐาน… "

"ถูกต้อง… " ทันใดนั้นฉิงยีก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้อีกจึงรีบพูด "ยังมียาอีก ข้าจะไปนำยาที่หมอหลวงสั่งมาให้มามาดู" พูดจบแล้วก็รีบออกไป

สนมจิ่นขมวดคิ้วและถอนหายใจ "ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าหลี่อี้หรานจะจิตใจโหดเหี้ยมเช่นนี้ ตอนนี้ข้าไม่ต้องการแย่งชิงอะไรกับนางจึงไปอยู่ตำหนักเย็นโดยสมัครใจ เพียงแค่คิดว่านางจะสามารถวางใจและไม่จัดการชางเอ๋อร์ แต่กลับคิดไม่ถึงว่านางยังคงไม่ปล่อยพวกเราไป… "

หยุนชางยิ้มให้จิ่นเฟย "ท่านแม่ นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน… "

จินเฟยยังคงโทษตัวเองอย่างหนัก "เพราะข้าไม่ดีเอง หากข้าไม่ได้อ่อนแอถึงเพียงนี้ ก็คงไม่ต้องทำให้ชองเอ๋อรืพลอยลำบากไปด้วย ชางเอ๋อร์ไม่ได้อยู่ข้างกายข้ามาแต่เล็กแล้วยังมีอันตรายเช่นนี้ หากไม่ระวังก้อาจเสียชีวิตได้ เมื่อคิดเช่นนี้ข้าก็รู้สึกแย่ราวกับถูกมดหมื่นตัวกัดเข้าที่หัวใจ"

หยุนชางเพียงรู้สึกถึงความอบอุ่นจางๆในใจแม้ว่านางและจิ่นเฟยได้พบกันเพียงไม่กี่ครั้ง แต่เมื่อเห็นนางทุกข์ใจกับเรื่องของตนเอง นางก็รู้สึกแสบจมูกขึ้นมาเล็กน้อย นี่ก็คือแม่

"มามา ยามาแล้วเจ้าค่ะ ท่านดูหน่อยเถิดว่ายานี้มีปัญหาหรือไม่…" ฉิงยีเปิดม่านเข้ามาพร้อมกับถ้วยยาที่มีไอร้อนในมือของนาง

เจิ้งมามาสูดหายใจเข้าลึกและขมวดคิ้ว "ไม่ต้องดูแล้ว ข้าได้กลิ่นแล้ว" เจิ้งมามาหันหน้ามาและพูดว่า "ยานี้มีกลิ่นของน้ำดอกยี่โถและดมแล้วมำปริมาณไม่น้อยเลย"

ฉิงยีเเมื่อได้ยินคำพูดนั้นก็หน้สซีดลง "ร้ายกาจจริงๆ หากไม่ใช่เพราะนายท่านและเจิ้งมามาไม่มา ข้าก็กำลังจะนำให้องค์หญิงดื่มอยู่พอดี หากองค์หญิงกินยานี้เข้าไป

… "

เจิ้งมามาพูดขึ้นอย่างใจเย็น "ถ้าดื่มยาชามนี้เข้าไป ข้าเกรงว่าองค์หญิงคงไม่รอดไปถึงเช้าวันพรุ่งนี้" นางถอนหายใจอีกครั้ง "ฮองเฮาหยวนเจินเก่งในการวางอุบายจริงๆ ก่อนอื่นให้องค์หญิงอาบน้ำผสมกับน้ำดอกยี่โถ เมื่อน้ำดอกยี่โถถูกผสมด้วยน้ำจำนวนมากฤทธิ์ก็จะอ่อนลง แล้วนอกจากนี้ยังเป็นเพียงการอาบน้ำเท่านั้นจึงไม่มีทางที่จะเอาชีวิตใครได้ อย่างมากก็เพียงแต่เป็นไข้เท่านั้น พอดีกับใช้ประโยชน์จากการเชิญหมอหลวงมา ให้คนเติมน้ำดอกยี่โถลงในยา ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็บอกว่าองค์หญิงร่างกายอ่อนแอเกินไป มีไข้ซ้ำๆ ร่างกายไม่สามารถทนไหว…"

หยุนชางยิ้มเล็กน้อย ในรอยยิ้มนั้นมีแววดูถูกตัวเอง นางคิดว่าตัวเองระมัดระวังอยู่แล้วในทุกเรื่อง คิดไปว่านางจะสามารถโค่นฮองเฮาหยวนเจินและหัวจิ้งลงได้อย่างแน่นอน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าตนเองเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด นางคงประเมินแผนการของผู้หญิงคนนั้นต่ำเกินไปแล้วและประเมินอิทธิพลของฮองเฮาในวังต่ำไป

สนมจิ่นสีหน้าเปลี่ยนไป "ข้าจำได้ว่าหลี่อี้หรานเป็นเพียงผู้หญิงฉลาด แต่กลับไม่คิดว่าความฉลาดของนางจะถูกใช้ในวังหลังแห่งนี้ มามา ทำอย่างไรจึงจะสามารถนำยาแก้พิษมาให้ชางเอ๋อร์ได้?"

เจิ้งมามาเดินกลับไปกลับมาในตำหนักหลายรอบ "ในวังแห่งนี้ หากต้องการนำยาเข้ามาต้มให้องค์หญิงดื่มโดยไม่มีคนรู้เห็นคงเป็นไปไม่ได้… "

สนมจิ่นรีบลุกขึ้นยืน "อะไรนะ? แล้วเราจะทำยังไงดี? เช่นนั้นให้สาวใช้ของเราที่อยู่ในวังอื่นแกล้งป่วยล่ะ ไปสำนักหมอหลวงขอเบิกยาสองตัวนี้แล้วเอามาให้เรา พวกเราต้มเสร็จนั้นแล้วค่อยนำมาให้ชางเอ๋อร์?"

เจิ้งมามาส่ายศีรษะ "นายท่าของข้า ท่านว่าสาวใช้ป่วยจะใช้โสมได้หรือ?"

สนมจิ่นนั่งลงอย่างหมดหวัง สีหน้าของนางหดหู่ หยุนชางจึงรีบจับมือของนางและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ท่านแม่ไม่ต้องร้อนใจไป มามาบอกแล้วไม่ใช่หรือ? ข้าถูกพิษเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต อย่างมากก็ทรมานเล็กน้อย ทนอีกเดี๋ยวก็ผ่านไป ท่านแม่วางใจเถอะ ข้าไม่เป็นไร"

เจิ้งมามามองไปที่หยุนชางอย่างประเมิน แววตามีร่องรอยแห่งความชื่นชม นางครุ่นคิดสักพักแล้วจึงว่า "แผนเดียวในตอนนี้คือต้องส่งองค์หญิงออกจากวัง… "

"ออกจากวัง?" สนมจิ่นได้ยินคำพูดนั้นก็เงียบไปนานก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองหยุนชาง "แม้ว่าข้าจะไม่อยากให้เจ้าจากไป แต่ในตอนนี้การออกไปนอกวังก็เป็นทางเลือกที่ดี ข้ารู้ว่าเจ้าเพิ่งถูกแต่งตั้ง ข้าดีใจแทนเจ้านัก แต่ว่าข้ากลัวว่าเป็นเพราะเหตุนี้ ฮองเฮาจะต้องไม่ปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน ยิ่งเจ้าปีนขึ้นไปสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งมีภัยคุกคามต่อเจ้ามากขึ้นเท่านั้น นางต้องใช้ประโยชน์จากยามที่ปีกของเจ้ายังไม่แข็งแกร่งกำจัดเจ้าอย่างแน่นอน"

สนมจิ่นถอนหายใจ "ข้าได้ยินฉิงยีพูดถึงเจ้า ข้าคิดว่าชางเอ๋อร์เป็นเด็กฉลาด เพียงแต่ไม่ว่าเจ้าจะฉลาดแค่ไหน เจ้าก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่อี้หราน ไม่ต้องพูดถึงแผนการของนาง เพียงแค่เรื่องที่มีสายของนางอยู่ในทุกๆวัง พ่อของนางเป็นมหาเสนาบดีผู้ได้รับความเคารพอย่างสูงในรัชกาลก่อน ชางเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมหัวจิ้งและฮองเฮษถูกกักบริเวณเพราะทำร้ายเจ้า แต่ไม่ถึงหนึ่งวันกลับถูกปล่อยตัวออกมา? นั่นเป็นเพราะชายแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือไม่สงบ พี่ชายของหลี่อี้หรานเป็นผู้บัญชาการของกองทัพทหารรักษาการณ์ชายแดนตะวันออกฉียงเหนือ เสด็จพ่อของเจ้ายังต้องพึ่งพาตระกูลหลี่… "

หยุนชางถอนหายใจ "ญาติของนางมีอำนาจ เสด็จพ่อจึงต้องทนใช่หรือไม่?"

จินเฟยขมวดคิ้วและลดเสียงลง "ชางเอ๋อร์ อย่าพูดเหลวไหลไป หากมีใครได้ยินเข้าจะกล่าวว่าเจ้าบังอาจยุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยพลการ แท้การที่ญาติของนางมีอำนาจสิทธิ์ขาดเป็นเรื่องไม่ควรอย่างยิ่ง แต่ว่าแม้จะกำจัดตระกูลหลี่ทั้งหมด ตอนนี้ก็ยังไม่ใช่เวลา เวลานั้นยังไม่สุกงอม… "

"ตราบใดที่อำนาจส่วนหน้าในยังอยู่ภายใต้อำนาจของตระกูลหลี่ หลี่อี้หรานก็จะยังนั่งในตำแหน่งฮองเฮาอย่างมั่นคง ชางเอ๋อร์ นางในตอนนี้ไม่ใช่คนที่เจ้าจะสั่นคลอนได้ ในวังแห่งนี้เจ้าไม่ปลอดภัย อย่างไรก็ออกจากวังเถอะ แม้ว่าตาของเจ้าจะเกษียณแล้ว แต่ท่านก็มาสหายมากมาย แต่ละคนต่างก็มีความสามารถต่างๆนาๆ หากเจ้ายังอยู่ในวัง ฮองเฮาจะไม่ให้เจ้าได้เรียนรู้อะไรเลย หากเจ้าต้องการเรียนรู้ก็ต้องออกจากวังไปเท่านั้น หากเจ้าสามารถเรียนรู้ทั้งหมดของเหล่าสหายของตาเจ้าได้ หยุงชางของข้าต้องเป็นยอดหญิงอัจฉริยะอันดับหนึ่งในใต้หล้าแน่"

หยุนชางก้มหน้าคิดอยู่นานและในที่สุดก็ถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา ท่านแม่ของนางพูดไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เธออายุเพียงแปดขวบเท่านั้น ทั้งยังไม่มีอำนาจอะไร ในวังแห่งนี้นางถูกจำกัดไปเสียทุกอย่าง หากสามารถออกจากวังไปได้ก็จะเป็นอากาสดีในการบ่มเพาะพลังของนางเอง

เมื่อคิดเช่นนี้ หยุนชางก็พยักหน้า "ชางเอ๋อร์จะทำตามที่ท่านแม่บอก เพียงแต่ข้าจะออกจากวังได้อย่าไงร?"

สนมจิ่นยิ้มเล็กน้อยแต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "เรื่องนี้ เจ้าคอยดูแม่ก็แล้วกัน"

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด