ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 45 นางกำนัลเฉี่ยนอิน

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 45 นางกำนัลเฉี่ยนอิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หากคนของฝ่ายในทำงานอย่างจริงจังขึ้นมา ความเร็วนั้นว่องไวมากก็เร็วมากเช่นกัน เพียงหลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ขันทีฝ่ายในก็พานางกำนัลมา "องค์หญิง ฮองเฮาได้สั่งให้ข้าเลือกนางกำนัลที่ดูฉลาดเฉลียวมาให้องค์หญิง ข้าพามาให้แล้ว องค์หญิงพอใจนางหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?"

หยุนชางมองดูนางอย่างละเอียด นางกำนัลคนนี้รูปลักษณ์น่าเอ็นดู เมื่อมองแวบแรกนางให้ความรู้สึกเช่นเดียวกับฉินเมิ่ง บริสุทธิ์และสะอาดสะอ้าน

หยุนชางยิ้มและถามเบาๆ "เจ้าชื่ออะไร?"

สาวใช้พูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับดวงตากลมกลิ้ง "องค์หญิงกำลังถามข้าใช่หรือไม่? ข้าชื่อเฉี่ยนอิน ปีนี้อายุสิบสี่ปี"

ขันทีมองท่าทางการตอบคำถามของนางกำนัลแล้วพยักหน้าเล็กน้อย เขายิ้มพลางถามว่า "องค์หญิงเพียงแค่ถามชื่อของเจา เจ้าบอกอายุไปด้วยทำไม" หลังจากพูดแล้วเขาก็หันหน้าไปพูดกับหยุนชาง "องค์หญิง ท่านว่าใช้ได้ไหม? แม้ว่านางกำนัลคนนี้จะไม่ถูกใจองค์หญิงอย่างฉินเมิ่ง แต่นางก็คุ้นเคยกับการรับใช้คนเช่นกัน"

หยุนชางพยักหน้า "งั้นก็มาอยู่ที่ตำหนักชิงซินเถอะ ลำบากเจ้าพามาแล้ว"

ฉิงยีก้าวเข้ามาเอาถุงเงินยัดใส่มือของขันที จากนั้นก็ถอยหลังไป ขันทีผู้นั้นยิ้มกว้างขึ้นมาทันที "เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ หากองค์หญิงมีอะไรจะสั่งข้าน้อยก็เชิญบอกมาได้เลย"

หยุนชางเพียงกล่าว "อืม" แล้วขันทีผู้นั้นก็จากไป

ในห้องเหลือเพียงฉิงยีและเฉี่ยนอินสามคน หยุนชางยิ้มพลางโบกมือให้เฉี่ยนอิน "ไม่ได้เจอเจ้ามาสามปีแล้ว โตขึ้นมากจริงๆ"

เฉี่ยนอินยิ้มกว้างและเดินเข้ามายืนด้านหน้าหยุนชาง "องค์หญิงก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน ยิ่งสวยขึ้นเรื่อยๆ"

ฉิงยีได้ยินการสนทนาระหว่างทั้งสองรู้สึกตามไม่ค่อยทัน สักพักจึงเข้าใจขึ้นมา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ "ที่แท้เฉี่ยนอินเป็นคนขององค์หญิงนี่เอง"

หยุนชางและเฉี่ยนอินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนั้น เฉี่ยนอินหันหน้าไปและยิ้มอย่างขี้เล่นให้กับฉิงยี "พี่ฉิงยี ข้าชื่อเฉี่ยนอิน เป็นคนขององค์หญิง สามปีที่แล้วก็ถูกส่งมาที่วังแล้ว หลายปีมานี้ข้าทำงานได้ไม่เลว ได้รับความโปรดปรานจากหัวหน้าขันทีและฮองเฮาและคอยช่วยฮองเฮาทำงานอย่างลับๆ ฮิๆ ได้ยินว่ากำลังเลือกคนมาอยู่กับองค์หญิงที่นี่ ข้าจึงอาสามา"

ฉิงยีมองไปที่เฉี่ยนอินอยู่นานก่อนที่จะพยักหน้า "ข้าคิดไม่ถึงว่าองค์หญิงจะวางแผนมานานแล้ว ดูเหมือนว่าองค์หญิงจะได้เรียนรู้มากมายจากท่านตา มีเฉี่ยนอินอยู่ ข้าก็โล่งใจมากขึ้น"

เฉี่ยนอินยิ้มบางๆ "หลายปีมานี้เฉี่ยนอินอยู่ในวังนั้นไม่ได้เสียเปล่า ตอนนี้มีคนของเราจำนวนมากแฝงอยู่ในพระราชวัง หลายวันมานี้ที่องค์หญิงกลับวัง ฮองเฮาให้คนเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด เฉี่ยนอินไม่กล้ามารายงานองค์หญิง หลังจากรออยู่หลายวัน ในที่สุดก็ได้โอกาส"

หยุนชางพยักหน้า "ไม่ต้องรีบร้อนไป พวกเรายังมีเวลาอีกมาก เจ้าตามฉิงยีไปทำความคุ้นเคยกับที่นี่ก่อนเถอะ"

เฉี่ยนอินได้ยินดังนั้นก็รีบรับคำ "เช่นนั้นก็ต้องรบกวนพี่ฉิงยีแล้ว"

ฉิงยีเดินออกไปพร้อมกับเฉี่ยนอิน หยุนชางค่อยๆเอนกายลงพิงเก้าอี้ รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นที่มุมปากของนาง หัวใจของนางก็ค่อยๆสงบลง นางจะแข็งแกร่งขึ้นทีละเล็กทีละน้อย แข็งแกร่งพอที่จะแก้แค้นคนที่ทำผิดต่อนางในชาติที่แล้วและจะไม่ปล่อยใครไปสักคน

เฉี่ยนอินก็นับว่าน่าทึ่งเช่นกัน ภายในไม่กี่วันนางก็คุ้นเคยกับผู้คนทั้งในและนอกตำหนักชิงซินแล้ว ทุกคนพูดคุยกันไม่กี่คำ ใน ตำหนักชิงซินก็สามารถได้ยินเสียงหัวเราะของนางตลอดทั้งวัน

"เฉี่ยนอินนี่ก่งจริงๆ หากนางไม่ใช่คนขององค์หญิง ข้าคงจะหัวใจแตกสลาย" ฉิงยีกล่าวด้วยรอยยิ้ม

หยุนชางยิ้มเล็กน้อยและไม่ตอบอะไร ตั้งแต่เฉี่ยนอินเข้ามา นอกจากคำพูดสองสามคำที่หยุนชางพูดกับนางในวันแรก ต่อมานางก็ไม่ได้สนใจไยดีอีกเลย เพียงแต่ทุกคนก็ต่างมองออกว่าแม้หยุนชางจะไม่ได้การปฏิเสธเฉี่ยนอิน แต่ก็ปฏิบัติต่อนางด้วยความเฉยเมย

แม้ว่าฉิงยีจะไม่เข้าใจ แต่นางก็รู้ว่าการที่หยุนชางทำเช่นนี้ นางจะต้องมีแผนการอย่างแน่นอน นางจึงไม่ได้ถามอะไรมาก

"องค์หญิง วันนี้อากาศดีมาก พวกเราออกไปเดินเล่นกันเถอะ ข้าเห็นว่าดอกเบญจมาศในอุทยานหลวงกำลังบานอยู่พอดี องค์หญิงจะไม่ไปชมหน่อยหรือเพคะ?" เฉี่ยนอินเดินเข้ามาพร้อมกระถางกุ้ยฮวาที่ตากแห้งแล้ว ในมือยังถือถุงหอมอยู่อีกด้วย

เมื่อเห็นหยุนชางกำลังเหม่อลลอยและไม่ได้ตอบสนอง เฉี่ยนอินจึงพูดอีกครั้ง "องค์หญิงท่านดูสิ ดอกกุ้ยฮวาที่เก็บมาเมื่อไม่กี่วันก่อนตากแห้งแล้ว ที่เก็บมาล้วนเป็นดอกกุ้ยฮวาที่บานครั้งแรกและยังไม่โดนฝน หลังตากแห้งแล้วมีกลิ่นหอมมาก ข้าใช้ดอกกุ้ยฮวามาทำถุงหอม องค์หญิงลองดม… "

หยุนชางได้ยินอย่างนั้นก็เหลือบมองเฉี่ยนอินอย่างเฉยเมยก็เห็นว่านางถือถุงหอมเดินมา หยุนฉางสูดหายใจเข้าเล็กน้อยก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆฟุ้งกระจาย "อืม หอมดี" หยุนชางพยักหน้า

เฉี่ยนอินกล่าวอย่างมีความสุข "งั้นข้าประดับให้องค์หญิงนะเพคะ"

หยุนชางพยักหน้า เฉียนอินจึงผูกถุงหอมไว้ที่เอวของนาง "เมื่อเจ้าบอกว่าอะไรนะ? ดอกเบญจมาศบานแล้วหรือ?"

เฉี่ยนอินพยักหน้าติดๆกัน "เพคะ บานสวยมากเลย"

"ข้าไม่ได้เห็นมันมาหลายปีแล้ว ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้าอยู่ในวังก็มักจะไปดูมันบ่อยๆ แล้วก็ไปเด็ดมันบ่อยๆด้วย เรื่องนี้โดนเสด็จแม่ว่าไปไม่น้อย เอาเถอะ ข้าไม่ได้ออกไปข้างนอกมาสองสามวันแล้ว ไปดูกันเถอะ"

ฉิงยีได้ยินดังนั้นก็รีบนำเสื้อคลุมมาให้หยุนชาง "อากาศหนาวขึ้นเรื่อยๆ องค์หญิงสวมเสื้อคลุมหน่อยดีกว่า"

เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว หยุนชางก็ออกจากตำหนักไปพร้อมกับฉิงยีและเฉี่ยนอิน เมื่อเดินเล่นอยู่ในอุทยานอยู่สักพัก นางก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังแว่วมาแต่ไกล เฉี่ยนอินกล่าวด้วยรอยยิ้ม "วันนี้ช่างบังเอิญเสียจริง ดูเหมือนฮองเฮากำลังชมดอกไม้อยู่กับเหล่านางสนม"

หยุนชางพยักหน้า "ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็กลับกันเถอะ อย่าไปรบกวนความสนุกสนานของพวกนางเลย"

เมื่อกำลังจะกลับไปก็มีนางสนมเห็นพวกนางเข้าแล้ว "เอ๊ะ นั่นไม่ใช่องค์หญิงฮุ่ยกั๋วหรือ? วันนี้ก็มาชมดอกไม้ด้วยหรือ?"

ฮองเฮาได้ยินเช่นนั้นก็มองไปยังหยุนชางที่อยู่ห่างออกไป หยุนชางเห็นฮองเฮากวักมือเรียก นางก็ถอนหายใจ "เฮ้อ คราวนี้ไปไม่ได้แล้ว"

นางเดินไปย่อกายคำนับฮองเฮา "ชางเอ๋อร์ถวายพระพรเสด็จแม่ วันนี้เสด็จแม่ก็มาชมดอกไม้กับเหล่าสนมด้วยหรือเพคะ"

ฮองเฮาพยักหน้า "ใช่ วันนี้อากาศดี ข้าได้ยินมาว่าดอกเบญจมาศในอุทยานหลวงกำลังบานสะพรั่งจึงออกมาเดินเล่น"

สายตาของหยุนชางกวาดมองไปทั่วเหล่านางสนมอย่างแผ่วเบา แต่นางชะงักมองร่างไม่ได้โดดเด่นที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย ท่านแม่…

สายตาของจิ่นเฟยก็สบตานางเข้าพอดี เมื่อเห็นหยุนชางมองมา นางก็แย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย

"ในเมื่อเจ้ามาแล้วก็มาเดินเล่นกับพวกเราเถอะ เจ้าเก็บตัวอยู่แต่ในตำหนักชิงซินทุกวันก็คงจะป่วยจากความเบื่อหน่ายได้" ฮองเฮายิ้มและวางมือลงบนแขนของหยุนชาง

หยุนชางยิ้มเล็กน้อย "เพคะ"

ในขณะที่พวกนางพูดคุยกันพลางชื่นชมดอกไม้ ก็เดินมาถึงทะเลสาบเยี่ยนเชว่ "ฤดูนี้เป็นช่วงที่ปลาในทะเลสาบนี้จะอ้วนที่สุด ได้ยินฝ่าบาทบอกว่า ปีนี้ที่ริมทะเลสาบด้านนั้นปลูกต้นกุ้ยฮวาใหม่หลายต้น เนื้อปลาในทะเลสาบปีนี้ต่างก็มีกลิ่นดอกกุ้ยฮวาเล็กน้อย" นางสนมคนหนึ่งกล่าวอย่างร่าเริง

"จริงเหรอ? ข้าได้ยินมาว่าปลาชนิดนี้สามารถบำรุงความงามได้ ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า"

"นี่ รีบมาเร็ว มีปลาตัวใหญ่อยู่ที่นั่น… " จู่ๆก็มีเสียงแหลมของหญิงดังขึ้น เมื่อเหล่านางสนมได้ยินคำพูดนั้นก็เดินไปที่ริมทะเลสาบ

"ไหนล่ะ?" เมื่อทุกคนเห็นคลื่นสีขาวผุดขึ้นกลางทะเลสาบ บางคนก็ชี้ไปที่คลื่นนั้นอย่างตื่นเต้น

ในสถานการณ์ที่แออัดเช่นนี้ ไม่รู้ว่าบ่าวคนไหนที่ก้าวพลาดลื่นและล้มไปทางเหล่านางสนมที่กำลังมองดูปลาด้วยความสนใจ

"ระวัง… " เสียงร้องแหลมดังขึ้น เมื่อทุกคนหันศีรษะไปก็เห็นว่ามีเงาร่างโถมเข้าไปหาหยุนชาง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด