ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 208 เบาะแสการหายตัวของจิ้งอ๋อง (๓)

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 208 เบาะแสการหายตัวของจิ้งอ๋อง (๓) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อย่างไรก็ตาม หลังจากออกจากตำหนักนอกวังแล้ว คนกลุ่มก็เข้าไปในป่าทึบ หยุนชางขมวดคิ้ว ป่าทึบนี้ตนทราบดี นี่เป็นป่าที่มีตำนานว่ามีผีสิง เพียงแต่ว่าหยุนชางไม่เคยมาเลยสักครั้ง นางไม่ทราบว่าเมื่อถึงเวลากลางคืน ในป่าทึบนี้ก็จะมีหมอก และเมื่อเข้ามาในป่านี้แล้วก็แทบจะมองไม่เห็นเลยว่าข้างหน้าเป็นอย่างไร

หยุนชางขมวดคิ้วเล็กน้อย ช่างเป็นวิธีการที่ฉลาดอะไรเช่นนี้ แล้วเหตุใดพวกเขาจึงกล้าเข้าป่าที่เต็มไปด้วยหมอกอย่างไม่เกรงกลัวใดๆล่ะ?

"ไปกันเถอะ เราถอยออกไปก่อน"หยุนชางโบกมือให้ทุกคนแยกย้ายกันไปก่อน แล้วตนนั้นไปที่จวนจิ้งอ๋อง

หัวหน้าจวนจิ้งอ๋องนั้นเฝ้ารออยู่ที่หน้าประตูตลอดเวลา เมื่อหยุนชางมาถึง เขาก็รีบก้าวไปข้างหน้าและถามว่า "องค์หญิงขอรับ องค์หญิงพบท่านอ๋องหรือไม่ขอรับ?"

หยุนชางส่ายหน้าแล้วเดินเข้าไปด้านใน แล้วพบว่ามีแสงสว่างในห้องหนังสือของจิ้งอ๋อง หยุนชางก้าวเข้าไปในห้องหนังสือ มีคนนั่งอยู่ด้านในสองสามคน หวังจินฮวนนั่งอยู่ด้านหน้าสุด อีกสองคนนั้นดูคุ้นมาก เหมือนว่าตนจะเคยพบเมื่อตอนอยู่ค่ายทหาร แต่คนอื่นๆนั้นค่อนข้างแปลกหน้า

เมื่อทั้งสองเห็นหยุนชาง ต่างก็ตกตะลึง "คุณชายเซียว?"แต่พวกเขากลับเห็นหยุนชางในชุดการแต่งกายหญิงสาว พวกเขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าเปลี่ยนไปมาอยู่นาน พวกเขามองดูหยุนชางอยู่หลายครั้ง ท้ายที่สุดก็มิได้กล่าวกระไร แต่ในใจนั้นกลับสับสนเป็นอย่างมาก นี่มันเกิดอะไรขึ้น คุณชายเซียวกลายเป็นสตรีได้อย่างไรหรือ? ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่ค่ายนางก็อาศัยอยู่ในกระโจมของท่านอ๋อง เป็นไปได้ไหมว่านางกับท่านอ๋องนั้น…

"องค์หญิง ท่านอ๋อง…"หวังจินฮวนลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและมองไปที่หยุนชาง

ชายสองคนประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งที่หวังจินฮวนกล่าว "องค์หญิงงั้นหรือ?!"

หยุนชางพยักหน้าเล็กน้อยไปทางเขาทั้งสอง จากนั้นก็นั่งลงข้างหน้า "พวกเราพบท่านอ๋องแล้ว แต่เขาถูกพาตัวเข้าไปในป่าทึบ ในป่าทึบเต็มไปด้วยหมอก ข้ากังวลว่าจะมีกับดัก ฉะนั้นจึงไม่ตามเข้าไป"

"หมอกหรือ?"หวังจินฮวนพึมพำ "หมอกในป่าทึบนั้นมักจะมีพิษ มันเป็นก๊าซที่ปล่อยออกมาจากดอกไม้พิษในป่า คนเหล่านั้นอยู่ยงคงกระพันต่อพิษหรือ?"

ชายร่างผอมบางที่อยู่ข้างๆได้ยินเช่นนนั้น ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวว่า "ข้าได้ยินมาว่า แคว้นเซี่ยนั้นตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่ราบลุ่ม มีหมอกมากมายในป่าทึบ ดังนั้นคนแคว้นเซี่ยจึงมีความภูมิต้านทานที่พิเศษบางต่อหมอกในป่า และทราบว่าจะเดินทางอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้"

"แคว้นเซี่ยหรือ?"หยุนชางเงยหน้าขึ้นมองชายคนนั้น "หรือว่าจะเป็นอ๋องเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ย?"

หวังจินฮวนไม่ค่อยอยากจะเชื่อนัก "ข้าเคยพบอ๋องเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ยแล้ว เขาดูป่วยอย่างหนัก นอกจากนี้ ท่านอ๋องไม่มีศัตรูในแคว้นเซี่ย แม้ว่าแคว้นเซี่ยจะร่ำรวย แต่ก็เป็นเพียงแคว้นเล็กๆ ประชาากรทั้งหมดยังไม่เยอะเท่านครหลวงของเราเลย พวกเขาจะจับตัวท่านอ๋อง แล้วเป็นศัตรูกับแคว้นหนิงนั้นไม่มีประโยชน์อันใดหรอก"

"หรือว่าเจ้าเคยชินกับการชมการแย่งชิงระหว่างตระกูลใหญ่ๆในพระราชวังหรือ ไม่คาดคิดว่าเจ้ายังเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นอย่างง่ายๆ เท่าที่ข้าทราบมา องค์ชายทั้งหลายของแคว้นเซี่ยนั้นไม่ใช่คนธรรมดา ในสถานการณ์เช่นนี้ การซ่อนตัวของเราไว้ ให้คนอื่นรู้สึกว่าเราอ่อนแออย่างมาก บางทีเช่นนี้สามารถปกป้องตัวเราเองได้ดีกว่าเดิม เมื่อแคว้นเย้หลางเปิดเผยความปรารถนาที่อยากจะจัดงานอภิเษกสมรสระหว่างสองแคว้น แคว้นเซี่ยก็ส่งตัวอ๋องเจ็ดมาทันที นั่นก็เพราะพวกเขากลัวว่าเราจะเข้าร่วมกับแคว้นเย้หลาง หากเราร่วมมือกัน สามารถได้แคว้นเซี่ยมาได้อย่างง่ายดาย แคว้นเซี่ยจ้องเล่นงานจิ้งอ๋องไม่ได้เป็นเพราะความโกรธแค้นส่วนตัว แต่เพราะความแข็งแกร่งของจิ้งอ๋องที่มีในพระราชวัง และอำนาจที่มีเมื่อเกิดสงครามระหว่างพวกเขา ข้าครุ่นคิด หากว่าแคว้นเซี่ยเป็นคนทำเรื่องนี้จริง ไม่ช้าพวกเขาก็จะพยายามโยนความผิดนี้ให้แคว้นเย้หลาง"อาจเป็นเพราะว่าวันนี้เหนื่อยล้าอย่างมาก เสียงของหยุนชางแหบแห้งเล็กน้อย จึงทำให้คำพูดนั้นน่าเชื่อถือขึ้นเป็นอย่างมาก

ทั้งสองคนที่เคยพบกับหยุนชางในค่ายทหารนั้นเคยได้เห็นความเฉลียวฉลาดและความสามารถของหยุนชางแล้ว และแน่นอนว่าพวกเขาเชื่อในคำพูดขอนางโดยธรรมชาติ ดังนั้นพวกเขาจึงถามอย่างเร่งรีบว่า "หาเป็นเช่นนั้น องค์หญิงขอรับตอนนี้เราควรทำอย่างไรดีขอรับ?"

หยุนชางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวว่า "ปิดกั้นประตูเมืองอย่างยิ่งใหญ่ และหาเบาะแสของท่านอ๋อง ยิ่งทำให้เรื่องนี้ใหญ่แค่ไหนยิ่งดี ให้ประชาชนในเมืองนั้นทราบให้หมดว่าท่านอ๋องหายตัวไป และใช้พลังของประชาชน บอกพวกเขาว่าหากเห็นอะไรน่าสงสัย ให้แจ้งทันที ผู้ที่ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์นั้นรับรางวัลเป็นทองคำสองตำลึง"

"แต่ว่าท่านอ๋องนั้นมีชื่อเสียงอย่างมากในหมู่ประชาชน หากประชาชนทราบว่าเกิดเรื่องกับท่านอ๋อง พวกเขาจะต้องตื่นตระหนกเป็นแน่…"ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านหลังสุดกล่าวด้วยความสงสัย

หยุนชางยิ้มมุมปาก "เจ้าคิดว่า แม้เราไม่ทำเช่นนี้ ก็จะไม่มีใครปล่อยข่าวรั่วไหลหรือ? ข้ากลัวว่าคนที่หวังผลนั้นจะทำเช่นนี้ก่อนเรา พวกเจ้าก็ทราบดีว่าเสด็จอานั้นมีชื่อเสียงดีมากในหมู่ประชาชน หากประชาชนทราบว่าเสด็จอาหายตัวไป พวกเขาจะต้องก่อความวุ่นวายขึ้นอย่างแน่นอน เมื่อเสด็จพ่อเห็นเช่นนี้ ก็คงเกิดความสงสัยขึ้นในใจ หากเสด็จพ่อสงสัยเช่นนั้นจึงจะเป็นผลไม่ดีต่อเสด็จอา เราวางเงินรางวัลให้สูง เมื่อเวลามาถึง เสด็จพ่อคงคิดว่าเหล่าประชาชนเป็นเช่นนี้เพราะเงินรางวัล และเช่นนั้นท่านก็จะไม่คิดมาก"

หยุนชางหยุดชะงัก และเห็นว่าสีหน้าของทุกคนดูเคร่งเครียดอย่างมาก แล้วจึงกล่าวอีกครั้งว่า "ส่งคนไปตามเซี่ยโหจิ้งเยอะๆ เขาไปพบใคร เขาทำอะไร และไปที่ไหนบ้าง รายงานมาอย่างละเอียด นอกจากเซี่ยโหจิ้งแล้ว ส่งคนไปจับตาดูจวนมหาเสนาบดี จวนเวิน จวนซุ่นชิ่งอ๋อง เหล่านี้ด้วย"

ทุกคนเงียบไปครู่หนึ่งแล้วมองตากัน ผ่านไปเป็นเวลานาน สองแม่ทัพที่ก็ตอบรับ

เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆไม่มีการตอบสนองใดๆ จึงยิ้มและพูดว่า "เสด็จพ่อของข้าทรงพระราชทานสมรสให้ข้าและจิ้งอ๋องแล้ว หากว่าเสด็จอาเกิดเรื่องในเวลานี้ ข้าก็จะเป็นม่ายทันที เกรงว่าต่อไปจะยาก หากคิดจะสมรสอีกครั้ง ข้าเองก็เป็นเพียงสตรี พวกเจ้าต้องทราบดีว่า บางครั้งสตรีมองว่าชื่อเสียงของการเป็นสตรีนั้นสำคัญยิ่งกว่าชีวิต"

เมื่อหวังจินฮวนได้ยินเช่นนี้ ดวงตาที่เป็นประกายก็มองมาที่หยุนชาง เขาครุ่นคิดเล็กน้อย หยุนชางพูดประโยคเหล่านี้ด้วยรอยยิ้ม แต่ว่าเนื้อหานั้นกลับหนักหน่วงอย่างมาก นางเตือนพวกเขาก่อนว่านางได้รับพระราชทานสมรสกับจิ้งอ๋องมาแล้ว และในอนาคตคงจะเป็นนายหญิงของพวกเขา หากว่าทำให้นายหญิงในอนาคตขุ่นเคือง เขาคงใช้ชีวิตอย่างลำบากแน่นอน นอกจากนี้นางยังระบุด้วยว่านางเห็นว่าคุณค่าของชื่อเสียงของสตรีนั้นสำคัญอย่างมาก นางจะไม่ยอมให้จิ้งอ๋องประสบอุบัติเหตุก่อนที่จะอภิเษกสมรสอย่างแน่นอน เพื่อแสดงจุดยืนของนาง ช่างน่าสนใจเสียจริง

คนอื่นๆ มองหน้ากันและคารวะหยุนชางอย่างรวดเร็ว "ข้าน้อยรอคำสั่งจากองค์หญิงขอรับ"

หยุนชางอมยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้า "เช่นนั้นก็รบกวนทุกท่านด้วยเถอะ"

หยุนชางเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อย แล้วจึงกลับไปที่วัง เฉี่ยนอินรีบดึงหยุนชางและกล่าวว่า "เมื่อสักครู่นั้นฮองเฮาทางเชิญองค์หญิงไปที่วังซีอู๋เพคะ หม่อมฉันกลัวว่าจะเกิดข้อผิดพลาดขึ้น จึงได้ขอให้หัวหน้าแกล้งสลบไปเพคะ และให้การว่าองค์หญิงเป็นเช่นนี้เพราะการหายตัวไปของจิ้งอ๋อง องค์หญิงเศร้าโศกอย่างมากจึงสลบไปเพคะ เมื่อสักครู่นั้นฮองเฮาได้ส่งคนมาเยี่ยมแล้วเพคะ แต่ก็ถูกหัวหน้าหลอกตาไปเพคะ"

หยุนชางพยักหน้า อาจเป็นเพราะฮองเฮาได้ข่าวเรื่องหัวจิ้ง จึงอยากจะถามไถ่ข้า หยุนชางยิ้มมุมปาก ลูกสาวสุดแสนดีของนางทนความเหงาไม่ได้เอง แล้วจะไปโทษใครหรือ

"ข้าทราบแล้ว พรุ่งนี้เช้าข้าจะไปพบท่านแล้วกัน วันนี้ข้าเหนื่อยแล้ว พักผ่อนกันเถอะ"ใกล้จะรุ่งสางแล้ว หยุนชางเหนื่อยมาก จึงหลับลงทันที

เมื่อตื่นนอนก็เกือบเที่ยงวันแล้ว หยุนชางเสวยกระยาหาร และกำลังจะไปที่วังซีอู๋ แต่กลับพบหัวหน้าเจิ้งเดินเข้ามา หยุนชางจึงกล่าวอย่างรวดเร็วว่า "หัวหน้าเติ้งมาหาชางเอ๋อร์ใช่หรือไม่? เพราะพบเบาะแสของเสด็จใช่หรือไม่?"

หัวหน้าเจิ้งได้ยินคำถามของหยุนชาง จึงตกตะลึงเล็กน้อยและส่ายหน้า "เพราะอ๋องเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ยและฮวากั๋วกงเข่วังขอรับ ฮวากั๋วกงกล่าวว่าต้องการขอพบองค์หญิงขอรับ ฝ่าบาทจึงสั่งให้กระหม่อมมาเชิญองค์หญิงขอรับ"

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 208 เบาะแสการหายตัวของจิ้งอ๋อง (๓)

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 208 เบาะแสการหายตัวของจิ้งอ๋อง (๓) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อย่างไรก็ตาม หลังจากออกจากตำหนักนอกวังแล้ว คนกลุ่มก็เข้าไปในป่าทึบ หยุนชางขมวดคิ้ว ป่าทึบนี้ตนทราบดี นี่เป็นป่าที่มีตำนานว่ามีผีสิง เพียงแต่ว่าหยุนชางไม่เคยมาเลยสักครั้ง นางไม่ทราบว่าเมื่อถึงเวลากลางคืน ในป่าทึบนี้ก็จะมีหมอก และเมื่อเข้ามาในป่านี้แล้วก็แทบจะมองไม่เห็นเลยว่าข้างหน้าเป็นอย่างไร

หยุนชางขมวดคิ้วเล็กน้อย ช่างเป็นวิธีการที่ฉลาดอะไรเช่นนี้ แล้วเหตุใดพวกเขาจึงกล้าเข้าป่าที่เต็มไปด้วยหมอกอย่างไม่เกรงกลัวใดๆล่ะ?

"ไปกันเถอะ เราถอยออกไปก่อน"หยุนชางโบกมือให้ทุกคนแยกย้ายกันไปก่อน แล้วตนนั้นไปที่จวนจิ้งอ๋อง

หัวหน้าจวนจิ้งอ๋องนั้นเฝ้ารออยู่ที่หน้าประตูตลอดเวลา เมื่อหยุนชางมาถึง เขาก็รีบก้าวไปข้างหน้าและถามว่า "องค์หญิงขอรับ องค์หญิงพบท่านอ๋องหรือไม่ขอรับ?"

หยุนชางส่ายหน้าแล้วเดินเข้าไปด้านใน แล้วพบว่ามีแสงสว่างในห้องหนังสือของจิ้งอ๋อง หยุนชางก้าวเข้าไปในห้องหนังสือ มีคนนั่งอยู่ด้านในสองสามคน หวังจินฮวนนั่งอยู่ด้านหน้าสุด อีกสองคนนั้นดูคุ้นมาก เหมือนว่าตนจะเคยพบเมื่อตอนอยู่ค่ายทหาร แต่คนอื่นๆนั้นค่อนข้างแปลกหน้า

เมื่อทั้งสองเห็นหยุนชาง ต่างก็ตกตะลึง "คุณชายเซียว?"แต่พวกเขากลับเห็นหยุนชางในชุดการแต่งกายหญิงสาว พวกเขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าเปลี่ยนไปมาอยู่นาน พวกเขามองดูหยุนชางอยู่หลายครั้ง ท้ายที่สุดก็มิได้กล่าวกระไร แต่ในใจนั้นกลับสับสนเป็นอย่างมาก นี่มันเกิดอะไรขึ้น คุณชายเซียวกลายเป็นสตรีได้อย่างไรหรือ? ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่ค่ายนางก็อาศัยอยู่ในกระโจมของท่านอ๋อง เป็นไปได้ไหมว่านางกับท่านอ๋องนั้น…

"องค์หญิง ท่านอ๋อง…"หวังจินฮวนลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและมองไปที่หยุนชาง

ชายสองคนประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งที่หวังจินฮวนกล่าว "องค์หญิงงั้นหรือ?!"

หยุนชางพยักหน้าเล็กน้อยไปทางเขาทั้งสอง จากนั้นก็นั่งลงข้างหน้า "พวกเราพบท่านอ๋องแล้ว แต่เขาถูกพาตัวเข้าไปในป่าทึบ ในป่าทึบเต็มไปด้วยหมอก ข้ากังวลว่าจะมีกับดัก ฉะนั้นจึงไม่ตามเข้าไป"

"หมอกหรือ?"หวังจินฮวนพึมพำ "หมอกในป่าทึบนั้นมักจะมีพิษ มันเป็นก๊าซที่ปล่อยออกมาจากดอกไม้พิษในป่า คนเหล่านั้นอยู่ยงคงกระพันต่อพิษหรือ?"

ชายร่างผอมบางที่อยู่ข้างๆได้ยินเช่นนนั้น ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวว่า "ข้าได้ยินมาว่า แคว้นเซี่ยนั้นตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่ราบลุ่ม มีหมอกมากมายในป่าทึบ ดังนั้นคนแคว้นเซี่ยจึงมีความภูมิต้านทานที่พิเศษบางต่อหมอกในป่า และทราบว่าจะเดินทางอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้"

"แคว้นเซี่ยหรือ?"หยุนชางเงยหน้าขึ้นมองชายคนนั้น "หรือว่าจะเป็นอ๋องเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ย?"

หวังจินฮวนไม่ค่อยอยากจะเชื่อนัก "ข้าเคยพบอ๋องเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ยแล้ว เขาดูป่วยอย่างหนัก นอกจากนี้ ท่านอ๋องไม่มีศัตรูในแคว้นเซี่ย แม้ว่าแคว้นเซี่ยจะร่ำรวย แต่ก็เป็นเพียงแคว้นเล็กๆ ประชาากรทั้งหมดยังไม่เยอะเท่านครหลวงของเราเลย พวกเขาจะจับตัวท่านอ๋อง แล้วเป็นศัตรูกับแคว้นหนิงนั้นไม่มีประโยชน์อันใดหรอก"

"หรือว่าเจ้าเคยชินกับการชมการแย่งชิงระหว่างตระกูลใหญ่ๆในพระราชวังหรือ ไม่คาดคิดว่าเจ้ายังเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นอย่างง่ายๆ เท่าที่ข้าทราบมา องค์ชายทั้งหลายของแคว้นเซี่ยนั้นไม่ใช่คนธรรมดา ในสถานการณ์เช่นนี้ การซ่อนตัวของเราไว้ ให้คนอื่นรู้สึกว่าเราอ่อนแออย่างมาก บางทีเช่นนี้สามารถปกป้องตัวเราเองได้ดีกว่าเดิม เมื่อแคว้นเย้หลางเปิดเผยความปรารถนาที่อยากจะจัดงานอภิเษกสมรสระหว่างสองแคว้น แคว้นเซี่ยก็ส่งตัวอ๋องเจ็ดมาทันที นั่นก็เพราะพวกเขากลัวว่าเราจะเข้าร่วมกับแคว้นเย้หลาง หากเราร่วมมือกัน สามารถได้แคว้นเซี่ยมาได้อย่างง่ายดาย แคว้นเซี่ยจ้องเล่นงานจิ้งอ๋องไม่ได้เป็นเพราะความโกรธแค้นส่วนตัว แต่เพราะความแข็งแกร่งของจิ้งอ๋องที่มีในพระราชวัง และอำนาจที่มีเมื่อเกิดสงครามระหว่างพวกเขา ข้าครุ่นคิด หากว่าแคว้นเซี่ยเป็นคนทำเรื่องนี้จริง ไม่ช้าพวกเขาก็จะพยายามโยนความผิดนี้ให้แคว้นเย้หลาง"อาจเป็นเพราะว่าวันนี้เหนื่อยล้าอย่างมาก เสียงของหยุนชางแหบแห้งเล็กน้อย จึงทำให้คำพูดนั้นน่าเชื่อถือขึ้นเป็นอย่างมาก

ทั้งสองคนที่เคยพบกับหยุนชางในค่ายทหารนั้นเคยได้เห็นความเฉลียวฉลาดและความสามารถของหยุนชางแล้ว และแน่นอนว่าพวกเขาเชื่อในคำพูดขอนางโดยธรรมชาติ ดังนั้นพวกเขาจึงถามอย่างเร่งรีบว่า "หาเป็นเช่นนั้น องค์หญิงขอรับตอนนี้เราควรทำอย่างไรดีขอรับ?"

หยุนชางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวว่า "ปิดกั้นประตูเมืองอย่างยิ่งใหญ่ และหาเบาะแสของท่านอ๋อง ยิ่งทำให้เรื่องนี้ใหญ่แค่ไหนยิ่งดี ให้ประชาชนในเมืองนั้นทราบให้หมดว่าท่านอ๋องหายตัวไป และใช้พลังของประชาชน บอกพวกเขาว่าหากเห็นอะไรน่าสงสัย ให้แจ้งทันที ผู้ที่ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์นั้นรับรางวัลเป็นทองคำสองตำลึง"

"แต่ว่าท่านอ๋องนั้นมีชื่อเสียงอย่างมากในหมู่ประชาชน หากประชาชนทราบว่าเกิดเรื่องกับท่านอ๋อง พวกเขาจะต้องตื่นตระหนกเป็นแน่…"ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านหลังสุดกล่าวด้วยความสงสัย

หยุนชางยิ้มมุมปาก "เจ้าคิดว่า แม้เราไม่ทำเช่นนี้ ก็จะไม่มีใครปล่อยข่าวรั่วไหลหรือ? ข้ากลัวว่าคนที่หวังผลนั้นจะทำเช่นนี้ก่อนเรา พวกเจ้าก็ทราบดีว่าเสด็จอานั้นมีชื่อเสียงดีมากในหมู่ประชาชน หากประชาชนทราบว่าเสด็จอาหายตัวไป พวกเขาจะต้องก่อความวุ่นวายขึ้นอย่างแน่นอน เมื่อเสด็จพ่อเห็นเช่นนี้ ก็คงเกิดความสงสัยขึ้นในใจ หากเสด็จพ่อสงสัยเช่นนั้นจึงจะเป็นผลไม่ดีต่อเสด็จอา เราวางเงินรางวัลให้สูง เมื่อเวลามาถึง เสด็จพ่อคงคิดว่าเหล่าประชาชนเป็นเช่นนี้เพราะเงินรางวัล และเช่นนั้นท่านก็จะไม่คิดมาก"

หยุนชางหยุดชะงัก และเห็นว่าสีหน้าของทุกคนดูเคร่งเครียดอย่างมาก แล้วจึงกล่าวอีกครั้งว่า "ส่งคนไปตามเซี่ยโหจิ้งเยอะๆ เขาไปพบใคร เขาทำอะไร และไปที่ไหนบ้าง รายงานมาอย่างละเอียด นอกจากเซี่ยโหจิ้งแล้ว ส่งคนไปจับตาดูจวนมหาเสนาบดี จวนเวิน จวนซุ่นชิ่งอ๋อง เหล่านี้ด้วย"

ทุกคนเงียบไปครู่หนึ่งแล้วมองตากัน ผ่านไปเป็นเวลานาน สองแม่ทัพที่ก็ตอบรับ

เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆไม่มีการตอบสนองใดๆ จึงยิ้มและพูดว่า "เสด็จพ่อของข้าทรงพระราชทานสมรสให้ข้าและจิ้งอ๋องแล้ว หากว่าเสด็จอาเกิดเรื่องในเวลานี้ ข้าก็จะเป็นม่ายทันที เกรงว่าต่อไปจะยาก หากคิดจะสมรสอีกครั้ง ข้าเองก็เป็นเพียงสตรี พวกเจ้าต้องทราบดีว่า บางครั้งสตรีมองว่าชื่อเสียงของการเป็นสตรีนั้นสำคัญยิ่งกว่าชีวิต"

เมื่อหวังจินฮวนได้ยินเช่นนี้ ดวงตาที่เป็นประกายก็มองมาที่หยุนชาง เขาครุ่นคิดเล็กน้อย หยุนชางพูดประโยคเหล่านี้ด้วยรอยยิ้ม แต่ว่าเนื้อหานั้นกลับหนักหน่วงอย่างมาก นางเตือนพวกเขาก่อนว่านางได้รับพระราชทานสมรสกับจิ้งอ๋องมาแล้ว และในอนาคตคงจะเป็นนายหญิงของพวกเขา หากว่าทำให้นายหญิงในอนาคตขุ่นเคือง เขาคงใช้ชีวิตอย่างลำบากแน่นอน นอกจากนี้นางยังระบุด้วยว่านางเห็นว่าคุณค่าของชื่อเสียงของสตรีนั้นสำคัญอย่างมาก นางจะไม่ยอมให้จิ้งอ๋องประสบอุบัติเหตุก่อนที่จะอภิเษกสมรสอย่างแน่นอน เพื่อแสดงจุดยืนของนาง ช่างน่าสนใจเสียจริง

คนอื่นๆ มองหน้ากันและคารวะหยุนชางอย่างรวดเร็ว "ข้าน้อยรอคำสั่งจากองค์หญิงขอรับ"

หยุนชางอมยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้า "เช่นนั้นก็รบกวนทุกท่านด้วยเถอะ"

หยุนชางเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อย แล้วจึงกลับไปที่วัง เฉี่ยนอินรีบดึงหยุนชางและกล่าวว่า "เมื่อสักครู่นั้นฮองเฮาทางเชิญองค์หญิงไปที่วังซีอู๋เพคะ หม่อมฉันกลัวว่าจะเกิดข้อผิดพลาดขึ้น จึงได้ขอให้หัวหน้าแกล้งสลบไปเพคะ และให้การว่าองค์หญิงเป็นเช่นนี้เพราะการหายตัวไปของจิ้งอ๋อง องค์หญิงเศร้าโศกอย่างมากจึงสลบไปเพคะ เมื่อสักครู่นั้นฮองเฮาได้ส่งคนมาเยี่ยมแล้วเพคะ แต่ก็ถูกหัวหน้าหลอกตาไปเพคะ"

หยุนชางพยักหน้า อาจเป็นเพราะฮองเฮาได้ข่าวเรื่องหัวจิ้ง จึงอยากจะถามไถ่ข้า หยุนชางยิ้มมุมปาก ลูกสาวสุดแสนดีของนางทนความเหงาไม่ได้เอง แล้วจะไปโทษใครหรือ

"ข้าทราบแล้ว พรุ่งนี้เช้าข้าจะไปพบท่านแล้วกัน วันนี้ข้าเหนื่อยแล้ว พักผ่อนกันเถอะ"ใกล้จะรุ่งสางแล้ว หยุนชางเหนื่อยมาก จึงหลับลงทันที

เมื่อตื่นนอนก็เกือบเที่ยงวันแล้ว หยุนชางเสวยกระยาหาร และกำลังจะไปที่วังซีอู๋ แต่กลับพบหัวหน้าเจิ้งเดินเข้ามา หยุนชางจึงกล่าวอย่างรวดเร็วว่า "หัวหน้าเติ้งมาหาชางเอ๋อร์ใช่หรือไม่? เพราะพบเบาะแสของเสด็จใช่หรือไม่?"

หัวหน้าเจิ้งได้ยินคำถามของหยุนชาง จึงตกตะลึงเล็กน้อยและส่ายหน้า "เพราะอ๋องเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ยและฮวากั๋วกงเข่วังขอรับ ฮวากั๋วกงกล่าวว่าต้องการขอพบองค์หญิงขอรับ ฝ่าบาทจึงสั่งให้กระหม่อมมาเชิญองค์หญิงขอรับ"

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+