ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 178 หนิงเย่ จวิ้นอ๋องแห่งจวนซุ่นชิ่งอ๋อง

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 178 หนิงเย่ จวิ้นอ๋องแห่งจวนซุ่นชิ่งอ๋อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากที่จักรพรรดิหนิงจากไปแล้วทุกคนก็ลุกขึ้น แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียง "ว้าย" เมื่อทุกคนหันกลับมาก็เห็นว่าดูเหมือนชางยางอวี้เอ๋อร์จะรีบลุกขึ้นเกินไป เสื้อผ้าที่นางคลุมไว้ก็หล่นลงพื้นอีกครั้งจึงได้กรีดร้องออกมา เมื่อเห็นทุกคนมองมาที่นางอีกครั้ง ใบหน้าของนางก็ซีดเผือดและรีบวิ่งเข้าไปในห้องโดยไม่สนใจสิ่งใดอีก

"อุ๊บ ฮ่าๆ…" ไม่รู้ว่าใครอดไม่ได้หัวเราะออกมา หยุนชางกวาดตาไปแต่ก็ไม่เห็นว่าเป็นใคร นางเห็นแต่เพียงทุกคนในตระกูลหลี่ที่กำลังหน้าดำคร่ำเครียด…

"จิ้งอ๋อง เรื่องในวันนี้หม่อมฉันล่วงเกินแล้ว จิ้งอ๋องโปรดยกโทษให้ข้าหม่อมฉันด้วย หม่อมฉันขอตัวกลับก่อน" อัครมหาเสนาบดีประสานมือคารวะและสะบัดตัวจากไป

เมื่อคนในจวนหลี่เห็นดังนั้นก็ไม่กล้าอยู่ต่อ เกรงว่าหากพวกเขาอยู่ต่อแม้เพียงชั่วครู่ก็อาจจะเสียมารยาทได้ จึงรีบตามหลังอัครมหาเสนาบดีจากไป

ทันทีที่เขาจากไปแล้ว ผู้ที่เหลืออยู่ต่างก็ร่ำลากันอย่างรู้สถานการณ์ หยุนชางยืนอยู่ข้างกายของจิ้งอ๋องและกล่าวคำอำลาทีละคน หลังจากนั้นไม่นานก็เหลือเพียงหวังจินเหยียนและหวังจิ้นฮวน ทั้งสองคนหัวเราะออกมาเสียงดัง หยุนชางสีหน้าเคร่งขรึม ชี้นิ้วไปยังห้องด้านหลังราวอยากบอกว่าชางยางอวี้เอ๋อร์ยังคงอยู่ด้านในนั้น อย่าเพิ่งเสียกิริยาไป

จิ้งอ๋องหันกลับมาเหลือบมอง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ "ข้าเห็นว่าที่นี่สกปรก ไปนั่งที่เรือนรับรองด้านหน้าเถอะ ข้าจะให้คนไล่นางออกไปแล้วรื้อหอนี้ออก" แล้วเขาก็สาวเท้ามุ่งไปยังห้องโถงด้านหน้าจวน

หวังจิ้นฮวนเดินตามไปพาดมือลงบนไหล่ของจิ้งอ๋องและพูดอะไรบางอย่างแล้วหัวเราะคิกคัก จิ้งอ๋องยกมือขึ้นปัดมือของเขาทิ้ง แต่หวังจิ้นฮวนเป็นคนหน้าด้านหน้าทน ผ่านไปสักพักเข้าก็เอามือพาดอีก หยุนชางขมวดคิ้วเล็กน้อย อาการบาดเจ็บของเขา…

"องค์หญิง พวกเราก็ไปนั่งพักที่นั่นสักครู่เถอะเพคะ" นางพูดพลางเขาลดเสียงลง "เมื่อครู่ท่าทางน่ารังเกียจของชางยางอวี้เอ๋อร์นั้นช่างน่าสะใจเสียจริง องค์หญิง ผู้ที่ปรารถนาในตัวท่านอ๋องของท่านเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ท่านดีใจหรือไม่?"

หยุนชางมองนางพร้อมรอยยิ้มกว้างแล้วถลึงตามองนางเล็กน้อย "เหลวไหล"

ที่เรือนรับรองด้านหน้า พี่น้องตระกูลหวังหัวเราะกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะจากไปอย่างพอใจ จึงเหลือเพียงหยุนชางและจิ้งอ๋องเท่านั้นและพวกเขาก็เงียบไป

จิ้งอ๋องถอนหายใจและเงยหน้าขึ้นมองหยุนชาง "เจ้านี่จริงๆ เลย บ้าระห่ำยิ่งนัก!"

หยุนชางเงยหน้าขึ้นมองและยิ้มจนตาหยี ทำให้จิ้งอ๋องใจอ่อนลงและไม่ต่อว่านางอีกต่อไป เขาเพียงพูดว่า "คราวหน้าเจ้าอย่าได้เอาแต่ใจเช่นนี้อีก วันนี้อัครมหาเสนาบดีไม่ได้ตรวจสอบหาความจริง เขาย่อมรู้เป็นธรรมดาว่าเขาถูกวางยา หากเมื่อครู่เขาบอกว่าจะสืบสวนละก็เกรงว่าจะสืบมาถึงตัวเจ้าได้ตั้งนานแล้ว เจ้ายังกล้า ไม่ได้เตรียมการอะไรก็กระทำการเช่นนี้ขึ้นอย่างปุบปับ ได้ยินพ่อบ้านบอกว่าเจ้ายุ่งอยู่ตลอดเวลา ทำไมเจ้ายังมีแก่ใจคิดถึงเรื่องแบบนี้ได้อีก?"

"เสด็จอาพูดอะไรเช่นนี้ คนที่นำทางเสด็จพ่อเป็นพ่อบ้านในจวนของท่าน หากเสด็จอาไม่ได้จงใจให้เขาพาไปผิดห้องแล้วชางเอ๋อร์จะประสบความสำเร็จอย่างง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร?"

หยุนชางยิ้มตาหยีมองไปที่จิ้งอ๋อง "นอกจากนี้ ในเมื่อชางเอ๋อร์กล้าทำย่อมต้องมั่นใจ อย่างไรมหาเสนาบดีก็เป็นผู้ที่รักศักดิ์ศรีอย่างมาก ไม่มีทางที่เขาจะยอมรับว่าเขาถูกวางยา โดยเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านและเสด็จพ่อ อีกทั้งสถานะของชางยางอวี้เอ๋อร์ก็ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แม้ว่านางจะเป็นเพียงบุตรบุญธรรมของราชครูแต่นางก็เป็นทูตที่ชางเจียชิงซูพามายังเมืองหลวงด้วย ไม่ว่าอย่างไรเรื่องจริงก็อยู่ตรงหน้าทุกคน เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่มหาเสนาบดีจะปะทะกับชางเจียชิงซูต่อหน้าทุกคน ไม่เช่นนั้นเสด็จพ่อย่อมต้องโกรธแน่ เขาระมัดระวังมาครึ่งชีวิตแล้วจึงได้รักษาตำแหน่งปัจจุบันของเขาไว้ได้ จะปล่อยให้ตนเองเรือล่มในคลองระบายน้ำ*ไปได้อย่างไร" (*สำนวนจีน อุปมาถึง การควบคุมตนเองไม่ดีจนทำให้เกิดปัญหา)

จิ้งอ๋องส่ายศีรษะ "เจ้ามองจิตใจเขาได้ทะลุปรุโปร่งเสียจริง แม้ว่าออกจะหุนหันพลันแล่นไปบ้าง คราวหน้าอย่าทำเช่นนี้อีก คราวนี้ข้าช่วยเจ้ารับผิดชอบผลที่ตามมา แต่ถ้ามีคราวหน้าอีกข้าจะไม่ช่วยแล้ว"

ดวงตาของหยุนชางเปล่งประกาย นางยิ้มและพยักหน้ารับ เงยหน้าขึ้นและไม่ลืมที่จะประจบเขา "เสด็จอาเป็นคนดีที่สุดเลย"

การประจบสอพลอย่อมฆ่าใครไม่ได้ หยุนชางยิ้มบางๆ จุดจบของชาติที่แล้วทำให้นางเข้าใจหลายสิ่งหลายอย่างมากขึ้น นางรู้ดีว่าแม้ตอนนี้นางจะมีความสามารถในระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังอ่อนแออยู่บ้าง ในเวลานี้ย่อมไม่มีอะไรดีไปกว่าหาที่พึ่งพิง

แต่นางไม่รู้ว่าคำพูดของนางทำให้เกิดคลื่นมากมายเพียงใดในหัวใจของจิ้งอ๋อง

พ่อบ้านในจวนรีบเดินเข้ามาแล้วคำนับพวกเขาก่อนจะกระซิบเบาๆ ว่า "องค์หญิง แม่นางเฉียนเฉี่ยนกล่าวว่ามีธุระบางอย่างอยากพบองค์หญิงขอรับ"

สีหน้าของหยุนชางเปลี่ยนไป นางหันไปมองจิ้งอ๋องด้วยรอยยิ้ม "เสด็จอา ขอยืมใช้ห้องหนังสือของท่านหน่อยได้หรือไม่?"

จิ้งอ๋องพยักหน้าอย่างเรียบเฉยและโบกมือให้พ่อบ้านนำทางหยุนชางไป แล้วจึงหันหลังเดินไปยังที่พักของตนเอง

เมื่อหยุนชางมาถึงห้องหนังสือ หนิงเชียนก็รออยู่ในนั้นแล้ว เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูนางก็หันศีรษะและมองมาทางหยุนชางด้วยดวงตาเย็นชา หยุนชางตกตะลึงเล็กน้อยแล้วจึงยิ้มและกล่าวว่า "สายตาของเฉียนเฉี่ยนทำให้ข้ารู้สึกขนลุกอยู่เล็กน้อย"

หนิงเชียนยิ้มบางๆ "นายท่านอย่าได้ล้อเลียนหนิงเชียนเลย"

หยุนชางเพียงยิ้มและไม่ตอบอะไร นางเดินไปที่เก้าอี้ด้านหลังโต๊ะและนั่งลงพลางมองไปรอบๆ หนิงเชียนรู้ว่านางกังวลเรื่องอะไรจึงส่ายหัว "ข้าน้อยตรวจสอบก่อนเข้ามาแล้ว ไม่มีสายลับอยู่รอบๆ"

หยุนชางพยักหน้า แม้ว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของนางและจิ้งอ๋องจะใกล้ชิดเข้ามาอีกนิด แต่ก็ยังมีบางเรื่องที่นางยังกันเขาไว้ อย่างไรเสียการระวังผู้อื่นนั้นมิควรขาด เดิมทีนางควรไปคุยเรื่องต่างๆ ในที่ที่นางวางใจได้ แต่ตอนนี้ในเมืองหลวงไม่ปกตินัก นางจึงไม่อยากไปก่อปัญหาโดยไม่จำเป็น จวนจิ้งอ๋องปลอดภัยราวป้อมปราการเหล็ก อย่างน้อยก็ต้องไม่มีคนนอกอย่างแน่นอน

"ช่างหลายวันมานี้เฉียนเฉี่ยนทำอะไรบ้าง?" หยุนชางเอ่ยถามอย่างไม่เป็นทางการ

หนิงเชียนก้มศีรษะลงดูเคารพนางยิ่งนัก "องค์หญิงสั่งให้ข้าน้อยสืบเรื่องจิ้งอ๋องอย่างละเอียด แต่ทางด้านข้างกายจิ้งอ๋องเราไม่มีโอกาสลงมือ ข้าน้อยจึงเริ่มลงมือจากข้างกายของหวังจิ้นฮวน ข้าน้อยพบว่าหวังจิ้นฮวนกำลังสืบเรื่องของหนิงเย่ จวิ้นอ๋องแห่งจวนซุ่นชิ่งอ๋อง ดังนั้นข้าจึงเข้าใกล้เขามากขึ้น ข้าน้อยพบว่าหนิงเย่และข่าวลือจากภายนอกดูราวกับเป็นคนละคน แม้ว่าเขาจะแสดงละครเก่งมาก…"

"หืม? ว่ามา…" ครั้งที่แล้วที่หยุนชางพบหนิงเชียนก็รู้ว่านางอยู่ข้างกายหนิงเย่มาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อได้ยินนางเอ่ยถึงเรื่องนี้ นางจึงใส่ใจเป็นอย่างมาก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด