ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 187 หยุนชางและหย่าผินร่วมมือกัน

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 187 หยุนชางและหย่าผินร่วมมือกัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซี่ยโหจิ้งไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาแสดงความเคารพต่อคนทั้งสองเล็กน้อยแล้วหันหลังเดินจากไป

สารถีปิดประตูรถม้า จิ้งอ๋องจึงปล่อยตัวเฉี่ยนหัวออกมา จิ้งอ๋องขมวดคิ้ว ครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่าง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า "เมื่อครู่นี้ เขารู้สึกสงสัยอะไรบางอย่าง"

หยุนชางพยักหน้า แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ในใจคิด เซี่ยโหจิ้งคนนี้จะต้องระวังเขาไว้ให้มากๆ

ทันใดนั้น เฉี่ยนหัวก็กระตุกชายเสื้อของหยุนชาง "องค์หญิงๆ นั่นไงเพคะ นางอยู่ตรงนั้นเพคะ"

หยุนชางหันไปมองตามเฉี่ยนหัว ก็ได้พบกับหญิงสาวนางหนึ่งสวมใส่ชุดสีเขียวเดินออกมาจากหอยวี่หมั่น นางรูปร่างสูงโปร่ง แต่งหน้าเล็กน้อย ถือเป็นสตรีที่สวยงามมากนางหนึ่ง

แต่ก็เป็นดังเช่นที่เฉี่ยนหัวได้พูดไว้ แม่นางผู้นี้ดูมีเลศนัย ไม่ว่าจะเป็นการท่วงท่าการเดิน อากัปกิริยา หรือการแสดงความรู้สึกต่างๆล้วนดูไม่เป็นธรรมชาติ ราวกับว่ากำลังซ่อนเร้นบางสิ่งบางอย่างไว้

หยุนชางหรี่ตาจ้องไปที่แม่นางผู้นั้น สักพักก็รู้สึกตกใจขึ้นมาเล็กน้อย "แม่นางผู้นี้ ไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย"

"หา?" เฉี่ยนหัวตกใจ "สิ่งที่องค์หญิงตรัส หม่อมฉันไม่เข้าใจเพคะ"

แต่จิ้งอ๋องนั้นกลับเข้าใจคำพูดของนางได้อย่างรวดเร็ว เขามองตามหยุนชางไปยังแม่นางคนนั้น เมื่อมองเสร็จ เขาเอ่ยขึ้นว่า "ผู้ชายปลอมตัวเป็นผู้หญิง"

หยุนชางพยักหน้า ใช่แล้ว แม่นางผู้นี้จริงๆก็คือผู้ชายที่ปลอมตัวมา รูปลักษณ์ภายนอกดูเผินๆก็คือหญิงงามนางหนึ่ง แม้จะตัวสูงใหญ่กว่าผู้หญิงทั่วไปอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่สะดุดตาเท่าใดนัก ด้วยความที่เขาปลอมตัวเป็นผู้หญิง คงจะระแวงว่าจะมีผู้อื่นล่วงรู้ จึงต้องคอยระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งแววตา ก็เหมือนจะผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่นางต้องคอยระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเช่นนี้ แม้ท่าทางของนางจะเหมือนกับผู้หญิงทั่วๆไป แต่ความเป็นธรรมชาตินั้นดูจะมีน้อยกว่าผู้หญิงแท้ๆมาก

"แล้วเขาคนนั้นจะปลอมตัวเป็นผู้หญิงเพื่อมาลอบพบกับอ๋องเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ยเพื่ออะไรกันล่ะ?" เฉี่ยนหัวขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

หยุนชางครุ่นคิดแล้วจึงพูดว่า "หรือว่าตอนที่เขาเป็นผู้ชายนั้น มีคนที่รู้จักเขาหลายคน ก็เลยกลัวว่าจะมีปัญหาอื่นๆตามมา จึงต้องแต่งกายเป็นสตรีเช่นนี้"

เซี่ยโหจิ้งไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาแสดงความเคารพต่อคนทั้งสองเล็กน้อยแล้วหันหลังเดินจากไป

สารถีปิดประตูรถม้า จิ้งอ๋องจึงปล่อยตัวเฉี่ยนหัวออกมา จิ้งอ๋องขมวดคิ้ว ครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่าง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า "เมื่อครู่นี้ เขารู้สึกสงสัยอะไรบางอย่าง"

หยุนชางพยักหน้า แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ในใจคิด เซี่ยโหจิ้งคนนี้จะต้องระวังเขาไว้ให้มากๆ

ทันใดนั้น เฉี่ยนหัวก็กระตุกชายเสื้อของหยุนชาง "องค์หญิงๆ นั่นไงเพคะ นางอยู่ตรงนั้นเพคะ"

หยุนชางหันไปมองตามเฉี่ยนหัว ก็ได้พบกับหญิงสาวนางหนึ่งสวมใส่ชุดสีเขียวเดินออกมาจากหอยวี่หมั่น นางรูปร่างสูงโปร่ง แต่งหน้าเล็กน้อย ถือเป็นสตรีที่สวยงามมากนางหนึ่ง

แต่ก็เป็นดังเช่นที่เฉี่ยนหัวได้พูดไว้ แม่นางผู้นี้ดูมีเลศนัย ไม่ว่าจะเป็นการท่วงท่าการเดิน อากัปกิริยา หรือการแสดงความรู้สึกต่างๆล้วนดูไม่เป็นธรรมชาติ ราวกับว่ากำลังซ่อนเร้นบางสิ่งบางอย่างไว้

หยุนชางหรี่ตาจ้องไปที่แม่นางผู้นั้น สักพักก็รู้สึกตกใจขึ้นมาเล็กน้อย "แม่นางผู้นี้ ไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย"

"หา?" เฉี่ยนหัวตกใจ "สิ่งที่องค์หญิงตรัส หม่อมฉันไม่เข้าใจเพคะ"

แต่จิ้งอ๋องนั้นกลับเข้าใจคำพูดของนางได้อย่างรวดเร็ว เขามองตามหยุนชางไปยังแม่นางคนนั้น เมื่อมองเสร็จ เขาเอ่ยขึ้นว่า "ผู้ชายปลอมตัวเป็นผู้หญิง"

หยุนชางพยักหน้า ใช่แล้ว แม่นางผู้นี้จริงๆก็คือผู้ชายที่ปลอมตัวมา รูปลักษณ์ภายนอกดูเผินๆก็คือหญิงงามนางหนึ่ง แม้จะตัวสูงใหญ่กว่าผู้หญิงทั่วไปอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่สะดุดตาเท่าใดนัก ด้วยความที่เขาปลอมตัวเป็นผู้หญิง คงจะระแวงว่าจะมีผู้อื่นล่วงรู้ จึงต้องคอยระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งแววตา ก็เหมือนจะผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่นางต้องคอยระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเช่นนี้ แม้ท่าทางของนางจะเหมือนกับผู้หญิงทั่วๆไป แต่ความเป็นธรรมชาตินั้นดูจะมีน้อยกว่าผู้หญิงแท้ๆมาก

"แล้วเขาคนนั้นจะปลอมตัวเป็นผู้หญิงเพื่อมาลอบพบกับอ๋องเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ยเพื่ออะไรกันล่ะ?" เฉี่ยนหัวขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

หยุนชางครุ่นคิดแล้วจึงพูดว่า "หรือว่าตอนที่เขาเป็นผู้ชายนั้น มีคนที่รู้จักเขาหลายคน ก็เลยกลัวว่าจะมีปัญหาอื่นๆตามมา จึงต้องแต่งกายเป็นสตรีเช่นนี้"

จักรพรรดิหนิงพยักหน้า "หย่าผินพูดได้ดี" ตรัสจบแล้วก็หันไปทอดพระเนตรหยุนชางที่กำลังยืนยิ้มน้อยๆอยู่ "เออหนอ ชางเอ๋อร์นี่ก็จริงๆเลย จะชอบใครก็ไม่ชอบ ดันมาชอบจิ้งอ๋องนี่เสียได้"

หยุนชางมิได้โต้แย้งประการใด นางยิ้มจนตาหยี แล้วเอ่ยขึ้นมา "เสด็จพ่อทรงชอบล้อหม่อมฉันเล่นอยู่เรื่อยเลยนะเพคะ" พวกเขาสนทนากันต่อสักพัก หยุนชางเห็นว่าจิ้งอ๋องยังมีเรื่องอื่นๆที่ต้องกราบทูลต่อจักรพรรดิหนิง จึงขอตัวออกมาก่อน เมื่อนางกำลังจะเดินออกมา หย่าผินเองก็ขอตัวเดินออกมาพร้อมนางด้วย

หยุนชางและหย่าผินเดินกลับวังหลังด้วยกัน ทั้งสองเดินเงียบมาตลอดทาง สักพักหนึ่ง ก็มีเสียงหย่าผินพูดขึ้นว่า "เมื่อวานนี้หม่อมฉันได้ไปเข้าเฝ้าฮองเฮา ฮองเฮาทรงสั่งให้หม่อมฉันคอยอยู่ใกล้ๆฮ่องเต้ และยังบอกหม่อมฉันอีกว่าฮ่องเต้ทรงโปรดสตรีที่แต่งกายเช่นไร ทรงโปรดกลิ่นหอมแบบไหน ทรงชอบเสวยสิ่งใดเป็นพิเศษ"

หยุนชางรับฟังสิ่งที่หย่าผินพูด เวลานี้ฮองเฮาทรงถูกกักบริเวณอยู่ที่วังชีอู๋ แต่ว่า แม้ตัวจะถูกกักบริเวณแต่ใจยังคงคอยคิดก้าวก่ายธุระต่างๆ ตราบใดที่ยังมีนางอยู่ในวังหลัง วังหลังก็คงยากที่จะสงบสุข

"แล้วนางก็ให้ท่านมาคอยใกล้ชิดเอาใจข้าอีกคนด้วยสินะ?" หยุนชางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

หย่าผินเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้นว่า "ฮองเฮาตรัสว่า องค์หญิงฮุ่ยกั๋วแม้จะดูไม่มีพิษมีภัย แต่จริงๆแล้วกลับเป็นบุปผาซ่อนยาพิษ หากว่าหม่อมฉันพยายามมาใกล้ชิดเพื่อเอาอกเอาใจองค์หญิงมากจนผิดสังเกต ฮองเฮาเกรงว่าองค์หญิงจะพลอยไม่ชอบหน้าหม่อมฉัน ดังนั้นจะใจร้อนไม่ได้ ต้องพยายามหาเรื่องบังเอิญมาใกล้ชิดองค์หญิงจึงจะดีที่สุด แต่ก็ต้องระวังไม่ให้ดูจงใจมากเกินไปเพคะ"

หยุนชางพยักหน้า "ช่วงนี้นางหาได้อยู่ว่างๆไม่ นางคงจะพินิจพิเคราะห์ความชอบและอุปนิสัยของข้าเอาไว้เป็นอย่างดี"

หย่าผินยิ้ม "เกรงว่าจะไม่ใช่แค่พินิจพิเคราะห์น่ะสิเพคะ เมื่อหลายวันก่อน หม่อมฉันเห็นคนของฮองเฮาแอบไปที่ห้องของเมิ่งเจี๋ยยวี๋ด้วยนะเพคะ"

"หา?" ฉินเมิ่งงั้นหรือ? หยุนชางที่กำลังก้าวเดินอยู่พลันหยุดชะงักในทันที ช่วงนี้ตนไม่ค่อยได้ยุ่งกับฮองเฮาเท่าไร แต่ฮองเฮานี่ก็ช่างเหลือร้าย รู้ทั้งรู้ว่าฉินเมิ่งนั้นเกลียดนางเข้าไส้ แต่นางกลับไม่สนใจ ซ้ำยังจะลากเอาฉินเมิ่งให้ไปร่วมมือกับนางอีก

แต่หยุนชางก็ต้องยอมรับว่าสายพระเนตรของฮองเฮานั้นช่างเฉียบแหลมนัก แม้ว่าฉินเมิ่งจะไม่ชอบฮองเฮา แต่ฉินเมิ่งเป็นคนเก่งที่ยึดถือผลประโยชน์และค่าตอบแทนเป็นที่ตั้ง ขอเพียงให้ค่าตอบแทนที่นางพอใจ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเคยเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานานแค่ไหน นางก็สามารถเป็นมิตรด้วยได้

เซี่ยโหจิ้งไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาแสดงความเคารพต่อคนทั้งสองเล็กน้อยแล้วหันหลังเดินจากไป

สารถีปิดประตูรถม้า จิ้งอ๋องจึงปล่อยตัวเฉี่ยนหัวออกมา จิ้งอ๋องขมวดคิ้ว ครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่าง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า "เมื่อครู่นี้ เขารู้สึกสงสัยอะไรบางอย่าง"

หยุนชางพยักหน้า แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ในใจคิด เซี่ยโหจิ้งคนนี้จะต้องระวังเขาไว้ให้มากๆ

ทันใดนั้น เฉี่ยนหัวก็กระตุกชายเสื้อของหยุนชาง "องค์หญิงๆ นั่นไงเพคะ นางอยู่ตรงนั้นเพคะ"

หยุนชางหันไปมองตามเฉี่ยนหัว ก็ได้พบกับหญิงสาวนางหนึ่งสวมใส่ชุดสีเขียวเดินออกมาจากหอยวี่หมั่น นางรูปร่างสูงโปร่ง แต่งหน้าเล็กน้อย ถือเป็นสตรีที่สวยงามมากนางหนึ่ง

แต่ก็เป็นดังเช่นที่เฉี่ยนหัวได้พูดไว้ แม่นางผู้นี้ดูมีเลศนัย ไม่ว่าจะเป็นการท่วงท่าการเดิน อากัปกิริยา หรือการแสดงความรู้สึกต่างๆล้วนดูไม่เป็นธรรมชาติ ราวกับว่ากำลังซ่อนเร้นบางสิ่งบางอย่างไว้

หยุนชางหรี่ตาจ้องไปที่แม่นางผู้นั้น สักพักก็รู้สึกตกใจขึ้นมาเล็กน้อย "แม่นางผู้นี้ ไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย"

"หา?" เฉี่ยนหัวตกใจ "สิ่งที่องค์หญิงตรัส หม่อมฉันไม่เข้าใจเพคะ"

แต่จิ้งอ๋องนั้นกลับเข้าใจคำพูดของนางได้อย่างรวดเร็ว เขามองตามหยุนชางไปยังแม่นางคนนั้น เมื่อมองเสร็จ เขาเอ่ยขึ้นว่า "ผู้ชายปลอมตัวเป็นผู้หญิง"

หยุนชางพยักหน้า ใช่แล้ว แม่นางผู้นี้จริงๆก็คือผู้ชายที่ปลอมตัวมา รูปลักษณ์ภายนอกดูเผินๆก็คือหญิงงามนางหนึ่ง แม้จะตัวสูงใหญ่กว่าผู้หญิงทั่วไปอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่สะดุดตาเท่าใดนัก ด้วยความที่เขาปลอมตัวเป็นผู้หญิง คงจะระแวงว่าจะมีผู้อื่นล่วงรู้ จึงต้องคอยระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งแววตา ก็เหมือนจะผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่นางต้องคอยระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเช่นนี้ แม้ท่าทางของนางจะเหมือนกับผู้หญิงทั่วๆไป แต่ความเป็นธรรมชาตินั้นดูจะมีน้อยกว่าผู้หญิงแท้ๆมาก

"แล้วเขาคนนั้นจะปลอมตัวเป็นผู้หญิงเพื่อมาลอบพบกับอ๋องเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ยเพื่ออะไรกันล่ะ?" เฉี่ยนหัวขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

หยุนชางครุ่นคิดแล้วจึงพูดว่า "หรือว่าตอนที่เขาเป็นผู้ชายนั้น มีคนที่รู้จักเขาหลายคน ก็เลยกลัวว่าจะมีปัญหาอื่นๆตามมา จึงต้องแต่งกายเป็นสตรีเช่นนี้"

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด