ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 233 คลอดก่อนกำหนด (๒)

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 233 คลอดก่อนกำหนด (๒) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หยุนชางรู้สึกเพียงว่าตนตัวเย็นไปทั้งตัว ตัวสั่นตลอดเวลา เมื่อเห็นว่าหมอตำแยกำลังช่วยเหลือพระสนมจิ่นอย่างเป็นขั้นเป็นตอน หยุนชางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทำให้ร่างกายของนางนิ่งลง และเปิดประตูให้ฉินยีเข้ามาช่วย แต่ใช้สายตาจ้องหมอตำแยและนางกำนัลเหล่านั้นอย่างเย็นชา "พวกเจ้าจะให้ข้าส่งพวกเจ้าออกไป หรือออกไปด้วยตัวของพวกเจ้าเอง?"

นางกำนัลเหล่านั้นรีบวิ่งออกไป หยุนชางสูดหายใจเข้าลึกๆ และระงับ อารมณ์ในใจแล้วเดินออกไป ทวนคำพูดของหญิงชราเมื่อครู่นี้

สีพระพักตร์ของจักรพรรดิหนิงก็ซีดอย่างกะทันหัน "สารเลว!"

หยุนชางจุกอก น้ำตาไหลออกมา "ถ้าไม่ใช่ชางเอ๋อร์บังอาจขอเข้าไปด้านใน ถ้าไม่ใช่เพราะเสด็จอาพาหมอตำแยมาได้ทันเวลา เกรงว่า ชางเอ๋อร์จะไม่มีวาสนาได้เจอน้องในท้องเสด็จแม่อีกแล้ว เกรงว่า แม้แต่เสด็จแม่ก็จะไม่มีวันได้เจอแล้ว"

จิ้งอ๋องที่ก้มศีรษะไว้ในตอนแรก ได้ยินเสียงพูดที่สะอื้นของหยุนชางก็เงยหน้าขึ้น เห็นตาแดงก่ำของหยุนชางเต็มไปด้วยความกังวลและความเศร้าเข้ามาในดวงตาของเขา จิ้งอ๋องรู้สึกเพียงว่าหัวใจของเขาถูกดึงโดยบางสิ่งบางอย่างและมันก็เจ็บปวดเล็กน้อย จึงเดินไปหาหยุนชาง เขาเอื้อมมือไปโอบกอดหยุนชาง และกระซิบว่า "ร่างกายเจ้ายังไม่ฟื้นตัวดี ไม่ต้องกังวล ให้ข้าจัดการเอง"

หลังจากได้ยินคำพูดนั้นหยุนชางสงบลง เอนกายลงในอกของจิ้งอ๋อง รู้สึกหายใจติดขัดเล็กน้อย หายใจไม่ออก นางจึงกัดริมฝีปากและพึมพำ "ใจเย็นๆ…" ในใจ

"ท่านพี่ ไม่รู้ว่าใครกันที่กล้าได้เยี่ยงนี้ ต้องการลอบสังหารรัชทายาท ต้องโทษไม่น้อยเลยทีเดียว หม่อมฉันอยากรู้ว่าใครกันที่กล้าขนาดนี้ เรื่องนี้สำคัญมาก หม่อมฉันขอให้มีคำสั่งสอบสวนเรื่องนี้ อย่างละเอียดถี่ถ้วน" จิ้งอ๋องพูดกับจักรพรรดิหนิง

จักรพรรดิหนิงจ้องมองไปที่ประตู หยุดชั่วขณะ แล้วพยักหน้า "ตกลง มอบให้เจ้าไปตรวจสอบ"

ฮองเฮาที่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ หยุนชางเห็นพระพักตร์นางซีดเล็กน้อย หยุนชางยิ้มอย่างเย็นชา เรื่องนี้ฮองเฮาต้องมีส่วนรู้เห็นเป็นแน่ เพียงเพราะหมอตำแยเหล่านี้เป็นคนในวังทั้งหมด นอกจากฮองเฮาแล้วไม่มีใครสามารถจัดการเรื่องในวังได้

เกรงว่าเป็นเพราะพระสนมจิ่นไปพักฟื้นที่วังเฟิ่งไหล ฮองเฮาไม่เคยมีโอกาสเลย ในที่สุดนางก็รอพระสนมจิ่นกลับมาที่วัง แต่กลัวว่าหลังงานแต่งหยุนชางแล้วจะจากไปอีกครั้ง ดังนั้นนางจึงต้องรีบลงมือ นางกำลังเดิมพัน ด้วยว่านางสนมของฝ่าบาทกำลังให้กำเนิดบุตร คงไม่มีใครกล้าบุกเข้าไป เมื่อพระสนมจิ่นเสียชีวิต ทุกอย่างเป็นไปตามแผน และนางมีเวลาที่จะทำลายหลักฐาน

เมื่อคิดเช่นนี้ ดวงตาของหยุนชางเริ่มเย็นชาลง ฮองเฮา คราวนี้ตนจะไม่มีวันปล่อยนางไป

ทุกคนรอไปสักพัก ฉินยีก็เดินออกมาพร้อมถือกระดาษแผ่นหนึ่งอยู่ในมือ และโค้งคำนับให้ทุกคน "เมื่อครู่ หมอตำแยใช้เข็มสีทองเจาะเลือดเพื่อหยุดความเจ็บปวดของพระสนม ตอนนี้พระอาการของพระสนมดีขึ้นแล้ว อาจเพราะความเจ็บปวดในเมื่อครู่ พระสนมได้ผล็อยหลับไปเสียแล้ว หมอตำแยบอกว่า พระนางจะต้องเสวยยานานกว่าหนึ่งเดือนเพื่อบำรุงพระครรภ์ หมอตำแยได้สั่งยามาแล้ว หม่อมฉันขอไปที่สำนักหมอหลวงเพื่อรับยาก่อนเพคะ"

จักรพรรดิหนิงและหยุนชางถอนหายใจด้วยความโล่งอก สีหน้าของพวกเขาก็ผ่อนคลายลงได้เล็กน้อย

จักรพรรดิหนิงยืนขึ้น เสด็จเข้าไปในห้องโถง

หยุนชางหันศีรษะและมองดูฮองเฮาอย่างเย็นชา "ฮองเฮาทรงทราบหรือไม่ว่า สิ่งที่พระองค์ทำในวันนี้ มันจะส่งผลอย่างไรต่อท่าน ต่อหัวจิ้ง และจวนหลี่?"

ฮองเฮาทำพระทัยของนางให้มั่นคง ค่อยๆลืมพระเนตรขึ้นมองหยุนชาง ขมวดคิ้ว ใช้สายพระเนตรสงบเพื่อซ่อนความกลัวของนางในส่วนลึกที่สุดของหัวใจ "องค์หญิงฮุ่ยกั๋ว… โอ้ ตอนนี้ควรเรียกว่าพระชายาจิ้งอ๋องแล้ว พระชายาจิ้งอ๋องกำลังพูดอะไรหรือ? ทำไมข้าฟังไม่เข้าใจสักคำ?"

หยุนชาง "ฮ่าฮ่า" หัวเราะเยาะอย่างเย็นชา "ฮองเฮา ตอนนี้ทรงไม่ทราบไม่เป็นไรเพคะ อีกไม่นานก็จะทราบเอง ฮองเฮาทรงทราบหรือไม่ว่า ใครคือพ่อเด็กในท้องขององค์หญิงหัวจิ้ง? นางตั้งครรภ์ได้อย่างไร? ฮองเฮาทรงทราบหรือไม่ว่า ทำไมพี่หญิงที่แสนดีของหม่อมฉันจึงอยู่ในคุกนานกว่าสองเดือน? แล้วทำไมนางจึงแท้ง หม่อมฉันได้ยินมาว่านางสนมที่เป็นหญิงงามมีอายุสิบกว่าปีของท่านเสนาบดีหลี่กำลังจะเข้าจวน? ได้ยินมาว่าหลี่ลั่ว นายน้อยที่เป็นที่โปรดปรานมากที่สุดในจวนหลี่ได้ตกหลุมรักหญิงในหอนางโลม?…"

ทุกประโยคที่หยุนชางพูดออกมา สีพระพักตร์ของฮองเฮาก็ดูแย่มากขึ้น อย่างไรก็ตามนางอดไม่ได้ที่จะขัดจังหวะคำพูดของหยุนชาง หยุนชางยิ้มอย่างเย็นชา และมองไปที่ฮองเฮาอย่างดุดัน "ทำไมเพคะ ฮองเฮาไม่สามารถทนได้แล้วหรือเพคะ กี่สิ่งที่ฮองเฮาได้ทรงทำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีกี่ชีวิตที่ถูกทำลายในมือของฮองเฮา และจำนวนสินบนที่ฮองเฮาที่ช่วยท่านเสนาบดีหลีรับอย่างเงียบๆ พระองค์ว่า ถ้าเสด็จพ่อทรงทราบเรื่องทั้งหมด ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไรเพคะ?"

"หนิงหยุนชาง เจ้าอย่าได้มาใส่ร้ายป้ายสี!" ฮองเฮาชี้ไปที่หยุนชางอย่างโกรธจัดและอยากจะตะโกน แต่ก็กลัวว่าจักรพรรดิหนิงที่อยู่ข้างในจะได้ยิน ฉะนั้นนางจึงลดเสียงลง ทำให้คำพูดเดิมที่มีอำนาจอย่างมากต้องดูไร้ประโยชน์

"ใส่ร้ายป้ายสี?" หยุนชางหันกลับมา "ข้าไม่เคยใส่ร้ายใคร ข้าจะไม่พูดถ้าไม่มีหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ต่อให้ไม่มีหลักฐาน ข้าก็จะสร้างหลักฐานออกมาได้ ฮองเฮา ขอท่านจงทรงวางพระทัยได้"

ฮองเฮาเห็นว่ายังมีคนอยู่รอบๆ นางจึงไม่กล้าตรัสอะไรมาก กลัวว่าหยุนชางจะพูดอะไรมากกว่านี้ นางจึงสะบัดแขนเสื้อและกัดฟันตรัสว่า "หนิงหยุนชาง เจ้าคอยดูเถอะ…"

"ฮองเฮาต้องการให้ผู้ใดรอดูหรือ?" จิ้งอ๋องขมวดคิ้วเล็กน้อย "ฮองเฮาดูเหมือนจะชอบใช้ตำแหน่งกดคนเสียจริง และก็มักจะข่มขู่ชายาของข้าด้วย ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เพื่อให้ชายาของข้าสบายใจ ตำแหน่งฮองเฮานี้ ไม่จำเป็นต้องมีแล้วมั้ง"

ฮองเฮาเกรี้ยวจนสั่นสะท้าน แต่ไม่กล้าพูดอะไร นางรู้จักจิ้งอ๋องดี ผู้ไม่เกรงกลัวอะไรเลย และความดีความชอบด้านศึกสงครามของจิ้งอ๋องนั้นเป็นที่ประจักษ์ ผลงานที่มีต่อแคว้นหนิงก็ไม่ด้อยไปกว่าท่านพ่อของตน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเขายังคงเป็นผู้บัญชาการทหาร เก่งกาจเผด็จการ เป็นผู้ที่ตนไม่สามารถยั่วยุได้เลย

ฮองเฮากัดฟัน หนิงหยุนชางโชคดีจริงๆ นางหาที่พึ่งสำหรับตัวเอง ฮองเฮานิ่งสงบชั่วครู่ แล้วค่อยหันหลังเดินจากไป

"เจ้าบอกสิ่งเหล่านี้กับนาง เจ้าไม่กลัวว่านางจะตั้งมือรับหรอกหรือ และมันจะยากสำหรับเจ้าที่จะจัดการกับมันนะ?" จิ้งอ๋องก้มศีรษะลงและมองไปยังหญิงที่พิงบนกายเขา

หยุนชางหลับตาและส่ายหัว "เตรียมการป้องกันแล้วยังไง ข้าก็มีหลายๆอย่างอยู่ในมือ อีกทั้ง ข้ากลัวว่านางจะไม่ทำลายหลักฐาน ข้าจะส่งคนไปจับตานางต่อไป ขอเพียงแค่นางทำลายหลักฐาน ข้าก็จะมีเบี้ยต่อรองที่มากขึ้น นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้ามีอะไรอยู่ในมือ เกรงว่านางคงจะหวาดกลัวไปสักระยะหนึ่งได้ ข้าจะให้นางต้องคอยหวาดกลัวและตื่นตระหนกไปทุกวัน"

พูดจบก็รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย หลับตาแล้วพูดว่า "หมอตำแยบอกว่าในตัวข้ามีกลิ่นแปลกๆ มองดูสีหน้าแล้ว เกรงว่าเสด็จแม่ จะเป็นเพราะข้า…" หยุนชางหยุด ยืนตัวตรง นัยน์ตาสองข้างมีน้ำตาคลอ "ข้าอยากกลับไปอาบน้ำ"

จิ้งอ๋องพยักหน้า "ที่นี่มีฉินยีคอยเฝ้าอยู่ และข้าจะให้คนมาเฝ้ามากขึ้น มีอะไรจะเกิดขึ้นเราจะทราบได้โดยเร็ว ข้าจะพาเจ้ากลับจวน"

หยุนชางเอนกายลงต่อหน้าจิ้งอ๋องด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า และจิ้งอ๋องอุ้มนางออกจากวัง

ยังไม่ทันถึงจวน หยุนชางก็ผล๊อยหลับไปแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะพิธีงานมงคลสมรสในวันนี้ใช้เวลายาวเกินไป และชุดที่สวมใส่ก็หนักมาก จึงทำให้นางเหนื่อย บวกกับความตกใจที่นางได้รับ ทันทีที่ได้ปลดปล่อยความกังวลในใจ จึงฝืนทนไม่ไหวแล้ว

………….

หยุนชางฝันถึงเหิงเอ๋อร์อีกแล้ว เหิงเอ๋อร์ที่ตัวเล็กๆ ผิวขาวๆ และน่ารักมาก แค่ว่าร่างกายของเขาไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ ต้องดื่มยามากมายทุกวัน ทุกครั้งหลังจากที่นางป้อนเหิงเอ๋อร์ดื่มยา นางก็มักจะแอบไปร้องไห้เงียบๆคนเดียว คิดเสมอว่าทำไมความเจ็บปวดทรมานเยี่ยงนี้ทำไมถึงเป็นที่ตัวนางเอง

ทันใดนั้น ความฝันก็เปลี่ยนไป หยุนชางฝันเห็นว่านั่นเป็นเหมือนห้องครัว และเหลียนซินกำลังต้มยาอยู่ หยุนชางได้ยินเหลียนซินพึมพำอยู่คนเดียว "คงจะไม่ทำให้ถึงตายหรอกมั้ง แค่ทำให้ร่างกายเขาอ่อนแอลง คงจะไม่ตายได้ในครั้งเดียว"

หยุนชางคิดในใจว่า ตายอะไร?

กำลังคาดเดา เห็นเหลียนซินหยิบถุงกระดาษออกจากแขนเสื้อของนาง พอเปิดออก มันเต็มไปด้วยผงละเอียด หยุนชางเหมือนถูกบีบคอ รู้สึกกระสับกระส่าย แต่นางก็บอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร

หยุนชางมองดูเหลียนซินคนโถยา เทยาลงในชาม แล้วนำออกจากครัว และออกจากครัว สถานที่ที่ค่อนข้างจะคุ้นเคย เป็นลานเล็กๆ ไม่สง่าเลิศเลอ ของในลานบ้านน้อยมาก แต่มีดอกไม้วางไว้พอสมควร นั่นคือ… นั่นคือลานบ้านที่นางเคยอาศัยของจวนโม่ หยุนชางคิดในใจ และเห็นเหลียนซินกำลังถือถ้วยยา ในห้อง หยุนชางเห็นตนนั่งอยู่ข้างเปล มองไปที่เด็กในเปล ด้วยสีหน้าที่เศร้าโศก

"องค์หญิง ยาของนายน้อยพร้อมแล้ว" เหลียนซินกล่าวเบาๆ

หยุนชางตกใจ และเห็นว่าตนรับยามา ค่อยๆเป่ายาให้เย็น และกำลังจะป้อนเข้าปากของเหิงเอ๋อร์

"ไม่นะ ไม่ ยานั้นมีพิษ…" หยุนชางตะโกนในใจ แต่ดูเหมือนนางถูกบีบคอ ไม่สามารถส่งเสียงใดๆ "ไม่นะ อย่าให้เหิงเอ๋อร์ทาน ไม่!"

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 233 คลอดก่อนกำหนด (๒)

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 233 คลอดก่อนกำหนด (๒) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หยุนชางรู้สึกเพียงว่าตนตัวเย็นไปทั้งตัว ตัวสั่นตลอดเวลา เมื่อเห็นว่าหมอตำแยกำลังช่วยเหลือพระสนมจิ่นอย่างเป็นขั้นเป็นตอน หยุนชางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทำให้ร่างกายของนางนิ่งลง และเปิดประตูให้ฉินยีเข้ามาช่วย แต่ใช้สายตาจ้องหมอตำแยและนางกำนัลเหล่านั้นอย่างเย็นชา "พวกเจ้าจะให้ข้าส่งพวกเจ้าออกไป หรือออกไปด้วยตัวของพวกเจ้าเอง?"

นางกำนัลเหล่านั้นรีบวิ่งออกไป หยุนชางสูดหายใจเข้าลึกๆ และระงับ อารมณ์ในใจแล้วเดินออกไป ทวนคำพูดของหญิงชราเมื่อครู่นี้

สีพระพักตร์ของจักรพรรดิหนิงก็ซีดอย่างกะทันหัน "สารเลว!"

หยุนชางจุกอก น้ำตาไหลออกมา "ถ้าไม่ใช่ชางเอ๋อร์บังอาจขอเข้าไปด้านใน ถ้าไม่ใช่เพราะเสด็จอาพาหมอตำแยมาได้ทันเวลา เกรงว่า ชางเอ๋อร์จะไม่มีวาสนาได้เจอน้องในท้องเสด็จแม่อีกแล้ว เกรงว่า แม้แต่เสด็จแม่ก็จะไม่มีวันได้เจอแล้ว"

จิ้งอ๋องที่ก้มศีรษะไว้ในตอนแรก ได้ยินเสียงพูดที่สะอื้นของหยุนชางก็เงยหน้าขึ้น เห็นตาแดงก่ำของหยุนชางเต็มไปด้วยความกังวลและความเศร้าเข้ามาในดวงตาของเขา จิ้งอ๋องรู้สึกเพียงว่าหัวใจของเขาถูกดึงโดยบางสิ่งบางอย่างและมันก็เจ็บปวดเล็กน้อย จึงเดินไปหาหยุนชาง เขาเอื้อมมือไปโอบกอดหยุนชาง และกระซิบว่า "ร่างกายเจ้ายังไม่ฟื้นตัวดี ไม่ต้องกังวล ให้ข้าจัดการเอง"

หลังจากได้ยินคำพูดนั้นหยุนชางสงบลง เอนกายลงในอกของจิ้งอ๋อง รู้สึกหายใจติดขัดเล็กน้อย หายใจไม่ออก นางจึงกัดริมฝีปากและพึมพำ "ใจเย็นๆ…" ในใจ

"ท่านพี่ ไม่รู้ว่าใครกันที่กล้าได้เยี่ยงนี้ ต้องการลอบสังหารรัชทายาท ต้องโทษไม่น้อยเลยทีเดียว หม่อมฉันอยากรู้ว่าใครกันที่กล้าขนาดนี้ เรื่องนี้สำคัญมาก หม่อมฉันขอให้มีคำสั่งสอบสวนเรื่องนี้ อย่างละเอียดถี่ถ้วน" จิ้งอ๋องพูดกับจักรพรรดิหนิง

จักรพรรดิหนิงจ้องมองไปที่ประตู หยุดชั่วขณะ แล้วพยักหน้า "ตกลง มอบให้เจ้าไปตรวจสอบ"

ฮองเฮาที่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ หยุนชางเห็นพระพักตร์นางซีดเล็กน้อย หยุนชางยิ้มอย่างเย็นชา เรื่องนี้ฮองเฮาต้องมีส่วนรู้เห็นเป็นแน่ เพียงเพราะหมอตำแยเหล่านี้เป็นคนในวังทั้งหมด นอกจากฮองเฮาแล้วไม่มีใครสามารถจัดการเรื่องในวังได้

เกรงว่าเป็นเพราะพระสนมจิ่นไปพักฟื้นที่วังเฟิ่งไหล ฮองเฮาไม่เคยมีโอกาสเลย ในที่สุดนางก็รอพระสนมจิ่นกลับมาที่วัง แต่กลัวว่าหลังงานแต่งหยุนชางแล้วจะจากไปอีกครั้ง ดังนั้นนางจึงต้องรีบลงมือ นางกำลังเดิมพัน ด้วยว่านางสนมของฝ่าบาทกำลังให้กำเนิดบุตร คงไม่มีใครกล้าบุกเข้าไป เมื่อพระสนมจิ่นเสียชีวิต ทุกอย่างเป็นไปตามแผน และนางมีเวลาที่จะทำลายหลักฐาน

เมื่อคิดเช่นนี้ ดวงตาของหยุนชางเริ่มเย็นชาลง ฮองเฮา คราวนี้ตนจะไม่มีวันปล่อยนางไป

ทุกคนรอไปสักพัก ฉินยีก็เดินออกมาพร้อมถือกระดาษแผ่นหนึ่งอยู่ในมือ และโค้งคำนับให้ทุกคน "เมื่อครู่ หมอตำแยใช้เข็มสีทองเจาะเลือดเพื่อหยุดความเจ็บปวดของพระสนม ตอนนี้พระอาการของพระสนมดีขึ้นแล้ว อาจเพราะความเจ็บปวดในเมื่อครู่ พระสนมได้ผล็อยหลับไปเสียแล้ว หมอตำแยบอกว่า พระนางจะต้องเสวยยานานกว่าหนึ่งเดือนเพื่อบำรุงพระครรภ์ หมอตำแยได้สั่งยามาแล้ว หม่อมฉันขอไปที่สำนักหมอหลวงเพื่อรับยาก่อนเพคะ"

จักรพรรดิหนิงและหยุนชางถอนหายใจด้วยความโล่งอก สีหน้าของพวกเขาก็ผ่อนคลายลงได้เล็กน้อย

จักรพรรดิหนิงยืนขึ้น เสด็จเข้าไปในห้องโถง

หยุนชางหันศีรษะและมองดูฮองเฮาอย่างเย็นชา "ฮองเฮาทรงทราบหรือไม่ว่า สิ่งที่พระองค์ทำในวันนี้ มันจะส่งผลอย่างไรต่อท่าน ต่อหัวจิ้ง และจวนหลี่?"

ฮองเฮาทำพระทัยของนางให้มั่นคง ค่อยๆลืมพระเนตรขึ้นมองหยุนชาง ขมวดคิ้ว ใช้สายพระเนตรสงบเพื่อซ่อนความกลัวของนางในส่วนลึกที่สุดของหัวใจ "องค์หญิงฮุ่ยกั๋ว… โอ้ ตอนนี้ควรเรียกว่าพระชายาจิ้งอ๋องแล้ว พระชายาจิ้งอ๋องกำลังพูดอะไรหรือ? ทำไมข้าฟังไม่เข้าใจสักคำ?"

หยุนชาง "ฮ่าฮ่า" หัวเราะเยาะอย่างเย็นชา "ฮองเฮา ตอนนี้ทรงไม่ทราบไม่เป็นไรเพคะ อีกไม่นานก็จะทราบเอง ฮองเฮาทรงทราบหรือไม่ว่า ใครคือพ่อเด็กในท้องขององค์หญิงหัวจิ้ง? นางตั้งครรภ์ได้อย่างไร? ฮองเฮาทรงทราบหรือไม่ว่า ทำไมพี่หญิงที่แสนดีของหม่อมฉันจึงอยู่ในคุกนานกว่าสองเดือน? แล้วทำไมนางจึงแท้ง หม่อมฉันได้ยินมาว่านางสนมที่เป็นหญิงงามมีอายุสิบกว่าปีของท่านเสนาบดีหลี่กำลังจะเข้าจวน? ได้ยินมาว่าหลี่ลั่ว นายน้อยที่เป็นที่โปรดปรานมากที่สุดในจวนหลี่ได้ตกหลุมรักหญิงในหอนางโลม?…"

ทุกประโยคที่หยุนชางพูดออกมา สีพระพักตร์ของฮองเฮาก็ดูแย่มากขึ้น อย่างไรก็ตามนางอดไม่ได้ที่จะขัดจังหวะคำพูดของหยุนชาง หยุนชางยิ้มอย่างเย็นชา และมองไปที่ฮองเฮาอย่างดุดัน "ทำไมเพคะ ฮองเฮาไม่สามารถทนได้แล้วหรือเพคะ กี่สิ่งที่ฮองเฮาได้ทรงทำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีกี่ชีวิตที่ถูกทำลายในมือของฮองเฮา และจำนวนสินบนที่ฮองเฮาที่ช่วยท่านเสนาบดีหลีรับอย่างเงียบๆ พระองค์ว่า ถ้าเสด็จพ่อทรงทราบเรื่องทั้งหมด ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไรเพคะ?"

"หนิงหยุนชาง เจ้าอย่าได้มาใส่ร้ายป้ายสี!" ฮองเฮาชี้ไปที่หยุนชางอย่างโกรธจัดและอยากจะตะโกน แต่ก็กลัวว่าจักรพรรดิหนิงที่อยู่ข้างในจะได้ยิน ฉะนั้นนางจึงลดเสียงลง ทำให้คำพูดเดิมที่มีอำนาจอย่างมากต้องดูไร้ประโยชน์

"ใส่ร้ายป้ายสี?" หยุนชางหันกลับมา "ข้าไม่เคยใส่ร้ายใคร ข้าจะไม่พูดถ้าไม่มีหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ต่อให้ไม่มีหลักฐาน ข้าก็จะสร้างหลักฐานออกมาได้ ฮองเฮา ขอท่านจงทรงวางพระทัยได้"

ฮองเฮาเห็นว่ายังมีคนอยู่รอบๆ นางจึงไม่กล้าตรัสอะไรมาก กลัวว่าหยุนชางจะพูดอะไรมากกว่านี้ นางจึงสะบัดแขนเสื้อและกัดฟันตรัสว่า "หนิงหยุนชาง เจ้าคอยดูเถอะ…"

"ฮองเฮาต้องการให้ผู้ใดรอดูหรือ?" จิ้งอ๋องขมวดคิ้วเล็กน้อย "ฮองเฮาดูเหมือนจะชอบใช้ตำแหน่งกดคนเสียจริง และก็มักจะข่มขู่ชายาของข้าด้วย ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เพื่อให้ชายาของข้าสบายใจ ตำแหน่งฮองเฮานี้ ไม่จำเป็นต้องมีแล้วมั้ง"

ฮองเฮาเกรี้ยวจนสั่นสะท้าน แต่ไม่กล้าพูดอะไร นางรู้จักจิ้งอ๋องดี ผู้ไม่เกรงกลัวอะไรเลย และความดีความชอบด้านศึกสงครามของจิ้งอ๋องนั้นเป็นที่ประจักษ์ ผลงานที่มีต่อแคว้นหนิงก็ไม่ด้อยไปกว่าท่านพ่อของตน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเขายังคงเป็นผู้บัญชาการทหาร เก่งกาจเผด็จการ เป็นผู้ที่ตนไม่สามารถยั่วยุได้เลย

ฮองเฮากัดฟัน หนิงหยุนชางโชคดีจริงๆ นางหาที่พึ่งสำหรับตัวเอง ฮองเฮานิ่งสงบชั่วครู่ แล้วค่อยหันหลังเดินจากไป

"เจ้าบอกสิ่งเหล่านี้กับนาง เจ้าไม่กลัวว่านางจะตั้งมือรับหรอกหรือ และมันจะยากสำหรับเจ้าที่จะจัดการกับมันนะ?" จิ้งอ๋องก้มศีรษะลงและมองไปยังหญิงที่พิงบนกายเขา

หยุนชางหลับตาและส่ายหัว "เตรียมการป้องกันแล้วยังไง ข้าก็มีหลายๆอย่างอยู่ในมือ อีกทั้ง ข้ากลัวว่านางจะไม่ทำลายหลักฐาน ข้าจะส่งคนไปจับตานางต่อไป ขอเพียงแค่นางทำลายหลักฐาน ข้าก็จะมีเบี้ยต่อรองที่มากขึ้น นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้ามีอะไรอยู่ในมือ เกรงว่านางคงจะหวาดกลัวไปสักระยะหนึ่งได้ ข้าจะให้นางต้องคอยหวาดกลัวและตื่นตระหนกไปทุกวัน"

พูดจบก็รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย หลับตาแล้วพูดว่า "หมอตำแยบอกว่าในตัวข้ามีกลิ่นแปลกๆ มองดูสีหน้าแล้ว เกรงว่าเสด็จแม่ จะเป็นเพราะข้า…" หยุนชางหยุด ยืนตัวตรง นัยน์ตาสองข้างมีน้ำตาคลอ "ข้าอยากกลับไปอาบน้ำ"

จิ้งอ๋องพยักหน้า "ที่นี่มีฉินยีคอยเฝ้าอยู่ และข้าจะให้คนมาเฝ้ามากขึ้น มีอะไรจะเกิดขึ้นเราจะทราบได้โดยเร็ว ข้าจะพาเจ้ากลับจวน"

หยุนชางเอนกายลงต่อหน้าจิ้งอ๋องด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า และจิ้งอ๋องอุ้มนางออกจากวัง

ยังไม่ทันถึงจวน หยุนชางก็ผล๊อยหลับไปแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะพิธีงานมงคลสมรสในวันนี้ใช้เวลายาวเกินไป และชุดที่สวมใส่ก็หนักมาก จึงทำให้นางเหนื่อย บวกกับความตกใจที่นางได้รับ ทันทีที่ได้ปลดปล่อยความกังวลในใจ จึงฝืนทนไม่ไหวแล้ว

………….

หยุนชางฝันถึงเหิงเอ๋อร์อีกแล้ว เหิงเอ๋อร์ที่ตัวเล็กๆ ผิวขาวๆ และน่ารักมาก แค่ว่าร่างกายของเขาไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ ต้องดื่มยามากมายทุกวัน ทุกครั้งหลังจากที่นางป้อนเหิงเอ๋อร์ดื่มยา นางก็มักจะแอบไปร้องไห้เงียบๆคนเดียว คิดเสมอว่าทำไมความเจ็บปวดทรมานเยี่ยงนี้ทำไมถึงเป็นที่ตัวนางเอง

ทันใดนั้น ความฝันก็เปลี่ยนไป หยุนชางฝันเห็นว่านั่นเป็นเหมือนห้องครัว และเหลียนซินกำลังต้มยาอยู่ หยุนชางได้ยินเหลียนซินพึมพำอยู่คนเดียว "คงจะไม่ทำให้ถึงตายหรอกมั้ง แค่ทำให้ร่างกายเขาอ่อนแอลง คงจะไม่ตายได้ในครั้งเดียว"

หยุนชางคิดในใจว่า ตายอะไร?

กำลังคาดเดา เห็นเหลียนซินหยิบถุงกระดาษออกจากแขนเสื้อของนาง พอเปิดออก มันเต็มไปด้วยผงละเอียด หยุนชางเหมือนถูกบีบคอ รู้สึกกระสับกระส่าย แต่นางก็บอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร

หยุนชางมองดูเหลียนซินคนโถยา เทยาลงในชาม แล้วนำออกจากครัว และออกจากครัว สถานที่ที่ค่อนข้างจะคุ้นเคย เป็นลานเล็กๆ ไม่สง่าเลิศเลอ ของในลานบ้านน้อยมาก แต่มีดอกไม้วางไว้พอสมควร นั่นคือ… นั่นคือลานบ้านที่นางเคยอาศัยของจวนโม่ หยุนชางคิดในใจ และเห็นเหลียนซินกำลังถือถ้วยยา ในห้อง หยุนชางเห็นตนนั่งอยู่ข้างเปล มองไปที่เด็กในเปล ด้วยสีหน้าที่เศร้าโศก

"องค์หญิง ยาของนายน้อยพร้อมแล้ว" เหลียนซินกล่าวเบาๆ

หยุนชางตกใจ และเห็นว่าตนรับยามา ค่อยๆเป่ายาให้เย็น และกำลังจะป้อนเข้าปากของเหิงเอ๋อร์

"ไม่นะ ไม่ ยานั้นมีพิษ…" หยุนชางตะโกนในใจ แต่ดูเหมือนนางถูกบีบคอ ไม่สามารถส่งเสียงใดๆ "ไม่นะ อย่าให้เหิงเอ๋อร์ทาน ไม่!"

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+