ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 2 แค้นเก่าในชาติใหม่

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 2 แค้นเก่าในชาติใหม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วันที่ร้อนในฤดูร้อน ภายใต้ชายคาของพระราชวังหลวงแห่งแคว้นหนิง มีขันทีและนางกำนัลยืนอยู่หนึ่งคน

นางกำนัลชุดเขียวขมวดคิ้ว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล "เจ้าว่าองค์หญิงเป็นอะไรไปกันแน่? ตั้งแต่นางฟื้นขึ้นมานางก็ราวกับไร้วิญญาญ ทุกวันไม่ค่อยพูดอะไรเลย นางมักจะนั่งเหม่ออยู่ด่านหน้ากระจกซ้ำยังฝันร้ายในตอนกลางคืนบ่อยๆ คิดว่าเป็นเพราะตกจากที่สูงครั้งนี้ทำให้นางหวาดผวา?"

ขันทีได้ยินดังนั้นก็มองไปรอบๆและเอนเข้าไปกระซิบที่หูของนางกำนัล "เหลียนซินกูกู ท่านว่าองค์หญิงถูกผีเข้าหรือเปล่า ตอนที่ข้ายังไม่ได้เข้าวัง เด็กจากครอบครัวของพี่สาวข้าจมน้ำ หลังถูกช่วยขึ้นมาแล้วก็เหม่อลอยแบบนี้จึงไปเชิญนักพรตเต๋ามา เขาบอกว่าไปเจอสิ่งอัปมงคลเข้า จากนั้นพอทำพิธีก็ไม่เป็นไรแล้วราวกับไม่เคยเป็นอะไรมาก่อนเลย ท่านว่า…ควรไปเชิญใครสักคนมาปัดเป่าหรือไม่? "

เหลียนซินขมวดคิ้ว "งั้นหรือ? แต่ตอนนี้เป็นเพราะองค์หญิงบาดเจ็บฮองเฮาจึงไปขอพระราชทานอภัยโทษจากฮ่องเต้ด้วยตนเอง ขังตัวเองอยู่ในวังชีอู๋มาสามวันแล้ว เรื่องเชิญคนเป็นเรื่องใหญ่ ต้องรายงานเรื่องนี้ต่อฮองเฮาเสียก่อน"

ขันทีตอบ "อืม" หนึ่งครั้งแล้วชะงักไปจึงพูดขึ้นว่า "จะว่าไปแล้วองค์หญิงก็ไม่ใช่ลูกแท้ๆของฮองเฮา แต่นางกลับใส่ใจดูแลอย่างดีที่สุด ที่องค์หญิงบาดเจ็บเป็นเพราะนางซนเอง แต่นางกลับไปขอโทษเป็นพิเศษ ฮองเฮาช่างเป็นสตรีที่มีคุณธรรมจริงๆ"

ในขณะที่ทั้งสองคนคุยกันก็รู้สึกได้ว่าด้านหลังราวกับมีใครบางคนอยู่ เมื่อหันศีรษะไปก็เห็นร่างเล็กยืนอยู่ข้างหลัง สวมเสื้อสีชมพูยืนเท้าเปล่า ซึ่งก็คือคนที่พวกเขาพูดถึงเมื่อครู่นั่นเอง องค์หญิงหยุนชาง

ขันทีรีบหันกลับมาโค้งคำนับและทักทายเด็กหญิงตัวน้อย "องค์หญิง"

หยุนชางพยักหน้าเล็กน้อยเหลือบมองไปที่ขันทีหลายคนในลานและไม่ได้พูดอะไร นางหันกลับเข้าไปในตำหนักด้านในอีกครั้ง คำพูดที่ขันทีพูดไปเมื่อครู่นางได้ยินหมดแล้ว มีคุณธรรมหรือ? มุมปากของหยุนชางปรากฏรอยยิ้มเหยียดซึ่งไม่เข้ากับใบหน้าเล็กๆของเธอ

เมื่อเดินไปถึงกลางตำหนักด้านใน เธอก็นั่งลงที่หน้ากระจกอีกครั้ง ในกระจกปรากฏใบหน้าเล็กๆจิ้มลิ้มงดงามของเด็กหญิงอายุ ** ปี

หยุนชางยกมือขึ้นแตะใบหน้าด้านขวา ครั้งหนึ่งที่นี่ถูกกรีดเป็นแผลลึก คนๆนั้นคือพี่สาวที่เธอรักมากมาโดยตลอด นางเป็นลูกสาวแท้ๆของฮองเฮา องค์หญิงหัวจิ้งผู้งดงามและมากความสามารถดังที่เล่าลือ

สวามีของหัวจิงเป็นแม่ทัพ แต่เขารบเสียชีวิตที่ชายแดน นางสงสารพี่สาวที่สูญเสียสามีไปตั้งแต่อายุยังน้อยจึงรับนางมาอยู่ที่จวนของนาง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าพี่สาวของนางกลับถือโอกาสยั่วยวนสามีของนางและมัดนางไว้ในห้องให้นางดูเธอร่วมรักกับสามี

และสามีที่เธอรักและเชื่อใจได้โยนลูกลงมาจากหน้าต่างตำหนักชั้นบนต่อหน้าเธอ

ลูก ลูกแท้ๆของเธอเอง… เมื่อคิดถึงสิ่งนี้หยุนชางก็รู้สึกปวดใจ

และนางยังได้รับการปฏิบัติอย่างโหดเหี้ยมจากฮองเฮาผู้ซึ่งเธอนับถือราวกับแม่แท้ๆ แต่กลับหลอกให้นางดื่มเหล้าพิษ

หยุนชางหลับตาลงข่มอารมณ์ทั้งหมดไว้ใต้เปลือกตาของนาง

เดิมทีคิดว่านางจะตายไปทั้งอย่างนั้นพร้อมกับความโกรธแค้น แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเมื่อฟื้นขึ้นมา นางกลับพบว่าตนเองกลายเป็นเด็ก นางคิดว่านางเพียงฝันไปเท่านั้นเมื่อตื่นขึ้นมาก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พบว่าทุกอย่างเหมือนกับที่นางเคยประสบมาในชาติที่แล้ว

ที่แท้พระเจ้าให้โอกาสนางกลับมามีชีวิตอีกครั้งจริงๆ!

ในชาติที่แล้วก็เป็นเวลานี้ที่นางเคยหกล้มบาดเจ็บและหมดสติไปเป็นเวลาหลายวัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่าฮองเฮาผู้มีคุณธรรมไปขอรับโทษมา ในชาติที่แล้วของนาง นางรู้สึกขอบคุณฮองเฮาที่ดูแลใส่ใจปกป้องนางทุกอย่าง นางยิ่งรักฮองเฮามากขึ้นไปอีกขั้นและเชื่อฟังคำสั่งทุกอย่างของนาง

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หยุนชางคิดอะไรมากมาย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชาติก่อนดูเหมือนจะอยู่ภายใต้การควบคุมของฮองเฮา มารดาผู้ให้กำเนิดหยุนชางเคยเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่เติบโตมาด้วยกันขององค์ฮ่องเต้ ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นจิ่นเฟย แต่ไม่รู้ว่านางทำให้จักรพรรดิขุ่นเคืองตรงไหนจึงถูกโบยและส่งเข้าไปที่ตำหนัด จากนั้นมายางจึงถูกเลี้ยงโดยฮองเฮา

ฮองเฮารักหยุนชางมากและตามใจทุกอย่าง นานวันเข้าหยุนชางจึงค่อยๆเปลี่ยนเป็นคนที่เอาแต่ใจ ไม่เห็นใครอยู่ในสายตและมักก่อเรื่องเสมอ ต่อมาแม้แต่ฮ่องเต้ที่รักนางมากก็ยังผิดหวังในตัวนาง ทันทีที่นางอายุครบเกณฑ์แต่งงานก็ให้นางเลือกราชบุตรเขยที่นางชอบแต่งงานออกไป เดิมทีนางคิดว่าแต่งงานกับผู้ชายที่นางชอบจะมีความสุข แต่กลับคาดไม่ถึงว่าแม่สามีไม่พอใจในตัวนาง แม้ว่านางจะเป็นองค์หญิงผู้สูงส่ง แต่แม่สามีก็ยังพยายามทุกวิถีทางที่ทำได้เพื่อกีดกันเธอออกไป เพื่อนคนที่นางรัก นางจึงทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง แต่นางก็ยังได้รับการปฏิบัติเช่นนั้นเหมือนเดิม

เหอะๆ หยุนชางขบกราม ไม่ว่าจะเป็นความฝันของนางหรือไม่ก็ตาม นางจะต้องป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นอีกครั้ง พวกเขาเป็นหนี้ในชาติก่อนและนางจะค่อยๆเอาคืนทีละนิด

"น้องหยุนชาง น้องหยุนชาง… " จู่ๆก็มีเสียงระรื่นหูก็ดังมาจากด้านนอกประตู จากนั้นก็เป็นเสียงทำความเคารพดังเป็นทอด "องค์หญิงหัวจิ้ง ขอให้ทรงพระพลานามัยแข็งแรงเพคะ"

หยุนชางตกใจรีบลุกขึ้นยืน นางกระแทกเข้ากับโต๊ะเครื่องแป้ง ข้าวของบนโต๊ะหกเลอะเทอะไปทั่วพื้น เสียงของตกลงกระทบกับพื้นทำให้หยุนชางได้สติขึ้น จึงตระหนักได้ว่านางแสดงปฏิกิริยามากเกินไปแล้ว แม้จะทำความเคยชินมาสองสามวันแล้ว แต่เมื่อได้เจอนางก็กลับไม่สามารถสงบลงได้

"น้องหญิง… " เงาร่างสีม่วงวิ่งเข้ามาแล้วยืนนิ่งต่อหน้าหยุนชาง จับมือนางดึงขึ้นลงและมองนางอย่างประเมิน "น้องหญิงรู้สึกดีขึ้นบ้างหรือไม่? ยังไม่หายดีทำไมจึงยืนเท้าเปล่าแบบนี้? แม้ว่าอากาศจะร้อนไปหน่อยแต่ยืนเท้าเปล่าแบบนี้ก็ไม่ดีต่อร่างกาย" จากนั้นางก็หันหน้าไปสั่งนางกำนัลที่อยู่ด้านหลัง "เหลียนซิน เจ้ารีบไปหยิบรองเท้ามาให้น้องของข้าสวมเดี๋ยวนี้ เจ้าดูแลนายของเจ้าอย่างไรกัน?"

ตั้งแต่หัวจิ้งเดินเข้ามา หยุนชางก็มองดูเธออย่างประเมินมาโดยตลอด แม้ว่าเธอจะอายุน้อยลงเล็กน้อยแต่รูปลักษณ์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง ท่าทางอ่อนโยนและน่ารักเช่นนี้ช่างน่าเอ็นดู เพียงแต่ไม่รู้ว่าทำสิ่งที่เลวร้ายเช่นนั้นได้อย่างไร ช่างรู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ

เหลียนซินกำลังจะไปหยิบรองเท้า แต่หยุนชางกลับสะบัดมือของหัวจิ้งออกและเดินตรงไปที่ห้องนอน ขึ้นเตียงและนอนลงพร้อมกับลืมตา

ได้ยินเสียงแว่วมาจากด้าน เป็นหัวจิ้งที่กำลังถามว่า "น้องหญิงนี่คือ? ยังไม่สบายตัวอยู่ใช่ไหม?"

เสียงของเหลียนซินดังขึ้น "ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเพคะ ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมา องค์หญิงก็เป็นเช่นนี้แล้ว มักจะเหม่ออยู่คนเดียวและไม่พูดอะไร เมื่อครู่ข้ายังคุยกับเสี่ยวอันจื่ออยู่เลยว่านางไปพบเจอสิ่งอัปมงคลเข้าหรือเปล่า กำลังคิดว่าจะรายงานต่อฮองเฮาดีหรือไม่ ให้หาคนมาปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย"

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งหัวจิงก็กล่าวว่า "ข้าจะไปบอกเสด็จแม่เอง… "

เมื่อไม่มีเสียงดังมาจากข้างนอกแล้วคิดว่านางคงจากไปแล้ว หยุนชางหลับตาและสงบอารมณ์อย่างช้าๆ หากนางต้องการแก้แค้น นางก็ต้องเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับมัน

ตั้งแต่ที่นางถูกฮองเฮารับมาเลี้ยง ทุกคนรอบตัวของนางก็ถูกส่งมาโดยฮองเฮาและไม่มีใครที่ควรค่าแก่การเชื่อใจ ในวังแห่งนี้ หากไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะไว้ใจได้ก็คงทำอะไรได้ยาก…

ใครจะช่วยเธอได้เล่า?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด