ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 454 ไทเฮาทรงเกรี้ยว (หลิ่วหยินเฟิงมอบป้ายหยก)

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 454 ไทเฮาทรงเกรี้ยว (หลิ่วหยินเฟิงมอบป้ายหยก) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิ่วหยินเฟิงมองไปที่ชายที่อยู่ข้างๆ หยุดเล็กน้อย และในที่สุดก็ตามเขาไปที่รถม้าคันอื่น

ลั่วชิงเหยียนไม่ปล่อยให้หยุนชางรอนานเกินไป เขาเดินออกมาในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม เปิดประตูรถม้าและเข้าไป “กลับจวนรุ่ยอ๋องกันเถอะ” ลั่วชิงเหยียนนวดขมับเบาๆ แล้วพูด

หยุนชางเงยหน้าขึ้นมองเขา ถามขึ้นมาว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

ลั่วชิงเหยียนหันศีรษะและมองไปที่หยุนชาง หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเขาก็พูด “ไทเฮาสิ้นพระชนม์แล้ว”

“หือ?” หยุนชางตกตะลึง ทันใดนั้นก็จำได้ว่าก่อนเซี่ยหวนอวี่ออกจากตำหนักเฉียนหลิง ได้คุกเข่าคำนับสามครั้ง และจำได้ว่าตอนท้ายไทเฮาก็ตรัสว่า น่าเสียดายที่นางไม่สามารถเห็นเซี่ยหวนอวี่ตาย และให้เซี่ยหวนอวี่ปล่อยไท่อัน ที่แท้ไทเฮาทรงเลือกเอาความตายของนางมาแลกกับชีวิตขององค์หญิงไท่อัน

“ฝ่าบาททรงมอบมีดสั้น ผ้าไหมสีขาว และยาพิษให้นาง แล้วนางก็เลือกมีดสั้น” ลั่วชิงเหยียนกล่าวอย่างแผ่วเบา

หยุนชางผงะอีกครั้ง ตามสามัญสำนึก ถ้าให้เลือกสามสิ่งนี้ คนส่วนใหญ่จะเลือกยาพิษเพราะมันจะไม่เจ็บปวดทรมาน แต่ไทเฮาทรงเลือกมีดสั้น

“ช่างเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก” หยุนชางถอนหายใจเบาๆ

หลังจากกลับไปที่จวนรุ่ยอ๋อง หยุนชางสั่งให้พ่อบ้านเตรียมชุดไว้ทุกข์ แม้ว่าไทเฮาจะถูกประหารชีวิตโดยเซี่ยหวนอวี่ เพื่อรักษาพระพักตร์ไว้ เซี่ยหวนอวี่พูดได้เพียงว่าเป็นเพราะ สิ้นพระชนม์จากการประชวรหรือสาเหตุอื่นๆ ไว้ทุกข์ยังไงก็ต้องปฏิบัติ

ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน เสียงระฆังมรณะก็ดังขึ้นในเมืองหลวง และพระราชโองการก็ถูกส่งไปตามจวนต่างๆ เนื่องจากไทเฮาเดินทางมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย พอถึงวังก็ประชวร และเสด็จสวรรคต

หยุนชางสั่งให้คนเปลี่ยนเป็นชุดสีขาว สวมชุดไว้ทุกข์ และแขวนดอกไม้ผ้าไหมสีขาวหน้าจวน เซี่ยหวนอวี่สั่งให้องค์ชายและองค์หญิงทั้งหมดเข้าวังเพื่อร่วมไว้ทุกข์ แต่ไม่ได้ตรัสว่า สมาชิกในครอบครัวต้องเข้าวังด้วย หยุนชางพอใจที่จะอยู่อย่างสบายๆ และนางไม่อยากเข้าวังของแคว้นเซี่ยจริงๆ

หลังจากเจ็ดวัน ถึงเวลาแล้วที่ลั่วชิงเหยียนจะส่งกองทหารไปยังชาวหย่าอย่าง ดอกไม้ผ้าไหมสีขาวถูกนำออกจากหน้าจวน และหยุนชางก็เปลี่ยนเป็นกระโปรงสีฟ้าที่ดูสบายตาและส่งลั่วชิงเหยียนออกจากประตู

ทันทีที่ลั่วชิงเหยียนจากไป จวนก็ค่อนข้างคึกคัก กั๋วกงฮูหยิน น้าๆ ลูกพี่ลูกน้องต่างก็มาเยี่ยมเยียน ธิดาหลายคนของเซี่ยหวนอวี่ก็เข้ามาเล่นด้วย โดยเฉพาะองค์หญิงเชียนหลิง แต่เดิมเป็นเพียงองค์หญิงเชียนหลิง ต่อมาองค์หญิงเชียนหลิงมักจะพาองค์หญิงคนอื่นๆ มาอีกหลายคน และในบางครั้งเป็นองค์ชายสิบเก้าที่อายุน้อยสุด

หยุนชางคุ้นเคยกับเหล่าองค์หญิง และจวนมักมีขนมต่างๆเตรียมไว้ตลอด เพราะกลัวว่าฝูงลิงทั้งหลายจะมาที่จวนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

เข้าวังเพียงแค่สองสามครั้ง และบางครั้งไปถวายพระพรฮองเฮา และฮองเฮาก็ไม่ได้เอ่ยการสร้างพันธมิตรกับรุ่ยอ๋องอีก บางครั้งหยุนชางก็ไปที่ตำหนักเซียงจู๋ เพื่อนั่งคุยสนทนากับหนิงเชียน แต่กลับกลายเป็นว่าหยุนกุ้ยเฟยเป็นคนที่เรียกนางมากที่สุด อาจเพราะนางได้ช่วยชีวิตองค์หญิงเชียนหลิงเมื่อครั้งก่อน และหยุนกุ้ยเฟยจึงรู้สึกดีกับนางมาก

“ตอนที่เชียนหลิงได้รับยาพิษ ข้าเคยคิดว่าเป็นฝีมือของฮองเฮา แต่ไม่นานมานี้ ข้าได้สืบพบว่าเป็นเสิ่นซู่เฟย” หยุนกุ้ยเฟยถอนหายใจเล็กน้อย นัยน์ตาของนางรู้สึกเย็นชา

“เสิ่นซู่เฟย?” หยุนชางเงียบไป ได้ยินชื่อนี้หลายครั้ง ครั้งก่อนตุ๊กตาคุณไสย เจอสิ่งนี้ในวัง ก็มีเสิ่นซู่เฟย แต่ได้ยินมาว่างร่างกายของเสิ่นซู่เฟยไม่ค่อยดีนัก ฉะนั้นนางจึงไม่ค่อยออกจากตำหนักซู่หยา

หยุนกุ้ยเฟยพยักหน้า “เจ้าช่วยชีวิตเชียนหลิง และข้าก็ไม่อยากปิดบังเจ้า เสิ่นซู่เฟยนั้นแต่เดิมเป็นนางกำนัลของฮองเฮา แต่ไม่รู้นางใช้วิธีใดหลอกล่อฝ่าบาท ฝ่าบาทจึงแต่ตั้งเป็นเหม่ยเหริน จึงอยู่ที่นั่น ฮองเฮาดูแลวังหลังเคร่งครัดเสมอมา นางจะปล่อยให้วังหลังเกิดเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร อีกทั้งพ่อของฮองเฮาคือไทเว่ย อำนาจมากล้น ฝ่าบาทย่อมต้องให้หน้าฮองเฮา เดิมทีทุกคนคิดว่าเรื่องนี้จะจบลงแล้ว แต่เสิ่นซู่เฟยก็ได้ให้กำเนิดองค์ชายสิบเอ็ดกับองค์หญิงสิบสอง”

“ในราชวงศ์น้อยคนจะมีครรภ์แฝด การคลอดครั้งนั้นของเสิ่นซู่เฟยถูกทำให้คิดว่าเป็นลางดี ฝ่าบาททรงยินดี ทรงเลื่อนตำแหน่งให้นั่งเหนือผิน เพราะลูกทั้งสองนาง ฝ่าบาทจึงเสด็จไปหานางเป็นครั้งคราว เสิ่นซู่เฟยก็มีอุบายที่เก่งกาจ นางสามารถทำให้ฝ่าบาทรู้สึกมีความสุข ตำแหน่งนี้ยังปีนขึ้นไปจนถึงเฟย และนางก็ตั้งครรภ์อีกครั้ง ฮองเฮาจะทนนางกำนัลคนหนึงกำแหงเยี่ยงนี้ได้อย่างไร จึงกำจัดลูกในท้องของนาง และให้เสิ่นซู่เฟยดื่มยาคุมกำเนิด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เพราะข้าเอง ขณะนั้นเสิ่นซู่เฟยใช้โอกาสตั้งครรภ์แล้วมาสร้างปัญหากับข้า ตอนนั้นยังเด็กและทำอะไรโดยไม่คิด จึงลงโทษนาง ให้นางคุกเข่าครึ่งชั่วยาม และเพราะการคุกเข่านั้น จึงมีผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ ได้มีเลือดออกเล็กน้อย เสิ่นซู่เฟยตื่นตระหนก พยายามจะรักษาเด็กไว้ ฮองเฮาจึงได้ทราบเรื่องเข้า” หยุนกุ้ยเฟยถอนหายใจและส่ายหัว

“จากนั้น ร่างกายเสิ่นซู่เฟยไม่ค่อยดีตั้งแต่นั้นมา และฝ่าบาทก็ไม่ค่อยเสด็จไปที่วังซู่หยามากนัก เกรงว่า นางจะเกลียดข้าและฮองเฮาตั้งแต่นั้นมา วันนั้นได้ล่วงเกินต่อเจ้า โดยส่วนใหญ่เป็นเพราะ การปรากฏตัวของรุ่ยอ๋องอย่างกะทันหัน ด้วยเหตุนี้แม้ว่ารัชทายาทจะได้รับการสนับสนุนจากฮองเฮา แต่รัชทายาทเองก็ไม่โดดเด่น เขามีแค่ความบุ่มบ่าม แต่ไม่มีหัวคิด แต่รุ่ยอ๋องนั้นต่างจากทุกคน ทุกคนล้วนเคยได้ยินความฉลาดปราดเปรื่อง ผู้มีโอรส ส่วนใหญ่ต้องการให้ลูกชายของพวกเขานั่งในตำแหน่งนั้น ดังนั้น รุ่ยอ๋องจึงเป็นศัตรูอันดับหนึ่ง”

หยุนกุ้ยเฟยมองที่หยุนชางด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของนาง “โชคดี ข้ามีลูกเชียนหลิงแค่คนเดียว และไม่มีอะไรต้องกังวล ข้าแค่หวังว่าเชียนหลิงจะเติบโตและได้แต่งงานกับครอบครัวที่ดีได้”

“ต้องเป็นเช่นนั้นเพคะ” หยุนชางกล่าวเบาๆ

หยุนกุ้ยเฟยยิ้มอีกครั้ง จากนั้นจึงหันศีรษะอย่างจริงจังและพูดกับหยุนชางว่า “นางสนมที่มีโอรสในวังแห่งนี้ จะเป็นศัตรูกับเจ้า เจ้าจงจำไว้ ถ้าเจ้าตั้งครรภ์ต้องระวังตัวให้มาก ต้องปกป้องเด็กในท้องของเจ้าไว้ องค์ชายต้องมีชายาและนางสนม ชายาและนางสนมตั้งครรภ์มาไม่น้อย แต่ผู้ที่ได้กำเนิดจริงๆนั้นมีน้อยคนมาก”

หยุนชางตกตะลึง ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีเรื่อง เช่นนั้น นางสามารถเข้าใจการต่อสู้ระหว่างเหล่างองค์ชาย ตลอดหลายชั่วอายุคน เพื่อบัลลังก์สูงสุด พี่น้องคอยฟาดฟันกันไม่น้อย แต่ทำไมแม้แต่ทายาทขององค์ชายต้องได้รับผลกระทบด้วย

หยุนกุ้ยเฟยดูเหมือนจะเข้าใจความสับสนของหยุนชาง ยิ้มและกล่าวว่า “รัชทายาทแห่งแคว้นเซี่ย นอกเหนือจากการแต่งตั้งจากโอรสคนโตแล้ว ทายาทของเหล่าองค์ชายยังเป็นหนึ่งในเกณฑ์ที่สำคัญที่สุดในการพิจารณา เพราะมีคำพูดเก่าในราชวงศ์ที่ว่า กิ่งก้านใบไม้ที่โปรยปรายทำให้ชุมชนไม่ร่วงหล่น ยิ่งลูกหลานเจริญพันธุ์ ประเทศยิ่งเจริญรุ่งเรือง”

หยุนกุ้ยเฟยพูดเบาๆ แต่มือของหยุนชางที่กำแน่นในแขนเสื้อ

หลังจากกลับจวน หยุนชางก็เหม่อลอยเล็กน้อย เฉี่ยนอินได้เห็นเข้า ดูเป็นเวลานาน และในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พระชายา เกิดอะไรขึ้นเพคะ ดูท่าทางของท่านไม่มีความสุขเลย?”

หยุนชางเงียบไปครู่หนึ่ง “ข้าแต่งงานกับท่านอ๋องมานานแค่ไหนแล้ว?”

เฉี่ยนอินตกตะลึง และอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองหยุนชางอย่างลังเลเล็กน้อย “พระชายาลืมเรื่องนี้ไปแล้วหรือเพคะ หนึ่งปีแล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 454 ไทเฮาทรงเกรี้ยว (หลิ่วหยินเฟิงมอบป้ายหยก)

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 454 ไทเฮาทรงเกรี้ยว (หลิ่วหยินเฟิงมอบป้ายหยก) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิ่วหยินเฟิงมองไปที่ชายที่อยู่ข้างๆ หยุดเล็กน้อย และในที่สุดก็ตามเขาไปที่รถม้าคันอื่น

ลั่วชิงเหยียนไม่ปล่อยให้หยุนชางรอนานเกินไป เขาเดินออกมาในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม เปิดประตูรถม้าและเข้าไป “กลับจวนรุ่ยอ๋องกันเถอะ” ลั่วชิงเหยียนนวดขมับเบาๆ แล้วพูด

หยุนชางเงยหน้าขึ้นมองเขา ถามขึ้นมาว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

ลั่วชิงเหยียนหันศีรษะและมองไปที่หยุนชาง หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเขาก็พูด “ไทเฮาสิ้นพระชนม์แล้ว”

“หือ?” หยุนชางตกตะลึง ทันใดนั้นก็จำได้ว่าก่อนเซี่ยหวนอวี่ออกจากตำหนักเฉียนหลิง ได้คุกเข่าคำนับสามครั้ง และจำได้ว่าตอนท้ายไทเฮาก็ตรัสว่า น่าเสียดายที่นางไม่สามารถเห็นเซี่ยหวนอวี่ตาย และให้เซี่ยหวนอวี่ปล่อยไท่อัน ที่แท้ไทเฮาทรงเลือกเอาความตายของนางมาแลกกับชีวิตขององค์หญิงไท่อัน

“ฝ่าบาททรงมอบมีดสั้น ผ้าไหมสีขาว และยาพิษให้นาง แล้วนางก็เลือกมีดสั้น” ลั่วชิงเหยียนกล่าวอย่างแผ่วเบา

หยุนชางผงะอีกครั้ง ตามสามัญสำนึก ถ้าให้เลือกสามสิ่งนี้ คนส่วนใหญ่จะเลือกยาพิษเพราะมันจะไม่เจ็บปวดทรมาน แต่ไทเฮาทรงเลือกมีดสั้น

“ช่างเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก” หยุนชางถอนหายใจเบาๆ

หลังจากกลับไปที่จวนรุ่ยอ๋อง หยุนชางสั่งให้พ่อบ้านเตรียมชุดไว้ทุกข์ แม้ว่าไทเฮาจะถูกประหารชีวิตโดยเซี่ยหวนอวี่ เพื่อรักษาพระพักตร์ไว้ เซี่ยหวนอวี่พูดได้เพียงว่าเป็นเพราะ สิ้นพระชนม์จากการประชวรหรือสาเหตุอื่นๆ ไว้ทุกข์ยังไงก็ต้องปฏิบัติ

ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน เสียงระฆังมรณะก็ดังขึ้นในเมืองหลวง และพระราชโองการก็ถูกส่งไปตามจวนต่างๆ เนื่องจากไทเฮาเดินทางมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย พอถึงวังก็ประชวร และเสด็จสวรรคต

หยุนชางสั่งให้คนเปลี่ยนเป็นชุดสีขาว สวมชุดไว้ทุกข์ และแขวนดอกไม้ผ้าไหมสีขาวหน้าจวน เซี่ยหวนอวี่สั่งให้องค์ชายและองค์หญิงทั้งหมดเข้าวังเพื่อร่วมไว้ทุกข์ แต่ไม่ได้ตรัสว่า สมาชิกในครอบครัวต้องเข้าวังด้วย หยุนชางพอใจที่จะอยู่อย่างสบายๆ และนางไม่อยากเข้าวังของแคว้นเซี่ยจริงๆ

หลังจากเจ็ดวัน ถึงเวลาแล้วที่ลั่วชิงเหยียนจะส่งกองทหารไปยังชาวหย่าอย่าง ดอกไม้ผ้าไหมสีขาวถูกนำออกจากหน้าจวน และหยุนชางก็เปลี่ยนเป็นกระโปรงสีฟ้าที่ดูสบายตาและส่งลั่วชิงเหยียนออกจากประตู

ทันทีที่ลั่วชิงเหยียนจากไป จวนก็ค่อนข้างคึกคัก กั๋วกงฮูหยิน น้าๆ ลูกพี่ลูกน้องต่างก็มาเยี่ยมเยียน ธิดาหลายคนของเซี่ยหวนอวี่ก็เข้ามาเล่นด้วย โดยเฉพาะองค์หญิงเชียนหลิง แต่เดิมเป็นเพียงองค์หญิงเชียนหลิง ต่อมาองค์หญิงเชียนหลิงมักจะพาองค์หญิงคนอื่นๆ มาอีกหลายคน และในบางครั้งเป็นองค์ชายสิบเก้าที่อายุน้อยสุด

หยุนชางคุ้นเคยกับเหล่าองค์หญิง และจวนมักมีขนมต่างๆเตรียมไว้ตลอด เพราะกลัวว่าฝูงลิงทั้งหลายจะมาที่จวนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

เข้าวังเพียงแค่สองสามครั้ง และบางครั้งไปถวายพระพรฮองเฮา และฮองเฮาก็ไม่ได้เอ่ยการสร้างพันธมิตรกับรุ่ยอ๋องอีก บางครั้งหยุนชางก็ไปที่ตำหนักเซียงจู๋ เพื่อนั่งคุยสนทนากับหนิงเชียน แต่กลับกลายเป็นว่าหยุนกุ้ยเฟยเป็นคนที่เรียกนางมากที่สุด อาจเพราะนางได้ช่วยชีวิตองค์หญิงเชียนหลิงเมื่อครั้งก่อน และหยุนกุ้ยเฟยจึงรู้สึกดีกับนางมาก

“ตอนที่เชียนหลิงได้รับยาพิษ ข้าเคยคิดว่าเป็นฝีมือของฮองเฮา แต่ไม่นานมานี้ ข้าได้สืบพบว่าเป็นเสิ่นซู่เฟย” หยุนกุ้ยเฟยถอนหายใจเล็กน้อย นัยน์ตาของนางรู้สึกเย็นชา

“เสิ่นซู่เฟย?” หยุนชางเงียบไป ได้ยินชื่อนี้หลายครั้ง ครั้งก่อนตุ๊กตาคุณไสย เจอสิ่งนี้ในวัง ก็มีเสิ่นซู่เฟย แต่ได้ยินมาว่างร่างกายของเสิ่นซู่เฟยไม่ค่อยดีนัก ฉะนั้นนางจึงไม่ค่อยออกจากตำหนักซู่หยา

หยุนกุ้ยเฟยพยักหน้า “เจ้าช่วยชีวิตเชียนหลิง และข้าก็ไม่อยากปิดบังเจ้า เสิ่นซู่เฟยนั้นแต่เดิมเป็นนางกำนัลของฮองเฮา แต่ไม่รู้นางใช้วิธีใดหลอกล่อฝ่าบาท ฝ่าบาทจึงแต่ตั้งเป็นเหม่ยเหริน จึงอยู่ที่นั่น ฮองเฮาดูแลวังหลังเคร่งครัดเสมอมา นางจะปล่อยให้วังหลังเกิดเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร อีกทั้งพ่อของฮองเฮาคือไทเว่ย อำนาจมากล้น ฝ่าบาทย่อมต้องให้หน้าฮองเฮา เดิมทีทุกคนคิดว่าเรื่องนี้จะจบลงแล้ว แต่เสิ่นซู่เฟยก็ได้ให้กำเนิดองค์ชายสิบเอ็ดกับองค์หญิงสิบสอง”

“ในราชวงศ์น้อยคนจะมีครรภ์แฝด การคลอดครั้งนั้นของเสิ่นซู่เฟยถูกทำให้คิดว่าเป็นลางดี ฝ่าบาททรงยินดี ทรงเลื่อนตำแหน่งให้นั่งเหนือผิน เพราะลูกทั้งสองนาง ฝ่าบาทจึงเสด็จไปหานางเป็นครั้งคราว เสิ่นซู่เฟยก็มีอุบายที่เก่งกาจ นางสามารถทำให้ฝ่าบาทรู้สึกมีความสุข ตำแหน่งนี้ยังปีนขึ้นไปจนถึงเฟย และนางก็ตั้งครรภ์อีกครั้ง ฮองเฮาจะทนนางกำนัลคนหนึงกำแหงเยี่ยงนี้ได้อย่างไร จึงกำจัดลูกในท้องของนาง และให้เสิ่นซู่เฟยดื่มยาคุมกำเนิด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เพราะข้าเอง ขณะนั้นเสิ่นซู่เฟยใช้โอกาสตั้งครรภ์แล้วมาสร้างปัญหากับข้า ตอนนั้นยังเด็กและทำอะไรโดยไม่คิด จึงลงโทษนาง ให้นางคุกเข่าครึ่งชั่วยาม และเพราะการคุกเข่านั้น จึงมีผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ ได้มีเลือดออกเล็กน้อย เสิ่นซู่เฟยตื่นตระหนก พยายามจะรักษาเด็กไว้ ฮองเฮาจึงได้ทราบเรื่องเข้า” หยุนกุ้ยเฟยถอนหายใจและส่ายหัว

“จากนั้น ร่างกายเสิ่นซู่เฟยไม่ค่อยดีตั้งแต่นั้นมา และฝ่าบาทก็ไม่ค่อยเสด็จไปที่วังซู่หยามากนัก เกรงว่า นางจะเกลียดข้าและฮองเฮาตั้งแต่นั้นมา วันนั้นได้ล่วงเกินต่อเจ้า โดยส่วนใหญ่เป็นเพราะ การปรากฏตัวของรุ่ยอ๋องอย่างกะทันหัน ด้วยเหตุนี้แม้ว่ารัชทายาทจะได้รับการสนับสนุนจากฮองเฮา แต่รัชทายาทเองก็ไม่โดดเด่น เขามีแค่ความบุ่มบ่าม แต่ไม่มีหัวคิด แต่รุ่ยอ๋องนั้นต่างจากทุกคน ทุกคนล้วนเคยได้ยินความฉลาดปราดเปรื่อง ผู้มีโอรส ส่วนใหญ่ต้องการให้ลูกชายของพวกเขานั่งในตำแหน่งนั้น ดังนั้น รุ่ยอ๋องจึงเป็นศัตรูอันดับหนึ่ง”

หยุนกุ้ยเฟยมองที่หยุนชางด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของนาง “โชคดี ข้ามีลูกเชียนหลิงแค่คนเดียว และไม่มีอะไรต้องกังวล ข้าแค่หวังว่าเชียนหลิงจะเติบโตและได้แต่งงานกับครอบครัวที่ดีได้”

“ต้องเป็นเช่นนั้นเพคะ” หยุนชางกล่าวเบาๆ

หยุนกุ้ยเฟยยิ้มอีกครั้ง จากนั้นจึงหันศีรษะอย่างจริงจังและพูดกับหยุนชางว่า “นางสนมที่มีโอรสในวังแห่งนี้ จะเป็นศัตรูกับเจ้า เจ้าจงจำไว้ ถ้าเจ้าตั้งครรภ์ต้องระวังตัวให้มาก ต้องปกป้องเด็กในท้องของเจ้าไว้ องค์ชายต้องมีชายาและนางสนม ชายาและนางสนมตั้งครรภ์มาไม่น้อย แต่ผู้ที่ได้กำเนิดจริงๆนั้นมีน้อยคนมาก”

หยุนชางตกตะลึง ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีเรื่อง เช่นนั้น นางสามารถเข้าใจการต่อสู้ระหว่างเหล่างองค์ชาย ตลอดหลายชั่วอายุคน เพื่อบัลลังก์สูงสุด พี่น้องคอยฟาดฟันกันไม่น้อย แต่ทำไมแม้แต่ทายาทขององค์ชายต้องได้รับผลกระทบด้วย

หยุนกุ้ยเฟยดูเหมือนจะเข้าใจความสับสนของหยุนชาง ยิ้มและกล่าวว่า “รัชทายาทแห่งแคว้นเซี่ย นอกเหนือจากการแต่งตั้งจากโอรสคนโตแล้ว ทายาทของเหล่าองค์ชายยังเป็นหนึ่งในเกณฑ์ที่สำคัญที่สุดในการพิจารณา เพราะมีคำพูดเก่าในราชวงศ์ที่ว่า กิ่งก้านใบไม้ที่โปรยปรายทำให้ชุมชนไม่ร่วงหล่น ยิ่งลูกหลานเจริญพันธุ์ ประเทศยิ่งเจริญรุ่งเรือง”

หยุนกุ้ยเฟยพูดเบาๆ แต่มือของหยุนชางที่กำแน่นในแขนเสื้อ

หลังจากกลับจวน หยุนชางก็เหม่อลอยเล็กน้อย เฉี่ยนอินได้เห็นเข้า ดูเป็นเวลานาน และในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พระชายา เกิดอะไรขึ้นเพคะ ดูท่าทางของท่านไม่มีความสุขเลย?”

หยุนชางเงียบไปครู่หนึ่ง “ข้าแต่งงานกับท่านอ๋องมานานแค่ไหนแล้ว?”

เฉี่ยนอินตกตะลึง และอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองหยุนชางอย่างลังเลเล็กน้อย “พระชายาลืมเรื่องนี้ไปแล้วหรือเพคะ หนึ่งปีแล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+