ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 225 หยุนชางบาดเจ็บ

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 225 หยุนชางบาดเจ็บ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หยุนชางอกสั่นขวัญแขวน สองคนนั้นจับได้แล้วว่านางอยู่ที่นี่ หากพวกนั้นตามหานางจนเจอและรู้ว่านางเป็นใคร คงจะเป็นเรื่องใหญ่แน่ อีกอย่าง เมื่อครู่นี้นางได้ฟังเรื่องสำคัญที่สองคนนั้นคุยกันแล้ว สองคนนั้นคงจะไม่ไว้ชีวิตนางเป็นแน่ หนึ่งต่อสอง วิทยายุทธสองคนนั้นก็คงจะไม่ธรรมดา เกรงว่านางคงมิอาจจะเอาชนะได้

หยุนชางโยนเข็มเงินจำนวนหนึ่งไปตามทิศทางลมเมื่อครู่นี้ นางไม่สนใจแล้วว่าเข็มเงินนั่นจะแทงไปถูกใครหรือไม่ จากนั้นนางก็รีบวิ่งหนี ป่าแห่งนี้เนื้อที่กว้างใหญ่ไพศาล ความร้อนชื้นก็ปกคลุมอย่างหนาแน่น พวกนั้นแม้จะมีกันถึง 2 คน แต่ก็ใช่ว่านางจะหมดโอกาสในการรอดชีวิต

เสียงฝีเท้าที่มาจากด้านหลังใกล้เข้ามามากยิ่งขึ้น หยุนชางกัดฟันแน่นิ่ง น่าเสียดายที่ตนไม่มีกำลังภายใน หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปล่ะก็ อีกไม่นาน สองคนนั้นก็คงจะตามนางทันแน่นอน

ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว อย่างมากก็แค่ต้องตาย คิดแล้วก็ฮึดสู้ หยุนชางวิ่งเร็วสุดกำลัง ขณะเดียวกันก็เอามือล้วงเข้าไปบริเวณเอว แล้วหยิบเอากระบอกจุดไฟที่จิ้งอ๋องมอบให้เมื่อวานขึ้นมา นางเป่าไฟที่ลุกโชนออกมาจากกระบอกจนเกิดเป็นประกายไฟร่วงหล่น นางคว้าเอาใบไม้แห้งบนพื้นขึ้นมา แล้วจุดไฟเผาใบไม้ จากนั้นก็โยนลงไปบนกองใบไม้แห้งที่ดาษดื่นอยู่บนพื้น

ไฟนั้นลุกลามออกไปอย่างรวดเร็ว หยุนชางจุดไฟเพิ่มอีกหลายจุด นางพยายามกระจายไฟให้แผ่วงกว้างให้ได้มากที่สุด กองไฟลุกโชนอย่างน่ากลัว ความร้อนจากกองไฟทำให้ใบหน้าของหยุนชางร้อนผ่าว ป่าแห่งนี้มีใบไม้แห้งเยอะกว่าสิ่งอื่นใด เมื่อจุดไฟขึ้นมา ไฟนั้นก็จะลุกลามแผ่รัศมีออกเป็นวงกว้างได้อย่างง่ายดาย

หยุนชางได้ยินเสียงคนเดินใกล้เข้ามาทุกที นางจึงวิ่งต่อ หากจำไม่ผิดล่ะก็ สระน้ำที่นางเคยเห็น ก็น่าจะต้องมุ่งหน้าไปทางนี้

"แย่จริง รีบส่งข่าวไปยังฐานทัพ ให้ส่งคนมาช่วยกันดับไฟเร็วเข้า ไพร่พลและยุทโธปกรณ์ก็อยู่บนเขานี้ทั้งหมด จะปล่อยให้ไฟลามต่อไปเช่นนี้ไม่ได้เป็นอันขาด" เสียงโวยวายดังมาจากทางด้านหลัง หยุนชางแสยะยิ้ม ดูเหมือนว่าตนเองจะโชคดีอย่างไม่คาดคิด ถ้าหากว่าการวางเพลิงจะสามารถทำลายสถานที่แห่งนี้ให้มอดไหม้กลายเป็นจุณได้ ก็คงจะดีไม่น้อย

"หนิงเย่ วิ่งตามต่อไป ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องนำตัวคนคนนั้นกลับมาให้ได้ จะจับเป็นหรือจับตายก็แล้วแต่" ความสะใจของหยุนชางแวะเวียนมาหาเพียงไม่นาน ก็มีมหันตภัยถาโถมเข้ามาเยือนเสียแล้ว หยุนชางกัดฟันวิ่งไปข้างหน้า พลางเอื้อมมือไปเขย่ากระดิ่งที่ห้อยไว้กับเอว

แล้วนางก็รีบกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ต้นหนึ่ง

หยุนชางสะกดลมหายใจที่เหนื่อยหอบเอาไว้ แล้วก้มไปมองหนิงเย่และเซี่ยโหจิ้งที่วิ่งผ่านใต้ต้นไม้ไป หยุนชางได้ยินเสียงฝีเท้าของคนทั้งสองเริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ นางจึงกระโดดไปที่ต้นไม้ต้นข้างๆ เพื่อมุ่งหน้าไปยังอีกเส้นทางหนึ่ง

"ไม่สิ ไม่มีเสียงฝีเท้าเลยแม้แต่น้อย แสดงว่าคนผู้นั้นกำลังซ่อนตัวอยู่แน่ๆ กลับไป แล้วจุดไฟมา ใช้ไฟส่องต้นไม้ทุกต้นอย่างละเอียด ข้าไม่เชื่อหรอกว่า มันจะหนีออกไปได้" เซี่ยโหจิ้งออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

หยุนชางรู้ดีว่า ตนนั้นไม่สามารถกระดุกกระดิกได้อีกแล้ว สองคนนั้นฝีมือร้ายกาจมาก หากตนลองขยับตัวแม้เพียงนิดเดียว คงจะถูกสองคนนั้นจับได้แน่ๆ

หยุนชางมองเห็นแสงไฟรำไรใกล้เข้ามา คงเป็นพวกทหารนำคบเพลิงออกมาตามล่าหานาง หยุนชางมองไปรอบๆ กองเพลิงที่ตนจุดไปเมื่อครูนั้นกำลังลุกโชนมอดไหม้ ในป่านี้เต็มไปด้วยใบไม้แห้ง อีกไม่นานก็คงจะลุกลามใหญ่โตมากกว่านี้

หยุนชางถอนหายใจ หรือว่านางจะต้องมาจบชีวิตลงในเวลานี้เสียแล้ว?

แสงไฟรำไรจากคบเพลิงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หยุนชางเห็นเหล่าทหารพากันค้นหานางอย่างละเอียด พวกเขาส่องคบเพลิงไปใกล้ต้นไม้แทบจะทุกต้น แล้วยังเดินวนรอบต้นไม้เพื่อความแน่ใจอีกด้วย

คนพวกนั้นอยู่ห่างจากนางไม่ถึง 5 เมตรแล้ว หยุนชางรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง นางค่อยๆหยิบเข็มเงินออกมาจากแขนเสื้อ แล้วโยนไปที่สองคนนั้น

แต่พวกเขาเคยเผชิญหน้ากับเข็มเงินมาก่อนหน้านี้ จึงพอมีประสบการณ์ ในครานี้ หยุนชางเห็นเขาทั้งสองหลบหลีกจากเข็มเงินไปได้ก่อนที่เข็มเงินจะไปถึงตัวพวกเขา มิหนำซ้ำ พวกเขายังรีบหันมามองตามทิศทางที่มาของเข็มเงินแล้วปราดเข้ามาหาหยุนชาง

หยุนชางได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว นางกำมีดพกที่มัดไว้กับขาจนแน่น นางจะรอจนสองคนนั้นเข้ามาแล้วจึงจะลงมือแทง ที่ผ่านมานางต้องกระเสือกกระสนวิ่งหนี เพียงเพราะไม่ต้องการให้สองคนนั้นได้เห็นโฉมหน้าของนาง ทว่าตอนนี้นางไม่มีที่ใดให้หลบหนีได้อีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว แผนการในตอนนี้ ก็เหลือแค่เพียงสังหารคนสองคนนี้เสีย

ทว่า ก่อนที่สองคนนั้นจะบุกมาถึงตัวหยุนชาง หยุนชางก็เหลือบไปเห็นเงาดำเงาหนึ่งเหาะผ่านหน้าไป นางถูกคนอุ้มที่เอวแล้วยกขึ้น แล้วพาเหาะหนีออกมาจากเงื้อมมือของสองคนนั้น

หยุนชางตกใจเป็นอย่างมาก นางคว้าเอามีดพกออกมา หมายมั่นว่าจะแทงไปที่ด้านหลังคนที่อุ้มนาง แต่กลับได้ยินเสียงที่คุ้นเคยร้องออกมาว่า "ข้าเอง"

เสียงที่นางคุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้น หยุนชางถึงกับชะงัก เสด็จอากลับมาแล้ว

จิ้งอ๋องนำหยุนชางวางลงข้างต้นไม้ ส่วนเขาหันไปหยิบมีดแล้วขว้างออกไป พลันคบเพลิงในมือของหนิงเย่ก็ร่วงหล่นลงไปในทันที หนิงเย่รีบเหยียบไฟให้ดับมอด จากนั้นไม่นานตรงที่ที่เขายืนอยู่ก็มืดจนมองอะไรไม่เห็น

แล้วจิ้งอ๋องก็เหาะออกไป มีคนสามคนบุกเข้ามาล้อมหยุนชางไว้ หยุนชางมองเห็นเพียงแค่เงาคน 3 เงา ส่วนอื่นไม่สามารถมองเห็นชัดเจนได้ สายลมเย็นยะเยือกพัดผ่านมาอีกครั้ง หยุนชางรู้สึกไม่ปลอดภัย

ไม่มีครั้งไหนที่หยุนชางจะรู้สึกเสียดายโอกาสได้เท่าครั้งนี้ แม้แต่กำลังภายในก็มิสามารถฝึกฝนได้ วิทยายุทธอื่นๆก็ทำได้เพียงแค่พื้นฐานเท่านั้น ให้ต่อกรกับคนฝีมือระดับเดียวกันก็ยังพอไหว แต่หากต้องเจอกับยอดฝีมือตัวจริง คงจะไม่มีทางเอาชนะได้เลย ที่ผ่านมานางคิดมาตลอดว่า ข้างกายนางมียอดฝีมือรายล้อมมากมาย คงไม่มีสิ่งใดมากล้ำกรายได้ มาวันนี้จึงได้รู้ว่า ตนเองนั้นช่างสะเพร่าเหลือเกิน

สายลมพัดผ่านไปอีกระลอก สีหน้าของหยุนชางเต็มไปด้วยความกังวล นางหวั่นใจว่าจะมีคนซุ่มโจมตีนางโดยอาศัยจังหวะที่จิ้งอ๋องกำลังรับมือกับศัตรูอยู่ หยุนชางกำมีดพกเอาไว้แน่น พยายามเล็งไปตามทิศทางที่จะมีคนบุกเข้ามา

ท้องฟ้ามืดสนิท มองเห็นเพียงแค่เงาลึกลับเงาหนึ่งเท่านั้น หยุนชางหรี่ตาจ้องมอง แล้วก็เห็นว่าเงานั้นหายวับออกไป หยุนชางหันไปมองรอบๆ แล้วก็ได้เจอเงาลึกลับนั่นพุ่งมาทางหยุนชางโดยยื่นมือออกมาพร้อมจู่โจม ส่วนหยุนชางก็ค้อมตัวลงรอจังหวะเล่นงาน เมื่อคนทั้งสองได้มาประชิดกันแล้ว มีดพกในมือก็พุ่งแทงออกไปโดยไม่รีรอ

วิทยายุทธ์ที่หยุนชางเคยร่ำเรียนมา สิ่งที่นางถนัดที่สุดเห็นจะเป็นการลงมือในระยะกระชั้นชิด หากเป็นเรื่องประลองกำลังหรือเรื่องกำลังภายใน หยุนชางอาจจะเอาดีทางนี้ไม่ได้ แต่ถ้าหากให้หยุนชางเข้าไปใกล้ตัวของศัตรูได้ โอกาสที่นางจะชนะคู่ต่อสู้ได้นั้นก็นับว่ามีอยู่สูงมาก

ผู้ที่เข้ามาปะทะกับหยุนชางก็คือหนิงเย่นั่นเอง เนื่องจากตอนที่เขาและเซี่ยโหจิ้งกำลังวิ่งตามหยุนชางอยู่นั้น หยุนชางได้แต่เพียงโยนอาวุธลับออกมา 2 ครั้ง หามีการต่อสู้วิธีอื่นไม่ ทำให้เขาสบประมาทฝีมือของหยุนชาง เมื่อมาถึงการปะทะกันในครานี้ จึงพลาดท่าให้กับหยุนชางอย่างง่ายดาย

หนิงเย่ตกใจเป็นอย่างมาก จะหยุดเหาะก็ไม่อาจควบคุมตนเองได้ แม้จะมีโอกาสหลบหนี แต่นั่นจะทำให้เขาดูเหมือนเป็นผู้ถูกล่า จึงจำต้องยอมรับคมมีดของหยุนชาง แล้วอาศัยจังหวะที่หยุนชางยังไม่ทันชักมีดออก รวบรวมกำลังภายในไว้ที่ฝ่ามือ แล้วจึงผลักพลังนั้นไปยังร่างของหยุนชาง

หยุนชางไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการต่อสู้กับศัตรู นางไม่เคยพบเห็นความเจ้าเล่ห์เพทุบายของหนิงเย่เช่นนี้มาก่อน เขายอมให้ตัวเองเจ็บตัวก่อน แล้วจึงรวบรวมพลังต่อในฝ่ามือ

พลังจากฝ่ามือนั้น กลับทำให้หยุนชางรู้สึกว่ากระดูกต่างๆภายในร่างกายกำลังแตกร้าวไปทั่วทั้งร่าง

ณ จุดจุดนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างก็พ่ายแพ้และบาดเจ็บสาหัส คนทั้งสองต้องระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก

หยุนชางพยายามหาโอกาสเข้าไปใกล้หนิงเย่ แต่ก็เป็นไปได้ยาก ในเวลานั้นเอง ก็ปรากฏดอกไม้ไฟสว่างวาบอยู่บนท้องฟ้า หยุนชางรีบหลบหน้าหนีในทันที เกรงว่าหนิงเย่จะรู้ว่านางเป็นใคร จังหวะนั้นเอง หนิงเย่ก็ฉวยโอกาสที่หยุนชางไม่ทันได้มองมาผลักพลังเข้าไปทำร้ายหยุนชางซ้ำอีกครั้ง

หยุนชางเมื่อได้สัมผัสกับพลังฝ่ามือแล้ว ก็พยายามหลบหนี ทว่ากลับโดนพลังฝ่ามืออีกลูกหนึ่งพุ่งเข้ามาเล่นงาน

"มีเรื่องด่วน เราต้องรีบกลับไปที่ฐานทัพในเวลานี้" เซี่ยโหจิ้งพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด หนิงเย่รีบหันหลังกลับ แล้วจากไปพร้อมกับเซี่ยโหจิ้ง

หยุนชางรู้สึกเหมือนมีอะไรดันขึ้นมาที่คอหอย ที่ปากของนางมีเลือดพุ่งทะลักออกมา หยุนชางหลับตาแล้วฝืนกลืนความเจ็บปวดที่ได้รับลงไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 225 หยุนชางบาดเจ็บ

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 225 หยุนชางบาดเจ็บ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หยุนชางอกสั่นขวัญแขวน สองคนนั้นจับได้แล้วว่านางอยู่ที่นี่ หากพวกนั้นตามหานางจนเจอและรู้ว่านางเป็นใคร คงจะเป็นเรื่องใหญ่แน่ อีกอย่าง เมื่อครู่นี้นางได้ฟังเรื่องสำคัญที่สองคนนั้นคุยกันแล้ว สองคนนั้นคงจะไม่ไว้ชีวิตนางเป็นแน่ หนึ่งต่อสอง วิทยายุทธสองคนนั้นก็คงจะไม่ธรรมดา เกรงว่านางคงมิอาจจะเอาชนะได้

หยุนชางโยนเข็มเงินจำนวนหนึ่งไปตามทิศทางลมเมื่อครู่นี้ นางไม่สนใจแล้วว่าเข็มเงินนั่นจะแทงไปถูกใครหรือไม่ จากนั้นนางก็รีบวิ่งหนี ป่าแห่งนี้เนื้อที่กว้างใหญ่ไพศาล ความร้อนชื้นก็ปกคลุมอย่างหนาแน่น พวกนั้นแม้จะมีกันถึง 2 คน แต่ก็ใช่ว่านางจะหมดโอกาสในการรอดชีวิต

เสียงฝีเท้าที่มาจากด้านหลังใกล้เข้ามามากยิ่งขึ้น หยุนชางกัดฟันแน่นิ่ง น่าเสียดายที่ตนไม่มีกำลังภายใน หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปล่ะก็ อีกไม่นาน สองคนนั้นก็คงจะตามนางทันแน่นอน

ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว อย่างมากก็แค่ต้องตาย คิดแล้วก็ฮึดสู้ หยุนชางวิ่งเร็วสุดกำลัง ขณะเดียวกันก็เอามือล้วงเข้าไปบริเวณเอว แล้วหยิบเอากระบอกจุดไฟที่จิ้งอ๋องมอบให้เมื่อวานขึ้นมา นางเป่าไฟที่ลุกโชนออกมาจากกระบอกจนเกิดเป็นประกายไฟร่วงหล่น นางคว้าเอาใบไม้แห้งบนพื้นขึ้นมา แล้วจุดไฟเผาใบไม้ จากนั้นก็โยนลงไปบนกองใบไม้แห้งที่ดาษดื่นอยู่บนพื้น

ไฟนั้นลุกลามออกไปอย่างรวดเร็ว หยุนชางจุดไฟเพิ่มอีกหลายจุด นางพยายามกระจายไฟให้แผ่วงกว้างให้ได้มากที่สุด กองไฟลุกโชนอย่างน่ากลัว ความร้อนจากกองไฟทำให้ใบหน้าของหยุนชางร้อนผ่าว ป่าแห่งนี้มีใบไม้แห้งเยอะกว่าสิ่งอื่นใด เมื่อจุดไฟขึ้นมา ไฟนั้นก็จะลุกลามแผ่รัศมีออกเป็นวงกว้างได้อย่างง่ายดาย

หยุนชางได้ยินเสียงคนเดินใกล้เข้ามาทุกที นางจึงวิ่งต่อ หากจำไม่ผิดล่ะก็ สระน้ำที่นางเคยเห็น ก็น่าจะต้องมุ่งหน้าไปทางนี้

"แย่จริง รีบส่งข่าวไปยังฐานทัพ ให้ส่งคนมาช่วยกันดับไฟเร็วเข้า ไพร่พลและยุทโธปกรณ์ก็อยู่บนเขานี้ทั้งหมด จะปล่อยให้ไฟลามต่อไปเช่นนี้ไม่ได้เป็นอันขาด" เสียงโวยวายดังมาจากทางด้านหลัง หยุนชางแสยะยิ้ม ดูเหมือนว่าตนเองจะโชคดีอย่างไม่คาดคิด ถ้าหากว่าการวางเพลิงจะสามารถทำลายสถานที่แห่งนี้ให้มอดไหม้กลายเป็นจุณได้ ก็คงจะดีไม่น้อย

"หนิงเย่ วิ่งตามต่อไป ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องนำตัวคนคนนั้นกลับมาให้ได้ จะจับเป็นหรือจับตายก็แล้วแต่" ความสะใจของหยุนชางแวะเวียนมาหาเพียงไม่นาน ก็มีมหันตภัยถาโถมเข้ามาเยือนเสียแล้ว หยุนชางกัดฟันวิ่งไปข้างหน้า พลางเอื้อมมือไปเขย่ากระดิ่งที่ห้อยไว้กับเอว

แล้วนางก็รีบกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ต้นหนึ่ง

หยุนชางสะกดลมหายใจที่เหนื่อยหอบเอาไว้ แล้วก้มไปมองหนิงเย่และเซี่ยโหจิ้งที่วิ่งผ่านใต้ต้นไม้ไป หยุนชางได้ยินเสียงฝีเท้าของคนทั้งสองเริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ นางจึงกระโดดไปที่ต้นไม้ต้นข้างๆ เพื่อมุ่งหน้าไปยังอีกเส้นทางหนึ่ง

"ไม่สิ ไม่มีเสียงฝีเท้าเลยแม้แต่น้อย แสดงว่าคนผู้นั้นกำลังซ่อนตัวอยู่แน่ๆ กลับไป แล้วจุดไฟมา ใช้ไฟส่องต้นไม้ทุกต้นอย่างละเอียด ข้าไม่เชื่อหรอกว่า มันจะหนีออกไปได้" เซี่ยโหจิ้งออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

หยุนชางรู้ดีว่า ตนนั้นไม่สามารถกระดุกกระดิกได้อีกแล้ว สองคนนั้นฝีมือร้ายกาจมาก หากตนลองขยับตัวแม้เพียงนิดเดียว คงจะถูกสองคนนั้นจับได้แน่ๆ

หยุนชางมองเห็นแสงไฟรำไรใกล้เข้ามา คงเป็นพวกทหารนำคบเพลิงออกมาตามล่าหานาง หยุนชางมองไปรอบๆ กองเพลิงที่ตนจุดไปเมื่อครูนั้นกำลังลุกโชนมอดไหม้ ในป่านี้เต็มไปด้วยใบไม้แห้ง อีกไม่นานก็คงจะลุกลามใหญ่โตมากกว่านี้

หยุนชางถอนหายใจ หรือว่านางจะต้องมาจบชีวิตลงในเวลานี้เสียแล้ว?

แสงไฟรำไรจากคบเพลิงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หยุนชางเห็นเหล่าทหารพากันค้นหานางอย่างละเอียด พวกเขาส่องคบเพลิงไปใกล้ต้นไม้แทบจะทุกต้น แล้วยังเดินวนรอบต้นไม้เพื่อความแน่ใจอีกด้วย

คนพวกนั้นอยู่ห่างจากนางไม่ถึง 5 เมตรแล้ว หยุนชางรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง นางค่อยๆหยิบเข็มเงินออกมาจากแขนเสื้อ แล้วโยนไปที่สองคนนั้น

แต่พวกเขาเคยเผชิญหน้ากับเข็มเงินมาก่อนหน้านี้ จึงพอมีประสบการณ์ ในครานี้ หยุนชางเห็นเขาทั้งสองหลบหลีกจากเข็มเงินไปได้ก่อนที่เข็มเงินจะไปถึงตัวพวกเขา มิหนำซ้ำ พวกเขายังรีบหันมามองตามทิศทางที่มาของเข็มเงินแล้วปราดเข้ามาหาหยุนชาง

หยุนชางได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว นางกำมีดพกที่มัดไว้กับขาจนแน่น นางจะรอจนสองคนนั้นเข้ามาแล้วจึงจะลงมือแทง ที่ผ่านมานางต้องกระเสือกกระสนวิ่งหนี เพียงเพราะไม่ต้องการให้สองคนนั้นได้เห็นโฉมหน้าของนาง ทว่าตอนนี้นางไม่มีที่ใดให้หลบหนีได้อีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว แผนการในตอนนี้ ก็เหลือแค่เพียงสังหารคนสองคนนี้เสีย

ทว่า ก่อนที่สองคนนั้นจะบุกมาถึงตัวหยุนชาง หยุนชางก็เหลือบไปเห็นเงาดำเงาหนึ่งเหาะผ่านหน้าไป นางถูกคนอุ้มที่เอวแล้วยกขึ้น แล้วพาเหาะหนีออกมาจากเงื้อมมือของสองคนนั้น

หยุนชางตกใจเป็นอย่างมาก นางคว้าเอามีดพกออกมา หมายมั่นว่าจะแทงไปที่ด้านหลังคนที่อุ้มนาง แต่กลับได้ยินเสียงที่คุ้นเคยร้องออกมาว่า "ข้าเอง"

เสียงที่นางคุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้น หยุนชางถึงกับชะงัก เสด็จอากลับมาแล้ว

จิ้งอ๋องนำหยุนชางวางลงข้างต้นไม้ ส่วนเขาหันไปหยิบมีดแล้วขว้างออกไป พลันคบเพลิงในมือของหนิงเย่ก็ร่วงหล่นลงไปในทันที หนิงเย่รีบเหยียบไฟให้ดับมอด จากนั้นไม่นานตรงที่ที่เขายืนอยู่ก็มืดจนมองอะไรไม่เห็น

แล้วจิ้งอ๋องก็เหาะออกไป มีคนสามคนบุกเข้ามาล้อมหยุนชางไว้ หยุนชางมองเห็นเพียงแค่เงาคน 3 เงา ส่วนอื่นไม่สามารถมองเห็นชัดเจนได้ สายลมเย็นยะเยือกพัดผ่านมาอีกครั้ง หยุนชางรู้สึกไม่ปลอดภัย

ไม่มีครั้งไหนที่หยุนชางจะรู้สึกเสียดายโอกาสได้เท่าครั้งนี้ แม้แต่กำลังภายในก็มิสามารถฝึกฝนได้ วิทยายุทธอื่นๆก็ทำได้เพียงแค่พื้นฐานเท่านั้น ให้ต่อกรกับคนฝีมือระดับเดียวกันก็ยังพอไหว แต่หากต้องเจอกับยอดฝีมือตัวจริง คงจะไม่มีทางเอาชนะได้เลย ที่ผ่านมานางคิดมาตลอดว่า ข้างกายนางมียอดฝีมือรายล้อมมากมาย คงไม่มีสิ่งใดมากล้ำกรายได้ มาวันนี้จึงได้รู้ว่า ตนเองนั้นช่างสะเพร่าเหลือเกิน

สายลมพัดผ่านไปอีกระลอก สีหน้าของหยุนชางเต็มไปด้วยความกังวล นางหวั่นใจว่าจะมีคนซุ่มโจมตีนางโดยอาศัยจังหวะที่จิ้งอ๋องกำลังรับมือกับศัตรูอยู่ หยุนชางกำมีดพกเอาไว้แน่น พยายามเล็งไปตามทิศทางที่จะมีคนบุกเข้ามา

ท้องฟ้ามืดสนิท มองเห็นเพียงแค่เงาลึกลับเงาหนึ่งเท่านั้น หยุนชางหรี่ตาจ้องมอง แล้วก็เห็นว่าเงานั้นหายวับออกไป หยุนชางหันไปมองรอบๆ แล้วก็ได้เจอเงาลึกลับนั่นพุ่งมาทางหยุนชางโดยยื่นมือออกมาพร้อมจู่โจม ส่วนหยุนชางก็ค้อมตัวลงรอจังหวะเล่นงาน เมื่อคนทั้งสองได้มาประชิดกันแล้ว มีดพกในมือก็พุ่งแทงออกไปโดยไม่รีรอ

วิทยายุทธ์ที่หยุนชางเคยร่ำเรียนมา สิ่งที่นางถนัดที่สุดเห็นจะเป็นการลงมือในระยะกระชั้นชิด หากเป็นเรื่องประลองกำลังหรือเรื่องกำลังภายใน หยุนชางอาจจะเอาดีทางนี้ไม่ได้ แต่ถ้าหากให้หยุนชางเข้าไปใกล้ตัวของศัตรูได้ โอกาสที่นางจะชนะคู่ต่อสู้ได้นั้นก็นับว่ามีอยู่สูงมาก

ผู้ที่เข้ามาปะทะกับหยุนชางก็คือหนิงเย่นั่นเอง เนื่องจากตอนที่เขาและเซี่ยโหจิ้งกำลังวิ่งตามหยุนชางอยู่นั้น หยุนชางได้แต่เพียงโยนอาวุธลับออกมา 2 ครั้ง หามีการต่อสู้วิธีอื่นไม่ ทำให้เขาสบประมาทฝีมือของหยุนชาง เมื่อมาถึงการปะทะกันในครานี้ จึงพลาดท่าให้กับหยุนชางอย่างง่ายดาย

หนิงเย่ตกใจเป็นอย่างมาก จะหยุดเหาะก็ไม่อาจควบคุมตนเองได้ แม้จะมีโอกาสหลบหนี แต่นั่นจะทำให้เขาดูเหมือนเป็นผู้ถูกล่า จึงจำต้องยอมรับคมมีดของหยุนชาง แล้วอาศัยจังหวะที่หยุนชางยังไม่ทันชักมีดออก รวบรวมกำลังภายในไว้ที่ฝ่ามือ แล้วจึงผลักพลังนั้นไปยังร่างของหยุนชาง

หยุนชางไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการต่อสู้กับศัตรู นางไม่เคยพบเห็นความเจ้าเล่ห์เพทุบายของหนิงเย่เช่นนี้มาก่อน เขายอมให้ตัวเองเจ็บตัวก่อน แล้วจึงรวบรวมพลังต่อในฝ่ามือ

พลังจากฝ่ามือนั้น กลับทำให้หยุนชางรู้สึกว่ากระดูกต่างๆภายในร่างกายกำลังแตกร้าวไปทั่วทั้งร่าง

ณ จุดจุดนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างก็พ่ายแพ้และบาดเจ็บสาหัส คนทั้งสองต้องระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก

หยุนชางพยายามหาโอกาสเข้าไปใกล้หนิงเย่ แต่ก็เป็นไปได้ยาก ในเวลานั้นเอง ก็ปรากฏดอกไม้ไฟสว่างวาบอยู่บนท้องฟ้า หยุนชางรีบหลบหน้าหนีในทันที เกรงว่าหนิงเย่จะรู้ว่านางเป็นใคร จังหวะนั้นเอง หนิงเย่ก็ฉวยโอกาสที่หยุนชางไม่ทันได้มองมาผลักพลังเข้าไปทำร้ายหยุนชางซ้ำอีกครั้ง

หยุนชางเมื่อได้สัมผัสกับพลังฝ่ามือแล้ว ก็พยายามหลบหนี ทว่ากลับโดนพลังฝ่ามืออีกลูกหนึ่งพุ่งเข้ามาเล่นงาน

"มีเรื่องด่วน เราต้องรีบกลับไปที่ฐานทัพในเวลานี้" เซี่ยโหจิ้งพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด หนิงเย่รีบหันหลังกลับ แล้วจากไปพร้อมกับเซี่ยโหจิ้ง

หยุนชางรู้สึกเหมือนมีอะไรดันขึ้นมาที่คอหอย ที่ปากของนางมีเลือดพุ่งทะลักออกมา หยุนชางหลับตาแล้วฝืนกลืนความเจ็บปวดที่ได้รับลงไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+