ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 17 ป่วยกะทันหัน

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 17 ป่วยกะทันหัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในตำหนักชิงซินและเสียงของฉินเมิ่งก็แว่วมา "พี่ฉินเมิ่ง วันนี้จะปลุกองค์หญิงให้ตื่นเร็วหน่อยหรือ เมื่อวานองค์หญิงเพิ่งถูกแต่งตั้งสมญานาม ตามปกติหลังอาหารเช้าในเช้าวันนี้จะมีนางสนมที่ต่ำกว่าขั้นหนึ่งมาแสดงความยินดี องค์หญิงชอบนอนตื่นสาย หลังอาหารกลางวันนางจึงจะตื่น หากพากนางสนมมาแล้วแต่องค์หญิงยังไม่ตื่นคงจะไม่ดีไม่ใช่หรือ?"

ฉิงยีครุ่นคิดสักพักจึงพูดว่า "พวกเราไปเตรียมอาหารกันก่อนและเตรียมของล้างหน้าทั้งหมดให้เสร็จก่อนดีกว่า คาดว่ากว่าเหล่าสนมจะไปทำความเคารพและทานอาหารกับฮองเฮาเสร็จแล้วและกำลังมาก็ให้คนไปรออยู่ข้างนอกริมทะเลสาบก็ได้ เมื่อเห็นพวกเขาแล้วค่อยปลุกองค์หญิงก็ยังไม่สาย ให้องค์หญิงได้นอนมากขึ้นอีกหน่อยเถอะ"

ฉินเมิ่งพยักหน้าเล็กน้อยและออกไปจากห้องอย่างอารมณ์ดี นางไปสั่งให้คนเตรียมน้ำ ฉิงยีมองตามร่างของนางแล้วก็ยิ้ม หันกลับมา เตรียมที่จะไปที่ห้องครัวเพื่อขอให้คนทำโจ๊ก แต่จู่ๆก็ชะงักฝีเท้า "ตามปกติหรือ? ในหมู่องค์หญิงแห่งแคว้นหนิง องค์หญิงหยุนชางเป็นคนแรกที่ได้รับตำแหน่ง ฉินเมิ่งรู้ได้อย่างไรว่าผู้ที่ระดับต่ำกว่าองค์หญิงต้องมาแสดงความยินดีกับนาง? ฉินเมิ่งไม่สนใจเรื่องพวกนี้ที่สุดเลยไม่ใช่หรือ?"

ฉิงยีขมวดคิ้วครุ่นคิดในใจอยู่นาน แต่ก็ไม่เข้าใจว่าปัญหาอยู่ตรงไหน เพียงแต่รู้สึกว่าฉินเมิ่งดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติ

หลังจากจัดการทุกอย่างแล้วนางก็ได้ยินเสียงรายงานจากขันทีที่อยู่นอกประตู "ฉิงยีกูกู ข้าเห็นว่ามีคนกำลังมาที่นี่ ตอนนี้อยู่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำแล้ว"

ตำหนักชิงซินอยู่ค่อนข้างห่างไกลและมีน้อยคนที่ไปมาในยามปกติ ดูแล้วจึงน่าจะเป็นนางสนมที่มาร่วมแสดงความยินดี เมื่อคิดเช่นนี้ ฉิงยีจึงสั่งว่า "ไปเอาของทั้งหมดที่เตรียมไว้มา ข้าจะใช้หลังองค์หญิงตื่น"นางพูดพลางเปิดม่านเดินเข้าไปในตำหนัก

ด้านในตำหนักเงียบเชียบ ฉิงยีมองไปก้อนกลมที่กำลังขดอยู่ในมุ้งก็ยิ้มออกมา นางเดินไปที่หน้าต่างเพื่อเปิดหน้าต่างเพียงแล้วจึงกระซิบ "องค์หญิง ตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ"

ไม่มีปฏิกิริยาตองสนองต่อเสียงเรียกสองครั้งนั้น ฉิงยีส่ายหัว องค์หญิงหยุนชางฉลาดและน่ารัก ข้อเสียอย่างเดียวก็คือนางชอบนอนตื่นสาย ฉิงยีเดินไปที่เตียงและเก็บมุ้งขึ้น นางก้มลงไปอุ้มหยุนชางให้ลุกขึ้นนั่งแต่กลับพบว่าคนตัวเล็กในมือของนางตัวร้อนจี๋…

ฉิงยีสะดุ้งและรีบดูหน้าของหยุนชางก็เห็นว่านางหน้าแดง หน้าผากของนางร้อนผ่าว

"ใครก็ได้มานี่หน่อย องค์หญิงมีไข้ รีบไปเชิญหมองหลวงเร็วเข้า… "

"หา? องค์หญิงตัวร้อน?"เสียงของฉินเมิ่งดังมาจากด้านนอกประตู ศีรษะของนางก็โน้มเข้ามาดูและอุทานด้วยความตกใจ "ร้อนขนาดนี้ได้อย่างไร? ข้าจะไปเชิญหมอหลวงมาเดี๋ยวนี้… "

ก่อนที่จะสิ้นเสียง เงาของนางก็หายไปแล้ว

เหล่าขันทีและนางกำนัลหลายคนที่อยู่นอกประตูเมื่อได้ยินเสียงของฉิงยีก็รีบร้อนวิ่งเข้ามา ฉิงยีครุ่นคิดเล็กน้อยและรีบสั่งว่า "เสี่ยวหลินจื่อ ก่อนอื่นเจ้าส่งนางกำนัลสองสามคนไปแจ้งเหล่านางสนมที่จะมาแสดงความยินดี บอกว่าเมื่อวานองค์หญิงตากฝน เป็นหวัด นางเกรงว่านางจะแพร่เชื้อหวัดให้พวกนาง ให้พวกนางค่อยมาใหม่วันหลัง เสี่ยวหลินจื่อเจ้าเฝ้าอยู่ที่ตำหนักชิงซิน

หากมีนางสนมคนไหนมาถึงก่อนจะได้อธิบาย คนอื่นๆไปต้มน้ำร้อนเข้ามา… "

ทุกคนรีบปฏิบัติตามคำสั่งและออกไปทำงานที่ได้รับมองหมาย หลังจากนั้นสักพัก ฉินเมิ่งเข้ามาพร้อมกับชายชราคราขาวคนหนึ่ง "ฉิงยี ข้าเชิญหมอหลวงมาแล้ว"

ฉิงยีรีบวางหยุนชางลงบนเตียงและเดินไปหาหมอหลวง "ท่านหมอรีบดูองค์หญิงเถอะ องค์หญิงของเราเป็นอะไรไป? นางตัวร้อนจี้ หน้าแดงก่ำ… "

หมอหลวงเคราขาวรีบนั่งลงข้างเตียงตรวจอาการอย่างรวดเร็ว เขาจับชีพจรของนางและกล่าวว่า "เมื่อวานองค์หญิงฮุ่ยกั๋วตากฝน ร่างกายกระทบกับความเย็น ตัวร้อนหนักทีเดียวต้องรีบลดไข้นาง ให้คนไปเอาเหล้ามาเช็ดตัวให้องค์หญิง ข้าจะเขียนสำรับยาให้คนรีบไปเอายาที่สำนักหมอหลวงมาต้มให้องค์หญิงดื่ม"

ฉินเมิ่งที่อยู่ด้านข้างได้ยินคำพูดนั้นจึงรีบกล่าว "ฉิงยี เจ้าดูแลองค์หญิงเถอะ ข้าจะส่งคนไปรับยาและไปเอาเหล้ามา" นางพูดพลางยื่นพู่กันและหมึกให้หมอหลวง รอเขาเขียนยาเสร็จแล้วก็นำออกไป

หลังจากวันที่วุ่นวายมาทั้งวัน ตอนบ่ายหยุนชางก็ไข้ลดเล็กน้อย ในตอนค่ำจักรพรรดิหนิงก็มาเยี่ยมด้วยตนเอง เมื่อเห็นว่าหยุนชางไข้ลดลงแล้วเขาจึงกำชับให้ฉิงยีและฉินเมิ่งดูแลนางให้ดีและจากไป

โคมไฟเปล่งประกาย ฉินเมิ่งเอนกายบนเก้าอี้ หาวและจ้องมองไปที่ฉิงยีที่คอยเช็ดตัวให้หยุนชางไม่หยุดหย่อน "ฉิงยี วันนี้เจ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว รีบไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวข้าคอยเฝ้าองค์หญิงเอง"

ฉิงยียิ้ม "เอาเถอะ ดูเจ้าหาวไม่หยุดแล้ว ไข้ขององค์หญิงก็ยังไม่ลดลงเท่าไหร่นัก ให้ข้าเฝ้าดีกว่า เจ้าไปนอนก่อนเถอะ รอพรุ่งนี้องค์ไข้ลดแล้วเจ้าค่อยมารับหน้าที่ต่อจากข้า"

ฉินเมิ่งคิดเล็กน้อยและพยักหน้า "อืม ถ้าอย่างนั้นก็ลำบากเจ้าแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะตื่นแต่เช้า"ในขณะที่พูดนางก็หาวและเปิดม่านเดินออกไป

ฉิงยีช่วยหยุนชางให้เหล้าเช็ดตัวหลายครั้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นดวงตาของหยุนชางเบิกกว้างมองบนเพดานโดยไม่กระพริบตา

"องค์หญิง ตื่นแล้วหรือเพคะ?"ฉิงยีดีใจมากและรีบพูดว่า "องค์หญิง ท่านทำให้ข้ากลัวแทบตาย รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าเพคะ?"

หยุนชางได้ยินเสียงนั้น ดวงตาของนางกลอกมามองฉิงยี "ข้ารู้สึกเจ็บคอเล็กน้อยและอ่อนแรงไปทั้งตัวเลย ข้าเป็นอะไรไปหรือเปล่า?"

ฉิงยีได้ยินดังนั้นก็รีบเดินไปที่โต๊ะข้างๆแล้วรินน้ำให้ "องค์หญิงดื่มน้ำร้อนหน่อยเถิด เมื่อวานองค์หญิงตากฝนและเป็นหวัด เช้านี้ข้าเห็นว่าท่านตัวร้อน ข้าจึงรีบร้อนเชิญหมอหลวงมาดูอาการ ท่านนอนมาทั้งวัน ข้าล่ะกลัวแทบแย่ จริงสิ ยายังอุ่นอยู่บนเตา องค์หญิงดื่มน้ำก่อน ข้าจะไปเอายามาให้"

หยุนชางลุกขึ้นนั่ง รู้สึกถึงความเจ็บปวดทั่วร่างกายและขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ นางรับแก้วน้ำที่ฉิงยีส่งให้ ฉิงยีหันตัวไปกำลังจะออกไปเอายา เมื่อเปิดม่านขึ้นนางก็เห็นคนสองคนยืนอยู่ข้างนอก

"ว้าย… "ฉิงยีอดร้องออกมาไม่ได้

"หือ? ฉิงอี มีอะไรเหรอ?"หยุนชางหันศีรษะมองไปที่ประตูก็เห็นคนสองคนเดินเข้ามา ทั้งสองสวมเสื้อคลุมสีดำ ใบหน้าของพวกเขาถูกปกปิดภายใต้ผ้าคลุมหน้า เมื่อเห้องมาคนๆนั้นก็ถอดเสื้อคลุมออกเผยให้เห็นใบหน้าที่บอบบาง

"…ท่านแม่?"หยุนชางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย คนที่มาคือสนมจิ่น แต่นางอาศัยอยู่ในตำหนักเย็น คิดแล้วคงเข้าๆออกๆไม่ได้อย่างอิสระ จู่ๆนางก็มาถึงตำชิงซินแห่งนี้ได้อย่างไร

สนมจิ่นแย้มยิ้มเล็กน้อย เดินไปที่เตียงและนั่งลง ฉิงยีรีบยื่นถ้วยชาให้สนมจิ่นและกระซิบเสียงเบา "นายท่านมาได้ยังไงเจ้าคะ? วังแห่งนี้เต็มไปด้วยสายของฮองเฮาหยวนเจิน หากถูกพบเข้า…"

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด