ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง 177 เรื่องเหลวไหล (๒)

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง Chapter 177 เรื่องเหลวไหล (๒) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สีหน้าของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นดูฉงนขึ้นมาเล็กน้อยและดูเหมือนจักรพรรดิหนิงจะประหลาดใจมาก ขุนนางครึ่งหนึ่งที่อยู่ด้านหลังหลุบตาลงและอยากจะมุดดินไปเสียอย่างนั้น มีบางคนที่มีสีหน้าบางสมใจ หยุนชางมองแล้วแอบจำเก็บไว้ในใจ

"ท่านอัครมหาเสนาบดีหลี่! หรือว่าวันนี้ท่านมาที่นี่เพื่อทำให้ข้ามัวหมอง? ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นหัวหน้าเหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นและข้าเป็นขุนนางฝ่ายทหาร ท่านไม่ชอบข้ามาเสมอ แต่ข้าก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและปฏิบัติต่อท่านอย่างให้เกียรติ วันนี้ท่านเต็มใจมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของข้า ข้าก็ปลื้มใจ แต่ท่านทำเช่นนี้ก็ทำให้ข้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก ขอให้ฝ่าบาทคือความยุติธรรมให้หม่อมฉันด้วยพ่ะย่ะค่ะ" สีหน้าของจิ้งอ๋องดูไม่พอใจเลย เขาถลึงตามองอัครมหาเสนาบดีหลี่แล้วพูดเสียงเย็น จากนั้นก็หันกลับมาคำนับจักรพรรดิหนิง

จักรพรรดิหนิงเพ่งมองดูอัครมหาเสนาบดีหลี่ผู้ซึ่งสวมเพียงเสื้อคลุมชั้นในและหน้าแดงแจ๋ ในใจก็มีความสุขมากเป็นอย่างมาก แต่บนใบหน้าของเขากลับขมวดคิ้ว "ท่านมหาเสนาบดี เรื่องวันนี้ท่านทำเกินไปแล้ว นอกจากนี้แม่นางชางยางยังเป็นแขกผู้มีเกียรติจากแคว้นเย้หลาง ทำไมท่านถึง…" เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ จักรพรรดิหนิงก็ถอนหายใจ ดวงตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง

หยุนชางมองไปที่ชางเจียชิงซูซึ่งไม่ได้พูดอะไรเลยก็เห็นเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เมื่อเบนสายตาออกไปก็เห็นคนในจวนมหาเสนาบดีเต็มไปด้วยโทสะ ฮูหยินของเขาหน้าซีดเผือดมองสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา

อัครมหาเสนาบดีหลี่ขบกรามและคุกเข่าลงกับพื้น "หม่อมฉันผิดไปแล้ว หม่อมฉันยินดีขอโทษจิ้งอ๋อง ส่วนแม่นางชางยางนั้น เรื่องในวันนี้ทำให้นางต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง หม่อมฉันก็เต็มใจรับผิดชอบ"

ชางยางอวี้เอ๋อร์ที่อยู่บนพื้นราวกับเพิ่งตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น นางไม่อาจซ่อนความมึนงงในดวงตาของนางได้ หยุนชางย่อมรู้ว่าแผนของนางมุ่งเป้าไปที่เสด็จพ่อ ชางยางอวี้เอ๋อร์วางแผนได้ดี แต่บางทีอาจเป็นการบงการของชางเจียชิงซู เมื่อยั่วยวนจิ้งอ๋องไม่สำเร็จจึงได้คิดไปถึงเสด็จพ่อ เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าในจวนอ๋องที่ดูจะมีข้ารับใช้เพียงน้อยนิด แต่จริงๆ แล้วมีสายลับอยู่เต็มไปหมด เรื่องที่ชางยางอวี้เอ๋อร์เอ่ยกับคนใช้ของนางจะถูกปิดบังจากหยุนชางไปได้อย่างไร?

หยุนชางกระตุกรอยยิ้มมุมปาก มองดูท่าทางร้อนใจของนางแล้วเยาะเย้ยอยู่ในใจ เมื่อครู่เฉี่ยนอินกล่าวว่าอย่างไรนะ บอกว่าเดิมชางยางอวี้เอ๋อร์ไม่เต็มใจที่จะไปยั่วยวนเสด็จพ่อ แต่เห็นว่าแม้ว่าเสด็จพ่อจะเป็นวัยกลางคนแล้ว รูปลักษณ์ของเขาก็ยังดูองอาจหล่อเหลา และหากแผนนี้สำเร็จ นางก็จะได้เป็นถึงตำแหน่งสนมผู้สูงส่ง คิดได้เช่นนี้นางจึงยอม แต่นางกลับคิดไม่ถึงว่าจะถูกชายชราที่เป็นเทียนใกล้มอดเอาเปรียบ ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าอัครมหาเสนาบดีจะเป็นหัวหน้าของเหล่าขุนนางแต่ก็เป็นเพียงขุนนางเท่านั้น ในใจของชางยางอวี้เอ๋อร์จึงไม่ใคร่จะเต็มใจนัก

ชางยางอวี้เอ๋อร์กัดฟันและต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้นางนอนเปลือยกายอยู่บนพื้น จึงเพียงแค่คิดเรื่องปกปิดตำแหน่งสำคัญของนาง หากนางพูดอะไรในตอนนี้นางก็จะกลายเป็นตัวตลก เพียงแต่นางต้องยอมให้ชายชรานี่เอาเปรียบจริงๆ หรือ?

ในใจชางยางอวี้เอ๋อร์รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก สาวใช้ของนางบอกว่าจักรพรรดิหนิงอยู่ในห้องนี้ นางประหม่าอยู่พักหนึ่งบวกกับความมืดสลัวหลังผิดประตูจึงทำให้เห็นคนบนเตียงไม่ชัดนัก แต่นางคิดไม่ถึงว่า… ไม่ได้การ อายุราวกับดอกไม้แรกแย้มเช่นนางในตอนนี้จะเสียมันไปโดยเปล่าประโยชน์บนตัวชายแก่นี่ไม่ได้เด็ดขาด เมื่อนางกำลังจะเอ่ยปากพูดก็ได้ยินเสียงของชางยางอวี้เอ๋อร์ "แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพียงแต่เมื่อท่านมหาเสนาบดีบอกว่าจะรับผิดชอบ ข้าเองก็คงไม่พูดอะไรมากนัก เพียงแต่อย่างไรอวี้เอ๋อร์ก็เป็นบุตรสาวบุญธรรมของราชครูแห่งแคว้นเย้หลาง ราชครูเป็นผู้มีเกียรติ หากรู้ว่าอวี้เอ๋อร์เกิดเรื่องเช่นนี้คงจะเสียใจมาก"

อัครมหาเสนาบดีหลี่กัดฟัน เขาไม่ได้โง่ย่อมรู้ได้โดยธรรมชาติว่าคำพูดเหล่านี้ของชางเจียชิงซูหมายความเช่นไร ชางเจียชิงซูคิดจะเอาเขาเป็นพวก ดังนั้นจึงหาทางออกให้แก่เขาเพียงแต่เน้นว่าสถานะของชางยางอวี้เอ๋อร์นั้นสูงส่งและเขาต้องการให้เขาให้ตำแหน่งแก่นาง ไม่ว่าอย่างไรชางยางอวี้เอ๋อร์ก็เป็นหญิงต่างชาติ เดิมแต่งงานกับคนต่างชาติก็เป็นเรื่องต้องห้ามเล็กน้อยสำหรับจักรพรรดิ หากยังต้องให้ตำแหน่งนางสูงเกินไป…

"ฝ่าบาท หม่อมฉันรู้ว่าตนเองผิดต่อแม่นางชางยาง แต่ภรรยาเอกของหม่อมฉันแต่งงานกับหม่อมฉันมาสี่สิบปีแล้วและอดทนอยู่ในศีลธรรมอันดีมาตลอดทั้งยังมีบุตรห้าคนให้แก่หม่อมฉัน หม่อมฉันไม่อาจทิ้งนางไปได้…" อัครมหาเสนาบดีโค้งคำนับต่อจักรพรรดิหนิง น้ำเสียงของเขาอัดอั้นตันใจ

มุมปากของจักรพรรดิหนิงยกขึ้นเป็นรอยยิ้มจางๆ ในเมื่อภรรยาเอกของเขาสามารถครองตำแหน่งภรรยาเอกมาหลายปีเช่นนี้และให้เกียรติอัครมหาเสนาบดีย่อมต้องมีวิธีอะไรบางอย่างแน่ ชางยางอวี้เอ๋อร์มีอารมณ์รุนแรงและสวยงามอ่อนเยาว์ ไม่รู้ว่าเมื่อสองคนนี้มาพบกันแล้วจะเป็นอย่างไร

"ท่านมหาเสนาบดีล้อเล่นแล้ว เรื่องนี้ค่อนข้างจัดการยาก ฮูหยินของท่านเองก็เป็นแบบอย่างแก่สตรีทุกคนในเมืองหลวงมาโดยตลอด เพียงแต่แม่นางชางยางก็เป็นสตรีผู้สูงศักดิ์แห่งแคว้นเย้หลาง มิเช่นนั้นเอาอย่างนี้ เจ้าก็รับแม่นางชางยางเข้ามาเป็นภรรยารองเสีย เช่นนี้ก็เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวแล้ว" จักรพรรดิหนิงพูดอย่างเคร่งขรึม

ทุกคนต่างตกใจ ภรรยารอง นี่ย่อมเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพียงแต่… ทุกคนมองชางยางอวี้เอ๋อร์ที่ยังนอนเปลือยเปล่าอยู่บนพื้นราวกับถูกลืมไปแล้ว เพียงแต่ผู้หญิงเช่นนี้คู่ควรกับตำแหน่งภรรยารองของอัครมหาเสนาบดีนี้หรือ?

ในใจของอัครมหาเสนาบดีย่อมโกรธเป็นทวีคูณ แต่เขาก็รู้ด้วยว่าหากยังไม่เห็นด้วยและให้เรื่องดำเนินต่อไป ผู้ที่เสียเปรียบก็คือตัวเขาเอง ไม่สู้รับปากไปเสีย บางทีเขาอาจจะยังพอรักษาชื่อเสียงไว้ได้บ้าง เขาจึงพยักหน้าและกล่าวว่า "หม่อมฉันน้อมรับพระราชโองการพ่ะย่ะค่ะ"

จักรพรรดิหนิงพยักหน้าแล้วจึงได้สติขึ้น "ยังไม่รีบไปเอาเสื้อผ้าให้ท่านอัครมหาเสนาบดีและฮูหยินมาใส่อีกหรือ?"

บ่าวใช้ของอัครมหาเสนาบดีและชางยางอวี้เอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างจึงรีบเข้าไปหยิบเสื้อผ้าในห้องออกมาสวมให้แก่ชางยางอวี้เอ๋อร์และอัครมหาเสนาบดี

หยุนชางกระตุกยิ้มมุมปาก คราวนี้เกรงว่าทุกคนในตระกูลหลี่คงจะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะไปสักพัก เป็นถึงหัวหน้าของเหล่าขุนนางแต่กลับทำเรื่องต่ำทรามเช่นนี้ออกมาได้ ช่างสะท้านฟ้าสะเทือนดินยิ่งนัก

หยุนชางเงยหน้าขึ้นก็สบเข้ากับสายตาครุ่นคิดของจิ้งอ๋อง ในใจนางกระตุกวูบ มุมปากสั่นเล็กน้อย ราวกับว่าตนเองดีใจจนลืมตัวไปหน่อยแล้ว

เมื่อจักรพรรดิหนองเห็นว่าเรื่องต่างๆ คลี่คลายแล้ว เขาก็ขี้เกียจที่จะมีส่วนร่วมอีกจึงโบกมือแล้วพูดว่า "ข้าสร่างเมาแล้ว ในวังยังมีฎีกาอีกมากที่ข้าต้องจัดการ ข้าขอตัวกลับวังก่อน"

"น้อมส่งเสด็จเพคะ/พ่ะย่ะค่ะ" ทุกคนรีบโค้งคำนับอย่างรวดเร็ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด