Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1816 ดูดซับถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1816 ดูดซับถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1816 ดูดซับถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

สวรรค์สีขาวน้อย

 

ร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนยิ้มขณะที่เขายื่นมือออกไป

 

กวางก้มศีรษะลงต่อหน้าร่างแยกมนุษย์มังกรและใช้ลิ้นสีชมพูของมันเลียฝ่ามือของเขา

 

“นายท่าน” กวางกล่าวด้วยภาษามนุษย์

 

มันไม่ใช่กวางธรรมดาแต่เป็นจิตวิญญาณสวรรค์ของถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ

 

จิตวิญญาณสวรรค์ของถ้ําสวรรค์ทะเลปราณอยู่ในรูปลักษณ์ของกวางสีขาวที่มีดวงตาสีทอง อย่างไรก็ตาม บนร่างกายของมันปรากฏบาดแผลที่เต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า

 

ร่างแยกมนุษย์มังกรถอนหายใจ “อาการบาดเจ็บของเจ้ารุนแรงมาก วิธีการของข้าอาจไม่ได้ผล

 

นี่คืออาการบาดเจ็บที่เกิดจากการต่อสู้กับภัยพิบัติในถ้ําสวรรค์ทะเลปราณและเป็นสาเหตุที่จิตวิญญาณสวรรค์ต้องจําศีล

 

จิตวิญญาณสวรรค์เกิดจากเจตจํานงที่หลอมรวมกับปราณสวรรค์ ดังนั้นวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาจึงเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการรักษามัน

 

ฟางหยวนพยายามแล้วแต่ไม่ประสบความสําเร็จ

 

แม้เขาจะมีวิธีบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมที่ทรงพลังแต่เขาไม่กล้าใช้มันอย่างไม่ระมัดระวัง

 

หลังจากทั้งหมดวิธีการเหล่านั้นอาจเป็นอันตรายต่อจิตวิญญาณสวรรค์ การรักษาอาจกลายเป็นการฆ่ามัน

 

ฟางหยวนไม่สามารถรักษากวางตัวนี้ได้ในเวลานี้แต่มันไม่สน ในความเป็นจริงจิตวิญญาณสวรรค์ กวางขาวตัวนี้ค่อนข้างมีความสุข หลังจากถ้ําสวรรค์ทะเลปราณถูกกลืนกิน มันไม่ตายและยังมีชีวิตอยู่

 

รูปแบบชีวิตทั้งหมดล้วนมีสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด จิตวิญญาณสวรรค์ก็เช่นกัน พวกมันยังต้องการเจ้านายเพื่อดูแลถ้ําสวรรค์

 

พวกมันจะยอมรับเจ้านายที่สามารถเติมเต็มเงื่อนไขหรืออาจถูกกําหราบโดยท่าไม้ตายบางอย่าง เช่นท่าไม้ตายอมตะแสงโลหิตของฟางหยวน

 

ตอนนี้มิติช่องว่างของฟางหยวนมีจิตวิญญาณแผ่นดินและจิตวิญญาณสวรรค์จํานวนมาก

 

แน่นอนว่าจิตวิญญาณแผ่นดินมีมากกว่า ท่ามกลางพวกมัน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นที่สุด เพราะมันถูกสร้างขึ้นมาจากสองเจตจํานง

จิตวิญญาณแผ่นดิน และจิตวิญญาณสวรรค์เหล่านี้กระจัดกระจายอยู่ในสถานที่ต่างๆและช่วยดูแลพื้นที่บางส่วนของมิติซ่องว่างจักรพรรดิ

 

พวกมันเป็นผู้ช่วยที่มีประโยชน์

 

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงไม่ต้องการฆ่าจิตวิญญาณแผ่นดินหรือจิตวิญญาณสวรรค์ แต่ต้องการเก็บพวกมันเอาไว้

 

หลังจากถ้ําสวรรค์ทะเลปราณถูกกลืนกิน ฟางหยวนวางมันไว้ในสวรรค์สีขาวน้อย

 

มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนเกิดขึ้นในมิติช่องว่างจักรพรรดิในช่วงเวลานี้

 

ปราณทุกชนิดเติบโตขึ้น สวรรค์สีขาวน้อยมีเมฆสีขาวจํานวนนับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้นและแพร่กระจายอยู่รอบๆ

 

สวรรค์น้อยอีกแปดแห่งมีเมฆสีที่แตกต่างกันปรากฏขึ้นเช่นกัน

 

หลังจากตรวจสอบ ฟางหยวนยังพบปราณที่แตกต่างกันทุกประเภทถือกําเนิดขึ้นทุกพื้นที่ของมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ส่วนใหญ่เป็นปราณระดับมนุษย์ แต่หลังจากไม่นานพวกมันจะควบรวมและกลายเป็นปราณระดับอมตะในที่สุด

 

หากพัฒนาได้ดี พวกมันจะกลายเป็นแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่หรือกระทั่งขนาดยักษ์

 

การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเกิดขึ้นจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งพลังปราณนับล้านร่องรอยที่ฟางหยวนได้รับจากถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ

 

ทุกครั้งที่เขากลืนกินมิติช่องว่างของผู้อมตะ เขาจะได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบางอย่าง และทําให้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

เช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้าเมื่อฟางหยวนกลืนกินถ้ําสวรรค์นักรบอสูร และได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงจํานวนมาก ซึ่งทําให้มิติช่องว่างจักรพรรดิให้กําเนิดสิ่งมีชีวิตที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่นจิ้งจอกธรรมดาที่อาศัยอยู่ในภาคเหนือน้อยจะให้กําเนิดจิ้งจอกวายุ จิ้งจอกเมฆา หรือจิ้งจอกกลายพันธุ์ชนิดพิเศษอื่นๆไม่ว่าจะเป็นจิ้งจอกวารีฤดูใบไม้ผลิ จิ้งจอกแม่น้ําเพลิง และอื่นๆ

 

หลังจากกลืนกินถ้ําสวรรค์ของเชียชา ฟางหยวนได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งกาลเวลาจํานวนมาก นั่นทําให้สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิขนาดใหญ่ขึ้นและทําให้เขาสามารถควบคุมเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

เห็นได้ชัดว่าการกลืนกินมิติช่องว่างแบบสุ่มไม่ใช่เรื่องดี

 

เนื่องจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ที่เพิ่มขึ้นจะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมไปเป็นอย่างมาก หากไม่มีวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาช่วยคิดวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ มิติช่องว่างของพวกเขาอาจถูกทําลายหรือทําให้พวกเขาสูญเสียทรัพยากรทั้งหมด

 

เหตุผลที่ฟางหยวนสามารถกลืนกินถ้ําสวรรค์หรือแดนศักดิ์สิทธิ์จํานวนมากเพราะมิติช่องว่างจักรพรรดิใหญ่โตเกินไป อิทธิพลของพวกมันยังไม่ถือว่ามีนัยสําคัญต่อมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

นอกจากนี้ฟางหยวนยังมีวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญา ที่ทําให้เขาสามารถจัดการกับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย

 

ถ้ําสวรรค์ของเซี่ยชาไม่ถือเป็นสิ่งใดแต่ถ้ําสวรรค์ทะเลปราณทําให้ข้าได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งพลังปราณนับล้านร่องรอย สิ่งนี้ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนกับมิติช่องว่างจักรพรรดิ!”

 

เชี่ยชามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพียงเจ็ดหมื่นร่องรอย

 

ชีวิตก่อนหน้าถ้ําสวรรค์นักรบอสูรมอบร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงให้ฟางหยวนมากกว่าหนึ่งแสนร่องรอย

 

สําหรับถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ มันถือกําเนิดมาจากฉีเซียง คนผู้นี้เป็นตัวตนในตํานานที่มีชื่อเสียง

 

หลังจากฉีเซียงเสียชีวิต ถ้ําสวรรค์ทะเลปราณที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังยังสามารถก้าวข้ามภัยพิบัตินับครั้งไม่ถ้วน

 

หลายแสนปีผ่านไป ถ้ําสวรรค์ฉีเชียงสามารถก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติมากกว่าสิบครั้งและได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เพิ่มขึ้นหลายแสนร่องรอย

 

รวมกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ที่ฉีเซียงสะสมมาตลอดชีวิต มันจึงมีอยู่มากกว่าหนึ่งล้านร่องรอย

 

นี่เป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก

 

มันไม่ง่ายเลย

 

หมื่นภัยพิบัติเป็นหายนะ แม้แต่ผู้อมตะระดับแปดยังหลาดกลัว

 

แต่ถ้ําสวรรค์ทะเลปราณสามารถผ่านหมื่นภัยพิบัติมานับสิบครั้ง

 

เหตุผลเป็นเพราะการคงอยู่ของทะเลปราณไร้ขอบเขต

 

“นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่น่าทิ้ง ด้วยการใช้พลังปราณประเภทต่างๆ การพึ่งพาพลังงานอมตะจึงลดน้อยลง ในเวลาเดียวกันมันยังช่วยเพิ่มพลังอํานาจให้กับท่าไม้ตาย!”

ตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา ผู้อมตะตระกูลฉีเดินทางไปทั่วโลกเพื่อรวบรวมพลังปราณประเภทต่างๆ

 

หากเปรียบเทียบ ถ้ําสวรรค์นักรบอสูรไม่ต่างจากเด็กน้อย

 

กระทั่งแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาที่มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ก็ยังไม่สามารถเผชิญหน้ากับหมื่นภัยพิบัติ มันสามารถก้าวข้ามเพียงภัยพิบัติใหญ่ ดังนั้นมันจึงมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าอยู่น้อยมาก

 

ด้วยการใช้ท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติ มันทําให้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้รับร่อง รอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งวารีจํานวนมาก

 

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งวารีเหล่านี้ทํางานร่วมกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม และให้เกิดเป็นทะเลหลอมรวมในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

“หากข้าไม่ได้กลืนกินถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ ด้วยอาการบาดเจ็บของจิตวิญญาณสวรรค์ มันจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน หลังจากผ่านภัยพิบัติอีกไม่กี่ครั้ง ถ้ําสวรรค์ทะเลปราณจะถูกทําลาย

 

ด้วยเหตุผลเหล่านี้การตัดสินใจลดระดับถ้ําสวรรค์ลงมาเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของจิตวิญญาณแผนดินหลางหยาจึงไม่ถือเป็นเรื่องผิด หากมันยังเป็นถ้ําสวรรค์หลางหยา มันอาจไม่สามารถอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้

 

ในช่วงเวลานี้ฟางหยวนยังฝึกฝนตนเองต่อไป

 

ด้านหนึ่งเขาพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดูดซับถ้ําสวรรค์ทะเลปราณทั้งหมด อีกด้านหนึ่ง เขาเริ่มฝึกฝนท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณ

 

วิธีการโจมตีต่อเนื่องของปาชื่อปาถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

 

สิ่งที่มีประโยชน์สําหรับฟางหยวนมากที่สุดคือท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณ โดยเฉพาะท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขต!

 

ท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขตทรงพลังมาก มันช่วยให้ถ้ําสวรรค์ทะเลปราณสามารถก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติมานับสิบครั้ง

 

ชีวิตก่อนหน้าฟางหยวนขาดพื้นฐานและเวลา เขายังต้องการทรัพยากร ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจรื้อถอนทะเลปราณไร้ขอบเขต

 

แต่ตอนนี้เขาเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งพลังปราณและสามารถกลืนกินถ้ําสวรรค์ ทะเลปราณ ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขต

 

เวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิเดินเร็วกว่าในชีวิตก่อนหน้าของเขาเป็นอย่างมาก

 

สิ่งนี้ช่วยให้ฟางหยวนมีเวลาฝึกฝนท่าไม้ตายของเขามากขึ้น

 

รากฐานบนเส้นทางแห่งพลังปราณของฟางหยวนพุ่งทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด หลังจากเขาเปลี่ยนมันเป็นพลังการต่อสู้ เขาจะพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

“หากข้าสามารถใช้วิธีการบนเส้นทางแห่งพลังปราณ มันจะเหนือกว่าวิธีการบนเส้นทางแห่งกาลเวลาและกลายเป็นวิธีการต่อสู้หลักของข้า”

 

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งพลังปราณนับล้านร่องรอย ฮ่าฮ่าฮ่า นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น!

 

“เมื่อเวลานั้นมาถึง ข้าจะสามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปดหลายคนพร้อมกันและมีโอกาสยึดครองวังมังกร!”

 

สายตาของฟางหยวนส่องประกายชั่วาย เขาวางแผนเรื่องนี้มานานแล้ว

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1816 ดูดซับถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1816 ดูดซับถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1816 ดูดซับถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

สวรรค์สีขาวน้อย

 

ร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนยิ้มขณะที่เขายื่นมือออกไป

 

กวางก้มศีรษะลงต่อหน้าร่างแยกมนุษย์มังกรและใช้ลิ้นสีชมพูของมันเลียฝ่ามือของเขา

 

“นายท่าน” กวางกล่าวด้วยภาษามนุษย์

 

มันไม่ใช่กวางธรรมดาแต่เป็นจิตวิญญาณสวรรค์ของถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ

 

จิตวิญญาณสวรรค์ของถ้ําสวรรค์ทะเลปราณอยู่ในรูปลักษณ์ของกวางสีขาวที่มีดวงตาสีทอง อย่างไรก็ตาม บนร่างกายของมันปรากฏบาดแผลที่เต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า

 

ร่างแยกมนุษย์มังกรถอนหายใจ “อาการบาดเจ็บของเจ้ารุนแรงมาก วิธีการของข้าอาจไม่ได้ผล

 

นี่คืออาการบาดเจ็บที่เกิดจากการต่อสู้กับภัยพิบัติในถ้ําสวรรค์ทะเลปราณและเป็นสาเหตุที่จิตวิญญาณสวรรค์ต้องจําศีล

 

จิตวิญญาณสวรรค์เกิดจากเจตจํานงที่หลอมรวมกับปราณสวรรค์ ดังนั้นวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาจึงเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการรักษามัน

 

ฟางหยวนพยายามแล้วแต่ไม่ประสบความสําเร็จ

 

แม้เขาจะมีวิธีบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมที่ทรงพลังแต่เขาไม่กล้าใช้มันอย่างไม่ระมัดระวัง

 

หลังจากทั้งหมดวิธีการเหล่านั้นอาจเป็นอันตรายต่อจิตวิญญาณสวรรค์ การรักษาอาจกลายเป็นการฆ่ามัน

 

ฟางหยวนไม่สามารถรักษากวางตัวนี้ได้ในเวลานี้แต่มันไม่สน ในความเป็นจริงจิตวิญญาณสวรรค์ กวางขาวตัวนี้ค่อนข้างมีความสุข หลังจากถ้ําสวรรค์ทะเลปราณถูกกลืนกิน มันไม่ตายและยังมีชีวิตอยู่

 

รูปแบบชีวิตทั้งหมดล้วนมีสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด จิตวิญญาณสวรรค์ก็เช่นกัน พวกมันยังต้องการเจ้านายเพื่อดูแลถ้ําสวรรค์

 

พวกมันจะยอมรับเจ้านายที่สามารถเติมเต็มเงื่อนไขหรืออาจถูกกําหราบโดยท่าไม้ตายบางอย่าง เช่นท่าไม้ตายอมตะแสงโลหิตของฟางหยวน

 

ตอนนี้มิติช่องว่างของฟางหยวนมีจิตวิญญาณแผ่นดินและจิตวิญญาณสวรรค์จํานวนมาก

 

แน่นอนว่าจิตวิญญาณแผ่นดินมีมากกว่า ท่ามกลางพวกมัน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นที่สุด เพราะมันถูกสร้างขึ้นมาจากสองเจตจํานง

จิตวิญญาณแผ่นดิน และจิตวิญญาณสวรรค์เหล่านี้กระจัดกระจายอยู่ในสถานที่ต่างๆและช่วยดูแลพื้นที่บางส่วนของมิติซ่องว่างจักรพรรดิ

 

พวกมันเป็นผู้ช่วยที่มีประโยชน์

 

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงไม่ต้องการฆ่าจิตวิญญาณแผ่นดินหรือจิตวิญญาณสวรรค์ แต่ต้องการเก็บพวกมันเอาไว้

 

หลังจากถ้ําสวรรค์ทะเลปราณถูกกลืนกิน ฟางหยวนวางมันไว้ในสวรรค์สีขาวน้อย

 

มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนเกิดขึ้นในมิติช่องว่างจักรพรรดิในช่วงเวลานี้

 

ปราณทุกชนิดเติบโตขึ้น สวรรค์สีขาวน้อยมีเมฆสีขาวจํานวนนับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้นและแพร่กระจายอยู่รอบๆ

 

สวรรค์น้อยอีกแปดแห่งมีเมฆสีที่แตกต่างกันปรากฏขึ้นเช่นกัน

 

หลังจากตรวจสอบ ฟางหยวนยังพบปราณที่แตกต่างกันทุกประเภทถือกําเนิดขึ้นทุกพื้นที่ของมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ส่วนใหญ่เป็นปราณระดับมนุษย์ แต่หลังจากไม่นานพวกมันจะควบรวมและกลายเป็นปราณระดับอมตะในที่สุด

 

หากพัฒนาได้ดี พวกมันจะกลายเป็นแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่หรือกระทั่งขนาดยักษ์

 

การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเกิดขึ้นจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งพลังปราณนับล้านร่องรอยที่ฟางหยวนได้รับจากถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ

 

ทุกครั้งที่เขากลืนกินมิติช่องว่างของผู้อมตะ เขาจะได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบางอย่าง และทําให้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

เช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้าเมื่อฟางหยวนกลืนกินถ้ําสวรรค์นักรบอสูร และได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงจํานวนมาก ซึ่งทําให้มิติช่องว่างจักรพรรดิให้กําเนิดสิ่งมีชีวิตที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่นจิ้งจอกธรรมดาที่อาศัยอยู่ในภาคเหนือน้อยจะให้กําเนิดจิ้งจอกวายุ จิ้งจอกเมฆา หรือจิ้งจอกกลายพันธุ์ชนิดพิเศษอื่นๆไม่ว่าจะเป็นจิ้งจอกวารีฤดูใบไม้ผลิ จิ้งจอกแม่น้ําเพลิง และอื่นๆ

 

หลังจากกลืนกินถ้ําสวรรค์ของเชียชา ฟางหยวนได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งกาลเวลาจํานวนมาก นั่นทําให้สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิขนาดใหญ่ขึ้นและทําให้เขาสามารถควบคุมเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

เห็นได้ชัดว่าการกลืนกินมิติช่องว่างแบบสุ่มไม่ใช่เรื่องดี

 

เนื่องจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ที่เพิ่มขึ้นจะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมไปเป็นอย่างมาก หากไม่มีวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาช่วยคิดวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ มิติช่องว่างของพวกเขาอาจถูกทําลายหรือทําให้พวกเขาสูญเสียทรัพยากรทั้งหมด

 

เหตุผลที่ฟางหยวนสามารถกลืนกินถ้ําสวรรค์หรือแดนศักดิ์สิทธิ์จํานวนมากเพราะมิติช่องว่างจักรพรรดิใหญ่โตเกินไป อิทธิพลของพวกมันยังไม่ถือว่ามีนัยสําคัญต่อมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

นอกจากนี้ฟางหยวนยังมีวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญา ที่ทําให้เขาสามารถจัดการกับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย

 

ถ้ําสวรรค์ของเซี่ยชาไม่ถือเป็นสิ่งใดแต่ถ้ําสวรรค์ทะเลปราณทําให้ข้าได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งพลังปราณนับล้านร่องรอย สิ่งนี้ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนกับมิติช่องว่างจักรพรรดิ!”

 

เชี่ยชามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพียงเจ็ดหมื่นร่องรอย

 

ชีวิตก่อนหน้าถ้ําสวรรค์นักรบอสูรมอบร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงให้ฟางหยวนมากกว่าหนึ่งแสนร่องรอย

 

สําหรับถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ มันถือกําเนิดมาจากฉีเซียง คนผู้นี้เป็นตัวตนในตํานานที่มีชื่อเสียง

 

หลังจากฉีเซียงเสียชีวิต ถ้ําสวรรค์ทะเลปราณที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังยังสามารถก้าวข้ามภัยพิบัตินับครั้งไม่ถ้วน

 

หลายแสนปีผ่านไป ถ้ําสวรรค์ฉีเชียงสามารถก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติมากกว่าสิบครั้งและได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เพิ่มขึ้นหลายแสนร่องรอย

 

รวมกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ที่ฉีเซียงสะสมมาตลอดชีวิต มันจึงมีอยู่มากกว่าหนึ่งล้านร่องรอย

 

นี่เป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก

 

มันไม่ง่ายเลย

 

หมื่นภัยพิบัติเป็นหายนะ แม้แต่ผู้อมตะระดับแปดยังหลาดกลัว

 

แต่ถ้ําสวรรค์ทะเลปราณสามารถผ่านหมื่นภัยพิบัติมานับสิบครั้ง

 

เหตุผลเป็นเพราะการคงอยู่ของทะเลปราณไร้ขอบเขต

 

“นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่น่าทิ้ง ด้วยการใช้พลังปราณประเภทต่างๆ การพึ่งพาพลังงานอมตะจึงลดน้อยลง ในเวลาเดียวกันมันยังช่วยเพิ่มพลังอํานาจให้กับท่าไม้ตาย!”

ตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา ผู้อมตะตระกูลฉีเดินทางไปทั่วโลกเพื่อรวบรวมพลังปราณประเภทต่างๆ

 

หากเปรียบเทียบ ถ้ําสวรรค์นักรบอสูรไม่ต่างจากเด็กน้อย

 

กระทั่งแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาที่มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ก็ยังไม่สามารถเผชิญหน้ากับหมื่นภัยพิบัติ มันสามารถก้าวข้ามเพียงภัยพิบัติใหญ่ ดังนั้นมันจึงมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าอยู่น้อยมาก

 

ด้วยการใช้ท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติ มันทําให้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้รับร่อง รอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งวารีจํานวนมาก

 

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งวารีเหล่านี้ทํางานร่วมกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม และให้เกิดเป็นทะเลหลอมรวมในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

“หากข้าไม่ได้กลืนกินถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ ด้วยอาการบาดเจ็บของจิตวิญญาณสวรรค์ มันจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน หลังจากผ่านภัยพิบัติอีกไม่กี่ครั้ง ถ้ําสวรรค์ทะเลปราณจะถูกทําลาย

 

ด้วยเหตุผลเหล่านี้การตัดสินใจลดระดับถ้ําสวรรค์ลงมาเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของจิตวิญญาณแผนดินหลางหยาจึงไม่ถือเป็นเรื่องผิด หากมันยังเป็นถ้ําสวรรค์หลางหยา มันอาจไม่สามารถอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้

 

ในช่วงเวลานี้ฟางหยวนยังฝึกฝนตนเองต่อไป

 

ด้านหนึ่งเขาพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดูดซับถ้ําสวรรค์ทะเลปราณทั้งหมด อีกด้านหนึ่ง เขาเริ่มฝึกฝนท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณ

 

วิธีการโจมตีต่อเนื่องของปาชื่อปาถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

 

สิ่งที่มีประโยชน์สําหรับฟางหยวนมากที่สุดคือท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณ โดยเฉพาะท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขต!

 

ท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขตทรงพลังมาก มันช่วยให้ถ้ําสวรรค์ทะเลปราณสามารถก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติมานับสิบครั้ง

 

ชีวิตก่อนหน้าฟางหยวนขาดพื้นฐานและเวลา เขายังต้องการทรัพยากร ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจรื้อถอนทะเลปราณไร้ขอบเขต

 

แต่ตอนนี้เขาเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งพลังปราณและสามารถกลืนกินถ้ําสวรรค์ ทะเลปราณ ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขต

 

เวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิเดินเร็วกว่าในชีวิตก่อนหน้าของเขาเป็นอย่างมาก

 

สิ่งนี้ช่วยให้ฟางหยวนมีเวลาฝึกฝนท่าไม้ตายของเขามากขึ้น

 

รากฐานบนเส้นทางแห่งพลังปราณของฟางหยวนพุ่งทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด หลังจากเขาเปลี่ยนมันเป็นพลังการต่อสู้ เขาจะพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

“หากข้าสามารถใช้วิธีการบนเส้นทางแห่งพลังปราณ มันจะเหนือกว่าวิธีการบนเส้นทางแห่งกาลเวลาและกลายเป็นวิธีการต่อสู้หลักของข้า”

 

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งพลังปราณนับล้านร่องรอย ฮ่าฮ่าฮ่า นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น!

 

“เมื่อเวลานั้นมาถึง ข้าจะสามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปดหลายคนพร้อมกันและมีโอกาสยึดครองวังมังกร!”

 

สายตาของฟางหยวนส่องประกายชั่วาย เขาวางแผนเรื่องนี้มานานแล้ว

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+