Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1303 พลังอำนาจของเต่าพยากรณ์

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1303 พลังอำนาจของเต่าพยากรณ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน  บทที่  1303 พลังอำนาจของเต่าพยากรณ์

แปลโดย  iPAT  

ภาคใต้  ตระกูลวู

ในห้องโถง  ฟางหยวนอยู่กับวูหยงและผู้อมตะอีกคน

เขาเป็นชายร่างสูงในชุดคลุมขาวดำ  เคราของเขายาวลงไปถึงหน้าอก  ดวงตาของเขาเรียวเล็กและดูลึกลับ  ร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยชั้นหมอกบางๆ

ผู้อมตะระดับเจ็ดของตระกูลวู  วูอวี้ป๋อ  เขาด้อยกว่าเฒ่าปาเต้อของตระกูลปาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“ผู้อมะเยี่ยนฮวงท้าทายอวี้ป๋อโดยมีตระกูลเซี่ยอยู่เบื้องหลัง  หุบเขาจันทราเป็นหนึ่งในแหล่งทรัพยากรสำคัญที่ผลิตวิญญาณประเภทจันทราให้กับพวกเรา เราไม่สามารถสูญเสียมันไป ” วูหยงกล่าว

“ข้าเคยชนะเยี่ยนฮวงมาแล้วสองครั้ง  มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะชนะเป็นครั้งที่สาม ” วูอวี้ป๋อกล่าวเสียงเย็น

หุบเขาจันทรามีลักษณ์เหมือนชามและสามารถผลิตวิญญาณเกี่ยวกับจันทรา

ที่นั่นเคยมีหมู่บ้านตั้งอยู่  แต่เมื่อตระกูลวูขยายอิทธิพลเข้าไป  หมู่บ้านก็ถูกกวาดล้าง  มีผู้อมตะอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านดังกล่าว  เขาคือเยี่ยนฮวง

แต่ตระกูลวูส่งวูอวี้ป๋อออกไปกำหราบเยี่ยนฮวงทำให้คนผู้นี้ต้องละทิ้งหมู่บ้านของตนและหลบหนีไป

นี่คือกฎของฝ่ายธรรมะ

เยี่ยนฮวงจากไปพร้อมกับความเกลียดชัง  เขาซ่อนตัวบ่มเพาะและรอโอกาสแก้แค้น  แต่เขายังแพ้วูอวี้ป๋อเป็นครั้งที่สอง

ตระกูลวูรู้ว่าความแค้นนี้ไม่สามารถแก้ไข  ดังนั้นพวกเขาจึงส่งกองกำลังผู้อมตะออกไปลอบสังหารเยี่ยนฮวง

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาสำคัญกองกำลังที่ไม่รู้จักกลับยื่นมือเข้าช่วยเยี่ยนฮวง

ตระกูลวูต้องการไล่ล่าแต่วูตู๋ซิวกลับเสียชีวิตในขณะนั้นและทำให้ตระกูลวูตกสู่ความสับสนวุ่นวาย นี่ทำให้เยี่ยนฮวงมีเวลาพักฟื้น

จนถึงตอนนี้เยี่ยนฮวงได้ส่งคำท้าทายมายังวูอวี้ป๋อโดยใช้หุบเขาจันทราเป็นเดิมพัน

ตระกูลวูเป็นกองกำลังอันดับหนึ่งของภาคใต้  แล้วพวกเขาจะปฏิเสธได้อย่างไร ?

แต่ความกังกลของวูหยงคือตระกูลเซี่ยที่อยู่เบื้องหลังเยี่ยนฮวง

โดยไม่ต้องสงสัยกองกำลังที่ช่วยชีวิตเยี่ยนฮวงคราวก่อนย่อมไม่ใช่ผู้ใดนอกจากตระกูลเซี่ย

ภายนอกเยี่ยนฮวงท้าทายวูอวี้ป๋อ  แต่ความจริงคือมันเป็นการแข่งขันระหว่างสองกองกำลังใหญ่

การท้าทายครั้งนี้ได้รับความสนใจจากทุกกองกำลังของภาคใต้

หลังจากวูตู๋ซิวเสียชีวิต  แม้ตระกูลวูจะยังเป็นกองกำลังอันดับหนึ่งของภาคใต้  แต่ชื่อเสียงของพวกเขาก็ตกต่ำลงอย่างมาก

ตระกูลเซี่ยเป็นคู่แข่งคนสำคัญของตระกูลวู  หากตระกูลวูพ่ายแพ้ในครั้งนี้  ตระกูลอื่นจะพุ่งเข้าโจมตีพวกเขา

กล่าวได้ว่าเยี่ยนฮวงเป็นอุปสรรค์ต่อความทะเยอทะยานของวูหยง

“อวี้ป๋อ  อย่าประมาท  เจ้ารู้ว่าเรื่องนี้สำคัญต่อตระกูลของเรามากเพียงใด ” วูหยงถอนหายใจ

“เยี่ยนฮวงเข้าร่วมกับตระกูลเซี่ย  เขาได้รับความช่วยเหลือจากคนเหล่านั้น  ครั้งนี้พวกเขาย่อมมีเจตนาร้ายและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ”

“ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง  ท่านเพียงรอฟังข่าวดีเท่านั้น ” วูอวี้ป๋อกล่าวอย่างไร้อารมณ์ขณะชำเลืองมองฟางหยวนก่อนกล่าวต่อ  “ในความคิดเห็นของข้า  เราไม่จำเป็นต้องนำคนจำนวนมากออกไป  ข้าเพียงผู้เดียวสามารถจับเยี่ยนฮวงได้อย่างง่ายดาย ”

“เราไม่ควรประมาท  น้องชายของข้ามีทักษะในการแปลงร่าง  เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด  หากเขาไปกับเจ้า  ข้าจะวางใจมากขึ้น ” วูหยงกล่าว

ตระกูลวูมีอาณาเขตกว้างใหญ่  แม้พวกเขาจะมีผู้อมตะมากมาย  แต่คนเหล่านั้นก็ถูกส่งออกไปดูแลแหล่งทรัพยากรต่างๆ  นี่ทำให้ตระกูลวูขาดแคลนกำลังคน

เดิมทีวูหยงวางแผนที่จะส่งฟางหยวนไปยังค่ายกลวิญญาณ

แต่ตอนนี้มีเรื่องที่วูหยงต้องส่งฟางหยวนออกไปกับวูอวี้ป๋อ  เพราะเขาแน่ใจว่าเยี่ยนฮวงไม่ได้มาเพียงลำพัง

แม้ฟางหยวนจะสามารถปฏิเสธ  แต่เรื่องนี้ไม่มีอันตราย  ดังนั้นฟางหยวนจึงยอมรับภารกิจ

นี่เป็นงานที่ดี  เขาเพียงต้องระวังหลังให้กับวูอวี้ป๋อเท่านั้น  หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ  เขาจะได้รับค่าตอบแทนจากตระกูล

วูอวี้ป๋อไม่ต้องการความช่วยเหลือจากฟางหยวน  แต่วูหยงยืนกรานเรื่องนี้  ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถปฏิเสธ

ไม่กี่วันต่อมา  วูอวี้ป๋อก็เดินทางไปยังสถานที่นัดหมายพร้อมกับฟางหยวน

ที่นั่นเซี่ยชิงกังและเยี่ยนฮวงกำลังรออยู่

เยี่ยนฮวงเป็นผู้อมตะวัยกลางคน  เขามีรูปลักษณ์ที่ธรรมดาแต่ดูมีวุฒิภาวะ  หลังจากเห็นวูอวี้ป๋อ  การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไป  เขาเบิกตากว้างราวกับมันสามารถพ่นไฟออกมา

เซี่ยชิงกังยืนอย่างสงบนิ่งราวกับภูเขาสูงที่ไม่สั่นไหว  เขามีใบหน้าสี่เหลี่ยมและเส้นผมสีขาวโดยเฉพาะเคราของเขาที่แข็งเหมือนเข็ม

“วูอวี้ป๋อ  เจ้าทำลายหมู่บ้านของข้าและฆ่าบุตรหลานของข้า  ข้าจะทวนคืนความอัปยศทั้งหมดในวันนี้ !” เยี่ยนฮวงคำราม

วูอวี้ป๋อหัวเราะเย้ยหยัน  “เจ้าใส่ร้ายข้า   ข้าเพียงค้นหาร่องรอยของปีศาจบนเส้นทางแห่งเลือดและกำจัดมันเพื่อผดุงความยุติธรรม เจ้าเป็นคนชั่ว  เจ้ากล้าใส่ร้ายข้า  เจ้าสมควรตาย !”

การต่อสู้ปะทุขึ้นทันที

ฟางหยวนและเซี่ยชิงกังเฝ้ามองอยู่ข้างสนามรบ

ไม่มีการพูดคุย  ทุกคนรู้เหตุผลที่แท้จริง  แต่ฝ่ายธรรมะต้องแสดงออกเยี่ยงวีรบุรุษ

เยี่ยนฮวงเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งไฟและปฐพี  ด้านหนึ่งเขาเหมือนมังกรเพลิง  แต่อีกด้านหนึ่งเขาทำให้พื้นดินเกิดการสั่นสะเทือน

สำหรับวูอวี้ป๋อ  เขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งวารี  เขาเคลื่อนไหวราวกับใบไม้ร่วงและดูสง่างามทุกการกระทำ  ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยหมอก  เขาทำให้ฝนตกลงมาและดับไฟของเยี่ยนฮวง

เห็นได้ชัดว่าวูอวี้ป๋อเป็นฝ่ายได้เปรียบ

อย่างไรก็ตามการต่อสู้พึ่งเริ่มต้น  ทั้งสองฝ่ายกำลังตรวจสอบซึ่งกันและกัน  พวกเขายังไม่ได้ใช้ท่าไม้ตายอมตะ

ฟางหยวนเฝ้าดูและระวังการลอบโจมตีจากเซี่ยชิงกัง

แต่เซี่ยชิงกังยังดูผ่อนคลายมาก  เขามองฟางหยวนและเผยรอยยิ้มบาง

สิ่งนี้ทำให้ฟางหยวนรู้สึกไม่สบายใจ

เซี่ยชิงกังเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา  เขาเป็นตัวตนระดับสูงและมีชื่อเสียงในภาคใต้

การต่อสู้ยังดำเนินต่อไป

ทั้งสองฝ่ายเริ่มใช้ท่าไม้ตายอมตะ

เยี่ยนฮวงเป็นฝ่ายถูกกดดัน  ข้อได้เปรียบของวูอวี้ป๋อชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ชัยชนะกำลังใกล้เข้ามา  แต่ฟางหยวนไม่กล้าประมาท  หากภารกิจล้มเหลว  เขาจะถูกลงโทษ

“เยี่ยนฮวง  เป็นเกียรติของเจ้าที่ได้ตายด้วยท่าไม้ตายอมตะของข้า !” วูอวี้ป๋อเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร

เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ  สายฝนที่ร่วงหล่นลงมาหลอมรวมกันและกลายเป็นกรงขังเยี่ยนฮวงเอาไว้ภายใน

เยี่ยนฮวงตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังและกำลังจะตาย

ฟางหยวนสังเกตเซี่ยชิงกังอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการแทรกแซงของเขา

แต่เซี่ยชิงกังยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าราวกับเขาไม่มีเจตนาที่จะสอดมือเข้าไป

ในเวลาต่อมาเยี่ยนฮวงกลับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา  กลิ่นอายของวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนปะทุขึ้นจากร่างกายของเขา

กรงวารีระเบิดขึ้นทันที

“เป็นไปได้อย่างไร ?” วูอวี้ป๋อตกใจมาก  ท่าไม้ตายอมตะที่ถูกทำลายส่งผลกระทบย้อนกลับและทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที

ลาวาใต้เท้าของเยี่ยนฮวงขยายวงกว้างออกไปและปกคลุมทั่วทั้งสนามรบ

ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะ !

ใบหน้าของวูอวี้ป๋อกลายเป็นซีดเผือด  เขาติดอยู่ในเขตแดน !

สถานการณ์เปลี่ยนไป  วูอี้ป๋อตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้ฟางหยวนต้องยื่นมือเข้าช่วยแต่เซี่ยชิงกังเตือนเขา “วูอี้ไห่  อย่าเป็นความอับอายของตระกูลวู !”

ฟางหยวนหัวเราะ  “คนนอกเช่นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าจะเป็นความอับอายของตระกูลวูหรือไม่?”

หลังกล่าวจบคำ  เขาเปลี่ยนร่างเป็นเต่าพยากรณ์และเข้าสู่เขตแดนลาวาทันที

เซี่ยชิงกังลอบยกย่องการตัดสินใจที่เด็ดขาดของฟางหยวนอยู่ภายนใน  แต่เขาก็ไม่ช้า  “ในกรณีนี้ลองลิ้มรสท่าไม้ตายอมตะของข้า  ความคิดกระจัดกระจาย !”

ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา !

เซี่ยชิงกังใช้ท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลังของเขาตั้งแต่แรก

ความคิดของผู้อมตะที่ถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายนี้จะถูกรบกวนขณะต่อสู้  นี่จะทำให้พวกเขาสูญเสียการควบคุมและเปิดช่องว่าง

ฟางหยวนหัวเราะคิกคัก  เขายังพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่แยแส

“คนโง่ !” เซี่ยชิงกังเย้ยหยันเสียงเย็น

แต่พลังอำนาจของท่าไม้ตายอมตะความคิดกระจัดกระจายกลับไม่ส่งผลกระทบต่อฟางหยวนแม้แต่น้อย

รอยยิ้มบนใบหน้าของเซี่ยชิงกังกลายเป็นแข็งค้าง

“นี่เป็นไปได้อย่างไร ? มันคือ …เต่าพยากรณ์ !?” ในที่สุดเซี่ยชิงกังก็สามารถจดจำสิ่งมีชีวิตชนิดนี้และแสดงออกด้วยความขมขื่น

เต่าพยากรณ์เป็นสัตว์อสูรบรรพกาล  มันมีทักษะในการต่อต้านวิธีการบนเส้นทางแห่งปัญญา  ดังนั้นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นาทางแห่งปัญญาของเซี่ยชิงกังจึงไร้ประโยชน์ต่อหน้าเต่าพยากรณ์

“บึม !”

ท่าไม้ตายอมตะเขตแดนถูกทำลายโดยฟางหยวน

เซี่ยชิงกังกำลังจะสอดมือเข้าไปแต่ฟางหยวนกลับเปิดปากกล่าว  “ตระกูลวูของเราเป็นฝ่ายพ่ายแพ้  การต่อสู้ครั้งนี้จบลงแล้ว  หุบเขาจันทราเป็นของเจ้า !”

หลังจากได้ยินถ้อยคำเหล่านี้  เซี่ยชิงกังจึงหยุดเคลื่อนไหว

เยี่ยนฮวงต้องการโจมตีต่อแต่เซี่ยชิงกังหยุดเขาเอาไว้

นั่นทำให้เยี่ยนฮวงทำได้เพียงมองดูศัตรูของเขาจากไปเท่านั้น

“เหตุใดถึงปล่อยพวกเขาไป ?” เยี่ยมฮวงคำราม

เซี่ยชิงกังแสดงออกอย่างเย็นชา  “เราชนะและได้รับหุบเขาจันทรามาแล้ว  เป้าหมายของเราสำเร็จแล้ว  ยังไม่ถึงเวลาที่เจ้าจะฆ่าวูอวี้ป่อ  อย่าลืมว่าเจ้าเป็นผู้อาวุโสสูงสุดนอกของตระกูลเซี่ย  เจ้าต้องคิดถึงผลประโยชน์ของตระกูลเป็นอันดับแรก !”

ครั้งนี้ตระกูลเซี่ยได้รับชัยชนะ  หากพวกเขายังไล่ล่าคนทั้งสอง  ตระกูลวูจะตอบโต้ด้วยขุมกำลังทั้งหมด

ตระกูลเซี่ยไม่ต้องการเป็นเป้าหมายของตระกูลวูและพ่ายแพ้ในที่สุด  นั่นจะทำให้กองกำลังอื่นได้รับผลประโยชน์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด