Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1578 พลังโจมตีระดับแปดของฟางหยวน

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1578 พลังโจมตีระดับแปดของฟางหยวน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1578 พลังโจมตีระดับแปดของฟางหยวน

 

“ผู้ใดจะคิดว่าวันหนึ่งข้าจะได้วิญญาณท่องแดนอมตะกลับมา!” ฟางหยวนถอนหายใจขณะที่เขามองวิญญาณอมตะที่มือปีศาจปล้นวิญญาณปล้นชิงมา

 

“โอ้ มันถูกเลื่อนเป็นระดับเจ็ดแล้วจริงๆ นี่คือสิ่งที่ข้าเคยอนุมานมาก่อนหน้านี้” ฟางหยวนลอบมีความสุข

 

แม้เขาจะมีค่ายกลวิญญาณทองรอบทิศซึ่งสามารถใช้แทนวิญญาณท่องแดนอมตะได้ในระดับหนึ่ง แต่มันยังมีข้อบกพร่องมากมาย มันต้องใช้ผู้อมตะสี่คนในการกระตุ้นใช้งาน นอกจากนี้ระยะทางที่มันสามารถขนส่งยังสั้นกว่าวิญญาณท่องแดนอมตะที่สามารถเดินทางไปได้ทั่วโลก

 

วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดยังอยู่ในรูปลักษณ์เดียวกับระดับหก

 

ตอนนี้มันกําลังดิ้นรนอยู่ในมือปีศาจปล้นวิญญาณแต่มันก็ไม่สามารถขยับเขยื้อน

 

มือปีศาจปล้นวิญญาณบินลงไปยังยอดเขาผนึกสวรรค์ในภาคใต้น้อยที่มีค่ายกลวิญญาณอมตะจัดตั้งอยู่

 

เมื่อมือปีศาจปล้นวิญญาณมาถึง มันก็ปล่อยวิญญาณท่องแดนอมตะเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณ

 

ค่ายกลวิญญาณนี้ใช้วิญญาณอมตะสองดวงเป็นแกนกลางได้แก่วิญญาณรักตัวเองและวิญญาณความใคร่ พลังอํานาจของมันคือการช่วยมือปีศาจปล้นวิญญาณปรับแต่งวิญญาณอมตะที่ขโมยมาอย่างรวดเร็ว

 

แม้ฟางหยวนจะสามารถใช้ประโยชน์จากแม่น้ำหวนคืนได้เช่นกัน แต่เขาต้องการเก็บมันไว้ใช้สร้างเกราะหวนคืนในการต่อสู้

 

ฟางหยวนเคยประสบความสําเร็จในการใช้วิญญาณอมตะรักตัวเองและวิญญาณอมตะความใคร่เพื่อปรับแต่งวิญญาณอมตะของคนอื่นๆมาแล้ว

 

แผนเดิมของเขาคือการผสานวิญญาณอมตะรักตัวเองและวิญญาณอมตะความใคร่ไว้ในมือปีศาจปล้นวิญญาณเพื่อปรับแต่งวิญญาณอมตะที่ขโมยมาทันที

 

สิ่งนี้อาจดูเหมือนไม่จําเป็น แต่นั่นไม่เป็นความจริง

 

หากฟางหยวนสามารถปรับแต่งวิญญาณที่ขโมยมาได้ทันที มือปีศาจปล้นวิญญาณก็ไม่จําเป็นต้องผนึกวิญญาณอมตะและนํามันกลับมาหาฟางหยวน มันจะสามารถขโมยวิญญาณอมตะได้อย่างต่อเนื่อง

 

หลังจากนําวิญญาณท่องแดนอมตะเข้าสู่ภูเขาผนึกสวรรค์ มันก็ถูกผนึกและปรับแต่งทันที 

 

ฟางหยวนมองไปที่ฟงจิวเก้ออีกครั้ง

 

ตอนนี้ฟงจิวเก้อตื่นตัวมาก เขาแสดงออกด้วยความเคร่งขรึม ความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อถูกซ่อนไว้ในดวงตาของเขา

 

“ฟางหยวนมีวิธีขโมยวิญญาณอมตะของผู้อื่นจริงๆ แม้มันจะอยู่ในมิติช่องว่างก็ยังไม่รอด เขาได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์งั้นหรือ?”

 

สิ่งนี้ทําให้ฟงจิวเก้อรู้สึกถึงภัยคุกคามร้ายแรง

 

คลื่นเสียงที่เขาเคยใช้บังคับมือปีศาจปล้นวิญญาณให้เผยตัวถูกใช้งานอีกครั้งเพื่อเฝ้าระวัง

 

ท่านี้น่ากลัวเกินไป หากวิญญาณอมตะที่ถูกขโมยไปก่อนหน้านี้เป็นวิญญาณอมตะหลักของท่าไม้ตายอมตะขยายเสียงสามเท่าของข้า ท่าไม้ตายของข้าจะล้มเหลว มันจะทําให้ข้าได้รับผลกระทบย้อนกลับและได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที!”

 

ฟงจิวเก้อรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยแต่ยังมีความกลัวซ่อนอยู่

 

ฟางหยวนรู้สึกเสียดายแต่มือปีศาจปล้นวิญญาณไม่สามารถเลือกเป้าหมาย หากเขาสามารถขโมยวิญญาณอมตะที่สําคัญของฟงจิวเก้อเช่นเมื่อครั้งที่เขาต่อสู้กับเมิ้งตู๋ ท่าไม้ตายอมตะของฟงจิวเก้อจะล้มเหลว เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสและสามารถถูกสังหารได้อย่างรวดเร็ว

 

แม้ฟางหยวนจะประสบความสําเร็จในการขโมยวิญญาณอมตะครั้งแรกแต่ตอนนี้ฟงจิวเก้อระวังตัวมากขึ้นแล้ว เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงเพื่อย้ายตําแหน่งอย่างไม่หยุดยั้ง ในเวลาเดียวกันเขาก็ปลดปล่อยคลื่นเสียงออกมาตลอดเวลาโดยไม่คํานึงถึงค่าใช้จ่าย สําหรับท่าไม้ตายอมตะขยายเสียงสามเท่า ฟงจิวเก้อหยุดใช้มันแล้ว เขามุ่งเน้นไปที่การหลบหนีเท่านั้น

 

หลังจากร่างจริงของฟางหยวนถูกเปิดเผย เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยอีกครั้งเพื่อลอบเคลื่อนที่เข้าไปใกล้ฟงจิวเก้อ

 

สิ่งนี้สร้างแรงกดดันทางจิตใจต่อฟังจิวเก้อเป็นอย่างมาก

 

แต่ฟางหยวนก็ไม่รู้สึกดีเช่นกัน

 

ฟงจิวเก้อไหลลื่นเกินไป เขายังเคลื่อนที่ไปรอบๆ และไม่เปิดโอกาสให้ฟางหยวนสามารถโจมตี

 

“ดูเหมือนข้าต้องใช้ความพยายามบางอย่างในการปกปิดมือปีศาจปล้นวิญญาณ” ฟงจิวเก้อมีวิธีบังคับให้มือปีศาจปล้นวิญญาณเผยตัว สิ่งนี้ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของฟางหยวน แต่มันก็ทําให้เขานึกไปถึงมือปีศาจไร้ลักษณ์

 

เทพปีศาจปล้นสวรรค์มีท่าไม้ตายสองท่าในการปล้นวิญญาณ เขาสามารถสลับระหว่างท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณกับท่าไม้ตายมือปีศาจไร้ลักษณ์ เขาสามารถเปลี่ยนมือปีศาจปล้นวิญญาณให้กลายเป็นมือภูตผีที่ไร้ตัวตน ด้วยวิธีนี้คลื่นเสียงของฟงจิวเก้อจะกลายเป็นไร้ประโยชน์ นอกจากนั้นท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจไร้ลักาณ์ที่ปราศจากกายหยาบยังมีความรวดเร็วเหนือกว่า เมื่อเทพปีศาจปล้นสวรรค์ใช้สิ่งนี้ คู่ต่อสู้ของเขาสามารถทําได้เพียงมองวิญญาณอมตะของพวกเขาถูกขโมยไปทีละดวงเท่านั้น พวกเขาจะกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธและรู้สึกช่วยไม่ได้

 

แต่มือปีศาจปล้นวิญญาณของฟางหยวนเป็นเพียงร่องรอยแห่งความรุ่งโรจน์เล็กๆของเทพปีศาจจิตวิญญาณเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามมันก็ยังทําให้ฟงจิวเก้อผู้ยิ่งใหญ่รู้สึกกระวนกระวายใจและหลบหนีด้วยความวิตกกังวล

 

ฟางหยวนบังคับฟงจิวเก้อให้เคลื่อนย้ายสถานที่ไปรอบๆ แต่เขาไม่รู้สึกเย่อหยิ่งกับความสําเร็จ เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่า เพื่อคว้าความหวังที่จะได้รับชัยชนะ มีเพียงต้องสังหารฟงจิวเก้อและออกไปช่วยแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอย่างเร่งด่วนที่สุดเท่านั้น

 

แต่ฟังจิวเก้อไม่ให้โอกาสฟางหยวน เขาเคยเป็นปีศาจอมตะที่สร้างความปั่นป่วนให้กับสิบนิกายโบราณของภาคกลาง เขามีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย

 

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปขีดจํากัดด้านเวลาของท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงก็มาถึง

 

“โอกาสมาแล้ว!” ฟางหยวนรู้สึกทั้งกังวลและมีความสุข เขากังวลเพราะเขาเสียเวลาไปมากแต่ฟงจิวเก้อยังมีชีวิตอยู่ เขามีความสุขเพราะข้อบกพร่องของฟงจิวเก้อปรากฏขึ้นในที่สุด

 

หัวใจของฟงจิวเก้อจมดิ่งลง

 

ในอดีตการโจมตีที่รุนแรงของเขาทําให้ศัตรูหมดหนทาง หลังจากที่เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียง เขาไม่เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ผู้อมตะระดับเจ็ดไล่ล่าชีวิตเขา

 

ตอนนี้เมื่อเขาได้สัมผัสประสบการณ์นี้จากฟางหยวน ในที่สุดเขาก็จดจําจุดอ่อนของตนเองได้ นั่นคือวิธีการเคลื่อนไหว

 

เมื่อท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงไม่สามารถใช้งาน ความเร็วของฟงจิวเก้อจะลดลงอย่างมาก ในไม่ช้าเขาจะถูกกองทัพบุตรแห่งภูตปิดล้อมและไม่สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดายอีกต่อไป

 

ฟงจิวเก้อถูกบังคับให้ปกป้องตัวเอง แม้ท่าไม้ตายอมตะของเขาจะทรงพลังแต่กองทัพบุตรแห่งภูตมีมากเกินไปและยังพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง

 

ฟางหยวนซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางพวกมันอย่างสมบูรณ์แบบ มือปีศาจปล้นวิญญาณพร้อมโจมตีทุกเมื่อที่ฟงจิวเก้อเผยช่องโหว่

 

แต่ในเวลานี้สนามรบราชันภูตกลับเกิดการสั่นสะท้านขึ้นอย่างกะทันหัน

 

“โอ้ ไม่!” การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนแปลงไป

 

“ท่านหญิงจื่อเว่ยต้องเป็นคนทําสิ่งนี้” ฟงจิวเก้อมีความสุขมาก

 

สนามรบราชันภูตสั่นสะเทือนแรงขึ้นเรื่อยๆ การเคลื่อนไหวของเทพธิดาจื่อเว่ยมีประสิทธิภาพสูงมาก

 

“เวลาสั้นๆแต่เทพธิดาจื่อเว่ยกลับสามารถถอดรหัสสนามรบราชันภูตของข้า ด้วยความเร็วนี้ สนามรบราชันภูตไม่สามารถอยู่ได้นานเกินสามสิบลมหายใจ ข้าต้องได้รับชัยชนะเดี๋ยวนี้!”

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายด้วยความโหดเหี้ยม

 

ข้าเก็บสิ่งนี้ไว้สําหรับเทพธิดาจื่อเว่ยและคนอื่นๆ แต่ตอนนี้ข้าจะใช้มันกับเจ้าเป็นคนแรก!” ฟางหยวนไม่มีเวลาแล้ว หากสนามรบราชันภูตถูกทําลาย เขาจะเสียโอกาสสังหารฟงจิวเก้อ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้ไพ่ตายใบนี้

 

ท่าไม้ตายอมตะระเบิดวิญญาณ!

 

มันยังเป็นการระเบิดวิญญาณ อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่ได้จุดชนวนบุตรแห่งภูตบรรพกาลแต่เป็นบุตรแห่งภูตแรกกําเนิด!

 

ฟางหยวนมีอสูรวิญญาณแรกกําเนิดสองตัว ก่อนหน้านี้เขาเปลี่ยนอสูรวิญญาณแรกกําเนิดทั้งสองตัวให้เป็นบุตรแห่งภูตเช่นกัน

 

นี่เป็นสิ่งที่ฟางหยวนเก็บเอาไว้เป็นไพ่ตาย

 

การระเบิดวิญญาณของบุตรแห่งภูตบรรพกาลมีพลังทําลายล้างระดับเจ็ดขณะที่การระเบิดวิญญาณของบุตรแห่งภูตแรกกําเนิดมีพลังทําลายล้างระดับแปด

 

แม้ฟางหยวนจะยังไม่ประสบความสําเร็จในการคิดค้นท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป แต่เขายังมีวิธีการโจมตีระดับแปดซ่อนอยู่!

 

“บึม!”

 

บุตรแห่งภูตแรกกําเนิดระเบิดวิญญาณ!

 

ฟงจิวเก้อถูกโจมตีโดยตรง

 

กระเด็น!

 

ในบางพื้นที่ของภาคกลาง ฟงจินฮวงตกอยู่ในความงุนงง ถ้วยชาในมือของนางตกลงบนพื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

 

“หือ?” ราชันมังกรส่งสายตาถาม

 

ฟงจินฮวงจับหน้าอกของนางด้วยความไม่แน่ใจ เมื่อครู่นางรู้สึกราวกับหัวใจหล่นหายไปอย่างกะทันหัน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1578 พลังโจมตีระดับแปดของฟางหยวน

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1578 พลังโจมตีระดับแปดของฟางหยวน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1578 พลังโจมตีระดับแปดของฟางหยวน

 

“ผู้ใดจะคิดว่าวันหนึ่งข้าจะได้วิญญาณท่องแดนอมตะกลับมา!” ฟางหยวนถอนหายใจขณะที่เขามองวิญญาณอมตะที่มือปีศาจปล้นวิญญาณปล้นชิงมา

 

“โอ้ มันถูกเลื่อนเป็นระดับเจ็ดแล้วจริงๆ นี่คือสิ่งที่ข้าเคยอนุมานมาก่อนหน้านี้” ฟางหยวนลอบมีความสุข

 

แม้เขาจะมีค่ายกลวิญญาณทองรอบทิศซึ่งสามารถใช้แทนวิญญาณท่องแดนอมตะได้ในระดับหนึ่ง แต่มันยังมีข้อบกพร่องมากมาย มันต้องใช้ผู้อมตะสี่คนในการกระตุ้นใช้งาน นอกจากนี้ระยะทางที่มันสามารถขนส่งยังสั้นกว่าวิญญาณท่องแดนอมตะที่สามารถเดินทางไปได้ทั่วโลก

 

วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดยังอยู่ในรูปลักษณ์เดียวกับระดับหก

 

ตอนนี้มันกําลังดิ้นรนอยู่ในมือปีศาจปล้นวิญญาณแต่มันก็ไม่สามารถขยับเขยื้อน

 

มือปีศาจปล้นวิญญาณบินลงไปยังยอดเขาผนึกสวรรค์ในภาคใต้น้อยที่มีค่ายกลวิญญาณอมตะจัดตั้งอยู่

 

เมื่อมือปีศาจปล้นวิญญาณมาถึง มันก็ปล่อยวิญญาณท่องแดนอมตะเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณ

 

ค่ายกลวิญญาณนี้ใช้วิญญาณอมตะสองดวงเป็นแกนกลางได้แก่วิญญาณรักตัวเองและวิญญาณความใคร่ พลังอํานาจของมันคือการช่วยมือปีศาจปล้นวิญญาณปรับแต่งวิญญาณอมตะที่ขโมยมาอย่างรวดเร็ว

 

แม้ฟางหยวนจะสามารถใช้ประโยชน์จากแม่น้ำหวนคืนได้เช่นกัน แต่เขาต้องการเก็บมันไว้ใช้สร้างเกราะหวนคืนในการต่อสู้

 

ฟางหยวนเคยประสบความสําเร็จในการใช้วิญญาณอมตะรักตัวเองและวิญญาณอมตะความใคร่เพื่อปรับแต่งวิญญาณอมตะของคนอื่นๆมาแล้ว

 

แผนเดิมของเขาคือการผสานวิญญาณอมตะรักตัวเองและวิญญาณอมตะความใคร่ไว้ในมือปีศาจปล้นวิญญาณเพื่อปรับแต่งวิญญาณอมตะที่ขโมยมาทันที

 

สิ่งนี้อาจดูเหมือนไม่จําเป็น แต่นั่นไม่เป็นความจริง

 

หากฟางหยวนสามารถปรับแต่งวิญญาณที่ขโมยมาได้ทันที มือปีศาจปล้นวิญญาณก็ไม่จําเป็นต้องผนึกวิญญาณอมตะและนํามันกลับมาหาฟางหยวน มันจะสามารถขโมยวิญญาณอมตะได้อย่างต่อเนื่อง

 

หลังจากนําวิญญาณท่องแดนอมตะเข้าสู่ภูเขาผนึกสวรรค์ มันก็ถูกผนึกและปรับแต่งทันที 

 

ฟางหยวนมองไปที่ฟงจิวเก้ออีกครั้ง

 

ตอนนี้ฟงจิวเก้อตื่นตัวมาก เขาแสดงออกด้วยความเคร่งขรึม ความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อถูกซ่อนไว้ในดวงตาของเขา

 

“ฟางหยวนมีวิธีขโมยวิญญาณอมตะของผู้อื่นจริงๆ แม้มันจะอยู่ในมิติช่องว่างก็ยังไม่รอด เขาได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์งั้นหรือ?”

 

สิ่งนี้ทําให้ฟงจิวเก้อรู้สึกถึงภัยคุกคามร้ายแรง

 

คลื่นเสียงที่เขาเคยใช้บังคับมือปีศาจปล้นวิญญาณให้เผยตัวถูกใช้งานอีกครั้งเพื่อเฝ้าระวัง

 

ท่านี้น่ากลัวเกินไป หากวิญญาณอมตะที่ถูกขโมยไปก่อนหน้านี้เป็นวิญญาณอมตะหลักของท่าไม้ตายอมตะขยายเสียงสามเท่าของข้า ท่าไม้ตายของข้าจะล้มเหลว มันจะทําให้ข้าได้รับผลกระทบย้อนกลับและได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที!”

 

ฟงจิวเก้อรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยแต่ยังมีความกลัวซ่อนอยู่

 

ฟางหยวนรู้สึกเสียดายแต่มือปีศาจปล้นวิญญาณไม่สามารถเลือกเป้าหมาย หากเขาสามารถขโมยวิญญาณอมตะที่สําคัญของฟงจิวเก้อเช่นเมื่อครั้งที่เขาต่อสู้กับเมิ้งตู๋ ท่าไม้ตายอมตะของฟงจิวเก้อจะล้มเหลว เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสและสามารถถูกสังหารได้อย่างรวดเร็ว

 

แม้ฟางหยวนจะประสบความสําเร็จในการขโมยวิญญาณอมตะครั้งแรกแต่ตอนนี้ฟงจิวเก้อระวังตัวมากขึ้นแล้ว เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงเพื่อย้ายตําแหน่งอย่างไม่หยุดยั้ง ในเวลาเดียวกันเขาก็ปลดปล่อยคลื่นเสียงออกมาตลอดเวลาโดยไม่คํานึงถึงค่าใช้จ่าย สําหรับท่าไม้ตายอมตะขยายเสียงสามเท่า ฟงจิวเก้อหยุดใช้มันแล้ว เขามุ่งเน้นไปที่การหลบหนีเท่านั้น

 

หลังจากร่างจริงของฟางหยวนถูกเปิดเผย เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยอีกครั้งเพื่อลอบเคลื่อนที่เข้าไปใกล้ฟงจิวเก้อ

 

สิ่งนี้สร้างแรงกดดันทางจิตใจต่อฟังจิวเก้อเป็นอย่างมาก

 

แต่ฟางหยวนก็ไม่รู้สึกดีเช่นกัน

 

ฟงจิวเก้อไหลลื่นเกินไป เขายังเคลื่อนที่ไปรอบๆ และไม่เปิดโอกาสให้ฟางหยวนสามารถโจมตี

 

“ดูเหมือนข้าต้องใช้ความพยายามบางอย่างในการปกปิดมือปีศาจปล้นวิญญาณ” ฟงจิวเก้อมีวิธีบังคับให้มือปีศาจปล้นวิญญาณเผยตัว สิ่งนี้ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของฟางหยวน แต่มันก็ทําให้เขานึกไปถึงมือปีศาจไร้ลักษณ์

 

เทพปีศาจปล้นสวรรค์มีท่าไม้ตายสองท่าในการปล้นวิญญาณ เขาสามารถสลับระหว่างท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณกับท่าไม้ตายมือปีศาจไร้ลักษณ์ เขาสามารถเปลี่ยนมือปีศาจปล้นวิญญาณให้กลายเป็นมือภูตผีที่ไร้ตัวตน ด้วยวิธีนี้คลื่นเสียงของฟงจิวเก้อจะกลายเป็นไร้ประโยชน์ นอกจากนั้นท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจไร้ลักาณ์ที่ปราศจากกายหยาบยังมีความรวดเร็วเหนือกว่า เมื่อเทพปีศาจปล้นสวรรค์ใช้สิ่งนี้ คู่ต่อสู้ของเขาสามารถทําได้เพียงมองวิญญาณอมตะของพวกเขาถูกขโมยไปทีละดวงเท่านั้น พวกเขาจะกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธและรู้สึกช่วยไม่ได้

 

แต่มือปีศาจปล้นวิญญาณของฟางหยวนเป็นเพียงร่องรอยแห่งความรุ่งโรจน์เล็กๆของเทพปีศาจจิตวิญญาณเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามมันก็ยังทําให้ฟงจิวเก้อผู้ยิ่งใหญ่รู้สึกกระวนกระวายใจและหลบหนีด้วยความวิตกกังวล

 

ฟางหยวนบังคับฟงจิวเก้อให้เคลื่อนย้ายสถานที่ไปรอบๆ แต่เขาไม่รู้สึกเย่อหยิ่งกับความสําเร็จ เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่า เพื่อคว้าความหวังที่จะได้รับชัยชนะ มีเพียงต้องสังหารฟงจิวเก้อและออกไปช่วยแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอย่างเร่งด่วนที่สุดเท่านั้น

 

แต่ฟังจิวเก้อไม่ให้โอกาสฟางหยวน เขาเคยเป็นปีศาจอมตะที่สร้างความปั่นป่วนให้กับสิบนิกายโบราณของภาคกลาง เขามีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย

 

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปขีดจํากัดด้านเวลาของท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงก็มาถึง

 

“โอกาสมาแล้ว!” ฟางหยวนรู้สึกทั้งกังวลและมีความสุข เขากังวลเพราะเขาเสียเวลาไปมากแต่ฟงจิวเก้อยังมีชีวิตอยู่ เขามีความสุขเพราะข้อบกพร่องของฟงจิวเก้อปรากฏขึ้นในที่สุด

 

หัวใจของฟงจิวเก้อจมดิ่งลง

 

ในอดีตการโจมตีที่รุนแรงของเขาทําให้ศัตรูหมดหนทาง หลังจากที่เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียง เขาไม่เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ผู้อมตะระดับเจ็ดไล่ล่าชีวิตเขา

 

ตอนนี้เมื่อเขาได้สัมผัสประสบการณ์นี้จากฟางหยวน ในที่สุดเขาก็จดจําจุดอ่อนของตนเองได้ นั่นคือวิธีการเคลื่อนไหว

 

เมื่อท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงไม่สามารถใช้งาน ความเร็วของฟงจิวเก้อจะลดลงอย่างมาก ในไม่ช้าเขาจะถูกกองทัพบุตรแห่งภูตปิดล้อมและไม่สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดายอีกต่อไป

 

ฟงจิวเก้อถูกบังคับให้ปกป้องตัวเอง แม้ท่าไม้ตายอมตะของเขาจะทรงพลังแต่กองทัพบุตรแห่งภูตมีมากเกินไปและยังพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง

 

ฟางหยวนซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางพวกมันอย่างสมบูรณ์แบบ มือปีศาจปล้นวิญญาณพร้อมโจมตีทุกเมื่อที่ฟงจิวเก้อเผยช่องโหว่

 

แต่ในเวลานี้สนามรบราชันภูตกลับเกิดการสั่นสะท้านขึ้นอย่างกะทันหัน

 

“โอ้ ไม่!” การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนแปลงไป

 

“ท่านหญิงจื่อเว่ยต้องเป็นคนทําสิ่งนี้” ฟงจิวเก้อมีความสุขมาก

 

สนามรบราชันภูตสั่นสะเทือนแรงขึ้นเรื่อยๆ การเคลื่อนไหวของเทพธิดาจื่อเว่ยมีประสิทธิภาพสูงมาก

 

“เวลาสั้นๆแต่เทพธิดาจื่อเว่ยกลับสามารถถอดรหัสสนามรบราชันภูตของข้า ด้วยความเร็วนี้ สนามรบราชันภูตไม่สามารถอยู่ได้นานเกินสามสิบลมหายใจ ข้าต้องได้รับชัยชนะเดี๋ยวนี้!”

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายด้วยความโหดเหี้ยม

 

ข้าเก็บสิ่งนี้ไว้สําหรับเทพธิดาจื่อเว่ยและคนอื่นๆ แต่ตอนนี้ข้าจะใช้มันกับเจ้าเป็นคนแรก!” ฟางหยวนไม่มีเวลาแล้ว หากสนามรบราชันภูตถูกทําลาย เขาจะเสียโอกาสสังหารฟงจิวเก้อ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้ไพ่ตายใบนี้

 

ท่าไม้ตายอมตะระเบิดวิญญาณ!

 

มันยังเป็นการระเบิดวิญญาณ อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่ได้จุดชนวนบุตรแห่งภูตบรรพกาลแต่เป็นบุตรแห่งภูตแรกกําเนิด!

 

ฟางหยวนมีอสูรวิญญาณแรกกําเนิดสองตัว ก่อนหน้านี้เขาเปลี่ยนอสูรวิญญาณแรกกําเนิดทั้งสองตัวให้เป็นบุตรแห่งภูตเช่นกัน

 

นี่เป็นสิ่งที่ฟางหยวนเก็บเอาไว้เป็นไพ่ตาย

 

การระเบิดวิญญาณของบุตรแห่งภูตบรรพกาลมีพลังทําลายล้างระดับเจ็ดขณะที่การระเบิดวิญญาณของบุตรแห่งภูตแรกกําเนิดมีพลังทําลายล้างระดับแปด

 

แม้ฟางหยวนจะยังไม่ประสบความสําเร็จในการคิดค้นท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป แต่เขายังมีวิธีการโจมตีระดับแปดซ่อนอยู่!

 

“บึม!”

 

บุตรแห่งภูตแรกกําเนิดระเบิดวิญญาณ!

 

ฟงจิวเก้อถูกโจมตีโดยตรง

 

กระเด็น!

 

ในบางพื้นที่ของภาคกลาง ฟงจินฮวงตกอยู่ในความงุนงง ถ้วยชาในมือของนางตกลงบนพื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

 

“หือ?” ราชันมังกรส่งสายตาถาม

 

ฟงจินฮวงจับหน้าอกของนางด้วยความไม่แน่ใจ เมื่อครู่นางรู้สึกราวกับหัวใจหล่นหายไปอย่างกะทันหัน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+