Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1706 ความมุ่งมั่นของคนใต้

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1706 ความมุ่งมั่นของคนใต้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1706 ความมุ่งมั่นของคนใต้

 

“ไม่ วูหยงนํากองกําลังพันธมิตรภาคใต้มาที่แดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ!” เทพธิดาจื่อเว่ยตกใจ

 

“โอ้? ในที่สุดพวกเขาก็ปรากฏตัว” ราชันมังกรกล่าว การแสดงออกของเขายังไม่เปลี่ยน

 

เทพธิดาจื่อเว่ยสูดหายใจลึก นางขมวดคิ้วและรู้สึกถึงแรงกดดัน

 

ผู้อมตะภาคใต้สามารถรวมใจเป็นหนึ่ง พวกเขาแตกต่างจากผู้อมตะภูมิภาคอื่น นอกจากนั้น เป้าหมายของพวกเขายังเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

 

หากแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติล่มสลาย มันจะเป็นหายนะของวังสวรรค์ การแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมจะกลายเป็นไร้ความหมาย

 

“อย่ากังวล เราคาดเดาไว้แล้ว ด้วยเหตุนี้เราจึงจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะไว้ที่นั่น ทุกอย่างจะไม่มีปัญหา” ราชันมังกรกล่าว

 

เทพธิดาจื่อเว่ยพยักหน้าและแสดงภาพเหตุการณ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติในห้องโถง

 

นางลังเลก่อนจะส่งข้อความไปหาวุหยง “วูหยง อย่าลืมว่าเราเคยร่วมมือกันมาก่อน หากเจ้าต้องการเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรภาคใต้ต่อไป เจ้าควรรู้ว่าต้องทําอย่างไร?”

 

วูหยงลอบเย้ยหยันอยู่ในใจ ‘จื่อเว่ย โอ้ จื่อเว่ย แม้เจ้าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่แต่สุดท้ายเจ้ากลับไม่ใช้สิ่งใด’

 

เขาไม่แยแสและไม่แม้แต่จะตอบกลับเทพธิดาจื่อเว่ย

 

วูหยงกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขา

 

ท่าไม้ตายอมตะวายุไร้ขอบเขต!

 

ลมสีเขียวพัดไปทุกหนทุกแห่ง

 

มันกลายเป็นพายุหมุนขนาดใหญ่ทําลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า

 

กลุ่มผู้อมตะภาคกลางเร่งกระตุ้นใช้งานค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

“ครืน”

 

อย่างไรก็ตามค่ายกลวิญญาณอมตะของพวกเขากลับไม่สามารถหยุดวายุไร้ขอบเขตของวูหยง

 

“ไร้ประโยชน์! นี่เป็นท่าไม้ตายลับของข้า มันใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของข้านับหมื่นร่องรอย แต่หลังจากเสียค่าใช้จ่าย มันก็ยากที่จะต่อต้าน” ดวงตาของวูหยงส่องประกายแหลมคม

 

“ความมุ่งมั่นนี้” เทพธิดาจื่อเว่ยถอนหายใจ

 

วูหยงจ่ายด้วยราคามหาศาลเพื่อใช้วายุไร้ขอบเขต มันแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของเขา ไม่มีสิ่งใดสามารถเปลี่ยนความคิดของเขา

 

ตอนนี้เขายืนอยู่ต่อหน้ากลุ่มผู้อมตะภาคใต้ด้วยความภาคภูมิใจ

 

เทพธิดาจื่อเว่ยตระหนักว่านางประเมินวูหยงต่ําเกินไป คนผู้นี้น่าเกรงขามมาก

 

เขามีความกล้าหาญของตระกูลวู แต่เขายังสามารถควบคุมอารมณ์และเก็บซ่อนความสามารถของตนเองได้ลึกมาก กระทั่งวตู๋ซิ่วก็ยังประเมินเขาต่ําเกินไป

 

เมื่อวูหยงเข้ารับตําแหน่งผู้นําตระกูลวครั้งแรก กองกําลังอื่นกดดันตระกูลวอย่างหนัก แต่ด้วยความแข็งแกร่งและคฤหาสน์วิญญาณอมตะบ้านไม้ไผ่สายลม วูหยงสามารถพลิกสถานการณ์

 

การต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝันของภาคใต้ วูหยงเสียงสร้างความร่วมมือกับวังสวรรค์ เขานําวิญญาณอมตะกลับคืนสู่ภาคใต้ นั่นทําให้ชื่อเสียงของเขาพุ่งสูงขึ้น

 

บนเทือกเขาห้าภูมิภาค เขาต้องการสังหารฟางหยวน แม้เขาล้มเหลว แต่ลั่วเว่ยหยินที่เป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพก็ไม่สามารถกําจัดวูหยงขณะที่วูหยงสามารถเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรของภาคใต้

 

ตอนนี้วังสวรรค์อยู่ในช่วงเวลาสําคัญในการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม วูหยงเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรภาคใต้ในการต่อสู้ครั้งนี้ เขาไม่สนใจคําขู่ของเทพธิดาจื่อเว่ยเพราะเขามองเห็นภาพใหญ่อย่างชัดเจน

 

พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้วังสวรรค์ประสบความสําเร็จในการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม

 

“ฟื้ว ฟิ้ว ฟิ้ว…”

 

วายุไร้ขอบเขตกัดเซาะค่ายกลวิญญาณอมตะอย่างต่อเนื่อง ผู้อมตะของวังสวรรค์พยายามหยุดมันแต่ยังไร้ประโยชน์ นี่เป็นไพ่ตายที่วูหยงใช้ออกเป็นครั้งแรก ไม่เพียงวังสวรรค์ กระทั่งผู้อมตะ ภาคใต้ก็ไม่เคยเห็น ทุกคนตกตะลึงกับมัน

 

ในไม่ช้ารูช่องโหว่ก็ปรากฏขึ้น วูหยงโบกมือ “ทุกคน ถึงเวลาเสี่ยงชีวิตแล้ว ไปกวาดล้างศัตรูกับข้า!”

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้พุ่งเข้าไปขณะที่ผู้อมตะของวังสวรรค์รู้สึกประหม่า “พวกเขาเข้ามา แล้วเปิดใช้แนวป้องกันชั้นที่สอง!”

 

วิสัยทัศน์ของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้เปลี่ยนไป แสงสีน้ําเงินปรากฏขึ้นและกลายเป็นดอกไม้สีชมพูจํานวนนับไม่ถ้วนบินไปทั่ว

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดผู้หนึ่งก้าวออกมา เขาคือไท่กังเก้อหนึ่งในเสาหลักของตระกูลไท่

 

เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุด เขาตะโกนเสียงดังและสร้างง้าวแสงสีทองจํานวนมากขึ้นรอบตัว

 

“ไป!” จ้าวแสงสีทองพุ่งเข้าทําลายดอกไม้สีชมพูที่บินอยู่กลางอากาศ

 

ดอกไม้สีชมพูและง้าวแสงสีทองระเบิดหายไปพร้อมกัน

 

แม้การโจมตีของค่ายกลวิญญาณอมตะจะมีพลังอํานาจระดับแปด แต่ไท่กังเก้อกลับไม่เสียเปรียบ

 

ผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งค่ายกล จื่อชิวหยู ยืนอยู่ข้างเขาและพยายามอนุมานค่ายกลวิญญาณอมตะของฝ่ายตรงข้าม

 

ไม่กี่ลมหายใจต่อมาง้าวสีทองก็กลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดเฉงชิวเร่งสนับสนุน เขายกฝ่ามือขึ้น รูสีแดงบนฝ่ามือของเขาดูดดอกไม้สีชมพูเข้าไปอย่างต่อเนื่อง

 

อี้ไห้ถังคํารามเสียงดังและระเบิดสายฟ้าสีน้ําเงินออกไปช่วยไท่กังเก้อและเฉิงชิว

 

ในเวลาเดียวกันผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งปัญญา เซี่ยลิ่วเพ่ย วางฝ่ามือบนแผ่นหลังของจื่อชิวหยูและใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อสนับสนุนการอนุมานของเขา

 

หลังจากไม่นานจื่อชิวหยูก็ประสบความสําเร็จ

 

ด้วยวิธีการของเขา จุดอ่อนของค่ายกลวิญญาณอมตะถูกเปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน

 

“บึม บึม บึม”

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ทําลายแนวป้องกันที่สองของค่ายกลวิญญาณอมตะอย่างไร้ปรานี

 

ผู้อมตะภาคใต้ก้าวเข้าสู่แนวป้องกันชั้นที่สามของค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์ตกใจมาก

 

“มีสหายจ่ออยู่ที่นี่ ค่ายกลใดจะสามารถหยุดพวกเรา!?” วูหยงหัวเราะเสียงดัง

 

ขวัญกําลังใจของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้พุ่งสูงขึ้น

 

จื่อชิวหยูเผยรอยยิ้มขมขึ้น “วิธีอนุมานของข้าไม่ง่าย มันใช้อายุขัยของข้า แต่ในการต่อสู้ครั้งนี้ ข้าไม่สามารถลังเล!”

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้เต็มไปด้วยความอารมณ์ความรู้สึก

 

วูหยงกับจื่อชิวหยูมองหน้ากัน พวกเขาสามารถมองเห็นความมุ่งมั่นของแต่ละคน

 

อย่างไรก็ตามจื่อชิวหยูกลับเริ่มขมวดคิ้ว “ข้าไม่จําเป็นต้องอนุมานแนวป้องกันที่สาม มันง่ายมาก แกนกลางของมันคือต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดกลางป่า”

 

มันง่ายที่จะทําความเข้าใจแต่มันยากที่จะทําลาย

 

ป่าแห่งนี้พิเศษมาก

 

ต้นไม้แต่ละต้นเป็นพืชอสูร พืชอสูรที่อยู่ตรงกลางยังเป็นพืชอสูรแรกกําเนิด การทําลายพืชอสูรเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

 

แนวป้องกันที่สามของค่ายกลวิญญาณอมตะใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของป่าแห่งนี้ การโจมตีพื้นที่อื่นไม่มีประโยชน์ พวกเขาต้องทําลายพืชอสูรแรกกําเนิดที่อยู่กลางป่าเท่านั้น

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้คิดก่อนจะปล่อยสัตว์อสูรบรรพกาลและสัตว์อสูรแรกกําเนิดออกมาจากมิติช่องว่างของพวกเขา

 

ฝูงสัตว์อสูรต่อสู้กับพืชอสูรก่อนจะหันมาต่อสู้กันเองอย่างบ้างคลั่งจนเกิดฉากนองเลือดที่น่าสยดสยอง

 

“ป่าแห่งนี้มีหญ้าขัดแย้ง มันเป็นพืชอสูรบรรพกาลที่จะทําให้สัตว์อสูรต่อสู้กันเอง”

 

“แม้สัตว์อสูรแรกกําเนิดจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่พวกมันก็ถูกกีดขวางด้วยปราณเน่าเปื่อย”

 

ปราณเน่าเปื่อยมีพิษร้ายแรง มันไม่ส่งผลกระทบต่อพืชอสูร มนุษย์ หรือมนุษย์กลาย พันธุ์ แต่มันจะส่งผลกระทบต่อสัตว์อสูร กระทั่งสัตว์อสูรแรกกําเนิดก็ยังได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้

 

ผู้อมตะภาคใต้ล้มเหลวในความพยายามครั้งนี้

 

วูหยงกําลังจะนําบ้านไม้ไผ่สายลมออกมาแต่ในจังหวะนี้ผู้อมตะระดับเจ็ดศีรษะโล้นของ ตระกูลปา ปาซ่ง กลับเปิดปากกล่าว “ให้ข้าลองดู

 

“แม้ข้าจะไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งแต่ข้าบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง ให้ข้าเข้าไปทําลายพืชอสูรแรกกําเนิด”

 

“อย่างไรก็ตามข้ามีพลังการต่อสู้บนจุดสูงสุดของระดับเจ็ดเท่านั้น ข้าขอให้ท่านอี้ห่าวฟาง ช่วยสนับสนุนข้าด้วย” ปาซ่งกล่าว

 

ปาซ่งเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดแต่เขากลับเต็มใจที่จะเสี่ยงชีวิต หากประมาทเพียงเล็กน้อย เขาสามารถตกตายได้อย่างง่ายดาย

 

อี้ห่าวฟางมองผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลปา ปาซื่อปา เมื่อได้รับการอนุมัติจากคนผู้นี้ เขาจึงใช้วิธีการของเขาเพื่อสนับสนุนปาซ่ง

 

เขามีวิธีเสริมกําลังที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ปาซ่งรู้สึกได้ถึงพลังงานที่ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาทัน

 

เขาทะยานร่างออกไปและใช้ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นยักษ์พุ่งเข้าสู่จุดศูนย์กลางของป่า

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์เริ่มโจมตีเขา

 

ผู้อมตะภาคใต้เร่งเข้าไปสนับสนุนปาซ่ง

 

หลังจากไม่กี่นาที่ผู้อมตะภาคใต้ก็สามารถทําลายแนวป้องกันที่สามของค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

“ต่อไปขึ้นอยู่กับพวกท่านแล้ว” ปาซ่วได้รับบาดเจ็บสาหัสและสูญเสียพลังการต่อสู้

 

“สหาย เจ้ากล้าหาญมาก ไม่ว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะจบลงอย่างไร เจ้าจะได้รับการตอบแทนจากกองกําลังพันธมิตรภาคใต้ของเราอย่างเหมาะสม!” วูหยงกล่าวอย่างหนักแน่น

 

ปาซ่งเผยรอยยิ้มบาง “ข้าเสี่ยงชีวิตเพราะจิตใจของข้าถูกกระตุ้นด้วยความมุ่งมั่นของท่านวูหยงและท่านจื่อชิวหยู วังสวรรค์บุกภาคใต้ของเราหลายครั้งแล้ว หากพวกเขาประสบความสําเร็จในการกู้คืนวิญญาณชะตากรรม พวกเขาจะทําอย่างไร?”

 

“นั่นถูกต้องแล้ว” วูหยงพยักหน้า

 

การแสดงออกของผู้อมตะที่อยู่รอบๆทําให้วหยงรู้สึกมั่นใจมากขึ้น

 

ภาคกลางสามารถรวมใจเป็นหนึ่ง ภาคใต้ก็เช่นกัน

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1706 ความมุ่งมั่นของคนใต้

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1706 ความมุ่งมั่นของคนใต้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1706 ความมุ่งมั่นของคนใต้

 

“ไม่ วูหยงนํากองกําลังพันธมิตรภาคใต้มาที่แดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ!” เทพธิดาจื่อเว่ยตกใจ

 

“โอ้? ในที่สุดพวกเขาก็ปรากฏตัว” ราชันมังกรกล่าว การแสดงออกของเขายังไม่เปลี่ยน

 

เทพธิดาจื่อเว่ยสูดหายใจลึก นางขมวดคิ้วและรู้สึกถึงแรงกดดัน

 

ผู้อมตะภาคใต้สามารถรวมใจเป็นหนึ่ง พวกเขาแตกต่างจากผู้อมตะภูมิภาคอื่น นอกจากนั้น เป้าหมายของพวกเขายังเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

 

หากแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติล่มสลาย มันจะเป็นหายนะของวังสวรรค์ การแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมจะกลายเป็นไร้ความหมาย

 

“อย่ากังวล เราคาดเดาไว้แล้ว ด้วยเหตุนี้เราจึงจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะไว้ที่นั่น ทุกอย่างจะไม่มีปัญหา” ราชันมังกรกล่าว

 

เทพธิดาจื่อเว่ยพยักหน้าและแสดงภาพเหตุการณ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติในห้องโถง

 

นางลังเลก่อนจะส่งข้อความไปหาวุหยง “วูหยง อย่าลืมว่าเราเคยร่วมมือกันมาก่อน หากเจ้าต้องการเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรภาคใต้ต่อไป เจ้าควรรู้ว่าต้องทําอย่างไร?”

 

วูหยงลอบเย้ยหยันอยู่ในใจ ‘จื่อเว่ย โอ้ จื่อเว่ย แม้เจ้าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่แต่สุดท้ายเจ้ากลับไม่ใช้สิ่งใด’

 

เขาไม่แยแสและไม่แม้แต่จะตอบกลับเทพธิดาจื่อเว่ย

 

วูหยงกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขา

 

ท่าไม้ตายอมตะวายุไร้ขอบเขต!

 

ลมสีเขียวพัดไปทุกหนทุกแห่ง

 

มันกลายเป็นพายุหมุนขนาดใหญ่ทําลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า

 

กลุ่มผู้อมตะภาคกลางเร่งกระตุ้นใช้งานค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

“ครืน”

 

อย่างไรก็ตามค่ายกลวิญญาณอมตะของพวกเขากลับไม่สามารถหยุดวายุไร้ขอบเขตของวูหยง

 

“ไร้ประโยชน์! นี่เป็นท่าไม้ตายลับของข้า มันใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของข้านับหมื่นร่องรอย แต่หลังจากเสียค่าใช้จ่าย มันก็ยากที่จะต่อต้าน” ดวงตาของวูหยงส่องประกายแหลมคม

 

“ความมุ่งมั่นนี้” เทพธิดาจื่อเว่ยถอนหายใจ

 

วูหยงจ่ายด้วยราคามหาศาลเพื่อใช้วายุไร้ขอบเขต มันแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของเขา ไม่มีสิ่งใดสามารถเปลี่ยนความคิดของเขา

 

ตอนนี้เขายืนอยู่ต่อหน้ากลุ่มผู้อมตะภาคใต้ด้วยความภาคภูมิใจ

 

เทพธิดาจื่อเว่ยตระหนักว่านางประเมินวูหยงต่ําเกินไป คนผู้นี้น่าเกรงขามมาก

 

เขามีความกล้าหาญของตระกูลวู แต่เขายังสามารถควบคุมอารมณ์และเก็บซ่อนความสามารถของตนเองได้ลึกมาก กระทั่งวตู๋ซิ่วก็ยังประเมินเขาต่ําเกินไป

 

เมื่อวูหยงเข้ารับตําแหน่งผู้นําตระกูลวครั้งแรก กองกําลังอื่นกดดันตระกูลวอย่างหนัก แต่ด้วยความแข็งแกร่งและคฤหาสน์วิญญาณอมตะบ้านไม้ไผ่สายลม วูหยงสามารถพลิกสถานการณ์

 

การต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝันของภาคใต้ วูหยงเสียงสร้างความร่วมมือกับวังสวรรค์ เขานําวิญญาณอมตะกลับคืนสู่ภาคใต้ นั่นทําให้ชื่อเสียงของเขาพุ่งสูงขึ้น

 

บนเทือกเขาห้าภูมิภาค เขาต้องการสังหารฟางหยวน แม้เขาล้มเหลว แต่ลั่วเว่ยหยินที่เป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพก็ไม่สามารถกําจัดวูหยงขณะที่วูหยงสามารถเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรของภาคใต้

 

ตอนนี้วังสวรรค์อยู่ในช่วงเวลาสําคัญในการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม วูหยงเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรภาคใต้ในการต่อสู้ครั้งนี้ เขาไม่สนใจคําขู่ของเทพธิดาจื่อเว่ยเพราะเขามองเห็นภาพใหญ่อย่างชัดเจน

 

พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้วังสวรรค์ประสบความสําเร็จในการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม

 

“ฟื้ว ฟิ้ว ฟิ้ว…”

 

วายุไร้ขอบเขตกัดเซาะค่ายกลวิญญาณอมตะอย่างต่อเนื่อง ผู้อมตะของวังสวรรค์พยายามหยุดมันแต่ยังไร้ประโยชน์ นี่เป็นไพ่ตายที่วูหยงใช้ออกเป็นครั้งแรก ไม่เพียงวังสวรรค์ กระทั่งผู้อมตะ ภาคใต้ก็ไม่เคยเห็น ทุกคนตกตะลึงกับมัน

 

ในไม่ช้ารูช่องโหว่ก็ปรากฏขึ้น วูหยงโบกมือ “ทุกคน ถึงเวลาเสี่ยงชีวิตแล้ว ไปกวาดล้างศัตรูกับข้า!”

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้พุ่งเข้าไปขณะที่ผู้อมตะของวังสวรรค์รู้สึกประหม่า “พวกเขาเข้ามา แล้วเปิดใช้แนวป้องกันชั้นที่สอง!”

 

วิสัยทัศน์ของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้เปลี่ยนไป แสงสีน้ําเงินปรากฏขึ้นและกลายเป็นดอกไม้สีชมพูจํานวนนับไม่ถ้วนบินไปทั่ว

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดผู้หนึ่งก้าวออกมา เขาคือไท่กังเก้อหนึ่งในเสาหลักของตระกูลไท่

 

เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุด เขาตะโกนเสียงดังและสร้างง้าวแสงสีทองจํานวนมากขึ้นรอบตัว

 

“ไป!” จ้าวแสงสีทองพุ่งเข้าทําลายดอกไม้สีชมพูที่บินอยู่กลางอากาศ

 

ดอกไม้สีชมพูและง้าวแสงสีทองระเบิดหายไปพร้อมกัน

 

แม้การโจมตีของค่ายกลวิญญาณอมตะจะมีพลังอํานาจระดับแปด แต่ไท่กังเก้อกลับไม่เสียเปรียบ

 

ผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งค่ายกล จื่อชิวหยู ยืนอยู่ข้างเขาและพยายามอนุมานค่ายกลวิญญาณอมตะของฝ่ายตรงข้าม

 

ไม่กี่ลมหายใจต่อมาง้าวสีทองก็กลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดเฉงชิวเร่งสนับสนุน เขายกฝ่ามือขึ้น รูสีแดงบนฝ่ามือของเขาดูดดอกไม้สีชมพูเข้าไปอย่างต่อเนื่อง

 

อี้ไห้ถังคํารามเสียงดังและระเบิดสายฟ้าสีน้ําเงินออกไปช่วยไท่กังเก้อและเฉิงชิว

 

ในเวลาเดียวกันผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งปัญญา เซี่ยลิ่วเพ่ย วางฝ่ามือบนแผ่นหลังของจื่อชิวหยูและใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อสนับสนุนการอนุมานของเขา

 

หลังจากไม่นานจื่อชิวหยูก็ประสบความสําเร็จ

 

ด้วยวิธีการของเขา จุดอ่อนของค่ายกลวิญญาณอมตะถูกเปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน

 

“บึม บึม บึม”

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ทําลายแนวป้องกันที่สองของค่ายกลวิญญาณอมตะอย่างไร้ปรานี

 

ผู้อมตะภาคใต้ก้าวเข้าสู่แนวป้องกันชั้นที่สามของค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์ตกใจมาก

 

“มีสหายจ่ออยู่ที่นี่ ค่ายกลใดจะสามารถหยุดพวกเรา!?” วูหยงหัวเราะเสียงดัง

 

ขวัญกําลังใจของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้พุ่งสูงขึ้น

 

จื่อชิวหยูเผยรอยยิ้มขมขึ้น “วิธีอนุมานของข้าไม่ง่าย มันใช้อายุขัยของข้า แต่ในการต่อสู้ครั้งนี้ ข้าไม่สามารถลังเล!”

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้เต็มไปด้วยความอารมณ์ความรู้สึก

 

วูหยงกับจื่อชิวหยูมองหน้ากัน พวกเขาสามารถมองเห็นความมุ่งมั่นของแต่ละคน

 

อย่างไรก็ตามจื่อชิวหยูกลับเริ่มขมวดคิ้ว “ข้าไม่จําเป็นต้องอนุมานแนวป้องกันที่สาม มันง่ายมาก แกนกลางของมันคือต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดกลางป่า”

 

มันง่ายที่จะทําความเข้าใจแต่มันยากที่จะทําลาย

 

ป่าแห่งนี้พิเศษมาก

 

ต้นไม้แต่ละต้นเป็นพืชอสูร พืชอสูรที่อยู่ตรงกลางยังเป็นพืชอสูรแรกกําเนิด การทําลายพืชอสูรเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

 

แนวป้องกันที่สามของค่ายกลวิญญาณอมตะใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของป่าแห่งนี้ การโจมตีพื้นที่อื่นไม่มีประโยชน์ พวกเขาต้องทําลายพืชอสูรแรกกําเนิดที่อยู่กลางป่าเท่านั้น

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้คิดก่อนจะปล่อยสัตว์อสูรบรรพกาลและสัตว์อสูรแรกกําเนิดออกมาจากมิติช่องว่างของพวกเขา

 

ฝูงสัตว์อสูรต่อสู้กับพืชอสูรก่อนจะหันมาต่อสู้กันเองอย่างบ้างคลั่งจนเกิดฉากนองเลือดที่น่าสยดสยอง

 

“ป่าแห่งนี้มีหญ้าขัดแย้ง มันเป็นพืชอสูรบรรพกาลที่จะทําให้สัตว์อสูรต่อสู้กันเอง”

 

“แม้สัตว์อสูรแรกกําเนิดจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่พวกมันก็ถูกกีดขวางด้วยปราณเน่าเปื่อย”

 

ปราณเน่าเปื่อยมีพิษร้ายแรง มันไม่ส่งผลกระทบต่อพืชอสูร มนุษย์ หรือมนุษย์กลาย พันธุ์ แต่มันจะส่งผลกระทบต่อสัตว์อสูร กระทั่งสัตว์อสูรแรกกําเนิดก็ยังได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้

 

ผู้อมตะภาคใต้ล้มเหลวในความพยายามครั้งนี้

 

วูหยงกําลังจะนําบ้านไม้ไผ่สายลมออกมาแต่ในจังหวะนี้ผู้อมตะระดับเจ็ดศีรษะโล้นของ ตระกูลปา ปาซ่ง กลับเปิดปากกล่าว “ให้ข้าลองดู

 

“แม้ข้าจะไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งแต่ข้าบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง ให้ข้าเข้าไปทําลายพืชอสูรแรกกําเนิด”

 

“อย่างไรก็ตามข้ามีพลังการต่อสู้บนจุดสูงสุดของระดับเจ็ดเท่านั้น ข้าขอให้ท่านอี้ห่าวฟาง ช่วยสนับสนุนข้าด้วย” ปาซ่งกล่าว

 

ปาซ่งเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดแต่เขากลับเต็มใจที่จะเสี่ยงชีวิต หากประมาทเพียงเล็กน้อย เขาสามารถตกตายได้อย่างง่ายดาย

 

อี้ห่าวฟางมองผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลปา ปาซื่อปา เมื่อได้รับการอนุมัติจากคนผู้นี้ เขาจึงใช้วิธีการของเขาเพื่อสนับสนุนปาซ่ง

 

เขามีวิธีเสริมกําลังที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ปาซ่งรู้สึกได้ถึงพลังงานที่ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาทัน

 

เขาทะยานร่างออกไปและใช้ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นยักษ์พุ่งเข้าสู่จุดศูนย์กลางของป่า

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์เริ่มโจมตีเขา

 

ผู้อมตะภาคใต้เร่งเข้าไปสนับสนุนปาซ่ง

 

หลังจากไม่กี่นาที่ผู้อมตะภาคใต้ก็สามารถทําลายแนวป้องกันที่สามของค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

“ต่อไปขึ้นอยู่กับพวกท่านแล้ว” ปาซ่วได้รับบาดเจ็บสาหัสและสูญเสียพลังการต่อสู้

 

“สหาย เจ้ากล้าหาญมาก ไม่ว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะจบลงอย่างไร เจ้าจะได้รับการตอบแทนจากกองกําลังพันธมิตรภาคใต้ของเราอย่างเหมาะสม!” วูหยงกล่าวอย่างหนักแน่น

 

ปาซ่งเผยรอยยิ้มบาง “ข้าเสี่ยงชีวิตเพราะจิตใจของข้าถูกกระตุ้นด้วยความมุ่งมั่นของท่านวูหยงและท่านจื่อชิวหยู วังสวรรค์บุกภาคใต้ของเราหลายครั้งแล้ว หากพวกเขาประสบความสําเร็จในการกู้คืนวิญญาณชะตากรรม พวกเขาจะทําอย่างไร?”

 

“นั่นถูกต้องแล้ว” วูหยงพยักหน้า

 

การแสดงออกของผู้อมตะที่อยู่รอบๆทําให้วหยงรู้สึกมั่นใจมากขึ้น

 

ภาคกลางสามารถรวมใจเป็นหนึ่ง ภาคใต้ก็เช่นกัน

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+