Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1234 วิญญาณอมตะระดับสิบ

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1234 วิญญาณอมตะระดับสิบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน  บทที่  1234 วิญญาณอมตะระดับสิบ

แปลโดย  iPAT  

ภาคกลาง  นิกายคฤหาสน์วิญญาณ

“ท่าไม้ตายอมตะฝนดาวตก !” จ้าวเหลียนหยุนตะโกนพร้อมกับแสงสว่างที่พุ่งออกมาจากร่างของนาง

แสงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและหายไปในพริบตา

ในช่วงเวลาต่อมาพื้นที่สีขาวที่ถูกสร้างขึ้นจากค่ายกลวิญญาณพลันเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน

“ฟิ้ว  ฟิ้ว  ฟิ้ว  ฟิ้ว …”

ฝนดาวตกร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าสร้างเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ

ฝนดาวตกพุ่งเข้าโจมตีเต่าอสูรเดียวดายที่มีร่างกายใหญ่โตราวกับภูเขา

แขนขาทั้งสี่และหัวของมันหดเข้าไปในกระดอง

ฝนดาวตกปะทะแผ่นหลังของเต่าอสูรเดียวดายและระเบิดทำลายกระดองของมันออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยขณะที่พื้นที่รอบๆกลายเป็นหลุมบ่อ

ฝนดาวตกกินเวลานานถึงยี่สิบลมหายใจก่อนจะหยุดลง

ใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุนปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อขณะที่นางรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก

เสียงสายหนึ่งดังขึ้น  “ไม่เลว  จ้าวเหลียนหยุน  เจ้าเชี่ยวชาญท่าไม้ตายนี้มาก  เช่นนั้นต่อไปฝึกท่าไม้ตายสายป้องกัน ”

ซากศพเต่าอสูรเดียวดายกลายเป็นอีกาสีดำ

ฝูงอีกาหลายหมื่นตัวพุ่งเข้าโจมตีจ้าวเหลียนหยุนจากทุกทิศทาง

ดวงตาของจ้าวเหลียนหยุนส่องประกายขึ้น  นางกัดฟันแน่นและกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะเพื่อป้องกันการโจมตีจากฝูงอีกา

ครั้งนี้ร่างกายของนางถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีเงิน

ชั้นแสงสีเงินปกป้องนางจากจงอยปากอีกาจำนวนนับไม่ถ้วน

“ปัง  ปัง  ปัง  ปัง …”

ฝูงอีกาโจมตีโล่แสงสีเงินของจ้าวเหลียนหยุนอย่างไม่หยุดยั้ง

พลังงานอมตะของนางถูกใช้จ่ายไปอย่างรวดเร็ว

‘ข้าต้องคิดแผน !’ จ้าวเหลียนหยุนคิดและเริ่มใช้ท่าไม้ตายอมตะสายป้องกัน

นางประสบความสำเร็จในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันตั้งแต่ครั้งแรก

ท่าไม้ตายอมตะโซ่เงินสังหาร !

แสงสีเงินบนร่างของนางเปลี่ยนเป็นโซ่สีเงินหกเส้นบินออกมา

โซ่เงินเคลื่อนไหวราวกับมังกรและพุ่งเข้าสังหารฝูงอีกาอย่างไม่รู้สิ้นสุด

อีกาจำนวนมากตกตายลง  ในรัศมีสิบเมตรรอบตัวจ้าวเหลียนหยุนไม่เหลืออีกาที่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป

โซ่เงินเคลื่อนที่เป็นทรงกลมและกลายเป็นปราการที่แข็งแกร่งปกป้องจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้ภายใน อีกาที่พุ่งเข้ามาจะถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที

‘ท่าไม้ตายอมตะนี้ยอดเยี่ยมมาก  มันสามารถโจมตีและป้องกันได้ในเวลาเดียวกัน ’ จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขมาก

ผู้อมตะที่ควบคุมค่ายกลวิญญาณลอบถอนหายใจ  ‘จ้าวเหลียนหยุนเป็นปีศาจต่างโลก  การบ่มเพาะของนางถูกยกขึ้นสู่ระดับห้าขั้นสุดยอดโดยความช่วยเหลือของวิญญาณอมตะ หลังจากได้รับมิติช่องว่างเทียมจากวังสวรรค์  นางแสดงความสามารถที่โดดเด่นออกมาทันที  หลังจากฝึกฝนเพียงเล็กน้อย  นางก็เชี่ยวชาญท่าไม้ตายอมตะเหล่านี้แล้ว ’

แน่นอนว่าท่าไม้ตายอมตะเหล่านี้ได้รับการคัดเลือกมาเป็นพิเศษสำหรับจ้าวเหลียนหยุนโดยวังสวรรค์ พวกมันทั้งทรงพลัง  ควบคุมง่าย  และใช้วิญญาณเพียงไม่กี่ดวง

“เอาล่ะ  ต่อไปเราจะฝึกวิธีการรักษาของเจ้า  เจ้าจะได้รับบาดเจ็บ  แต่ไม่จำเป็นต้องกังวลหรือตกใจ  ตราบเท่าที่เจ้าใช้ท่าไม้ตายอมตะ  เจ้าจะหายดี ” ผู้อมตะผู้ควบคุมค่ายกลวิญญาณกล่าว

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้าและเห็นฝูงอีกาหายไป

นางแสดงความกังวลออกมาและถาม  “ข้าฝึกมาครึ่งปีแล้ว  ข้าจะสามารถเดินทางไปภาคเหนือได้เมื่อใด ?”

ผู้อมตะผู้ควบคุมค่ายกลวิญญญาณอธิบาย  “อย่ากังวล  ที่นี่คือค่ายกลวิญญาณ  หนึ่งปีของที่นี่เท่ากับหนึ่งวันของโลกภายนอกเท่านั้น  มีเวลาค่อนข้างจำกัดขณะที่การต่อสู้ระหว่างผู้อมตะไม่เหมือนการฝึกซ้อม มีสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ”

“เช่นนั้นให้ข้าฝึกการต่อสู้จริง !” จ้าวเหลียนหยุนตะโกน

ค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งกาลเวลานี้ตั้งอยู่ในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายในอยู่ภายใต้การเฝ้ามองของวังสวรรค์

วังสวรรค์

เทพธิดาจื่อเว่ยมองจ้าวเหลียนหยุนและแสดงออกด้วยความกังวล  “ท่านราชันมังกร  ท่านคิดว่าการฝึกเช่นนี้จะช่วยให้จ้าวเหลียนหยุนสามารถปรับตัวกับสนามรบได้หรือไม่? มันเร่งรีบเกินไป  พลังการต่อสู้ของนางไม่สามารถพึ่งพาได้ ”

แม้ราชันมังกรจะดื่มวารีมังกรสวรรค์ที่แท้จริงเข้าไปแล้ว  แต่มันไม่ได้ช่วยเพิ่มอายุขัยของเขา

ตอนนี้เขายังดูสูงอายุและอ่อนแอมาก

เขานั่งอยู่ตรงข้ามกับเทพธิดาจื่อเว่ยโดยมีกระดานหมากรุกคั่นอยู่ตรงกลาง

กระดานหมากรุกนี้มีต้นกำเนิดที่ยิ่งใหญ่  มันเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะกลุ่มดาว  เทพอมตะกลุ่มดาวเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาและนี่เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาอันดับหนึ่งของแผ่นดิน

เทพธิดาจื่อเว่ยมีคุณสมบัติเพียงพอ  แต่หลังจากราชันมังกรตื่นขึ้น  เขาได้รับตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของวังสวรรค์ทันที  สำหรับคฤหาสน์วิญญาณอมตะในตำนาน  มันถูกมอบให้กับเทพธิดาจื่อเว่ย  นี่ทำให้ความสามารถในการอนุมานของนางบรรลุถึงระดับที่น่ากลัว

เมื่อได้ยินข้อสงสัยของเทพธิดาจื่อเว่ย  ราชันมังกรเผยรอยยิ้มบาง  “เราไม่สามารถพึ่งพาจ้าวเหลียนหยุน  แต่ข้าก็ไม่คิดที่จะพึ่งพานาง ”

ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายขึ้น  “ท่านราชันมังกรต้องการกล่าวถึงวิญญาณแห่งความรัก ?”

“ถูกต้อง ” ราชันมังกรพยักหน้า  “วิญญาณแห่งความรักมีความพิเศษมาก  มันเป็นวิญญาณอมตะระดับเก้า  วิญญาณอมตะทั่วไปมีพลังอำนาจเพียงหนึ่งเดียว  แต่วิญญาณแห่งความรักสามารถทำทุกสิ่ง  สิ่งสำคัญที่สุดคือวิญญาณแห่งความรักสามารถต่อต้านโชคชะตาและโชค ”

“ต่อต้านโชคชะตา ?” เทพธิดาจื่อเว่ยพึมพำด้วยความตกใจเล็กน้อย

“ถูกต้อง  ความรักสามารถต่อต้านโชคชะตา  มิฉะนั้นเทพปีศาจบัวแดงจะสามารถทำร้ายวิญญาณชะตากรรมได้อย่างไร ?” ราชันมังกรกล่าวความลับที่น่าตกตะลึงออกมา  เมื่อเขากล่าวถึงเทพปีศาจบัวแดง  น้ำเสียงของเขากลายเป็นเคร่งขรึมและซับซ้อน

เทพธิดาจื่อเว่ยตกใจเล็กน้อย  “อันใด ? ย้อนกลับไปเทพปีศาจบัวแดงได้รับการยอมรับจากวิญญาณแห่งความรักเช่นนั้นหรือ?”

“ถูกต้อง ” ราชันมังกรยืนยันเรื่องนี้  “เทพปีศาจบัวแดงไม่ใช่ปีศาจต่างโลก  แล้วเขาจะทำลายวิญญาณชะตากรรมได้อย่างไรหากปราศจากความช่วยเหลือจากวิญญาณแห่งความรัก”

“หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน  กองกำลังพันธมิตรผีดิบถูกกำจัดออกไป  เหลือสมาชิกนิกายเงาเพียงไม่กี่คนและเทพปีศาจจิตวิญญาณที่ถูกขังอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน ผู้คนที่หลบหนีจากโชคชะตาจำนวนมากถูกทำลาย  วิญญาณชะตากรรมจึงฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว  นี่เป็นตัวช่วยที่ดี ”

ราชันมังกรหยุดพักก่อนกล่าวต่อ  “อย่างไรก็ตามกระทั่งวิญญาณชะตากรรมจะฟื้นตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์  แต่วังสวรรค์ของเรายังไม่สามารถกู้คืนความรุ่งโรจน์ในอดีต ”

“นี่ …เป็นเพราะเทพอมตะตะวันเดือดงั้นหรือ ?” เทพธิดาจื่อเว่ยอนุมานและได้รับคำตอบทันที

ราชันมังกรสูดหายใจลึก  “ถูกต้อง  ในอดีตโชคชะตาไม่สามารถเปลี่ยนแปลง  ตราบเท่าที่พวกเรามีวิญญาณชะตากรรม  วังสวรรค์จะมีช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์  แต่ตอนนี้มีเส้นทางแห่งโชคเกิดขึ้นเนื่องจากเทพอมตะตะวันเดือด  โชคเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ”

“แม้วิญญาณชะตากรรมจะฟื้นตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์  แต่เราไม่สามารถควบคุมความไม่แน่นอน  มีเพียงการควบคุมเส้นทางแห่งโชคเท่านั้นที่จะทำให้วังสวรรค์กลายเป็นกฎของห้าภูมิภาคอย่างแท้จริง”

“ดังนั้นท่านราชันมังกรจึงถ่ายทอดคำสั่งให้ผู้อมตะระดับสูงจากสิบนิกายโบราณเดินทางไปภาคเหนือและช่วงชิงวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์ หากพวกเราได้รับวิญญาณอมตะดวงนี้  วังสวรค์จะสามารถควบคุมโชค ?” เทพธิดาจื่อเว่ยถาม

ราชันมังกรพยักน้าและส่ายศีรษะ  “เทพอมตะตะวันเดือดมีมรดกที่แท้จริงสามอย่าง  โชคของตนเอง  โชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด  และโชคแห่งสวรรค์พิภพ  วิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์เป็นหนึ่งในมรดกโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด มันจะดูดซับโชคจากสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบๆ ”

“ลองมองไปที่หม่าหงหยุน  ผลกระทบของวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์ส่งผลกระทบต่อผู้คนรอบข้างเขา มันดูดซับโชคจากผู้คนเหล่านั้นและนำมาให้หม่าหงหยุน  นั่นเป็นเหตุผลที่ปีศาจอมตะเซี่ยหูและท่านหญิงหว่านซูล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นวิญญาณอมตะระดับแปด  โอกาสประสบความสำเร็จในการหลอมรวมมันต่ำมาก ”

“วิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์อาจเป็นวิญญาณอมตะระดับแปดแต่พลังอำนาจของมันถือเป็นกึ่งระดับเก้า หากวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์มีเวลาดูดซับโชคจากสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบๆมากพอ มันจะมอบโชคที่ยิ่งใหญ่ให้กับคนผู้หนึ่ง  นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เทพอมตะตะวันเดือดตั้งชื่อมันว่าโชคชะตาท้าทายสวรรค์ มันเป็นสิ่งที่สามารถท้าทายสวรรค์พิภพอย่างแท้จริง !”

“เป็นเช่นนั้น ” ได้ยินคำกล่าวของราชันมังกร  เทพธิดาจื่อเว่ยเกิดความเข้าใจมากขึ้น

แม้ราชันมังกรจะมาจากยุคดึกดำบรรพ  แต่ระหว่างการจำศีล  เขาได้ตื่นขึ้นหลายครั้งและได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างที่สูญหายไปแล้วตามกาลเวลา

ราชันมังกรกล่าวต่อ  “หากเราได้รับวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์  มันก็เหมือนกับเราได้รับการบ่มเพาะครึ่งชีวิตของเทพอมตะตะวันเดือด”

“ในอนาคตหากเรามีโอกาส  เราต้องค้นหาโชคแห่งสวรรค์พิภพเพื่อควบคุมเส้นทางแห่งโชคทั้งหมด ”

“เมื่อวิญญาณชะตากรรมฟื้นตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์  วังสวรรค์จะกลายเป็นผู้ปกครองโลกอย่างแท้จริง ”

“หากพวกเราสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคกับวิญญาณชะตากรรม พวกเราอาจสามารถสร้างวิญญาณอมตะระดับสิบ  พรหมลิขิต ! ด้วยวิธีนี้วังสวรรค์จะเข้าใจเจตจำนงสวรรค์อย่างลึกซึ้ง  เราจะเป็นผู้ปกครองจักรวาลทั้งหมด !”

ราชันมังกรกล่าวอย่างแผ่วเบาแต่ในตอนท้ายดวงตาของเขากลับส่องประกายด้วยความคลั่งไคล้และร้อนแรง

“วิญญาณอมตะระดับสิบ !?” กระทั่งผู้อมตะระดับเทพธิดาจื่อเว่ยก็ยังรู้สึกพูดไม่ออกเมื่อได้ยินความลับดังกล่าว

“เหนือระดับเก้ามีระดับสิบอยู่จริงงั้นหรือ ?” เทพธิดาจื่อเว่ยถามด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด