Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1215

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1215 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน  บทที่  1215 ความขัดแย้งภายใน

แปลโดย  iPAT  

วูตู๋ซิ่วค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

‘เช้าวันใหม่อีกวัน ’ นางคิดกับตนเอง

วิญญาณอมตะระดับแปดบินอยู่ในบ้านหลังนี้

วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งอาหาร  ยาหอม !

นี่คือวิญญาณอมตะสายรักษา  มันทำให้บ้านทั้งหลังเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของยา  อย่างไรก็ตามกลิ่นเน่าเหม็นจากร่างของวูตู๋ซิ่วกลับรุนแรงกว่า

เมื่อทั้งสองกลิ่นผสมผสานกัน  กระทั่งผู้อมตะยังไม่สามารถทนได้

หนึ่งวันผ่านไปหมายถึงชีวิตของนางที่ลดลงอีกหนึ่งวัน

วูตู๋ซิ่วรู้ว่าตนเองกำลังจะตาย

ตอนนี้นางเอนกายอยู่บนเตียงและมองออกไปนอกห้องด้วยหัวใจที่สงบนิ่ง

นานมาแล้วเมื่อนางยังเป็นผู้อมตะระดับหก  นางตกหลุมรักปีศาจอมตะผู้หนึ่ง  นั่นทำให้นางถูกตระกูลลงโทษ

นางถูกขังอยู่ในบ้านหลังนี้เป็นเวลาสิบห้าปี

แต่ผู้ใดจะคิดว่าในบ้านหลังนี้เก็บมรดกของบรรพบุรุษตระกูลวูเอาไว้  วูตู๋ซิ่วได้รับมันและฝึกฝนอย่างลับๆ  ความแข็งแกร่งของนางเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

นางยังใช้แดนศักดิ์สิทธิ์ของผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่เพื่อลอบพบกันคนรับของนางอย่างลับๆ ผู้อมตะตระกูลวูไม่ได้คาดหวังว่าวูตู๋ซิ่วจะฝ่าฝืนกฎของตระกูลอย่างเปิดเผยภายใต้การควบคุมของพวกเขา

นั่นเป็นช่วงปีที่มีความสุขของนาง

ในเวลานั้นนางเป็นเพียงเด็กสาวที่งดงามและโง่เขลา  นางไม่รู้จักความชั่วร้ายในใจของผู้คน  นางไม่สามารถบอกได้ว่าคนรักของนางมีแรงจูงใจซ่อนเร้น

หลายพันปีต่อมาวูตู๋ซิ่วกลับมาที่บ้านหลังนี้อีกครั้ง

อายุขัยของนางกำลังจะหมดลง  นางเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน

ความทรงจำที่มีความสุขของหญิงชราอายุหลายพันปีย้อนกลับมาเมื่อนางอยู่ในบ้านหลังนี้

วันเวลาเหล่านั้นยังคงเป็นวันที่แสนงดงามอยู่ในหัวใจของนางตลอดไป

แต่ภาพของคนรักในครั้งนั้นของนางได้พร่าเลือนไปแล้ว

หน้าต่างถูกเปิดออก  สายลมอ่อนๆหอบเอากลิ่นดอกไม้และต้นหญ้าเข้ามาในห้อง

ความเสียใจ  ความเกลียดชัง  ความเหนื่อยล้าทางจิตใจค่อยๆจางหายไปกับสายลม

เสียงเคะประตูดังขึ้น

บางคนเปิดประตูเข้ามา

วูตู๋ซิ่วหันศีรษะอย่างยากลำบากและเห็นร่างที่คุ้นเคย

นางไม่แปลกใจ  นางเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลวู  หากไม่ได้รับอนุญาตจากนาง  ผู้ใดจะกล้าเข้ามาในบ้านหลังนี้

“เจ้ามาแล้ว ” วูตู๋ซิ่วกล่าวเบาๆอย่างยากลำบาก

บุคคลที่เข้ามาคุกเข่าลงบนพื้นและโค้งคำนับ  “ข้ามาพบท่านแม่แล้ว ”

คนผู้นี้เป็นชายวัยกลางคนที่ดูธรรมดามาก  เขาปลดปล่อยกลิ่นอายที่มืดมนออกมา

วูตู๋ซิ่วกล่าว  “ข้าเรียกเจ้ามาที่นี่เพราะต้องการบอกบางสิ่งกับเจ้า  เจ้ามีน้องชายอยู่ที่ทะเลตะวันออก  ข้าจะส่งต่อทุกสิ่งในตระกูลวูให้เจ้า  แต่ข้าจะเหลือมรดกบางอย่างทิ้งไว้ให้เขา  เจ้าเข้าใจหรือไม่ ?”

ชายวันกลางคนกล่าว  “บุตรเข้าใจ ”

“เจ้าออกไปได้ ” วูตู๋ซิ่วหยุดก่อนกล่าวต่อ

“ข้าขอลา ” ผู้อมตะวัยกลางคนกล่าวอย่างระมัดระวัง  เขาค่อยๆลุกขึ้นและถอยหลังสองสามก้าวก่อนจะหันหลังเดินออกจากบ้านและปิดประตูเบาๆ

เขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง

เขาเดินทางผ่านภูเขาหลายลูกก่อนจะกลับถึงคฤหาสน์วิญญาณอมตะของตน

“บัดซบ !”

“ก่อนตายนางยังต้องการนำลูกนอกสมรสผู้นั้นกลับมา !”

“เจ้าบ้านั่นอยู่ในทะเลตะวันออกก็ดีแล้วมิใช่หรือ ? เหตุใดต้องให้เขากลับมาเพื่อแย่งชิงมรดกของข้า !?”

ผู้อมตะวัยกลางคนระเบิดความโกรธออกมาในเวลานี้

“นายท่าน  โปรดระงับความโกรธ  รักษาสุภาพด้วย ” ผู้อมตะระดับเจ็ดหลังค่อมเตือน

ผู้อมตะวันกลางคนเตะเขาออกไป  “ท่านแม่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งวายุ  นางต้องการส่งมอบวิญญาณอมตะเหล่านี้ให้กับเจ้าบ้านั่น  โดยปราศจากวิญญาณอมตะเหล่านี้  เพียงการบ่มเพาะระดับแปดของข้าจะทำสิ่งใดได้ ? พวกเราจะถูกกดดันจากตระกูลอื่นๆโดยเฉพาะตระกูลไท่และตระกูลเฉิง !”

“นางบอกจะส่งมอบทุกสิ่งในตระกูลวูให้ข้า  ฮืม ! ข้าจะเก็บทรัพยากรเหล่านั้นไว้เพื่อสิ่งใด ? ข้าต้องการความแข็งแกร่ง ! ด้วยความแข็งแกร่ง  ข้าจะได้รับทุกสิ่ง !”

ผู้อมตะวัยกลางคนเดินไปรอบๆคฤหาสน์วิญญาณอมตะด้วยความโกรธ

“นายท่าน  พวกเราเพียงต้องจัดการเขา !” ผู้อมตะระดับเจ็ดหลังค่อมเดินเข้ามา

ผู้อมตะวัยกลางคนหยุดเดิน

เขาขมวดคิ้วลึกและหันหน้าไปถามผู้อมตะระดับเจ็ดหลังค่อม  “เจ้าหมายความว่า …”

“ถูกต้อง  ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งมีบุตรชายเพียงสองคน   นอกเหนือจากท่านก็มีเพียงบุตรนอกสมรสที่ทะเลตะวันออก  หากเขาตาย  มรดกทั้งหมดของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งก็จะเป็นของท่านเพียงผู้เดียวถูกต้องหรือไม่?” ผู้อมตะระดับเจ็ดหลังค่อมเผยรอยยิ้มน่ากลัว

เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากของผู้อมตะวัยกลางคน

“ไม่ ”

“หากท่านแม่รู้  ข้าจบแน่ !” เมื่อนึกถึงความสามารถของวูตู๋ซิ่ว  ร่างกายของผู้อมตะวันกลางคนที่มีการบ่มเพาะระดับแปดผู้นี้กลับสั่นสะท้านขึ้น

“ลืมมันไปเถอะ  เขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด  แม้เขาจะกลับมา  แล้วเขาจะทำสิ่งใดได้ ” ผู้อมตะวัยกลางคนถอนหายใจ

แต่ผู้อมตะระดับเจ็ดหลังค่อมยังไม่ยอมแพ้  “โอ้  นายท่านคิดเช่นนี้ไม่ได้  เขาอาจเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด  แต่จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากเขาได้รับมรดกของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง?”

ผู้อมตะวัยกลางคนตะโกน  “แม้เขาจะมีวิญญาณอมตะระดับแปด  แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของเขายังไม่สามารถเปรียบเทียบกับข้า  เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า  แต่น่าเสียดายวิญญาณอมตะระดับแปดเหล่านั้น  เห้อ …”

ผู้อมตะระดับเจ็ดหลังค่อมเผยรอยยิ้มร้ายกาจ  “นายท่าน  ท่านลังเลเพราะกลัวความผิดพลาดและทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งลงโทษ แต่แท้จริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตนเอง  นอกจากพวกเรายังมีตระกูลปา  ตระกูลไท่  ตระกูลจื่อ  และตระกูลอื่นๆ  พวกเขาจะลงมือแทนพวกเราตราบเท่าที่พวกเราเปิดเผยข้อมูลเล็กๆน้อยๆและล่อลวงให้พวกเขาโจมตีเป้าหมาย พวกเราเพียงนั่งรอรับผลประโยชน์เท่านั้น ”

ดวงตาของผู้อมตะวัยกลางคนส่องประกายขึ้น  “แผนการที่ดี  ซูเต๋า  เจ้าเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดของข้า  เมื่อข้ากลายเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง  ข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างแน่นอน ”

“นายท่าน  มันเป็นหน้าที่ของข้า  สามารถแก้ปัญหาให้กับนายท่านถือเป็นเกียรติของข้าแล้ว ” ดวงตาของผู้อมตะระดับเจ็ดหลังค่อมเปลี่ยนเป็นสีแดงและแทบจะร้องไห้ออกมา

ผู้อมตะวัยกลางคนตบไหล่ผู้อมตะระดับเจ็ดหลังค่อมซูเต๋าแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด

“นายท่าน  ไม่มีเวลาแล้ว  ข้าต้องรีบไปเตรียมการ ”

“เอาล่ะ  ไปเถอะ  ข้ามั่นใจว่าเจ้าจัดการได้ ”

หลังจากออกจากคฤหาสน์วิญญาณ  ดวงตาของซูเต๋าก็ส่องประกายแหลมคมและมืดมิด

‘ฮืม ! หลังจากใช้ความพยายามอย่างหนัก  ในที่สุดข้าก็สามารถโน้มน้าววูหยงผู้นี้  ด้วยวิธีนี้แม้ข้าจะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบุตรนอกสมรสผู้นั้น  ข้าก็จะปลอดภัยภายใต้การคุ้มครองของวูหยง ’

ตัวตนที่แท้จริงของซูเต๋าไม่ได้เป็นเพียงคนรับใช้ของวูหยงเท่านั้น  แท้จริงแล้วเขาเป็นผู้อมตะของตระกูลปา  เขาเป็นหนึ่งในสายลับที่ถูกวางไว้ในตระกูลวูที่มีตำแหน่งสูงที่สุด

สถานการณ์ของภาคใต้แตกต่างจากภาคเหนือและภาคกลาง

ท่ามกลางกองกำลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้  ตระกูลวูถือเป็นกองกำลังอันดับหนึ่ง  ในประวัติศาสตร์จุดสูงสุดของพวกเขาเคยมีผู้อมตะระดับแปดถึงสามคน  และในประวัติศาสตร์ของตระกูลวูมักมีผู้อมตะระดับแปดอย่างน้อยหนึ่งคนเสมอ

ตระกูลวูแข็งแกร่งมาตลอด  แต่วูตู๋ซิ่วกำลังจะจบชีวิตลงขณะที่วูหยงมีความสามารถไม่เพียงพอ  แม้เขาจะเป็นผู้อมตะระดับแปด  แต่เปรียบเทียบกับผู้อมตะระดับแปดของตระกูลอื่น  เขายังไม่มีสิ่งใดน่าประทับใจ

วูตู๋ซิ่วมีบุตรนอกสมรสชื่อวูอี้ไห่  ตามข้อมูลคนผู้นี้มีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา  แม้เขาจะเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษอยู่ในทะเลตะวันออก  แต่เขากลับมีพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวและมีชื่อเสียงในโลกผู้อมตะของทะเลตะวันออก

การสังหารวูอี้ไห่  นอกจากจะทำให้ตระกูลวูอ่อนแอลง  มันยังเป็นการทำลายชื่อเสียงของวูหยงและทำให้ตระกูลวูเกิดความปั่นป่วน

ซูเต๋าเต็มไปด้วยความคาดหวังกับเรื่องนี้

หลายวันต่อมา

สามผู้อมตะเดินทางข้ามกำแพงภูมิภาค

“นายน้อย  พวกเราเกือบพ้นกำแพงภูมิภาคแล้ว  นี่เป็นอุปสรรคสุดท้าย  เมื่อเราออกจากกำแพงพลังงาน  พวกเขาจะมีโอกาสโจมตีพวกเราน้อยลง ” ผู้อมตะสูงอายุกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

วูอี้ไห่ตอบ  “ท่านลุงจาง  ท่านหมายความว่าส่วนต่อไปเป็นจุดที่อันตรายที่สุดงั้นหรือ !?”

“ถูกต้อง ” ผู้อมตะเฒ่าพยักหน้า

ผู้อมตะอายุน้อยอีกคนกล่าวเสริม  “แต่ตราบเท่าที่เราผ่านสิ่งนี้  เราจะได้รับอิสระ  ตราบเท่าที่ท่านได้พบท่านแม่ของท่าน  ความยากลำบากทั้งหมดจะได้รับการชำระคืนเป็นร้อยหรือพันเท่า !”

เมื่อได้ยินคำว่าท่านแม่  วูอี้ไห่รู้สึกซับซ้อน

เขาถอนหายใจ  “ข้าไม่สนใจรางวัลใดๆ  ข้าเพียงต้องการเห็นมารดาผู้ให้กำเนิด  นางทอดทิ้งข้า  แต่นางยังให้ท่านลุงจางพาข้ากลับไป  ข้ามาเพื่อพบนางเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายก่อนจะกลับไปทะเลตะวันออก”

ลุงจางยิ้ม  “นายน้อยอย่ากังวล  ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งคิดเรื่องนี้มานานแล้ว  นางเตรียมทุกสิ่งเอาไว้ให้ท่าน  แม้ท่านจะเป็นผู้อมตะของทะเลตะวันออก  แต่เรามีท่าไม้ตายอมตะที่สามารถชำระล้างปราณสวรรค์พิภพในร่างของท่านเพื่อเปลี่ยนท่านเป็นผู้อมตะภาคใต้ หลังจากนั้นท่านจะสามารถเผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่ภาคใต้และดูดซับปราณสวรรค์พิภพของภาคใต้ได้อย่างไม่มีปัญหา”

“โอ้  มีวิธีเช่นนั้น …” วูอี้ไห่มีความสุขที่ได้ยินเรื่องนี้

แม้เขาจะมีชื่อเสียงในทะเลตะวันออก  แต่เขาเป็นเพียงผู้บ่มเพาะสันโดษ  เขารู้สึกเจ็บปวดกับความอ่อนแอของตนเองในฐานะผู้บ่มเพาะสันโดษ  หากเขามีกองกำลังใหญ่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง  นั่นจะช่วยเขาได้มาก

อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังคิดถึงเรื่องนี้  ลมหายใจมังกรที่คล้ายแสงดาบกลับพุ่งเข้ามาที่ใบหน้าของเขาอย่างกะทันหัน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด